ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : + + Day 09 : Let's get out of here + + [แก้คำผิด 100%]
สถานการณ์เริ่มตึงเครียด ยุนอาพยายามจะมองหาทางออก ก่อนที่จะเอื้อมไปจับคว้าที่ประตูอีกฝั่ง แต่กลับถูกลิ้นของเจ้าปีศาจตัวนั้นฉุดกระชากเอาไว้ ราวกับจะดึงร่างของเธอออกไป
“ปล่อยนะ ! ชั้นบอกให้ปล่อยย !!”
ยุนอาที่ไม่รู้จะรอดออกไปจากสถานการณ์นี้ยังไง ได้แต่หวังว่าจะมีใครสักคนมาช่วย แต่รอบตัวของเธอก็ไม่มีใครเลย จะมีก็เพียงเหล่าผีดิบที่หวังจะกัดกินเธอเท่านั้น
“ปล่อยชั้น !!!”
.
.
“ปล่อยยยย !!!”
ยุนอาใช้ขาของเธอถีบเข้าใส่ใบหน้าของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนั้นอีกครั้งอย่างแรงจนมันถอยชะงักไป จังหวะดังกล่าวทำให้เธอรีบเปลี่ยนจากเบาะหลังมาอยู่ที่เบาะหน้า เตรียมที่จะเปิดประตูออก แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้ เพราะไอเจ้าปีศาจตัวนั้นมันกระโดดมาใส่ฝากระโปรงรถทางด้านหน้า พร้อมกับแยกเขี้ยวใส่เธออย่างโกรธแค้น
“ก๊าซซซซซซ !!!!!”
ไม่เพียงเท่านั้นมันยังใช้เล็บมือของมันทุบที่กระจกหน้าอย่างแรงสร้างความตกใจให้กับเธอไม่น้อย จนเธอแทบจะทำอะไรไม่ถูก ความกลัวที่แผ่ขยายและปกคลุมไปทั่วทุกส่วนของร่างกายทำให้เธอตัวสั่นจนไม่สามารถควบคุมได้
ปึ้งงง !!!
แรงกระแทกดังกล่าวทำให้เธอถึงกับสะดุ้ง กระทั่งเก๊ะทางด้านหน้าจะเด้งเปิดออกมาจากแรงกระแทกนั้น และสิ่งที่อยู่ด้านในก็ทำให้ยุนอาหยิบมันขึ้นมาพร้อมกับกดลั่นไกยิงใส่มันทันที
ปังงงง !!!
กระสุนนัดหนึ่งถูกยิงเข้าใส่สร้างความเจ็บปวดให้กับมันไม่น้อย สายตายังคงแข็งกร้าวและจ้องจะฆ่ายุนอาให้ได้ จนเธอต้องกดยิงใส่มันอีกครั้ง จนกระสุนนั้นพุ่งทะลุกระจกหน้าออกไปกระทบเข้ากับส่วนที่คล้ายกับสมองของมันจนแทบจะกระจุย
ปังงงงง !!!!
“ก๊าซซซซซซซ !!!!!!”
ร่างนั้นแดดิ้นอย่างเจ็บปวด ก่อนที่จะกระโดดถอยกลับไปกลิ้งอยู่บนพื้นถนนส่งเสียงร้องอย่างทรมาน ยุนอายังคงจ้องมองดูร่างนั้นผ่านจากเบาะนั่งหน้ารถยังไม่กล้าจะเดินออกไป กระทั่งมั่นใจว่าเจ้าปีศาจตัวนั้นไม่สามารถลุกกลับขึ้นมาทำร้ายเธอได้แล้ว เธอจึงตัดสินใจเปิดประตูออกไปอย่างช้าๆ
แกร๊กก…
พร้อมกับก้าวขาเดินเข้าไปดูอย่างช้าๆ ด้วยความกลัว
“ก๊าซซซซซซ !!!!”
