ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SNSD] : Love Generation : A Love to Kill (PG-13)[Yuri]

    ลำดับตอนที่ #6 : + + Chapter 5 + + [Fixed : แก้คำผิด]

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 53


    เช้าวันที่ 24 กันยายน เวลา 09.00
    ในที่สุดวันลงมือจริงก็มาถึง ยูริที่มาถึงสถานที่ลงมือจริงแล้วยังคงปะปนอยู่กับกลุ่มของฝูงชนที่รวมตัวกันอยู่บริเวณท้องถนนด้านหน้าของอาคาร
    ยูริยืนมองตัวเองในกระจกอีกครั้งเพื่อตรวจเช็คสภาพของตัวเอง ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างพอใจ
    ผมสีบลอนด์ที่สะท้อนกับแสงแดดตอนเช้าดูเปล่งประกายสวยงามเป็นอย่างมาก และก็เป็นอย่างที่ยูริคิดเอาไว้จริงๆ ไม่ว่าจะมองซ้ายหรือขวา นอกจากที่นี่จะเต็มไปด้วยผู้คนที่คับคั่งแล้ว ยังมีตำรวจยืนเป็นจุดๆ อีกด้วย
     เธอก้มมองดูนาฬิกาข้อมือของตัวเองอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เป็นเวลา 9. 45 . แล้ว
    เธอเหลือบหันไปมองทางซ้ายมือและเห็นรถตำรวจค่อยๆ ขับนำมาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะตามมาด้วยรถคันงามสีดำ ซึ่งเมื่อรถคนดังกล่าวจอดเทียบแล้ว นายเจคอร์ป ก็ได้เดินลงมาพร้อมกับบอดี้การ์ดรอบตัว ยูริยืนยิ้มอยู่สักพัก สายตาของเธอจ้องไปยังเจคอร์ป จนหายลับเข้าไปในตัวอาคาร และในที่สุด ก็ถึงเวลาที่เธอจะได้ลงมือจริงๆ สักที
    ยูริเดินลงมายังสถานี่รถไฟใต้ดิน และเดินมาที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติก่อนที่จะเลือกสถานีและเสียบธนบัติเข้าไป เธอขยับแว่นดำให้กระชับก่อนที่จะเดินตามหลังคนอื่นๆ ลงมายังชั้นล่าง และรอรถไฟต่อไป
     
    รถไฟที่เคลื่อนตัวมาเรื่อยๆ โดยที่ยูริก็คอยจับเวลาตลอด ว่าเหลือระยะทางเท่าไรกว่าจะถึงจุดที่เธอจะต้องลง เมื่อได้ระยะที่กำหนด เธอจึงเริ่มลงมือตามแผนการ
    ระเบิดแก๊สแบบง่ายๆ ที่เธอได้เตรียมมาถูกดึงสลักออกพร้อมกับปล่อยมันลงพื้น พร้อมกับขยับเดินออกมาจากบริเวณนั้น
    ฟู่วววว !!!
    ทันทีที่มีกลุ่มควันและแก๊สออกมาก็เกิดความโกลาหลขึ้นทันที นายตำรวจประจำตู้รถไฟจึงต้องเดินเข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อย ผู้คนที่ต่างก็ตื่นกลัวพากันวิ่งวุ่นไม่หยุด
    ยูริอาศัยช่วงเวลานั้นถอดโซ่ที่คล้องล๊อคประตูเอาไว้ออก และเปิดมันออกมาอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่มีใครได้ทันสังเกตเห็นเธอเลยแม้แต่น้อย พร้อมกับมาหยุดยืนอยู่ที่บริเวณทางเดินเชื่อมระหว่างรถไฟ
    ความเร็วที่ค่อยๆ ลดลงทำให้เห็นเส้นทางได้ไม่ยากนัก
    ฮึบบ !!!
