ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SNSD] : Love Generation : Dream (PG-15) [Yuri]

    ลำดับตอนที่ #3 : + + Chapter 2 + + [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 54


     
    ไม่เห็นมีแผ่นดินไหวอะไรเลยนี่คุณเป็นอะไรมากรึเปล่าคะ ?”
    เธอเงียบไปสักพักก่อนที่จะพูดต่อ
    แล้วอีกอย่างฉันไม่ได้ชื่อยูริอาอะไรนั่นอย่างที่คุณเรียกนะคะฉันชื่อยูระ
    .
    .
    .
    ควอน ยูระ
     
    เธอ เธอว่าไงนะ !?” เจสสิก้าถามทวนอีกครั้ง
    ฉันชื่อ ควอน ยูระ น้องสาวฝาแฝดของ ควอน ยูริ ค่ะ…”
    เธอตอบกลับมา เมื่อได้ยินดังนั้น เจสสิก้าก็ถึงกับช๊อคไปในทันที ราวกับเรี่ยวแรงที่เคยมีมันถูกดูดออกไปจนหมดสิ้น แข้งขาเริ่มอ่อนและไร้เรี่ยวแรงจนกระทั่งทรุดนั่งลงกับพื้นอย่างไม่รู้ตัว
    ตุบบ
    ป... เป็นอะไรมากรึเปล่าคะ !!?”
    ยูระที่ไม่ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างเจสสิก้ากับยูริรู้สึกตกใจไม่น้อย เมื่ออยู่ๆ หญิงสาวผมสีบลอนด์ตรงหน้าร้องไห้โฮออกมาอีกทั้งยังทรุดนั่งลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
    ฮืออๆ
     
