ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อาจารย์สีหน้าตายด้านในโลกฮงไก

    ลำดับตอนที่ #12 : คลาสธรรรมดา

    • อัปเดตล่าสุด 30 ธ.ค. 65


    ต้องรู้ว่าคุโระเป็นคนขี้กลัวและมีความกังวลมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าโลกเก่าหรือโลกใหม่ หรือแม้แต่ตอนเจออันตราย ความคิดแรกสุดที่เข้ามาในหัวคือ การหนี ไม่อยากสู้ ใครก็ได้ช่วยด้วย

    ด้วยการที่เป็นคนพิเศษ ทำให้เขามีดวงที่ดีกว่าใครๆ อย่างเช่น คุณไม่รู้ว่าจะมีการโจมตีมาทางไหน แต่คุณก็สามารถหลบมันได้อย่างง่ายดายโดยไม่รู้ตัว

    ดวงดีย่อมมีดวงไม่ดี นั่นคือ เขาจะดึงดูดอันตรายเข้ามา

    ฮิเมโกะถือดาบไม้ขนาดใหญ่มองคุโระที่ยืนอยู่เฉยๆ เธอได้ยินเสียง ตุบตับๆ มาทั่วทิศทาง ไม่สามารถบอกได้ว่าคืออะไร ทว่าผู้ชายตรงหน้ากลับให้ความรู้สึกอันตรายถึงแม้เขาจะถือดาบไม้ก็ตาม

    ในฐานะวัลคิวเรียระดับ A เธอมีประสบการณ์ต่อสู้มากว่านักเรียนรองลงมาจากเทเรซ่า แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกถึงความตายอีกครั้ง จากอาจารย์สังคมอย่างคุโระ พูดง่ายๆ ว่ามันเป็นแรงกดดัน

    ไม่ว่าจะตอนไหนๆ เขาก็มีสีหน้าที่ไร้อารมณ์ ดวงตาหม่นหมองสีดำ ไม่สามารถบอกได้ว่าเขากลัว ประหม่า หรือมั่นใจ แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ เหงื่อค่อยๆ ไหลออกมาเต็มใบหน้าฮิเมโกะจากสัญชาตญาณ

    ‘อะไร!? …นี่ฉันกลัวงั้นหรอ มันก็แค่การฝึกซ้อมเองนะ…มันก็แค่อาจารย์ธรรมดาที่ดีแต่ภายนอก’ ฮิเมโกะหายใจถี่ขึ้นพร้อมมือตัวเองที่โชกไปด้วยเหงื่อ

    ฮิเมโกะกัดฟัน กระโดดขึ้นกลางอากาศฟาดดาบยักษ์ลงมาอย่างไม่ลังเลดัง ตู้ม! มันเฉียดใบหน้าคุโระไปเพียงนิดเดียว ก่อนที่เขาจะรู้ตัวคมดาบก็เฉือนเข้ามา

    ด้วยการไม่มีทักษะดาบใดๆ ทำให้คุโระฟันตามสัญชาตญาณ ด้วยความบังเอิญดาบไม้ของคุโระสามารถเปลี่ยนวิถีดาบของฮิเมโกะและกดลงกับพื้นทันที

    ‘หือ? …ฝีมือไม่เลว’ ฮิเมโกะชื่นชมก่อนจะฟาดดาบอีกครั้ง

    บล็อก บล็อก บล็อก

    ‘อะไร!? เราทำอะไรไม่ได้เลย…ผู้ชายคนนี้จัดการฮงไกจักรพรรดิจริงหรือเนี่ย!?’