    เธอตัดสินใจกระโดดลงมาจากรถไฟพร้อมกับม้วนตัวลงพื้นเพื่อลดแรงกระแทก ก่อนที่จะค่อยๆ ลุกขึ้นยืน และเดินเข้ามาตามเส้นทางที่เธอได้คิดเอาไว้ตามแผน พร้อมๆ กับที่รถไฟนั้นไปจอดเทียบชานชาลาพอดี
    ยูริเดินเข้ามาตามทางเดินเรื่อยๆ ซึ่งมันเป็นทางที่มืดและแคบพอสมควร เธอเลี้ยวซ้ายที่สุดทางเดินจนมาเจอกับลูกกรงเหล็ก พร้อมกับแม่กุญแจที่ล๊อคเอาไว้ทำให้เธอต้องหยิบปืนพกขึ้นมาและยิงไปที่แม่กุญแจดังกล่าว
    ปุ !!
    เธอก้มลงไปหยิบปลอกกระสุนที่กระเด็นออกไปขึ้นมาและใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อพร้อมกับแม่กุญแจที่เธอยิงทิ้งด้วย ก่อนที่จะเปิดประตูเข้ามายังด้านในและหันกลับไปปิดมันเอาไว้ดังเดิม
    ยูริยังคงเดินตรงเข้ามาตามเส้นทางเรื่อยๆ ตามแบบแปลนที่เธอได้ท่องจำมา ก่อนที่จะมาหยุดที่บริเวณทางแยกที่สุดทางเดิน เธอใช้ความคิดสักพัก และนึกย้อนกลับไปถึงเส้นทางดังกล่าว
    ซ๊ายมือตัน... งั้นก็ต้องทางขวาสินะ
     
    ทางด้านของนายตำรวจทางด้านบนที่ต่างก็ระวังป้องกันเป็นอย่างดี มีการให้พลแม่นปืนอยู่ประจำจุดไว้เพื่อเป็นการสนับสนุน หน่วยตำรวจที่เหลือต่างก็ยืนประจำจุดของตน แต่หารู้ไม่เลยว่า ยังมีอีกเส้นทางหนึ่งที่ยังไร้ซึ่งการป้องกัน จนทำให้ยูรินั้นสามารถเล็ดลอดเข้ามายังด้านในได้
    แมทธิวที่ยืนคอยสังเกตการณ์อยู่ที่บริเวณด้านหน้า เมื่อตรวจดูไม่พบคนน่าสงสัย เขาจังเดินตามเหล่าบอดี้การ์ดเข้าไปยังด้านใน พร้อมกับกำชับให้คนอื่นๆ ต่างก็ตรวจพื้นที่ให้เรียบร้อยอีกครั้งด้วย
    ยูริเดินมาอยู่ที่หัวมุมพร้อมกับเอาหลังยืนพิงกำแพงเอาไว้ เพราะรู้สึกเหมือนกับได้ยินเสียงฝีเท้า
    กึก... กึก...
    เสียงฝีเท้าที่ดังใกล้เข้ามาทำให้เธอต้องยิ่งระวังตัวมากขึ้น
    ทันทีที่เหยื่อปรากฏตัว ยูริก็ไม่รอช้าที่จะดึงตัวชายคนนั้นเข้ามาพร้อมกับหักคออย่างรวดเร็ว
    กร๊อบบ !!
