ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [#MINHOON #WINNER] :: DAY & NIGHT ::

    ลำดับตอนที่ #11 : CHAPTER 10 :: MORNING ::

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 177
      16
      14 ธ.ค. 61

    [#MINHOON #WINNER] :: DAY & NIGHT ::

     

    CHAPTER 10 :: MORNING ::

     

    "อื้อ ... โอ้ย !"

               

    ร่างกายเปลือยเปล่าของซึงฮุนที่ซุกตัวอยู่ภายในอ้อมแขนของมินโฮและผ้าห่มนวมผืนหนาขยับพลิกตัวหวังจะให้ตัวเองได้นอนสบายๆ แต่ก็ต้องรู้สึกตัวตื่นเมื่อรู้สึกเจ็บปวดจากทางด้านหลังโลดแล่นขึ้นตามแนวสันหลังยาว พลอยปลุกให้ตัวต้นเหตุซึ่งสวมชุดคลุมอาบน้ำใหญ่โคร่งนั้นลืมตาตื่นขึ้นมาด้วย ถึงแม้จะรู้สึกตัวกันแล้วทั้งคู่ แต่กลับไม่มีใครผละออกจากกัน มินโฮยังคงกระชับอ้อมกอดให้แนบแน่นยิ่งขึ้น ในขณะที่ซึงฮุนนั้นกลับซุกใบหน้าฝังกับแผ่นอกของคนตัวหนาพลางให้เนื้อผ้าบางเบาของชุดที่มินโฮสวมใส่อยู่นั้นดูดซับน้ำตารื้นให้เหือดแห้งไป

     

    อรุณรุ่งของวันใหม่ทอแสงลอดตามเนื้อม่านสีเข้มกระทบเข้ากับเปลือกตาที่เปิดอย่างยากลำบากแม้เจ้าตัวจะรู้สึกตัวตื่นแล้วก็ตาม

     

    "เจ็บมากไหม ?" ริมฝีปากหยักพรมจูบตามขมับขาวและกลุ่มผมนิ่ม ซึงฮุนพยักหน้าน้อยๆ แทนคำตอบจนเจ้าของกายกำยำรับรู้ผ่านแรงไหวตามแผ่นอก ในใจเอาแต่พร่ำบอกคำว่าขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า "ขอโทษนะ แต่ที่ฉันทำไปเป็นเพราะฉันรักนายนะ อีซึงฮุน"

     

    "รู้แล้ว" แก้มฟูขึ้นสีแดงเรื่อเงยหน้าขึ้นสบตาชายหนุ่มผิวกายสีน้ำผึ้ง ใบหน้าน่ารักของคนใต้ร่างแทบพังความอดทนของมินโฮยากจะตั้งสติจนอยากจับฟัดพ่อดวงตะวันอีกครั้ง แต่เพราะอีกคนอยู่ในภาวะเจ็บปวดจึงได้เพียงแต่ข่มความรู้สึกดิบของตัวเองเอาไว้พลางพยุงหัวใจของตัวเองไม่ให้แกว่งจนวูบไหว "ฉันก็รักนายนะ ซงมินโฮ"

     

    คำรักเสียงแผ่วเบากดให้ลอดลึกลงใต้ผ้าห่มหนา ซึงฮุนคงไม่อยากให้เขาได้ยิน แต่เพราะในห้องไร้ซึ่งเสียงใดๆ นอกจากเครื่องปรับอากาศครางหึ่งและลมหายใจเข้าออกระหว่างคนสองคน เจ้าคนหูดีอย่างซงมินโฮนั้นก็จับถ้อยคำได้อย่างชัดเจน

     

    "นายมันน่ารักแบบนี้ไง ฉันถึงได้หลงจนโงหัวไม่ขึ้น"

     

    มินโฮขยับย่อตัวไปพรมจูบตามเปลือกตาใสของอีกคนราวกับรัก หวงแหน และเอ็นดูเหลือเกิน ซึงฮุนหลับตาลงรับสัมผัสอบอุ่นจากอีกคนเชื่องช้า หัวใจเจ้ากรรมนั้นฟูฟ่องเมื่อริมฝีปากของอีกคนเริ่มเลื้อยมาจูบซับผิวเนียนนุ่มบนปลายจมูกและริมฝีปากบางสีอ่อนของเขา

     

    "แล้วไม่ปวดหัวใจแล้วหรือไง หืม ?"

     

    "ก็มีบ้าง ..." มินโฮตอบหน้านิ่งพลางจดจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเล็กสุกใส พ่อดวงตะวันคนดีของเขากำลังเลิกคิ้วบางขึ้นสงสัยในคำตอบ มือหนาไม่ปล่อยให้ว่างลูบไล้ไปตามรอยแดงจ้ำบนผิวสีน้ำนมซึ่งเขาประทับเอาไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ "มีคนเคยถามฉันนะว่าแท้ที่จริงแล้วฉันกลัวความรักจริงๆ หรือเพียงแค่กลัวคำว่าผิดหวังจากความรักกันแน่ ซึ่งฉันก็ไม่เคยได้คำตอบจากคำถามนั้นเลย"

     

    "..."

