ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อาจารย์สีหน้าตายด้านในโลกฮงไก

    ลำดับตอนที่ #2 : GTK

    • อัปเดตล่าสุด 21 ธ.ค. 65


    ไรเดน เมย์ ลูกสาวของไรเดน เรียวมะ ประธานบริษัท ME Corp (Massive Electric Industry) ชะตาของเธอต้องพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือหลังจากพ่อของเธอถูกกล่าวหาคดโกงจนต้องติดคุก

    ชีวิตเมย์ระหว่างนั้นต้องถูกทอดทิ้ง ถูกเหยียดหยามว่าเป็นลูกคนชั่ว แล้วเธอก็ค่อย ๆ ตีตัวออกห่าง จากสังคม...จากเพื่อนที่มากมายรอบตัวก็กลายเป็น ตัวคนเดียว

    วันนี้ในช่วงเช้ามีชายแปลกหน้าในชุดสูทสีดำยืนรออยู่หน้าประตูโรงเรียน เมื่อเมย์เดินเข้าไป ชายคนนั้นได้ยืนขวางและยื่นบัตรแนะนำตัวพร้อมกับเอกสารการในซองสีน้ำตาลให้

    “ไม่ทราบว่าคุณทักคนผิดหรือเปล่าคะ?” เมย์เอียงศีรษะอย่างสงสัยและมองนักเรียนคนอื่นๆ ที่เดินผ่าน เมื่อหันกลับมาดูก็ไม่มีใครอื่นนอกจากเธอที่เป็นผู้รับ

    ‘ครั้งนี้อะไรอีก เอกสารหนี้สินหรอ? หรือว่าจะเป็นจดหมายข่มขู่ แต่ว่าผู้ชายคนนี้ดูสุภาพมากเลย น่าจะอายุราวๆ เดียวกับเรา ยังดูหนุ่มอยู่เลยแต่ว่าสีหน้าของเขา…’

    เมย์ก็คิดแบบเดียวกับเคียน่า หน้าตาของผู้ชายคนนี้ไร้อารมณ์และดูน่ากลัวเกินไป เขาไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่ยื่นเอกสารมาให้ เธอจึงรับมาอย่างไม่เต็มใจเต็มใจก่อนจะเปิดอ่าน

    เมื่อเห็นเอกสารแล้วก็อดไม่ได้ที่จะสะดุ้งและมองหน้าผู้ชายคนนี้อีกครั้ง “อันนี้ไม่ใช่ของปลอมแน่นะคะ?”

    คุโระหยิบเอกสารขึ้นมาดูและตกตะลึงถึงแม้จะมีสีหน้าที่เรียบเฉยก็ตาม มันระบุว่า คุโระ ชิบิโตะ จะเป็นผู้ปกครองของไรเดน เมย์ ชั่วคราว จนกว่าไรเดน เรียวมะ จะออกจากคุก

    ‘นี่มันอะไร? ทำไมไม่เห็นรู้เรื่องเลย โคโคเลีย สร้างงานให้อีกแล้วหรอ?’

    เมย์กลืนน้ำลายเมื่อเห็นสีหน้าที่ไร้อารมณ์ของคุโระระหว่างอ่านเอกสาร เธอบอกไม่ได้ว่าเขาพึงพอใจหรือโกรธอยู่กันแน่ ในตอนนี้ไม่อยากจะเกี่ยวข้องกับใคร เพราะพลังของตัวเองอาจจะทำร้ายคนรอบตัวอย่างเช่น เขา

    ‘เราต้องพูดดีๆ กับเธอ จะได้ยกเลิกสัญญานี้ง่ายๆ ใครมันอยากจะมาเลี้ยงเด็กกัน’

    “ฉันก็เข้าใจว่าไม่อยากให้ผู้ชายแปลกหน้ามาเป็นผู้ปกครอง ฉันจะได้ยกเลิกสัญญาฉบับนี้” เสียงน้ำเสียงที่เรียบง่ายดังออกมาจากปากคุโระ ในขณะที่เก็บเอกสารเข้าซอง