    ร่างที่ไร้วิญญาณค่อยๆ ทรุดฮวบลงกับพื้น
    เธอมองดูร่างของเจ้าหน้าที่โชคร้ายคนหนึ่ง ที่เอวนั้นมีพวงกุญแจห้อยติดอยู่ด้วย เธอจึงก้มไปเก็บมันขึ้นมา ก่อนที่จะค่อยๆ ลากศพไปแอบไว้ที่มุมทางเดิน และนำกุญแจมาไขเพื่อทำการเปิดประตูอย่างเงียบๆ
    เธอค่อยๆ ดึงดอกกุญแจนั้นออก และนำมาติดกลับไว้ที่เดิม ก่อนที่จะเดินย้อนกลับไปตามทางและค่อยๆ แง้มเปิดประตูนั้นออกอย่างเงียบๆ
    ทันทีที่เข้ามาเธอก็เหลือบมองตามมุมต่างๆ ของห้องเพื่อตรวจสอบหากล้องวงจรปิด
    กล้องตัวหนึ่งถูกพบอยู่ที่สุดมุมห้อง แต่เนื่องจากทิศทางของกล้องนั้นหันไปยังทางเดินอีกฝั่ง เธอจึงสามารถแอบเข้าไปใกล้ๆ ได้
    ยูรินำอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่ได้เตรียมไว้ออกมา พร้อมกับนำเครื่อง Netbook ออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับใช้สาย USB ต่อเข้ากับเครื่อง ก่อนที่เธอจะค่อยๆ เปิดฝาข้างผนังออกมา
    สายไฟจำนวนมากที่ดูแล้วชวนปวดหัว ยูริรวบรวมสตินึกอยู่สักพัก พร้อมกับค่อยๆ ควานหาสายไฟที่เธอจะนำไปเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ซึ่งไม่นานนักเธอก็พบ
    เธอค่อยๆ ใช้สาย USB ที่เตรียมไว้เสียบเข้าไปตัวเชื่อมหลัก พร้อมกับกดรันโปรแกรมแฮคขึ้นมา
    ทันทีที่โปรแกรมแฮคภาพทำงาน ภาพจากกล้องวงจรปิดของจริง ก็ถูกสลับกับของเธอทันที ซึ่งต่อให้เธอเดินผ่านกล้องวงจรปิดยังไง ภาพของเธอก็จะไม่โผล่เข้าไปอย่างเด็ดขาด
    ยูริยิ้มเย็นๆ กับผลงานของเธอ ก่อนที่จะค่อยๆ หยิบเอาระเบิดตั้งเวลาออกมาด้วย
    เธอใส่ลูกเล่นเอาไว้กับเครื่อง netbook ของเธอ ถ้าใครก็ตามที่อยู่ๆ เดินมาเปิดฝาพับขึ้น ระเบิดที่แนบไว้ก็จะทำงานทันที ทำให้ไม่หลงเหลือหลักฐานใดๆ เอาไว้ด้วย
    เธอคำนวนระยะเวลาที่จะใช้จากจุดนี้ตรงไปยังจุดเป้าหมาย ก่อนที่จะกดตั้งเวลาเอาไว้ และปิดฝาพับทันทีปล่อยให้โปรแกรมแฮคนั้นทำงานต่อไป
     
    ทางด้านของเจสสิก้า เธอมาหยุดยืนรอยูริอยู่ได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว สายตาของเธอยังคงพยายามจะมองลอดเข้าไปยังด้านในที่เห็นแต่ความมืดมิดเท่านั้น
    เธอมัวทำอะไรของเธออยู่กันนะ
    เจสสิก้านึกในใจก่อนที่เธอจะเดินมานั่งลงที่ม้านั่งยาวข้างๆ ร้านของยูริ เธอก้มหน้ามองดูนาฬิกาข้อมือของเธออย่างเซ็งๆ เพราะเธอนั่งรอยูริมาได้ราวๆ ครึ่งชั่วโมงแล้ว
    ทั้งๆ ที่นัดกันแล้วแท้ๆ แล้วนี่เธอไปทำอะไรอยู่ที่ไหนนะ
    เจสสิก้านึกในใจอย่างหงุดหงิด
    ใจหนึ่งของเธอก็นึกสงสัยอยู่เหมือนกัน เกี่ยวกับความรู้สึกของเธอที่มีต่อยูริ ทำไมเวลาที่เธอไม่ได้เจอกับยูริ มันถึงได้รู้สึกยังงี้กันนะทั้งๆ ที่เมื่อก่อนมันก็ยังไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลย
    เจสสิก้าเอามือขึ้นมาทาบหัวใจของตัวเอง ซึ่งความรู้สึกเหมือนกับใจหายวูบทำให้เธอรู้สึกไม่ดีเลย มันเหมือนกับการหายใจไม่ทั่วท้องยังไงยังงั้น
    ให้มันได้ยังงี้สิ !”
