ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SNSD] : Love Generation : A Love to Kill (PG-13)[Yuri]

    ลำดับตอนที่ #3 : + + Chapter 2 + + [Fixed : แก้คำผิด]

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 53


    ณ. โรงจอดรถสถานที่เกิดเหตุ...
    รายงานผลมาซิ !” เจสสิก้าที่เดินเข้ามาในสถานที่เกิดเหตุพูดขึ้น ก่อนที่เธอจะก้มตัวลอดเขตหวงห้าม ‘Keep out’ เข้ามา สายตาจ้องมองไปยังร่างที่ไร้วิญญาณของผู้เคราะห์ร้าย
    เธอค่อยๆ ย่อตัวนั่งลงและเปิดผ้าคลุมศพออกเพื่อดูหน้า พร้อมกับที่นายตำรวจอีกคนหนึ่งรายงานผลให้กับเธอ
    นาย ปีเตอร์ แมคโดเวอร์ เลขาประจำบริษัทไทรเซลล์ โปรดักชั่น อายุ 35 ปี เกิดเมื่อวันที่ 22/06/1975 กรุ๊ปเลือด A เรื่องความบาดหมางกับคนอื่นๆ หลังจากที่ได้ลองเช็คประวัติดูแล้ว ก็มีเพียง นาย อัลเบิร์ต วิลโทบี้เท่านั้น...
    ลองเล่าให้ละเอียดกว่านั้นอีกหน่อยซิ ?”
    มีเรื่องบาดหมางกันเมื่อราวๆ 2 เดือนก่อนหน้านี้ ในเรื่องการตกลงซื้อขายหุ้น ซึ่งทางฝ่ายของแมคโดเวอร์เสนอในราคาที่สูงกว่า ทำให้วิลโทบี้ต้องเป็นฝ่ายเสียผลประโยชน์
    เจสสิก้าฟังพร้อมกับใช้ความคิดอยู่ สักพัก
    พบรอยกระสุนที่บริเวณศรีษะและคาดว่าจะเสียชีวิตในทันที จากการชัณสูตร พบว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงครับ...
     “ตรวจสอบกล้องวงจรปิดรึยัง ?” เจสสิก้าหันไปถามนายตำรวจข้างๆ
    เชิญทางนี้เลยครับ...
    นายตำรวจคนนั้นพูดพร้อมกับเดินนำเจสสิก้าเข้ามายังห้องบันทึกภาพ และทำการเปิดภาพที่ทำการบันทึกเอาไว้ดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งหลังจากที่เช็คดูหลายต่อหลายครั้ง สิ่งที่เห็นก็มีเพียงร่างของเหยื่อ ที่อยู่ๆ ลอยกระเด็นไปและนอนจมกองเลือดอยู่เท่านั้น
    รอยกระสุนเจาะเข้ากลางกะโหลกศรีษะอย่างแม่นยำ... ถ้าไม่ใช่คนที่มีฝีมือในการยิงปืน คงจะทำไม่ได้แบบนี้
    ส่งคนไปสำรวจยังอาคารรอบๆ แล้วตรวจหาผู้ต้องสงสัยด้วย ไปๆ !!”
     
    หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายกันออกไปเก็บข้อมูล ซึ่งผ่านไปแล้ว 1 ชั่วโมงก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า เพราะไม่ว่าจะหาอะไรยังไง ก็ไม่พบสิ่งของที่ต้องสงสัยเลย
    ส่งคนไปหานายวิลโทบี้ด้วย เพราะตอนนี้เขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยเบอร์ 1...ระหว่างที่กำลังพูด เจสสิก้าก็เหลือบไปเห็นโรงแรมหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นอาคารสูง ซึ่งถ้าเป็นการซุ่มยิงระยะไกล สถานที่นั้นก็มีความเป็นไปได้ แต่หลังจากที่ได้ลองวัดระยะแล้ว ระยะที่ห่างจากจุดเกิดเหตุราวๆ 1.87 กิโลเมตร ไม่ใช่สถานที่ๆ จะทำการซุ่มยิงได้เลย
    เพราะไม่มีใครสามารถยิงได้จากในระยะแบบนั้น อีกทั้งเพียงแค่กระแสลม ความชื้นของอากาศ หรือปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายก็สามารถเบี่ยงวิถีกระสุนออกไปได้แล้ว และที่สำคัญ...