     

    "แต่ถ้าถามว่าฉันเจ็บปวดทุกครั้งที่อยู่ใกล้ๆ นายน่ะเป็นเรื่องจริงไหม ? ฉันขอตอบเลยว่าจริง ฉันถึงได้พยายามอยู่ข้างๆ นายบ่อยๆ เพราะฉันเลือกเองว่าจะลองหักดิบดูสักครั้ง เอาให้เจ็บปวดจนตายกันไปข้างหนึ่งเลยเผื่อบางทีฉันจะกล้าเผชิญหน้ากับความรักอีกครั้ง" ทุกถ้อยคำที่มินโฮพยามอธิบายออกมานั้นสะกิดสร้างความรู้สึกผิดจนซึงฮุนหงอยลง เอาแต่พร่ำคิดในใจว่าการที่คนสองคนมาเจอกันแม้จะสร้างเรื่องราวความรักสวยงามเพียงใด แต่ต้องแลกด้วยความเจ็บปวดของอีกคน แล้วความสุข ... มันจะเกิดขึ้นได้จริงหรือเปล่า ? เขาคิดผิดหรือไม่ที่ยอมให้มินโฮมาโคจรอยู่ในรัศมีรอบตัวเขา "อย่ากังวลอะไรเลยนะ ฉันเป็นคนยื่นข้อเสนอนี่ให้เอง ยังไงซะฉันจะทำให้นายหายจากอาการกลัวความมืดให้ได้ ส่วนนาย ... อีซึงฮุน"

     

    "หืม ?"

     

    "คอยอยู่ใกล้ๆ เป็นหัวใจของฉัน อย่าหายไปไหนนะ อย่าทิ้งกันด้วย เข้าใจใช่ไหม ?"

     

    "อือ ... เข้าใจแล้ว อย่าบีบจมูกแรงสิ เจ็บนะ !"

     

    มือขาวผลักอกของอีกคนที่กำลังนอนหัวเราะร่วนเพราะขำขันในใบหน้าฟูกำลังเหยเกจากความเจ็บปวด ขายาวพยายามถีบเข้าที่คู่ขาของอีกคนเพื่อเป็นการทำโทษแต่ก็ต้องกรีดร้องเพราะความบอบช้ำจากจากการกระทำรุนแรงของคนตัวโตราวกับผ่านมรสุมของราคะตัณหาซึ่งถูกซุกซ่อนเอาไว้นานๆ แล้วมาลงที่เขาโดยไม่ยั้งคิดและควบคุมมัน

     

    "มันคงช้ำอยู่น่ะ เดี๋ยวไปหายาแก้อักเสบให้กินนะ"

     

    ชายผ้าห่มถูกเลิกขึ้นพลางร่างกายผิวสีเข้มจะขยับลุกขึ้นนั่ง เขาส่งเท้าเปลือยเปล่าสวมใส่สลิปเปอร์คู่สีขาวสะอาดราวของใหม่ที่เขาตั้งใจวางทิ้งเอาไว้ข้างเตียงหนึ่งคู่ช้าๆ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมือของอีกคนส่งมาดึงข้อมือของเขาไว้ขณะหยัดตัวลุกขึ้นยืน มินโฮเอี้ยวศีรษะมองร่างกายเปลือยท่อนบนโผล่พ้นออกจากชายผ้าหนาก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ต้องหันไปดึงผ้าห่มสีเข้มนั้นปกปิดเรือนกายขาวแต่แดงช้ำราวสีของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รสหวานที่มินโฮดื่มไปจนหมดสูบเป็นตัวกระตุ้นอัดด้วยแรงปรารถนานั้นเกรงว่าไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศจะทำให้ผู้ที่เปรียบเสมือนดวงตะวันเป็นหวัดไปเสียก่อน

     

    "ซงมินโฮเองก็อย่าทิ้งอีซึงฮุนนะ"

     

    "อ้อนเป็นลูกแมวน้อยเชียวนะครับ สิงโตเมื่อคืนหายไปไหนนะ ?" ตารีเล็กทอประกายออดอ้อนจนอีกคนอดไม่ได้ที่จะก้มตัวลงฝังปลายจมูกโด่งรั้นลงแก้มนิ่มพลางเลื่อนมือไปเกลี่ยปอยผมนุ่มไปด้วย ซึงฮุนต่างจากคนอื่นที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของมินโฮจริงๆ เพราะด้วยรสนิยมด้านดนตรีและแฟชั่นที่ไม่เหมือนใครทำให้มินโฮพบเจอกับผู้คนที่มีไลฟ์สไตล์เดียวกันเข้ามามีส่วนพัวพันในชีวิต แต่ซึงฮุนกลับเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ไม่หวือหวาด้านแฟชั่นและหลงไหลดนตรีคลาสสิค อาจเพราะอาการของโรคกลัวความมืดที่เป็นส่งผลให้เขาได้รับการบำบัดจิตใจด้วยดนตรีที่มีจังหวะบางเบาและคงที่กว่า "มินโฮไม่ทิ้งซึงฮุนหรอกครับ แค่เพียงตอนนี้ มินโฮจะไปหายาให้กิน นอนรอตรงนี้นะครับ"

