ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : + + Day 03 : Near Miss + + [แก้คำผิด 100%]
ทางด้านของยูริที่กำลังปีนบันไดในช่องลิฟต์พยายามจะขึ้นไปยังชั้นบนที่เพื่อนสาวของเธอออกไป เพราะมันมีเพียงทางนั้นทางเดียวที่เป็นทางออก เธอยังคงเดินหน้าปีนต่อไปจนกระทั่งเหลืออีกเพียงแค่ชั้นเดียวเท่านั้นก็จะถึงจุดหมาย เธอเอื้อมมือไปเกาะที่ขอบพื้นเอาไว้พยายามจะดึงตัวขึ้นไป
“ฮึบบ !!”
จนเธอตัดสินใจย่อตัวลงนิดหนึ่งและอาศัยแรงถีบของขาทั้งสองข้างเป็นแรงส่งจนสามารถปีนขึ้นมาได้สำเร็จ ภาพแรกที่เห็นมีเพียงร่างที่นอนจมกองเลือดของเหล่าผีดิบตายซากเท่านั้น ยูริใช้เวลาที่มีเช็คดูเพื่อความแน่ใจว่าเพื่อนสาวของเธอจะไม่เป็นหนึ่งในนี้ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
แสดงว่าเธอมุ่งหน้าไปที่โรงจอดรถแล้วสินะยุน...
เมื่อคิดได้ดังนั้นยูริจึงมุ่งหน้าไปทางบันไดหนีไฟทางด้านข้างทันที เพราะอย่างน้อยมันก็ดีกว่าเสี่ยงอยู่ในตัวอาคารที่เต็มไปด้วยพวกผีดิบเหล่านี้
“โออออออ !!!!”
ผีดิบตนหนึ่งที่เห็นยูริเข้ามาในระยะพุ่งเข้าหาด้วยความรวดเร็ว แต่กลับถูกยูริใช้ขาของเธอเตะฟาดเข้าที่ใบหน้าอย่างแรงจนกระเด็นกลิ้งไปกับพื้น พลันสายตาเหลือบไปเห็นตู้อุปกรณ์สำหรับดับเพลิงอยู่เยื้องออกไปด้านหน้า พร้อมกับขวานเล่มหนึ่งที่วางติดผนังอยู่ข้างๆ ตู้นั้น
ยูริตรงเข้าไปยังตู้นั้นทันที เป็นจังหวะเดียวกับที่ผีดิบตัวอื่นๆ จะวิ่งเข้าใส่เธอ
“โออออออออออ !!!!!”
ยูริวิ่งเข้าไปพร้อมกับหยิบเอาขวานเล่มนั้นขึ้นมาถือไว้เป็นจังหวะเดียวกับที่ผีดิบตนหนึ่งจะพุ่งเข้ามาในระยะประชิด เธออาศัยแรงเหวี่ยงเหวี่ยงขวานในมือขวาเฉาะเข้าที่กลางแสกหน้าของเจ้าผีดิบตนนั้นอย่างแรง
โพล๊ะ !!!
เสียงของกะโหลกศีรษะถูกขวานจามเข้าใส่ฟังดูช่างน่าสยดสยองยิ่งนัก ราวกับกะโหลกศีรษะนั้นถูกผ่าออกเป็นสองซีก เลือดสีแดงสดพุ่งพรวดออกมาจนเปรอะเปื้อนเสื้อผ้า
ผัวะ !!!
เธอใช้ขาอันเรียวงามของตนเตะถีบเข้าที่กลางลำตัวและออกแรงดึงขวานที่ปักหัวของผีดิบตนนั้นออก ก่อนที่ร่างนั้นจะล้มลง ยูริหมุนตัวอาศัยแรงเหวี่ยงเหวี่ยงขวานเฉาะเข้าใส่กลางอกของผีดิบอีกตัวหนึ่งทันทีพร้อมกับใช้ขาของเธอถึบอัดเข้าใส่บริเวณยอดอกและดึงขวานออก
พรวดดดดด !!!
