ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : + + Chapter 12 + + [Fixed : แก้คำผิด]
วันที่ 4 ตุลาคม เวลา 17.00 น. ไมอามี่, ฟลอริด้า...
เมื่อมาถึง ยูริก็จัดการหาที่พักในทันที เธอเลือกโรงแรมที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่ทำงานของเป้าหมายมากนัก เพื่อจะได้เริ่มการสังเกตพฤติกรรมของเป้าหมายอย่างเงียบๆ
ยูริหยิบกล้องถ่ายรูปของเธอออกจากจากกระเป๋า พร้อมๆ กับที่เดินมาหยุดยืนอยู่ที่ขอบหน้าต่างและปรับกำลังขยายส่องไปยังอาคารฝั่งตรงข้าม
เป้าหมายของเธอในครั้งนี้ยังคงง่วนอยู่กับการทำงานเอกสาร ซึ่งมันก็ดูไม่เห็นต่างจากการทำงานทั่วไปเท่าไรนัก เธอยังคงนั่งมองและเฝ้าสังเกตต่อไปเรื่อยๆ แต่เสียงของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้เธอต้องละมือมาทันที
“ยูลจ๋า รับสายของสิก้าหน่อยสิ...”
เสียงเรียกเข้าดังกล่าวทำให้ยูริอดที่จะหัวเราะออกมาเสียมิได้
เธอเอาไปอัดเสียงเล่นไว้ตอนไหนกันนะ
ยูริรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับทิ้งตัวนอนลงบนเตียงทันที ใบหน้าของเธอยิ้มอย่างมีความสุข
“ว่าไงสิก้า ?”
/ยูลทำอะไรอยู่เหรอ ?/
เสียงใสๆ ของเจสสิก้าถามขึ้น
“เพิ่งจะมาถึงได้ไม่นานเท่าไรน่ะ ตอนนี้กำลังจะจัดของนะ...” ยูริตอบกลับพร้อมกับพลิกตัวขึ้นมานอนคว่ำและกระดิกขาเล่นไปมา
/เหรอ.../
“แล้วตอนนี้สิก้าทำอะไรอยู่เหรอ ?”
ยูริเป็นฝ่ายถามกลับบ้าง
/เดี๋ยวสิก้าต้องไปทำงานต่อน่ะ... ได้เวลาพอดีเลย งั้นสิก้าไปก่อนนะ/
“อะ... อือๆ”
ยูริตอบกลับ ก่อนที่เจสสิก้าจะเป็นฝ่ายวางสายโทรศัพท์ไป
ยูริพลิกตัวกลับมาเป็นนอนหงายอีกครั้ง ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เธอก็รู้สึกมีความสุขจนหลุดยิ้มออกมาอย่างลืมตัว
ทางด้านของเจสสิก้า...
หลังจากที่กดวางสายโทรศัพท์ไปแล้ว เธอก็เดินออกมาจากอาคารมุ่งหน้าไปยังโรงจอดรถทันที และเมื่อมากันครบแล้ว ขบวนรถจึงเคลื่อนตัวออกมาจากอาคารและตรงไปยังสถานที่ทำงานในครั้งนี้ทันที ซึ่งนี่จะเป็นครั้งแรก ที่ทาง FBI และ CIA จะได้ร่วมงานกัน
ขบวนรถที่วิ่งมาบนถนนสายหลัก ยังคงตามกันมาอย่างเป็นระเบียบ ก่อนที่จะวิ่งลอดอุโมงค์ไป
“ทาง CIA ติดต่อมาว่าไง ?”
“ตอนนี้ทาง CIA กำลังเร่งตรวจสอบเส้นทาง แล้วก็ได้ขอความร่วมมือจากตำรวจท้องที่ในการปิดล้อมอาคารครับ” นายตำรวจคนนหึ่งรายงานขึ้น
“แล้วผู้ก่อการร้ายครั้งนี้เป็นใคร ?”