     

    "อื้อ"

     

    ทันทีที่แผ่นหลังติดจะกว้างนั้นคล้อยหายออกไปจากพื้นที่ห้องนอน คนซนก็เอื้อมมือควานหาโทรศัพท์มือถือตามโต๊ะเล็กข้างเตียงนอนแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อไร้สิ่งของที่เขาต้องการ

     

    อีซึงฮุนคนโง่ ก็เมื่อคืนเขาเอาโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงวางไว้ตรงโต๊ะกระจกกลางห้องนั่งเล่นก่อนไปทำอาหารเย็นนี่นา ซ้ำนี่ไม่ใช่บ้านของตัวเอง เลยลืมไปแล้วว่าข้าวของทุกชิ้นที่เห็นนั้นเป็นของมินโฮทั้งหมด

     

    ป่านนี้ซึงยุนคงตามหาเขาให้วุ่น

     

    "มินโฮ ... เอาโทรศัพท์มาให้ด้วยนะ"

     

    "โอเคคร้าบ"

     

     ไม่นาน มินโฮก็กลับเข้ามาพร้อมยาหนึ่งเม็ด น้ำเปล่าสะอาดหนึ่งแก้วก่อนวางมันลงบนโต๊ะเล็กสีเบส และโทรศัพท์มือถือที่เจ้าของเรียกร้องหามัน 

     

    ซึงฮุนพยายามคว้าเอาโทรศัพท์จากมือของชายหนุ่มร่างหมีแต่ก็โดนยื้อแย่งไปเสียก่อน ชายร่างหนาติดจะกำยำชักมือกลับไปทางด้านหลังหวังซ่อนเครื่องมือสื่อสารให้ไกลห่างจากคนดื้อรั้น ปล่อยให้ชายคนรักของเขานั้นนั่งเบะหน้าขาวราวกับเด็กเล็กๆ โดนขัดใจไม่ให้เล่นเครื่องเล่นอย่างไรอย่างนั้น

     

    "มินโฮ เอาโทรศัพท์คืนมานะ"

     

    "ไม่ให้ ... เป็นเด็กดีต้องกินยาก่อนนะครับถึงจะได้ของที่ต้องการไป"

     

    คนเจ้าเล่ห์ก้มตัวลงพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้เจ้าแก้มฟูจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นรินรดลงปลายจมูก สายตาคมนั้นจ้องเข้าลึกสุดราวกับร่ายมนสะกดให้เจ้าของคู่ตาเล็กนั้นนิ่งและยอมเชื่องเป็นลูกสิงโตแรกเกิด และในวินาทีนั้น มือหนาได้หยิบเอายาเม็ดเล็กส่งเข้าปากก่อนฉวยโอกาสประกบเข้ากับปากบางตรงหน้าส่งปลายลิ้นร้อนๆ และเม็ดยารสขมแต่กลับหวานละมุนเหลือเกินเมื่อถูกป้อนด้วยฝีปากของใครอีกคน

     

    และด้วยความหวานที่หาไม่ได้จากที่ไหนแล้วทำเอาซึงฮุนกลืนยานั้นเข้าสู่ร่างกายไปโดยลืมว่าต้องดื่มน้ำตาม

     

    "อื้อ ... พอแล้วมินโฮ เดี๋ยวฉันไปทำงานสาย"

     

    "ลางานไหม ? นายไม่สบายอยู่นะ"

     

    "ไม่ได้หรอก วันก่อนก็เพิ่งไปนอนโรงพยาบาลมา ขาดบ่อยๆ เดี๋ยวฉันก็ได้โดนไล่ออกจากงานก่อนพอดี"

     

    "ไปลาออกได้นะ แฟนคนเดียว ฉันเลี้ยงได้น้า"

     

    คนฟังมีใจสั่นกับสถานะที่อีกคนเพิ่งเรียกขาน คำว่า 'แฟน' ที่ดังเข้ากระทบโสตประสาทนั้นไม่รู้ว่าเพราะซึงฮุนไม่เคยถูกใครเรียกด้วยสรรพนามน่ารักๆ แบบนี้ล่ะมั้งถึงได้รู้สึกร้อนไปทั้งกรอบหน้าลามไปถึงใบหู พร้อมทั้งหัวใจเต้นโครมครามจับจังหวะไม่ถูก มือทั้งสองข้างเย็นเฉียบและชาไปทั้งสิบนิ้ว มนุษย์ซงมินโฮคือผู้มีอิทธิพลกับเขาเหลือเกิน

     

    "ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวฉันได้เป็นคนขี้เกียจตัวลีบเป็นง่อยไปซะก่อน"

     

    "ไม่เป็นง่อยหรอก เดี๋ยวพาออกกำลังกายทุกวัน"

     

    "ออกกำลังกายอะไรเล่า !?"