ผีดิบอีกตนหนึ่งที่พุ่งเข้ามาถูกด้ามขวานกระทุ้งเข้าใส่อย่างแรงจนเสียหลักเซถอยไป ยูริไม่รอช้าที่จะตามเข้าไปและเหวี่ยงขวานเฉาะเข้ากลางแสกหน้าของเจ้าผีดิบตนนั้นโดยที่ไม่ปล่อยให้มันได้มีโอกาสโต้ตอบเลยแม้แต่น้อย
“ย๊ากกกก !!!”
ฉัวะ !!!
ยูริเหวี่ยงขวานในมือฟาดเข้าที่คอของผีดิบที่กำลังตรงเข้ามาอย่างแรงจนส่วนหัวนั้นขาดกระเด็นและกลิ้งไปกับพื้น ส่วนของลำตัวที่ไร้หัวยังคงเดินใกล้เข้ามาราวกับจะทำร้ายเธอ แต่ก็มาสิ้นฤทธิ์และทรุดลงตรงหน้า เลือดสีคล้ำสาดกระเซ็นมาจนเปรอะขา แต่ยูริกลับเตะมันออกไปให้พ้นทางและเริ่มวิ่งฝ่าออกไปจากฝูงผีดิบเหล่านี้
ผัวะ !!!
เธอใช้ด้ามขวานกระทุ้งเข้าใส่ซอมบี้ที่ขวางหน้าอยู่อย่างแรงจนร่างนั้นหงายล้มไปเกิดเป็นช่องว่างพอที่จะแทรกตัวผ่านไปได้ แต่ยิ่งฟันไปเท่าไร ยิ่งฆ่าไปเท่าไร จำนวนของมันก็ดูเหมือนจะไม่ได้ลดน้อยลงเลย… ตรงกันข้าม มันกลับยิ่งมากขึ้น มากขึ้นจนไม่รู้จักหมดจักสิ้น
“โออออออออออ !!!!!”
ผัวะ !!
ยูริใช้ด้านสันของขวานเหวี่ยงฟาดใส่เจ้าผีดิบที่พุ่งเข้ามาหาตน ก่อนที่จะอาศัยแรงส่งจากการเหวี่ยงขวานนั้นฟาดกลับไปยังเจ้าผีดิบที่อยู่ทางด้านหน้าอย่างแรง
ฉึกกกก !!!
ส่วนกะโหลกศีรษะที่ถูกขวานนั้นเหวี่ยงฟาดเข้าใส่ทำให้มันแบะแยกออกเป็นสองซีก เลือดพุ่งพรวดออกมาไม่ต่างอะไรกับท่อประปาแตก ยูริอาศัยช่วงที่เจ้าผีดิบตนนั้นค่อยๆ ทรุดลงถีบเข้าใส่ฝูงผีดิบทางด้านหลังอย่างแรงจนพากันล้มระเนระนาดไปเปิดเป็นช่องทางให้เธอได้วิ่งออกมาจากจุดๆ นั้น
“อือออออ…”
ยูริวิ่งผลักและคอยถีบเจ้าผีดิบพวกนั้นออกไปให้พ้นทาง กระทั่งมาหยุดอยู่ที่ทางลงไปยังชั้นล่าง เลข 3 บนป้ายบริเวณจุดพักบันไดทำให้รู้ว่าเหลือระยะทางอีกเท่าไรเธอถึงจะไปถึงยังที่หมาย
ที่ๆ ได้นัดกับเพื่อนสาวเอาไว้…
.
.
.
