คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : คลาสธรรรมดา
ต้องรู้ว่าคุโระเป็นคนขี้กลัวและมีความกังวลมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าโลกเก่าหรือโลกใหม่ หรือแม้แต่ตอนเจออันตราย ความคิดแรกสุดที่เข้ามาในหัวคือ การหนี ไม่อยากสู้ ใครก็ได้ช่วยด้วย
ด้วยการที่เป็นคนพิเศษ ทำให้เขามีดวงที่ดีกว่าใครๆ อย่างเช่น คุณไม่รู้ว่าจะมีการโจมตีมาทางไหน แต่คุณก็สามารถหลบมันได้อย่างง่ายดายโดยไม่รู้ตัว
ดวงดีย่อมมีดวงไม่ดี นั่นคือ เขาจะดึงดูดอันตรายเข้ามา
ฮิเมโกะถือดาบไม้ขนาดใหญ่มองคุโระที่ยืนอยู่เฉยๆ เธอได้ยินเสียง ตุบตับๆ มาทั่วทิศทาง ไม่สามารถบอกได้ว่าคืออะไร ทว่าผู้ชายตรงหน้ากลับให้ความรู้สึกอันตรายถึงแม้เขาจะถือดาบไม้ก็ตาม
ในฐานะวัลคิวเรียระดับ A เธอมีประสบการณ์ต่อสู้มากว่านักเรียนรองลงมาจากเทเรซ่า แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกถึงความตายอีกครั้ง จากอาจารย์สังคมอย่างคุโระ พูดง่ายๆ ว่ามันเป็นแรงกดดัน
ไม่ว่าจะตอนไหนๆ เขาก็มีสีหน้าที่ไร้อารมณ์ ดวงตาหม่นหมองสีดำ ไม่สามารถบอกได้ว่าเขากลัว ประหม่า หรือมั่นใจ แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ เหงื่อค่อยๆ ไหลออกมาเต็มใบหน้าฮิเมโกะจากสัญชาตญาณ
‘อะไร!? …นี่ฉันกลัวงั้นหรอ มันก็แค่การฝึกซ้อมเองนะ…มันก็แค่อาจารย์ธรรมดาที่ดีแต่ภายนอก’ ฮิเมโกะหายใจถี่ขึ้นพร้อมมือตัวเองที่โชกไปด้วยเหงื่อ
ฮิเมโกะกัดฟัน กระโดดขึ้นกลางอากาศฟาดดาบยักษ์ลงมาอย่างไม่ลังเลดัง ตู้ม! มันเฉียดใบหน้าคุโระไปเพียงนิดเดียว ก่อนที่เขาจะรู้ตัวคมดาบก็เฉือนเข้ามา
ด้วยการไม่มีทักษะดาบใดๆ ทำให้คุโระฟันตามสัญชาตญาณ ด้วยความบังเอิญดาบไม้ของคุโระสามารถเปลี่ยนวิถีดาบของฮิเมโกะและกดลงกับพื้นทันที
‘หือ? …ฝีมือไม่เลว’ ฮิเมโกะชื่นชมก่อนจะฟาดดาบอีกครั้ง
บล็อก บล็อก บล็อก
‘อะไร!? เราทำอะไรไม่ได้เลย…ผู้ชายคนนี้จัดการฮงไกจักรพรรดิจริงหรือเนี่ย!?’