     

    "หมายถึงพาไปวิ่งที่สวน ไปปั่นจักรยานริมแม่น้ำฮันทุกวัน นายคิดอะไรเนี้ย ?"


      มุมปากคนเจ้าเล่ห์กระตุกยิ้มขึ้นเมื่อเห็นว่าเจ้าแก้มฟูกำลังคิดอะไรทะลึ่งอยู่แน่แท้ ซึงฮุนผลักอกของมินโฮเต็มแรงแก้อาการเคอะเขิน ก็ใครใช้ให้มนุษย์ซงมินโฮพูดอะไรสองแง่สามง่ามหลังจากผ่านกิจกรรมร่วมรักจนเขาบอบช้ำไปหมดทั้งร่างเช่นนี้กันล่ะ ?

     

    "คะ ... ใครคิดอะไร ? ไม่มีเถอะ" เจ้าดวงตะวันสุกใสยกมือสองข้างขึ้นลูบพวงแก้มกลมของตนหวังบรรเทาให้อุณหภูมิร้อนรุ่มๆ ให้คลายตัวลง ก่อนคิดได้ว่าต้องเอาโทรศัพท์กลับคืนมาจึงเอื้อมมือข้างหนึ่งไปตรงหน้าคู่สนทนา "ขอโทรศัพท์คืนมาได้แล้วมินโฮ ฉันจำเป็นต้องใช้มันนะ"

     

    "ครับผม"

     


     

    เรียวนิ้วชี้ยาวกระหน่ำกดกริ่งหน้าห้องจนเกิดเสียงดังลอดออกมาตามรอยแยกของประตูบานใหญ่ ใช้เวลาไม่นานประตูบานเขื่องก็ถูกเปิดออก ตาเรียวเล็กของเด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งรีบสบมองเจ้าของบ้านที่เวลาใกล้จะสายเต็มทีแต่ยังอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำด้วยแววเกรี้ยวกราด แผงอกกำยำสีน้ำผึ้งดูมีสุขภาพดีถูกแต่งแต้มเสน่ห์ด้วยรอยสักเป็นตัวอักษรสไตล์โรมันพาดยาวไปทั่วทั้งอก แต่นี่ไม่ใช่เวลามาชื่นชมคนตรงหน้า ซึงยุนผลักให้เจ้าของบ้านให้เข้าไปพื้นที่ภายใน ใบหน้าของเด็กหนุ่มระคนกรุ่นด้วยความเกรี้ยวโกรธ ร่างกายและจิตใจของซึงยุนร้อนราวกับไฟหลังจากพี่ชายสุดที่รักของเขาติดต่อมาและบอกว่าอยู่กับมินโฮตลอดทั้งคืน

     

    อาการหวงพี่ชายจะไม่กำเริบเสิบสานหนักหนาขนาดนี้ถ้าซึงฮุนไม่ได้ป่วยทางจิต และน้ำเสียงอ่อนแรงของซึงฮุนผ่านสายโทรศัพท์นั้นมันสะกิดใจของซึงยุนว่าต้องเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายของตนแน่แท้ ...

     

    "อะไรกันเนี้ย ?!"

     

    เลือดในกายของผู้มาเยือนร้อนเสียยิ่งกว่าไฟในขุมนรก ไม่มีคำตอบผ่านริมฝีปาก มือทั้งสองข้างแม้จะบางกว่าของคู่สนทนาแต่เรี่ยวแรงมหาศาลจากความโกรธนั้นทำเอาซึงยุนขาดสติ คว้าเข้ากับคอเสื้อของชุดคลุมอาบน้ำเนื้อหนาก่อนกระชากชายหนุ่มร่างหมีเข้ามาประจัญหน้าในระยะประชิด

     

    "พี่ซึงฮุนอยู่ไหน ?"

     

    "..."

