คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : อาหาร(ข้ามได้)
อดีต
สาวหูจิ้งจอกสีชมพูลืมตา พบกับเมืองนางาโซระที่ถูกทำลายล้อมรอบไปด้วยเหล่าฮงไก รอบๆ ตัวเต็มไปด้วยป่าไม้ ด้านหน้ามีควันไฟลอยขึ้นมา เดินไปดูและพบว่าเป็นเมืองสมัยใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หญิงสาวตั้งคำถามกับตัวเอง
“มันเกิดอะไรขึ้น? ที่นี่ที่ไหน? แล้วคาเรนละ?”
จิ้งจอกสีดำโผล่ออกมาและพูดขึ้นว่า “ยาเอะ ในที่สุดผนึกก็ถูกคลาย…”
ยาเอะ ซากุระสะดุ้ง กระโดดถอยหลังมองเงาจิ้งจอกสีดำ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่คาเรนเคยปราบเมื่อ 500 ปีก่อน ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ทันใดนั้นอาการปวดหัวรุนแรงถาโถมเข้ามา
“นี่มัน….”
ความทรงจำ จำนวนมากหลั่งไหลเข้ามา ยาเอะ ซากุระ จำเรื่องราวเมื่อ 500 ปีก่อนได้ เธอถูกปีศาจจิ้งจอกเข้าครอบงำและคนที่ผนึกตัวเองก็คือ คาเรน คลาสลาน่า ตั้งแต่นั้นมา ยาเอะ ซากุระก็จมสู่ห้วงนิทราพร้อมกับจิ้งจอก
ตอนนี้ผนึกได้ถูกคลายแล้วเนื่องจากค่าพลังฮงไกที่เพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ยาเอะ ซากุระกำดาบข้างกายไว้แน่น มองจิ้งจอกด้วยสายตาโกรธแค้นและอาฆาต
ถ้าไม่ใช่เพราะมันเรื่องทุกอย่างก็ไม่ควรกลายเป็นแบบนี้
“หึ ตอนนี้เจ้ากับข้าเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว…”
ยาเอะรับรู้ถึงการเชื่อมต่อบางอย่างจากจิ้งจอก เรื่องที่มันพูดเป็นความจริง ตัวเธอในตอนนี้เป็นหนึ่งเดียวกับมัน สิ่งที่เรียกว่าแฮชเชอร์แห่งการกัดเซาะ
ยาเอะซากุระขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจและมองไปในเมือง
“ความรู้สึกนี้…คาเรน”
“คาเรนตายไปเมื่อ 500 ปีก่อนแล้ว”
ยาเอะส่ายหน้าไม่สนใจคำพูดเจ้าเล่ห์ของจิ้งจอก เธอมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังหนึ่งภายในเมือง พบกับคนตายจำนวนมากล้อมรอบ เธอพบกับชายหนุ่มผมดำที่ให้ความรู้สึกอันตรายยืนหยัดอยู่หลังประตู
ยาเอะตวัดดาบอย่างรวดเร็วฆ่าคนตายทั้งหมดภายในพริบตาเพื่อช่วยเหลือชายหนุ่มคนนั้น ทว่าสัญชาตญาณของจิ้งจอกกระตุ้นความกลัวของเธอ ชายหนุ่มคนนี้อันตราย เขาเป็นใคร มันรู้สึกว่าจะตายได้ทุกเมื่อ
ยาเอะสลัดความคิดนั้น มองเข้าไปในบ้าน เธอรู้สึกถึงคาเรนที่อยู่ในนั้น ทว่ามีชายหนุ่มยืนขวางอยู่ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมืดมิด มีแรงกดดันและเสียงปริศนาที่ดังกึกก้อง ตุบตับๆ รอบทิศทาง
ยาเอะกัดฟันอย่างไม่เต็มใจก่อนจะพูดว่า “ท่านรีบหนีไปเถอะ ตอนนี้ในเมืองมันอันตราย”
ยาเอะก็หายตัวไปท่ามกลางสายตาที่เย็นชาของชายหนุ่มที่ชื่อว่า คุโระ ชิบิโตะ และตั้งแต่นั้นมาเธอได้จับตาดูชายหนุ่มตลอดเวลา ตั้งแต่ขับรถ เข้าไปในห้างสรรพสินค้า และขึ้นยานปริศนาออกนอกเมือง
…
ปัจจุบัน
หูของยาเอะหดลงเล็กน้อยเมื่อเจอชายหนุ่มอีกครั้ง เขาให้ความรู้สึกอันตรายเหมือนที่ผ่านๆ มา ยังมีสาวน้อยผมขาวที่ให้ความรู้สึกเหมือนคาเรน คลาสลาน่า ต่อสู้กับฮงไกอย่างโดดเดี่ยว
‘พวกเขามีความสัมพันธ์อะไรกันแน่?’
