ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : + + Day 12 : Getting Ready + + [แก้คำผิด 100%] + Bonus Pic
ตึกๆ ตึกกๆ
เกิดความลังเลขึ้นชั่วครู่ ระหว่างเลือกที่จะไปต่อกับเปิดประตูเข้าไปยังด้านในเพื่อดูว่าอะไรอยู่ในนั้น
“ก๊าซซซ !!!”
เสียงขู่คำรามที่ดังขึ้นมาจากทางเดียวกันทำให้เธอถึงกับชะงัก เจสสิก้านั้นกระตุกเสื้อยูริด้วยความหวาดกลัวราวกับต้องการที่จะออกไปจากจุดที่อยู่ตรงนั้นให้เร็วที่สุด แต่ยูริก็ยังคงยืนอยู่จุดนั้น เธอยังคงลังเลว่าจะทำยังไงต่อ
ระหว่าง...
Time to Survive: 0hr 0minutes[Time’s Up]
1. เลือกที่จะเปิดประตูเข้าไปยังด้านในเพื่อดูว่าเจ้าสิ่งนั้นคืออะไร
2. เลือกที่จะถอยออกมาเพื่อไปเอาอาวุธที่ห้องของตน <-- [This choice was activated]
หลังจากที่หยุดคิดอยู่ชั่วครู่ ยูริจึงตัดสินใจคว้าข้อมือของเจสสิก้าออกมาจากจุดนั้น เพราะเสียงขู่คำรามเมื่อสักครู่ที่ดังลอดเข้ามา มีความเป็นไปได้สูงว่าเจ้าตัวนั้นจะตามพวกเธอเข้ามาที่นี่
เพล้งงงง !!!
เสียงกระจกแตกดังขึ้นอีกครั้ง เพราะซันนี่นั้นใช้พันท้ายของปืนกระทุ้งเข้าใส่กระจกอย่างแรงก่อนที่จะเอื้อมมือเข้าไปเปิดมันออก และเพราะกระสุนที่หมดไปแล้วจึงทำให้เธอต้องงัดเอามีดที่พกติดตัวไว้ขึ้นมาใช้และปาดคอเจ้าผีดิบตัวที่อยู่ใกล้ที่สุดทันที
ฉัวะ !!
“เข้าไปเร็วเข้า !”
ฮโยยอนตะโกนบอกเพื่อนสาวก่อนที่ซันนี่จะปีนเข้าไปก่อนเป็นคนแรก และตามมาติดๆ ด้วยฮโยยอน ทั้งสองคนวิ่งมาหยุดที่ประตูและเปิดออกไปทันที ด้านหลังนั้นมีเหล่าผีดิบที่พยายามจะปีนตามเข้ามาอยู่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้ต้องรีบปิดและหาอะไรมาดันประตูเอาไว้
ปึ้งง ปึ้งงงง !!!
“โอออออ !!”
เสียงร้องของเหล่าผีดิบที่พยายามจะดันประตูเข้ามายังคงดังอย่างไม่ขาดสาย ซันนี่ค่อยๆ ก้าวถอยออกมาและมองดูให้แน่ใจอีกครั้งว่ามันไม่สามารถพังเข้ามาได้ ก่อนที่ฮโยยอนจะเรียก
“ไปกันเถอะ !”
“อือ…”
เธอตอบกลับพร้อมกับวิ่งตามหลังเพื่อนสาวไปทันที
ทั้งสองวิ่งเลี้ยวมายังห้องออฟฟิศของเหล่าตำรวจเพื่อที่จะได้ใช้วิทยุสื่อสารนั้นติดต่อเพื่อขอรับการช่วยเหลือเพื่อที่จะได้ไปทำภารกิจต่อไปในขณะที่ยูรินั้นก็ได้จูงมือของเจสสิก้ามาเรื่อยๆ กระทั่งถึงห้องออฟฟิศของตน
แกร๊กกก…
ยูริเปิดประตูออกพร้อมกับเดินเข้าไปด้านใน เธอตรงเข้าไปยังโต๊ะทำงานและพยายามหาของบางอย่าง ซึ่งเจสสิก้าก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร สิ่งที่เธอสนใจนั้นคือสิ่งที่อยู่ภายนอกหน้าต่างนั่นต่างหาก เธอจึงเดินมาที่ขอบหน้าต่างและเปิดม่านออกสายตาจ้องมองออกไปยังภายนอก
ไปยังท้องถนนที่เต็มไปด้วยเหล่าผีดิบตายซากที่เดินกันเกลื่อนกลาด
จนยูรินั้นสามารถหากุญแจของเธอได้พบ
“ไปเถอะ !”
