ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : + + Chapter 4 + + [100%]
ซู่มมมม !!!
.
.
.
ความหวาดเสียวจากความสูงที่ตกลงมาก่อนที่ร่างจะกระแทกกับผืนน้ำเบื้องล่างทำให้เจสสิก้ารู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง เธอหันมองไปยังรอบๆ ตัวและพบว่าชายคนหนึ่งกำลังใช้ปืนเล็งมายังยูริจากดาดฟ้าของตึกข้างๆ เมื่อเห็นดังนั้น เธอจึงตรงเข้าไปคว้าตัวของคนรักเอาไว้ และลากลงไปยังชั้นล่างอย่างรวดเร็ว
“ด
เดี๋ยวก่อน !!”
เจสสิก้าที่ไม่ยอมฟังคำโต้แย้งของอีกฝ่าย เธอยังคงเดินลงมายังชั้นล่างและกดเลื่อนแถบไฟออกอย่างรวดเร็ว พร้อมกับกดรหัสปลดล็อคอีกชั้นหนึ่ง
PASSWORD ACCESS !
“เธอเข้าไปหยิบปืนในห้องนั้นออกมาเร็วเข้า ยูริอา !”
เจสสิก้าตะโกนสั่งยูริ แต่ความเป็นจริงแล้ว เธอคือยูระไม่ใช่ยูริ
โครมมมม !!!
ประตูหน้าที่ถูกพังเข้ามาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวสร้างความตกใจให้กับพวกเธอไม่น้อย
ชายคนที่ถีบประตูเข้ามา เมื่อเห็นพวกเธอเข้าจึงหันปืนเข้าใส่ทันทีพร้อมกับกดเหนี่ยวไกอย่างไม่รีรอ
ปังง
.
ปังงง
.
.
ปังงงง
ราวกับเป็นภาพสโลว์โมชั่น ที่กระสุนค่อยๆ พุ่งเข้าใส่จนเห็นวิถีเป็นเส้นตรงวิ่งผ่านลำตัวไปกระทบเข้ากับข้าวของต่างๆ จนปลิวกระเด็น ยูระที่ตกใจสุดขีดเพราะไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนในชีวิต ทำให้เธอกรีดร้องและเอาแต่ก้มตัวต่ำด้วยความหวาดกลัว
ปังงง ปังงงง !!!
“เข้าไปหยิบปืนออกมาสิยูริอา !!!”
“กรี๊ดดดดดดดด !!!!”
“โถ่เว้ยยย !!!”
เจสสิก้าสบถออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนที่เธอจะตัดสินใจพุ่งออกไปแย่งจากชายคนที่อยู่ใกล้ๆ ตัวแทน เพราะระยะทางกว่าจะเข้าไปกดรหัสอีกชั้นและเข้าไปหยิบปืนด้านในออกมา หากเลือกที่จะออกไปแย่งจากชายคนที่อยู่ใกล้ๆ แทน แม้ว่ามันจะอันตรายกว่า แต่มันก็ใกล้กว่า
พลั่คคคค !!!
หมัดขวาถูกปล่อยเข้าใส่ใบหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้ชายคนนั้นชะงักไปชั่วครู่ เจสสิก้าอาศัยจังหวะช่วงนั้นจับที่ข้อมือและบิดแย่งปืนออกมาอย่างรวดเร็ว
“โอ๊ยยยยย !!!”
กระดูกที่บิดงอสร้างความเจ็บปวดให้แก่ชายคนนั้นจนต้องยอมปล่อยปืนออกจากมือ
ผัวะ !!!
ตามมาด้วยขาอันเรียวงามที่เตะหวดเข้าที่ช่องท้องอย่างแรง แทบจะทำให้อาหารที่เพิ่งจะกินเข้าไปพุ่งออกมาจากปากเลยทีเดียว ร่างของชายที่ล้มลงกับพื้นอย่างเจ็บปวด เจสสิก้าก็ไม่ลืมที่จะก้มลงไปเก็บปืนที่หล่นพื้นขึ้นมา เธอเล็งไปที่ชายอีกสองคนที่กำลังตรงเข้ามา
ปังงง ปังงงงงง !!!!