    เวลาผ่านไปนานพอสมควร กว่าการที่เจสสิก้าจะยอมสงบสติอารมณ์ลง ถึงแม้น้ำตาจะไม่หลงเหลือแล้ว แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับรู้ความจริงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นั้น
    เป็น
    เพียงแค่
    ความฝัน
    และยูริที่เธอรักก็ได้ตายจากไปแล้ว หลงเหลือไว้เพียงแค่เธอเท่านั้น
    ยูระมองดูหญิงสาวผมบลอนด์ที่นั่งสะอื้นอยู่บนเตียงอย่างเงียบๆ ในใจเธอก็รู้สึกเป็นห่วงอาการของเจสสิก้า และอีกเรื่องที่เธออยากจะรู้ก็คือความเกี่ยวข้องระหว่างเธอกับพี่สาว แต่ถึงแม้จะอยากรู้มากขนาดไหน เธอก็ไม่อยากจะเข้าไปขัดจังหวะของเจสสิก้าในขณะนี้เลย
    เพราะเธอเองก็รู้ว่าการที่รู้สึกเศร้า หรือไม่ชอบใจเรื่องอะไร คนเรามักอยากจะอยู่อย่างเงียบๆ ตามลำพังเท่านั้น
    เธอเลือกที่จะถอยออกมาและปล่อยให้เจสสิก้าได้อยู่ตามลำพัง โดยที่เธอเองก็คอยช่วยจับตาดูอยู่ห่างๆ เท่านั้น เพราะนั่นคือสิ่งที่ยูระพอจะทำได้ในขณะนี้เวลานี้
    เวลายังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนเคลื่อนเข้าสู่เวลาบ่ายของช่วงวัน เจสสิก้าเดินออกมาหยุดอยู่ที่ระเบียงด้านนอก กระแสลมที่พัดผ่านไปมาอยู่ๆ ก็หยุดลงราวกับเวลารอบกายหยุดหมุน
    แม้แต่นกที่เกาะอยู่บริเวณสายไฟไม่ไกลจากเธอนัก มันยังคงแน่นิ่งราวกับสายตากำลังจดจ้องมาทางเธอ
    แม้แต่ใบไม้ที่ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางอากาศมันก็ยังหยุดค้างอยู่แบบนั้น
    เธอมองอะไรอยู่เหรอ สิก้า ?”
    เสียงของยูริที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังจึงทำให้เวลารอบกายนั้นเริ่มหมุนต่ออีกครั้ง ใบไม้ใบนั้นปลิวร่วงหล่นลงสู่พื้น นกน้อยตัวนั้นโผออกจากสายไฟเส้นนั้นและโบยบินต่อไปบนท้องฟ้าสีคราม
    สัมผัสของอ้อมกอดอันอบอุ่นจากยูริทำให้เจสสิก้าสะดุ้งและหันกลับไปมองดูคนทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว
    ถึงแม้ใบหน้าจะเหมือนกับยูระ แต่จากท่าทางการกระทำ อีกทั้งน้ำเสียงที่พูดออกมา
    คนนี้คือยูริแน่ๆ
    แต่ทำไม
    เจสสิก้ารู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก จนแทบจะแยกไม่ออกว่าเรื่องไหนคือเรื่องจริง และเรื่องไหนคือความฝัน จากข้อมูลที่เธอมีในตอนนี้ ยูริที่เห็นตรงหน้านั้นไม่ควรจะมีตัวตนมาอยู่ตรงนี้ได้ เพราะเธอเห็นกับตาว่ายูริฆ่าตัวตายเพราะเธอ อีกทั้งยังมียูระ น้องสาวของยูริมาช่วยยืนยันอีกด้วย
    เธอเป็นอะไรไปน่ะสิก้าทำอย่างกับเห็นผียังงั้นแหล่ะ
    ยูริพูดพร้อมกับโอบกอดเธอแน่นขึ้น
    เจสสิก้าลองหยิกตัวเองเพราะตามความเชื่อแล้ว หากเราอยู่ในโลกแห่งความฝัน เราจะไม่รู้สึกเจ็บ
    โอ๊ยยย
    เธอสะดุ้งพร้อมกับมองดูที่แขนของตัวเองที่เป็นรอยแดงจากการหยิก ความเจ็บปวดเมื่อครู่ทำให้เจสสิก้ามั่นในว่ายูริตรงนี้ ไม่ใช่ภาพลวงตา นั่นจึงทำให้น้ำตาแห่งความปิติไหลรินออกมาอีกครั้ง และโอบกอดคนรักของเธอเอาไว้อย่างแนบแน่นให้แน่นที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้
    โอ๊ยยยยย !!! แผลชั้น สิก้า แผลลล !!!!”
    ยูริโวยลั่นเมื่อเจสสิก้ากอดเข้าที่บริเวณแผลของเธอ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    ข ขอโทษ ! สิก้าสิก้าไม่ได้ตั้งใจ !”
    เธอพูดพร้อมกับสปริงตัวออกมาทันที
    เธอเป็นอะไรของเธอเนี่ยสิก้า ! เมื่อวานก็ทีนึงแล้วนะ วันนี้ก็อีกรอบ คอยดูเถอะแผลชั้นไม่หายซะที !”
    ยูริพูดอย่างเคืองๆ ทำเอาเจสสิก้ารู้สึกผิดขึ้นมาอีกครั้ง
    และก็อย่างเคย ยูริดีดหน้าผากของเจสสิก้าเบาๆ พร้อมกับยิ้มออกมา
    ทีหลังจะกอดน่ะ จำเอาไว้บ้างว่าแผลเค้าอยู่ตรงนี้
    ก่อนที่จะดึงร่างของเจสสิก้าเข้าไปโอบกอดเอาไว้เบาๆ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังอดสงสัยเรื่องของคนรักเธอไม่หาย รวมไปถึงเรื่องของยูระด้วย
    เจสสิก้าค่อยๆ ดันตัวออกจากอ้อมกอดของคนรัก ก่อนที่จะพูดขึ้นเบาๆ
    ยูริอา…”
    อะไรเหรอสิก้า ?”
    สิก้ามีเรื่องอยากจะถามเธอหน่อย…” เธอพูดพร้อมกับแหงนหน้าขึ้นมองยูริ
    “…”
    เรื่องของยูระ น้องสาวของเธอ
     