    ดาบของฮิเมโกะถูกป้องกันได้อย่างง่ายดาย ถ้ามองดูดีๆ คุณจะเห็นว่าคุโระไม่ได้บล็อกแต่เป็นการเบี่ยงเบนวิถีดาบโดยไม่รู้ตัว ด้วยการแพรี่เพียงเล็กน้อย

    ‘ฉันทำอะไรไม่ได้เลย!…หรือว่าฉันยังไม่คู่ควรงั้นหรอ!?’ ฮิเมโกะกัดฟันและกระโดดถอยออกมา

    ถ้าฮิเมโกะไม่สามารถทำอะไรคุโระได้ คุโระก็ไม่สามารถทำอะไรฮิเมโกะได้เหมือนกัน เขาไม่รู้ว่าจะต้องฟันยังไงถึงจะโดน เพราะมีความกังวลและกลัว มันจึงเป็นต้นเหตุให้คุโระเก่งในเรื่องป้องกันและหลบหลีกเป็นพิเศษ

    นักเรียนทุกคนมองการต่อสู้ของอาจารย์ทั้งสองด้วยความตื่นเต้น ดูเหมือนว่าอาจารย์ที่ชื่อว่าคุโระก็มีฝีมือดาบพอตัวสามารถเบี่ยงเบนวิถีดาบของอาจารย์ฮิเมโกะด้วยการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย

    และฟุตเวิกที่ทิ้งภาพติดตา (ขาสั่นด้วยความเร็วสูง) ในตอนแรกก็ไม่เชื่อว่าอาจารย์คนนี้จะจัดการฮงไกได้จริง ทว่าคราวนี้พวกเธอพยักหน้าเชื่ออย่างเต็มใจ

    ‘คุโระ…คุณจะไม่โจมตีอาจารย์ฮิเมโกะเพราะไม่อยากทำให้เธอเสียหน้าสินะ…คุณเป็นคนดีมากๆ เลยค่ะ’ เมย์ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย และมีความคิดว่าอยากให้เขาสอนวิชาดาบ

    ‘ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากให้เขาสอนวิชาดาบ…ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าต้องปฏิเสธ’

    เมย์ถอนหายใจเบาๆ และตั้งสมาธิจดจำการเคลื่อนไหวของคุโระ เท่าที่ดู คุโระขยับร่างกายเพียงเล็กน้อยไม่มีการเคลื่อนไหวที่สูญเปล่าทั้งสิ้น คงเรียกได้ว่าการแพรี่ที่สมบูรณ์แบบ

    ‘มันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว?…ฉันทำอะไรผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลยแถมแรงกดดันนี่อีก!….’ ฮิเมโกะหายใจถี่ขึ้น ภาพตรงหน้าเริ่มเบลอ เธอถูกเขาบล็อกได้หมดทุกการโจมตี และร่างกายตอนนี้ก็ถึงขีดจำกัดแล้วด้วย

    ถ้าแพ้ต่อหน้านักเรียนมีหวังสร้างความอับอายแน่ ฮิเมโกะจึงสู้จนกว่าเธอจะชนะ

    “พอแค่นี้ดีกว่า…มันก็แค่การซ้อมไม่ใช่การต่อสู้จริงๆ”

    ‘เมื่อไหร่!?’ ฮิเมโกะสะดุ้ง ที่จู่ๆ คุโระก็โผล่มาอยู่ด้านหน้าโดยไม่รู้ตัว เหงื่อโชกเต็มหลัง ร่างกายสั่นด้วยความกลัว ถ้าเป็นการต่อสู้จริง เธอคงตายไปนานแล้ว

    “ สีหน้าดูซีดๆ” คุโระเพียงแค่เดินเข้ามาตรงๆ และถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าฮิเมโกะยืนอยู่เฉยๆ มานานแล้ว

    ฮิเมโกะถอนหายใจอย่างโลกอกและปัดเหงื่อ “นั่นสินะ ฮ่าฮ่า นี่เป็นแค่การฝึกซ้อม”

    ‘ถ้าสู้กันไปเรื่อยๆ คงรู้ผลแพ้ชนะ… ถ้าเราแพ้มีหวังได้อับอายแน่…ช่างเป็นผู้ชายที่สนใจความรู้สึกของผู้อื่นจริงๆ’

    ‘จบเถอะ! ไม่ไหวแล้วนะ! เหนื่อยจะตายแล้ว!’ คุโระกรีดร้องในใจพร้อมกับขาทั้งสองข้างที่สั่นระริก

    “เอาละการฝึกซ้อมกับอาจารย์ก็มีเท่านี้ ใครที่อยากขอคำแนะนำอะไรก็มาถามอาจารย์หรืออาจารย์คุโระก็ได้”

    ทันใดนั้นนักเรียนหญิงต่างกรูกันเข้ามาหาคุโระ เขาอดไม่ได้ที่จะมองด้วยสายตาที่ตกตะลึง ทุกคนล้วนเป็นนักเรียนหญิงที่รูปร่างดีและเต็มไปด้วยความอ่อนเยาว์ 

    “อาจารย์ ทำยังไงหรอคะถึงเคลื่อนไหวแบบนั้นได้?”