“อั่กกกก !!”
โครมมม !!!
ร่างนั้นล้มกระแทกพื้นทันทีที่ถูกยิง เจสสิก้าหันปืนเล็งยิงซ้ำไปที่มือของทั้งคู่ที่ยังคงถือปืนเอาไว้ไม่ปล่อยให้พวกนั้นมีโอกาสได้ยิงพวกเธอเลย
ปังง ปังงงง !!!!
เสียงปืนยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยูระก็ยังคงนั่งตัวสั่นอยู่กับที่ด้วยความหวาดกลัว เจสสิก้าที่ไม่รู้ว่านั่นคือยูระ รู้สึกหัวเสียไม่น้อยที่อยู่ๆ คนรักของเธอทำตัวงี่เง่าแบบนี้
“เธอเป็นบ้าอะไรของเธอเนี่ยยูริ !”
เจสสิก้าคว้าคอเสื้อของยูระขึ้นมากระแทกเข้ากับกำแพงทางด้านหลัง และตะคอกใส่เธออย่างหาเรื่อง
“น
หนู หนูไม่ใช่พี่ย
ยูริ”
เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ น้ำตาเริ่มไหลออกมาด้วยความหวาดกลัว
“หมายความว่าไง เธอไม่ใช่ยูริ ?”
.
.
.
“ถ้าเธอไม่ใช่ ! แล้วเธอคือใคร !!?”
กับคำตอบที่ได้รับ ทำให้เจสสิก้าถึงกับช็อคจนแน่นิ่งราวกับหัวใจของเธอนั้นหยุดเต้นไปเลยทีเดียว
‘หมายความว่าไง
เธอคือยูระ ไม่ใช่ ยูริ’
.
“ยู
ระ ?”
ยูระที่เหลือบมาเห็นชายอีกคนกำลังเล็งปืนมาทางเจสสิก้าที่กำลังช๊อค จึงตัดสินใจพุ่งออกไปผลักตัวเจสสิก้าออกจากวิถีกระสุนอย่างรวดเร็ว จนร่างของเธอกระแทกกับกำแพงเข้าอย่างจัง
ปังงงง !!!
ฉัวะ !!
ความเจ็บแปลบที่บริเวณสีข้างทำให้ยูระต้องเอามือกุมเอาไว้ เธอหันไปมองดูเจสสิก้าที่ยังทรุดอยู่กับพื้นสลับกับชายคนที่กำลังเล็งปืนมาทางตน จะหวังรอให้เจสสิก้าหันกลับมาช่วยก็กลัวจะไม่ทันการ พลันสายตาเหลือบไปเห็นปืนพกที่อยู่ไม่ไกลจากเธอเท่าไรนัก
จะลงมือเองก็
แต่เธอไม่เคยฆ่าใครมาก่อนในชีวิต เธอจะเอาความกล้าที่ไหนมายิงล่ะ
ปังง ปังงงง !!!
“ว๊ายยยยยย !!” ยูระกรีดร้องพร้อมกับใช้โต๊ะแจกันที่ล้มอยู่แถวนั้นบังตัวเอาไว้อย่างกลัวๆ
จนสุดท้ายเธอก็ต้องเลือกที่จะตรงไปคว้าปืนพกที่หล่นอยู่เอาไว้ขึ้นมา และเล็งไปทางชายคนนั้นและหลับตาลง เพราะเธอไม่กล้าที่จะดูภาพที่กำลังจะเกิดตรงหน้า ยูระพยายามจะกดลั่นไกทั้งๆ ที่มือกำลังสั่นด้วยความกลัว
ปังงง !!!
เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ยูระที่ตัวสั่นเพราะเธอเพิ่งจะเคยยิงคนตายครั้งแรกในชีวิต แต่หากดูดีๆ กระสุนที่พุ่งเข้าใส่ชายคนนั้น หาใช่มาจากกระบอกของยูระไม่
มันมาจากกระบอกที่เจสสิก้าหันมาเล็งยิงต่างหาก
เธอดันตัวเองลุกขึ้นและตรงไปลากตัวยูระออกมาจากบริเวณนั้นทันที
PASSWORD ACCESS !