ป่านนี้เธอจะเป็นยังไงบ้างนะ ยุนอา…
หลังจากที่รอดมาจากฝูงผีดิบกระหายเลือดได้แล้ว ยูริก็เลือกที่จะใช้ห้องพักที่อยู่บริเวณชั้น 2 เป็นจุดแอบซ่อนตัวเสียก่อน พร้อมกับหาข้าวของและอุปกรณ์ที่พอจะใช้ยังชีพได้ติดไม้ติดมือไปด้วย
แอ๊ดดด…
เธอเปิดประตูเข้ามายังห้องนอนที่อยู่ทางด้านใน บรรยากาศภายในนั้นค่อนข้างจะเงียบสงบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอเดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะข้างๆ หัวนอนและไล่หาดูสิ่งของที่พอจะเป็นประโยชน์ได้บ้าง ก่อนที่จะพบกับไฟฉายกระบอกหนึ่งเข้า
กริ๊กก !
ทันทีที่กดเปิด แสงไฟจากกระบอกไฟฉายก็ทำให้เธอสามารถเห็นสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และเมื่อมันมีไฟฉาย แถวๆ นี้มันก็น่าจะมีถ่านไฟฉายสำรองบ้างสิน่า… เมื่อคิดได้ดังนั้นยูริจึงเริ่มค้นหาต่อไปอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะตัดสินใจรื้อถอดมันออกมาจากนาฬิกาปลุกข้างๆ
เพราะอย่างน้อยมันก็ช่วยยืดอายุการใช้งานไปได้บ้างล่ะนะ…
เธอหันกลับและก้าวขาเดินออกมาจากห้องนอนนั้นตรงไปยังบริเวณห้องครัวที่อยู่ถัดออกไป
กึกกๆ กึกกก…
เสียงที่เหมือนกับมีอะไรเคลื่อนไหวอยู่ทำให้ยูริต้องชะงักฝีเท้าและสาดไฟฉายส่องเข้าไปยังห้องครัวนั้นด้วยความหวาดระแวง เพราะมันเหมือนกับตอนนี้ เธอไม่ได้อยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง
“นั่นใครน่ะ ?”
พร้อมกับค่อยๆ ก้าวขาเข้าไปอย่างช้าๆ แสงไฟยังคงส่องวาบเข้าไปด้านในทีละนิดๆ กระทั่งเห็นบางสิ่งบางอย่างขยับอยู่ภายใน มันเหมือนกับเป็นเงาสีดำคล้ายกับคน และที่สำคัญมันกำลังหันหลังให้กับเธอด้วย
“นั่นใครน่ะ ?”
เธอถามย้ำอีกครั้ง ก่อนที่จะปรับไฟฉายให้สูงขึ้นจนเห็นส่วนบนของหญิงสาวคนนั้น เธอค่อยๆ หันกลับมาอย่างช้าๆ ด้วยใบหน้าที่ดูเลื่อนลอย ในมือนั้นถือมีดที่ชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงสดที่กำลังหยดติ๋งๆ กระทั่งสายตาของทั้งสองประสานกัน รอยยิ้มจึงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาวคนนั้น
หากแต่มันไม่ใช่รอยยิ้มที่ให้ความรู้สึกเป็นมิตรเอาเสียเลย
“ผ… ผีดิบอีกตัว”
อะไรนะ ?
“เจอ… เจอผีดิบอีกตัวแล้ว จ… เจอแล้ว”
หญิงสาวคนนั้นพูดพร้อมกับแสยะยิ้มก่อนที่จะง้างมีดวิ่งเข้ามาหายูริด้วยความเร็ว
“ตายยยยยย !!!!”
“ด… เดี๋ยววว !!!!”
ใบมีดพุ่งเฉียดใบหน้าไปเพียงไม่กี่เซนฯ สร้างความหวาดผวาให้กับยูริไม่น้อยที่อยู่ๆ หญิงสาวคนนี้ก็จ้องจะเอาชีวิตของเธอ ยูริมองดูใบหน้าของหญิงสาวคนนั้น ดูแล้วเหมือนกับเธอจะเสียสติจนกลายเป็นคนบ้าไปเสียแล้ว
วืดดดดดด !!!