     

    "กูถามว่าพี่ซึงฮุนอยู่ไหน ?" คำหยาบที่ซึงยุนไม่เคยพูดมันออกมาเวลานี้ไม่สามารถเก็บเอาไว้ให้อยู่ได้ แม้มินโฮจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ดีว่านี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นเผลอทำหน้ายียวนอย่างที่เคยทำเมื่อเจอปัญหาจนความอดทนของเด็กหนุ่มหน้ากลมขาดสะบั้น ปล่อยกำปั้นหนักๆ กระแทกเข้ากับสันกรามคมสวยจนผู้ถูกกระทำล้มลงกับพื้นห้อง ซึงยุนตามเค้นเอาคำตอบจากเจ้าของบ้านด้วยการนั่งค่อมกายหนาก่อนกระหน่ำปล่อยหมัดลุ่นๆ ลงใบหน้าหล่อเหลานั้นจนเลือดซึมตามมุมปากรวมถึงเกิดรอยฟกช้ำไปทั่วใบหน้า "พี่ชายกูอยู่ไหน ? บอกมาสิเว้ย !"

     

    "ซะ ... ซึงยุน"

     

    "พี่ซึงฮุน !"

     

    เจ้าลูกหมาละจากร่างของมินโฮก่อนพุ่งตัวไปหาซึงฮุนที่เปิดประตูห้องนอนออกมามองสถานการณ์รอบตัวหลังจากได้ยินเสียงโวกเวกโวยวาย มินโฮทำได้เพียงพยุงกายตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิพลางเกลี่ยเรียวนิ้วไปตามมุมปากที่ชาวาบ รอยเลือดสีแดงสดเปื้อนติดมากับปลายนิ้วยาวก่อนริมฝีปากหยักจะจิ๊ออกมาด้วยความขัดใจ

     

    "ซึงยุน นายทำอะไรลงไป พี่บอกแล้วไงว่าพี่สบายดี มินโฮไม่ได้ทำอะไรไม่ดีกับพี่สักหน่อย เป็นเด็กนิสัยเสียแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร ?"

     

    "พี่ซึงฮุน ..."

     

    "ไปขอโทษมินโฮเดี๋ยวนี้เลยนะ"

     

    "ไม่ !" คำปฏิเสธเสียงแข็งนั้นแทบเรียกความเสียใจของซึงฮุน ตั้งแต่เขาย้ายเขามาอยู่กับครอบครัวของซึงยุน ผู้เป็นน้องชายของเขาไม่เคยก้าวร้าวกับใครต่อหน้าเขาขนาดนี้เลย และยิ่งมาทำเรื่องเลวร้ายกับคนรักของเขาด้วยนั้น ความเสียใจก็ยิ่งเพิ่มทวีมากขึ้นไปอีก "พี่ซึงฮุน กลับบ้านกัน"

     

    "ซึงยุน ..." แม้มือแดงๆ ของซึงยุนจะพยายามฉุดดึงให้พี่ชายสุดที่รักเดินตามตนแล้วก็ตาม แต่ก็ต้องชะงักเมื่อคนด้านหลังชักมือกลับเบาๆ และเรียกชื่อเขาแผ่วเบา "พี่ ... พี่รักมินโฮ และมินโฮนี่แหละคือคนที่เขาบอกว่าจะช่วยทำให้พี่หายจากไอ้โรคบ้าๆ ที่เป็นอยู่ตอนนี้ ..."

     

    "พี่ ... ซึงฮุน ..."

     

    สถานการณ์น่าอึดอัดแบบนี้คืออะไร ซึงยุนไม่เข้าใจและไม่คาดคิดว่าพี่ชายของตนจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา ความสับสนกัดกินใจของเด็กหนุ่มแก้มกลม ตาเรียวเล็กเบิกโพลงอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง สลับมองหน้าของใครอีกคนที่เกือบลืมไปแล้วว่ายังยืนหัวโด่อยู่ในบริเวณห้องนี้ มินโฮยกยิ้มมุมปากอย่างคนกำชัยชนะ แต่ซึงยุนกลับรู้สึกหมั่นไส้จนอยากพุ่งตัวเข้าไปกระหน่ำสร้างรอยแผลที่ใบหน้าคมคายนั้นอีกสักทีสองที

     

    "ขอโทษมินโฮเถอะนะซึงยุน"

     

    เจ้าของแก้มฟูเดินตรงเข้ามาหามินโฮก่อนลูบไล้ปลายนิ้วไปตามรอยแตกบนผิวหนัง ซึงยุนมุ่งมองการกระทำของพี่ชายแล้วก็เอาแต่เจ็บแค้นในใจ แต่คำพูดของพี่ชายในคืนนั้นกลับย้อนเข้าสู่ห้วงความคิดจนสุดท้ายต้องยอมจำนนให้กับความเป็นจริง

     

    'ถ้าเขาเปรียบเสมือนยาใจของพี่ และถ้าพี่เปรียบเสมือนยารักษาโรคร้ายของเขาก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรเสียหายเลยนะ มันกลับดีเสียอีก อย่างน้อยจะได้รู้ไงว่าจะได้ผลหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ผลก็คล้ายๆ กับอาการแพ้ยาอย่างหนึ่ง เราก็แค่ทิ้งมันไปแล้วค่อยหาทางรักษากันใหม่'