เธอเรียกพร้อมกับเดินออกมาจากห้องและตรงไปยังคลังที่เก็บอาวุธเอาไว้ เจสสิก้าเดินตามหลังยูริมาติดๆ กระทั่งพากันมาถึงที่หน้าห้องเก็บอาวุธ ยูริจึงหยิบเอากุญแจที่ใส่ไว้ในกระเป๋าออกมาและไขทันที
แอ๊ดดดด…
ทันทีที่ประตูเปิดออกยูริก็เปิดผลัวะเข้าไปทันที อาวุธปืนนานาชนิดที่อยู่ภายในแม้จะมีบางส่วนที่หายไปแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะสิ่งที่เธอต้องการไม่ได้อยู่ในส่วนของทางนั้นอยู่แล้ว เจสสิก้าเดินตามหลังยูริลึกเข้ามาด้านในก่อนที่จะตามเข้าไปในห้องซึ่งมีป้ายกำชับเอาไว้ด้านบน
‘S.T.A.R.S Member Only’
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของยูริอีกครั้งเมื่อเธอเดินมาถึงตู้ล็อคเกอร์ของตน เธอเปิดมันออกและทำการเปลี่ยนชุดที่ใส่อยู่กับชุดที่อยู่ในตู้ทันทีโดยเหลือเสื้อยืดสีขาวด้านในเอาไว้ เธอหยิบคว้าเอาชุดแบทเทิลสูทสีดำของตนออกมาจากตู้และสวมมันเข้ากับตัวเองทันที
เธอรูดซิปไล่ขึ้นมาจนถึงเนินอกและเปิดแง้มไว้สักเล็กน้อยเพื่อใช้สำหรับการระบายอากาศ ก่อนที่จะหยิบเอาอุปกรณ์ต่างๆ มาติด อาทิ สนับเข่า สนับศอกที่ใช้สำหรับกันกระแทก รวมไปถึงสายรัดที่ใช้สำหรับเก็บปืน
ยูริหันมองมาทางเจสสิก้าที่อยู่ข้างๆ และเงียบไปสักพัก
“เธอเองก็เปลี่ยนชุดด้วยสิ”
“ว… ว่าไงนะ ?”
น้ำเสียงสูงขึ้นด้วยความตกใจ ทำไมเธอจะต้องเปลี่ยนชุดด้วย
“ชั้นบอกให้เธอเปลี่ยนชุดด้วยไงเล่า ดูสภาพชุดที่เธอใส่อยู่สิ เปื้อนไปจนหมดแล้วนี่นา คราบนู่นคราบนี่ แถมบางช่วงก็ยังขาดด้วย” เธอเงียบไปอีกครั้งก่อนที่จะหยิบเอาชุดตำรวจของตนออกมาและยื่นมันส่งให้กับเจสสิก้า
“ความจริง… ถ้ามีแบทเทิลสูทเหลืออีกสักตัวก็ดี เพราะอย่างน้อยมันก็ทำหน้าที่ได้เหมือนกับชุดเกราะกันกระสุน แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก เธอก็ใส่ชุดนั้นแล้วก็เอาเกราะนี่ใส่ไปด้วยแล้วกัน”
เธอพูดพร้อมกับหยิบเอาเกราะกันกระสุนออกมาให้เจสสิก้าก่อนที่เธอจะรับไปและเดินหลบไปจากจุดที่ยูริอยู่
“เธอจะเดินไปไหนล่ะ ก็อยู่ตรงนี้สิ ชั้นจะได้ช่วยปรับขนาดชุดให้มันเข้ากับเธอได้”
ได้ยินประโยคดังกล่าวหน้าของเจสสิก้าก็ยิ่งแดงขึ้น แม้ว่ายูริจะไม่ได้ใส่ใจ แต่เจสสิก้าก็ไม่รู้ว่าจะต้องหน้าแดงไปเพื่ออะไร ทั้งๆ ที่พวกเธอก็เป็นผู้หญิงด้วยกัน จนสุดท้ายเจสสิก้าก็ยอมเปลี่ยนแต่โดยดีเพราะเวลาที่ใช้นั้น ยิ่งมากมันก็ยิ่งอันตราย
.