เสียกลไกประตูปลดล๊อคทำงาน เจสสิก้าจึงเปิดเข้าไปและปิดลงทันที
“บ้าชิบ !”
เธอสบถออกมาอีกครั้ง และหันมาทางยูระ
“หมายความว่าไงที่พูดมา มันไม่ตลกนะยูริที่จะมาบอกว่าตัวเองเป็นยูระในสถานการณ์แบบนี้ ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนบอกว่ายูระน่ะตายไปแล้ว !!”
เด็กสาวอีกคนยังคงเอาแต่ก้มหน้าก้มตาร้องไห้เพราะความตกใจกลัว ทำเอาเจสสิก้ารู้สึกเครียดขึ้นมาอีกครั้ง เพราะหากเป็นยูริจริง สภาพของเธอคงไม่ตกต่ำลงมาถึงขนาดนี้ และเธอคงไม่แกล้งทำเป็นเด็กไร้เดียงสาอย่างในตอนนี้ด้วย
“บ้าเอ๊ย !!”
.
.
.
เจสสิก้าเดินตรงเข้ามายังด้านในและเปิดตู้ล็อคเกอร์ออก อาวุธปืนจำนวนมากที่ถูกเก็บเอาไว้ในนั้นทำให้เจสสิก้าเลือกเอามาใช้ไม่หมดเลยทีเดียว เธอคว้าเอาปืนพกกระบอกหนึ่งออกมา ปืนพก
ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกใช้คู่กับปืนคู่กายของยูริ
แกร๊กก !
เธอขึ้นลำพร้อมกับตรวจดูแม๊กกาซีนที่บรรจุกระสุน ก่อนที่จะใส่กลับเข้าไปอีกครั้ง
เจสสิก้าเหลือบหันมามองดูหญิงสาวที่อ้างตัวว่าชื่อ ‘ยูระ’ อีกครั้ง และเพิ่งสังเกตเห็นรอยกระสุนที่ถากข้างลำตัวไป ทำให้เลือดสีแดงสดนั้นไหลซึมออกมา
เธอเดินเข้าไปหาหญิงสาวคนนั้นและเหน็บปืนพกเอาไว้ข้างตัว
“ขอดูแผลหน่อย
”
ทันทีที่แตะถูกตัว ยูระก็สะดุ้งและถอยกรูดจนติดกับกำแพงทันที สายตาที่จ้องมองเจสสิก้ายังคงเต็มไปด้วยความระแวง และความหวาดกลัวไม่เปลี่ยน จนเจสสิก้ารู้สึกปวดกะโหลกกับเด็กสาวตรงหน้ามากยิ่งขึ้น
“เลิกกลัวได้แล้ว ! ชั้นบอกว่าขอดูแผลหน่อยไง เดี๋ยวก็ปล่อยให้เลือดออกจนตายซะดีไหม ฮะ !!?”
เจสสิก้าย่อตัวลงและค่อยๆ ถกเสื้อของยูระขึ้น แม้รอยแผลที่เห็นจะไม่ลึกมาก แต่หากปล่อยไว้มันก็จะทำให้เลือดไหลออกมาไม่หยุดอยู่ดี เธอเหลือบหันไปมองดูที่หน้าท้องของหญิงสาวตรงหน้า เพราะหากเป็นยูริ เธอจะต้องมีแผลกระสุนอยู่ แต่นี่กลับไม่มีร่องรอยใดๆ ให้เห็นเลย ซึ่งนั่นก็หมายความว่า
ยูระนั้น มีตัวตนอยู่จริงๆ
“ฮะๆๆ”
อยู่ๆ เจสสิก้าก็ปล่อยตัวให้หงายลงกับพื้นและหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา
“ไหนเธอบอกสิก้าว่าน้องเธอตายไปแล้วไงยูริอา
”
“
”
“ฮือออๆๆ”
“ไหน
”
.