    เรื่องของ ยูระ น้องสาวของเธอ
    เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของยูริก็ดูเปลี่ยนไปทันที จากใบหน้ายิ้มแย้มจะแปรเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย เพราะอะไรอย่างนั้นน่ะเหรอ… ? ก็เพราะว่าครั้งหนึ่งเธอเคยเล่าถึงเรื่องครอบครัวของเธอให้กับเจสสิก้าได้ฟังไปแล้ว และนั่นก็รวมถึงการที่น้องสาวของเธอยูระได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปด้วยในเหตุการณ์ครั้งนั้น
    แต่ในเมื่อเจสสิก้าเป็นฝ่ายถาม เธอก็จะตอบ แม้ว่ามันจะทำให้เธอรู้สึกแย่ก็ตาม
    เธอจำได้ไหมสิก้าในวันที่ฝนตกวันนั้น ที่เธอเล่านิทานให้ชั้นฟังน่ะ…”
    ยูริถามกลับ
    จำได้สิ…”
    แล้วเธอจำได้ไหมว่าชั้นเล่าอะไรให้เธอฟัง…”
    “…”
    เจสสิก้าเงียบและพยายามคิดตามในสิ่งที่ยูริพูด
    ครอบครัวของชั้นประสบอุบัติเหตุตายหมด รวมถึงน้องของชั้นด้วย เธอจำไม่ได้เหรอเจสสิก้า…”
    น้ำเสียงของยูริที่แฝงความรู้สึกเจ็บปวดผ่านออกมาทางคำพูด ทำให้เจสสิก้าสลดลงทันที
    จริงอย่างที่ยูริว่ายูระน้องสาวฝาแฝดของยูริประสบอุบัติเหตุตายไปแล้ว ท่องเอาไว้เจสสิก้า
    เธอตายไปแล้ว !
    ไม่มีทางที่จะมีตัวตนขึ้นมาอีกแล้ว !
    .
    .
    .
    เจสสิก้าโอบกอดร่างของคนรักเอาไว้อีกครั้ง โดยที่เลี่ยงบริเวณแผลของยูริเอาไว้ ใบหน้าซบเข้ากับอกอิ่มของคนรัก ยูริก้มลงมองการกระทำของคนรักและยิ้มออกมาบางๆ ก่อนที่จะจุมพิตที่กลางกระหม่อมของเจสสิก้าเบาๆ ด้วยความรักเหมือนกับทุกครั้ง
    แล้วเรื่องแผ่นดินไหวเมื่อคืนล่ะ !?”
    เจสสิก้าเงยหน้าขึ้นมาถามยูริอีกครั้ง
    แผ่นดินไหวอะไรของเธอน่ะสิก้า ?”
    ไม่ต่างจากยูระ ยูริเองก็ไม่รู้เรื่องแผ่นดินไหวอะไรนั่นเลย นั่นกลับสร้างความสงสัยให้กับเจสสิก้าอีกครั้ง เพราะเธอจำภาพของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน แผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่ทำให้ข้าวของต่างๆ พากันล้มกระจัดกระจาย พื้นที่เอียงขึ้นเกือบ 45 องศา และเพดานห้องที่ร่วงลงมาทับเธอ
    เจสสิก้ามองดูเพดานจุดที่ว่า ซึ่งมันยังคงอยู่ที่เดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    แผ่นดินไหวเมื่อคืน…”
    เจสสิก้าพูดทวนอีกครั้ง
    เธอฝันไปเองน่ะสิสิก้าเพราะหลังจากที่หัวถึงหมอน เธอก็หลับไปเลยจำไม่ได้เหรอเธอเป็นคนบอกชั้นเองว่าอยากจะนอนพักเพราะเหนื่อยนะสิก้า
    ยูริตอบกลับและเงียบไปสักพัก ก่อนที่จะพูดขึ้นอีกครั้ง
    แล้วถ้าหากมันมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นจริงๆ นะข้าวของที่เห็นมันคงไม่อยู่ที่เดิมแบบนี้หรอกสิก้า เธอน่ะคิดมากจนเก็บไปฝันร้ายเองน่ะสิ
    เจสสิก้าฟังในสิ่งที่ยูริพูดพร้อมกับเอาเก็บมาคิดเงียบๆ
    มันก็จริงอย่างที่ยูริพูดเธอคงจะเหนื่อยมากและเก็บเอาไปฝันร้ายเองเสียมากกว่า
    ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ตกใจตื่นเพราะฝันร้ายเรื่องแผ่นดินไหวหรือเรื่องของยูระก็ตาม
    ชั้นว่าเธอนอนพักสักหน่อยน่าจะดีกว่านะสิก้าเพราะดูท่าทางเธอเพลียๆ เหลือเกินนะ เดี๋ยวจะไม่ไหวเอา
    ยูริพูดเตือนคนรักด้วยความเป็นห่วง เจสสิก้าพยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงตอบรับ
    เธอเดินกลับมาที่เตียงก่อนที่จะคลานขึ้นไปและดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มตัวเอาไว้ ยูริมองดูคนรักของเธอและยิ้มออกมาน้อยๆ เธอปีนขึ้นมาบนเตียงและนั่งลงข้างๆ เจสสิก้าคนรักและก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากของเธอเบาๆ
    รสจูบนั้นยังคงอ่อนหวานและนุ่มนวลไม่เคยเปลี่ยน
    ฝันดีล่ะ ^^”
    อือ
    เธอตอบกลับและยิ้มออกมาบางๆ ก่อนที่จะผล็อยหลับไปด้วยความเพลีย
     
    เธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งและพบว่ายูรินั้นนอนหลับอยู่ข้างๆ ใบหน้ายามหลับของเธอนั้นดูช่างสวยงามน่าหลงใหลไม่เคยเปลี่ยน รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจสสิก้าอีกครั้ง เธอมีความสุขเหลือเกินเมื่อพบว่าตื่นขึ้นมาแล้วไม่ใช่ความฝันเหมือนที่ผ่านๆ มา
    เธอล้มตัวนอนลงอีกครั้งและโอบกอดร่างของยูริเอาไว้เบาๆ ด้วยความรัก
    เวลาผ่านไปนานหลายนาทีกว่าที่เจสสิก้าจะตัดสินใจลุกขึ้นมาจากเตียง เธอเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าต่างและใช้สายตามองออกไปอย่างเหม่อๆ วิวทิวทัศน์ที่ดูแปลกตาสามารถดึงดูดความสนใจของเจสสิก้าได้เป็นอย่างดี เธอไม่เคยเห็นโครงสร้างของอาคารที่ดูแปลกตาขนาดนี้มาก่อน แม้ว่าจะเห็นอยู่เพียงไกลๆ แต่เพราะสีสันของมันก็ทำให้ดูสวยงามไม่น้อย หากเป็นช่วงกลางคืน มันจะสวยขนาดไหนกันนะ
    เธอเหลือบหันกลับมามองยูริอีกครั้งและยิ้มออกมาบางๆ ก่อนที่จะเปิดประตูออกมาจากห้องนอนและลงมายังชั้นล่าง พลันสายตาเหลือบมาเห็นสวิตซ์ไฟที่ครั้งหนึ่งเธอพยายามจะเปิด แต่ถูกยูริมาทักเอาไว้เสียก่อน และด้วยความอยากรู้ เธอจึงเดินมาเลื่อนแถบสวิตซ์ไฟออก แผงรหัสลับที่ถูกซ่อนไว้จึงเริ่มต้นทำงาน
     