    “ช่วยสอนหนูหน่อยสิ”

    “หนูอยากได้คำแนะนำเพิ่ม”

    คุโระมองหญิงสาวที่คุ้นเคย ผมสีม่วงยาวเดินฝ่าวงล้อมเข้ามา เมย์เดินตรงเข้ามาคุโระอย่างกล้าหาญ มองเขาด้วยสายตาจริงจัง และพูดว่า “อาจารย์คุโระช่วยประลองดาบกับหนูด้วยค่ะ!”

    ‘เอ่อ…ตอนนี้ฉันเหนื่อย ถ้าปฏิเสธเธอคงเสียใจแน่ๆ …ช่วยไม่ได้…ถึงจะสอนอะไรไม่ได้ก็เถอะ’

    “ก็ได้ แต่แค่ครั้งเดียวนะ”

    ‘เอ๊ะ? เมื่อกี้ฉันได้ยินผิดไปรึเปล่า? เขาตอบตกลงงั้นหรอ? แสดงว่าฉันก็มีค่าพอในสายตาคุโระ!’

    เมย์พยักหน้าอย่างพึงพอใจและหยิบดาบของตัวเองเดินไปที่กลางสนามหญ้ากับคุโระ โดยไม่สนสายตาของนักเรียนคนอื่นๆ ที่จ้องมอง

    “ไรเดน เมย์ ได้โปรดชี้แนะด้วย” เมย์โค้งคำนับตามขนบธรรมเนียมญี่ปุ่น

    “คุโระ ชิบิโตะ โปรดชี้แนะด้วย”

    เมย์พุ่งเข้ามาคุโระอย่างรวดเร็วโดยใช้วิชาดาบประจำตระกูลของตัวเอง เธอหลอกล่อคุโระและโจมตีจากด้านซ้ายอย่างรวดเร็ว ทว่าเธอต้องตกตะลึง เพราะคุโระสามารถแพรี่ได้อย่างง่ายดายจนดาบเกือบจะหลุดมือ

    ‘สุดยอด…เขาสามารถป้องกันได้ง่ายๆ เลย…และแรงกดันนี่…คุณไม่ออมมือเลยสินะ…ถ้าอย่างงั้นหนูก็ขอเอาจริงบ้าง!’

    ‘จะฆ่ากันรึไง!? ฟันมาแบบนั้นมีหวังซี่โครงหักแน่!’ คุโระกรีดร้องในใจ

    ดูเหมือนว่าเมย์จะจริงจังเป็นพิเศษจนทำเอาเสียวสันหลังวูบ และไม่กี่วินาทีต่อมา การเคลื่อนไหวของเมย์เริ่มเร็วขึ้น แรงขึ้น จนคุโระมองไม่ทัน เขาทำได้แต่หลบ เบี่ยงเบนได้บางจังหวะเท่านั้น

    “คนนั้นชื่อว่าเมย์สินะ สูสีกับอาจารย์คุโระเลย”

    “ถ้าเป็นฉัน ไม่ถึงหนึ่งวินาทีก็แพ้แล้ว”

    “แต่เมย์ก็เก่งจริงนะ เธออาจเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในชั้นของเราก็ได้”

    เสียงกรีดร้องและความชื่นชมของเพื่อนร่วมชั้นดังออกมาอย่างต่อเนื่อง ทว่าเมย์ก็ไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้เธอกำลังต่อสู้กับปรมาจารย์ดาบ (ปลอม) อย่างจริงจัง

    บล็อก บล็อก บล็อก

    สามสิบนาที ต่อมา

    “เอาละหมดเวลาเรียนแล้ว!”