    เป้าหมายไม่ได้ยืนเป็นเป้านิ่งให้ยิงด้วย โอกาสที่จะยิงมาจากระยะนั้น จึงลดน้อยลงจนต้องตัดออกไปจากข้อสันนิษฐานเลยทีเดียว
    เธอหันมองไปยังรอบๆ ตัวอีกครั้ง และหาสถานที่ๆ คาดว่าน่าจะทำการซุ่มยิงได้ต่อไป
    อาคารจอดรถที่เป็นจุดเกิดเหตุสูง 4 ชั้น ซึ่งอาคารที่จะทำการซุ่มยิงได้ จะต้องเป็นอาคารที่สูงไม่ต่ำกว่า 4 ชั้นด้วยเช่นกัน เพราะจากการคำนวนดูวิถีกระสุน และรอยเลือดที่สาดกระเซ็นไปจุดๆ ก็พอจะเอาทางได้ ว่ามาจากทิศทางไหน
    ไปถึงไหนแล้ว ?”
    เจสสิก้าเดินกลับเข้ามาหากองพิสูจน์หลักฐาน ก่อนที่จะพบหัวกระสุนขนาด .487 ฝังอยู่บริเวณกำแพงที่มีเลือดสาดกระเซ็นอยู่ ซึ่งหลังจากที่ได้ลองตรวจสอบและเทียบขนาดกระสุน จึงสามารถระบุได้ว่าเป็นการยิงจากปืนรุ่นอะไร และจากวิถีกระสุนและศพที่นอนอยู่ ก็พอจะรู้ได้ว่าทิศที่ยิงมา คือทิศไหน
    ซึ่งจากที่ได้ลองดูจากกล้องวงจรปิดตัวที่ 2 ซึ่งติดอยู่ใกล้ๆ กับจุดเกิดเหตุ ก็ระบุได้ทันทีถึงจุดที่ทำการยิง ซึ่งมันเป็นทิศเดียวกับทางโรงแรมที่เจสสิก้าได้สันนิษฐานไว้ในตอนแรกนั่นเอง
    ซึ่งก่อนหน้าที่จะถึงโรงแรมนั้น ยังคงมีอาคารสูง 3 ชั้นอยู่ด้วย และทางด้านบนนั้นจะเป็นชั้นดาดฟ้า และอาคารข้างๆ ที่เยื้องๆ กันอยู่ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน ที่จะมีการซุ่มยิงจากที่นั่น
    เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนที่ยิงมาจากโรงแรมนั้น เพราะงั้น...
    เธอจึงมุ่งประเด็นไปยังชั้นดาดฟ้าของอาคารที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเท่าไรนักแทน พร้อมกับเดินออกมาจากอาคารจอดรถ และหยิบกุญแจรถขึ้นมากดปลดล๊อค ก่อนที่จะขับรถคันงามของเธอออกมาจากบริเวณนั้น และตรงไปยังจุดที่เธอตั้งข้อสงสัยไว้ทันที
     
    บ้าชะมัด !”
    เจสสิก้าสบถออกมาอย่างหัวเสีย เพราะเธอไม่พบสิ่งที่เป็นหลักฐานชี้ตัวคนร้ายได้เลย ทั้งๆ ที่เธอคิดว่าน่าจะทำการยิงมาจากสถานที่นี้แท้ๆ แต่สุดท้ายเธอก็คว้าน้ำเหลว...
    เจสสิก้าเหลือบมองไปยังโรงแรมที่อยู่ห่างออกไปอย่างเซงๆ สายลมที่พัดผ่านไปมาทำให้ยิ่งต้องตัดโรงแรมนั้นออกไปจากความคิด และจากการที่ส่งคนไปสำรวจยังอาคารที่อยู่ข้างๆ ด้วยแล้ว สิ่งที่พบก็มีแต่เพียงความว่างเปล่าเช่นกัน
    ให้มันได้ยังงี้สิ !!
