ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SNSD] : Love Generation : A Love to Kill (PG-13)[Yuri]

    ลำดับตอนที่ #2 : + + Chapter 1 + + [Fixed : แก้คำผิด]

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 53


    กริ๊งงงงงงง !!!!
    เสียงนาฬิกาปลุกที่ดังขึ้นที่หัวนอนทำให้ยูริต้องตื่นขึ้นมาแต่เช้า พร้อมกับกดปิดเสียงของนาฬิกาปลุกนั้น สายตาที่เหลือบมองออกไปยังวิวด้านนอกห้องนอนให้ความรู้สึกสบายๆ ซึ่งเหมาะที่จะเริ่มต้นทำงานเสียจริง
    เธอค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงและเดินหยิบผ้าเช็ดตัวหายเข้าไปในห้องน้ำ ซึ่งสักพักใหญ่ๆ เธอก็อาบน้ำเสร็จ และแต่งตัวเดินลงมายังชั้นล่างทันที
    ยูริเดินลงมาพร้อมกับไขกุญแจเปิดประตูและค่อยๆ ใช้ขาของเธองัดเอาประตูเหล็กขึ้น ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เธอต้องทำเป็นประจำอยู่แล้ว สายลมที่พัดผ่านไปมากระทบกับผิวขาวของเธออย่างอ่อนโยน
    สบายจัง...
    เธอนึกในใจพร้อมกับหยุดพักและสูดหายใจเข้าไปจนเต็มปอด
    เอาล่ะ สู้ๆ ควอน ยูริ !!”
    เธอพูดและตบที่แก้มของตัวเองเบาๆ เป็นเชิงฮึดสู้ ซึ่งเธอใช้เวลาไม่นานเท่าไรนัก ก็เปิดร้านเสร็จ
     
    Kwon express…
    บรรยากาศของช่วงเช้าก็ยังคงน่าเบื่อเช่นเดิม ยูรินั่งมองผู้คนที่เดินผ่านไปมาอย่างเบื่อๆ ก่อนที่เธอจะเดินไปที่เครื่องเล่นเพลง พร้อมกับกดเล่นให้เสียงเพลงดังคลอไปเบาๆ เป็นการสร้างบรรยากาศ
    RRRRR… RRRRRRR…
    โทรศัพท์มือถือที่สันเพราะข้อความเข้าทำให้ยูริเดินไปหยิบมาและกดดูทันที
     
    1 ข้อความใหม่
    จาก: XXX
    10/09/16              08.30
    [แสดง]                [ออก]
     
    เธอกดดูอย่างไม่รอช้า ก่อนที่หน้าบัญชีรายรับของธนาคารจะโชว์ขึ้นมา
    10/09/16              08.30
    ยอดเงินคงเหลือ                         200,594 USD
    จำนวนเงินถูกโอนเพิ่ม                  20,000   USD
    รวม                                         220,594 USD
    *** end ***
     
    เธอยิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนที่จะวางโทรศัพท์กลับไปไว้ที่เดิม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูร้านถูกเปิดขึ้นและมีลูกค้าเข้ามาพอดิบพอดี
    ยูริหันไปหาเธอพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนสดใสบนใบหน้า
    ต้องการให้ช่วยอะไรรึเปล่าคะ ^^?”
     
    เวลาที่ยังคงเดินต่อไปอย่างช้าๆ ทำให้หลายต่อหลายคนรู้สึกเบื่อกับชีวิตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับยูริ ที่วันๆ เธอต้องเฝ้าอยู่ที่ร้านไม่ค่อยได้กระดิกกระเดี้ยไปไหน
    สิ่งเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกมีชีวิตชีวาก็คือ...
    เวลา 9.30 น.
    ยูริมองดูเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาอย่างตื่นเต้น ก่อนที่สิ่งที่เธอเฝ้ารอมาตลอดก็ค่อยๆ ปรากฏในสายตาของเธอ
    หญิงสาวผมหน้าม้าสีทอง ใบหน้าดูน่ารักราวกับตุ๊กตา และผิวที่ขาวราวกับไข่มุข ยามที่ต้องกับแสงแดดยามเช้านั้นยิ่งทำให้เธอดูสวยมากยิ่งขึ้นไปอีก
    ยูริมองหญิงสาวคนนั้นอย่างชื่นชม ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ที่หญิงสาวคนนั้นมักจะโผล่มานั่งกินกาแฟที่ร้านตรงข้ามกับหน้าบ้านของเธอเสมอๆ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นสิ่งๆ เดียวที่ทำให้ยูรินั้นมีกะจิตกะใจที่จะทำงานต่อไป
    สวัสดีค่า !”
    พนักงานฝึกหัดที่เปิดประตูร้านเข้ามาทำให้ยูริเหลือบขึ้นไปมองนาฬิกาอีกครั้ง
    9.45
    มาสายนะ...
    เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เช่นปกติ ก่อนที่จะค่อยๆ เดินออกมาจากบริเวณเคาท์เตอร์ และหยิบโทรศัพท์มือถือติดตัวมาด้วย
    เหมือนเดิม...
    เธอพูดกับพนักงานสาวคนนั้น และเปิดประตูออกมานอกร้านทันที
     