    สิ้นเสียงของฮิเมโกะ เมย์หยุดการต่อสู้ เหงื่อโชกเต็มหลัง ตั้งแต่เริ่มต่อสู้เธอไม่สามารถโจมตีคุโระได้แม้แต่น้อย และคุโระก็เช่นกัน ถือว่าเป็นประสบการณ์ต่อสู้ที่หาไม่ได้อีกแล้ว ทุกๆ การแพรี่ของเขาทำให้เมย์รู้ข้อด้อยของตัวเอง

    ‘สมกับเป็นคุโระ…ฉันยังห่างไกลอยู่มาก…ฉันยังไม่มีค่าพอให้เขาโจมตีสินะ…สักวันหนึ่งฉันต้องให้คุณชักดาบออกมาให้ได้’ เมย์โค้งคำนับก่อนจะเดินจากไป

    ‘เฮ้อ…จบสักที…30 นาที เหมือนสามสิบปี…ถอนวิชาต่อสู้ได้ไหม!? …เด็กบ้าอะไร จะฆ่ากันรึไง?’

    “ว่าไง? เป็นไงกับการเป็นอาจารย์วันแรก?”

    “ก็ไม่ได้แย่…เด็กพวกนี้มีศักยภาพที่จะเติบโต”

    ฮิเมโกะหัวเราะคิกคัก เท่าที่ดูการสอนมา คุโระมีฝีมือดาบพอตัวสามารถให้คำชี้แนะผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด ถือว่าเขามีความเป็นครูอยู่ในตัวพอสมควร

    “ดึกๆ ไปดื่มกันไหม?”

    “เอาสิ…แต่อย่าเมาก่อนละ”

    “คิดว่าฉันเป็นใครกันฮะ?” ฮิเมโกะโบกมือลา

    ต่อไปเป็นคาบสอนวิชาสังคมจิตวิทยา คุโระจึงเดินเข้ามาในตัวของโรงเรียนและถูกสายตาของนักเรียนหญิงจ้องมองเหมือนกับสัตว์หายาก มันก็ไม่แปลกหรอกที่จะไม่มีใครรู้จักเขา

    “ใคร?”

    “เขาคือนักเรียนแลกเปลี่ยนหรอ?”

    “อาจจะเป็นอาจารย์ใหม่ก็ได้ แต่เขาดูเหมือนอายุเท่ากับพวกเราเลย”

    การคาดเดาทุกประเภทเกิดขึ้นในใจของทุกคน ในขณะนั้น เด็กหญิงคนหนึ่งเดินไปหาคุโระอย่างกล้าหาญ และหยุดตรงหน้าเขาด้วยรอยยิ้ม

    “สวัสดี” เธอกล่าวอย่างสุภาพ

    ทันใดนั้นนักเรียนหญิงที่อยู่ใกล้ๆ ต่างมองดูและอยากรู้ว่าเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ที่กล้าทักทายคนแปลกหน้าที่ดูท่าทางอันตรายจะพูดอะไรบ้าง

    “ฉันขอถามได้ไหม คุณกำลังมองหาใครหรือต้องการความช่วยเหลือไหม?”

    คุโระตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นี่อาจจะเป็นนักเรียนหญิงที่กระตือรือร้นในตำนานหรือไม่? เขาส่ายหัวและตอบด้วยรอยยิ้ม ทว่ามันกลับทำให้เธอต้องถอยหลังไปก้าวหนึ่งด้วยดาบคาตานะ

    “ไม่ ฉันไม่ได้มาหาใคร”

    หญิงสาวตกตะลึง “เอ๊ะ? …แล้วคุณมาส่งของรึเปล่า?”

    คุโระส่ายหัว “ฉันเป็นอาจารย์”

    คุโระชี้ไปที่กองเอกสารในมือ เอกสารฉบับนี้คือข้อสอบล่าสุดที่เขาเตรียมมาสำหรับการ Pre-test นักเรียนในชั้น

    “นั่นสินะ…เดี๋ยวนะ!? คุณบอกว่าคุณเป็นอาจารย์หรอ?”