    เจสสิก้าตัดสินใจลุกขึ้นจากม้านั่งทันที เพราะเธอไม่สามารถรอยูริได้อีกแล้ว
    เธอเดินข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้ามและเดินเข้ามาในร้านกาแฟตามปกติของเธอ ก่อนที่จะเหลือบไปมองดูที่หน้าร้านของยูริ ที่ไม่มีวี่แววว่าจะมีคนเดินออกมาเปิดเลยแม้แต่น้อย
    เชอะ !
    เธอเชิดใส่อย่างโกรธๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงต้องโกรธด้วยเหตุผลเพียงแค่นี้
    ทำไมเราถึงต้องรู้สึกโกรธแบบนี้ด้วยนะบ้าบอสิ้นดี
     
    การประชุมยังคงดำเนินต่อไปอย่างราบรื่นโดยไร้การรบกวนใดๆ แมทธิวที่เดินมาตรวจความเรียบร้อยในห้องบันทึกภาพหยุดยืนอยู่หลังเจ้าหน้าที่อย่างเงียบๆ และดูกล้องวงจรปิดตัวอื่นๆ ต่อไป
    ภาพในกล้องยังคงว่างเปล่าและไม่มีใครเดินผ่านไปมาเลยแม้แต่น้อย จนนายตำรวจคนหนึ่งที่เดินอยู่บริเวณห้องชั้นล่างจะรายงานขึ้น
    /ท่านครับ พบวัตถุต้องสงสัยอยู่ในห้อง A ชั้นล่างครับ/
    ว่าไงนะ ?” แมทธิวถามขึ้นอย่างงงๆ พร้อมกับมองไปยังหน้าจอของกล้องในห้องที่ว่า ซึ่งไม่พบอะไรเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่เขาจะถามขึ้นอีกครั้ง
    ในห้อง A ในกล้องไม่เห็นอะไรเลย นายอยู่ตรงจุดไหน ?”
    /ผมยืนอยู่หน้ากล้องนี่เลยไงครับ…/
    นายตำรวจคนนั้นตอบกลับไป ก่อนที่จะเดินมายังจุดที่ยูริได้วางกับดักเอาไว้ และค่อยๆ แง้มเปิดมันออก
    ติ๊ดๆๆ !!!
    เสียงของระบบเซ็นเซอร์ที่ทำงานอย่างรวดเร็วพร้อมกับแสงที่สว่างวาบขึ้นอย่างไม่ทันจะได้ตั้งตัว
    ตูมมมมมมม !!!!!
    เกิดเสียงรเบิดขึ้นอย่างรุนแรงจนตัวอาคารนั้นสั่นสะเทือน
    กรี๊ดดดดดด !!!!!”
    เสียงกรีดร้องที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับความโกลาหลทำให้สถานการณ์ในตอนนี้ดูย่ำแย่จนถึงขีดสุด แมทธิวที่อยู่ในห้องบันทึกภาพจึงสั่งงานให้ลูกน้องไปสำรวจพื้นที่ดังกล่าวทันที
    ทีม A ไปสำรวจพื้นที่ดังกล่าว ทีม B ไปที่ห้องประชุม ควบคุมสถานการณ์ความสงบเอาไว้ แพนกล้องหาบุคคลน่าสงสัยด้วย พบแล้วให้รายงานทันที !!”
    ครับ !!”
    แมทธิวสั่งเสร็จ เขาจึงเดินออกมาจากห้องนั้นทันที
    เสียงระเบิดที่เกิดขึ้นทำให้ยูริต้องรีบเร่งลงมือเสียแล้ว เธอวิ่งมาตามเส้นทางเรื่อยๆ ก่อนที่จะรีบหลบทันที เมื่อพบว่าตำรวจ 2 นายกำลังวิ่งมาทางเธอ
    กึก กึกๆๆ
    เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้ยูริยิ่งต้องระวังตัวมากขึ้น
    3…
    2…
    1…
    พลั่คคคค !!!
