ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : + + Chapter 3 + + [Fixed : แก้คำผิด]
ปังงงงงง !!!!
เพล้งงงง !!!!
เสียงปืนและเสียงกระจกที่ดังขึ้นพร้อมๆ กัน ก่อนที่กระสุนนัดหนึ่งจะพุ่งตรงเข้าที่แขนของผู้ก่อการร้าย ทำให้วิถีกระสุนที่พุ่งเข้าใส่เจสสิก้าเบนออกและถากที่สีข้างของเธอเล็กน้อยเท่านั้น
เจสสิก้าไม่รอช้า เธอใช้จังหวะที่คนร้ายเสียการทรงตัวเตะเข้าที่ข้อเท้าของเขาอย่างเต็มแรงจนเสียหลักล้มลงกับพื้น นายตำรวจที่อยู่ข้างๆ จึงฉวยโอกาสดังกล่าวตรงเข้ามาทำการจับกุมเอาไว้อย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณที่ช่วย
”
เจสสิก้าพูดสนทนากับหน่วยแกมม่าเบาๆ พร้อมกับเอามือจับที่บริเวณสีข้างของตัวเอง
อาการแสบที่เกิดขึ้นทำให้เธอขยับตัวลำบากเล็กน้อย แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอ เจสสิก้าเดินไปเก็บปืนของเธอที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมาพร้อมกับเตรียมพร้อมที่จะลุยต่ออีกครั้ง
“แมท ! ทางนั้นเป็นไงบ้าง ?”
/ยังไม่พบใครเลย
/
พูดยังไม่ทันจบ เสียงปืนก็ดังแทรกขึ้นมาทันที
/ปังงงง !!!!/
ก่อนที่สายจะถูกตัดไป
“แมท ! แมท !!!”
ไม่มีการตอบรับจากคู่สนทนา อีกทั้งเสียงปืนที่ดังขึ้นอย่างไม่ขาดสายทำให้เธอกลับยิ่งรู้สึกเป็นห่วงแมทธิวขึ้นมา
“ชึ้นไปชั้นบน ไปๆ !!”
เธอออกคำสั่งกับลูกทีม ก่อนที่พวกเขาจะวิ่งเรียงกันขึ้นไปยังชั้นบน
ตูมมมมมม !!!!!
เสียงระเบิดที่ดังขึ้นทำให้พวกเธอต้องหมอบต่ำเพื่อหาที่กำบัง ก่อนที่เศษหินและเศษปูนจะค่อยๆ ถล่มลงมาจนบันไดขึ้นไปยังชั้น 4 นั้นใช้งานไม่ได้
เจสสิก้ารีบวิ่งผ่านห้องต่างๆ ไปอย่างรวดเร็ว เพื่อจะตรงขึ้นไปยังชั้น 4 แต่เสียงที่ดังแว่วๆ ทำให้เธอต้องหยุดชะงักลงทันทีพร้อมกับการให้สัญญาณมือหยุด
เจสสิก้าเดินย้อนกลับมายังห้อง 304 และได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังร้องโอดครวญอยู่ทางด้านใน เธอจึงให้สัญญาณบุกเข้าไปทันที
ภาพที่เห็นตรงหน้านั้นเป็นตัวประกันคนหนึ่งถูกมัดเอาไว้กับเก้าอี้ทำให้ไม่สามารถขยับไปไหนมาไหนได้ และที่สำคัญ เธอได้รับบาดเจ็บอยู่ด้วยนั่นเอง
“ไม่เป็นไรครับ พวกเรามาช่วยแล้ว
”
“พบตัวประกัน 1 คนที่ห้อง 304 ขอย้ำให้เตรียมหน่วยแพทย์เอาไว้ให้พร้อมด้วย หน่วยแกมม่าให้การสนับสนุนการช่วยเหลือตัวประกันด้วย ทราบแล้วเปลี่ยน
”
/รับทราบ
/
“พาตัวประกันออกไปยังที่ปลอดภัย
ที่เหลือแยกกันคนหาผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้รอดชีวิตด้วย”
“ครับ !!”