    เธอเปลี่ยนเป็นระบายอารมณ์กับกระป๋องเปล่าที่กลิ้งไปมาอยู่ตรงนั้น และเตะมันอย่างเต็มแรงจนกระป๋องใบนั้นกระเด็นหายไปจากสายตา
    คอยดูเถอะ ชั้นจะต้องตามจับแกให้ได้เลยคอยดู ชิ !!”
    ทางด้านของยูริ เธอกลับมาถึงร้านของตัวเองและขับรถเข้าไปจอดในโรงรถอย่างเงียบๆ ก่อนที่จะค่อยๆ เปิดประตูลงจากรถมา และสะพายกระเป๋าเดินกลับมาทางหลังร้านและค่อยๆ ไขประตูเข้าไปด้านใน
    ยูริวางกระเป๋าปืนของเธอลงกับพื้นข้างๆ บันไดและค่อยๆ เปิดไฟในร้านเพื่อตรวจเช็คความเรียบร้อย ซึ่งหลังจากที่เดินตรวจทานดูแล้ว ซูซี่พนักงานฝึกหัดของเธอก็ทำงานได้ดีตามที่สั่งจริงๆ จะเสียก็เพียงแต่ว่า เธอมักจะมาสายอยู่บ่อยๆ นั่นเอง
    เฮ้อ~” เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่จะหยิบกระเป๋าขึ้นมาพาดบ่าและเดินกลับขึ้นไปยังห้องนอนที่ชั้น 2 ของเธอทันที
     
    รุ่งเช้า ยูริค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย สายตาที่ยังคงปรือๆ อยู่เหลือบมองไปทางนาฬิกาปลุก ซึ่งยังเหลือเวลาอีกราวๆ 10 นาทีก่อนที่มันจะปลุก
    ยูริค่อยๆ ดันตัวเองลุกขึ้นมาจากเตียง และเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานต่อไป
    เช่นเคย ยูริยังคงนั่งรอเวลาที่เธอจะได้พบกับเจสสิก้าอย่างใจจดใจจ่อ จนเผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว
    มีอะไรดีๆ งั้นเหรอคะ ?”
    ซูซี่ถามขึ้นอย่างประหลาดใจ เพราะคนอย่างยูรินั้นไม่ใช่ว่าจะยิ้มได้อย่างง่ายๆ เลย
    ไม่มีอะไรหรอก...
    ยูริหุบยิ้มและตอบกลับไปตามปกติ ก่อนที่เจสสิก้าจะปรากฏตัวขึ้นในสายตาของเธอ ซึ่งนั่นทำให้ยูริรู้สึกดีขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
    เดี๋ยวชั้นมาแล้วกัน... หากาแฟดื่มหน่อย
    เธอพูดเบาๆ ก่อนที่จะเดินออกมาจากร้านและข้ามถนนไปยังร้านกาแฟตรงข้ามทันที
    เจอกันอีกแล้วนะคะ ^^”
    ยูริพูดขึ้นทักทายเจสสิก้าที่กำลังต่อแถวอยู่ทางด้านหน้าของเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
    อ้าว ! บ้านอยู่แถวนี้หรอกเหรอ ?” เจสสิก้าถามขึ้นอย่างประหลาดใจ แต่ยูริได้แต่ยิ้มตอบกลับไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไร หลังจากที่ได้รับกาแฟมาแล้ว พวกเธอจึงพากันเดินมานั่งลงที่โซฟา ซึ่งเป็นที่ๆ ยูริได้รู้จักเจสสิก้าเมื่อวานนั่นเอง
    หนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะ ทำให้ยูริรู้สึกสนใจขึ้นมา เธอค่อยๆ เอื้อมไปหยิบมันมาอ่าน
    ข่าวพาดหัวหน้าหนึ่งทำเอายูริรู้สึกดีไม่น้อย เธอนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนขณะนั่งจิบกาแฟไปด้วย ซึ่งทุกครั้งที่เธอนึกถึงงานที่เธอทำ รอยยิ้มเย็นๆ มักจะปรากฏขึ้นบนหน้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ
    เจสสิก้าที่นั่งอยู่ตรงข้ามมองดูหญิงสาวตรงหน้า ในใจเธอหลงนึกกลัวขึ้นมาแวบหนึ่งเพราะเธอไม่รู้เลยว่า จริงๆ แล้วยูรินั้นเป็นคนยังไงกันแน่
    ขอโทษนะแต่ว่าเธอมีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า เห็นดูเครียดๆ นะ ?”