.
.
“เอ้า ! ได้แล้ว !”
ยูริพูดขึ้นพร้อมกับเขยิบถอยออกมามองดูไอดอลสาวร่างเล็กที่อยู่ในชุดตำรวจของหน่วย STARS ของเธอ แม้ว่าชุดเกราะที่สวมอยู่ชั้นนอกมันจะดูใหญ่ไปสักนิด แต่มันก็ไม่มีอันอื่นแล้ว เธอเดินไปปรับสายรัดให้เข้าที่และเริ่มเปลี่ยนไปยังส่วนของคลังแสงที่เกี่ยวกับเรื่องของอาวุธปืนแทน
เธอหยิบเอาปืนพกมาเหน็บไว้ที่ต้นขาทั้งสองด้าน พร้อมกับหยิบเอามีดสั้นเสียบไว้ที่หลังตรงช่วงเอวซึ่งเป็นที่เก็บของมัน ในส่วนของเจสสิก้า ยูริก็เลือกปืนพกให้กับเธอเช่นเดียวกัน เพราะมันค่อนข้างเบาและง่ายที่จะพกพา กระสุนสำรองนั้นถูกใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย แม๊กกาซีนสำรองถูกเหน็บไว้ที่ข้างตัวเพื่อความรวดเร็วสำหรับการใช้งาน
“แล้วถ้าเราเจอไอตัวบ้านั่นล่ะ ?”
เจสสิก้าถามขึ้น
“เราก็ใช้เจ้านี่ไง…”
พร้อมกับหยิบเอาลูกซองขึ้นมากระบอกหนึ่ง ตอนนี้สิ่งที่พวกเธอต้องการนั้นก็ครบแล้ว ทั้งยูริและเจสสิก้าต่างก็พากันออกมาจากห้องนั้นทันที โดยเลือกที่จะลงบันไดอีกฝั่งหนึ่ง ในขณะที่ซันนี่และฮโยยอนนั้นขึ้นบันไดอีกด้านหนึ่งมา ทั้งคู่จึงคลาดกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“เร็วเข้าเถอะ !”
ฮโยยอนบอกกับเพื่อนสาวก่อนที่จะเดินเข้ามาทางด้านใน สภาพที่เพิ่งจะเหมือนกับมีคนเข้ามาใช้งานทำให้ทั้งคู่รู้สึกเอะใจไม่น้อย เพราะก่อนที่จะเข้ามาเธอก็เพิ่งจะพบกับยูริ หรือว่ายัยนั่น…
“เฮ้ !”
ฮโยยอนตะโกนเรียกเพื่อนสาวให้เข้ามาทางด้านใน ก่อนที่จะพบกับชุดที่เปื้อนเลือดถูกถอดทิ้งเอาไว้
“ของยัยนั่นไม่ผิดแน่ !”
ฮโยยอนตอบพร้อมกับรีบออกมาจากบริเวณนั้น
“เธออยู่นี่ไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวชั้นจะลองลงไปทางบันไดข้างๆ นี่ เผื่อยัยนั่นจะยังไปได้ไม่ไกล !”
“อ… อือ ได้เรื่องยังไงก็บอกกันด้วยแล้วกัน !”