ดาบของฮิเมโกะถูกป้องกันได้อย่างง่ายดาย ถ้ามองดูดีๆ คุณจะเห็นว่าคุโระไม่ได้บล็อกแต่เป็นการเบี่ยงเบนวิถีดาบโดยไม่รู้ตัว ด้วยการแพรี่เพียงเล็กน้อย
‘ฉันทำอะไรไม่ได้เลย!…หรือว่าฉันยังไม่คู่ควรงั้นหรอ!?’ ฮิเมโกะกัดฟันและกระโดดถอยออกมา
ถ้าฮิเมโกะไม่สามารถทำอะไรคุโระได้ คุโระก็ไม่สามารถทำอะไรฮิเมโกะได้เหมือนกัน เขาไม่รู้ว่าจะต้องฟันยังไงถึงจะโดน เพราะมีความกังวลและกลัว มันจึงเป็นต้นเหตุให้คุโระเก่งในเรื่องป้องกันและหลบหลีกเป็นพิเศษ
นักเรียนทุกคนมองการต่อสู้ของอาจารย์ทั้งสองด้วยความตื่นเต้น ดูเหมือนว่าอาจารย์ที่ชื่อว่าคุโระก็มีฝีมือดาบพอตัวสามารถเบี่ยงเบนวิถีดาบของอาจารย์ฮิเมโกะด้วยการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย
และฟุตเวิกที่ทิ้งภาพติดตา (ขาสั่นด้วยความเร็วสูง) ในตอนแรกก็ไม่เชื่อว่าอาจารย์คนนี้จะจัดการฮงไกได้จริง ทว่าคราวนี้พวกเธอพยักหน้าเชื่ออย่างเต็มใจ
‘คุโระ…คุณจะไม่โจมตีอาจารย์ฮิเมโกะเพราะไม่อยากทำให้เธอเสียหน้าสินะ…คุณเป็นคนดีมากๆ เลยค่ะ’ เมย์ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย และมีความคิดว่าอยากให้เขาสอนวิชาดาบ
‘ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากให้เขาสอนวิชาดาบ…ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าต้องปฏิเสธ’
เมย์ถอนหายใจเบาๆ และตั้งสมาธิจดจำการเคลื่อนไหวของคุโระ เท่าที่ดู คุโระขยับร่างกายเพียงเล็กน้อยไม่มีการเคลื่อนไหวที่สูญเปล่าทั้งสิ้น คงเรียกได้ว่าการแพรี่ที่สมบูรณ์แบบ
‘มันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว?…ฉันทำอะไรผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลยแถมแรงกดดันนี่อีก!….’ ฮิเมโกะหายใจถี่ขึ้น ภาพตรงหน้าเริ่มเบลอ เธอถูกเขาบล็อกได้หมดทุกการโจมตี และร่างกายตอนนี้ก็ถึงขีดจำกัดแล้วด้วย
ถ้าแพ้ต่อหน้านักเรียนมีหวังสร้างความอับอายแน่ ฮิเมโกะจึงสู้จนกว่าเธอจะชนะ
“พอแค่นี้ดีกว่า…มันก็แค่การซ้อมไม่ใช่การต่อสู้จริงๆ”
‘เมื่อไหร่!?’ ฮิเมโกะสะดุ้ง ที่จู่ๆ คุโระก็โผล่มาอยู่ด้านหน้าโดยไม่รู้ตัว เหงื่อโชกเต็มหลัง ร่างกายสั่นด้วยความกลัว ถ้าเป็นการต่อสู้จริง เธอคงตายไปนานแล้ว
“ สีหน้าดูซีดๆ” คุโระเพียงแค่เดินเข้ามาตรงๆ และถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าฮิเมโกะยืนอยู่เฉยๆ มานานแล้ว
ฮิเมโกะถอนหายใจอย่างโลกอกและปัดเหงื่อ “นั่นสินะ ฮ่าฮ่า นี่เป็นแค่การฝึกซ้อม”
‘ถ้าสู้กันไปเรื่อยๆ คงรู้ผลแพ้ชนะ… ถ้าเราแพ้มีหวังได้อับอายแน่…ช่างเป็นผู้ชายที่สนใจความรู้สึกของผู้อื่นจริงๆ’
‘จบเถอะ! ไม่ไหวแล้วนะ! เหนื่อยจะตายแล้ว!’ คุโระกรีดร้องในใจพร้อมกับขาทั้งสองข้างที่สั่นระริก
“เอาละการฝึกซ้อมกับอาจารย์ก็มีเท่านี้ ใครที่อยากขอคำแนะนำอะไรก็มาถามอาจารย์หรืออาจารย์คุโระก็ได้”
ทันใดนั้นนักเรียนหญิงต่างกรูกันเข้ามาหาคุโระ เขาอดไม่ได้ที่จะมองด้วยสายตาที่ตกตะลึง ทุกคนล้วนเป็นนักเรียนหญิงที่รูปร่างดีและเต็มไปด้วยความอ่อนเยาว์
“อาจารย์ ทำยังไงหรอคะถึงเคลื่อนไหวแบบนั้นได้?”
