คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : { First Note::$ ความฝัน vs.ความจริง || } (100%)
.......
The Song for Myself
ท้องฟ้าวันนั้น ฉันยังจำได้ดี
ทุกวินาทีที่เธออยู่เคียงข้างฉัน
แต่วันนี้ ถึงวันที่ต้องจากกัน
อาจไม่มีวันที่ฉันได้พบเธอ
เหม่อมองฟ้า ฉันเองก็เฝ้าถอดใจ
แต่คงมีไม่ใครไม่เคยเอ่ยคำร่ำลา
ด้วยมือนี้ จะต้องไกลจากเธอมา
ช่วยนำพาฉันไปสู่ _______________า
(กระซิบ) วอนวันเวลาช่วยเยียวยาหัวใจ
บนเส้นทางแห่งความหวัง สิ่งที่ฉันจะต้องเผชิญ
จากวันนี้บนทางนี้ ตามวิถีที่มันต่างไป
ไม่มีทางแล้วใช่มั๊ย? จำต้องก้าวไปอย่างเดียวเท่านั้น
เพื่อทำฝันของของฉันให้กลายเป็นจริง
จะสุดทางเดินไม่ท้อ ขอเพียงได้เจอสิ่งเดียวเท่านั้น
จะไม่มีวันหวนกลับไป
เพื่อตัวฉันเอง...
...............
"เนื้อเพลงบ้าๆแบบนี้ใครจำไปฟังวะ ? ขายไงก็ขายไม่ออก เชื่อดิ"
ร่างบางปิดสมุดแล้วส่งคืนให้เพื่อนสาวที่อยู่ข้างๆ พร้อมทำหน้าซังกะตายราวกับเพิ่งผ่านเรื่องร้ายมาหมาดๆ
"เพลงนะโว้ย เค้ามีแต่แต่ง "ทิ้งความฝันเพื่อความรัก" หรือไม่ก็ "จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน" ไม่มีใครที่ไหนเค้าแต่งอย่างแกหรอก" ลงท้ายก็โดนสาวเจ้าแขวะใส่แขวะใส่อย่างไม่เหลือชิ้นดี
"แกดูชื่อเพลงก็น่าจะรู้อยู่แล้วไม่ใช่เร๊อะ !"
คราวนี้กลับเป็นอีกฝ่ายที่ยกประเด็นขึ้นมาเถียงแบบข้างๆคูๆแทน ก็เธอไม่เคยมีความรักนิ อยู่โสดสนิทมากว่า 17 ปี จนป่านนี้คนทั้งห้องคิดว่าเธอตายด้านกันหมดแล้ว แล้วจะให้ไปแต่งเพลงเกี่ยวกับความรัก ถ้าเป็นรักพ่อรักแม่ก็คงโอเคอยู่หรอก...
ไม่ทันไร เสียงแหลมๆก็ดังขึ้นอีก
"แล้วไอ้ __________ นี่มันอะไรของแก เล่นเติมคำลงในช่องว่างรึไง"
ร่างเพรียวหันมาสับๆๆอีกรอบ นัยน์ตาคมมองคู่สนทนาอย่างเอาเรื่อง
"นี่แต่งประกวดนะโว้.."
"ก็มันคิดไม่ออกนี่ แกจะให้ทำยังไงเล่า!!!"
เด็กสาวสวนกลับทันควัน ใบหน้าสวยบูดสนิท
"เฮ้อ...."
เสียงถอนหายใจประสานกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ทำเอาทั้งคู่คอตกอย่างช่วยไม่ได้...
...........