    บรรยากาศที่แสนจะสบายทำให้ยูริรู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมาก เธอเดินข้ามถนนมายังร้านกาแฟ Starbucks Coffee และเปิดประตูเข้าไปยังด้านใน
    กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกาแฟที่ลอยมาเตะจมูกทำให้ความง่วงที่มีนั้นหายไปเป็นปลิดทิ้ง ยูริพยายามมองหาหญิงสาวคนนั้น เช่นทุกๆ วัน แต่เธอกลับไม่พบแม้แต่วี่แววของเธอคนนั้นเลย
    ออกไปตอนไหนนะ...
    เธอได้แต่นึกในใจและถอนหายใจออกมาเบาๆ
    จะรับอะไรดีคะ ?” พนักงานสาวสวยถามขึ้นและยิ้มให้ ถึงแม้ว่าหญิงสาวตรงหน้านี้จะสวยยังไง แต่เธอก็ไม่เคยสนใจเลยแม้แต่น้อย
    เอาคาเฟลาเต้ร้อนแก้วนึงค่ะ...
    เธอตอบกลับไปพร้อมกับหยิบเงินออกมาจากกระเป๋า และจ่ายมันให้กับพนักงานที่ยืนอยู่ข้างๆ
    ยูริเดินเล่นดูของในร้านต่างๆ เช่นเดิม ขณะที่รอกาแฟของเธอ ก่อนที่จะมานั่งลงที่โซฟาตัวหนึ่ง ซึ่งบังเอิญว่าข้างๆ เธอนั้นมีกระเป๋าสตางค์หล่นอยู่ด้วย
    ยูริหยิบมันขึ้นมาพร้อมกับเปิดดู และเลื่อนเอาบัตรประชาชนที่สอดเอาไว้ออกมา และเธอก็ต้องประหลาดใจเป็นอย่างมาก เมื่อรู้ว่า กระเป๋าใบนี้เป็นของหญิงสาวคนที่เธอแอบชื่นชมมาโดยตลอด
    เจสสิก้า จอง...
    ยูริมองดูใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นในบัตรประชาชนและยิ้มออกมาอย่างลืมตัว
    ประตูร้านที่เปิดขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับการปรากฏตัวของเจสสิก้า ทำให้ยูริรีบเก็บบัตรประชาชนเข้าไปไว้ดังเดิม ขณะที่เจสสิก้ากำลังเดินตรงเข้ามา
    เอ่อ... ไม่ทราบว่าเห็นกระเป๋าสตางค์ของฉันตกอยู่แถวนี้บ้างรึเปล่าคะ ? สีดำขนาดประมาณนี้...
    เธอพูดพร้อมกับใช้มือกะขนาดให้ยูริดู
    ใบนี้ใช่รึเปล่าคะ ?”
    ยูริถามขึ้นพร้อมกับยื่นกระเป๋าใบดังกล่าวให้เจสสิก้าดูพร้อมกับยิ้มบางๆ
    “my gosh…”
    เจสสิก้าอุทานออกมาเบาๆ พร้อมกับรับมันไปจากมือของยูริ
    ขอบคุณนะคะ คุณ...
    ยูริ ค่ะ... ควอนยูริ ^^” เธอตอบกลับไป
    เป็นคนเกาหลีเหรอคะ ?”
    อยู่ๆ เจสสิก้าก็เปลี่ยนจากการใช้ภาษาอังกฤษ เป็นการถามด้วยภาษาเกาหลีแทน
    เธอพูดภาษาเกาหลีได้ด้วยเหรอ ?” ยูริถามกลับอย่างประหลาดใจ ก่อนที่เจสสิก้าจะยิ้มออกมา
    ค่ะ...
    เธอตอบกลับไป
    งั้นขอตัวก่อนนะคะ ^^” เจสสิก้าพูดพร้อมกับยิ้มออกมาอีกครั้ง
    อ่าค่ะ...
    ยูริตอบกลับไป พร้อมกับมองดูเจสสิก้าเดินออกไปจากนอกร้าน เธอรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากจนยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว
    คนอะไรน่ารักชะมัด...
     