“ช่วยสอนหนูหน่อยสิ”
“หนูอยากได้คำแนะนำเพิ่ม”
คุโระมองหญิงสาวที่คุ้นเคย ผมสีม่วงยาวเดินฝ่าวงล้อมเข้ามา เมย์เดินตรงเข้ามาคุโระอย่างกล้าหาญ มองเขาด้วยสายตาจริงจัง และพูดว่า “อาจารย์คุโระช่วยประลองดาบกับหนูด้วยค่ะ!”
‘เอ่อ…ตอนนี้ฉันเหนื่อย ถ้าปฏิเสธเธอคงเสียใจแน่ๆ …ช่วยไม่ได้…ถึงจะสอนอะไรไม่ได้ก็เถอะ’
“ก็ได้ แต่แค่ครั้งเดียวนะ”
‘เอ๊ะ? เมื่อกี้ฉันได้ยินผิดไปรึเปล่า? เขาตอบตกลงงั้นหรอ? แสดงว่าฉันก็มีค่าพอในสายตาคุโระ!’
เมย์พยักหน้าอย่างพึงพอใจและหยิบดาบของตัวเองเดินไปที่กลางสนามหญ้ากับคุโระ โดยไม่สนสายตาของนักเรียนคนอื่นๆ ที่จ้องมอง
“ไรเดน เมย์ ได้โปรดชี้แนะด้วย” เมย์โค้งคำนับตามขนบธรรมเนียมญี่ปุ่น
“คุโระ ชิบิโตะ โปรดชี้แนะด้วย”
เมย์พุ่งเข้ามาคุโระอย่างรวดเร็วโดยใช้วิชาดาบประจำตระกูลของตัวเอง เธอหลอกล่อคุโระและโจมตีจากด้านซ้ายอย่างรวดเร็ว ทว่าเธอต้องตกตะลึง เพราะคุโระสามารถแพรี่ได้อย่างง่ายดายจนดาบเกือบจะหลุดมือ
‘สุดยอด…เขาสามารถป้องกันได้ง่ายๆ เลย…และแรงกดันนี่…คุณไม่ออมมือเลยสินะ…ถ้าอย่างงั้นหนูก็ขอเอาจริงบ้าง!’
‘จะฆ่ากันรึไง!? ฟันมาแบบนั้นมีหวังซี่โครงหักแน่!’ คุโระกรีดร้องในใจ
ดูเหมือนว่าเมย์จะจริงจังเป็นพิเศษจนทำเอาเสียวสันหลังวูบ และไม่กี่วินาทีต่อมา การเคลื่อนไหวของเมย์เริ่มเร็วขึ้น แรงขึ้น จนคุโระมองไม่ทัน เขาทำได้แต่หลบ เบี่ยงเบนได้บางจังหวะเท่านั้น
“คนนั้นชื่อว่าเมย์สินะ สูสีกับอาจารย์คุโระเลย”
“ถ้าเป็นฉัน ไม่ถึงหนึ่งวินาทีก็แพ้แล้ว”
“แต่เมย์ก็เก่งจริงนะ เธออาจเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในชั้นของเราก็ได้”
เสียงกรีดร้องและความชื่นชมของเพื่อนร่วมชั้นดังออกมาอย่างต่อเนื่อง ทว่าเมย์ก็ไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้เธอกำลังต่อสู้กับปรมาจารย์ดาบ (ปลอม) อย่างจริงจัง
บล็อก บล็อก บล็อก
สามสิบนาที ต่อมา
“เอาละหมดเวลาเรียนแล้ว!”