    คำถามดังกล่าวทำให้เจสสิก้ารู้สึกตัวขึ้นมา เธอยิ้มตอบกลับไป ก่อนที่จะพูดขึ้น
    เปล่าหรอกพอดีพักผ่อนน้อยน่ะ
    ด้วยความที่ลืมตัวทำให้ยูริเอื้อมมือไปสัมผัสกับหน้าผากของเจสสิก้า ทำให้เจสสิก้าต้องสะดุ้งเล็กน้อย
    อ๊ะ !”
    ทันทีที่รู้สึกตัว ยูริจึงรีบชักมือกลับทันที พร้อมกับเกาหัวแกรกๆ เป็นการแก้เขิน
    ท่าทางเขินๆ ของยูริทำให้เจสสิก้าเผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว ซึ่งรอยยิ้มดังกล่าวนั้นทำให้ยูริกลับยิ่งชื่นชมหญิงสาวตรงหน้ามากขึ้นไปอีก
    คนอะไร ทำไมช่างน่ารักเสียเหลือเกินนะ
     
    หลังจากที่แยกย้ายกันแล้ว ยูริจึงเดินข้ามถนนกลับมายังร้านของตัวเอง ด้วยใบหน้าเฉยเมยตามปกติ ก่อนที่โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าจะเริ่มสั่น
    RRRRRRR… RRRRRRRRRR…
    เธอค่อยๆ ล้วงหยิบมันออกมาจากกระเป๋า พร้อมกับกดดูข้อความที่โชว์อยู่บนหน้าจอทันที
     
    1 ข้อความใหม่
    จาก: XXX
    10/09/18              10.13
    [แสดง]                   [ออก]
     
    เธอกดเลือกเข้าไปดูยอดเงินในบัญชีอย่างเช่นเคย ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างพอใจและเก็บโทรศัพท์กลับลงไปในกระเป๋าดังเดิม และเริ่มต้นทำงานของเธอไปตามปกติ
    อย่างน้อย ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเจสสิก้า ก็เพิ่มขึ้นละนะ
    เธอคิดในใจพร้อมกับยิ้มออกมาบางๆ
    รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้า ทำให้บรรดาชายหนุ่มหลายต่อหลายคนพากันหลงรัก ไม่เว้นแม้กระทั่งหญิงสาวด้วยกันที่จะเผลอคิดชื่นชมในความงามของเธอ
    เมื่อถึงช่วงบ่าย ยูริจึงเดินออกมาจากร้านของตัวเองอีกครั้งเพื่อหาอะไรกินเป็นมื้อกลางวันของเธอ หลังจากที่เธอต้องอยู่เฝ้าร้านเกือบหนึ่งชั่วโมงตามลำพัง เพราะซูซี่ออกไปหาซื้ออะไรกินนั่นเอง
    ยูริเดินออกมาตามทางเรื่อยๆ จนเดินผ่านสวนสาธารณะที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งเธอพบว่าเจสสิก้านั้นกำลังจะเดินข้ามถนนมาทางฝั่งของเธอ ยูริจึงหยุดอยู่กับที่เพื่อรอเธอ
    ไง ^^”
    วันนี้เจอกันบ่อยนะรู้สึก ^^” เจสสิก้าตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้ม
    แล้วนี่กำลังจะไปไหนเหรอ ?” เธอหันมาถามยูริอีกครั้งหนึ่ง
    ว่าจะออกไปหาอะไรกินน่ะ เธอกินอะไรรึยังล่ะ เจสสิก้า ?”