เธอถามต่อ
“นาย อิวานคอฟ อิวานโควิช พ่อค้าอาวุธสงครามข้ามชาติ ลักลอบค้าอาวุธสงครามให้กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายภายในประเทศ หนึ่งในอาวุธปืนดังกล่าวถูกใช้โดยนาง มากาเรต ดี พอร์ตแมน ครับ
”
เจสสิก้าไม่ได้ตอบอะไร เธอหันมาปรับขนาดชุดเกราะให้เข้ากับตัวของเธอเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับงาน ซึ่งไม่นานนักขบวนรถของทาง FBI ก็มาถึง
“เจ้าหน้าที่เจสสิก้า จองจากฝ่ายสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ FBI”
“เอฟเวอร์ลีน ซอลท์ เจ้าหน้าที่พิเศษฝ่ายรักษาความมั่นคงแห่งชาติ CIA”
หญิงสาวคนนั้นตอบกลับมา
“สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ ?”
“จากที่เราทราบมา นายอิวานคอฟกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในอาคารหลังนี้ ตอนนี้ทางตำรวจท้องถิ่นกำลังส่งลูกทีมเข้าไปสำรวจ
”
ปังง ปังงง ปังงงง !!!
ไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบ เสียงปืนก็ดังขึ้น ทำให้ทั้งเธอและเจสสิก้าต่างก็หันไปดูทางอาคารหลังดังกล่าว
“รายงานสถานการณ์ด้านในด้วย ได้ยินแล้วตอบด้วย !”
/ซ่าาาาาาาา
/
“เป็นไงบ้างคะ ?” เจสสิก้าหันไปถาม
“ขาดการติดต่อไปแล้ว
” เธอพูดอย่างเซ็งๆ ก่อนที่จะหันมาทางเจสสิก้าและพูดขึ้นอีกครั้ง
“เธอรับหน้าที่พาลูกทีมบุกเข้าไปก็แล้วกัน รู้อะไรเพิ่มเติมแล้วแจ้งให้ทราบด้วย”
“รับทราบ !”
เจสสิก้าตอบกลับพร้อมกับเดินมาหากลุ่มลูกทีมของเธอ ก่อนที่จะเริ่มแจกแจงรายละเอียดของแผนการ และเตรียมเข้าสู่ขั้นตอนการปฏิบัติจริง
“เอาล่ะ ไปๆ !!”
เจสสิก้าเดินตามหลังลูกน้องเธอเข้ามายังด้านใน ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่หัวมุมทางแยก เธอใช้สัญญาณมือแบ่งให้ลูกทีมไปยังทิศต่างๆ ก่อนที่จะแยกย้ายกัน
เธอเดินชิดกำแพงมาเรื่อยๆ อย่างระมัดระวัง จนมาหยุดอยู่ที่บันไดทางขึ้นชั้น 2 และลิฟท์ที่อยู่ติดๆ กัน
ลูกทีมที่แยกไปยังทิศต่างๆ ก็กลับมารวมตัวกันตรงจุดที่เธออยู่อีกครั้ง
“ไม่มีอะไรผิดปกติครับ”
“อืม
”
เจสสิก้าใช้สัญญาณมือสั่งลูกทีมของเธออีกครั้ง เพื่อเดินขึ้นไปยังชั้นสองของอาคาร ซึ่งในระหว่างที่เธอกำลังเดินขึ้นมายังชั้นสอง สายตาก็ไปสะดุดเข้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นอนจมกองเลือดอยู่บริเวณจุดพักบันได นั่นยิ่งทำให้เธอต้องระวังตัวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เจสสิก้าค่อยๆ ก้าวขึ้นไปอย่างเงียบๆ และเอาหลังพิงกำแพงเอาไว้เมื่อขึ้นมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย
เธอหยิบปืนกลเบาประจำหน่วยขึ้นประทับบ่าไว้ ก่อนที่จะค่อยๆ ชะโงกหน้าไปดูยังระเบียงทางเดิน ซึ่งเห็นแต่เพียงความว่างเปล่า นอกเหนือจากร่างของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดก่อนหน้าที่เข้ามาเท่านั้น
ลูกทีมที่วิ่งไปประจำที่ตามจุดต่างๆ เพื่อทำการเช็คความเรียบร้อยค่อยๆ ทยอยวิ่งกันไปอย่างเงียบๆ เจสสิก้าที่เดินมาหลังสุดหยุดอยู่ที่ร่างของนายตำรวจคนหนึ่งที่ยังพอมีลมหายใจอ่อนๆ อยู่
“เฮ้! ตรงนี้พบผู้รอดชีวิต 1”
เธอบอกกับลูกทีมข้างๆ และย่อตัวลงตรวจเช็คชีพจร ซึ่งมันเต้นอ่อนลงทุกทีๆ
“เฮ้ ! ยังไหวอยู่รึเปล่า ?”
