ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SNSD] : Love Generation : Dream (PG-15) [Yuri]

    ลำดับตอนที่ #9 : + + Chapter 6 + + [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 54


    ยูริอา !!!!”
    เจสสิก้าที่ตะโกนขึ้นด้วยความตกใจทำให้ยูริหักพวงมาลัยหลบสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว
    เอี๊ยดดดดดดดด !!!!!!!
    รถยนต์ที่พุ่งออกมาตัดหน้าสร้างความตกใจให้กับทั้งคู่ไม่น้อย โดยเฉพาะกับเจสสิก้า ยูริหักพวงมาลัยหลบอย่างรวดเร็วจนทำให้สามารถรอดพ้นจากอุบัติเหตุได้อย่างฉิวเฉียด แรงเหวี่ยงจากการหักพวงมาลัยอย่างกระทันหันทำให้รถของเธอเสียการควบคุมไปชั่วครู่ รอยล้อลากกับพื้นถนนเป็นทางยาว
    เอี๊ยดดดดดดด !!!!!!!
    Pagani ของมาร์เชลยังคงไล่บี้ตามขึ้นมา เธอชะลอความเร็วและเหยียบเบรกครั้งหนึ่ง อาศัยความเร็วที่ลดลงแทรกผ่านระหว่างช่องว่าระหว่างตัวรถที่วิ่งสวนกันไปได้อย่างเหนือชั้นและทันทีที่พ้นออกมา เธอก็เหยียบคันเร่งไล่บี้เป้าหมายของเธอต่อทันที
    บรืนนนน !!!
    เอี๊ยดดดดด เอี๊ยดดดดดดด !!!
    มาร์เชลหักพวงมาลัยตัดเข้าถนนอีกเลนหนึ่ง เธอสามารถขับหลบรถที่วิ่งสวนกลับมาได้อย่างไม่น่าเชื่อเลย ราวกับว่า คนๆ นี้ไม่รู้จักคำว่ากลัวตาย เลยทีเดียว
    ปิ๊นนนๆๆ !!!
    ฟ้าวววว !!!
    ยูริอา ! ด้านหน้าตัน !!”
    เจสสิก้าตะโกนบอกคนรักของเธออีกครั้ง ยูริจึงลดความเร็วลงและอาศัยการโอเวอร์สเตียร์เข้าโค้ง
    เอี๊ยดดดดด !!
    ครืดดดดดดดดดดด !!!!
    รถที่สไลด์ผ่านโค้งไปได้อย่างสวยงามสามารถดึงดูดสายตาของหลายต่อหลายคนได้เป็นอย่างดี เธอตบเกียร์ขึ้นและเหยียบคันเร่งต่ออีกครั้ง สายตายังคงมองเส้นทางด้านหน้าสลับกับกระจกหลังเป็นระยะๆ เช่นเดียวกับเจสสิก้า ที่เธอต้องคอยมองดูต้นทางไปด้วย
    “…”
    ยัยนั่นหายไปไหนแล้ว... ?”
    ยูริถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ตึงเครียดพอสมควร สายตาของเธอยังคงจับจ้องอยู่ที่เส้นทางด้านหน้าในขณะที่เจสสิก้ากำลังหันซ้ายมองขวาเพื่อหาศัตรูคันดังกล่าว แต่มันกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย...
     