“เธอว่า
”
.
.
“น้องเธอตาย
”
.
.
.
“ไปแล้ว
ไง”
----------------------------------------------------
“สิก้า !!”
ยูริที่ไม่ว่าจะเรียกคนรักเท่าไร ก็ไม่มีวี่แววว่าเธอจะยอมตื่นขึ้นมาเลย เธอลุกขึ้นพร้อมกับอุ้มร่างที่เปียกน้ำของเจสสิก้าหลบเข้าไปยังขอบตลิ่งที่ยื่นออกมาเพื่อหลบสายตาของคนที่กำลังตามล่า
เพี๊ยะ !!
ไม่ว่าจะตบหน้าสักกี่ครั้ง ก็ยังคงนิ่งเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
จนยูริตัดสินใจปลดระดุมเสื้อของคนรักออก พร้อมกับตรวจดูช่องปากของเธอก่อนที่จะเตรียมการผายปอด เพราะมันอาจจะเป็นทางเดียวที่จะช่วยให้เจสสิก้านั้นรู้สึกตัวขึ้นมา
ยูริสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ ก่อนที่เธอจะทำการประกบปากกับเจสสิก้าและเป่าเอาอากาศเข้าไป สลับกับการปั๊มหัวใจเป็นระยะๆ
“1
2
3
”
“อ่อคค !!”
ทันทีที่เจสสิก้ารู้สึกตัวและสำลักน้ำออกมา หัวใจของยูริก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เธอดึงร่างของเจสสิก้าขึ้นมาโอบกอดเอาไว้พร้อมกับร้องไห้ราวกับชีวิตนี้จะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว ทำให้เจสสิก้าที่เพิ่งจะรู้สึกตัวขึ้นมางงกับเหตุการณ์ดังกล่าวมากยิ่งขึ้น
“แค่กๆ แค่กก !”
“ที่นี่
ที่ไหน ?”
สายตาที่มองไปยังรอบๆ ยังคงเบลอเพราะหยดน้ำ สิ่งที่เห็นตรงหน้า มีเพียงใบหน้าหญิงสาวที่ดูเหมือนกับ ‘ยูริ’ เท่านั้น ยูริ
ยูริ งั้นเหรอ
?
เจสสิก้าพุ่งพรวดขึ้นมาทันทีเมื่อได้สติ มือขวาเอื้อมไปจับที่แก้มเนียนของคนรัก และยิ้มออกมาทั้งน้ำตา เมื่อพบว่าผู้หญิงคนนี้คือยูริจริงๆ ไม่ใช่ยูระ
“ยูริ !”
เจสสิก้าโอบคอของคนรักเอาไว้ เพราะหากเธอกอดที่เอวมีหวังโดนโวยอีกรอบเป็นแน่ เธอคลายอ้อมกอดออกพร้อมกับมองไปยังสถานที่รอบๆ ตัว
คลอง
ภาพเหตุการณ์ที่ฉายย้อนกลับเข้ามาถึงตอนที่เธอและยูริพากันหลบหนีกลุ่มชายชุดดำ จนกระทั่งกระโดดลงมายังคลองที่เห็นอยู่เบื้องหน้า ทำให้เจสสิก้าจำความได้ว่าพวกเธอกำลังทำอะไรอยู่
เจสสิก้าเหลือบหันไปมองรอบๆ ตัว แต่ก็เหมือนกับรู้ว่าเจสสิก้ากำลังมองหาอะไร ยูริจึงหยิบปืนพกของเธอส่งให้กับเจสสิก้า และพากันวิ่งหลบออกมาจากบริเวณนั้น
“ทางนี้ !”
ยูริหันไปบอกกับคนรักและพาเจสสิก้าลอดใต้สะพานมายังอีกฝั่ง ซึ่งจะมีทางเล็กๆ และข้าวของวางกองเอาไว้สามารถใช้ปีนขึ้นไปข้างบนได้อย่างพอดิบพอดี ยูริเลือกที่จะปีนขึ้นไปก่อน แม้ว่าอาการเจ็บที่บาดแผลนั้นจะยังมีอยู่ แต่เธอก็ต้องกัดฟันทนเอาไว้ และปีนขึ้นไปจนสำเร็จ
“ฮึบ !!”