ใบมีดเฉียดผ่านเธอไปอีกครั้งอย่างฉิวเฉียด ยูริอาศัยจังหวะที่หญิงสาวคนนั้นพลาดฉวยจับข้อมือของเธอเอาไว้และบิดอย่างแรงจนมีดที่ถืออยู่ในมือนั้นหล่นลงกับพื้น
“นี่เธอเป็นบ้าอะไรของเธอเนี่ย !!?”
ยูริตะคอกใส่ แต่ดูเหมือนหญิงสาวคนนั้นจะไม่ยอมฟังอะไรเธอเลย เธอยังคงจ้องจะเอาชีวิตของยูริโดยที่คิดว่าเธอเป็นซอมบี้ ซึ่งสาเหตุก็น่าจะมาจากการช็อคอย่างรุนแรงจนทำให้เธอคลั่งและเสียสติ ถึงได้มาถือมีดไล่ฟันเธออยู่เมื่อครู่
“ฟังชั้นก่อน… โอ๊ยยยย !!!”
หญิงสาวคนนั้นอาศัยช่วงที่ยูริผ่อนแรงสะบัดข้อมือจนหลุดออกและคว้าเอามีดที่หล่นอยู่ใกล้ๆ ขึ้นมาและฟันไปที่ขาของยูริอย่างรวดเร็ว แต่เพราะว่ารีบจนเกินไปจึงทำให้ระยะนั้นคลาดเคลื่อนและผลที่ตามมาก็เพียงแค่เกิดเป็นรอยแผลถากๆ เท่านั้น
ผัวะ !!
ยูริใช้ขาของเธออีกข้างเตะสวนกลับไปทั้งๆ ที่ไม่อยากจะทำเท่าไรนัก แต่ดูท่าผู้หญิงคนนี้จะไม่สนใจว่าเธอเป็นคนหรืออะไรแล้ว จากสายตา… เธอดูเหมือนจ้องจะฆ่าให้ตายกันไปข้างเสียมากกว่า ซึ่งขณะเดียวกันทางประตูห้องที่ปิดไม่สนิทก็เปิดแง้มออกพร้อมกับเชื้อเชิญให้เหล่าผีดิบที่อยู่ทางด้านนอกนั้นเข้ามาทางด้านในโดยที่ต่างฝ่ายก็ต่างไม่รู้อะไรเลย
“ตายยยยย !!!!”
หญิงสาวคนนั้นยังคงไม่เลิกบ้า เธอวิ่งคว้ามีดพุ่งเข้าหายูริอย่างรวดเร็ว แต่ยูริก็สามารถพุ่งหลบได้อย่างฉิวเฉียดจนร่างของหญิงสาวคนนั้นไปสะดุดเข้ากับขาโต๊ะและกลิ้งล้มลงกับพื้นอย่างแรง
โครมมม !!
ฉึกกก !!!
“อ๊ากกกกกก !!!!!”
ซ้ำร้ายเธอยังถูกมีดของตัวเองปักเข้าที่ช่วงท้องเพราะนำหนักตัวที่กดทับลงไปทำให้มีดนั้นจมหายเข้าไปเกือบมิด ท่าทางของเธอดูทรมานยิ่งนักเพราะ ‘ความกลัว’ สามารถเปลี่ยนให้คนปกติระแวงจนถึงกับกลายเป็นคนบ้าได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับผู้หญิงที่กำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่ตรงหน้า
แต่นั่นก็ไม่ร้ายเท่ากับการที่มีฝูงผีดิบเข้ามาอยู่ในห้องด้วย
เมื่อเห็นดังนั้น ยูริจึงค่อยๆ ก้าวถอยออกจากร่างของหญิงสาวคนนั้นที่ยังคงดิ้นไปดิ้นมาพยายามจะเอาตัวให้รอด ผีดิบตนหนึ่งค่อยๆ ก้มลงจับส่วนขาของเธอเอาไว้และจัดการกัดกินอย่างไร้ซึ่งความปราณี
กร้วมมม !!