แต่อยู่ๆ ร่างที่คิดว่าแน่นิ่งไปแล้ว กลับเพียงแค่แกล้งหลอกให้เธอตายใจเพื่อรอจังหวะให้เธอนั้นเข้ามาใกล้ๆ กรงเล็บที่คมกริบพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็วราวกับจะปาดคอของเธอให้ขาดกระเด็น ด้วยความตกใจทำให้ยุนอาเอี้ยวตัวหลบตามสัญชาตญาณ ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
วืดดดดดด !!!!
ปังงง !!
กระสุนอีกนัดถูกยิงเข้าใส่ แต่มันกลับกระโดดหลบออกไปพร้อมกับไต่ขึ้นกำแพงและค้างอยู่อย่างนั้น หน้ายังคงหันมองเธออย่างโกรธๆ ก่อนที่จะขู่คำรามส่งเสียงดังอย่างเกรี้ยวกราด
“ก๊าซซซซซซซซซ !!!”
ยุนอาพยายามจะเล็งปืนในมือไปใส่ แต่เจ้าปีศาจตนนั้นกลับเคลื่อนที่ขยับไปมาทำให้เล็งลำบาก จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะยิงมันโดนในระยะแบบนั้น กระทั่งมันหันกลับมาพร้อมกับพุ่งลิ้นเข้าใส่
พรวดดดดด !!!!
ทั้งๆ ที่ตัวมันก็ไม่ได้ใหญ่มาก แถมระยะห่างก็ค่อนข้างไกลแต่ลิ้นของมันกลับพุ่งเข้าใส่เธอได้ ยุนอากระโดดหลบออกข้างๆ จึงรอดมาได้อย่างหวุดหวิด แต่จังหวะที่เธอจะหันกลับไปยิงเจ้าปีศาจตนนั้น มันก็หายไปจากสายตาของเธอเสียแล้ว
เธอยังคงระแวงไม่กล้าขยับไปไหนจนเมื่อมั่นใจว่าปลอดภัยและไร้ซึ่งวี่แววของเจ้าปีศาจตนนั้นแล้ว เธอจึงเดินกลับมายังรถที่พบอาวุธปืนดังกล่าวพร้อมกับลองรื้อที่เก๊ะด้านหน้าดูและพบกับกระสุนขนาด 9mm เพิ่มอีก 3 นัด เมื่อรวมกับที่เธอยิงออกไปแล้ว 5 นัด ตอนนี้จึงเหลือกระสุนติดตัวอยู่แค่ 13 นัดเท่านั้น ก่อนที่เธอจะวิ่งออกมาจากบริเวณนั้น เพราะเธอเองก็ไม่อยากจะเจอกับไอตัวเมื่อกี้อีกแล้ว
.
.
.
“ก๊าซซซซซ !!!”
เจ้าสัตว์ประหลาดดังกล่าวยังคงไต่ขึ้นไปบนตึกจนกระทั่งถึงบนดาดฟ้า ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้มันรู้สึกเคียดแค้นไม่น้อย กระทั่งประตูดาดฟ้าจะถูกเปิดออก พร้อมกับเหยื่อที่ปรากฏขึ้นโดยที่ตนเองไม่ต้องเปลืองแรงล่า มันแยกเขี้ยวอีกครั้งอย่างพึงพอใจ ก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่เหยื่อโชคร้ายคนหนึ่งอย่างแรง
"อั่กกก !!"
ร่างนั้นกระแทกเข้ากับกำแพงทางด้านหลังจนส่วนของศีรษะนั้นฟาดเข้าอย่างแรงจนเลือดนั้นไหลออกมา เด็กอีกคนหนึ่งที่คาดว่าเป็นลูกเมื่อเห็นแม่ของตนกำลังถูกฆ่าตายต่อหน้า ก็แหกปากร้องด้วยความหวาดกลัว ก่อนที่เลือดสีแดงสดจะพุ่งพรวดออกมาจากร่างของผู้เป็นแม่เมื่อเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนั้นกัดเข้าเต็มแรง
พรวดดดดด !!!!!
“กรี๊ดดดดดดด !!!!!”
เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนดังลั่น ส่วนเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนั้นก็ยังคงกัดกินร่างของเหยื่อเคราะห์ร้ายนั้นอย่างเอร็ดอร่อย พลันเหลือบไปเห็นเด็กน้อยกำลังจะวิ่งหนีมันจึงใช้ลิ้นนั้นพุ่งเข้าเสียบกลางอกจนทะลุ ก่อนที่จะสะบัดฟาดเข้ากับกำแพงอย่างแรงจนคอหัก
กร๊อบบ !!!
กร้วมมมมม !!!
มันยังคงกัดกินร่างของผุ้เป็นแม่ต่อไปจนแทบจะไม่เหลือ ช่วงท้องโดนกัดกินจนแหว่งเผยให้เห็นซี่โครงดูน่าขยะแขยง ร่างกายนั้นถูกฉีกขาดเป็นชิ้นๆ กระจัดกระจายไปทั่ว ลิ้นนั้นเลียสัมผัสกับเลือดสดๆ ที่ยังคงไหลรินออกมา กระทั่งเกิดความผิดปกติขึ้นกับร่างกายของมัน
ปึด !! ปึดดด !!!
เซลล์ที่เหมือนกับจะขยายใหญ่ขึ้นและเติมโตขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ร่างกายของมันเริ่มขยายใหญ่ขึ้น ท่าทางของมันที่ราวกับกำลังเจ็บปวดทำให้ต้องส่งเสียงร้องออกมาอย่างโหยหวน ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นเสี่ยงที่ฟังดูน่าเกรงขาม กรงเล็บที่คมกริบเริ่มเปลี่ยนไป
มันยืดออก… ยาวขึ้น และดูน่าเกรงขามยิ่งกว่าเดิม
ลำตัวเริ่มขยายใหญ่ขึ้นจนตัวเก่าเทียบไม่ติด จากร่างที่สูงไม่กี่เซนติเมตร กลับสูงขึ้นเกือบเมตร หากว่ามันยืนคงสูงเท่ากับอาคารหนึ่งชั้นพอดี มันใช้เล็บนั้นแทงเข้าไปที่ร่างของเด็กน้อยคนนั้นก่อนที่จะกัดเข้าที่ศีรษะจนขาด เลือดสีแดงสดพุ่งพรวดออกมาจนอาบร่าง ฟันนั้นคมกริบจนสามารถกัดกะโหลกศีรษะให้แตกได้อย่างง่ายดาย
บาดแผลที่ได้รับมาจากกระสุนกลับค่อยๆ สมานกันจนเกิดเป็นรอยแผลเป็นบนใบหน้า ก่อนที่จะส่งเสียงคำรามก้องอีกครั้ง
“ก๊าซซซซซซซซซ !!!!!”
ราวกับเป็นสาส์นท้าถึงผู้ที่ฝากรอยแผลและความเจ็บปวดเอาไว้…
.
.
.
ว่าให้ระวังตัวดีๆ
----------------------------
----------------------------
“โอออออออออ !!!”
ผีดิบที่ใกล้เข้ามาทำให้ยุนอาค่อยๆ เล็งปืนเข้าใส่ หากมันเป็นดังที่เธอคิด การจะเล่นงานไอผีดิบพวกนี้ให้ตายนั้นมีอยู่เพียงวิธีเดียวเท่านั้น นั่นก็คือยิงที่หัวของมัน... เหมือนกับผีดิบตัวหนึ่งที่เธอเตะมันจนคอหัก
ปังงง !!!
และมันก็เป็นอย่างที่เธอคิด ทันทีที่กระสุนนั้นพุ่งทะลุกะโหลกศีรษะของเจ้าผีดิบตรงหน้าไป ร่างของมันก็ทรุดลงกับพื้นและนิ่งไปทันที ก่อนที่เธอจะวิ่งต่อไปยังซอยเล็กๆ ที่เชื่อมต่อกับถนนอีกฝั่ง แม้ว่าเหล่าผีดิบที่ตามเข้ามาจะทำให้เธอรู้สึกรำคาญ แต่หากเลี่ยงได้เธอก็ต้องเลี่ยง เพราะกระสุนนั้นมีอยู่จำกัดเธอจึงต้องบริหารและใช้งานมันให้คุ้มที่สุด
และตอนนี้ก็เหลืออยู่เพียง 12 นัดเท่านั้น
ยุนอายังคงมุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงที่หน้าปากซอยดังกล่าว สายตาเหลือบไปเห็นร้านสะดวกซื้อร้านหนึ่งเข้า เพราะเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาทำให้เธอเปลี่ยนเป้าหมายไปยังร้านนั้นก่อน ตลอดเส้นทางเธอก็ใช้แท่งไม้ที่เก็บได้หวดใส่เหล่าผีดิบที่ขวางอยู่เพื่อเปิดทาง กระทั่งเธอสามารถเข้ามาในร้านนั้นได้สำเร็จ
“หยุดนะ !”
เสียงของชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นพร้อมกับเล็งปืนมายังเธอ
“ด... เดี๋ยว อย่าเพิ่งยิง !!!”
ทันทีที่รู้ว่ายุนอาไม่ใช่พวกผีดิบเหล่านั้นเขาจึงค่อยๆ ลดปืนลง แต่ก็ยังไม่ไว้ใจเธออยู่ดีเขาจึงค่อยๆ เดินออกมาจากเคาท์เตอร์ และยกปืนขึ้นจ่อเธออีกครั้ง
“ชั้นเป็นคนนะ !”
กระทั่งมั่นใจว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมา ชายคนนั้นจึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พร้อมกับกดล็อคประตู
แกร๊กก...
“นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นเนี่ย ?”
เธอถามต่อ
“ชั้นเองก็ไม่รู้ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ไอผีดิบพวกนั้นบุกเข้ามา เมืองนี้มันก็เหมือนกับนรกแล้ว !”
ชายคนนั้นตอบกลับ กระทั่งยุนอาจะเปลี่ยนความสนใจไปยังชั้นวางขนมปังที่อยู่ใกล้ๆ และหยิบมันขึ้นมาชิ้นหนึ่ง
“ขอนะ ?”
ก่อนที่จะเดินไปเปิดที่ตู้น้ำทางด้านใน พลันสายตาเหลือบไปเห็นที่กระจกหน้าร้าน แต่ก็สายไปแล้วเมื่อฝูงผีดิบจำนวนหนึ่งพังกระจกเข้ามาโดยที่พวกเธอไม่ทันได้ตั้งตัว
ปังงง !! ปังงงง !!!!
“อ๊ากกกกกก !!!!”
กระทั่งชายคนนั้นถูกเหล่าผีดิบรุมกัดกินจนเลือดนั้นพุ่งสาดกระเซ็นไปทั่ว ยุนอาเหลือบมองไปอีกทางหนึ่งและพบประตูหลังร้านที่น่าจะพาเธอออกไปได้ แต่ถ้าหากเธอสามารถกำจัดเจ้าผีดิบพวกนี้ได้ เธอก็จะได้กระสุนปืนเพิ่ม เธอหันกลับไปมองกลุ่มของผีดิบพวกนั้นที่เมื่อนับแล้วก็มีราวๆ 10 ตัวได้
หากเลือกจะหนีก็จะประหยัดกระสุนได้
แต่ถ้าเลือกที่จะฆ่าพวกมัน ก็อาจจะได้กระสุนเพิ่ม แต่มันจะคุ้มกับที่เสียไปไหม ?
Time to Survive: 0hr 0minutes[Time's Up]
1. เลือกที่จะหนีออกไปทางประตูหลัง <-- [This choice was activated]
2. เลือกที่จะฆ่าผีดิบพวกนี้
หลังจากที่คิดชั่งใจอยู่ชั่วครู่ ยุนอาก็ตัดสินใจวิ่งออกมาจากตรงนั้นจนกระทั่งมาถึงประตูหลังร้าน เธอหันมามองดูเจ้าของร้านที่ตอนนี้กลายเป็นอาหารของเหล่าผีดิบพวกนั้นไปแล้วอีกครั้ง ก่อนที่จะบิดที่ประตูนั้นเตรียมที่จะออกไป ฝูงผีดิบที่เห็นเธอเข้าและพยายามจะตามมาทำให้ยุนอาต้องปิดประตูกลับไปอีกครั้ง พร้อมกับพยายามหาอะไรมาขวางมันเอาไว้
ปึ้งง ปึ้งงงง !!!