    บรืนนนนนน !!!
    เสียงรถที่ดังใกล้เข้ามาราวกับกำลังขู่คำราม ทำให้ยูริเพ่งสายตามองไปยังจุดๆ นั้น ก่อนที่รถ Pagani ของมาร์เชลจะโผล่ตัดหน้าออกมาจากสี่แยกที่อยู่ด้านหน้า
    หากเธอเหยียบต่อก็จะตรงเข้าเสียบรถของมาร์เชลที่กลางลำอย่างพอดิบพอดี
    มาร์เชลที่เหมือนกับรู้ว่ายูริกำลังจะทำอะไร เธอกะจังหวะช่วงที่ยูริขับเข้ามาใกล้และตัดสินใจดึงเบรคมือขึ้นพร้อมกับหักพวงมาลัยหลบอย่างรวดเร็ว ภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำให้เจสสิก้าหลับตาปี๋อีกครั้งด้วยความหวาดกลัว เพราะรถทั้งสองกำลังจะปะทะกัน
    เอี๊ยดดดดดดดดด !!!!!
    แรงเหวี่ยงของท้ายรถที่ปัดออกในลักษณะของครึ่งวงกลมทำให้สามารถรอดมาจากการปะทะกันได้อย่างฉิวเฉียด
    ภาพสโลว์โมชั่นเกิดขึ้นอีกครั้งขณะที่รถของพวกเธอกำลังผ่านกันไปอย่างช้าๆ
    ระยะห่างของทั้งคู่นั้น เพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น...
    ครืดดดดดดดด !!!!
    รอยยางที่ลากยาวในลักษณะการดริฟท์ครึ่งวงกลมหยุดลงทันที เมื่อรถของยูริขับผ่านไป ภาพทั้งหมดจึงกลับมาเร็วเหมือนเดิมอีกครั้ง เมื่อมาร์เชลขึ้นเกียร์และเหยียบคันเร่ง
    บรืนน บรืนนนนนนนน !!!!
    เอี๊ยดดดดดดด !!!!
    ล้อที่หมุนฟรีก่อนที่จะออกตัวทำให้เกิดกลุ่มควันสีขาวขึ้นรอบตัวรถราวกับเป็นการอำพรางตัว เสียงเครื่องยนต์ที่กำลังขู่คำรามดุดันและน่ากลัวมากขึ้น ราวกับพญาราชสีห์กำลังโกรธและพร้อมที่จะพุ่งขย้ำคอของอีกฝ่ายได้ทุกเมื่อ ก่อนที่รถ Pagani Zonda คันนี้จะพุ่งทะยานออกจากม่านควันที่ตัวเองสร้างไว้อย่างรวดเร็ว
    ฟ้าววววว !!!
    เธอหนีชั้นไม่พ้นหรอกน่า ควอนยูริ !!”
    มาร์เชลที่ไล่บี้ขึ้นมาอย่างรวดเร็วทำให้ยูริต้องเหยียบคันเร่งของเธอให้มากขึ้นกว่าเดิม ในระดับความเร็ว 100+ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะบังคับรถวิ่งหลบไปหลบมา นอกจากจะฝีมือดีแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ... ดวง
    บรีนนนนนน !!!
    ทันทีที่ยูริดริฟท์ผ่านโค้ง มาร์เชลก็ทำการดริฟท์ตามเธอไปทันที
    เอี๊ยดดดดดด !!!
    .
    .
    .
     