    เมื่อได้ยินแบบนั้นเมย์ก็ตกตะลึง เธอไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะเดาความคิดของเธอได้และยอมยกเลิกสัญญาฉบับนี้ เธอเป็นลูกสาวของประธานไรเดน เรียวมะ มีสถานะสูงส่ง เป็นสาวฮอตประจำโรงเรียน ใครๆ ก็อยากได้มรดกตกทอดรวมถึงร่างกายของเธอ

    เมย์ที่นิ่งเงียบทำให้คุโระหันหลังและก้าวออกไป ทันใดนั้นเมย์ก็พูดขึ้นว่า “ฉันขอเวลาคิดก่อนได้ไหมคะ หลังเลิกเรียนเดี๋ยวมาให้คำตอบค่ะ”

    ‘ไม่! เธอควรจะปฏิเสธ มันจะมีผู้หญิงที่ไหนที่อยากได้ผู้ชายที่ไม่รู้จักมาเป็นผู้ปกครองกัน!’ คุโระกรีดร้องในใจ

    “ฉันจะรออยู่ที่ใต้สะพานริมแม่น้ำนางาโซระ…จริงสิ ถ้าเห็นดาบสีดำช่วยบอกด้วย” หลังพูดเสร็จคุโระก็เดินจากไป และไม่ถามคำถามใดๆ

    “ดาบสีดำ?”

    เมย์มองแผ่นหลังของคุโระที่จากไปอย่างเงียบๆ เขาให้ความรู้สึกเหมือนกับตัวเอง โดดเดี่ยว ไร้เพื่อน จากนั้นเมย์ก็เข้าเดินเข้าไปในห้องเรียน ได้ข่าวมาว่าวันนี้จะมีเด็กย้ายมาใหม่ถึงสองคน

    มีเด็กผู้หญิงสองคนอยู่หน้ากระดานดำ คนแรกผมสีขาวเหมือนกับหิมะ ดวงตาสีฟ้า เคียน่า คลาสลาน่า อีกคนเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ สีหน้าไร้อารมณ์ลอยเหนือพื้น โบรเนีย ไซซิก

    เมย์มองดาบสีดำในมือของเคียน่า ไม่แน่ใจว่ามันเป็นดาบของคุโระหรือไม่ หลังเลิกเรียนค่อยถามให้แน่ใจ

    เมื่อเริ่มเรียนเด็กที่ชื่อว่าเคียน่าหลับทันทีไม่สนใจในสิ่งที่อาจารย์สอน โบรเนียยังคงตั้งใจเรียนเหมือนเด็กทั่วไป ส่วนเมย์นั่งเหม่อลอยกับเอกสารก่อนหน้านี้

    ภายในใจก็รู้สึกเหงาอยู่บ้างที่ต้องอยู่คนเดียว แต่ก็เริ่มชินกับมันมาบ้างแล้ว หลังจากที่ชายลึกลับอย่างคุโระปรากฏตัวขึ้นมา มันทำให้เธอรู้สึกถึงอะไรบางอย่างในตัวเขา ไม่ได้คิดไปเองแต่มันเป็นความรู้สึกของผู้หญิง

    พักกลางเด็กที่ชื่อว่าโบรเนียได้มาให้เมย์สอนการบ้านให้ ด้วยความใจอ่อนและเห็นใจผู้อื่น จึงเลือกที่จะตอบรับคำขอและเริ่มสอนเพียงเวลาสั้นๆ ทั้งสองคนจึงเริ่มทำความรู้จักกันจนโบรเนียเรียกว่า พี่เมย์

    เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงจะเรียนคาบต่อไป เมย์จึงแยกจากโบรเนียเพื่อไปรับประทานข้าวกลางวันคนเดียวบนชั้นดาดฟ้า ซึ่งไม่มีใครอยู่เลย จึงเป็นที่ที่เหมาะกับเธอ

    “หิวข้าว…” เสียงของเคียน่าที่น้ำลายไหลเยิ้มลอยออกมาตรงหน้าประตู

    เคียน่าที่เห็นข้าวกลางวันบนตักของเมย์ก็อดไม่ได้ที่จะวิ่งไปหาและพูดว่า “ขอกินได้ไหม?”

    “ถ้าจำไม่ผิด…เธอคือ เคียน่า?”