เจสสิก้าถามเจ้าหน้าที่คนนั้นพร้อมกับใช้มือของเธอตบที่ใบหน้าเบาๆ เป็นการเรียกสติ ซึ่งไม่นานนักเขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา
“อดทนไว้
ชั้นจะให้คนนำตัวส่งออกไปรักษาด้านนอก”
พูดจบเธอก็หันไปสั่งงานทันที
“เจ้าหน้าที่จองพูด ตอนนี้กำลังส่งตัวผู้บาดเจ็บออกไปข้างนอก สถานการณ์ตอนนี้ยังคงสงบไม่มีอะไรผิดปกติ”
/รับทราบ
/
เจ้าหน้าที่ของทาง CIA ตอบกลับมา ก่อนที่เจสสิก้าจะทำงานของเธอต่อไป
เจสสิก้าและลูกทีมเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องบริเวณชั้นสอง ซึ่งเธอได้ยินเสียงโทรทัศน์ภายในห้องนั้นกำลังเปิดอยู่ จึงอดที่จะสงสัยเสียมิได้ เธอค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปด้านในเบาๆ และเริ่มสำรวจห้องทีละห้อง จนมาหยุดอยู่ที่บริเวณห้องนั่งเล่นที่มีเสียงโทรทัศน์ดังออกไป
แต่สิ่งที่เห็นอยู่ในห้อง ก็มีแต่เพียงความว่างเปล่าเท่านั้น
เธอไล่สำรวจห้องแต่ละห้องอย่างละเอียด แต่ก็ไม่พบแม้แต่วี่แววของคนอื่นๆ เลย
เมื่อเธอเดินออกมาจากห้อง เธอจึงเห็นเจ้าหน้าที่ของทาง CIA เริ่มปฏิบัติงานบ้างแล้ว เอฟเวอร์ลีนที่เดินมาทางเจสสิก้าหยุดยืนอยู่ไม่ไกลจากเธอเท่าไร พร้อมกับพูดขึ้น
“พบอะไรน่าสงสัยบ้างรึเปล่า ?”
“ไม่นี่คะ
จะมีแปลกก็แค่อย่างเดียว ก็คือ ไม่มีวี่แววของคนอาศัยอยู่ที่นี่เลย”
เจสสิก้าตอบกลับไป ซึ่งทำให้เอฟเวอร์ลีนต้องใช้ความคิดอยู่สักพัก ก่อนที่เธอจะนำลูกทีมของเธอขึ้นไปยังชั้นสามต่อไป เจสสิก้ามองออกไปยังนอกหน้าต่าง ซึ่งอาคารที่เธออยู่นี้ มันอยู่ไม่ไกลจากอาคารข้างๆ เท่าไรนัก
เธอเดินมาหยุดอยู่ที่ขอบหน้าต่างที่เปิดอ้าเอาไว้ ก่อนที่จะชะโงกออกไปยังด้านนอก
มุมที่เธออยู่นี้ถือว่าเป็นมุมบอดของทางตำรวจ เพราะต้นไม้สูงที่ขึ้นมาบังเอาไว้ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ อีกทั้งยังมีบันไดหนีไฟอยู่ที่ตึกข้างๆ ซึ่งตรงกับหน้าต่างที่เธออยู่พอดีด้วย
“แยกย้ายกันออกสำรวจ
อเล็กซ์ นายพาพวกอีก 5 คนไปสำรวจทางด้านนั้น ส่วนที่เหลือตามชั้นนมา”
“รับทราบครับ !”