    ปิ๊นนนๆๆๆๆ !!!!!
    รถของยูริที่สามารถดริฟท์ผ่านไปได้อย่างฉิวเฉียด แต่กลับมาร์เชลนั้นคงจะยาก แต่ก็ใช่ว่ามันจะเกินความสามารถของเธอ มาร์เชลหักพวงมาลัยกลับไปยังอีกด้านหนึ่งทำให้ทิศทางการดริฟท์นั้นเปลี่ยนไป
    เอี๊ยดดดดดด !!!!
    รถที่ปัดมาทางซ้ายของเธอขูดเข้ากับรถคันที่สวนกลับมาจนเป็นรอยยาว สปอยเลอร์ที่ยื่นออกไปกระแทกเข้ากับกระจกข้างของรถคันนั้นจนหัก และตกลงพื้นทำให้ล้อหลังที่วิ่งอยู่บี้มันจะแหลกละเอียด เมื่อผ่านมาจากรถคันนั้นได้ มาเชลจึงเหยียบคันเร่งต่อและหักพวงมาลัยหลบรถคันที่พุ่งเข้าใส่เธออย่างรวดเร็ว
    บรืนนนนนน !!!
    ยูริอา ! ยัยนั่นตามมาแล้วนะ !!”
    เจสสิก้าตะโกนบอกคนรักด้วยความตกใจ
    ชั้นเห็นแล้วสิก้า !”
    เธอตอบกลับและประคองพวงมาลัยให้แน่นยิ่งขึ้น เม็ดเหงื่อที่เปียกชุ่มที่มือของเธอทำให้เจสสิก้ารู้ถึงระดับความตึงเครียดในสถานการณ์นี้ มาร์เชลยังคงไล่บี้ขึ้นมาและพยายามจะเบียดรถคันหรูของยูริเข้ากับข้างทาง
    กึงงงง !!!!
    แรงกระแทกดังกล่าวทำให้รถของเธอเซเล็กน้อย แต่โชคดีที่ด้านหน้านั้นมีรถวิ่งอยู่จึงทำให้มาร์เชลต้องหักพวงมาลัยออก รถบัสที่วิ่งขวางอยู่ทำให้ยูริตัดสินใจดริฟท์กลับรถโดยอาศัยรถบัสคันนี้บังเอาไว้ มาร์เชลที่ไม่รู้พยายามเร่งเครื่องของเธอขึ้นไปจนแซงรถบัสคันนั้น แต่สิ่งที่พบอยู่อีกเลนหนึ่ง กลับไม่มีรถของยูริ...
    ยัยนั่นมันไปไหน... แล้ว !?
    พลันสายตาที่เหลือบหันไปมองทางกระจกหลังจึงทำให้เธอได้เห็นกับ Lamborghini คู่แข่งวิ่งกลับไปอีกทางหนึ่ง
    “Shit !!”
    เธอสบถออกมาอย่างโกรธแค้น ก่อนที่เธอจะหักพวงมาลัยดริฟท์กลับรถทันที
    เอี๊ยดดดดดดดดด !!!!!
    ปิ๊นนน !!!!!!
    รถคันที่วิ่งตามมาด้านหลังเหยียบเบรกจนมิดด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าอยู่ๆ รถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าจะกลับรถบ้าระห่ำแบบนี้ ด้วยความตกใจเขาจึงหักพวงมาลัยหลบทันที
    กึงงงง !!!
    รถที่เสียหลักจนพลิกคว่ำนั้นกระแทกกับพื้นด้านหน้าก่อนที่มันจะกระดอนควงสว่านข้ามรถสุดหรูอย่าง Pagani ของมาร์เชลไปราวกับเป็นภาพสโลว์โมชั่น และกระแทกกับเสาไฟฟ้าจนเกิดการระเบิดขึ้น
    ตูมมมมมมม !!!!
    และทันทีที่พ้นมาได้...
    รถของยูริก็หายไปจากสายตาของเธอแล้ว
    กึงงงง !!!!
    เธอทุบมือกับกระจกข้างอย่างโกรธแค้นพร้อมกับสบถออกมาอีกครั้ง
    บัดซบ !!”
    แต่ก็ใช่ว่าเธอจะยอมรามือ มาร์เชลเหยียบคันเร่งของเธออีกครั้ง ก่อนที่รถของเธอจะพุ่งทยานออกจากกลุ่มควันสีขาวอย่างรวดเร็ว และพยายามตามรถของยูริไป แม้ว่าเธอจะไม่เห็นแล้วก็ตาม...
     