    เมย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะแบ่งข้าวกลางวันให้แก่เคียน่า จากนั้นหญิงสาวผมขาวเริ่มกินอย่างตะกละตะกลาม เมย์หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นเพื่อนร่วมชั้นทำตัวเหมือนเด็ก

    จากนั้นทั้งสองคนเริ่มทำความรู้จักกันจนสนิทในเวลาไม่นาน เมย์ได้รู้ว่าเคียน่าเดินทางมาหลายๆ ประเทศเพื่อตามหาพ่อของตัวเอง

    “คงลำบากมากสินะ”

    “ไอ้พ่อบ้านั่น ทิ้งไปโดยไม่บอกอะไรเลย” เคียน่าพูดด้วยท่าทางโกรธๆ

    “หนูเรียกว่าพี่เมย์ได้ไหม?”

    เมื่อเห็นดวงตาสีฟ้าใสๆ ของเคียน่า เมย์จึงพยักหน้าแต่โดยดี เธอเริ่มได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากเคียน่า เป็นคนที่ทำอาหารไม่เป็น ไม่เก่งการเรียน ชอบหลับในคาบ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เมย์ยิ้มออกมาอย่างจริงใจ

    “เคียน่าจัง ดาบเล่มนั้น”

    เคียน่าส่งดาบให้เมย์และพูดโอ้อวด ชายแปลกหน้าให้มาดูแลต่างหน้า จากนั้นวาดรูปของชายคนนั้น รูปแทบไม่ต่างจากตัวการ์ตูนกร้างปลา แต่มีสิ่งหนึ่งที่เมย์ยืนยันได้ รูปมันคล้ายกับคุโระ

    “ฉันว่าไม่ใช่นะ ผู้ชายคนนั้นเขาไม่ได้ฝากให้ดูแล เขากำลังตามหาดาบเล่มนี้อยู่ต่างหาก”

    “หือ? พี่เมย์รู้จักเขาด้วยหรอ รู้รึเปล่าว่าชื่ออะไร?”

    “คุโระ…คุโระ ชิบิโตะ ฉันน่าจะเรียกเขาว่าชิบิโตะคุ-”

    เมย์กลืนคำพูดกลางคัน ไม่ควรเติมคำว่า คุงต่อท้าย ถ้าจะเรียกแบบทางการควรเรียกว่า คุณชิบิโตะ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาอายุราวเดียวกันหรือไม่ แต่ในเอกสารชี้ว่าเป็นผู้ปกครองห่างๆ

    “คุโระ ชิบิโตะ ชื่อของเจ้านั่นงั้นหรอ”

    “เคียน่าจังจะเรียกเขาว่าเจ้านั่นไม่ได้นะ มันไม่สุภาพ”

    “เอ๋? แต่ว่ามันเป็นไอ้โรคจิตนะ”

    “!?”

    เคียน่าเริ่มเล่าเรื่องราวของการเจอกันครั้งแรกระหว่างเธอและคุโระให้เมย์ฟัง เมื่อได้ยินแบบนั้นเมย์หัวเราะออกมาเบาๆ จริงๆ แล้วคุณชิบิโตะน่าจะนอนกลางวันอยู่บนตึกและเคียน่ากระโดดมาพอดี ทั้งสองคนจึงนอนคร่อมกัน

    “เคียน่าจัง เดี๋ยวตอนเย็นฉันจะเอาดาบไปคืนเขา ช่วยส่งมาได้ไหม?”

    เคียน่าพยักหน้าเบาๆ

    หลังเลิกเรียนเธอได้โบกมือลาเคียน่าและโบรเนีย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งสองคนเลือกที่จะอยู่กลุ่มเดียวกับเธอ โบรเนียกับเคียน่าจะทะเลาะกันเสมอจนเคียน่าถูกเรียกว่า เคียน่าโง่

    นี่ก็เป็นสิ่งที่แตกต่างออกไปจากชีวิตเธอ มีเพื่อนสองคนที่ไม่สนใจว่าเธอจะอยู่ในสถานะอะไรและไม่เหยียดหยามเหมือนคนอื่นๆ มันจึงทำให้เมย์เปิดใจขึ้นมาไม่มากก็น้อย

    เมย์เดินมาจนถึงริมแม่น้ำใต้สะพานตอนที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า มีชายชุดสูทสีดำที่คุ้นเคย ยืนรอเธออยู่อย่างเงียบๆ ด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ เมย์กลืนน้ำลายก่อนจะชวนเขานั่งคุยบนพื้นหญ้า

    เมย์ส่งดาบยามาโตะและถามออกไปว่า “คุณเป็นนักดาบด้วยหรือคะ?”