เมื่อสิ้นสุดคำสั่ง ทาง FBI จึงได้แบ่งทีมกันอีกครั้งและแยกย้ายกันออกไป เจสสิก้าหยุดยืนอยู่ที่กระจกตรงหน้า ก่อนที่เธอจะสั่งให้ลูกน้องที่อยู่ข้างๆ นั้นกระโดดข้ามไปก่อน เพื่อจะได้เป็นการตรวจความเรียบร้อยไปด้วยในตัว
ตุบบบ !!
เมื่อข้ามไปถึงลูกน้องคนนั้นก็ทำการสำรวจด้านในอยู่สักพัก เมื่อมั่นใจแล้วจึงให้สัญญาณกับคนอื่นๆ ต่อ
“เคลียร์ !!”
เมื่อข้ามมาถึงตึกข้างๆ แล้ว เจสสิก้าจึงเปิดประตูเดินนำเข้าไปด้านในทันที
เจสสิก้าเดินตามระเบียงทางเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงบริเวณหัวมุม ซึ่งมีทางแยกแบ่งไป 2 ทาง เธอจึงแยกย้ายกับลูกทีม อีก 3 เพื่อความเร็วในการสำรวจ
“เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ไหม ?”
เสียงบทสนทนาที่ดังขึ้นจากด้านหน้าทำให้เจสสิก้าต้องชะงักกึก และแอบฟัง
“ป่านนี้พวกตำรวจหน้าโง่คงไม่รู้หรอกว่าเราอยู่ที่นี่ ตอนนี้คงจะขึ้นไปชั้น 3 แล้วมั๊ง”
ชายอีกคนหนึ่งพูด
เจสสิก้าสั่งให้ลูกน้องข้างตัวใช้อุปกรณ์ที่นำติดตัวมาด้วย กล้องที่ใช้สำหรับการสอดแนมถูกงัดออกมาใช้ ซึ่งกล้องตัวนี้ลักษณะจะเป็นกล้องตัวเล็ก คล้ายๆ กับสายไฟสามารถบังคับได้ และที่สำคัญคือ มันสะดวกต่อการแอบดูนั่นเอง
ชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งกำลังยืนวางแผนกันอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไรนัก ซึ่งทางเจสสิก้านั้นก็ได้แต่เพียงแอบดูอยู่เงียบๆ เท่านั้น
“แล้วระเบิดที่เตรียมไว้ล่ะ ?”
ชายที่คาดว่าเป็นหัวโจกถามขึ้น
“ทันทีที่ประตูห้องนั้นเปิด ทั้งตำรวจและตัวกระกันที่อยู่ในห้องก็ตูมเองแหล่ะ ฮะๆ”
ชายอีกคนพูดขึ้นและหัวเราะ
ระเบิดงั้นเหรอ
เจสสิก้านึกในใจ และยังคงแอบฟังต่อไปอย่างเงียบๆ
“นอกจากนั้น
ก็ยังมีเซอร์ไพรซ์เล็กๆ น้อยๆ ให้กับทางนั้นด้วย ถือซะว่า
เป็นของขวัญก็แล้วกัน ฮะๆๆ”
ทันทีที่นึกขึ้นได้ เจสสิก้าก็สั่งให้ลูกน้องของเธอออกโจมตีในทันที เพื่อเธอจะได้มีเวลาในการแจ้งเตือนทางหน่วยของ CIA ที่กำลังขึ้นไปบริเวณชั้น 3
ขอให้ทันทีเถอะ
ปังง ปังงง ปังงงง !!!
เสียงปืนที่ยิงกระหน่ำกันทำให้เจสสิก้าต้องปลีกตัวออกมา พร้อมกับวิทยุไปหาเอฟเวอร์ลีนทันที
“นี่เจ้าหน้าที่จอง เรียกเจ้าหน้าที่เอฟเวอร์ลีนได้ยินแล้วตอบด้วย !!”