    เราพ้นแล้วล่ะมั๊ง... ?”
    เจสสิก้าพูดขึ้นลอยๆ อย่างไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรนัก เหมือนกับจะหลุดพ้นจากฝันร้าย...
    แต่เปล่าเลย... เพราะฝันร้ายที่ว่า มันกำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ต่างหากล่ะ
    โครมมมมมม !!!!
    อยู่ๆ รถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าซึ่งไม่ไกลเท่าไรก็ถูกชนกระเด็นอย่างไม่ทราบสาเหตุจนกีดขวางการจราจรของถนนอีกเลนหนึ่ง ยูริตัดสินใจเหยียบเบรกทันทีด้วยความตกใจ จนกระทั่งเห็นรถบรรทุกที่เสียหลักพลิกคว่ำออกมาด้วยความรวดเร็ว
    ครืดดดดดดด !!!!!
    รถที่ตามมาพุ่งเฉียดท้ายรถของยูริไปเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น ก่อนที่จะกระแทกกับใต้ท้องรถอย่างรุนแรง
    โครมมมม !!!
    เอี๊ยดดดดดดดดด !!!!!
    ยูริอาศัยแรงเหวี่ยงที่เกิดจากการหักพวงมาลัยเลี้ยวขณะเหยียบเบรก ท้ายรถที่ปัดไปเฉียดกับรถบรรทุกคันนั้นพ้นออกมาเพียงไม่กี่นิ้ว เรียกมาได้ว่ารอดมาอย่างหวุดหวิดเลยทีเดียว เธอเหยียบคันเร่งพยายามขับออกมาให้พ้นจากบริเวณดังกล่าว แต่สิ่งที่แย่ไปกว่านั้นที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็คือรถน้ำมันที่กำลังวิ่งพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง
    และรถของพวกเธอที่อยู่เบื้องหน้าของรถคันนั้นอย่างพอดิบพอดี...
    ความตกใจที่แทบจะทำให้สิ้นสติ เมื่อรถบรรทุกน้ำมันคันนั้นหักพวงมาลัยหลบไปด้านซ้าย แต่แรงเหวี่ยงอันมหาศาลก็ทำให้ตัวล็อคที่เชื่อมเอาไว้หลุดออกจากกัน
    ส่วนที่เป็นถังบรรจุน้ำมันจึงพลิกคว่ำและกระเด็นมาทางรถของยูริ
    กรี๊ดดดดดดด !!!!!!”
    เจสสิก้ากรีดร้องลั่นด้วยความตกใจและหลับตาก้มหัวลงตามสัญชาตญาณ
    .
    .
    .
    โครมมมม !!!!!
    ทันทีที่ส่วนของถึงที่บรรจุน้ำมันกระแทกอัดเข้ากับรถบรรทุกสินค้าที่พลิกคว่ำ แรงระเบิดอันมหาศาลก็เกิดขึ้นตามมาทันที เปลวไฟที่ลุกพรึ่บขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ชีวิตหลายชีวิตต้องจากไปอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
    บ้างก็กำลังยืนต่อแถวรอจ่ายเงินในร้านสะดวกซื้อ...
    บ้างก็เดินสวนกันไปมาตามท้องถนน...
    บ้างก็กำลังนั่งมองวิวทิวทัศน์เพลินๆ...
    หารู้ไม่เลยว่าสิ่งที่พวกเขาได้ทำเหมือนกับเป็นกิจวัตรประจำวัน
    .
    .
    .
    จะเป็นสิ่งที่เขาได้เห็น และได้ทำเป็นครั้งสุดท้าย... ก่อนที่เปลวไฟที่แผดเผาราวกับมาจากนรกโลกันต์ทำให้หลายต่อหลายคนต้องกรีดร้องออกมาอย่างทุกข์ทรมาน
    เจสสิก้าที่ลืมตาขึ้นมามองภาพที่เกิดขึ้นอย่างหวาดกลัวพร้อมกับงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
    ทำไมเธอถึงยังรอดอยู่ตรงนี้... ?
    ทั้งๆ ที่...
    เธอมองไปด้านหลังและเห็นร่างที่กำลังถูกไฟนรกแผดเผาจนไหม้เกรียม เด็กตัวเล็กที่กำลังร้องไห้อย่างเจ็บปวดและวิ่งไปมาเพราะกำลังถูกเผาทั้งเป็น... ร่างนั้นค่อยๆ ทรุดลงกับพื้นและแน่นิ่งไปในที่สุด
    ก่อนที่เธอจะนึกขึ้นได้อย่างหนึ่ง...
    ยูริ ?
    เธอหันมามองดูคนรักอ่างช้าๆ น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาจนอาบแก้ม เมื่อสภาพของยูรินั้นถูกเศษเหล็กที่แทงทะลุประตูเข้ามาทิ่มเข้าที่สีข้าง เลือดสีแดงสดจำนวนไม่น้อยค่อยๆ ไหลทะลักออกมาจนย้อมสีเสื้อให้แปรเปลี่ยนเป็นสีเลือดดูน่ากลัว
    มันจะกลับไปเหมือนกับฝันร้ายครั้งนั้นอีกแล้วยังงั้นเหรอ... ?
    ไม่เอานะ... ชั้นไม่อยากจะเสียเธอไปอีกแล้ว...
    ชั้นไม่เอาด้วย
    ชั้นไม่เอานะยูริอา !!! เธอต้องไม่เป็นอะไรสิ เธอต้องไม่เป็นอะไร !!! โฮๆๆ