“ยาเอะ ต้องรีบหนี! ผู้ชายคนนั้นอันตราย!” จิ้งจอกพูดออกมาอย่างร้อนรนในขณะที่ขนของมันลุกซู่เต็มไปด้วยความกลัว
“หุบปาก!” ยาเอะตะคอกออกมาโดยไม่รู้ตัว
ยาเอะมองมือทั้งสองข้าของตัวเองที่สั่นกลัว มันเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เธอรู้สึกแบบนี้ ชายหนุ่มตรงหน้าให้ความรู้สึกอันตรายบางอย่าง
“ถ้าไม่ออกมาจะตายเอานะ แม่กระต่ายน้อย”
‘เขารู้ตัวงั้นหรอ ที่ข้าแอบอยู่หลังต้นไม้!?’
ยาเอะก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ เธอไม่คิดว่าเขาจะเป็นฝ่ายพูดก่อน ใบหน้าที่ไร้อารมณ์แฝงไปด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมในขณะที่มองดูกล่องเล็กๆ ในมือ
“อะไร? อย่าให้พูดซ้ำสอง ถ้าไม่ออกมาจะศพไม่สวย บันนี่เกิร์ล”
เงาจิ้งจอกกัดฟันด้วยความไม่พอใจและมองคุโระ มันรู้สึกหวาดกลัวผู้ชายคนนี้ มันเป็นครั้งแรกในรอบหลาย 500 หรืออาจ 500000 ปีก่อนอารยธรรม
‘อะไร!? ถ้าข้าน้อยไม่ออกมาเขาจะฆ่างั้นหรอ!?’
“ยาเอะ หนีไปเดี๋ยวนี้!”
“โห? ถ้าไม่ออกมา ฉันคนนี้ต้องเดินไปเองสินะ”
‘บ้าเอ๊ย ยาเอะไม่ฟังสิ่งที่ข้าพูดเลย!’ จิ้งจอกสาปแช่งในใจ
คุโระเล่นเกม Ninxxx ที่พึ่งซื้อมาใหม่หลังจากไปกู้เงินกับเวล หยาง ในตอนนี้ไอดีเดิมเหมือนจะใช้ไม่ได้ คุโระจึงสร้างไอดีใหม่และซื้อเกม สุดท้ายก็ต้องเล่นใหม่ทั้งหมด
คุโระอ้าปากค้างเมื่อเห็นไอดีตัวเองออนไลน์ ‘เดี๋ยวๆ โลกที่เวลเวทอยู่มีไวไฟด้วย!?’