/เจ้าหน้าที่เอฟเวอร์ลีน กำลังพูด
/ เธอตอบกลับมา
“ตอนนี้ทาง FBI กำลังปะทะกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ตึกข้างๆ พวกมันแอบใช้จุดบอดบริเวณชั้น 2 หนีมา ส่วนชั้น 3 ที่นั่นมีกับดักระเบิดวางเอาไว้ อย่าเพิ่งรีบเปิดประตู เพราะไม่รู้ห้องไหน”
เจสสิก้าตอบกลับไป
/รับทราบ
/
เธอเงียบไปสักพัก ราวกับกำลังหาทางรับมือกับปัญหา ก่อนที่จะพูดขึ้นอีกครั้ง
/ตอนนี้ทาง CIA กำลังขึ้นไปสำรวจด้านบน ขอบคุณสำหรับข้อมูลล่ะ แล้วก็
อย่าให้เจ้าพวกนั้นมันหนีรอดไปได้เด็ดขาด เดี๋ยวจะรีบตามไปสมทบ/
“รับทราบ !”
เจสสิก้าตอบกลับ ก่อนที่เธอจะชักปืนเตรียมพร้อม
ปังง ปังงง ปังงงง !!!
ปังง ปังงง !!!
เสียงปืนยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ กับที่ทาง FBI ค่อยๆ เขยิบเข้าไปทีละนิดๆ
“หลบ !!”
เจสสิก้าพูดพร้อมกับนำระเบิดแก๊สปาเข้าไปทางกลุ่มของผู้ก่อการร้าย พร้อมกับที่พวกเธอนำหน้ากากลงมาสวมเอาไว้ เจสสิก้าหันไปสั่งลูกน้องด้วยสัญญาณมืออีกครั้ง ก่อนที่พวกเธอจะเริ่มบุกต่อ
ฟู่ววววว !!
กลุ่มแก๊สที่ออกมาทำให้เหล่าผู้ก่อการร้ายต้องพากันวิ่งหลบออกไป
เจสสิก้าวิ่งนำลูกทีมของเธอตามไปติดๆ จนเห็นหลังของชายคนหนึ่งอยู่ไม่ไกลเท่าไรนัก
ปังง !!
กระสุนหนึ่งนัดถูกยิงใส่ที่ขาจนชายคนนั้นทรุดลงกับพื้นและร้องโอดครวญ
“อ๊ากกกกก !!”
ปังง ปังงง ปังงงง !!!
ชายคนนั้นหันมายิงตอบโต้จนพวกเธอต้องหลบเข้าหาที่กำบัง พร้อมๆ กับที่พยายามฝืนลุกขึ้นวิ่งตามเพื่อนๆ ต่อไปอีกครั้ง
ปังง !!
กระสุนปืนอีกหนึ่งนัดถูกยิงซ้ำเข้าที่บริเวณเดิมจนต้องทรุดลงไปอีกครั้ง
เจสสิก้ารีบวิ่งเข้าไปหาชายคนนั้นพร้อมกับเตะปืนที่อยู่ในมือทิ้งจนมันกระเด็นออกไปไกลพอสมควร
“จัดการตรงนี้ต่อที ที่เหลือตามมา !”
“ครับ !!”
ทางด้านของ CIA
หลังจากที่ได้รับคำเตือนจากทาง FBI แล้ว เธอจึงเรียกลูกทีมมาและเริ่มวิเคราะห์อีกครั้ง ถึงความเป็นไปได้ว่าระเบิดนั้นจะอยู่ที่ห้องไหน
“เอากล้องสอดแนมออกมาใช้ที
” เอฟเวอร์ลีนหันไปขอจากหน่วย SWAT ที่ตามเธอเข้ามาด้วย
กล้องที่ค่อยๆ สอดเข้าไปในห้องผ่านช่องว่างเล็กๆ ใต้ประตูทำให้สามารถเห็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่ภายในห้องได้
“ไม่ใช่ห้องนี้
”
เอฟเวอร์ลีนพูดพร้อมกับสั่งให้เก็บกล้องเสีย เพื่อจะนำไปใช้สำหรับห้องอื่นๆ ต่อไป
“ตรวจสอบระเบียงด้านนอก ดูว่ามันเชื่อมต่อกันไหม ?”
เธอหันไปสั่งลูกทีมอีกคนหนึ่ง ก่อนที่จะทำการสำรวจห้องอื่นๆ ดู จนในที่สุด พวกเธอก็มาถึงห้องสุดท้าย
“เหลือห้องนี้เพียงห้องเดียวแหล่ะครับ
”
“ใช้กล้องสอดแนมสำรวจด้านใน แล้วรายงานผลด้วย” พูดจบเธอก็หันไปหาลูกน้องอีกคนหนึ่ง
“เส้นทางเป็นยังไงบ้าง ?”