มือเล็กจับดินสอและลงมือเขียนขยุกขยิกอยู่นาน กระทั่งคิ้วทั้งสองขมวดเข้าหากันจนแทบจะเป็นเส้นเดียวนั่นแหละจึงได้เงยหน้าขึ้นฟ้าอย่างหมดอารมณ์ พร้อมเสียงแหกปากที่ดังลั่นตามมาติดๆ
"ทำไมมันร้อนนรกอย่างนี้ฟระ!!! ฝนโว้ยยย ขอน้ำกินหน่อย"
"มาใช้ที่บ้านยังไม่พอ เห็นเจ้าของบ้านเป็นคนใช่อีกนะแกเนี่ย!" ร่างเพรียวเดินฉับๆไปยังตู้เย็น และกลับมาพร้อมน้ำที่ตั้งใจรินเสียเกือบล้นปากแก้ว ไม่ทันขาดคำ แก้วน้ำเคราะห็ร้ายก็ถูกกระแทกลงดังปัง!ใส่คนตรงหน้า
"เพราะใครกันล่ะวะที่ทำให้ฉันต้องถ่อมาถึงบ้านเพื่อช่วยเนี่ย ถ้าไม่อยากให้ช่วยฉันกลับก็ได้นะเว้ย!!!" เด็กสาวเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาบ้างแล้ว
"โอ๋ๆๆ โกรธซิจ๊ะเปรียวววว คนดีของฝน~" ในสถาณการณ์แบบนี้ แม่เจ้าประคุณก็รู้จักช่างประจบขึ้นมาทันที
"อ่ะล้อเล่นน~" ท่าทางประกอบยิ่งทวีความหมั่นใส้ขึ้นเท่าตัว ...มันน่าถีบให้ตกเก้าอี้เป็นยิ่งนัก
... มือเรียวจับแก้วน้ำยกขึ้นซัดโฮกอย่างรวดเร็ว พร้อมส่งเสียง "เฮ้อ!!" เมื่อน้ำทั้งแก้วหายวับไปในพริบตา ไม่รอช้า เจ้าหล่อนขยับแว่นให้เข้าที่ ปอยผมที่ปรกหน้าอยู่นั่นถูกเสบขึ้นลวกๆ ..แต่เพียงอีกไม่กี่วินาทีต่อมาก็กลับมายุ่งเหยิงอีกทั้งเพราะแรงทึ้ง
ทำเอาเด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ มองอิริยาบทแปลกประหลาดนั่นด้วยตาปริบๆ
"เฮ้ย ฉันไม่อยากมีเพื่อนหัวล้านนะเว้ย เลิกดึงผมตัวเองได้แล้ว" เพื่อนตัวแสบเอ่ยเตือน โดยไม่ละความพยายามที่จะท้าวคางไปพลางพูดไปพลาง
และแล้วก็แม่หนูตัวดีก็หน้าหด เมื่อได้รับสายตาแฝงแววอาฆาตเป็นคำตอบ...
ตามมาด้วยเสียงหัวเราะแห้งๆที่ดังมาเป็นระยะ
แตงโมมาแล้วครับ แตงโม ลูกใหญ่หวานฉ่ำ
"แตงโมมม~~~~"
บรรยากาศถูกพลิกราวกับฟ้าและเหวเมื่อเสียงแหบๆผ่านโทรโข่งผ่านเข้าโสตประสาท ร่างเพรียวสปริงตัวขึ้นพร้อม
อุทานดังเสียลั่น ไม่วายที่จะเอ่ยปากชวนคนที่กำลังทำหน้ายุ่งอยู่
"เอาแตงโมหน่อยมั๊ยจ๊ะที่รัก"
ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรออกไป เด็กสาววิ่งแจ้นเข้าไปในบ้านเสียแล้ว พร้อมเสียงตะโกนที่ตามไล่หลัง
"รถแตงโม!! รอด้วยย~"
.....
"แกว่างมากนักใช่มะ ?"