    ทันทีที่นายตำรวจคนแรกโผล่พ้นออกมาจากมุม ยูริก็จัดการศอกเข้าที่กลางลำตัวอย่างรุนแรงจนเสียหลักล้มลงไปกับพื้น พร้อมกับหยิบปืนพกขึ้นมาเล็งไปที่กลางศรีษะของนายตำรวจอีกคนและกดลั่นไกอย่างรวดเร็ว
    ปุ !!!
    ยูริใช้เข่าของเธอกระแทกลงมาที่กลางลำตัวของนายตำรวจอีกคนที่กำลังพยายามจะลุกขึ้น พร้อมกับใช้แขนของเธอล๊อคเข้าที่คออย่างรวดเร็ว
    อื้ออ !!!!”
    ร่างกายที่ดิ้นพรวดพราดอย่างทรมาณพยายามขัดขืนอย่างเต็มกำลังเพื่อพยายามไขว่คว้าหาอากาศหายใจ ก่อนที่ร่างดังกล่าวจะกระตุกอย่างแรง และสงบนิ่งไปในที่สุด
    ยูริก้มลงไปเก็บปืนพกของนายตำรวจคนนั้นขึ้นมาและเหน็บไว้กับตัว ก่อนที่จะเหลือบไปเห็นระเบิดที่เหน็บไว้ที่เอวของทั้งสองคน
    รอยยิ้มเย็นๆ ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเธออีกครั้ง
    ยูริก้มลงไปหยิบระเบิดขึ้นมา พร้อมกับดึงสลักออกลูกหนึ่ง และทิ้งไว้ตรงจุดที่เธอสังหารสองคนนั้น ก่อนที่จะรีบวิ่งออกมาจาบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว
    ตรงนั้น !!!”
    เสียงของนายตำรวจคนหนึ่งดังขึ้น ก่อนที่จะวิ่งเข้าไปยังจุดที่ยูริได้โยนระเบิดเอาไว้
    ตูมมมมมมมม !!!!
    อ๊ากกกกก !!!”
    เสียงระเบิดที่ดังขึ้นอีกครั้ง ยิ่งทำให้ทุกคนต่างก็หวาดผวา
    ยูริวิ่งมายังทางเดินปีกขวาของอาคาร ซึ่งเป็นสถานที่ในการจัดประชุม
    คุ้มกันท่านผู้ว่าการรัฐด้วย !!”
    เสียงตะโกนที่ดังขึ้นมาทำให้ยูริยิ้มออกมาอีกครั้ง ในส่วนของปีกซ้ายของอาคารที่เธอถล่มไปนั้น ค่อยๆ ทรุดลงจนปิดทางออก ทำให้เธอไม่สามารถย้อนกลับไปทางเดิมได้อีก
    ยูริหยิบเอาระเบิดแม่เหล็กขึ้นมา ก่อนที่เธอจะขว้างมันไปยังจุดที่ผู้ว่าการรัฐอยู่ จากการคำนวนในแผนผังที่นั่ง และจากการฟังเสียงที่มีคนตะโกนขึ้นเมื่อสักครู่
    ติ๊ดๆๆ
    เสียงของระบบเซ็นเซอร์ทำงานขึ้นอีกครั้งเป็นการนับถอยหลัง ยูริถอยห่างออกมาจากบริเวณนั้น ก่อนที่จะเกิดการระเบิดขึ้นอีกครั้ง
    ตูมมมมมมมมม !!!!!
    เสียงระเบิดที่ดังสนั่นพร้อมกับร่างของท่านผู้ว่าการรัฐที่ไหลลงรูมาอย่างพอดิบพอดี ก่อนที่จะกลิ้งลงมากับพื้น ควันที่ลอยฟุ้งอยู่จนมองอะไรแทบไม่เห็น ทำให้ยูริค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ๆ จากทางด้านข้าง และกดลั่นไกใส่เป้าหมายโดนไม่ทันให้ตั้งตัว
    ปุ !!!
    เลือดสีแดงสาดกระเซ็นไปจนติดกับผนังด้านข้าง ยูริยิ้มออกมาอีกครั้ง ก่อนที่จะหันกลับมา
    ปังงง  ปังงง ปังงง !!!!