โลกนั้นเต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ล้าสมัย แต่ถูกแทนที่ด้วยเวทมนตร์ มันจึงพอประคับประคองไปได้ ทว่าเรื่องไวไฟต่างโลกเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
‘เดี๋ยวนะ…บางทีไอดีของเราอาจถูกแฮ็กก็ได้’ คุโระพยักหน้าอย่างมั่นใจและเล่นเกมต่อ
มีเสียงของหญ้าขยับไม่ไกลจากคุโระ หญิงสาวหูจิ้งจอกเดินออกมาอย่างประหม่าด้วยท่าทางที่หวาดกลัว เธอเดินมาข้างหลังคุโระและพยายามจะแตะไหล่
“ถ้ายอมให้จับหูลา ฉันคนนี้อาจจะยกโทษให้ก็ได้”
‘มันไม่ใช่หูลา! มันเป็นหูจิ้งจอก!’ ยาเอะกรีดร้องในใจ
หูบนหัวของยาเอะเป็นจุดที่อ่อนไหวของร่างกาย ถ้ามีใครสัมผัสมันเพียงครั้งเดียวร่างกายของยาเอะจะอ่อนโปกเปียก นั่นเป็นสิ่งที่ยาเอะได้รู้หลังจากฟังสิ่งที่จิ้งจอกเล่ามา
“ถ้าทำแบบนั้น…ท่านจะยกโทษให้ข้าน้อยใช่ไหม?”
คุโระหันมองตามเสียงอย่างช้าๆ และพบกับยาเอะ ซากุระ ที่ยืนเอามือถูกันอย่างประหม่า เป็นมิโกะที่เจอตอนอยู่ที่บ้านของเมย์ ทว่าตอนนี้เธอทำตัวแปลก ใบหน้าแดงก่ำ หูสั่นอย่างไม่เป็นจังหวะ
‘ยาเอะไม่ใช่หรอ? มาได้ไง? ทำไมทำหน้าแบบนั้น’
ใบหน้าตอนนี้ของยาเอะเต็มไปด้วยความน่ารัก ต่างจากอารมณ์ที่เย็นชาก่อนหน้านี้ลึกลับ ไม่รู้ว่าทำไมถึงปรากฏตัวออกมา คุโระกระแอมในลำคอและถามไปว่า “มีอะไรให้ช่วยไหม?”
เพียงแค่คำพูดสั้นๆ กับใบหน้าที่ไร้อารมณ์ ทำให้ยาเอะก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ ชายคนนี้เต็มไปด้วยออร่าสังหาร ถ้าหากไม่ให้เขาจับหูอาจถูกฆ่าก็ได้
ยาเอะกัดฟันด้วยความโกรธ หูเป็นศักดิ์ศรีของเธอเพราะฉะนั้น “ข้าน้อยจะไม่ยอมให้ท่านจับหู!”
‘หือ? หู? พูดเรื่องอะไร’
“คุโระ ทางนี้จัดการเรียบร้อยแล้วนะ” เคียน่าวิ่งกลับมาอย่างรวดเร็ว
เคียน่าอ้าปากค้างเมื่อเห็นพี่สาวสุดสวยผมสีชมพู เคียน่าจึงพูดออกไปโดยไม่รู้ตัวว่า “พี่สาวหูกระต่าย?”
‘หูจิ้งจอก! ต้องให้บอกอีกกี่ครั้ง!’
รูปร่างของเคียน่าซ้อนทับกับคาเรน คลาสลาน่า เมื่อ 500 ปีก่อน เรียกได้ว่าแทบจะถอดแบบออกมาเลย ยาเอะมองเคียน่าด้วยสายตาโหยหาจนพูดออกไปโดยไม่รู้ตัว “คา…เรน?”
“คาเรน? ไม่ ฉันชื่อ เคียน่า คลาสลาน่า…แล้วพี่สาวคือ?”
ยาเอะส่ายหน้าสลัดความคิดในอดีตทิ้งไป บางทีเด็กสาวคนนี้อาจจะเป็นลูกหลาน และคาเรนอาจมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ ยาเอะถอนหายใจและแนะนำตัว
“ข้าน้อยคือ ยาเอะ ซากุระ เป็นมิโกะ”
“มิโกะ!” เคียน่าอุทาน
“แล้วพวกท่านมาทำอะไรที่นี่กัน?” ยาเอะถามในขณะที่เหลือบมองคุโระอย่างระมัดระวัง
“เรามาตามล่าแฮชเชอร์ที่อยู่ในเมือง”
ยาเอะสะดุ้ง “แฮชเชอร์!”