    เธอรู้ชื่อชั้นได้ยังไงน่ะ ?” ร่างบางถามขึ้นอย่างสงสัย พร้อมกับหันมาหาหญิงสาวร่างสูงข้างตัว
    ก็เมื่อวาน ตอนที่เก็บกระเป๋าได้ ชั้นไปเปิดดูแล้วก็เห็นบัตรประชาชนของเธอนี่ล่ะ ก็เลยรู้ว่าเธอชื่ออะไร…”
    ยูริตอบกลับอย่างสบายๆ
    อย่างงั้นเองหรอกเหรอ…”
    เจสสิก้าพูดขึ้นเบาๆ
    จะไปกินอะไรด้วยกันไหมล่ะ ?”
    ยูริถามขึ้นอีกครั้งและรอฟังคำตอบจากเจสสิก้า
    เธอเลี้ยงนะ ^^”
    เธอตอบกลับมาแบบขำๆ เป็นการหยอกเล่น แต่สิ่งที่ยูริทำกลับทำให้เธอรู้สึกเกรงใจขึ้นมาทันที เมื่อยูริตอบคำว่า
    ตกลง
     
    ทั้งสองคนยังคงเดินคุยกันมาตามทางเรื่อยๆ ยูริรู้สึกว่าเจสสิก้าที่เดินอยู่ข้างตัวนั้น ถึงแม้ว่าภายนอกจะดูเยือกเย็น จนบางครั้งอาจจะถึงกับไม่สนใจสิ่งรอบข้าง แต่พอได้รู้จักกัน ได้คุยกันจริงๆ เธอกลับได้รู้จักอีกด้านหนึ่งของเธอ ซึ่งเป็นด้านที่ทำให้ยูริรู้สึกหลงรักเธอขึ้นมาจริงๆ
    เช่นเดียวกับเจสสิก้า หลังจากที่ได้พูดคุยกับยูริแล้ว เธอรู้สึกได้ทันทีว่า ยูริเป็นคนที่นิสัยดีคนหนึ่ง มักจะเป็นห่วงเป็นใยเธออยู่เสมอ ทั้งๆ ที่เพิ่งจะรู้จักกันในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น แต่นั่นก็ทำให้เธอรู้สึกชอบหญิงสาวคนนี้ขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะมีบางช่วงเวลาที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับ เธอไม่รู้จักยูริเอาเสียเลยก็ตาม
    มันอาจจะแปลก ที่ในมุมมองของใครต่อใคร ที่มองว่าการรักเพศเดียวกันนั้นเป็นสิ่งที่แปลกประหลาด และไม่ค่อยจะเป็นที่ยอมรับเท่าไรนัก แต่สำหรับยูริแล้ว ถ้าเธอได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเจสสิก้า ไม่ว่าใครจะคิดอะไรยังไงกับเธอ เธอก็จะไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ขอเพียงแค่เธอและเจสสิก้ามีความสุขอยู่ด้วยกันก็เพียงพอ
    แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขนั้น ก็มักจะสั้นเสมอๆ เมื่อโทรศัพท์ของเจสสิก้าดังขึ้นขัดจังหวะ
    ว่าอะไรนะ !? อืมๆ จะไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ รอก่อนนะ !”
    พูดจบเธอก็ตัดสายโทรศัพท์ทันที ก่อนที่จะหันมาหายูริที่ยืนอยู่ข้างตัว
    วันนี้ชั้นขอตัวก่อนนะ พอดีมีงานด่วนเข้ามาน่ะ
    อะอือๆ
    ยูริตอบกลับอย่างเศร้าๆ แต่เธอก็ไม่ได้แสดงอาการใดๆ ออกไป เธอได้แต่พยักหน้าและโบกมือลาเธอไป
    เจสสิก้าที่ค่อยๆ วิ่งหายไปจากสายตาของยูริ ทำให้เธอต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่และพูดออกมาอย่างเสียดาย
    ให้มันได้ยังงี้สิ !”