    เสียงปืนที่ยิงขึ้นพร้อมกับลูกกระสุนที่วิ่งผ่านตัวเธอไป ทำให้ยูริต้องฉากหลบออกทันที
    เป้าหมายอยู่นั่น !!”
    นายตำรวจคนหนึ่งตะโกนชี้เป้า ทำให้นายตำรวจคนอื่นๆ นั้นวิ่งกรูกันเข้ามาทันที
    ไปๆๆ !!”
    ยูริออกวิ่งต่อไป ก่อนที่จะใช้หัวมุมเป็นที่กำบังและใช้ปืนที่เก็บมานั้นยิงสวนกลับไป
    ปังง !!
    กระสุนหนึ่งนัดวิ่งตรงเข้ากลางศรีษะของนายตำรวจที่วิ่งนำหน้ามาและล้มลงทันที ทำให้นายตำรวจคนที่ตามมาต้องหาที่กำบัง ยูริไม่รอช้า เธอเอาระเบิดที่เหลืออยู่ดึงสลักออก พร้อมกับขว้างกลับไปทันที
    เคร้ง เคร้งง !!
    เฮ้ยยยยย !!!”
    เสีงตะโกนที่ดังขึ้นด้วยความตกใจของเหล่านายตำรวจที่กำลังขยับใกล้เข้ามา แต่มันก็สายเกินไปที่จะหลบ
    ตูมมมมมมมมมมม !!!!
     
    ชิ้นส่วนต่างๆ ที่กระจัดกระจายพร้อมกับหยดเลือดที่สาดกระเซ็นไปทั่วทั้งบริเวณ ทำให้การไล่ล่านั้นยิ่งสยดสยองมากยิ่งขึ้น เส้นทางที่ค่อยๆ ถล่มลงมาเพราะแรงสั่นสะเทือน ทำให้เส้นทางถูกปิดตาย ก่อนที่ยูริจะค่อยๆ วิ่งหลบออกมาจากบริเวณนั้นทันที
    ท่านครับ เราสูญเสียคนไปไม่ต่ำกว่า 10 นายแล้วนะครับ !”
    นายตำรวจคนที่อยู่ข้างๆ แมทธิวรายงานขึ้น
    ตรวจสอบเส้นทางใต้ดินให้ละเอียดแล้วรายงานผลมา !!”
    ครับ !!”
    นายตำรวจคนนั้นตอบรับอย่างตกใจ ก่อนที่จะทำความเคารพและรีบกลับไปสืบหาเส้นทางตามที่ได้รับคำสั่งมา
    บ้าชะมัด !!”
    แมทธิวสบถออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนที่นายตำรวจคนเดิมจะพูดขึ้นอีกครั้ง
    ขออนุญาติฉายภาพครับ !”
    เมื่อแมทธิวให้สัญญาณตกลง ภาพแบบแปลนของตัวอาคารจึงถูกแสดงขึ้นบนหน้าจอทันที
    มีทางลงที่จุด C ห่างออกไปจากที่นี่ประมาณ 500 เมตรครับ !”
    รวบรวมคนไปที่นั่น เราจะดักจับคนๆ นี้ให้ได้ !!” แมทธิวตะโกนสั่ง ก่อนที่จะหันไปหานายตำรวจอีกคนหนึ่ง
    สั่งปิดพื้นที่รอบๆ ตัวอาคาร ขยายออกไปรัศมี 1 กิโลเมตร ห้ามใครเข้าออกเด็ดขาด !!!”
    ครับ !!”
     
    กลับมาที่ด้านของยูริ เธอยังคงเดินต่อมาตามเส้นทางเรื่อยๆ พร้อมกับตรวจเช็คกระสุนและระเบิดที่ยังเหลืออยู่ เพราะเธอต้องใช้ระเบิดที่ว่านี้เปิดทางออกเชื่อมกับทางเดินน้ำใต้ดิน เพื่อไปยังจุดหลบหนีที่เธอได้เตรียมไว้
    เธอเลี้ยวบริเวณหัวมุมด้านหน้าและเหลืออีกเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น ก็จะถึงทางออก
    หาให้ทั่ว !!”