ลูกทีมของเธอตอบกลับ ก่อนที่เจสสิก้าจะวิ่งออกมาจากห้องดังกล่าว และตรงไปยังบันไดกลางอย่างรวดเร็ว เพื่อขึ้นไปช่วยเหลือเพื่อนที่อยู่บริเวณชั้น 4
เมื่อขึ้นมาถึง สิ่งที่เธอพบกลับเป็นนายตำรวจที่นอนเจ็บอยู่กับพื้น ซึ่งมีบาดแผลจากการโดนยิงที่บริเวณขา
“ไหวรึเปล่า ?”
“ไหวครับ !” นายตำรวจคนนั้นตอบกลับมาในลักษณะที่กัดฟันแน่น ซึ่งทำให้เจสสิก้ารู้ได้ทันทีว่าแผลนั้นคงจะเจ็บเอามากๆ เพราะขนาดเธอที่โดนแบบถากๆ ยังรู้สึกเจ็บเลย
“แกมม่า ได้ยินแล้วตอบด้วย
”
/นี่แกมม่าทราบแล้วเปลี่ยน/
“คอยดูต้นทางแล้วยิงสนับสนุนชั้นด้วย ชั้น 4 บันได้กลางกำลังจะเดินลงไป มีคนได้รับบาดเจ็บอีก 1 ส่งคนเข้ามารับตัวที” เจสสิก้าพูดพร้อมกับค่อยๆ พยุงร่างของนายตำรวจคนนั้นขึ้นและค่อยๆ ประคองเขาลงมายังชั้น 1 โดยลิฟท์ที่ยังคงใช้งานได้อยู่ ก่อนที่ทางทีมตำรวจอีกชุดหนึ่ง จะส่งคนเข้ามาช่วย และแบ่งเป็นกำลังเสริมให้กับเธอ
เจสสิก้าเดินกลับขึ้นไปยังบันไดไปยังชั้น 4 อีกครั้ง ก่อนที่จะไล่ถีบประตูเข้าไปทีละห้องๆ
ปึงงงง !!!!
เจสสิก้ายังคงไล่เปิดประตูเข้าไปทีละห้องอย่างใจเย็น ปืนยังคงตั้งเอาไว้ระดับสายตาและพร้อมที่จะทำการยิงได้ทุกเมื่อ เธอก้าวเดินเข้าไปในห้องอย่างระมัดระวัง และพยายามเดินให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้
กึก
กึก
เธอค่อยๆ ก้าวเท้าอย่างช้าๆ โดยหลีกเลี่ยงการเดินเหยียบเศษข้าวของที่แตกกระจัดกระจาย เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังจนศัตรูนั้นรู้ตัว
เจสสิก้าเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนที่อยู่ด้านในสุดและเห็นตัวประกันอีกคนหนึ่งถูกมัดเอาไว้ เธอจึงรีบเดินเข้ามาช่วยทันที
“อื้อออออๆๆ”
ท่าทางที่ดูตกใจของตัวประกัน โดยเหมือนกับกำลังจะบอกอะไรบางอย่างกับเธอ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่หางตาของเธอเหลือบไปเห็นบางอย่างกำลังพุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
พลั่คคคคค !!!
พันท้ายปืนที่ถูกฟาดเจ้าที่ท้ายทอยของเจสสิก้าอย่างแรงทำให้เธอทรุดลงกับพื้นทันที แต่ด้วยความโชคดีที่เธอหันไปเห็นก่อน การหลบนั้นจึงทำได้อย่างฉิวเฉียดแบบพอดิบพอดี แต่เพราะรัศมีของส่วนที่ยื่นออกมาเพียงเล็กน้อยทำให้เธอหลบมันไม่พ้น
“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว จับเธอเป็นตัวประกันอีกคนเลยดีไหมเนี่ย
แสบนักนะ”
เจสสิก้าเอื้อมมือไปหยิบเศษไม้ที่หักอยู่ข้างๆ ฟาดเข้าที่หน้าแข้งของชายคนนั้นอย่างแรง โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว
“อ
อ๊ากกกกก !!!”
ความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วร่างทำให้เขากระโดดอย่างลืมตัว ก่อนที่จะล้มลงเอามือกุมที่หน้าแข้งของตัวเองด้วยความเจ็บปวด
“หนอย นังตัวดี !!”
พูดจบเขาก็เอื้อมมือไปคว้าเอาปืนที่หล่นอยู่ข้างๆ ขึ้นมา
ปังงงง !!!
กระสุนหนึ่งนัดถูกยิงใส่เข้าที่มือของผู้ก่อการร้ายตรงหน้าโดยไร้ความลังเล ก่อนที่เจสสิก้าจะเหยียบบริเวณแผลซ้ำและเตะให้ปืนนั้นกระเด็นออกไปจากระยะ
/นี่เบต้า ได้ยินแล้วตอบด้วย/
“อัลฟาได้ยินแล้ว เปลี่ยน” เจสสิก้าตอบกลับไป เธอรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าเพื่อนร่วมงานของเธอปลอดภัยดี เธอจึงค่อยๆ ถอยออกมาจากบริเวณนั้น โดยที่ไม่ลืมที่จะใช้กุญแจมือล๊อคตัวคนร้ายเอาไว้กับเสาเหล็กข้างๆ
“ทางนั้นเป็นไงบ้าง รายงานผลด้วย ?”
/นายตำรวจในทีมได้รับบาดเจ็บ 1 นายที่บริเวณชั้น 4 เพราะ ปะทะกับผู้ก่อการร้ายโดยบังเอิญ.../
“ไอนั่นชั้นจัดการเรียบร้อยแล้ว”
/นอกจากนี้ยังพบผู้บาดเจ็บอีกจำนวน 2 คนที่บริเวณชั้น 5 ของอาคาร จากการโดนเศษปูนหล่นมาทับ ตอนนี้กำลังทำการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอยู่.../
“ทราบแล้ว... กำลังจะขึ้นไปช่วยสมทบเดี๋ยวนี้แหล่ะ”
/ท่านครับ สถานการณ์ชั้น 3 เคลียร์ พบตัวประกันอีก 4 คน ทำการช่วยเหลือเรียบร้อยแล้วครับ !/
ลูกทีมของเธอที่แจ้งเข้ามา หลังจากที่ทำการช่วยเหลือตัวประกันและผู้ประสบภัยเรียบร้อยแล้ว เจสสิก้าจึงเดินย้อนกลับมายังจุดที่เธอจับผู้ก่อการร้ายเอาไว้
“เอ้า ! ไปได้แล้ว !!”
เธอพูดพร้อมกับพยุงตัวของผู้ก่อการร้ายขึ้นมาโดยการเอามือไพร่หลังเอาไว้
“นังตัวดี อย่าคิดว่าจะรอดออกไปจากที่นี่ได้เลยแล้วกัน !”
สิ้นเสียงของเขา เสียงระเบิดก็ดังขึ้นทันที
ตูมมมม !!!
เสียงระเบิดที่ดังขึ้นทำให้นายตำรวจที่อยู่ทางด้านนอกรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ซึ่งรวมทั้งแมทธิวด้วย
เขาหันกลับไปมองดูแมนชั่นที่ค่อยๆ ถล่มลงมาทีละน้อยๆ อย่างตกใจ
“เจสสิก้า !!!”
“ปล่อย ! ผมจะเข้าไปช่วยเธอ !!”
แมทธิวตะโกนอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับพยายามสลัดตัวให้หลุดจากเหล่าตำรวจที่ขัดขวางเขาเอาไว้
“บอกให้ปล่อย !!!”