“ตรวจสอบแล้วระเบียงด้านนอกนั้นเชื่อมต่อกันหมดครับ !”
“อืม
แล้วทางนี้ด้านในมีอะไรบ้างล่ะ ?”
“พบระเบิด TNT ติดตั้งไว้กับฝาผนัง ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ระเบิดก็จะทำงานทันทีครับ”
นายตำรวจคนนั้นพูดขึ้น
“ถ้างั้นเราเปลี่ยนไปทางระเบียงแทน แล้วให้ทีมงานกู้ระเบิดขึ้นมาจัดการด้วย”
เอฟเวอร์ลีนสั่งงานไปยังลูกน้อง ก่อนที่เธอจะเปิดประตูห้องข้างๆ เข้าไปและหยุดยืนอยู่ที่หน้าต่าง และมองออกไปยังระเบียงด้านนอก ซึ่งมันก็กว้างพอสมควร
พาออกมาทีละคนคงจะไม่เป็นปัญหานะ
เธอนึกในใจสักพัก ก่อนที่จะหยิบวิทยุสื่อสารออกมาและติดต่อไปยังทีมงาน FBI
“นี่เจ้าหน้าที่เอฟเวอร์ลีน เรียกเจ้าหน้าที่จอง ได้ยินแล้วตอบด้วย
”
/เจ้าหน้าที่จองได้ยินแล้ว เปลี่ยน
/ เจสสิก้าอบกลับมา
เสียงปืนนั้นยังคงดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย
“สถานการณ์ตรงนั้นเป็นยังไงบ้าง ?”
/ตอนนี้ผู้ร้ายกำลังพยายามที่จะหลบหนี ตอนนี้จับได้แล้ว 1 คน
/ เธอตอบกลับมา
“รับทราบ ขอสถานที่ด้วย
”
/ชั้น 1 อาคารข้างๆ ตอนนี้ผู้ก่อการร้ายกำลังจะหนีออกไปแล้ว
/
ได้ยินดังนั้น เอฟเวอร์ลีนจึงเดินมาหยุดอยู่ที่ระเบียงด้านนอก พร้อมกับมองไปยังอาคารข้างๆ ซึ่งระยะทางนั้นก็ไม่ได้ห่างไกลเท่าไรนัก
เป็นไงเป็นกัน !!
เธอคิดในใจ ก่อนที่จะถอยจนหลังติดกำแพงพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกๆ และผ่อนออก
“ฮึบ !!”
เธอตัดสินใจกระโดดข้ามไปยังอาคารฝั่งตรงข้าม ก่อนที่จะลงพื้นด้วยการม้วนหน้าเพื่อลดแรงกระแทก
“ช่วยตัวประกันเสร็จ แล้วตามมาสมทบด้วย !”
เธอหันไปพูดกับลูกน้องที่กำลังพยายามช่วยเหลือตัวประกันอยู่ ก่อนที่จะวิทยุติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการปิดล้อมอาคารอยู่ด้านนอก
“ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ด้านนอก ทำการปิดล้อมอาคารข้างๆ ด่วน อย่าให้คนร้ายหนีออกไปได้ ทั้งประตูหน้าและหลัง ปิดล้อมเอาไว้ให้หมด !!”
/รับทราบ !/
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตอบกลับมา ก่อนที่จะหันไปสั่งเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ให้ไปประจำตำแหน่ง
เอฟเวอร์ลีนหันกลับไปมองอาคารที่เธอเพิ่งจะกระโดดข้ามมา ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทยอยช่วยตัวประกันออกมาแล้ว ซึ่งดูเหมือนทุกอย่างกำลังไปได้สวย แต่ขณะที่กำลังช่วยตัวประกันคนหนึ่งออกมา สิ่งที่ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้น
พิ้งงง
เสียงที่เหมือนกับชิ้นส่วนของเศษเหล็กกระทบกับพื้นทำให้นายตำรวจคนหนึ่งเหลือบไปมอง เศษเหล็กเล็กๆ ที่หลุดกระเด็นออกมาทำให้นายตำรวจคนนั้นหันไปมองตัวประกันข้างๆ ตัว
ระเบิดถอดสลักที่ถูกผูกไว้จำนวน 3 ลูกกำลังกลิ้งหล่นลงพื้นอย่างช้าๆ
กึกกกก
.