    ---------------------------------------------

    แกร๊กก !!
    อยู่ๆ ประตูรถที่ถูกเปิดขึ้นทำให้เจสสิก้าตกใจไม่น้อย และยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อพบว่าคนที่เปิดนั้น คือมาร์เชล...
    เจสสิก้าโอบกอดร่างของยูริเอาไว้จนแน่น แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่ายังไง เธอก็จะไม่ยอมปล่อยมือจากคนรักของเธอเด็ดขาด มาร์เชลมองการกระทำดังกล่าวของเจสสิก้าสักพัก ก่อนที่จะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
    เธอขับรถคันนี้ได้รึเปล่า ?”
    “…”
    สาวร่างบางยังคงสะอื้นและกอดร่างของยูริไม่ปล่อย
    ชั้นถามว่าเธอขับรถคันนี้ได้รึเปล่ายังไงล่ะ !?”
    เธอตะคอกกลับอย่างเหลืออด ถ้าเป็นไปได้ เธออยากจะกระชากร่างของผู้หญิงคนนี้ออกมาแล้วจัดการให้รู้แล้วรู้รอด เธอกำหมัดแน่นและพยายามสะกดอารมณ์ของตนเองเอาไว้
    เธอขับได้ หรือไม่ได้ ?”
    เจสสิก้ายังคงไม่ตอบ เธอได้แต่พยักหน้าด้วยความกลัวเท่านั้น
    ดี... งั้นเธอก็ขับตามชั้นมาก็แล้วกัน ถ้ายังไม่อยากให้ยัยนี่ตาย
    พูดจบมาร์เชลก็เดินมายังอีกฝั่งหนึ่ง สายตามองดูเศษเหล็กที่แทงทะลุเข้ามา อาจจะเพราะโครงสร้างที่ค่อนข้างแข็งแรงของตัวรถ ทำให้มันแทงเข้าไปไม่ลึกมากนัก เธอหยิบเอาปืนพกออกมาและจ่อยิงไปที่เหล็กแท่งนั้น และกดลั่นไกทันที
    ปังงง ปังงงง ปังงงงงง !!!
    กระสุนที่ถูกยิงทะลุติดๆ กันจนเป็นรู สามารถทำให้ความแข็งแรงของเหล็กนั้นลดลงได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนที่เธอจะก้มลงไปและยิงจ่อตรงรอยเชื่อมสุดท้ายนั้น
    ปังงงง !!!
    ทันทีที่เหล็กนั้นแยกออกจากกัน เธอก็ลุกขึ้นมามองดูอาการของยูริสักพัก เมื่อไม่มีอะไรน่าห่วงมาก นอกเสียจากเธอกำลังจะขาดเลือด เธอจึงต้องรีบกลับไปยังรถของตนและสตาร์ทเครื่องอีกครั้ง
    บรืนนนนน !!!
    เอี๊ยดดดดด !!!!
    เธอดริฟท์กลับรถพร้อมกับมองทางกระจกหลังมายังรถของยูริ เจสสิก้าที่พยายามเคลื่อนย้ายร่างของยูริมายังอีกฝั่ง เธอพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะทำให้เบามือที่สุดและนั่งลงสตาร์ทเครื่องอีกครั้ง
    บรืนนนนน !!
    ทันทีที่ไฟรถสว่างขึ้น มาร์เชลก็พุ่งทยานออกมาจากบริเวณนั้นทันที โดยมีเจสสิก้าขับตามเธอมา แม้จะไม่รู้เหตุผล และยังคงไม่ไว้ใจเท่าไร แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก เพราะเธอเองก็ไม่อยากจะให้ยูริต้องตายไปต่อหน้าต่อตา เสียงไซเรนของตำรวจดังขึ้นมาจากด้านหน้าและวิ่งสวนรถของพวกเธอไป เจสสิก้าขับตามมาร์เชลไปและเหลือบหันมามองทางยูริคนรัก น้ำตาแห่งความเจ็บปวดยังคงไหลรินออกมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
     