เธอค่อยๆ ถอยห่างออกมาจากประตูนั้น ก่อนที่จะหันหลังกลับและวิ่งออกมาตามตรอกเล็กๆ นั้นมุ่งหน้าสู่ถนนอีกเส้นหนึ่งซึ่งสภาพนั้นก็ไม่ได้ต่างจากถนนสายหลักที่เธอเพิ่งจะหนีมาเลย มันดูเละเทะ และเต็มไปด้วยซากศพและเหล่าผีดิบจำนวนไม่น้อย
เธอค่อยๆ เดินมาตามฟุตบาทพยายามเลี่ยงที่จะต้องสู้กับเจ้าผีดิบพวกนั้น ในตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการก็คือสถานที่พัก เพื่อจะได้หาอะไรใส่ท้อง เธอมองดูถุงขนมปังและนมที่หยิบติดมือมาอีกครั้ง ก่อนที่จะเหลือบไปเห็นบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ข้างๆ เธอจึงถือวิสาสะเดินเข้าไป
ประตูเหล็กเลื่อนที่ปิดอยู่ให้ความรู้สึกปลอดภัยต่อการรุกรานจากภายนอก ทันทีที่เธอเลื่อนเปิดเสียงที่ดังขึ้นก็ทำให้เหล่าผีดิบที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวเริ่มมีปฏิกิริยาเคลื่อนไหวเข้ามา นั่นจึงทำให้เธอต้องรีบเข้ามาและดันประตูปิดกับดังเดิม พร้อมกับลงกลอนล็อคเอาไว้
สภาพภายในตัวบ้านราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น สร้างความประหลาดใจให้กับยุนอาไม่น้อย เธอเดินเข้ามาเรื่อยๆ กระทั่งถึงหน้าประตูบ้านก่อนที่จะมองไปยังประตูเหล็กเลื่อนทางด้านหลังอีกครั้งซึ่งเหล่าผีดิบพวกนั้นต่างก็พยายามจะกรูกันเข้ามาแต่ก็ไม่สามารถทำได้ นั่นจึงทำให้ยุนอาที่อยู่ดูทิศทางของการเคลื่อนไหวได้รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา
เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย แม้จะเป็นแค่ช่วงระยะเวลาเพียงชั่วครู่… ก็ตาม
เธอค่อยๆ จับที่ลูกบิดประตูลองดูว่าจะสามารถเข้าไปได้หรือไม่ น่าแปลกที่ประตูนั้นกลับไม่ได้ล็อค เธอจึงค่อยๆ แง้มเปิดอย่างช้าๆ และก้าวเดินเข้าไปข้างในอย่างระมัดระวัง ปืนพกในมือนั้นถือตั้งเอาไว้พร้อมที่จะใช้งานได้ทุกเมื่อ
.
.
.
ความเงียบกริบแผ่เข้าปกคลุมจนเกิดความตึงเครียดขึ้น เสียงฝีเท้าที่ก้าวแตะพื้นทีละก้าวๆ ดังกึก… กึกก… ยิ่งทำให้ยุนอารู้สึกหวาดระแวงมากกว่าเก่า จนเธอต้องหันกลับไปกดล็อคบานประตูเอาไว้ก่อนเพื่อความมั่นใจ
แกร๊กกก…
และเดินเข้ามาอีกครั้งมุ่งหน้าสู่ห้องรับแขกที่อยู่ถัดเข้าไป ทุกอย่างนั้นกลับดูเงียบสงบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนบ้านหลังนี้จะถูกติดขาดจากเรื่องบ้าๆ บอๆ ภายนอก แต่ถึงอย่างนั้นยุนอาก็ยังไม่วางใจอยู่ดี เธอเริ่มทำการสำรวจตัวบ้านอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือแม้กระทั่งห้องน้ำ…
ทุกอย่างก็ยังดูปกติดีเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ
จนเธอเดินไปล็อคประตูและหน้าต่างทุกบานเสีย และกลับมาทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟากลางห้องอย่างเหนื่อยๆ นึกย้อนกลับไปถึงเรื่องที่ตัวเองเจอ โดยเฉพาะกับไอตัวบ้านั่นที่ทำเอาเธอเกือบตาย ก่อนที่จะค่อยๆ หลับตาลง
.