ทางด้านของเจสสิก้าที่ยังคงติดอยู่ภายในตัวอาคารที่ค่อยๆ ทรุดลงทีละน้อยๆ ความรู้สึกเจ็บแปลบที่ขาขวาทำให้เธอต้องหันไปดู
เศษกระจกที่ปักทิ่มอยู่ทำให้เธอค่อยๆ ดึงขากลับเข้ามาหาตัว พร้อมกับกัดฟันแน่นและดึงเอาเศษกระจกนั้นออก
“บ้าชะมัด !!”
เธอสบถออกมาก่อนที่จะเห็นเลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาจากบาดแผล เจสสิก้าพยายามมองหาของที่จะใช้ในการห้ามเลือด และพบราวตากผ้าและเสื้อผ้าที่กองกระจัดกระจายอยู่ตรงหน้า ไม่ไกลจากเธอเท่าไรนัก
เธอคว้าเอาเสื้อที่กองอยู่ขึ้นมาตัวหนึ่ง ก่อนที่จะนำเสื้อตัวนั้นมาพันรอบแผลของเธอเอาไว้ และรัดมันจนแน่นเพื่อเป็นการห้ามเลือด
“หึหึ ฮะๆๆ”
เสียงหัวเราะชวนหมั่นไส้ดังขึ้นทำให้เจสสิก้าต้องหันไปมอง
“พยายามไปก็เท่านั้น ยังไงเธอก็ไม่รอดอยู่ดี...”
เจสสิก้าค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นมาพร้อมกับจ้องไปที่ชายคนนั้น
“แกต่างหากที่ไม่รอด...”
ร่างของชายหนุ่มคนดังกล่าวที่เหลือแต่เพียงร่างกายครึ่งบน ครึ่งล่างของเขาถูกคอนกรีตขนาดใหญ่ทับจนแหลกละเอียด ซึ่งจากที่ดูแล้วเขาเองก็คงจะอยู่ได้อีกไม่นาน
“เชิญแกตายไปคนเดียวเถอะ !”
พูดจบเธอก็เดินออกมาจากบริเวณนั้นทันที โดยที่ไม่เหลียวหลังกลับไปมองอีกเลย
“นี่เจสสิก้า ได้ยินแล้วตอบด้วย”
/.../
“บ้าชะมัด !”
เครื่องมือสื่อสารที่ถูกตัดสัญญาณ ทำให้ไม่สามารถติดต่อกับภายนอกได้
เจสสิก้าพยายามคิดหาทางออกจากในสภาวะกดดันดังกล่าว เธอค่อยๆ กัดฟันและเดินมาหยุดอยู่ที่ขอบหน้าต่าง และเห็นรถดับเพลิงและตำรวจที่อยู่ภายนอกต่างก็ทำงานกันอย่างวุ่นวายเลยทีเดียว
ตูมมมมมมม !!!!
เสียงระเบิดที่ดังขึ้นมาอีกครั้งทำให้อาคารนี้เริ่มจะถล่มเร็วกว่าเดิม
เพล้งงงง !!!
เจสสิก้าหยิบเศษหินข้างๆ ตัวเขวี้ยงออกไปยังภายนอก พร้อมกับมายืนอยู่ตรงหน้าต่างบานดังกล่าว
“เฮ้ !!!”
/แกมม่า B พบตัวเธอแล้วครับ อยู่ที่ ชั้น 4 ของอาคาร/
“ว่าไงนะ ?”
แมทธิวถามขึ้นอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
/แกมม่า B พบตัวเธอแล้วครับ/
ได้ยินดังนั้น แมทธิวจึงรีบออกมาจากรถสังเกตการณ์ทันที สายตาของเขาจับจ้องไปยังหญิงสาวที่กำลังโบกไม้โบกมือขอความช่วยเหลืออยู่บริเวณชั้น 4
“Oh my gosh
”
“เจสสิก้า !!”