ซันนี่ตะโกนบอกเพื่อนสาวก่อนที่ฮโยยอนจะวิ่งออกไปจากห้อง ปล่อยให้ซันนี่อยู่ด้านในห้องนั้นตามลำพัง ก่อนที่จะเดินมายังส่วนของคลังแสงและหากระสุนปืนไรเฟิลของเธอต่อ
อยู่ไหนนะ… สิบสองจุดเจ็ด สิบสองจุดเจ็ด…
แกร๊กกกก !!
เสียงที่เหมือนกับมีใครบิดลูกบิดประตูดังขึ้นทำให้ซันนี่หันกลับไปมองพร้อมกับใช้ปืนพกเล็งไปทางนั้น
“ฮโยยอน ?”
กึกก… กึกกก…
ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าเหมือนกับมีคนกำลังเดินใกล้เข้ามา
“นั่นเธอเหรอ ?”
“…”
“ชั้นถามว่านั่นเธอเหรอ ฮโยยอน ?”
ยังคงไร้ซึ่งการตอบรับจนซันนี่เริ่มรู้สึกไม่ดี เธอจึงถอยกลับมาและหากระสุนต่อ กระทั่งพบมันอยู่บนชั้นที่สูงขึ้นไปเล็กน้อย เธอจึงเขย่งตัวและหยิบมันลงมา เป็นจังหวะเดียวกับที่ผีดิบตนหนึ่งตรงเข้าจู่โจมเธอโดยที่ไม่ทันได้ระวัง
“โออออออ !!!”
Time to Survive: 0hr 0minutes[Time's Up]
REQUIRE : Someone to Help 5/5 [Complete]
REQUIRE : Someone to Help 10/10 [Complete]
ปังงงงง !!!
เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดก่อนที่กระสุนจะพุ่งเข้าใส่ที่กลางศีรษะของเจ้าผีดิบตัวนั้นอย่างแม่นยำพร้อมๆ กับที่ร่างนั้นจะค่อยๆ ทรุดลงไปกับพื้น ซันนี่หันมองดูหญิงสาวร่างสูงที่เข้ามาช่วยเธออย่างอึ้งๆ
“ย… ยูริ !?”
“เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะ !”
เธอพูดขึ้นพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ดีนะที่ชั้นแวะกลับมา ไม่อย่างนั้นเธอคงจะเสร็จมันไปแล้ว !”
“ถึงเธอไม่มาชั้นก็เอาตัวรอดได้ย่ะ แต่ก็ดีแล้วที่เจอ…”
สาวร่างเล็กพูดขึ้นและเงียบไปสักพัก ก่อนที่จะเดินเข้ามากอดร่างของยูริเอาไว้เบาๆ
“ขอบคุณพระเจ้าที่เธอไม่เป็นอะไร…”
พร้อมกับซบหน้าเข้ากับอกอิ่มของยูริเช่นทุกครั้งเพราะสำหรับซันนี่แล้ว ยูริเปรียบเสมือนกับเป็นคนในครอบครัวคนนึงเลยก็ว่าได้ ก่อนที่เธอจะเหลือบมาเห็นเจสสิก้าที่อยู่ข้างๆ
“ยินดีที่ได้พบนะ เจสสิก้า ชั้นล่ะเป็นแฟนคลับของคุณคนนึงเชียวนะ”
เธอพูดยิ้มๆ ก่อนที่จะหันกลับไปสนใจกับการเตรียมกระสุนต่อ ก่อนที่ประตูจะเปิดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับการปรากฏตัวของฮโยยอนในสภาพเหงื่อท่วมตัว
“ทีนี้ก็ครบสักที…”
ยูริพูดขึ้นก่อนที่จะเดินไปหยิบเอาปืนกลออกมาอีกสองกระบอก ซึ่งมันเป็นรุ่นที่ถูกดัดแปลงมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ T68 SMG เป็นปืนกลเบาชนิดพกพาที่มีโครงสร้างดัดแปลงมาจาก M4A1 Carbine สามารถบรรจุกระสุนได้ 30 นัด ด้วยกระสุนขนาด 6.8mm ความแรงของมันจึงไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าปืนสไนเปอร์ซุ่มยิงเลย เธอปรับกล้องเรดดอทของปืนทั้งสองกระบอกอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะเหน็บมันที่ต้นขาและเปลี่ยนเอาปืนพกนั้นมาเก็บไว้ที่สายรัดข้างตัว
ซันนี่ยังคงตุนเอากระสุนไรเฟิลกระบอกนั้นใส่ในกระเป๋าเป้สะพายและแบกขึ้นพาดบ่า ส่วนฮโยยอนก็ยังคงเตรียมกระสุนปืนกลของตนต่อไป อีกทั้งเธอยังเดินไปเปิดตู้และหยิบเอาปืนพกออกมาเพิ่มด้วย
“เธอเอาลูกซองไปใช้ด้วยสิ !”