‘ข้าบอกเจ้าแล้วว่ามันจะมาตามล่าพวกเรา! รีบฆ่าก่อนที่มันจะสายเกินไป’
คุโระยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยมันยิ่งทำให้เขาน่ากลัวขึ้นไปอีก
คุโระพอเดาได้ว่ายาเอะน่าจะฟื้นขึ้นมาราวๆ หนึ่งอาทิตย์ก่อน บางทีเธออาจไม่รู้เรื่องโลกภายนอกเท่าไหร่ เพราะฉะนั้น
“อะแฮ่ม…สบายใจได้ มันไม่ใช่แฮชเชอร์แท้ มันเป็นแฮชเชอร์เทียมที่ยังอ่อนแอ ถ้ามีคุณนักดาบมาช่วยเราอาจจะลักพา-เอ๊ย ปราบเธอได้”
“เอ๊ะ เรามาล่าแฮชเชอร์กันหรอ?” เคียน่าถามอย่างงงวย
‘ตามมาโดยไม่รู้เรื่องเนี่ยนะ! ไอ้พารามีเซียม!’
คุโระชวนยาเอะและเคียน่าเข้าไปในกระท่อมเล็กหลังเขาเพื่อคุยรายละเอียดเล็กๆ น้อย ภายในเหมือนกระท่อมยุคโบราณ มีกระโถน เตาไฟที่ต้องใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิง เหมาะกับที่พึ่งเฉพาะกิจ
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
เพียงแค่อธิบายสั้นๆ ก็ทำให้ยาเอะเข้าใจได้ ส่วนเคียน่าต้องแจกแจงรายละเอียดอีกยาวไกล ด้วยสมองที่กลวงโบ๋ทำให้เข้าใจยากเป็นพิเศษ
“คุโระอาหารหมดแล้วทำไงดี?”
“เดี๋ยวฉัน-”
“เดี๋ยวอัจฉริยะผู้นี้จะเตรียมอาหารให้เอง ไม่ต้องเป็นห่วง!” เคียน่าพูดออกมาด้วยความมั่นใจและเดินไปข้างนอก
‘อาหารหรือยาพิษ!’
คุโระกัดฟันและลุกขึ้น ทว่าเขาก็ถูกยาเอะห้ามเอาไว้ และพยักหน้านัยๆ ว่า ให้เชื่อใจ
‘บางทีลูกหลานคาเรนอาจพัฒนาฝีมือขึ้น’
‘ไม่! เราจะตายกันหมด! คุณก็น่าจะรู้จักคาเรนเมื่อ 500 ปีก่อนแล้ว! ผลลัพธ์คงเป็นยังไง รู้ใช่ไหม!’ คุโระสาปแช่ง
ระหว่างนี้ก็เหลือเพียงยาเอะและคุโระที่อยู่สองต่อสอง บรรยากาศน่าอึดอัดเมื่อไม่มีใครพูดอะไรออกมา โดยเฉพาะคุโระที่ปล่อยแรงกดดันออกมาเป็นพิเศษ
‘ฆ่ามันซะยาเอะ! ผู้ชายคนนี้อันตราย!’
“ท่านคุโระกับเคียน่ามีความสัมพันธ์กันยังไง?”
“แค่อาจารย์กับลูกศิษย์…เรียกว่าคุโระก็พอ ไม่ต้องเติมท่าน…มันดูแปลกๆ”
ยาเอะประหลาดใจเล็กน้อย ผู้ชายที่ปล่อยออร่าแห่งความตายริเริ่มที่จะพูดคุยแบบเป็นกันเอง ซึ่งต่างจากจิ้งจอกดำที่โวยวายตลอด
‘ฆ่ามัน! เราจะตายกันหมด!’