“กรี๊ดดดดดด !!!!”
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นพร้อมๆ กับที่หญิงสาวคนนั้นจะพยายามใช้ขาอีกข้างถีบเจ้าผีดิบที่กำลังกัดขาอีกข้างของเธออยู่ให้หลุดออกไป แต่สิ่งที่หลุดไปไม่ได้มีแต่ร่างของมันเท่านั้น กลับกลายเป็นว่าเนื้อส่วนขาของเธอที่ถูกกัดจนขวาดวิ่งจะหลุดติดปากเจ้าผีตนนั้นไปด้วย
“อ๊ากกกกก ปล่อย ปล่อยช้านนนนน !!!!!”
เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นไปทั่ว กลิ่นคาวเลือดยิ่งเหมือนกับเป็นตัวกระตุ้นให้เหล่าผีดิบที่อยู่ใกล้ๆ ยิ่งกรูกันเข้ามา ไม่เพียงแค่ส่วนขา แต่ผีดิบอีกตัวหนึ่งจับเข้าที่ช่วงศีรษะของผู้หญิงคนนั้นและกัดเข้าที่ใบหน้า สร้างความสยดสยองให้กับยูริไม่น้อยจนเธอเองก็แทบอยากจะขย้อนออกมา
เสียงกรีดร้องที่เหมือนกับคำเชื้อเชิญให้ผีดิบเข้ามารุมกัดกิน ทำให้ยูริต้องรีบชิ่งออกมาจากห้องๆ นั้น สายตาของหญิงสาวคนนั้นจับจ้องมาที่ยูริ ก่อนที่จะสิ้นใจตายไปต่อหน้าต่อตาอย่างทรมาน
.
.
.
------------------------------
“บ้าเอ๊ยย !!!”
ทางด้านของยุนอาที่กำลังประสบกับปัญหาร้ายแรงอย่างมากก็คือลูกกระสุนที่บรรจุอยู่ในปืนนั้น มันหมดเสียแล้ว แต่จำนวนของผีดิบที่อยู่ตรงหน้า มันก็ยังไม่ยอมลดน้อยลงไปเลย
“โออออออ !!!!”
กระทั่งผีดิบตนหนึ่งจะพุ่งเข้าใส่จากทางด้านข้างโดยที่เธอไม่ทันระวังจนทำให้ปืนนั้นร่วงตกไปยังชั้นล่างผ่านช่องตรงบันได โชคยังดีนักที่เธอสามารถไหวตัวทันและใช้เข่าของเธอกระทุ้งเข้าที่สีข้างของเจ้าผีดิบตนนั้นและพลิกตัวหลบออกมาจากฝูงผีดิบที่กำลังกรูกันเข้ามา
ผัวะ !!!
ปลายขาเตะตวัดเข้าใส่ข้อพับของผีอีกตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ อย่างแรงจนมันล้มกลิ้งลงกับพื้น พลันสายตาเหลือบไปเห็นแท่งเหล็กที่วางพิงกำแพงเอาไว้ เธอตัดสินใจพุ่งไปหยิบคว้ามันขึ้นมาและจัดการหวดใส่ผีดิบตัวหนึ่งที่กำลังพุ่งเข้าหาอย่างแรง และจังหวะที่ผีดิบตนนั้นเสียการทรงตัว ยุนอาก็พุ่งสวนกลับเข้าไปพร้อมกับใช้ปลายอีกด้านหนึ่งกระทุ้งเข้าที่ปากที่กำลังอ้าของมันอย่างแรง
ฉึกกก !!!
“อ่อคคคคคค !!!!”
ร่างนั้นเซถอยไปตามแรงจนชนเข้ากับผีดิบที่อยู่ทางด้านหลังและพากันเซล้มลงไปทั้งคู่ ยุนอาไม่รอให้เจ้าผีตัวนั้นได้ลุกขึ้นมาเธอชิงตัดหน้าด้วยการใช้เท้ายันและดึงเอาแท่งเหล็กที่เสียบทะลุลำคอออกมาก่อนที่จะหวดซ้ำเข้าที่ท้ายทอยของมันอย่างแรง
ผัวะ !!!