เขาตะโกนเรียกเธอพร้อมกับชี้ให้ทางหน่วยดับเพลิงรีบทำการช่วยเหลือเธอออกมาอย่างเร่งด่วน
“เธอนี่มันบ้าชะมัดเลย !”
แมทธิวพูดกับเจสสิก้าทันทีที่เธอลงมาถึงพื้นอย่างปลอดภัยแล้ว เขารู้สึกโล่งอกและดีใจที่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก จะมีก็เพียงที่ขาของเธอเท่านั้น ที่ได้รับบาดเจ็บหนักพอสมควร
“เอาน่ะ จบลงด้วยดีก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ ?”
เจสสิก้าพูดและทำท่ายักไหล่สบายๆ เหมือนกับไม่ได้คิดอะไร ก่อนที่เธอจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาบาดแผลต่อไป
อีกหนึ่งวันที่ผ่านพ้นไปโดยที่ไม่มีวี่แววของเจสสิก้า ยูริรู้สึกเป็นห่วงเธอเป็นอย่างมาก เพราะตามปกติแล้ว เจสสิก้าจะต้องมาตรงเวลาเสมอๆ
นี่ก็ผ่านไป 2 วันแล้วนะ ทำไมเธอถึงหายไปเลยล่ะเจสสิก้า
ยูริเฝ้าเป็นกังวลแต่กับเธอ จนงานทุกอย่างในร้านนั้นตกไปเป็นของซูซี่อย่างช่วยไม่ได้
หรือว่าเธอจะเป็นอะไรไป
สายตาของเธอยังคงจับจ้องออกไปยังนอกร้านอย่างมีความหวัง
แสงแดดอ่อนๆ สีส้มที่สาดส่องเข้ามายังภายในร้าน อีกทั้งยังความเงียบที่ปกคลุมไปทั่วทุกบริเวณทำให้บรรยากาศในตอนนี้ดูเหงาๆ
ยูริยังคงนั่งเหม่อมองออกไปยังนอกร้านอย่างเศร้าๆ ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
เธอหันมาหาซูซี่ที่นั่งเล่น PSP อยู่อย่างเมามันส์ พร้อมกับพูดขึ้น
“ฝากดูร้านด้วยแปปแล้วกัน ขอไปเดินเล่นหน่อย
”
พูดจบเธอก็เดินออกไปจากร้านทันที ปล่อยให้ซูซี่มองตามแผ่นหลังของเธอไปและนึกในใจ
เค้าเป็นอะไรของเค้านะ
ยูริเดินออกมาตามทางเรื่อยๆ ท้องฟ้ายามเย็นที่ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีดำ จนแสงอาทิตย์นั้นค่อยๆ ลับขอบฟ้าไปทีละน้อยๆ แสงไฟตามท้องถนนที่ค่อยๆ ติดขึ้นมาทีละดวงๆ ทำให้ท้องถนนเริ่มประดับไปด้วยแสงไฟ
สายลมที่สัมผัสกับผิวกายของเธออย่างอ่อนๆ ให้ความรู้สึกหนาวเหน็บยิ่งนัก อาจจะเป็นเพราะสภาพอากาศที่เย็นลงหรืออาจจะเป็นเพราะเสื้อผ้าที่บาง ทำให้เธอรู้สึกหนาวกายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“ตอนนี้ เธอไปอยู่ที่ไหนกันนะ
เจสสิก้า”
ยูริพูดกับตัวเองเบาๆ และเงยหน้าขึ้นมาท้องฟ้าอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ดวงอาทิตย์นั้นลับขอบฟ้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่ลอยเด่นอยู่กลางท้องฟ้า และดวงดาวที่เห็นอยู่กระจัดกระจายกันออกไป ทำให้รู้สึกว้าเหว่ขึ้นมา
ยูริเดินมาหยุดอยู่ที่ช๊อปแห่งหนึ่ง เสียงเพลงที่ดังแว่วออกมาเบาๆ ทำให้เธอต้องหยุดอยู่กับที่เพื่อฟังบทเพลงดังกล่าว พร้อมกับหลับตาลงและยิ้มออกมาบางๆ
I found myself today
Oh, I found myself and ran