เธอหันมองซ้ายขวาสักพัก และเมื่อมั่นใจว่าปลอดภัยแล้ว ยูริจึงส่งมือเอื้อมลงไปดึงตัวเจสสิก้าคนรักของเธอตามขึ้นมา สายตายังคงมองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง
“เอาไงต่อยูริอา ?”
เจสสิก้าถามขึ้นพร้อมกับหันกลับไปมองฝั่งตรงข้ามที่พวกเธอกระโดดลงมา
“@^%^&*($@!!!”
ชายคนที่เห็นอยู่ไกลๆ ตะโกนขึ้นพร้อมกับชี้มาทางพวกเธอ ก่อนที่คนอื่นๆ จะพากันวิ่งตามกันขึ้นมา
ยูริคว้ามือของเจสสิก้าเอาไว้และพากันวิ่งออกมาจากบริเวณนั้นทันที เธอพาเจสสิก้าทะลุซอยข้างๆ มาโผล่ออกที่ถนนสายหลักที่มุ่งหน้าออกจากเขตนัมแดมุน พร้อมกับข้ามถนนไปยังอีกฝั่งและเดินลงตามบันไดไปเรื่อยๆ
เจสสิก้าที่วิ่งตามยูริมาติดๆ ต้องคอยหันกลับมาดูด้านหลังเป็นระยะๆ
กึกกๆ กึกก !!
ยูริบิดที่ลูกบิดประตูหลังร้านๆ หนึ่งอย่างเร่งรีบ ก่อนที่เธอจะหยิบเอากุญแจออกมาและไขเปิดอย่างรวดเร็ว
ปึงงง !!
ทันทีที่ประตูเปิดออก เจสสิก้าก็เดินเข้ามาทันที ตามมาติดๆ ด้วยยูริที่ดึงประตูกลับเข้ามาและปิดเอาไว้ดังเดิม
แกร๊กก...
“พวกนั้นมันใคร ! แล้วทำไมถึงต้องมาตามล่าพวกเราด้วย !!?”
เจสสิก้าโวยขึ้นทันทีก่อนที่จะทิ้งตัวนั่งลงที่มุมห้อง มองดูยูริคนรักกำลังเดินไปดึงผ้าที่คลุมวัตถุขนาดใหญ่อยู่ที่กลางห้องออก สภาพมันดูแล้ว... เหมือนกับรถไม่มีผิด
เจสสิก้าหันมองไปยังรอบๆ ก่อนที่จะเห็นสวิตซ์ไฟที่มุมห้อง เธอจึงลุกขึ้นและสับสวิตซ์ขึ้น
แว่บบบ !!
ทันทีที่ไฟติด ภาพที่เห็นเบื้องหน้าของเธอก็คือรถสปอร์ตคันหรูสีเทาของยูริ เธอเดินเข้าไปใกล้ๆ และใช้มือสัมผัสกับมันเบาๆ ซึ่งเป็นจังหวะที่ยูริกดสวิตซ์ที่รีโมทเพื่อปลดล็อค ตามมาด้วยแสงไฟจากรถที่สว่างวาบขึ้นชั่วเสี้ยววิ ก่อนที่ยูริจะเปิดประตูออกและเข้าไปนั่งด้านใน
แกร๊กก...
บรืนนนน !!! บรืนนนนนนน !!!
เสียงเครื่องยนต์ที่ดังขึ้นราวกับกำลังขู่คำราม ทำให้ Lamborghini Sesto Elemento สีเทาคันนี้ดูน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้น
ยูริพยักหน้าน้อยๆ ราวกับเป็นสัญญาณบอกให้เจสสิก้าขึ้นมานั่ง ยูริกดรีโมทของเธอเลื่อนเปิดประตูด้านหน้าขึ้นด้วย และเมื่อเจสสิก้าปิดประตูลง รถคันงามของยูริก็พร้อมที่จะพุ่งทะยานออกไปสู่ถนนใหญ่
เอี๊ยดดดดดด !!!!