.
.
กระทั่งเธอผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว…
โดยที่ไม่รู้เลยว่าอะไรบางอย่างกำลังคืบคลานเข้ามา…
------------------------
------------------------
ทางด้านของซูยอง…
ฉัวะ !!!
เธอใช้หอกในมือนั้นปาดเข้าที่คอของเจ้าผีดิบที่ขวางทางอยู่ด้านหน้าจนขาดวิ่น แต่ร่างที่ยังคงเดินเข้ามาก็ถูกซอฮยอนใช้หอกของตนแทงเข้ากลางอก ซูยองจึงพุ่งเข้าไปและถีบร่างของมันออกไปให้พ้นทาง
โครมมม !!!
ทั้งสองยังคงวิ่งต่อมาเรื่อยๆ กระทั่งมาถึงบันไดทางลง ซึ่งเธอจะต้องลงไปอีกหนึ่งชั้นเพื่อไปยังจุดเชื่อมต่อระหว่างอาคาร ซึ่งทางลงที่อยู่ตรงหน้านั้นค่อนข้างจะมืดเล็กน้อย จะมีก็เพียงแสงสว่างที่ส่องลอดเข้ามาพอให้เห็นทางเดินอยู่บ้างเท่านั้น
ซูยองเป็นฝ่ายก้าวลงไปก่อนเป็นคนแรก ก่อนที่ซอฮยอนจะก้าวตามลงมาติดๆ
“ระวังตัวดีๆ นะ...”
“ค่ะ...”
ซอฮยอนตอบกลับและเดินตามหลังซูยองไปอย่างระมัดระวัง น่าแปลกที่ชั้นนี้กลับไม่มีผีดิบโผล่มาให้เห็นเลยสักตัว จะมีก็เพียงแต่ซากศพของเหล่าผีดิบที่นอนอยู่เกลื่อนกลาดเท่านั้น บรรยากาศชวนให้รู้สึกขนลุกทำให้ซูยองนึกย้อนกลับไปถึงปีศาจสาวตัวนั้นที่ทำให้เธอเกือบตาย
หรือว่าไอตัวนั้นจะอยู่ตรงนี้ ?
กึกกก... กึกกกกกก...
เสียงที่เหมือนกับมีอะไรขยับอยู่ด้านหน้าทำให้ซูยองถึงกับชะงักและใช้แขนยันตัวซอฮยอนเอาไว้
“อย่าเพิ่งขยับ...”
เธอกล่าวด้วยเสียงที่เบาราวกับกระซิป และพยายามเพ่งสายตามองไปยังเบื้องหน้า ยังจุดที่มีเสียงออกมา กระทั่งเห็นเป็นเหมือนกับอะไรบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายกับคนจะค่อยๆ โผล่พ้นออกมาจากหัวมุม ในใจหวังว่าอย่าให้เป็นเจ้าปีศาจตัวนั้น
กระทั่งเจ้าสิ่งๆ นั้นจะค่อยๆ ปรากฏขึ้นในสายตาพร้อมกับเสียงหัวเราะ
“ฮิฮิ…”
ขาข้างหนึ่งค่อยๆ โผล่พ้นออกมาจากมุมมืด ยิ่งร่างนั้นใกล้เข้ามานั่นก็ยิ่งทำให้ซูยองและซอฮยอนถอยร่นไปอย่างช้าๆ หอกในมือนั้นถือจ่อเอาไว้เพื่อเป็นแนวป้องกันตนเอง จนกระทั่งร่างนั้นโผล่พ้นออกมา
“อ๊ะ !”
อยู่ๆ ซอฮยอนก็อุทานออกมานั่นจึงทำให้ซูยองหันกลับไปหาด้วยความสนใจ
“อะไรงั้นเหรอ ?”