    วางลงบนเตียงนั่นแหล่ะ... เบาๆ ด้วยล่ะ
    มาร์เชลสั่งเจสสิก้าและหันกลับไปเตรียมอุปกรณ์ของเธอต่อ เจสสิก้าค่อยๆ วางร่างของยูริลงบนเตียงอย่างเบามือ เธอมองดูใบหน้าของคนรักที่สลบไม่ได้สติอย่างเป็นกังวล ก่อนที่จะหันมามองมาร์เชลที่หันหลังให้ด้วยความระแวง
    เธอจะทำอะไรกันแน่ พอร์ตแมน ?”
    เคร้ง !
    เธอวางมีดเล่มเล็กๆ ลงบนถามเหล็กก่อนที่จะหยิบเอาถุงมือมาสวมและตอบคำถามของเจสสิก้า
    จะทำอะไรงั้นรึ...
    เธอค้างไว้และหันกลับมาพร้อมกับถาดอุปกรณ์
    ก็ช่วยชีวิตยัยนี่น่ะสิ... เอ้า ! ถอยไปได้แล้ว !”
    เธอตวาดเจสสิก้าอีกครั้ง ก่อนที่จะวางถามอุปกรณ์ลงข้างๆ โดยมีเจสสิก้ามองตามอย่างไม่เข้าใจ
    เธอ... เธอจ้องจะฆ่าพวกเราอยู่ไม่... ไม่ใช่รึไง !!”
    เธอชะงักเข็มที่กำลังจะฉีดมอร์ฟีนระงับปวดให้กับยูริ และหันกลับมามองเจสสิก้าด้วยหางตาและพูดขึ้นอีกครั้ง
    อาจจะใช่...
    เธอตอบกลับเบาๆ และลงมือฉีดมอร์ฟีนให้กับยูริ และรอดูอาการสักพัก
    แล้วเธอจะช่วยพวกเราทำไมกัน ถ้าเธอแค้นนัก ทำไมไม่ฆ่าพวกเราไปเลยล่ะ !!”
    พิ้งงงง !!!
    ใบมีดที่ถูกขว้างออกเฉียดคอของเจสสิก้าไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สายตาของมาร์เชลที่จดจ้องมายังเธอไม่ต่างอะไรกับยูริตอนที่เป็นมือสังหารเลย... มันเย็นยะเยือก และดูน่ากลัวทีเดียว
    “…”
    เจสสิก้าได้แต่กลืนน้ำลายและยืนค้างอยู่กับที่ด้วยความหวาดกลัวเท่านั้น
    นี่...
    มาร์เชลทักขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับหันมองมาทางเจสสิก้าที่ยืนแข็งอยู่อย่างนั้น
    ไปเก็บมีดที่ปักอยู่นั่นมาที...
    ...
    ไปเก็บมาเซ่ ! อยากให้ยัยนี่มันตายรึไง !!”