เสียงของล้อที่บดไปกับถนนจนเกิดเป็นรอยยางยาวออกไป ท้ายรถที่เกือบจะสะบัดจนออกนอกเส้นทาง แรงกระชากที่มหาศาลทำให้มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่จะควบคุมเจ้ารถคันนี้ ยูริหักพวงมาลัยเลี้ยวและอาศัยการโอเวอร์สเตียร์นี้ทำให้รถสามารถตั้งลำได้ก่อนที่เธอจะหักพวงมาลัยไปอีกทางหนึ่งพร้อมกับเหยียบคันเร่งอีกครั้ง
บรืนนนนนน !!!
ตลอดเส้นทางยูริคอยมองดูกระจกหลังของเธอตลอดเวลา ส่วนเจสสิก้านั้นก็คอยมองข้างทางไปด้วย เพื่อตรวจเช็คว่ายังมีคนสะกดรอยตามพวกเธอมาอีกหรือไม่
เอี๊ยดดดดดด !!!!!
“ว๊ายยยยย !!!!”
และเพราะการที่อยู่ๆ ยูริก็หักพวงมาลัยดริฟท์ผ่านสี่แยกมาโดยที่เจสสิก้าไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้เธอถึงกับเซไปตามแรงเหวี่ยง ยูริยังคงเหยียบคลัชเลี้ยงความเร็วเอาไว้สลับกับคันเร่งเป็นระยะๆ ทำให้รถคันหรูของเธอดริฟท์ผ่านโค้งไปได้อย่างสวยงาม สายตาของหลายต่อหลายคนจับจ้องมายังรถคันงามของเธอ เพราะมันไม่ใช่โอกาสง่ายๆ เลยที่จะได้มาเห็นรถสุดหรูอย่าง Lamborghini วิ่งบนถนนแบบนี้
ครึ่กก !!
เธอขึ้นเกียร์และเหยียบคันเร่งต่ออีกครั้งเมื่อพ้นโค้ง ทำเอาเจสสิก้าที่นั่งอยู่ข้างๆ หันมามองคนรักอย่างค้อนๆ
“จะโค้งจะอะไรก็บอกกันมั่งสิ !”
เอี๊ยดดดดดดดด !!!!
“ว๊ายยยยยยยยย !!!!!!”
ยูริยังคงบังคับพวงมาลัยให้สามารถดริฟท์ได้จนพ้นโค้ง สายตาของเธอยังคงจับจ้องอยู่กับถนนด้านหน้าสลับกับคอยดูกระจกหลังเป็นระยะๆ
“ทำไมเธอไม่เลี้ยวปกติล่ะยูริอา > <!!”
เจสสิก้าที่ยังคงตัวติดกับกระจกเพราะแรงเหวี่ยงของรถโวยขึ้น
“เธอก็รัดเข็มขัดซะสิ !”
เพียงแค่ช่วงเสี้ยววิที่ยูริหันมามองเจสสิก้าคนรัก พร้อมกับบอกให้เธอคาดเข็มขัดนิรภัย เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เจสสิก้าลืมตาขึ้นมามองดูถนนด้านหน้า
สัญญาณไฟจราจรที่เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดง และผู้คนมากมายที่พากันเดินข้ามถนนบริเวณสี่แยกด้านหน้าเป็นทางที่ยูริกำลังดริฟท์ไปทางนั้นอย่างพอดิบพอดี
และ...
.
.
.