.
.
“บัดซบ !!”
ตูมมมมมม !!!!
เสียงระเบิดที่ดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหวทำให้เอฟเวอร์ลีนต้องหันกลับไปมองอีกครั้ง เธอยืนค้างอยู่กับที่เป็นเวลานานพอสมควร ความรู้สึกเหมือนกับโดนหมัดตรงสวนเข้าอย่างจังจนทำอะไรไม่ถูก
ภาพของเหล่าบรรดาลูกน้องที่เพิ่งจะได้คุยกันอยู่เมื่อสักครู่ผุดขึ้นมาในหัวจนเต็มไปหมด
ขาที่ตั้งใจจะก้าวตามไปสมทบกับเหล่า FBI จึงต้องชะงัก และกลับพุ่งไปในทิศทางเดิมอีกครั้ง
กลับไปยังทิศที่เธอข้ามมา
“Oh my gosh !”
เธออุทานออกมาทันทีที่เห็นสภาพห้องที่เละไม่เป็นชิ้นดี ทั้งชิ้นเนื้อและเศษส่วนต่างๆ กระจัดกระจายจนทั่วทุกทิศ กลิ่นคาวเลือดรุนแรงจนชวนอ๊วกทำให้เธอรู้สึกขยาด
เอฟเวอร์ลีนรีบออกมาจากบริเวณห้องเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ทันที
“โอยยย
”
เสียงโอดครวญที่ดังขึ้นข้างๆ ทำให้เธอหันไปมองอย่างช้าๆ
“Oh my gosh
”
เธออุทานออกมาอีกครั้งและรีบวิ่งเข้าไปหาเจ้าหน้าที่คนนั้นทันที ขาข้างขวาที่จะขาดแหล่ไม่ขาดแหล่ช่างเป็นภาพที่สะเทือนใจของเธอยิ่งนัก
“อดทนไว้ เข้าใจไหม อดทนไว้ !!”
“นี่เจ้าหน้าที่เอฟเวอร์ลีน ขอหน่วยพยาบาลฉุกเฉินด่วน มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 1 คนที่ชั้น 3 ขอย้ำ มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ชั้น 3”
เธอพูดผ่านวิทยุสื่อสาร พร้อมกับกุมมือเจ้าหน้าที่คนนั้นเอาไว้ เพื่อเป็นการให้กำลังใจ เอฟเวอร์ลีนเหลือบไปเห็นเศษผ้าผืนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลออกไปเท่าไรนัก เธอจึงตัดสินใจวิ่งไปหยิบมันมาทันที ก่อนที่จะนำมาพันรอบๆ ขาของชายคนนั้นเพื่อเป็นการห้ามเลือด
“โอ๊ยย !!”
“รู้ว่าเจ็บ แต่อดทนเอาไว้สิ เป็นลูกผู้ชายไม่ใช่เหรอ !?”
ทันทีที่ได้ยินเอฟเวอร์ลีนพูดแบบนั้น สีหน้าของเขาก็กลับมาดูเข้มแข็งขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
“ดี !”
เธอกล่าวชม ก่อนที่จะเดินไปสำรวจหาผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ ต่อไป
ครึ่กกๆ
.
.
.