    “อืม…ถ้าตามปกติ”

    “แฮะๆ หนูนึกว่าเป็นคนโรคจิต จะได้แจ้งตำรวจ” หญิงสาวเกาแก้มอย่างเขินอายไม่กล้าสบตาคุโระ ไม่ว่าจะดูยังไงก็เหมือนโจรในคาบหนุ่มรูปงาม สัญชาตญาณของเธอบอกแบบนั้น

    “ว่าไงนะ?”

    ‘ลองพูดอีกทีดิ ปรับ 0 แน่!’

    “เปล่าคะ แฮะๆ”

    “ปีนี้คุณ อายุเท่าไหร่?”

    “25”

    หญิงสาวยืนอึ้งเหมือนกับว่าเธอได้ยินผิดไปรึเปล่า มันคือ 25 ไม่ใช่ 18หรือ19 หน้าตาดูเหมือนนักเรียนเท่ากับเธอ แต่ที่ต่างออกไปคือ ใบหน้าของเขาไร้อารมณ์และให้ความรู้สึกกดดัน 

    จู่ๆ ก็มีแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยจากนาฬิกาบนข้อมือ “โทษที ฉันต้องรีบไปสอน ถ้ามีเวลาค่อยคุยกันใหม่”

    เมื่อมาถึงห้องเรียนก็ต้องพบกับเด็กทั้งสามคนที่คุ้นเคย เมย์ โบรเนียและเคียน่า แต่ทันทีที่ทุกคนเห็นกองเอกสารในมือต้องตกตะลึงไปตามๆ กัน จะสอบเลยหรอ พึ่งคาบแรกเอง

    คุโระเขียนชื่อตัวเองบนกระดานดำตัวใหญ่ๆ คุโระ ชิบิโตะ อาจารย์ประจำวิชาสังคมจิตวิทยา

    แต่เมื่อเขาหันหน้ามา ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะมองด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าของเขาไร้ซึ่งการแสดงอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น และดวงตาที่เหมือนจะขย้ำเหยื่อได้ทุกเมื่อ แถมยังพกดาบคาตานะสีดำติดตัวมาด้วย

    “ฉันเป็นคนสบายๆ ไม่มีอะไรมาก สอบ Pre-test เสร็จก็ปล่อยเลย”

    “อาจารย์ จะให้ทำแค่นี้จริงๆ หรอ?”

    “ไม่สอนอะไรพวกหนูหน่อยหรอ?”

    “ก็สอนนี่ไง ความรู้ไม่ได้ถูกจำกัดในห้องเรียน ไปเรียนรู้ด้วยตัว…อย่าคิดมาก ได้เกรด 4 ทุกคน ถ้าส่งงานหรือสอบสัมภาษณ์รายบุคคล”

    เมย์ค่อนข้างประหลาดใจที่คุโระเริ่มบอกแต่ละใบงานล่วงหน้า กำหนดส่งคือปลายภาค ให้จัดสรรเวลาทำกันเอง ว่างเมื่อไหร่ค่อยทำ ไม่ส่งไม่มีคะแนน

    ‘แปลก…แต่ก็สมกับเป็นเขา…ให้พวกเราหาเวลาทำกันเองหรือว่า!…เขากำลังทดสอบฉันอย่างงั้นหรอ!?’ เมย์คิดในใจ

    เมย์ทุบหัวเคียน่าและเริ่มส่งข้อสอบให้

    เคียน่าที่เห็นกระดาษสีขาวในมือถึงกับกลืนน้ำลายและมองซ้ายทีขวาที เธอไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับวิชานี้ ทั้งสมองเต็มไปด้วยความว่าเปล่า แต่เมื่อรู้ว่าเป็น Pre-test เคียน่าจึงเลือกกามั่วๆ แล้วนอนต่อ

    ‘เคียน่าจัง…หัดเคารพอาจารย์ซะบ้าง’

    ‘ไอ้โง่เคียน่า…รู้ว่าไม่ใช่สอบจริงยังจะมาทำเล่นๆ อีก’