    Ø [LOCK]                          [UNLOCK]
     
    Ø [UNLOCK]
     
    เจสสิก้ากดเลื่อนมาที่ปลดล็อค ก่อนที่แถบตัวเลขจะแสดงขึ้นมา
    เธอพยายามนึกถึงรหัสผ่านดังกล่าว แต่ไม่ว่าจะพยายามนึกยังไงมันก็นึกไม่ออกเลย เจสสิก้าลองคิดย้อนกลับไปถึงตัวเลขที่ยูริมักจะพูดติดปาก  แต่มันเลขอะไรล่ะ… ?
    โถ่เว้ย !”
    เธอสบถออกมาเบาๆ พร้อมกับเอามือเกาศีรษะอย่างหงุดหงิด
    เจสสิก้าลองสุ่มกดตัวเลขมั่วๆ ดู ซึ่งเอามาจากวันเดือนปีเกิดของยูริ
     
    PASSWORD ACCESS!
     
    ทั้งๆ ที่เป็นเพียงแค่ตัวเลขที่สุ่มมามั่วๆ อย่างสิ้นคิด แต่มันกลับใช้ได้จนทำให้เจสสิก้ารู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เสียงกลไกที่เริ่มต้นทำงานมันก็ดังพอที่จะทำให้หญิงสาวที่นอนอยู่ชั้นบนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
    เจสสิก้ายกประตูลับที่พื้นออกและเอาเหล็กด้านในที่ยื่นออกมาดามเอาไว้ ก่อนที่จะก้าวเดินลงบันไดมาตามทางเรื่อยๆ สวิตซ์ไฟที่อยู่ข้างๆ ถูกเปิดพร้อมกับแสงไฟที่สว่างขึ้นส่องไปตามเส้นทางลึกเข้าไปด้านใน จนกระทั่งมาถึงปะตูด้านในอีกชั้น
    แกร๊กกก
    ทันทีที่ประตูเลื่อนเปิดออก เจสสิก้าก็ก้าวขาเดินเข้าไปด้านในทันที แต่เพราะความมืดที่อยู่ภายในห้องจึงทำให้มองอะไรแทบไม่เห็นเลย
    สวิตซ์ไฟอยู่ตรงไหนเนี่ย…” เธอบ่นกับตัวเองเบาๆ
    ตรงนี้ไง…”
    ว๊ายยยยยย !!!”
    เพราะเสียงของยูริที่ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังจึงทำให้เจสสิก้าตกใจสะดุ้งจนหลังติดข้างฝา แสงไฟที่สว่างวาบขึ้นทำให้เห็นสภาพของห้องสีขาวโล่ง ซึ่งมันแทบจะเหมือนกับที่นิวยอร์คไม่มีผิด
    มีเพียงตู้ที่เอาไว้ใช้เก็บปืน และเป้าสำหรับซ้อมยิงเท่านั้น
    นี่เธอยังเก็บปืนพวกนี้เอาไว้อีกเหรอ ?”
    น้ำเสียงของเธอกลับมาเคร่งเครียดขึ้นพอสมควร
    แหงสิเพราะเราไม่รู้ว่าจะมีใครมาตามล่าเราอีกไหม จะเก็บเอาไว้ใช้ป้องกันตัวเวลาจำเป็นมันก็ไม่เสียหายอะไรนี่ ?” ยูริพูดอธิบายพร้อมกับยกเอามือขึ้นป้องปากหาว ดูท่าเธอยังคงไม่อยากจะตื่นเท่าไรนัก
    ทำไมงั้นเหรอสิก้า ?”
    ไม่ใช่ว่าเธอยังแอบไปทำงานอะไรเสี่ยงๆ แบบนั้นอีกนะ ชั้นไม่ยอมจริงๆ ด้วย
    เธอพูดออกไปตามความรู้สึกของตน เพราะเธอไม่อยากเห็นคนที่เธอรักต้องไปเสี่ยงตายแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว ยูริยิ้มออกมาบางๆ และดึงร่างของคนรักเข้ามากอดเอาไว้อีกครั้ง พร้อมกับกระซิบที่ข้างหูเธอเบาๆ
    แน่นอนสิเจสสิก้า ชั้นจะไม่ทำอะไรเสี่ยงๆ แบบนั้นอีกแล้ว
    .
    .
    .
    ชั้นสัญญา…”
    เธอเงียบไปอีกครั้ง
    ชั้นจะอยู่กับเธอตลอดไป…”
    พร้อมกับเชยคางของเจสสิก้าขึ้นมาและจูบเธออย่างแผ่วเบา
     