    ------------------------------------------

    การรักษายังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ บรรยากาศเงียบๆ ในตอนนี้ทำให้รู้สึกตึงเครียดพิกล เจสสิก้ามองดูมาร์เชลอยู่ห่างๆ รักษาระยะปลอดภัยเอาไว้ เพราะสัญชาตญาณของเธอมันบ่งบอกให้ระวังผู้หญิงสุดอันตรายคนนี้เอาไว้
    แล้วทำไมเธอถึงช่วยพวกเราล่ะ... ?”
    มาร์เชลชะงักไปสักพัก ก่อนที่จะใช้คีมที่ถืออยู่ค่อยๆ ดึงเอาแท่งเหล็กนี้ออก
    พรวดดด !!
    ยัยบ้า ! เธอว่างๆ มาช่วยชั้นตรงนี้มา !”
    มาร์เชลตะโกนเรียก พร้อมกับพยายามเอาผ้าที่เตรียมไว้ห้ามเลือด เจสสิก้าที่เดินเข้ามาอย่างกล้าๆ กลัวๆ อยู่ๆ ก็ถูกให้ทำหน้าที่ห้ามเลือดแทน
    อย่าเพิ่งปล่อยมือล่ะ...
    ไม่ตอบอะไร เจสสิก้าได้แต่กดผ้าเอาไว้อย่างนั้นเท่านั้น
    .
    .
    .
    เธอไม่ได้แค้นพวกชั้นแล้วหรือไง ?”
    เจสสิก้าถามขึ้นอีกครั้งทำเอามาร์เชลชะงักมือไปสักพัก เธอวางอุปกรณ์ในมือลงในถาด พร้อมกับหันไปเปลี่ยนเป็นเข็มขึ้นมา เธอกันกลับมาหายูริอีกครั้งและเริ่มลงมือเย็บที่ปากแผลนั้น
    และเธอก็ยังคงไม่ตอบของเจสสิก้าอยู่ดี
    ชั้นถามว่า…”
    พอ…”
    เธอตอบกลับและเงยหน้าขึ้นมามองเจสสิก้าอีกครั้ง
    ก็ก็ได้ ถ้าเธอไม่อยากตอบ…”
    “…”
    มาร์เชลเงียบและลงมือเย็บแผลของยูริต่อ
    ในที่สุดการช่วยเหลือยูริก็เป็นอันเสร็จสิ้น มาร์เชลเดินถือถาดอุปกรณ์หายกลับออกไปจากห้อง ปล่อยให้เจสสิก้าได้อยู่กันตามลำพังกับยูริ เธอมองดูใบหน้าของคนรักความรู้สึกดีใจและโล่งอกทำให้เธออดที่จะสะอื้นเสียมิได้
    ดีจริงๆ ที่เธอปลอดภัย
    ดีจริงๆ
    เจสสิก้านึกในใจอย่างเงียบๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปกุมมือของยูริเอาไว้ และนำมาทาบที่แก้มของเธอ
    เธอต้องปลอดภัยนะยูริ
    เธอต้องปลอดภัย

    -------------------------------------

    ในที่สุดก็ครบ 100% สักที อาจจะเห็นว่า 10% ที่เหลือทำไมมันช่างน้อยนัก

    มันก็น้อยจริงๆ อะนะ 555+ เพราะเมื่อคืนนี้มันตัน+ง่วงจริงๆ(หวังว่าคงจะไม่โกรธกันนะ

    ครับ) ^^

    ปล. อ่านแล้วช่วยคอมเมนท์เป็นกำลังใจกันได้ล่ะ หลังๆ รับรองว่า หนุกหนานกว่านี้แน่ๆ

    อะ อาจจะมีงงไปบ้าง เพราะตัวเองก็งงเหมืนกันแหล่ะ 555+
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×