ยูริหันไปบอกกับฮโยยอนที่อยู่ทางด้านหลังซึ่งเธอเองก็กำลังเปลี่ยนไปใส่ชุดแบทเทิลสูทแบบเดียวกับยูริอยู่
“ดีจังเลยน้า พวกที่เป็นหน่วยจู่โจมเนี่ย”
กระทั่งซันนี่พูดแทรกขึ้น
“ทำไมเหรอ ?”
“จะทำไมล่ะ ก็พวกเธอมีแบทเทิลสูทให้ แต่ชั้นไม่มีน่ะสิ”
ซันนี่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างไม่พอใจสักเล็กน้อย
“ก็แล้วทำไมเธอไม่เอาของคนอื่นไปใส่ล่ะ ? เพราะยังไงดูๆ แล้วมันก็คงไม่มีใครมากันแล้วล่ะ”
ฮโยยอนหันกลับไปตอบนั่นจึงทำให้ยูริหันกลับมามองเจสสิก้าอีกครั้ง
“อย่าบอกนะว่าชั้นต้อง…”
“ใช่… อย่างที่เธอคิดนั่นแหล่ะเจส”
“ทำไมยัยสองคนนั้นมันต้องเข้าไปด้วยกันฮะ ?”
ซันนี่หันมาซุปซิปกับฮโยยอนเพื่อนสาวที่อยู่ข้างๆ
“แล้วชั้นจะไปรู้ไหมล่ะ ออกมาเธอก็ลองถามมันเองสิ…”
ฮโยยอนตอบกลับอย่างหน่ายๆ และบรรจุกระสุนเข้าใส่ปืนลูกซองในมือ
“หรือว่ายัยยูริจะแอบกิ๊กกันอยู่กับเจสสิก้า ?”
คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของซันนี่ทำเอาฮโยยอนถึงกับชะงักไปชั่วครู่ ก่อนที่จะหันกลับมาและเขกหัวเพื่อนสาวไปหนึ่งที
“เธอจะบ้ารึเปล่าฮะ ! สองคนนั้นมันก็ผู้หญิงด้วยกันทั้งคู่นะ สมองเธอนี่เริ่มจะเลอะเลือนแล้วมั๊งเนี่ย ว่างๆ ไปให้หมอเช็คสักหน่อยดีมั๊ยฮะ ?”
“แล้วเธอจะมาเขกหัวชั้นทำไมเนี่ย ! อีกอย่างนะ ตอนนี้พวกเลสเบี้ยนพวกอะไรนี้ก็ออกจะเยอะ เธอไม่เคยตามข่าวเหรอ ว่าเจ้าหญิงคนนั้นทำให้ผู้ชายกี่สิบคนกี่ร้อยคนมาแล้วล่ะที่ต้องอกหักน่ะ”
“เหรอ… พอดีชั้นไม่เคยตามข่าวน่ะ”
พร้อมกับขึ้นลำเตรียมใช้งาน
แกร๊กกก !!
“หัดตามข่าวซะบ้างก็ดีนะเธอน่ะ…”
กระทั่งยูริและเจสสิก้าจะเดินกลับมาด้วยกันอีกครั้ง สีหน้าของยูรินั้นยังคงเรียบเฉยแต่กับเจสสิก้านั้นกลับแตกต่างกันออกไป เพราะหน้าของเธอแดงแบบแปลกๆ
“เธอเองก็รีบเถอะซันนี่ จะได้ไปกันสักที !”