     
    . สำนักงานสถานีตำรวจ หน่วยสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ
    มาแล้วเหรอเจส ?” นายตำรวจอีกคนหนึ่งพูดขึ้น
    ที่เรียกมาบอกว่าได้รับแจ้งมาว่ามีคดีปล้นฆ่าที่แมนชั่นในเขต 2 นั่นจริงรึ ?”
    เธอหันไปถามแมทธิวเพื่อนร่วมงานของเธอ
    อ่าฮะ !”
    งั้นเราจะมัวรออะไรอยู่ล่ะ ! ก็ไปกันเลยสิ !!”
    หลังจากที่ได้เปลี่ยนชุดและเตรียมตัวกันมาเรียบร้อยแล้ว ไม่กี่นาทีต่อมาเจสสิก้าก็ขับรถสปอร์ตคันงามของเธอมาเทียบจอดบริเวณถนนห่างออกมาจากตัวแมนชั่น ซึ่งตอนนี้มีหน่วยตำรวจกำลังปิดล้อมสถานที่อยู่
    รายงานสถานการณ์มาซิ ?”
    เจสสิก้าที่อยู่ๆ เดินเข้ามากลางกลุ่มตำรวจที่กำลังวางแผนกันอยู่ถามขึ้น
    ที่นี่คนนอกไม่เกี่ยว กรุณาถอยออกไปด้วยครับ…”
    บัตรประจำตัวของทั้งเจสสิก้าและแมทธิวที่โชว์ไปให้ดู ทำให้นายตำรวจคนนั้นต้องยอมขอโทษและทำความเคารพเธอทันที เนื่องจากยศของเธอนั้นถือว่าสูงมากเลยทีเดียว ถ้านำมาเทียบกับหน่วยอื่นๆ
    ขออภัยที่เสียมารยาทครับ !”
    ก่อนที่นายตำรวจคนนั้นจะรายงานสถานการณ์ให้กับเธอฟัง
    ตอนนี้มีผู้ก่อการร้ายอาวุธครบมืออยู่ในตัวอาคาร 4 คน แล้วยังจับตัวประกันไว้อีก 6 คนครับ…”
    แล้วพวกมันต้องการอะไร ?”
    เจสสิก้าถามกลับพร้อมกับขยับแว่นกันแดดลงเล็กน้อย
    มันเรียกร้องเงินจำนวน 10 ล้านเหรียญดอลล่า แล้วก็เฮลิคอปเตอร์สำหรับการหลบหนี
    แล้วได้เตรียมเอาไว้ให้มันรึยัง ?”
    แมทธิวถามขึ้น ก่อนที่จะหันไปสบตากับเจสสิก้าอย่างเข้าใจ
     
    อย่างที่ได้บอกเอาไว้ จัดทีม S.W.A.T บุกเข้าไปทางด้านหลังของแมนชั้น โดยให้ใครก็ได้ไปเจรจาต่อรองเพื่อดึงความสนใจของคนพวกนั้น แล้วก็เพื่อเป็นการเช็คตำแหน่งของพวกผู้ก่อการร้ายไปในตัวด้วย…”
    เจสสิก้าเริ่มอธิบายแผนการของเธอ
    แล้วก็ให้พลแม่นปืนขึ้นไปประจำตำแหน่งที่จุด 3 จุดนี้เธอพูดพร้อมกับชี้ให้ดูในแผนที่ ซึ่งมันก็คืออาคารที่ล้อมรอบตัวแมนชั่นนั้นเอาไว้นั้นเอง
    คอยรายงานผลเป็นระยะๆ ด้วย ถ้าเห็นตัวคนร้าย ไม่ว่าใครเห็น ต้องแจ้งให้ทราบก่อน เพื่อรออนุมัติการยิง แล้วถ้าเป็นไปได้อยากจะให้จับเป็นมากกว่า เพราะเราจะได้จับมาสอบสวนต่อ เผื่ออาจจะโยงต่อไปยังคดีอื่นๆ ด้วยก็ได้
    พูดจบเธอก็หันไปหาแมทธิวและผงกหัวให้สัญญาณ
    มีใครสงสัยอะไรไหม ?”