     

    คำพูดของตัวเขาเองนั้นประดังเข้ามาจนเจ็บแสบไปทั้งทรวงอก ไม่คิดว่าสิ่งที่เขาพูดเอาไว้ในคืนนั้นจะมาถึงรวดเร็วขนาดนี้ ไม่ทันได้ตั้งตัว ผู้เป็นยาใจให้กับพี่ชายแสนดีก็เข้ามา ได้ทั้งตัวและหัวใจของซึงฮุนไป

     

    แม้ซึงยุนจะเป็นเด็ก แต่ก็ไม่ได้ใสซื่อจนดูไม่ออกว่าร่องรอยสีแดงกุหลาบตามซอกคอขาวของซึงฮุนเกิดขึ้นมาได้อย่างไร

     

    'ถามหัวใจตัวเองให้ดีๆ ว่าพร้อมจะลองดูไหม พร้อมจะลองรักษาด้วยความรักจากคนรอบข้างหรือเปล่า ? พี่อยู่แบบนี้มานานแล้ว อาการของพี่ก็ยังไม่ดีขึ้นเลย ไม่แน่นะ เขาคนนั้นอาจเป็นยาวิเศษ อาจทำให้พี่หายขาดได้ ลองเปิดใจดูนะ น้องก็ทำได้แค่แนะนำ แต่การตัดสินใจอยู่ที่พี่แล้ว'

     

    มีคนเคยบอกไว้ว่ากษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ เด็กสัตย์ซื่ออย่างคังซึงยุนก็คงต้องทำตามที่ตัวเองเคยพูดไว้เหมือนกัน

     

    "มินโฮ ตามฉันมา"

     

    ไม่พูดเปล่า ซึงยุนเข้ามาประชิดร่างพลางฉุดต้นแขนแข็งแรงของมินโฮให้ตามออกไปนอกห้อง ประตูบานโตปิดลงเสียงดังลั่นไปทั้งชั้นแม้จะมีเพียงแค่สองห้อง แต่ถ้าเสียงลอดออกไปตามช่องหน้าต่างหรือผนังก็คงดังขึ้นชั้นบนและชั้นล่าง

     

    ปล่อยให้ซึงฮุนสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่พักใหญ่ๆ

     

    "ฟังนะซงมินโฮ" ไม่พูดพร่ำทำเพลง เจ้าเด็กหน้ากลมก็เปิดประเด็นขึ้นมาเสียดื้อๆ สีหน้าจริงจังไม่ได้ทำให้มินโฮกลัวเลยสักนิด ในใจเอาแต่คิดไปว่าพี่น้องสองซึงนั้นน่ารักไม่ต่างกัน แต่ยังไงซะซึงฮุนก็น่ารักกว่า เจ้าหนุ่มกายหนายกมือขึ้นกอดประสานกันระหว่างแผ่นอกก่อนทิ้งตัวให้แผ่นหลังพิงกำแพงขาวสะอาดพลางเงี้ยหูฟังสิ่งที่เจ้าเด็กแก้มกลมจะพูดต่อไปราวกับกำลังกวนประสาทให้ซึงยุนสติแตกอีกครั้ง "นายคงรู้แล้วว่าพี่ซึงฮุนเป็นโรคอะไร พี่ชายฉันบอกหมดทุกอย่างว่านายเป็นคนเข้ามาอาสาบำบัดเยียวยาหัวใจของพี่ซึงฮุน แต่ฉันขอเตือนนายอย่างหนึ่งนะ ถ้านายทำให้พี่ชายของฉันเจ็บปวดหรือเสียใจแม้แต่นิดเดียว ฉันจะมาพาพี่ซึงฮุนกลับไป และนายจะไม่มีโอกาสแม้แต่เห็นหน้าคนที่เขารักนายคนนั้น !"

     

    "นายสั่งเหมือนนายแอบชอบพี่ชายตัวเองเลยนะ ..."

     

    "ไอ้มินโฮ !" เพราะคำสบประมาทพร้อมสีหน้ายียวนนั้นเรียกให้เลือดในกายเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้น ซึงยุนสติแตกอีกครั้งพุ่งกายเข้าไปคว้าบริเวณสาปเสื้อคลุมอาบน้ำตัวนั้นอีกครั้งจนยับยู่คามือ "ฟังนะซงมินโฮ ฉันคือน้องชายของพี่ซึงฮุน แม้จะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็ตาม ที่ฉันคอยเป็นห่วงพี่ชายคนนี้มากขนาดนี้เพราะพี่ฉันป่วยอยู่ และถ้านายยังสบประมาทฉันกับพี่ซึงฮุนอีกล่ะก็ เราจะได้เห็นดีกัน !"