ฮโยยอนหันมาพูดกับเพื่อนสาวที่อยู่ข้างๆ ก่อนที่ซันนี่จะเดินไปคว้าชุดแบทเทิลสูทจากในตู้ล็อคเกอร์ออกมาและลองทาบกับขนาดตัวสักพัก เหมือนกับว่ามันจะเล็กไปสักนิด เธอจึงเดินไปหาของคนอื่นๆ ต่อ แต่มันก็มีแค่สองตัวคือ ใหญ่เกินไป กับเล็กไปหน่อยหนึ่ง
จนสุดท้ายเธอก็โยนชุดที่ใหญ่กว่าทิ้งกับพื้นและเริ่มถอดเสื้อผ้าเพื่อเปลี่ยนชุดทันทีสร้างความตกใจให้กับเจสสิก้าไม่น้อย เพราะเธอไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงคนไหนที่กล้าขนาดถอดเสื้อผ้าเปลี่ยนต่อหน้าคนอื่นๆ ได้อย่างซันนี่อีกแล้ว แต่ในกรณีของซันนี่ ไม่ว่าจะเป็นเธอ ฮโยยอน หรือแม้กระทั่งยูริ พวกเธอนั้นชินกับการกระทำดังกล่าวไปแล้ว เพราะต่างคนก็ต่างเห็นสัดส่วนของกันและกันไปจนเบื่อแล้วก็ว่าได้
“มันจะเล็กเกินไปไหมเนี่ย ?”
ซันนี่บ่นขึ้นขณะที่ทำการรูดซิปไล่ขึ้นมาและติดอยู่ที่เนินอกของตน
“แล้วใครใช้ให้มันใหญ่ซะขนาดนั้นล่ะยะ ? ดูสิ ! จะทะลักออกมานอกสูทอยู่ละ”
“หุบปากไปเลยนะยัยบ้า !”
ซันนี่หันไปตวาดฮโยยอนเพื่อนสาวที่มักจะมีปากเสียงกันบ่อยๆ อยู่แล้ว พร้อมกับรูดซิปขึ้นมาจนสุด… แต่มันก็ยังโชว์เนินอกอิ่มของเธออยู่ดี
“เอาเหอะ ยังไงซะเธอก็ชอบใส่พวกซีทรูโชว์พวกชุดชั้นในอยู่แล้วนี่ แค่นี้มันจะเป็นอะไรไปล่ะ ชั้นว่ารีบๆ ไปกันดีกว่าก่อนที่จะมีตัวบ้าอะไรพังเข้ามา”
“เธอนี่ก็อีกคนนะยูล !”
“เอาน่า… รีบๆ เหอะ ชั้นไม่อยากจะกลายเป็นมื้อเที่ยงของพวกผีดิบเวรนั่นเพราะเธอนะ”
“ย่ะ ! บ่นกันอยู่นั่นน่ะแหล่ะ !!”
ซันนี่ตะคอกกลับพร้อมกับคว้าไรเฟิลของตนมาถือไว้ ฮโยยอนจึงลุกขึ้นจากที่นั่งและเตรียมพร้อม เช่นเดียวกับยูริที่ชักเอาปืนพกขึ้นมาถือเอาไว้ในมือ
“ไปเถอะ…”
ปึ้งงง !!
ยูริใช้เท้าของเธอถีบเข้าใส่บานประตูที่เปิดแง้มอยู่อย่างแรงจนมันเปิดผลัวะออก พร้อมกับพุ่งเข้าใส่เหล่าผีดิบที่อยู่เบื้องหน้าด้วยความรวดเร็ว เพราะชุดแบทเทิลสูทนั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้เสริมสมรรถนะทุกอย่างให้เหนือขึ้นกว่าเก่า โดยมีไมโครชิพที่เป็นตัวคอยควบคุมฝังอยู่ที่แผ่นหลังที่คล้ายกับกระดูกสันหลังยาวลงไปถึงช่วงเอวเป็นตัวส่งพลังงานให้
ฉัวะ !!