เสียงของเพดานที่เหมือนกับจะถล่มลงมาทำให้เอฟเวอร์ลีนต้องรีบถอยออกมายังด้านนอก ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่รถกระเช้านั้นส่งคนขึ้นมารับตัวพอดิบพอดี
ครืนนน
แรงระเบิดอย่างรุนแรงทำให้เกิดรอยร้าวไปยังส่วนต่างๆ ของตัวอาคาร ทำให้สมดุลที่เคยมีนั้นเสียไป เอฟเวอร์ลีนที่อยู่บนกระเช้านั้นกับเจ้าหน้าที่อีก 2 คนมองดูตัวอาคารที่ค่อยๆ ถล่มลงไปอย่างช้าๆ
ขอโทษนะ ทุกคน
/หัวหน้าครับ ตอนนี้มีรถต้องสงสัยพยายามขับฝ่าวงล้อมของตำรวจเข้ามาครับ !/
ได้ยินดังนั้นเอฟเวอร์ลีนจึงหันไปมองยังถนนทางด้านหลังของเธอทันทีขณะที่กระเช้าค่อยๆ ลดระดับต่ำลง ซึ่งรถคันดังกล่าวนั้นก็กำลังขับฝ่าเข้ามาจริงๆ
“หยุดรถคันนั้นเอาไว้ให้ได้ !”
เธอตะโกนสั่ง ก่อนที่จะเห็นชายคนนั้นนั้นเปิดประตูและกระโดดลงจากรถ ปล่อยให้รถคันนั้นพุ่งเข้าใส่กลุ่มของตำรวจ แต่สิ่งที่ตามมาไม่ใช่แค่นั้น ทันทีที่รถพุ่งเข้าชนกับบังเกอร์ของตำรวจ ชายคนขับก็ตัดสินใจกดสวิตทันที
ตูมมมมมมมมมมม !!!
“อ๊ากกกก !!”
เสียงระเบิดที่ดังขึ้นอีกครั้งทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เอฟเวอร์ลีนที่ลงมาจากกระเช้าแล้ว เธอรีบวิ่งตามชายหนุ่มคนนั้นไปทันที
เธอวิ่งตามเข้าไปในตรอกเล็กๆ และเห็นชายคนนั้นวิ่งอยู่ไหมไกลเท่าไรนัก
ปังง ปังงง !!!
กระสุน 2 นัดถูกยิงเข้าใส่ที่ขาพับของชายคนดังกล่าวอย่างแม่นยำจนเสียหลักล้มลงไปนอนกับพื้น เธอตรงเข้าไปพร้อมกับใช้ขาอันเรียวงามของเธอเตะซ้ำเข้าที่กลางลำตัวอีกครั้ง
พลั่คคค !!
“อ่อคค !”
เอฟเวอร์ลีนอาศัยความรวดเร็วของเธอในการรวบตัวคนร้ายเอาไว้ พร้อมกับกดตัวของชายคนนั้นลงกับพื้น เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาทำให้เธอนึกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตามหลังเธอมา เธอจึงพูดขึ้นโดยที่ไม่ทันได้หันไปมอง
“ขอกุญแจมือที
”
แกร๊ก
เสียงขึ้นลำของปืนที่ดังขึ้น อีกทั้งความรู้สึกที่เหมือนกับโดนจ่ออยู่ในระยะประชิด ทำให้เธอไม่สามารถขยับได้เลย
“อย่าขยับนะ !”
เสียงของชายคนนั้นดังขึ้น
“นายนั่นแหล่ะอย่าขยับ
”
เสียงของหญิงสาวอีกคนหนึ่งดังขึ้น
“อั่คคคค !!”
เธอใช้สันปืนนั้นหวดเข้าที่ท้ายทอยของชายคนนั้นอย่างแรงจนทำให้ชายคนนั้นทรุดลงไปนอนกับพื้น
“ระวังหน่อยสิเอฟ
” เธอหันมาพูดกับเอฟเวอร์ลีน
“ขอบคุณนะมิลล่า
ถ้าไม่ได้เธอนี่ชั้นคงจะแย่
”
เอฟเวอร์ลีนหันมากล่าวขอบคุณมิลล่าเพื่อนสาวของเธอ
“เอ้านี่ ! กุญแจ”
มิลล่าพูดขึ้นพร้อกับโยนมันมาให้เพื่อนสาว ซึ่งเธอก็รับมันไปและจัดการล็อคแขนชายคนนั้นเอาไว้ทันที
“เราไปช่วยทาง FBI กันต่อเถอะ !”
“อือ
”
มิลล่าตอบกลับก่อนที่จะวิ่งตามหลังเพื่อนสาวไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น