Dreams Control

บทนำ

27 กันยายน ปีค.ศ. 2499 ณ ประเทศ “Skillmise” เกิดเหตุการณ์ประหลาดอันน่าสะพรึงกลัวขึ้น เหล่าผู้คนจำนวนมากเกิดอาการนอนหลับแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยพร้อมกันภายในเวลาแค่คืนเดียว โดยผู้คนเหล่านี้ได้หยุดหายใจและเสียชีวิตลงในระยะเวลาเพียง 30 นาที หลังจากเกิดอาการนี้ขึ้น โดยที่เหตุการณ์โศกนาฏกรรมนี้ได้สร้างความเสียหายต่อผู้คนและสังคมในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก ซึ่งเหตุการณ์นี้จะรับการขนานนามในภายหลังว่าคือ เหตุการณ์ “Nexas”

หลังจากเกิดเหตุการณ์ Nexas ไปได้ 1 อาทิตย์ อาการนอนหลับแล้วไม่ฟื้นก็ได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบที่แตกต่างออกไป โดยคนที่มีอาการนอนหลับแล้วไม่ฟื้นจะเกิดอาการพร้อมกันทีล่ะ 2-4 คน และภายในเวลา 2 ชั่วโมง กลุ่มคนที่เกิดอาการก็จะเสียชีวิตลงเช่นเดียวกัน และเมื่อคนกลุุ่มแรกได้เสียชีวิตลง กลุ่มต่อไปก็จะทำการเกิดอาการนอนหลับแล้วไม่ฟื้น เป็นแบบนี้วนไปเรื่อยๆในทุกๆคืน

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ประชากรในประเทศลดลงกว่า 30% และมีแนวโน้มที่การลดลงของจำนวนประชากรในประเทศจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ทางรัฐบาลที่เห็นถึงปัญหาจึงรีบหาวิธีแก้ไข โดยจัดตั้งกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่นำโดย “จิโอวานี่ โซลิส” ผู้นำตระกูลโซลิสรุ่นที่ 9 ตระกูลผู้ก่อตั้งประเทศในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 4 มาทำการศึกษาอาการนอนหลับแล้วไม่ฟื้น ที่ตอนนี้ถูกตั้งชื่อว่าอาการ “Crisis” และหาวิธีการรักษาอาการและแนวทางป้องกัน โดยพวกเขาเหล่านี้ถูกผู้คนขนานนามในภายหลังว่าคือ “กลุ่มนักวิจัยความฝันรุ่นแรก”

3 เดือนต่อมา จิโอวานี่ โซลิส ผู้นำกลุ่มนักวิจัยความฝันรุ่นแรกได้ประกาศว่า กลุ่มของพวกเขาสามารถหาสาเหตุของการเกิดอาการ Crisis และหาวิธีการรับมือได้แล้ว ซึ่งตัวจิโอวานี่ได้อ้างว่าสาเหตุของการเกิดอาการ Crisis คือการที่ความฝันของคนดันเกิดเรื่องราวแบบเดียวกันหรือคล้ายกัน จนเกิดการเชื่อมโยงกันในความฝัน ฉะนั้นพวกเขาจึงได้สร้างเทคโนโลยีที่สามารถควบคุมเรื่องราวในความฝันของมนุษย์ ไม่ให้เกิดเรื่องราวที่ซ้ำกัน ผ่านการฝังชิพขนาดเล็กใส่ในสมองเพื่อใช้ในการรับสัญญาณจากเครื่องควบคุมความฝัน อีกทั้งเครื่องควบคุมความฝัน ยังสามารถสร้างเรื่องราวที่มีแต่ฝันดีแก่ผู้คนได้อีกด้วย

ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงได้ทำการจัดตั้งองค์กรที่มีชื่อว่า “Dreams Control” ขึ้น เพื่อมาจัดการปัญหาด้วยเทคโนโลยีเครื่องควบคุมความฝัน อีกทั้งยังมีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาคอยดูแลและรักษาอาการ Crisis ที่อาจจะเกิดขึ้นมาได้ในกรณีฉุกเฉิน โดยแต่งตั้งให้ จีโอวานี่ โซลิส เป็นผู้อำนวยการขององค์กร และออกกฎหมายบังคับให้ทุกคนในประเทศนี้ต้องมีชิพขนาดเล็กนี้ติดตั้งอยู่ในสมอง

ในเวลาต่อมา การดำเนินงานขององค์กร Dreams Control ได้ผลลัพธ์ที่ดีเกินคาดในการรักษาอาการ Crisis จึงทำให้ผู้เสียชีวิตจากอาการ Crisis ลดลงอย่างมากภายในเวลาเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น อีกทั้งทางการแพทย์ได้เริ่มนำเทคโนโลยีการรักษาแบบใหม่เข้ามายกระดับวงการแพทย์ให้ก้าวล้ำขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งก็ส่งผลให้การรักษาโรคต่างๆมีประสิทธิภาพสูง นับตั้งแต่นั้นมา องค์กร Dreams Control จึงกลายเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่คอยดูแลผู้คนในยามหลับใหล เพื่อปกป้องความฝันและชีวิตของผู้คนให้อยู่รอดปลอดภัย

25 ปีต่อมา ชายหนุ่มคนหนึ่งได้ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความปวดหัวอย่างรุนแรง พร้อมกับเสียง “วิ๊ง” ที่ดังก้องอยู่ในหูของเขา เขานอนอยู่ด้วยท่าตะแคงข้าง โดยที่ใบหน้าของเขาสัมผัสกับพื้นทรายที่ร้อนระอุ เมื่อเขาพอจะตั้งสติได้แล้วพร้อมกับเสียงที่หายไป เขาจึงดันตัวเองขึ้นมานั่งแล้วปัดเศษทรายที่ติดบนใบหน้าและตามร่างกายท่อนบนออก ก่อนที่ดวงตาของเขาจะเบิกกว้าง แล้วพบกับความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้า