     

    ด้วยความบริสุทธิ์ใจของผู้เป็นน้องชายแม้จะต่างสายเลือดหรือคนละพ่อแม่ก็ตาม ซึงยุนไม่ได้สนใจคำสบประมาทนั้น เพียงแต่เขาไม่อยากให้ซึงฮุนต้องมาได้ยินอะไรต่ำช้าเช่นนี้ บวกกับตอนนี้ภายในก้อนเนื้อที่ยังคงเต้นอยู่ของเจ้าเด็กแก้มป่องนั้นก็โดนพี่ชายหน้าหวานยึดครองพื้นที่หัวใจไปหมดแล้วทุกตารางเซนติเมตร

     

    "..."

     

    "อย่าลืมคำพูดของฉันล่ะ ถ้านายทำให้พี่ฉันเสียใจแม้แต่นิดเดียว ฉันจะมาพาพี่ซึงฮุนกลับบ้านจริงๆ ด้วย !"

     

    "ฉันไม่มีวันทำให้ซึงฮุนเสียใจ เพราะฉันรักซึงฮุนยิ่งกว่าชีวิตของฉันเสียอีก"

     

    มือขาวที่บัดนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงจัดค่อยๆ คลายออกจากเนื้อผ้า ซึงยุนพยายามข่มความรู้สึกโมโหของตัวเองแต่เมื่อได้ยินคำสัตย์ราวปฏิญาณตนของซงมินโฮ นิ้วมือทั้งสิบนิ้วที่กำเข้าหาฝ่ามือแน่นจนเส้นเลือดเขียวปูดโปนนั้นก็พลอยคลายออก ตาเล็กจ้องเขม็งเข้าสายตาเรียวอย่างเอาเรื่อง หวังว่าคู่สนทนานั้นจะไม่กลืนน้ำลายลืมคำพูดของตัวเองเมื่อเวลาผ่านไป

     

    "และฉันจะคอยจับตาดู ! และก็ขอโทษด้วยที่ต่อยนายจนเลือดแตกขนาดนั้น" แม้จะพ่วงด้วยคำขอโทษตามหลังประโยคคำสั่ง แต่ไม่วายยกเรียวนิ้วชี้แดงจัดนั้นขึ้นตรงเข้ากับหน้ากวนๆ ของซงมินโฮราวกับคาดโทษเอาไว้ ก่อนร่างกายสูงโปร่งจะกลับหลังหันเดินเพียงสามก้าวเท้า เปิดประตูบานเดิมด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว คว้าข้อมือของพี่ชายที่ยืนเงี่ยหูแอบฟังเหตุการณ์ทั้งหมดหลังแผ่นประตูใหญ่สูงสองเมตรนั้นด้วยสีหน้าโมโหอย่างถึงที่สุด กรอบหน้าฉายความเกรี้ยวกราดแบบที่ซึงฮุนเองก็ยังเกรงกลัว "พี่ซึงฮุน กลับบ้าน พี่ต้องไปทำงานนะครับ ส่วนเรื่องอื่น เราค่อยว่ากันทีหลัง"

     


     

    "พี่ซึงฮุน ... พี่ซึงฮุนคะ !"  เจ้าของชื่อสะดุ้งตกใจจนตัวโยนเมื่อสัมผัสจากปลายนิ้วชี้สะกิดเรียกบริเวณไหล่พร้อมเสียงหวานสดใสของรุ่นน้องร่วมงานคนสนิท  ซึงฮุนค่อยๆ หันหน้าสบตาคู่สนทนาด้วยความสนใจก่อนยิ้มบางๆ ตอบ "พี่ซึงฮุนเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ? พักนี้พี่ชอบเหม่อลอยบ่อยๆ นะ เป็นเพราะพี่มินโฮหรือเปล่าเอ่ย ?"

     

    เพียงแค่ได้ยินชื่อของมินโฮคนที่เข้ามามีอิทธิพลต่อหัวใจของเขาก็ทำให้เจ้าแก้มฟูนั้นเขินจนแทบอยู่ไม่เป็นสุข แต่ก็ต้องวางฟอร์มว่าไม่รู้สึกอะไรทำนองนั้นเอาไว้ เนื่องจากตอนนี้เขาอยู่ในออฟฟิศ มีคนอีกมากมายตรงนี้ที่ไม่เข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างเขาและผู้ชายอีกคน

     

    "อย่าเสียงดังไปสิ จีซูอา ..."