    ถ้าไม่มีก็ตกลงตามนั้น !” เจสสิก้าพูดขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะแยกตัวไปและรวมกลุ่มกับหน่วยสวาทอีก 4 คน ที่เตรียมพร้อมสำหรับการบุกเข้าไปทางบันไดหนีไฟข้างๆ และแมทธิว จะเป็นคนนำหน่วยสวาทที่เหลืออีก 6 คนบุกเข้าไปทางด้านหลัง
    ตรวจเช็คความพร้อมอีกครั้งอัลฟาพร้อม
    /เบต้าพร้อม/ แมทธิวตอบกลับมา
    /แกมม่า จุด A พร้อม/
    /จุด B พร้อม/
    /จุด C พร้อม/
    เอาล่ะ… 3, 2, Goo !!”
    สิ้นเสียงของเจสสิก้า ตำรวจนายหนึ่งก็ทำตามหน้าที่ที่ตนเองได้รับมอบหมาย นั่นคือการเจรจาเพื่อดึงดูดความสนใจของเหล่าผู้ก่อการร้ายนั่นเอง
    /แกมม่า จุด A พบเป้าหมายอยู่ที่บริเวณชั้น 3 ของอาคาร/
    /จุด B พบเป้าหมายอยู่บริเวณชั้น 3 ของอาคารทางปีกซ้าย/
    /จุด C ไม่พบเป้าหมาย…/
    เอาล่ะแมทได้เวลาที่นายจะออกโรงแล้ว
    เจสสิก้าพูดสื่อสารกับเพื่อนของเธอ ก่อนที่หน่วยสวาททั้งสองทีมจะเริ่มทำการบุกเข้าไปยังด้านในตัวของอาคารอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่ทำให้อีกฝ่ายได้ทันรู้ตัว
     
    เจสสิก้าวิ่งนำหน่วยย่อยทีมของเธอมาหยุดอยู่ที่บริเวณด้านข้างของแมนชั่นดังกล่าว พร้อมกับสบตากันเหมือนรู้ว่าจะต้องทำอะไร นายตำรวจ 2 คนย่อตัวลงพร้อมกับเอามือประสานกันไว้ พร้อมกับให้นายตำรวจคนหนึ่งเหยียบและส่งตัวเพื่อนร่วมทีมขึ้นไปยังบันไดหนีไฟชั้น 2
    เคลียร์ !”
    เมื่อได้ยินดังนั้น นายตำรวจอีกคนหนึ่งจึงถูกส่งตัวขึ้นไป และไปหยุดยืนประจำที่ไว้ ก่อนที่จะถึงรอบของเจสสิก้า ทันทีที่เธอถูกส่งตัวขึ้นมา นายตำรวจอีก 2 คนที่อยู่ทางด้านบนจึงช่วยกันดึงตัวของเธอขึ้นมา ซึ่งเมื่อเธอขึ้นมาได้แล้ว เธอจึงหยิบ HK-G36C ขึ้นมาประทับบ่าไว้ เพื่อเตรีมพร้อมสำหรับการบุกเข้าไปยังด้านใน
    กระจกยังคงปิดกั้นอยู่ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเธอเสียทีเดียว
    ที่ตัดกระจกถูกงัดออกมาใช้ พร้อมกับค่อยๆ กรีดมันลงไปอย่างเบามือ ซึ่งใช้เวลาไม่นานในการเปิดทางเข้าไปยังด้านใน เจสสิก้าที่ลอดเข้าไปเป็นคนแรกยังคงถือปืนขึ้นประทับบ่าเตรียมพร้อมเอาไว้ตลอด เธอเดินนำนายตำรวจคนอื่นๆ สำรวจห้องทีละห้อง ซึ่งมันก็ไม่ได้ดูสวยงามและน่าชมเท่าไรนัก
    ห้อง 201
    กลิ่นคาวเลือดที่โชยออกมาเตะจมูกทำให้คาดเดาได้ไม่ยากว่าเกิดอะไรขึ้นภายในห้องดังกล่าว
    เจสสิก้าสบตากับนายตำรวจอีกคนหนึ่งเป็นสัญญาณให้เปิดประตู
    แกร๊กก !!