.
ผัวะ !!!!
.
.
“ย๊ากกกกก !!!”
แท่งเหล็กในมือถูกหวดเข้าใส่ส่วนหัวของผีดิบที่กำลังตรงเข้ามาอย่างแรงจนส่วนคอนั้นถึงกับหัก ร่างกระเด็นไปกระแทกกับกำแพงอย่างแรงก่อนที่จะทรุดลง ยุนอาตามเข้าไปและใช้แท่งเหล็กนั้นหวดซ้ำเข้าไปอีกครั้งเพื่อความชัวร์ เลือดสีแดงสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนตามเนื้อตามตัวไม่ต่างอะไรกับฆาตกรที่เพิ่งจะฆ่าคนตายมา
“แฮ่กๆ แฮ่กก…”
เธอหอบหายใจถี่เพราะเริ่มรู้สึกเหนื่อย ก่อนที่จะตัดสินใจพุ่งเข้าใส่เอาเหล็กแท่งนั้นฟาดเข้าใส่ผีดิบตรงหน้าอีกครั้งอย่างแรง นอกจากนั้นเธอยังอาศัยช่วงที่ผีดิบนั้นเซล้มลงกระโดดถีบใส่ผีดิบทางด้านหลังจนล้มเปิดเป็นทางให้เธอสามารถฝ่าออกไปจากวงล้อมของผีนรกเหล่านี้ได้ แม้ว่ามันจะเป็นทางคนละทางกับที่เธออยากจะไปก็ตาม
“ย๊ากกก !!!!”
ยุนอาวิ่งผ่านเหล่าผีดิบกระหายเลือดที่วิ่งตามมาติดๆ พร้อมๆ กับบิดเช็คดูไปด้วยว่าเธอสามารถหลบเข้าไปพักที่ห้องไหนได้บ้าง แต่ไม่ว่าจะห้องไหนๆ เธอก็ไม่สามารถเข้าไปได้เลย จนกระทั่งวิ่งเลี้ยวมายังทางลงไปยังชั้น 2 จากอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งข้างๆ นั้นมีทางเชื่อมไปสู่บันไดหนีไฟด้วย
“โอออออออ !!!!!”
“อย่าสะเออะมาขวางทางชั้น !!!”
ผัวะ !!!
แท่งเหล็กในมือถูกฟาดอัดเข้าใส่กลางกะโหลกอย่างแม่นยำจนร่างนั้นถูกแรงอัดกระเด็นร่วงตกบันไดไป พลันสายตาเหลือบไปเห็นเงาดำๆ ที่กำลังวิ่งตรงเข้ามาด้วยความเร็วสูง รูปร่างของมัน… ช่างคล้ายกับ…
สุนัข !!
“กรรรรรรรร !!!!!!”
สุนัขตัวหนึ่งที่วิ่งเข้ามากระโดดพุ่งเข้าใส่ยุนอาอย่างเร็วโดยที่เธอไม่ทันได้ระวัง ร่างนั้นถูกอัดกระแทกเข้าอย่างจังจนล้มกลิ้งตกบันไดไปด้วยกันอย่างแรง
“อั่กกกก !!”
ต่างฝ่ายต่างก็ได้รับบาดเจ็บไปไม่น้อยกว่ากัน แต่เจ้าสุนัขตัวนั้นกลับลุกขึ้นมาได้ก่อนและตรงเข้ามาจะขย้ำเธออีกครั้ง ด้วยความตกใจยุนอาจึงเผลอถีบสวนกลับไปเต็มแรง
“กรี๊ดดดดดดดด !!!!”
พลั่คคค !!!
“เอ๋งงงงง !!!!!”