    “นิดหน่อย ฉันไม่ได้เก่งขนาดให้เธอมาชื่นชม”

    ‘คนคนนี้เขาไม่ถือตัว ถึงแม้ว่าสีหน้าของเขาจะบอกว่าจะเป็นแบบนั้นก็เถอะ’ เมย์ชื่นชมคุโระ เขาเป็นคนไม่ถือตัวและไม่โอ้อวด ดูจากลวดลายที่ตัวดาบบอกได้เลยว่า ดาบเล่มนี้ถูกทำขึ้นมาอย่างทะนุถนอม

    “คุณเกี่ยวข้องอะไรกับพ่อของหนูหรือคะ?”

    ‘แย่ละ ตอบอะไรดี คนที่ไหนไม่รู้ที่จู่ๆ ก็ถูกบังคับให้เป็นผู้ปกครองงั้นหรอ? จะบ้าไปแล้ว ตอบแบบนั้นได้ที่ไหนเล่า…ถ้ามาคิดดูดีๆ …ตอบแบบนี้ก็ไม่เลวนะ เธอจะได้ปฏิเสธ’

    “ไม่…ฉันก็แค่อาจารย์ที่ผ่านมา…คิดซะว่า การเลี้ยงเธอเป็นแค่งานเสริม”

    “…”

    บรรยากาศเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะของหญิงสาวออกมาเบา เมย์เดาได้แล้วว่าคุโระเล่นมุกฝืดๆ ด้วยสีหน้าตาย เมื่อไม่มีคนตบมุก เธอจึงทำหน้าที่นี้แทน เพื่อไม่ให้เขาไม่เสียหน้า

    “ฉันเป็นแค่เด็กผู้หญิงที่ไม่เหลืออะไรแล้ว…เพื่อนก็ไม่มี…ตอนนี้ตัวคนเดียว… บางทีฉันอาจจะเป็นปีศาจในสายตาคุณก็ได้นะคะ…คุณเลือกคนอย่างฉันคิดดีแล้วหรือคะ?”

    คุโระถอนหายใจ “ฉันคือ GTK Great Teacher Kuro เธอก็แค่เด็กผู้หญิงธรรมดาที่โชคร้าย จะสัตว์ประหลาดหรืออะไร ฉันไม่สนใจ…เคยได้ยินไหม มีเด็กกลุ่มหนึ่งที่ทั้งชีวิตไม่มีอะไรเลย เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้งหรือบางคนสูญเสียพ่อแม่ไปจากสงคราม จนติดตั้งบางอย่างเข้าร่างกายแล้วถูกเรียกว่าปีศาจ แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้และดิ้นรนเพียงเพราะว่าคำพูดเดียวของผู้ชายคนหนึ่ง “สถานที่ของพวกเรา” คงเรียกว่า บ้าน…”

    ‘ที่พูดมาไม่มีสาระอะไรเลย แค่อยากให้เธอตีตัวออกห่างเฉยๆ ยืมคำพูดมาหน่อยนึงคุณตัวละครที่จากไปแล้ว’ คุโระหัวเราะในใจ

    “บ้าน…”

    “รอยยิ้มตอนที่ได้อยู่กับพวกนั้น..รู้สึกยังไงบ้าง”

    “เอ๊ะ!? คุณเห็นด้วยหรือคะ?” เมย์นึกถึงเคียน่าและโบรเนีย

    คุโระพยักหน้า

    “แล้วเป้าหมายของคุณคืออะไร? ทำไมถึงอยากเป็นผู้ปกครองของฉัน?”