    ทันทีที่ประตูเปิดออก เจสสิก้าและตำรวจอีกนายหนึ่งก็ทำการบุกเข้าไปทันที
    สภาพภายในห้องที่น่าสะอิดสะเอียน กับเลือดที่สาดกระเซ็นไปทั่วทั้งห้อง อีกทั้งยังมีศพของหญิงสาวคนหนึ่งถูกยิงนอนเสียชีวิตอยู่ที่กำแพงห้อง ไม่ไกลออกไปจากเธอเท่าไรนัก
    ชิท !!”
    เธอสบถออกมา ก่อนที่จะทำการสำรวจภายในห้องต่อไป
    ทางนั้นเป็นไงบ้างแมท ?” เจสสิก้าถามเพื่อนหนุ่มของเธอ
    /สภาพไม่ได้น่าดูเท่าไร…/
    อืมเหมือนกัน
    เธอตอบกลับก่อนที่จะตัดสายไป และเริ่มทำการค้นหาผู้ก่อการร้ายและบรรดาตัวประกันต่อไป
    สภาพของห้องพักแต่ละห้องไม่ได้แตกต่างกันเลยแม้แต่น้อย ข้าวของกระจัดกระจาย เลือดสีแดงฉานละเลงไปทั่วทั้งบริเวณ ซึ่งถือว่าเป็นคดีที่น่าสยดสยองมากเลยทีเดียว ซึ่งมันเหมือนกับเป็นคดีฆาตรกรรมหมู่เสียมากกว่า
    ตอนนี้อยู่ที่บันไดริม ปีกซ้าย กำลังจะมุ่งหน้าขึ้นไปยังชั้น 3 ขอการสนับสนุนจากทีมแกมม่าด้วย ทราบแล้วเปลี่ยน…” เจสสิก้าพูดขึ้น ก่อนที่จะทำสัญญาณมือบอกขั้นตอนต่อไปให้กับลูกทีม
    สถานการณ์เป็นไงบ้างแมท ?”
    เจสสิก้าถามขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะบังเอิญเห็นชายที่คาดว่าเป็นผู้ก่อการร้ายเดินมาทางบันได และตรงมาทางเธอ ก่อนที่เสียงปืนจะดังขึ้น
    ปังง ปังง ปังง !!!
    เจสสิก้ากระโดดพุ่งตัวหลบกระสุนไปยังกำแพงที่อยู่ข้างๆ พร้อมกับเริ่มยิงตอบโต้บ้าง
    ปังงง ปังงง ปังงง !!!
    กระสุนนัดหนึ่งโดนเข้าที่แขนของผู้ก่อการร้าย ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เจสสิก้าพุ่งตัวเข้าไปหาเป้าหมายอย่างรวดเร็ว มือที่กำลังจะชักปืนพกออกมายิง ทำให้เจสสิก้าต้องใช้ขาอันเรียวงามของเธอเตะเข้าไปเต็มแรง
    พลั่คคคค !!!
    อั่คคค !!!”
    เมื่อสูญเสียการทรงตัว เจสสิก้าจึงไม่รอช้าที่จะศอกเข้าที่กลางลำตัวของผู้ก่อการร้าย ก่อนที่เธอจะจับเหวี่ยงข้ามบ่าและทุ่มลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว
    อั๊กกกก !!!”
    ตรงนั้นเกิดอะไรขึ้น !!?” ผู้ก่อการร้ายอีกคนที่กำลังวิ่งลงมา ใช้ปืนทำการเล็งเจสสิก้าทันทีที่เห็นตัว ก่อนที่จะกดลั่นกระสุนใส่ โดยที่เธอไม่ทันได้ระวังตัว
    ปังงงงงงง !!!!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×