‘คนนี้ไม่ถือตัว…สมกับเป็นอาจารย์ของลูกหลานคาเรน ช่างน่ายกย่องชื่นชม’
ยาเอะมองดาบสีดำของคุโระ ฝักดาบถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีด้วยลวดลายญี่ปุ่น เธออดไม่ได้ที่จะถามไปว่า “คุโระ…เป็นนักดาบ?”
“ใช่…แต่ตอนนี้ยังอ่อนหัด”
‘อ่อนจริงๆ ชักดาบไม่ออก และไม่รู้ศิลปะดาบเนี่ย!’ คุโระกรีดร้องกับความอ่อนของตัวเองอย่างเงียบๆ
‘สมกับเป็นคุโระ…ไม่ถือตัวอวดอ้างชื่อเสียงเรียงนาม สมกับเป็นนักดาบขนานแท้!’
“เดี๋ยวไปดูเคียน่าก่อน”
คุโระเดินเข้าไปในครัวและเห็นเคียน่าตั้งใจทำอาหารอย่างใจจดใจจ่อ บางทีปาดเหงื่อด้วยความเหนื่อย คุโระอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าด้วยความภูมิใจ
‘บางทีเคียน่าในโลกนี้อาจทำอาหารเป็นก็ได้’
คุโระเดินมาดูข้างหลังเคียน่าอย่างเงียบๆ ใส่น้ำมันครึ่งขวด เปิดไข่มาใบแรกเป็นไข่แฝดและตามด้วยใบที่ 2…3…4 เช่นกัน หนังตาถึงกับกระตุก
‘ไก่กินไวอาก้ารึไงวะ!’
เมื่อไข่ขาวสุกได้ที่ ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปในไข่แดงที่ยังไม่สุกทุกฟอง จากนั้นคนไข่ เป็นกรรมวิธีการทำอาหารที่แปลกใหม่และซับซ้อน
‘อะ..อ่าว…สุดท้ายก็ใช้ตะหลิวผัดให้เข้ากันนี่หว่า’
เมื่อผัดได้ที่ จนไข่เหลืองเต็มกระทะ จากนั้นวางตะแกรงรูปดาวตรงกลาง ใส่กระเทียมหนึ่งกำมือ หัวหอมหนึ่งกำมือ พริกอีกหนึ่งกำมือ บางทีอาจจะใส่ไข่ลงไปในดาว
‘จะกินได้ไหมเนี่ย? …เดี๋ยวนะแล้วจะเอาตะแกงออกทำไม!’
เคียน่าเอาตะแกงออกแล้วคุกให้เข้ากันด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม บางทีน่าจะกินได้แล้ว ทว่าคุโระคิดผิด
‘ใส่น้ำมาทำเพื่อ!? ….แล้วจะเปลี่ยนกระทะทำไม?’
เคียน่าเปลี่ยนกระทะเก่าออกแทนที่ด้วยกระทะใหม่ จากนั้นเพิ่มน้ำอีกอีกหลายแก้ว
‘ต้มแม่งเลยหรอ?’
ไม่ใช่แค่นั้น เคียน่าเพิ่มพริก กระเทียมและหัวหอมอีกหนึ่งกำมือ จากนั้นก็คลุกให้เข้ากัน คุโระเริ่มพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
‘บางทีเธออาจจะทำไข่ตุ๋น…ใจเย็นไว้ตัวเรา’ คุโระพยายามตั้งสติและสูดหายใจเข้าลึกๆ
คุโระพยายามเชื่อใจเคียน่าสุดฝีมือและเดินออกไปอย่างช้าๆ และเชื่อมั่นว่าเคียน่าในโลกนี้ ไม่น่าจะมีคำสาปของคลาสลาน่า
ทว่าการใส่ส่วนผสมครั้งต่อไปของเคียน่า ทำให้คุโระอ้าปากค้าง
‘อะไร? …น้ำแข็ง!? …โอเค ไม่แดก!’
คุโระส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้และเดินออกไปจากครัวอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามยาเอะซากุระก็มองคุโระด้วยรอยยิ้มที่เชื่อใจ มันจึงทำให้ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของคุโระตื่นขึ้นมา
“เป็นไง?”