    “…”

    ‘อย่างน้อยโอกาสที่เธอจะปฏิเสธก็สูงอยู่แล้ว ไหนๆ ก็ขอลองพูดแบบอาจารย์หน่อยละกัน’ คุโระยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ในใจ

    การเป็นผู้ปกครองไม่เหมาะสำหรับเขา อยู่ตัวคนเดียวมานานไม่เคยดูแลใคร ไม่มีทักษะเข้าสังคม และไม่อยากจะเกี่ยวข้องกับคนใดคนหนึ่งนานๆ เพราะการแยกจากกันถือเป็นเรื่องน่าเศร้า

    “ฉันไม่มีเป้าหมายอะไรทั้งนั้นแหละ แค่อยากจะปกป้องเด็กผู้หญิงธรรมดาไม่สิ คอยชี้แนะเส้นทางที่ถูกต้องให้เธอก็เท่านั้น”

    ทันใดนั้นสายฟ้าสีม่วงล้อมรอบตัวของเมย์ ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีเข้มก่อนที่สายฟ้านั้นจะสัมผัสกับคุโระ จนเขาต้องกระโดดออกมา จ้องมองราชินีสายฟ้าที่ตื่นจากการหลับใหล

    “ไอ้พวกแมลง คำพูดทุกคำของแกเต็มไปด้วยการโกหกทั้งสิ้น ฉันจะไม่ให้แกมาหลอกลวงของเล่นของข้าผู้นี้!” ราชินีสายฟ้ามองคุโระด้วยความโกรธพร้อมกับสายฟ้าที่โจมตีคุโระอย่างต่อเนื่อง

    ‘อะไร โดนการโจมตีของข้าผู้นี้ยังไม่แสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมาอีกหรอ…ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่!?’ ราชินีสายฟ้าหยุดโจมตีและมองคุโระอย่างระวัง

    ไม่ใช่ว่าคุโระไม่สามารถลบพลังสายฟ้าได้ แต่เขากลัวจนทำอะไรไม่ถูกจึงเลือกระบายออกมาในใจ ‘เจ็บ! ตายแน่ ตายแน่ ทำไงดี!? …ช่วยไม่ได้งั้นเลือกต่อสู้แบบปกติละกัน’

    เสื้อผ้าเกิดการฉีกขาดบางส่วนและไหม้เหมือนกับคนขอทาน จากนั้นพูดขึ้นว่า “การโจมตีของเธอทำอะไรฉันไม่ได้…เป็นอะไรไปละ ทำไมไม่เข้ามา?” สีหน้ายังคงเหมือนเดิมที่ไร้ซึ่งความกลัวใดๆ จ้องมองราชินีสายฟ้าด้วยสายตาที่ตายและเดินเข้าไป

    “อึก…อย่าได้ใจไปนักนะ ไอ้แมลง!”

    คราวนี้คุโระเลือกที่จะป้องกันด้วยมือขวา จนราชินีตกตะลึง สายฟ้าของเธอทำอะไรผู้ชายตรงหน้าไม่ได้ แถมเขายังเดินเข้ามาเรื่อยๆ ราชินีจึงไม่มีทางเลือกนอกจากโจมตีไปเรื่อยๆ

    ‘อะไรกัน…พลังของข้าคนนี้ทำอะไรมันไม่ได้…เดี๋ยวก่อนนะ ดาบนั่น!’

    ดาบในฝักไม่เคยถูกชักออกเลยตั้งแต่โจมตีมา เหมือนกับว่าเธอไม่มีค่าพอให้เขาชักดาบ ราชินีจึงก้าวถอยหลังเล็กน้อย รวบรวมสายฟ้าไว้บนหัว มันจะเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดที่เคยมีมา

    “ถ้าแกไม่ยอมชักดาบละก็ ข้าจะฆ่าเจ้าซะ ไอ้หนอนแมลง!”

    สิ้นเสียงคำรามของราชินี ลูกบอลสายฟ้าสีม่วงขนาดใหญ่ที่แทบจะเห็นเกือบทั้งเมืองได้พุ่งเข้าใส่ศัตรูอย่างรวดเร็ว

    ‘ชิบผาย…ไม่ไหว ขนาดนี้ต้องเผ่นอย่างเดียว’

    คุโระพยายามก้าวขาแตะสุดท้ายก็ก้าวไม่ออก จึงกรีดร้องในใจออกมาดังๆ ‘เป็นไงเป็นกันวะ!’

    มือขวาได้ปะทะกับบอลสายฟ้าจนเกิดแรงปะทะมหาศาล พื้นที่รอบๆ ถูกสายฟ้าฟาดจนไหม้เกรียม ใบหญ้า พื้นดิน แต่เมื่อราชินีมองเข้าไปในจุดเล็กๆ สีดำ เธอเห็นคุโระใช้แค่มือขวาเพียงมือเดียวรับลูกบอลสายฟ้า

    ‘บ้าไปแล้ว ไอ้แมลงคนนั้น…คิดจะสลายลูกบอลด้วยมือข้างเดียวงั้นหรอ!?’