away
Something pulled me back
The voice of reason I forgot, I had
All I know is you not here to say
What you always used to say
But, it’s written in the sky
tonight
ยูริก้าวเดินออกมาอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนที่จะเริ่มต้นฮัมเพลงไปเบาๆ
So I won’t give up
No I won’t break down
Sooner than it seems life
turns around
And I will be strong, Even if it’s all goes wrong
When I’m standing in the dark I’ll still believe
ยูริเงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้าอีกครั้ง พร้อมกับนึกไปถึงช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเจสสิก้า
“Someone’s watching over
me”
หลังจากที่ได้เดินเที่ยวเตร่มาจนพอใจแล้ว ยูริจึงตัดสินใจเดินกลับมายังร้านของตน และลงมือปิดร้าน ซูซี่หลังจากที่ช่วยเธอเสร็จจึงเดินเข้ามาหาใกล้ๆ พร้อมกับพูดขึ้น
“เจ้านายคะ
”
“อะไรรึ ?”
เธอหันไปถามขณะที่เลื่อนประตูเหล็กปิดหน้าร้าน
“พรุ่งนี้ขอลานะคะ
”
“จะไปไหนงั้นรึ ?”
“ก็พรุ่งนี้มันวันหยุดไงคะ เลยว่าจะขอเดินทางกลับไปหาครอบครัวบ้างน่ะค่ะ
”
“ก็เอาสิ
พรุ่งนี้ก็ไม่มีอะไรมากอยู่แล้ว”
ยูริตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจเท่าไรนัก ก่อนที่เธอและซูซี่จะแยกกัน
ยูริมองตามหลังซูซี่ที่ค่อยๆ ไกลออกไปอยู่สักพัก ก่อนที่เธอเองก็จะเดินกลับเข้าไปยังในบ้านของตัวเองบ้าง
เธอเดินขึ้นมายังห้องนอนชั้นสองของตัวเอง พร้อมกับหยิบโน๊ตบุ๊คขึ้นมากางและกดเปิดเอาไว้ ก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไป สายน้ำอุ่นๆ ที่ไหลสัมผัสร่างกายลงไปสู่พื้นให้ความรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก หลังจากการทำงานภายในหนึ่งวัน
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ เธอจึงเดินกลับมาในห้องนอน และหยิบโน๊ตบุ๊คนั้นมาวางและปืนขึ้นไปนอนเล่นบนเตียงอย่างสบายอารมณ์
เธอกดเลือกเพลงฟังสบายๆ ขณะที่เลือกดูปืนรุ่นต่างๆ ไปด้วย
รุ่นนั้นก็ดี
รุ่นนี้ก็สวย
เธอเลือกดูปืนรุ่นต่างๆ อย่างเพลิดเพลินจนลืมเวลาเลยทีเดียว เธอกดปิดเครื่องไปก่อนที่จะพลิกตัวนอนหงายขึ้น และสูดหายใจเข้าลึกๆ
สายตาของเธอเหลือบหันไปทางนาฬิกาบนผนังห้องอีกครั้งหนึ่ง
จะเที่ยงคืนอยู่ละ
เธอค่อยๆ เอื้อมมือไปปิดสวิตไฟบริเวณหัวนอน จนบรรยากาศภายในห้องนั้นมืดสนิท แสงจันทร์อันน้อยนิดที่สาดแสงเข้ามาทำได้แค่เพียงมองเห็นภาพได้อย่างเลือนลางเท่านั้น
ยูริถอนหายใจออกมาอีกเฮือกหนึ่ง และผลิกตัวหันหลังให้กับหน้าต่าง ก่อนที่เธอจะผลอยหลับไปในที่สุด
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น