สิ้นเสียงของฮิเมโกะ เมย์หยุดการต่อสู้ เหงื่อโชกเต็มหลัง ตั้งแต่เริ่มต่อสู้เธอไม่สามารถโจมตีคุโระได้แม้แต่น้อย และคุโระก็เช่นกัน ถือว่าเป็นประสบการณ์ต่อสู้ที่หาไม่ได้อีกแล้ว ทุกๆ การแพรี่ของเขาทำให้เมย์รู้ข้อด้อยของตัวเอง
‘สมกับเป็นคุโระ…ฉันยังห่างไกลอยู่มาก…ฉันยังไม่มีค่าพอให้เขาโจมตีสินะ…สักวันหนึ่งฉันต้องให้คุณชักดาบออกมาให้ได้’ เมย์โค้งคำนับก่อนจะเดินจากไป
‘เฮ้อ…จบสักที…30 นาที เหมือนสามสิบปี…ถอนวิชาต่อสู้ได้ไหม!? …เด็กบ้าอะไร จะฆ่ากันรึไง?’
“ว่าไง? เป็นไงกับการเป็นอาจารย์วันแรก?”
“ก็ไม่ได้แย่…เด็กพวกนี้มีศักยภาพที่จะเติบโต”
ฮิเมโกะหัวเราะคิกคัก เท่าที่ดูการสอนมา คุโระมีฝีมือดาบพอตัวสามารถให้คำชี้แนะผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด ถือว่าเขามีความเป็นครูอยู่ในตัวพอสมควร
“ดึกๆ ไปดื่มกันไหม?”
“เอาสิ…แต่อย่าเมาก่อนละ”
“คิดว่าฉันเป็นใครกันฮะ?” ฮิเมโกะโบกมือลา
ต่อไปเป็นคาบสอนวิชาสังคมจิตวิทยา คุโระจึงเดินเข้ามาในตัวของโรงเรียนและถูกสายตาของนักเรียนหญิงจ้องมองเหมือนกับสัตว์หายาก มันก็ไม่แปลกหรอกที่จะไม่มีใครรู้จักเขา
“ใคร?”
“เขาคือนักเรียนแลกเปลี่ยนหรอ?”
“อาจจะเป็นอาจารย์ใหม่ก็ได้ แต่เขาดูเหมือนอายุเท่ากับพวกเราเลย”
การคาดเดาทุกประเภทเกิดขึ้นในใจของทุกคน ในขณะนั้น เด็กหญิงคนหนึ่งเดินไปหาคุโระอย่างกล้าหาญ และหยุดตรงหน้าเขาด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดี” เธอกล่าวอย่างสุภาพ
ทันใดนั้นนักเรียนหญิงที่อยู่ใกล้ๆ ต่างมองดูและอยากรู้ว่าเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ที่กล้าทักทายคนแปลกหน้าที่ดูท่าทางอันตรายจะพูดอะไรบ้าง
“ฉันขอถามได้ไหม คุณกำลังมองหาใครหรือต้องการความช่วยเหลือไหม?”
คุโระตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นี่อาจจะเป็นนักเรียนหญิงที่กระตือรือร้นในตำนานหรือไม่? เขาส่ายหัวและตอบด้วยรอยยิ้ม ทว่ามันกลับทำให้เธอต้องถอยหลังไปก้าวหนึ่งด้วยดาบคาตานะ
“ไม่ ฉันไม่ได้มาหาใคร”
หญิงสาวตกตะลึง “เอ๊ะ? …แล้วคุณมาส่งของรึเปล่า?”
คุโระส่ายหัว “ฉันเป็นอาจารย์”
คุโระชี้ไปที่กองเอกสารในมือ เอกสารฉบับนี้คือข้อสอบล่าสุดที่เขาเตรียมมาสำหรับการ Pre-test นักเรียนในชั้น
“นั่นสินะ…เดี๋ยวนะ!? คุณบอกว่าคุณเป็นอาจารย์หรอ?”