    เสียงของนายตำรวจอีกคนหนึ่งดังขึ้น ทำให้ยูริต้องชะงัก ก่อนที่เธอจะโผล่ออกไปพร้อมกับกดลั่นไกอย่างแม่นยำ
    ปังงง !!! ปังงง !!!
    กระสุนวิ่งเข้าจุดตายอย่างแม่นยำโดยที่ไม่ต้องเวลาในการเล็งมากนัก ก่อนที่เธอจะเอี้ยวตัวหลบปากกระบอกปืนที่จ่อมาทางเธอได้อย่างหวุดหวิด
    ปังง ปังงง ปังงงง !!!!
    พลั่คคคค !!!
    ยูริใช้ขาอันเรียวงามของเธอเตะหวดเข้าที่ส่วนขาอย่างแรงจนนายตำรวจคนนั้นทรุด ก่อนที่จะใช้เข่าของเธออัดเข้าที่ปลายคางอย่างรุนแรง
    กร๊อบบบ !!!
    ปังง ปังงง ปังงงง !!!
    กระสุนอีกหนึ่งชุดที่ถูกกราดเข้าใส่ยูรินั้น เฉียดเธอไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จังหวะที่หมุนตัว เธอก็ใช้มือขวานั้นเขวี้ยงกระบอกปืนที่เก็บมาใส่กลางกระโหลกอย่างแม่นยำ พร้อมกับชักปืนของเธอออกมายิงในจุดบอดที่มองไม่เห็น
    ปุ ปุ !!!
    ทันทีที่ยิงเสร็จ เธอก็จัดการคว้าเอาปืนกลมือจากนายตำรวจคนนั้นมาและเอาตัวของเขาเป็นที่กำบัง จากกระสุนปืนที่กำลังกราดใส่เธอ
    ปังง ปังงง ปังงงง !!!
    อ๊ากกกกก !!”
    นายตำรวจคนแล้วคนเล่าที่ต้องมาสังเวยชีวิตให้กับยูริ ทำให้การตามจับกุมนั้นต้องเพิ่มระดับความยากเข้าไป แมทธิวที่ลงมายังพื้นที่ด้วยตัวเอง เขาเดินลงมาตามบันไดอย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะผลักประตูด้านหน้าให้เปิดออก
    ปึงงงง !!!
    เสียงประตูที่ดังขึ้นทำให้ยูริต้องหันมามองทันที ก่อนที่กระสุนจะถูกยิงใส่เธอ
    ปังงง ปังงงง !!!
    ยูริไม่สนใจต่อการไล่ล่าของตำรวจ เพราะอีกเพียงแค่ 100 เมตรด้านหน้า เธอก็จะหนีพ้นแล้ว
    เธอหยิบเอาระเบิดลูกสุดท้ายที่เก็บมาโยนกลับไปใส่แมทธิวที่กำลังวิ่งไล่เธอ พร้อมกับนำระเบิดแม่เหล็กของเธออีกลูกหนึ่งขว้างไปให้มันติดกับโครงเหล็กบนขอบผนัง
    ตูมมมมมมมมมมมมมม !!!!!!!
    เสียงระเบิดที่ดังขึ้นทำให้แมทธิวต้องรีบกระโดดหลบออกทันที
    ครืนนนน
    เพดานที่ค่อยๆ ถล่มลงมาจนสกัดการไล่ล่า ทำให้ยูริกระโดดม้วนตัวผ่านช่องทางที่ตนเองทำเอาไว้เมื่อกี้ออกมา
    อั๊กกก !!”