    พระอาทิตย์ที่เริ่มลับขอบฟ้าไปทีละน้อย ทำให้บรรยากาศในตอนนี้ดูโรแมนติกยิ่งนัก แสงแดดสีส้มที่สะท้อนกับผืนน้ำดูเป็นประกายสวยงาม สายลมเย็นที่พัดโชยไปมาหอบเอากลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้นานาชนิดมาด้วย เจสสิก้าเดินเลียบคลองมาเรื่อยๆ ตามหลังมาด้วยยูริคนรัก
    สวยจัง…”
    เธออุทานออกมาเบาๆ และยิ้มออกมาอย่างชอบอกชอบใจ ยูริที่เห็นดังนั้นเธอก็พลอยมีความสุขไปด้วย เธอเดินเร่งฝีเท้าขึ้นมาและคว้ามือของเจสสิก้ากุมเอาไว้อย่างอ่อนโยน เธอหันกลับมามองยูริและยิ้มกว้าง
    ไม่ว่าเมื่อไร รอยยิ้มของเธอก็ดูสดใสไม่เคยเปลี่ยนเลยนะเจสสิก้า
    ดูอย่างกับนางฟ้า ไม่มีผิด
    ยูริมองดูหญิงสาวคนรักที่นั่งเอามือราน้ำเล่นอย่างสบายอารมณ์ ท่าทางของเธอดูแทบไม่ต่างจากเด็กตัวเล็กๆ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเลย ยูริเบนสายตากลับมามาที่เจสสิก้า ก่อนที่จะย่อตัวนั่งลงข้างๆ เธอ
    ดูเธอมีความสุขเหลือเกินนะ ^^”
    แหงสิ ^^”
    เจสสิก้าตอบกลับก่อนที่จะวักน้ำขึ้นมาน้อยๆ และดีดใส่หน้าของยูริพร้อมกับหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ
    นี่แน่ะ !”
    เล่นอะไรของเธอเนี่ยสิก้า !”
    นี่แน่ะๆ ^_^”
    เจสสิก้ายังคงสนุกกับการแกล้งยูริ โดยที่ยูริก็พยายามหลบเลี่ยงน้ำที่ถูกดีดใส่ ท่าทางของทั้งคู่ดูแทบไม่ต่างจากเด็กวัยสิบขวบที่ชอบกลั่นแกล้งกันเลย แม้อายุจะปาเข้าไปยี่สิบกว่าๆ แล้วก็ตาม
    ว๊ายยยย !!!”
    ตูมมม !!
    สิ้นเสียงของเจสสิก้าที่เหยียบพลาดจนตกลงไปนั่งอยู่ในน้ำ ก็ถึงคราวที่ยูริจะเป็นฝ่ายยิ้มร่าบ้าง
    เป็นไงล่ะ อยากแกล้งชั้นดีนัก ^^”
    ผู้คนที่เดินสวนกันไปมาต่างก็พากันหยุดและจ้องมองเจสสิก้าเป็นทางเดียว ทำเอาเธอรู้สึกอายจนหน้าแดง เธอหันมองยูริอย่างอ้อนๆ ราวกับต้องการความช่วยเหลือ และยูริก็ไม่เคยที่จะปฏิเสธที่จะช่วยเลยสักครั้ง
    เธอถอดเสื้อนอกวางเอาไว้กับพื้นและก้าวลงไปส่งมือไปให้กับเจสสิก้า พลันความคิดอย่างหนึ่งก็แว่บเข้ามในหัว
     