    RRRRRR… RRRRRRRR…
    โทรศัพท์ที่สั่นเพราะข้อความอยู่ในกระเป๋าทำให้ยูริสะดุ้งเล็กน้อยจนตื่นขึ้นมาจากภวังค์ และหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดู
     
    1 ข้อความใหม่
    จาก: XXX
    10/09/16              10.30
    [แสดง]                [ออก]
     
    เธอค่อยๆ กดดูข้อความดังกล่าว ก่อนที่จะเดินผ่านเคาท์เตอร์และเดินออกมาจากร้านทันที
    คุณคะ !”
    เสียงเรียกจากพนักงานทำให้ยูริชะงักเล็กน้อย และหันกลับไปดูหญิงสาวที่เดินเข้ามาหาเธอ
    คะ ?”
    กาแฟได้แล้วนะคะ...เธอพูดพร้อมกับส่งกาแฟที่สั่งมาให้กับยูริ ซึ่งเธอก็รับมาและข้ามถนนกลับมายังร้านของตัวเองทันที ยูริที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าจริงจัง ทำให้พนักงานฝึกหัดรู้ทันทีว่าเธอกำลังจะออกไปข้างนอก
    ฝากร้านด้วยล่ะ ทำไปตามที่ได้สอนในวันแรก... เอาไว้เสร็จธุระแล้วชั้นจะกลับมา
    พูดจบเธอก็หายขึ้นไปบนชั้นสอง และเดินกลับลงมาในอีกไม่กี่นาทีต่อมา
    เดินทางดีๆ นะคะ !”
    ยูริไม่ตอบเธอได้แต่โบกมือให้อย่างเช่นเคย ก่อนที่จะเดินหายไป
     
    ณ. สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 4...
    ยูริค่อยๆ เดินลงบันไดเลื่อนมาเรื่อยๆ และหักเลี้ยวที่หัวมุม เพื่อเดินตรงต่อมายังล๊อคเกอร์ใส่ของ ซึ่งเธอเป็นเจ้าของอยู่หนึ่งช่อง และเธอมักจะมารับงานจากที่นี่นั่นเอง
    เธอค่อยๆ ล้วงเข้าไปในกระเป๋าและล้วงเอากุญแจออกมาก่อนที่จะค่อยๆ ไขมันไปตามปกติ เมื่อประตูล๊อกเกอร์ถูกเปิดออก เธอก็ล้วงเข้าไปด้านในและหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลออกมา ซึ่งในนี้จะระบุตัวเป้าหมายของเธอเอาไว้ พร้อมกับรูป และรายละเอียดต่างๆ อย่างชัดเจน
    หลังจากที่เธอหยิบเอาซองเอกสารดังกล่าวออกมาแล้ว เธอก็จัดการเก็บมันใส่ไว้ในกระเป๋าเป้พร้อมกับล๊อคตู้เอาไว้ดังเดิม ก่อนที่เธอจะเดินย้อนกลับขึ้นมาทางด้านบน
    ยูริเรียกรถแท๊กซี่ที่ขับผ่านมาและตรงกลับไปยังร้านของตัวเองทันที
    ตลอดเส้นทาง เธอเฝ้าคิดถึงแต่เรื่องของเจสสิก้า ผู้หญิงที่ถือว่าเป็นรักแรกของเธอและอมยิ้มอกมาอย่างมีความสุข ซึ่งเธอไม่เคยรู้สึกดีขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต
    เพียงแค่นึกถึงรอยยิ้มนั้น หัวใจของเธอก็เต้นอย่างไม่เป็นจังหวะเสียแล้ว
    ไม่นานนัก เธอก็กลับมาถึงร้านของเธอพร้อมกับจ่ายเงินและเดินกลับขึ้นไปยังชั้นสองยังห้องนอนของเธอ ปล่อยให้ซูซี่เด็กฝึกงานมองตามหลังของเธอไปอย่างเงียบๆ
    เธอเดินมาล๊อคห้องพร้อมกับเดินกลับมานั่งลงที่โต๊ะริมหน้าต่าง และค่อยๆ แกะซองเอกสารสีน้ำตาลนั้นออกพร้อมกับหยิบของที่อยู่ด้านในออกมาดู
     