“อืม…ถ้าตามปกติ”
“แฮะๆ หนูนึกว่าเป็นคนโรคจิต จะได้แจ้งตำรวจ” หญิงสาวเกาแก้มอย่างเขินอายไม่กล้าสบตาคุโระ ไม่ว่าจะดูยังไงก็เหมือนโจรในคาบหนุ่มรูปงาม สัญชาตญาณของเธอบอกแบบนั้น
“ว่าไงนะ?”
‘ลองพูดอีกทีดิ ปรับ 0 แน่!’
“เปล่าคะ แฮะๆ”
“ปีนี้คุณ อายุเท่าไหร่?”
“25”
หญิงสาวยืนอึ้งเหมือนกับว่าเธอได้ยินผิดไปรึเปล่า มันคือ 25 ไม่ใช่ 18หรือ19 หน้าตาดูเหมือนนักเรียนเท่ากับเธอ แต่ที่ต่างออกไปคือ ใบหน้าของเขาไร้อารมณ์และให้ความรู้สึกกดดัน
จู่ๆ ก็มีแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยจากนาฬิกาบนข้อมือ “โทษที ฉันต้องรีบไปสอน ถ้ามีเวลาค่อยคุยกันใหม่”
เมื่อมาถึงห้องเรียนก็ต้องพบกับเด็กทั้งสามคนที่คุ้นเคย เมย์ โบรเนียและเคียน่า แต่ทันทีที่ทุกคนเห็นกองเอกสารในมือต้องตกตะลึงไปตามๆ กัน จะสอบเลยหรอ พึ่งคาบแรกเอง
คุโระเขียนชื่อตัวเองบนกระดานดำตัวใหญ่ๆ คุโระ ชิบิโตะ อาจารย์ประจำวิชาสังคมจิตวิทยา
แต่เมื่อเขาหันหน้ามา ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะมองด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าของเขาไร้ซึ่งการแสดงอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น และดวงตาที่เหมือนจะขย้ำเหยื่อได้ทุกเมื่อ แถมยังพกดาบคาตานะสีดำติดตัวมาด้วย
“ฉันเป็นคนสบายๆ ไม่มีอะไรมาก สอบ Pre-test เสร็จก็ปล่อยเลย”
“อาจารย์ จะให้ทำแค่นี้จริงๆ หรอ?”
“ไม่สอนอะไรพวกหนูหน่อยหรอ?”
“ก็สอนนี่ไง ความรู้ไม่ได้ถูกจำกัดในห้องเรียน ไปเรียนรู้ด้วยตัว…อย่าคิดมาก ได้เกรด 4 ทุกคน ถ้าส่งงานหรือสอบสัมภาษณ์รายบุคคล”
เมย์ค่อนข้างประหลาดใจที่คุโระเริ่มบอกแต่ละใบงานล่วงหน้า กำหนดส่งคือปลายภาค ให้จัดสรรเวลาทำกันเอง ว่างเมื่อไหร่ค่อยทำ ไม่ส่งไม่มีคะแนน
‘แปลก…แต่ก็สมกับเป็นเขา…ให้พวกเราหาเวลาทำกันเองหรือว่า!…เขากำลังทดสอบฉันอย่างงั้นหรอ!?’ เมย์คิดในใจ
เมย์ทุบหัวเคียน่าและเริ่มส่งข้อสอบให้
เคียน่าที่เห็นกระดาษสีขาวในมือถึงกับกลืนน้ำลายและมองซ้ายทีขวาที เธอไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับวิชานี้ ทั้งสมองเต็มไปด้วยความว่าเปล่า แต่เมื่อรู้ว่าเป็น Pre-test เคียน่าจึงเลือกกามั่วๆ แล้วนอนต่อ
‘เคียน่าจัง…หัดเคารพอาจารย์ซะบ้าง’
‘ไอ้โง่เคียน่า…รู้ว่าไม่ใช่สอบจริงยังจะมาทำเล่นๆ อีก’