ราวกับเป็นภาพสโลว์โมชั่นที่รถคันหรูของยูริกำลังดริฟท์ผ่านโค้งที่มีคนจำนวนมากข้ามถนนอยู่ ภาพที่เห็นตรงหน้าแม้ว่าจะเตรียมใจมาแล้วว่าจะต้องมีการชนกันเกิดขึ้น แต่ราวกับมีปาฏิหาริย์ที่อยู่ๆ ผู้คนเหล่านั้นก็พากันหยุดเดินและแหวกเป็นเส้นทางให้รถของยูรินั้นผ่านไปได้อย่างสวยงาม แทบไม่ต่างอะไรกับการที่โมเสสทำการแยกทะเลออกเป็นสองฝั่งเลย
สายตาของทั้งยูริและเจสสิก้าที่จ้องมองผู้คนเหล่านั้นอย่างตกใจไม่ต่างอะไรกับสายตาของผู้คนเหล่านั้นที่มองกลับมายังพวกเธอเลย ต่างฝ่ายต่างก็ตกใจจนไม่มีการขยับตัวใดๆ
แต่สายตาที่พลันเหลือบมาเห็นสิ่งๆ หนึ่งเข้า ทำเอายูริรู้สึกตกใจจนแทบสิ้นสติ สายตาของเจสสิก้าที่หันตามมาเห็นเข้าก็เช่นเดียวกัน เจสสิก้าที่เริ่มจะแหกปากเพราะความตกใจ นั่นก็เพราะ... อีกเพียงไม่กี่เมตรข้างหน้า รถของยูริก็จะปะทะเข้ากับเด็กตัวน้อยๆ ที่วิ่งออกมาเก็บลูกบอลที่กลิ้งตกลงมาแล้ว
ผู้เป็นแม่ของเด็กคนนั้นก็อยู่ในอาการที่ไม่ต่างจากเจสสิก้าเลย...
ได้แต่ยืนมองอยู่เฉยๆ ด้วยความตกใจ...
ระยะที่เหลืออีกเพียงไม่กี่เมตรข้างหน้าจะเกิดการปะทะเกิดขึ้น เจสสิก้าที่ได้สติกลับมาเธอมองดูเด็กคนนั้นอีกครั้ง ซึ่งมันตรงกับช่วงประตูที่เธอนั่งอยู่อย่างพอดิบพอดี และเพราะการที่เธอเป็นถึงตำรวจและได้ผ่านอะไรมาแล้วหลายต่อหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นภารกิจที่แสนท้าทาย หรือสุดจะบ้าระห่ำก็ตาม ทุกอย่างที่ผ่านมาได้นั่นก็เพราะ การตัดสินใจอย่างรวดเร็วของเธอนั่นเอง...
รวมไปถึง... สิ่งที่เธอกำลังจะทำในตอนนี้ด้วย...
“กรี๊ดดดดดดดดด !!!!!”
ผู้เป็นแม่ที่นึกว่าลูกของตนถูกรถของยูริชนเข้าอย่างจังจึงกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจจนแทบจะเป็นลมหมดสติ เพราะความประมาทของเธอแท้ๆ จึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
แต่เพียงชั่วเวลาเสี้ยววิเท่านั้นที่เจสสิก้าเปิดประตูออกไปและเอื้อมมือไปดึงตัวเด็กคนนั้นขึ้นมาบนรถ แรงเหวี่ยงของตัวรถกับแรงดึงของเจสสิก้าจึงทำให้ตัวของเด็กนั้นโอนมาทางฝั่งยูริ ซึ่งยูริก็พอจะเข้าใจถึงสิ่งที่เจสสิก้าต้องการจะทำเธอจึงใช้มืออีกข้างของเธอปล่อยจากพวงมาลัยและรับตัวเด็กคนนั้นเอาไว้ ก่อนที่จะจัดการเปิดประตูทางฝั่งของเธอและปล่อยให้เด็กคนนั้นกลิ้งลงไป
แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บจากการกระทำดังกล่าว แต่มันก็ดีกว่าปล่อยให้มีการเสียชีวิตเกิดขึ้น
เหมือนกับเวลากลับมาเดินตามปกติอีกครั้งทันทีที่เสียงโห่ร้องของผู้คนที่อยู่รอบๆ ดังขึ้น เพราะไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึงว่าเด็กชายตัวเล็กๆ คนนั้นจะรอดชีวิตและได้รับเพียงแค่แผลถลอกเล็กน้อยจากการที่กลิ้งม้วนตัวลงมาเท่านั้น !
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น