    ปีเตอร์ แมคโดเวอร์                       เลขาบริษัท ไทรเซลล์ โปรดักชั่น
    อายุ : 35                                           เกิดเมื่อวันที่           22/06/1975
    กรุ๊ปเลือด : A                                    สถานภาพ : โสด
    สถานที่ทำงาน : อาคาร ไทรเซลล์ เซคชั่น 1        เวลาทำงาน : 08.30 – 21.30.
     
    ยูริค่อยๆ หยิบเอารูป ของเป้าหมายในครั้งนี้ออกมาดู ก่อนที่จะพลิกไปยังด้านหลัง ซึ่งมีเขียนข้อความเกี่ยวกับด้านเสียๆ ของเป้าหมายของเธออยู่
    เหอะ ! แอบยักยอกเงินบริษัท…”
    พูดจบเธอก็พลิกรูปกลับมาดูอีกครั้ง ก่อนที่จะเก็บมันลงไปในซองเอกสารดังเดิม และลุกขึ้นเดินมายังตู้เสื้อผ้า ซึ่งต้องเลื่อนแถบรหัสที่ซ่อนไว้ออกมาก่อน ก่อนที่จะกดรหัสลงไปและปลดล๊อคเอาตู้อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งยูริใช้เป็นที่ๆ เก็บซ่อนปืนของเธอนั่นเอง
    เธอเลือกหยิบเอาไรเฟิลกระบอกโปรด HK-SL9 ออกมาจากตู้ และบรรจงวางมันลงบนเตียง เพื่อเตรียมเช็ดทำความสะอาดสำหรับการทำงานในวันรุ่งขึ้น
    เช้าวันพฤหัส ยูริตื่นนอนขึ้นมาแต่เช้าเช่นทุกวัน เธอทำกิจกรรมทุกอย่างไม่ต่างไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย จะมีก็เพียงแค่ เธอจะไม่ได้พบกับเจสสิก้าในวันนี้ก็เท่านั้น
    ยูริถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ แต่เพื่องานที่สำคัญกว่า เธอจึงต้องยอมเสียช่วงเวลาแห่งความสุขไป
    หลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยูริจึงคว้ากระเป๋าบรรจุปืนของเธอสะพายขึ้นบ่า ซึ่งขาตั้งกล้องที่ยื่นออกมา ก็ทำให้สามารถเลี่ยงข้อสงสัยสำหรับซูซี่ได้
    ยูริเดินมาที่เคาท์เตอร์พร้อมกับหยิบกล้องถ่ายรูปและฟิล์มใส่ในกระเป๋าสะพายของเธอ พร้อมกับพูดขึ้น
    วันนี้ฝากร้านด้วยล่ะทำทุกอย่างไปตามที่ได้สอนไว้ แล้วคืนนี้ชั้นอาจจะกลับดึกหน่อย เพราะงั้นไม่ต้องรอ เธอล๊อคให้มันดีๆ แล้วก็กลับบ้านไปได้เลย…”
    พูดจบยูริก็เดินออกมาจากร้านของเธอทันที
    รถสปอร์ตคันหรูที่จอดเอาไว้ทำให้หลายต่อหลายคนต้องหยุดมองรถ Audi R8 v12 คันงามของเธอ ยูริยิ้มกริ่มอย่างพอใจ ก่อนที่จะกดปลดล๊อครถและเปิดประตูขึ้นไปนั่งทันที
    เสียงสตาร์ทเครื่องยนต์อันทรงพลัง ทำให้เธอยิ่งเป็นจุดสนใจของใครต่อใคร ก่อนที่รถคันงามของเธอจะค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากร้านและเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนใหญ่และขับหายไปอย่างรวดเร็ว
     