    ผ่านไปไม่นานบอลสายฟ้าเริ่มสลายไปอย่างๆ ช้าด้วยมือขวาที่เปื้อนด้วยเลือด ร่างกายของคุโระเต็มไปด้วยบาดแผลไหม้เกรียมจากสายฟ้าฟาด ทว่าสีหน้ากลับไม่แสดงอารมณ์ความรู้ใดๆ

    “บ้าน่า..ใช้มือรับแค่ข้างเดียว…จะมีมนุษย์ที่ไหนทำเรื่องแบบนี้กัน!?” ราชินีก้าวถอยหลังด้วยความกลัวและเกิดความสงสัยขึ้นมาในใจ เธอรู้สึกถึงออร่าที่แผ่ออกมาจากร่างกายเขา (มโนไปเอง)

    แรงกดดันที่เธอไม่เคยพบมาก่อน รู้สึกเหมือนว่าจะตายได้ทุกเมื่อ ถ้าผู้ชายคนนั้นชักดาบออกมา ทว่าเขาเลือกที่จะไม่ใช้ (กลัวเกินไปที่จะชักดาบและชักไม่ออก)

    “ข้าขอถามเจ้า…ทำไมไม่โจมตีข้า!?”

    คุโระยังคงเดินไปเรื่อยๆ จนอยู่ต่อหน้าราชินีด้วยบาดแผลที่เต็มร่างกายพร้อมกับพูดว่า “ฉันไม่เคยคิดจะโจมตีลูกศิษย์ของตัวเองเธอไม่ใช่ปีศาจแต่พวกเธอคือไรเดน เมย์”

    ‘ไม่ไหวแล้ว…เจ็บจะตายอยู่แล้ว’ คุโระกัดฟันและพยายามเดินต่อไปเรื่อยๆ

    “ฉันคือ อาจารย์วิชาสังคม คุโระ ชิบิโตะ แค่นี้แค่แมวข่วน…”

    น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาอย่างช้าๆ ด้วยสีหน้าที่พยายามอัดอั้นความรู้สึกของเมย์

    “หน้าที่ของคุณครูคือการสั่งสอนลูกศิษย์”

    “ไอ้หนอนแมลง!”

    “หุบปากแล้วตามมา…เรามีเรื่องต้องคุยกัน!”

    “หยุดได้แล้ว ไอ้หนอนแมลง!”

    “หยุดงั้นหรอ…อย่ามาพูดบ้าๆ …จะมีอาจารย์ที่ไหนยอมหยุดเพื่อลูกศิษย์ตัวเองกัน…ตราบใดที่ก้าวไปข้างหน้า มันต้องมีหนทางต่อไปแน่…”

    ‘อย่างน้อย…ขอพูดเท่ๆ เอาไว้ก่อน…’ ความคิดสุดท้ายก่อนจะล้มลงและชี้นิ้วไปข้างหน้า

    ราชินีหรี่ตามมองด้วยสีหน้ารำคาญ พูดต้องนานกว่าจะเงียบ แต่เธอก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ ถึงแม้จะเป็นคำพูดที่โกหกแต่อย่างน้อยก็ขอเชื่อสักนิด

    'มนุษย์คนนี้…ข้าคนนี้ไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าลบสายฟ้าของข้าได้ยังไง…แต่เจ้าทำให้ข้าเริ่มสนใจขึ้นมาแล้ว...ไอ้หนอนแมลง'

    “เมย์ อย่าเข้าใจผิดละ ฉันไม่ได้ทำเพื่อเธอหรอกนะ”

    เมื่อราชินีแตะมือขวา ทันใดนั้นพลังของเธอก็ถูกลบออกไปทันทีพร้อมกับภาพตรงหน้าที่ดับวูบก่อนจะกลายเป็นเมย์คนเดิม ‘นี่มัน..อะไร…พลังของข้าหายไป…’

    เมย์ตัวจริงจึงแบกร่างของคุโระกลับไปที่บ้าน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×