เปรียวเปิดบทสนทนา ปิ๊กกีต้าร์ที่ตนจับมาตั้งแต่ยังไม่เที่ยงดีเพิ่งถูกวางลงเป็นครั้งแรก ความหมายในแววตาชี้ชัดได้ว่าเส้นความอดทนกำลังจะขาดสะบั้นลงแล้ว
"เปล๊าววว~" อีกฝ่ายตอบกลับอย่างมั่นใจ ตามมาด้วยเสียงเคี้ยวแตกโมที่กำลังค้างอยู่ในปาก หัวสมองน้อยๆประมวลข้อมูลว่าเธอควรจะหาอะไรมาเป็นข้องอ้างดี เพราะดูจากสภาพตอนนี้แล้ว เธอก็คือคนว่างงานไม่มีผิด มือที่ควรจะหันมาจับปากกาแต่งเนื้อร้องต่อ ตอนนี้กลับกลายเป็นถือส้อมโลหะ อาวุธซึ่งผลาญแตงโมไปกว่าค่อยลูกเหนาะๆเพียงคนเดียว
"ก็นี่ไง ฉันกำลังนั่งให้กำลังใจแกอยู่" เด็กสาวแก้ต่างให้กับตัวเอง
"ไอ้คำนั้น ฉันน่าจะเป็นคนพูดมากกว่านะเว้ย.."
"สรุปนี่มันงานใครกันแน่วะ แกจะให้ฉันช่วยหรือว่าแกจะให้ฉันทำหมดทุกอย่างกันแน่เนี่ย"
"ก็.. เปล่าเลยย ฉันก็จะให้แกช่วยเฉยๆอ่ะ มาๆ ไหน ถึงไหนแล้วอ่ะ"
"แกตั้งใจจริงๆรึเปล่าวะ"
"ก็.. ตั้งไง"
"แล้วแกลองดูที่แกทำตอนนี้ดิ..."
"แกรักดนตรีแน่หรอวะ"
"หรือว่าแกแค่อยากจะเป็นนักร้อง ไปเต้นแร้งเต้นกาอยู่บนเวที เพราะแค่อยากดัง ?"
"เฮ้ย!! ไม่ใช่นะเว้ย!!"
"ไปให้คนเขาดูถูกว่ามีดีแค่หน้าตา แต่ว่าไร้ความสามารถงั้นหรอ!!"
"เปรียว!!!"
"เลิกดีกว่าว่ะ พอ.. พอ!!!!"
"เออ ฉันก็รู้ว่าความสามารถของฉันมันยังไม่ถึงขั้น ถึงได้เรียกแกมาช่วยไง!!"
"รู้ว่าตัวเองยังดีไม่พอ แล้วก็ยังไม่พยายามอย่างงี๊เนี่ยนะ!!"
"ทำไมแกจะต้องโกรธถึงขนาดนี้ด้วยวะเนี่ย!!!"
"ฉันไปทำอะไรให้แกวะ!! ก็แกมันมีออาชีพ ฉันให้แกมาช่วยแค่นิดหน่อย ของแบบนี้มันเสียหายตรงไหนวะ"
"ฉันไม่ใช่มืออาชีพ แต่นักดนตรีมันเป็นอาชีพของฉัน"
"แล้วสิ่งที่แกกำลังทำอยู่ตอนนี้ ก็ถือเป็นการดูถูกอาชีพของฉันด้วยว่ะ"
"ฉันอุตส่าห์ยอมทิ้งเวลาซ้อมของวงเพื่อมาช่วยแก.. ฉันก็ทำได้แค่นี้แหละนะ"
"ฉันไม่อยากให้แกเป็นเหมือนหลายๆคนที่อยู่ในวงการนี้นะ ฝน.."
"เส้นตายมันปลายเดือนนี้นะ.. แกก็หาวิธีเอาแล้วกัน"
ขาดคำ เด็กสาวก็ลุกขึ้น พร้อมกับหมุนตัวออกเดินทันที
"เฮ้ย ไอ้เปรียว!!!!!"
ทั้งให้อีกฝ่ายสบถกับตัวเองอย่างหัวเสีย
ความคิดเห็น