    ครึ่งชั่วโมงต่อมา การสอบก็สิ้นสุดลง หลังจากคุโระเก็บเอกสารแล้วก็เดินออกจากห้องก็ปล่อยให้เด็กๆเรียนรู้ด้วยตัวเอง

    ช่วงดึก บริเวณโต๊ะม้านั่ง

    “มาดื่มกันดีกว่า คุโระ มันนี้ต้องเต็มที่ ฮ่าฮ่า” ฮิเมโกะหน้าแดงในขณะที่ดื่มเบียร์หมดกระป๋อง

    ที่ดื่มจริงๆ มีแค่สองคน คุโระกับฮิเมโกะ ก็ไม่รู้ว่าทำไมฮิเมโกะถึงออกมาจากบ้านได้โดยที่เมย์ไม่สังเกตเห็น แต่ก็เข้าใจได้ว่าเบียร์คือความสุข

    คุโระก็ไม่ได้รังเกียจผู้หญิงกินเบียร์ เธอมีความพิเศษเป็นของตนเองอย่างเช่นฮิเมโกะ พอเมาแล้ว ก็พูดเรื่องของตัวเองออกมาหมดเปลือก

    “ดื่มเยอะจะไม่ไหวเอานะครับ…”

    “อย่าคิดมากน่า วันนี้ต้องเอาให้สุด!” ฮิเมโกะหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ เสื้อผ้าของเธอไม่เป็นระเบียบเหมือนตอนกลางวัน ราวกับว่าเป็นคนละคน

    คุโระเหลือบมองร่องอกเล็กน้อย มันใหญ่มากจริงๆ และตอนนี้ก็เห็นเสื้อในสีแดงจางๆ มันก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจและมองไปทางอื่น

    ‘แต่งตัวให้ดีๆ หน่อย หัดเคารพกันซะบ้าง ถ้าอยู่กับผู้ชายคนอื่นป่านนี้โดนฉุดไปแล้ว!’

    คุโระจัดระเบียบเสื้อผ้าของฮิเมโกะใหม่ ทำให้เธอดูเหมือนกุลสตรีมากยิ่งขึ้น

    “คุณอายุ 25 สินะ…อึก! ฉันอายุ 27 ยังไม่มีแฟนเลย~…ทำไมกัน! ทำไมถึงไม่มีผู้ชายมาจีบฉันเลย!”

    ฮิเมโกะร้องไห้คร่ำครวญและกอดคอคุโระ จนเขาได้กลิ่นเบียร์และกลิ่นหอมๆ จากร่างกายฮิเมโกะ คุโระได้แต่กัดฟันและผลักฮิเมโกะออกไป ตอนนี้เธอเมาไร้สติ ไม่รู้จะทำอะไรบ้าง

    “ทำไม…เราไม่มาคบกัน…บางทีคุณกับฉัน…อาจจะเข้ากันก็ได้~”

    ‘เห้ยๆ มันจะมีผู้หญิงคนไหนพูดแบบนี้กับผู้ชายที่เจอกันครั้งแรกวะ!’

    “ไม่ได้ เราเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน อย่าเอาคำว่า คบ มาพูดง่ายๆ สิครับ มันต้องพูดกับคนที่รักไม่ใช่หรอ?”

    ฮิเมโกะบ่นเกี่ยวกับตัวเองโดยไม่สนใจสิ่งที่คุโระพูด จากนั้นไม่นานใบหน้าของเธอก็แดงก่ำและฟุบลงกับโต๊ะ คุโระได้ยินเสียงกรนของฮิเมโกะเบาๆ

    'ไหนบอกไม่เมา...'

    คุโระดื่มอีกแก้ว จู่ๆ ภาพตรงหน้าก็เริ่มเบลอ รู้สึกว่าเริ่มเมาแล้ว ด้วยความเป็นผู้ชายคุโระจึงกัดฟันและพยายามแบกฮิเมโกะกลับหอ

    “หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น-” คำพูดต้องถูกขัดจังหวะด้วยภาพตรงหน้าที่เริ่มกลายเป็นสีดำ

    จะได้กลับหอไหม?

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×