รองเท้านั้นกระแทกเข้ากับฟันหน้าของมันอย่างจังจนทำให้เขี้ยวนั้นหักไปหลายซี่ก่อนที่จะกระเด็นลอยออกไป ยุนอาที่คิดว่ารอดแล้วเมื่อเหลือบหันมองไปยังด้านบนของบันไดชั้น 3 ที่เธอร่วงลงมา เงาดำของสุนัขอีกตัวหนึ่งกำลังยืนจ้องอยู่ตรงนั้น ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าใส่ด้วยความรวดเร็ว
“กรรรรรรรร !!!!!”
.
.
ด้วยความตกใจทำให้เธอมองไปยังรอบตัวด้วยความร้อนลนพยายามจะหาอะไรเข้ามาป้องกันตัว
“เอ๋งงงงงงงง !!!!!”
แต่สิ่งที่เธอคว้าได้กลับเป็นต้นไม้ในกระถางที่ตั้งเอาไว้ประดับเพื่อความสวยงาม แต่เธอกลับยกเหวี่ยงมันขึ้นมาฟาดไปยังสุนัขตัวนั้นราวกับมันเป็นแผ่นโฟมอันบางเบา
ผัวะ !!!
ร่างนั้นถูกแรงเหวี่ยงของกระถางอัดฟาดเข้ากลางลำตัวจนได้ยินเสียงกระดูกแตกละเอียด ก่อนที่จะปลิวไปพร้อมๆ กับกระถางนั้นและกระแทกเข้ากับข้างฝา สุนัขผีดิบอีกตัวยังคงไม่ละทิ้งความพยายาม มันยังจะกระโจนเข้าใส่ยุนอาอีกครั้ง แต่ถูกยุนอาหยิบคว้าเอาแท่งเหล็กที่ปลิวกระเด็นมาด้วยกันเสียบสวนกลับเข้าไป
ความหวาดกลัวดังกล่าวทำให้เธอต้องหลับตาลงทำใจเตรียมที่จะถูกขย้ำ และยังคงหลับตาอยู่อย่างนั้น... กระทั่งเวลาผ่านไปสักพัก ก็ยังคงไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดจากการถูกขย้ำ... นั่นจึงทำให้ยุนอาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าคือเขี้ยวของเจ้าสุนัขตัวนั้นที่อยู่ห่างจากใบหน้าของเธอไปเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น
แท่งเหล็กที่ถืออยู่ในมือถูกเสียบเข้าที่คอหอยจนทะลุลำตัวไป แม้ว่าร่างนั้นจะยังคงไม่สิ้นฤทธิ์และยังคงกระตุกอยู่นิดๆ ด้วยความตกใจจึงทำให้ยุนอาปล่อยมือจากแท่งเหล็กนั้นและใช้ขาของเธอถีบร่างนั้นออกไปไกลๆ
และลุกขึ้นวิ่งออกมาจากตรงนั้นอีกครั้ง
.
.
.
“แฮ่กกๆ แฮ่กกก...”
ยุนอายังคงวิ่งมาตามเส้นทางเรื่อยๆ ก่อนที่จะเลี้ยวกลับมายังทางหนีไฟในตอนแรก น่าแปลกที่ในตอนแรกบริเวณนี้มีแต่เหล่าผีดิบเดินได้ แต่ตอนในนี้มันกลับว่างเปล่า มีเพียงแต่ซากศพที่นอนจมกองเลือดอยู่ระเกะระกะราวกับเพิ่งจะมีใครผ่านไป...
หรือว่าจะเป็น..
“ยูริ !!!”
“ยูริ~~~~~ !!!”