     

    หญิงสาวรีบยกมือขึ้นปิดปากทรงกระจับสวยของตัวเองแทบจะทันทีแม้เจ้าหล่อนจะเผลอพูดเสียงดังไปเสียแล้ว ซึงฮุนแอบขำออกมาเบาๆ กับท่าทางไร้เดียงสาของรุ่นน้องคนสนิท เมื่อถูกจับได้ว่าโดนกลั่นแกล้ง สีหน้าตื่นตกใจเมื่อครู่ก็หงอยลงราวกับงอนใส่คนเป็นพี่ เดือดร้อนซึงฮุนต้องคอยตามขอโทษและง้อเป็นการใหญ่

     

    "เชอะ !" แต่ถึงอย่างนั้นจีซูก็ไม่มีวี่แววว่าจะยกโทษหรือหายงอนแต่อย่างไร จึงใช้โอกาสนี้ไต่สวนซึงฮุนเสียเลย "จีซูจะไม่หายงอนแน่ถ้าพี่ซึงฮุนไม่บอกความจริงมาว่าที่พี่เหม่อลอยบ่อยๆ แบบนี้เป็นเพราะพี่มินโฮใช่หรือไม่ ?"

     

    "..."

     

    มีเพียงการพยักหน้าน้อยๆ เป็นคำตอบจากพี่ชายปากแข็งเท่านั้น จีซูเหมือนจะรู้เรื่องราวแบบผิวเผินมาบ้างแล้วเพราะเจ้าตัวแวะไปที่คลับบ่อยๆ แต่พักนี้ไม่ค่อยเจอตัวนักร้องสุดหล่อนามซงมินโฮ จึงไม่ค่อยแปลกใจนักถ้าต้นเหตุการณ์หายไปของมินโฮคือพี่ซึงฮุน พี่ชายร่วมงานคนสนิทที่กำลังนั่งหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหูตรงนี้

     

    "พี่ซึงฮุน แม้จีซูจะไม่ค่อยเข้าใจในความสัมพันธ์ของพวกพี่ๆ เท่าไรนัก แต่พี่รู้ไหมว่าพี่มินโฮเห็นร้ายๆ แบบนั้นอ่ะ เขายอมโดดงาน ยอมโดนพี่จียงเจ้าของคลับและหุ้นส่วนใหญ่ด่าทุกวันเลย ดูๆ แล้วพี่มินโฮเขาแคร์พี่มากนะคะ พี่ซึงฮุนน่ะโชคดีมากเลยรู้ไหมคะ ?"

     

    "จริงหรอ ?"

     

    "จีซูจะโกหกพี่ไปทำไมล่ะคะ ?"

     

    "ขอบใจมากนะ จีซูกับอาหมอนี่เพิ่มความมั่นใจให้กับพี่ได้จริงๆ เลยนะ ขอบใจมากนะ คิมจีซู"

     

    เมื่อมีคนยืนยันความบริสุทธิ์ใจของมินโฮเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน ซึงฮุนคงต้องเชื่อใจและวางใจในตัวของมินโฮให้มากๆ แม้วันเวลาที่เดินไปข้างหน้านั้นจะเกิดอะไรขึ้น เขาเองก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ แม้จะสุขสมหวังหรือเจ็บปวดทรมาน แต่แค่วินาทีนี้ เขามีมินโฮคอยเป็นยาให้กับหัวใจที่เคยว่างเปล่ามาตลอดชั่วชีวิต หรือเป็นหมออีกหนึ่งคนที่จะคอยกำจัดให้โรคร้ายมลายหายไป แค่นั้น ... ซึงฮุนก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว

     

    โทรศัพท์มือถือเคยนอนนิ่งอยู่นานนั้นเริ่มสั่นจนเคลื่อนที่ด้วยข้อความจากแอปพลิเคชันแชท ชื่อของคนส่งข้อความเด่นร่าจนจีซูเห็นแล้วก็อดจะวาดรอยยิ้มไม่ได้ รีบขยับตัวก้าวขาช้าพลางทำปากมุบมิบว่าขอตัวไปทำงานต่อก่อน

     

    ก็เพราะจีซูคงไม่อยากขัดความสุขของพี่ชายหน้าตี๋ยิ้มจนแก้มแดงๆ นั้นฟูฟ่องเต็มไปด้วยความสุข

     

    'ซึงฮุน วันนี้แวะไปกินข้าวก่อนกลับบ้านกันนะ'

     


     

    ลุ้นจนตัวโก่ง ความสัมพันธ์เพิ่งจะชัดเจน อยากจะแหมถึงดาวเสาร์จริงๆ ค่ะ

     

    คุณคังคนหวงพี่ โมโหทีนี่น่ากลัวนะคะ

     

    อย่างที่บอกค่ะว่าคุณคังเขาไม่ได้คิดอะไรกับคุณอี เขาแค่หวงพี่ชายเขาแค่นั้นเองค่ะ

     

    เราจะไม่ดราม่าเรื่องแอบชอบพี่ชายค่ะ คุณคังเขามีคุณคิมแล้ว ไปผูกดราม่าเรื่องหัวใจของทั้งสองคู่ดีกว่าเนอะ

     

    กำลังใจสำคัญกับไซเรนท์นะคะ อย่าลืมๆ ^^

     

    #DAYNIGHTSTORY


    ปล. มาสั้นๆ เพราะสมองตื้อตันจริงๆ ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ โฮกกกกก T^T

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×