    จะมีความเป็นไปได้ไหมที่เจสสิก้าจะแสร้งทำเป็นขอความช่วยเหลือ แต่ความจริงจ้องจะดึงเธอหล่นไปด้วยกัน ?
    เมื่อคิดได้ดังนั้น ตัวเลือกจึงโผล่ขึ้นมาทำให้รู้สึกลังเล
    ว่าจะ
    Ø ช่วย                 ไม่ช่วย
    แต่สุดท้าย เธอก็ไม่อาจจะทนต่อสายาวิงวอนของคนรักได้ เธอจึงเลือกที่จะช่วยแม้ว่าอาจจะถูกดึงลงไปจนเปียกด้วยกันก็ตาม และมันก็เป็นอย่างที่ยูริคิด
    ตูมมม !!!
    เมื่อเจสสิก้าจ้องจะดึงเธอลงมาให้เปียกด้วยกัน
    แต่เพราะร่างของยูริที่กดทับเธอเอาไว้ จึงทำให้มีเพียงส่วนบนเหนือช่วงท้องขึ้นมาเท่านั้นที่โผล่พ้นน้ำ ร่างที่นอนราบอยู่กับพื้นคลองโดยใช้ข้อศอกยันตัวเอาไว้ และมีร่างของยูริที่ค่อยๆ เลื่อนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความรู้สึกเขินอาย และตื่นเต้น เธอจึงเลือกที่จะกลืนน้ำลายลงไปอึกหนึ่งและค่อยๆ ก้มหลบสายตา
    แต่ยูริก็ไม่ยอมหยุดแค่นั้น
    จนกระทั่งริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกันอย่างแผ่วเบา
    และยูริจะเป็นฝ่ายสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากของเธอ นั่นยิ่งทำให้เจสสิก้ารู้สึกเขินและอายมากขึ้นเพราะสายตาของผู้คนจำนวนมากที่จับจ้องมายังพวกเธอ เวลาผ่านไปนานพอสมควรกว่ายูริจะยอมถอนริมฝีปากออก
    นอกจากเจสสิก้าที่รู้สึกอายแล้ว สาวๆ ที่อยู่แถวนั้นยังพลอยกรี๊ดกร๊าดกันไปด้วย เพราะขนาดเป็นผู้หญิงด้วยกัน ยังอดที่จะยอมรับไม่ได้ว่ายูริที่เปียกน้ำนั้น ดูช่างเซ็กซี่และดูดีเสียเหลือเกิน
    ยูริยิ้มออกมาอีกครั้งก่อนที่จะก้มลงจุมพิตเจสสิก้าเบาๆ
    มาเถอะ…”
    ยูริพูดขึ้นพร้อมกับส่งมือมาให้กับเจสสิก้าคนรัก ซึ่งเธอก็คว้ามือของยูริเอาไว้ และพากันเดินออกมาจากบริเวณนั้น โดยที่ยูริก็ไม่ลืมที่จะเอาเสื้อนอกของเธอคลุมตัวของเจสสิก้าเอาไว้
    ถึงแม้ว่ามันจะอายที่มาทำอะไรต่อหน้าคนจำนวนมากแบบนี้
    แต่อีกใจหนึ่งเธอก็อดที่จะรู้สึกดีใจเสียมิได้
    เจสสิก้าหันมามองยูริและยิ้มออกมาบางๆ และกุมมือของคนรักเอาไว้อย่างแนบแน่น
    .
    .
    .
    ด้วยความรัก
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×