“…”
เสียงที่แว่วมาแต่ไกลทำให้หญิงสาวร่างสูงที่กำลังดึงขวานออกจากร่างของซอมบี้ตัวหนึ่งต้องชะงักและหันมองไปทางชั้นสองหรือสามทางด้านขวาของตน เสียงนั้นมันช่างเหมือนกับยุนอาเสียเหลือเกิน เธอใช้ขายันร่างนั้นเอาไว้และดึงเอาขวานที่ชุ่มไปด้วยเลือดขึ้นมาก่อนที่จะใช้ขาของตนเตะซ้ำเข้าไปที่ใบหน้าอย่างแรงจนมันแน่นิ่งไป
“ยูริ~~~ !!”
ยุน ?
“เฮ้ !! ชั้นอยู่นี่ !!!”
เธอตะโกนตอบและรอฟัง ตอนนี้ยูริรู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมากเพราะรู้ว่าเพื่อนสาวของตนยังคงปลอดภัยดี เธอเปลี่ยนเป้าหมายจากโรงจอดรถที่อยู่ทางด้านหน้าวิ่งตามเสียงของยุนอาไปเรื่อยๆ จนมาถึงบริเวณด้านข้างของตัวอาคาร... ตรงบันไดหนีไฟ
“ยุน !”
“ยูล !!!”
เมื่อได้พบกันอีกครั้ง ความรู้สึกดีใจมันก็แทรกเข้ามาจนแทบจะทำให้น้ำตาไหล ยุนอาวิ่งลงบันไดมาเรื่อยๆ เช่นเดียวกับยูริที่วิ่งไปรอรับเพื่อนสาวตรงทางลงแต่สิ่งที่พบอยู่เบื้องหน้าคือประตูเหล็กที่เลื่อนปิดเอาไว้ และที่ยิ่งไปกว่านั้น มันไม่มีช่องให้ลอดผ่านออกมาได้เลย
“ยุน !”
“ยูลล !!”
“บัดซบ !”
ยูริสบถออกมาอย่างหัวเสียพยายามจะหาวิธีเปิดประตูที่ปิดเอาไว้ เธอลองเดินไปดูทางด้านข้างของบันไดและอ้อมไปทางด้านหลัง ทางเดียวที่จะออกมาจากตรงนั้นได้คือจุดพักบันไดบริเวณชั้นสองเท่านั้น ซึ่งระยะมันก็สูงพอสมควร ยูริเดินกลับมายังด้านหน้าจุดที่ยุนอาอยู่อีกครั้ง พร้อมกับท่าทางหงุดหงิด
“บ้าชะมัด ! ตาลุงนั่นแทนที่จะเปิดประตูเอาไว้ บันไดหนีไฟที่ไหนมันเอาประตูมาปิดแล้วเอาลูกกุญแจมคล้องเอาไว้แบบนี้บ้างเนี่ย !!”
“หมายถึงตาลุงรักษาความปลอดภัยนั่นใช่มั๊ย ?”
“อืมใช่...”
ยูริตอบกลับ
“ชั้นพอจะรู้ว่าตาลุงนั่นอยู่ที่ไหน...”
“…”
ยุนอาพูดขึ้นและเงียบไปสักพัก ก่อนที่จะพูดต่อ
“เพราะชั้นเพิ่งจะหวดแกตายมาไม่นานนี้เอง”
.
.
.
“กรรรรรรรร !!!”
กระทั่งเสียงขู่คำรามจะดังขึ้นจากทางด้านหลังของยูริ เธอหันกลับไปมองอย่างช้าๆ เช่นเดียวกับยุนอาที่รู้สึกตกใจจนดวงตานั้นบิกโพลง เพราะสิ่งที่เธออยู่ตรงหน้า มันคือฝูงสุนัขผีดิบที่กำลังหิวโหยและที่สำคัญ... หากกล่าวคำว่าฝูง แน่นอนว่ามันไม่ใช่เพียงแค่ 1 หรือ 2 ตัวเท่านั้น...
แต่มันมีเป็น 10
“กรรรรรรรร !!!!!”
ก่อนที่ฝูงสุนัขผีดิบเหล่านั้นจะวิ่งกระโจนเข้าใส่
.
.
.
“!!!!!!”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น