เธองัดเอามีดสั้นที่พกอยู่ออกมาและปาดคอเจ้าผีดิบตนนั้นอย่างเร็วพร้อมกับหันเหวี่ยงตัวกลับฟาดศอกเข้าใส่ใบหน้านั้นอย่างแรงจนส่วนของศีรษะนั้นแทบจะหลุดกระเด็นออกจากร่าง ฮโยยอนที่ตามมาในระนาบเดียวกันก็ชักเอาปืนพกออกมาและยิงเข้าใส่ที่กลางศีรษะของผีดิบอีกตนหนึ่งอย่างแม่นยำ
ปังงงง !!
.
.
.
ปังงงง !!!
เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นไปทั่วทั้งบริเวณจนเปรอะเปื้อนผนังและกำแพง เธอยังคงกระหน่ำยิงเข้าใส่ที่กลางศีรษะของเหล่าผีดิบนั้นอย่างแม่นยำ ซันนี่ที่เดินตามออกมากับเจสสิก้ายังคงชิลเหมือนกับไม่ใช่เรื่องทุกข์ร้อนอะไร แต่มือของเธอก็จับอยู่ที่ปืนพกและเตรียมที่จะงัดขึ้นมายิงได้ทุกเมื่อ
ยูริและฮโยยอนยังคงคอยเปิดทางให้กับทั้งซันนี่และเจสสิก้า จนกระทั่งมาถึงบริเวณทางเดินหลักที่จะลงไปสู่ชั้นล่าง เพราะเก้าอี้ที่พวกซันนี่และฮโยยอนที่วางขวางประตูเอาไว้ถูกดันออกจนทำให้ระเบียงทางเดินชั้นล่างนั้นมีแต่พวกผีดิบเดินกันจนเต็มไปหมด และพวกมันก็หันมาเป็นทางเดียวเมื่อเห็นพวกเธออยู่ที่บันได
“โอออออออ !!!”
พร้อมกับกรูกันเข้ามา
ซันนี่งัดเอาสไนเปอร์ของตนมาพาดกับขอบราวบันไดชั้นสองและดึงขาทรายลงเป็นตัวล็อค
แกร๊กกกก !!
ตามมาติดๆ ด้วยเสียงลั่นไกที่ดังสนั่น
ปังงงงง !!!!
แรงถีบอันมหาศาลทำให้ราวบันไดนั้นถึงกับบิ่นเพราะมันถูกขาทรายนั้นกระแทกเข้าอย่างแรงก่อนที่จะส่งผ่านมายังช่วงไหล่ของเธอ กระสุนที่พุ่งออกจากปากกระบอกนั้นตรงเข้ากลางศีรษะของผีดิบตัวหน้าอย่างแม่นยำจนแตกกระจายออก ไม่เพียงแค่นั้นอำนาจการทำลายที่ทะลุทะลวงนั้นสามารถสังหารเหล่าผีดิบที่เดินเรียงกันเข้ามาได้เป็นแถบ
ปังงงงง !!!!
กระสุนนัดที่สองพุ่งออกจากปากกระบอกไปเข้าที่กลางลำตัวของผีดิบสาวอีกตัวหนึ่งจนกระจายออกเป็นชิ้นๆ หนทางที่เปิดออกทำให้พวกของยูริวิ่งลงบันไดไปและใช้ปืนของพวกตนยิงกราดเข้าใส่เหล่าผีดิบที่ยังคงกรูกันเข้ามา
ปังงง ปังงงง ปังงงงง !!!
.
.
.
ปังงงงงง !!!!
ซันนี่ยังคงยิงใส่เหล่าผีดิบที่กำลังดาหน้ากันเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
“ตายไปซะให้หมด !! ตายไปซะ !!!!!”
----------------------------------
Bonus [ลองทำดูเล่นๆ] : Kwon Yuri in Battle Suit
----------------------------------
Bonus [ลองทำดูเล่นๆ] : Kwon Yuri in Battle Suit
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น