    ลำตัวที่กระแทกเข้ากับขอบหินทำให้เธอรู้สึกจุกจนแทบจะหายใจไม่ออก แต่เธอไม่มีเวลาแม้แต่จะรู้สึกเจ็บ สิ่งที่เธอทำได้คือมุ่งหน้าออกไปตามทางระบายน้ำเรื่อยๆ เท่านั้น
    ทางด้านของแมทธิวเองที่ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด ก็ทำให้เขาแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะขยับตัว เขาหอบหายใจแรงอยู่สักพักใหญ่ๆ ก่อนที่จะค่อยๆ หลับตาลงและนึกไปถึงหญิงสาวนักฆ่าที่ไล่ล่ากันอยู่เมื่อสักครู่
    สิ่งที่เขาเห็นและจำได้นั้นมีเพียงแต่ผมยาวสีบลอนด์ที่ยาวเกือบถึงกลางหลัง และชุดหนังสีดำเท่านั้น เค้าโครงหน้าเองเขาก็จำไม่ได้ เพราะได้เห็นเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น และสิ่งที่เขาจำได้อีกอย่างก็คือ
    หญิงสาวคนนั้นมีนัยตาสีฟ้า
    บัดซบ !!!”
    เขาพูดพร้อมกับกำหมัดแน่นและทุบลงพื้นอย่างโกรธๆ
     
    ยูริที่ฝืนวิ่งมายังทางระบายน้ำ ก่อนที่จะเลี้ยวตรงหัวมุม แสงแดดที่สาดส่องเข้ามาทำให้เธอรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง เพราะมันถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้วนั่นเอง
    ยูริวิ่งออกมาตามเส้นทางก่อนที่จะก้มลงและคว้าเอาถังออกซิเจนที่แอบเตรียมไว้มาสวมอย่างเร่งรีบ และกระโจนลงน้ำไปทันที
    ตูมมมมมม !!!
    ยูริค่อยๆ ลืมตาขึ้นในน้ำ และดำลงไปด้านล่าง เธอพยายามสอดส่องหาเจ้าเครื่องสกู๊ตเตอร์ที่ได้เตรียมเอาไว้ในวันก่อนอยู่สักพัก ก่อนที่จะพบมันอยู่ห่างออกไปไม่ไกลเท่าไรนัก
    สีผมที่ถูกย้อมด้วยสเปรย์ค่อยๆ ถูกล้างออกจนแปรเปลี่ยนกลับเป็นสีน้ำตาลตามเดิม ยูริค่อยๆ คว้าสกู๊ตเตอร์ของเธอขึ้นมาและทำการสตาร์ทเครื่องมันทันที
    ฟองน้ำที่ถูกส่งผ่านตัวของเธอไป พร้อมกับแรงกระชากน้อยๆ จากเจ้าเครื่องที่เธอกำลังใช้งาน ทำให้เธอสามารถหลุดพ้นออกมาจากบริเวณนั้นได้อย่างไร้ร่องรอย
    เธอยังคงดำน้ำต่อไปอีกไกลพอสมควร เพื่อให้พ้นจากระยะคาดการณ์ของตำรวจ ซึ่งเมื่อได้ระยะแล้ว เธอจะค่อยๆ ดับเครื่องลงและปล่อยให้มันจมลงไปยังก้นแม้น้ำอีกครั้ง ก่อนที่จะค่อยๆ ถอดถังออกซิเจนออกและปล่อยให้มันจมน้ำตามเจ้าสกู๊ตเตอร์ของเธอไปอย่างช้าๆ
    ยูริค่อยๆ ถอดเอาคอนแทคเลนส์ของเธอออกจากดวงตาทั้งสองข้าง ก่อนที่จะค่อยๆ ว่ายขึ้นมายังบริเวณผิวน้ำ ซึ่งเป็นบริเวณของป่าพอดิบพอดี
    เธอค่อยๆ เดินขึ้นมาจากน้ำ ก่อนที่จะทรุดลงไปนั่งเพราะความเจ็บที่บริเวณสีข้าง
    บ้าชะมัด !”
    เธอสบถออกมา ก่อนที่จะค่อยๆ หันกลับไปมองยังเส้นทางที่เธอผ่านมา ซึ่งเห็นตัวเมืองอยู่ไกลออกไปพอสมควร
    อย่างน้อย ก็ไม่มีใครตามเราเจอล่ะนะ
    เธอนึกในใจพร้อมกับยิ้มออกมา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×