    หลังจากที่มาถึงที่หมายแล้ว ยูริจึงวนรถดูรอบๆ บริเวณนั้นอีกครั้ง เพื่อเตรียมทางหนีเอาไว้ เพื่อความปลอดภัยของเธอเอง เธอขับรถมาจอดทางด้านหลังของโรงแรมแห่งหนึ่ง ก่อนที่เธอจะก้มมองดูโรงแรมตรงหน้าผ่านกระจกรถออกไป ซึ่งถ้าจำไม่ผิด โรงแรมแห่งนี้จะอยู่ตรงข้ามกับสถานที่ทำงานของเป้าหมายเธออย่างพอดิบพอดี อีกทั้งบริเวณด้านหลังของโรงแรมนี้ยังมีบันไดหนีไฟอยู่ทางด้านข้าง และตรอกที่คิดว่าไม่น่าจะมีใครเข้ามาใช้งาน
    หลังจากสำรวจบริเวณรอบๆ เสร็จแล้ว เธอจึงลงมาจากรถและกดล๊อคเอาไว้
    ยูริมองไปรอบๆ ตัว ซึ่งมันก็ดูเปลี่ยวและไม่มีคนผ่านเข้ามาเลยจริงๆ จึงไม่น่าจะมีปัญหา ถ้าเธอจะเตรียมเส้นทางนี้เอาไว้ใช้ในการหนี
    เธอเดินออกมาจากตรอกดังกล่าวและตัดออกสู่ถนนใหญ่ทางด้านหน้า และเดินเข้าในโรงแรมอย่างคนปกติ
    ไม่ทราบว่าพอจะมีห้องว่างอยู่รึเปล่าคะ ?”
    เธอกล่าวถามพนักงานที่อยู่บริเวณเคาท์เตอร์ ซึ่งเธอก็เช็คดูโดยใช้เวลาไม่นานเท่าไรนัก
    ห้องเดี่ยวใช่ไหมคะ ?”
    อ่าค่ะ…” ยูริตอบและเงียบไปสักพัก ก่อนที่เธอจะพูดต่อ
    หนึ่งคืนค่ะ…”
    โดยไม่รอให้พนักงานคนนั้นถามต่อ
     
    หลังจากที่ขึ้นมายังห้องและรับกุญแจและการ์ดมาจากพนักงานแล้ว ยูริจึงเปิดประตูเข้าไปในห้องและล๊อคเอาไว้อย่างแน่นหนา ห้องที่เธออยู่ เป็นห้องบนชั้น 5 ของโรงแรม ซึ่งเป็นห้องริมสุดและติดกับทางหนีไฟอย่างพอดิบพอดี ตามที่เธอได้คาดการณ์เอาไว้
    เธอค่อยๆ วางกระเป๋าลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล และเดินออกมายังบริเวณระเบียงด้านนอก
    ยูรินั้นรอบคอบมากถึงขนาดการจองเช็คอินและจ่ายเงิน ยังใช้ชื่อปลอมและธนบัตรสด ตลอดเส้นทางที่เดินเข้ามา เธอก็ทำการสำรวจกล้องวงจรปิดไปด้วยในตัว ซึ่งมีติดอยู่ข้างห้องของเธอเพียงแค่ 1 ตัวเท่านั้น เพราะฉะนั้น เรื่องนี้จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอเลย
    ยูริเดินเข้ามาในห้องและหยิบกล้องถ่ายภาพออกมาจากกระเป๋า แต่กล้องนี้พิเศษกว่ากล้องอื่น ตรงที่กำลังขยายที่มหาศาล จนทำให้สามารถซูมดูภาพไกลๆ ได้อย่างชัดเจน
    เธอปรับโฟกัสและปรับกำลังขยายให้ตรงกับอาคารที่เป้าหมายของเธอทำงานอยู่ และไล่หาดูอย่างใจเย็น ตั้งแต่ชั้นบนสุด จนถึงชั้นล่างสุด
    ซึ่งไม่นานนัก เธอก็พบนายปีเตอร์เป้าหมายของเธอกำลังจอดรถอยู่ที่อาคารข้างๆ ซึ่งเป็นการดีที่จะทำการสังหารโดยที่ไม่ให้ใครรู้ เธอยิ้มออกมาอย่างพอใจ และเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง พร้อมกับเลื่อนผ้าม่านให้ปิดสนิท สายตาสอดส่องไปทั่วห้องเพื่อตรวจสอบหากล้องวงจรปิดที่อาจจะแอบซ่อนเอาไว้ แต่ก็ไม่พบ เธอจึงค่อยๆ รูดซิปและหยิบเอาไรเฟิลของเธอออกมาประกอบ และเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งานเท่านั้น
    หลังจากที่นั่งคำนวนระยะทาง ซึ่งระยะห่างจากโรงแรมที่เธออยู่ กับบริษัทของเป้าหมายนั้น ห่างกันราวๆ เกือบ 2 กิโลเมตรได้ เพราะฉะนั้น จึงไม่ต้องห่วงเรื่องการเสียท่า และรอเพียงให้เวลาเลิกงานมาถึงเท่านั้น
     