ครึ่งชั่วโมงต่อมา การสอบก็สิ้นสุดลง หลังจากคุโระเก็บเอกสารแล้วก็เดินออกจากห้องก็ปล่อยให้เด็กๆเรียนรู้ด้วยตัวเอง
…
ช่วงดึก บริเวณโต๊ะม้านั่ง
“มาดื่มกันดีกว่า คุโระ มันนี้ต้องเต็มที่ ฮ่าฮ่า” ฮิเมโกะหน้าแดงในขณะที่ดื่มเบียร์หมดกระป๋อง
ที่ดื่มจริงๆ มีแค่สองคน คุโระกับฮิเมโกะ ก็ไม่รู้ว่าทำไมฮิเมโกะถึงออกมาจากบ้านได้โดยที่เมย์ไม่สังเกตเห็น แต่ก็เข้าใจได้ว่าเบียร์คือความสุข
คุโระก็ไม่ได้รังเกียจผู้หญิงกินเบียร์ เธอมีความพิเศษเป็นของตนเองอย่างเช่นฮิเมโกะ พอเมาแล้ว ก็พูดเรื่องของตัวเองออกมาหมดเปลือก
“ดื่มเยอะจะไม่ไหวเอานะครับ…”
“อย่าคิดมากน่า วันนี้ต้องเอาให้สุด!” ฮิเมโกะหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ เสื้อผ้าของเธอไม่เป็นระเบียบเหมือนตอนกลางวัน ราวกับว่าเป็นคนละคน
คุโระเหลือบมองร่องอกเล็กน้อย มันใหญ่มากจริงๆ และตอนนี้ก็เห็นเสื้อในสีแดงจางๆ มันก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจและมองไปทางอื่น
‘แต่งตัวให้ดีๆ หน่อย หัดเคารพกันซะบ้าง ถ้าอยู่กับผู้ชายคนอื่นป่านนี้โดนฉุดไปแล้ว!’
คุโระจัดระเบียบเสื้อผ้าของฮิเมโกะใหม่ ทำให้เธอดูเหมือนกุลสตรีมากยิ่งขึ้น
“คุณอายุ 25 สินะ…อึก! ฉันอายุ 27 ยังไม่มีแฟนเลย~…ทำไมกัน! ทำไมถึงไม่มีผู้ชายมาจีบฉันเลย!”
ฮิเมโกะร้องไห้คร่ำครวญและกอดคอคุโระ จนเขาได้กลิ่นเบียร์และกลิ่นหอมๆ จากร่างกายฮิเมโกะ คุโระได้แต่กัดฟันและผลักฮิเมโกะออกไป ตอนนี้เธอเมาไร้สติ ไม่รู้จะทำอะไรบ้าง
“ทำไม…เราไม่มาคบกัน…บางทีคุณกับฉัน…อาจจะเข้ากันก็ได้~”
‘เห้ยๆ มันจะมีผู้หญิงคนไหนพูดแบบนี้กับผู้ชายที่เจอกันครั้งแรกวะ!’
“ไม่ได้ เราเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน อย่าเอาคำว่า คบ มาพูดง่ายๆ สิครับ มันต้องพูดกับคนที่รักไม่ใช่หรอ?”
ฮิเมโกะบ่นเกี่ยวกับตัวเองโดยไม่สนใจสิ่งที่คุโระพูด จากนั้นไม่นานใบหน้าของเธอก็แดงก่ำและฟุบลงกับโต๊ะ คุโระได้ยินเสียงกรนของฮิเมโกะเบาๆ
'ไหนบอกไม่เมา...'
คุโระดื่มอีกแก้ว จู่ๆ ภาพตรงหน้าก็เริ่มเบลอ รู้สึกว่าเริ่มเมาแล้ว ด้วยความเป็นผู้ชายคุโระจึงกัดฟันและพยายามแบกฮิเมโกะกลับหอ
“หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น-” คำพูดต้องถูกขัดจังหวะด้วยภาพตรงหน้าที่เริ่มกลายเป็นสีดำ
จะได้กลับหอไหม?
ความคิดเห็น