‘ใส่บ้าอะไรลงไปก็ไม่รู้ ไข่แฝด พริก กระเทียม หัวหอมและน้ำแข็ง อัจฉริยะบ้าอะไรวะ!’
คุโระกัดฟันและพูดกับยาเอะด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ “ก็-”
“เสร็จแล้ว เชิญทานได้เลย!”
‘แม่งมาแล้ว!’
คุโระได้แต่ทำใจและนั่งบนเสื้อกับทั้งสองคน มองไข่สีเหลือง ม่วง แดง ที่ท่าทางเละๆ กับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของเคียน่า จะสงสารหรือเศร้าดี
“ไม่ต้องเกรงใจ กินได้เลย!”
“เคียน่า…ลองกินก่อน”
เคียน่าสะดุ้งเหงื่อไหลพลั่กๆ เต็มใบหน้า มองซ้ายมองซ้ายทีขวาที จริงๆ เคียน่าก็ไม่มั่นใจในฝีมือการทำอาหารเท่าไหร่
“อาจารย์…กินก่อน หนูอุตส่าห์ทำให้” เคียน่าพูดด้วยปากที่สั่นเครือ
‘คนทำยังกล้าๆ กลัวๆ แล้วคนกินจะขนาดไหน!?’
“ใช่ คุโระน่าจะกินก่อน เคียน่าอุตส่าห์ทำมาให้” ยาเอะพูดเสริม
“ขอถามหน่อย…เธอเรียนวิธีการทำอาหารมาจากไหน?”
เคียน่าสะดุ้งและรู้สึกจิตสังหารจากคุโระ เหมือนกับว่าจะตายได้ทุกเมื่อ ถ้าพูดอะไรไม่เข้าเรื่องอย่างเช่น ใส่น้ำมันกับน้ำแข็ง
‘อะไรกัน…บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนทำไมถึงกดดันขนาดนี้หรือว่า!? …คุโระจะเป็นยอดนักปรุงอาหาร!’ ยาเอะมองด้วยสายตาที่ชื่นชม
“เอ่อ…จาก…จากพี่เมย์” แลบลิ้น
‘ไม่ต้องแบ๊วเลย!…อีกอย่าง เมย์ไม่เคยใส่น้ำแข็ง!’
เคียน่ามองคุโระที่ตักคำแรกเข้าปากแล้วภาวนาว่าอย่าให้เกิดเรื่อง ซึ่งเป็นไปตามที่เคียน่าคาดไว้จริงๆ คุโระกินด้วยใบหน้าปกติของเขา ไม่มีอาการเผ็ดหรือเปรี้ยวเลย เหมือนกับว่าฝีมือของตัวเองพัฒนาขึ้น
“เป็นไงบ้าง” เคียน่าถามอย่างตื่นเต้น
“อ…อร่อย!”
“งั้นข้าน้อยขอฝากด้วย…ข้าน้อยมีธุระด่วน” ยาเอะลุกขึ้นและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่เป็นไร..ถ้างั้น คุโระทานให้หมดนะ!”
‘เชี่ย!’
…
ยาเอะเดินมาที่ด้านหลังกระท่อม จิ้งจอกสีดำจึงโผล่ขึ้นมาและพูดข้างๆ หูว่า “ยาเอะ ฆ่ามันซะ ไม่งั้นมันจะฆ่าเจ้า…คาเรนตายไปแล้วเมื่อ 500 ปีก่อน เธอไม่มีชีวิตอยู่แล้ว”
“แกมีแค่ข้าเท่านั้น…พวกเราคือหนึ่งเดียวกัน”
ยาเอะเหลือบมองเคียน่าที่หัวเราะอย่างมีความสุข “คาเรน…ข้าควรจะทำยังไง”
.........................................................
ปีใหม่พัก+ปั่นงาน+สอบ
ความคิดเห็น