    เวลา 21. 15 .
    ยูริมองดูนาฬิกาเรือนใหญ่ที่แขวนไว้ในห้องพัก ก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียงนอนและเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานในค่ำคืนนี้นั่นเอง
    เธอเดินออกมานอกห้องพร้อมกับกล้องถ่ายรูป สายตาสอดส่องไปยังรอบๆ ตัว เพื่อเช็คดูให้แน่ใจว่าไม่มีคน ก่อนที่เธอจะใช้กล้องนั้นส่องไปยังรถของเป้าหมาย ซึ่งยังคงจอดอยู่ที่เดิม
    ได้เวลาสักที…”
    เธอพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในห้อง และหยิบเอาไรเฟิลคู่ใจออกมา และตั้งมันไว้กับราวระเบียง อาศัยพัดลมของเครื่องปรับอากาศในการบดบังเธอจากสายตาของคนอื่นๆ
    เธอเหลือบมองดูที่นาฬิกาข้อมืออีกครั้ง และมองกลับเข้าไปในสโคปทันทีเมื่อเห็นเป้าหมายของเธอกำลังเดินมายังรถที่จอดอยู่ และล้วงเอากุญแจออกมา
    รอยยิ้มเย็นๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของยูริอีกครั้ง
    ลาก่อน…”
    พูดจบเธอก็กดลั่นไกอย่างไม่มีการลังเล
    ปังง !!
    กระสุนขนาด .487 มม. ที่วิ่งตรงไปยังกะโหลกศรีษะของเป้าหมายอย่างแม่นยำ ก่อนที่ร่างนั้นจะปลิวกระเด็นไปตามแรงอัดของกระสุนปืน
    เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นไปทั่วทั้งบริเวณ และนั่นคือภาพสุดท้ายที่ยูริได้เห็นและยิ้มออกมาอย่างพอใจในผลงานของเธอ พร้อมกับลงมือเก็บทำลายหลักฐานอย่างใจเย็น ก่อนที่เธอจะแยกส่วนประกอบปืนและบรรจุมันลงไปในกระเป๋าดังเดิม
    เธอค่อยๆ เปิดประตูออกมาจากห้อง พร้อมกับเดินออกมาตามทางปกติ เพราะไมมีเหตุจำเป็นที่เธอจะต้องหนีออกไปโดยใช้ทางหนีไฟเลย
    ยูริค่อยๆ เดินมาอย่างสบายๆ และกดลิฟท์ลงไปยังชั้นล่าง และเดินผ่านเคาท์เตอร์พร้อมกับทำการเช็คเอาท์ไปด้วยเลยทีเดียว ยูริเดินออกมาจากโรงแรมดังกล่าวพร้อมกับเดินตัดเข้าไปในตรอกที่เธอจอดรถเอาไว้
    ขอกลับไปนอนสบายๆ หน่อยแล้วกัน
    พูดจบเธอก็หยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าและปลดล๊อคเข้าไปนั่ง เธอปรับกระจกมองหลังและเช็คดูความผิดปกติเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะสตาร์ทรถและเดินทางกลับบ้านของเธอทันที
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×