“พี่คนนั้นเป็นพยาบาลคนที่เคยดูแลหนูอยู่ค่ะ…”
“เหรอ ?”
ซูยองตอบกลับและหันกลับมามองดูสภาพของพยาบาลสาวที่ร่างนั้นเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดตามชุด หรือตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ในมือนั้นถือมีดผ่าตัดพร้อมกับอะไรอีกสักอย่าง ที่แม้แต่เธอหรือซอฮยอนก็มองไม่ออกว่ามันคืออะไร เพราะมันเหมือนกับเป็นกระบอกใส่อะไรสักอย่างที่มีลักษณะเป็นของเหลวใสภายใน
ซึ่งเมื่อลองมองดีๆ แล้ว เหมือนกับซอฮยอนจะเคยเห็นมันมาก่อนที่ไหนสักที่
“ฮะๆ…”
เสียงหัวเราะยังคงดังเป็นช่วงๆ ยิ่งเธอใกล้เข้ามามากเท่าไร นั่นก็ยิ่งทำให้พวกเธอรู้สึกระแวงมากขึ้นเท่านั้น เพราะสภาพที่ดูไม่ต่างอะไรกับคนที่สติแตกและเป็นบ้าไปแล้วนั่นเอง
“อ… อย่าเข้ามานะ !”
กระทั่งซอฮยอนตัดสินใจตะโกนสั่ง ร่างของหญิงคนนั้นจึงหยุดชะงักไปชั่วครู่ ก่อนที่จะค่อยๆ หันคอช้าๆ และเงยหน้าขึ้นมามองพวกเธอ
“น… นั่นมัน…”
จนกระทั่งใบหน้านั้นจะกระทบเข้ากับแสงสว่างที่ส่องลอดเข้ามาผ่านทางหน้าต่าง เธอถึงกับต้องใช้มือข้างที่ถือขวดบรรจุของเหลวใสนั้นขึ้นมาบังแสงเอาไว้จนมันหลุดร่วงจากมือและแตกละเอียดออกเป็นเสี่ยงๆ
เพล้งงงง !!
นั่นจึงทำให้ซูยองเห็นใบหน้าของเธอชัด
“บ… บ้าน่า !”
เพราะใบหน้าซีกหนึ่งโดยเฉพาะกับดวงตาขวามันเป็นสีแดงเลือด ไม่ต่างอะไรกับเจ้าปีศาจสาวตนนั้น และยิ่งไปกว่านั้นผมทางด้านขวา แม้จะเป็นเพียงแค่ส่วนน้อย แต่มันก็แปรสภาพเป็นสีขาวโพลน คล้ายคนแก่ ไม่ต่างอะไรกับเจ้าตัวที่เธอเพิ่งจะหนีมาเลย
“ว… วิ่ง !!!”
ทันทีที่ซูยองตะโกนสั่ง พยาบาลสาวคนนั้นก็กรีดร้องจนแสบแก้วหูก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่พวกเธอด้วยความเร็ว
“โอ๊ยยยยยย !!!”
ซอฮยอนที่ออกตัวก่อนกลับพลาดสะดุดแท่งเหล็กที่ถืออยู่ในมือจนล้มลงกับพื้น ปลายที่เป็นกระจกนั้นหักจนไม่สามารถใช้งานได้อีก อีกทั้งมันยังกระเด็นห่างออกไปจากตัวเธอพอสมควร
เคร้งงงงง !!!
“บ้าชิบ !”
ซูยองสบถออกมาและหันกลับมามองทางด้านหลังที่ซอฮยอนนั้นพยายามจะลุกขึ้นมาจากพื้น โดยที่พยาบาลคนนั้นก็ใกล้เข้ามาทุกที เธอก้มมองดูหอกที่อยู่ในมืออีกครั้ง ก่อนที่จะตัดสินใจขว้างมันสวนกลับเข้าไปด้วยความเร็ว
ฉึกกกก !!!
ร่างนั้นถูกปลายกระจกเสียบเข้าบวกกับแสงที่ซูยองเขวี้ยงสวนทำให้มันกระเด็นถอยและล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง ท่าทางของมันดูทรมานไม่น้อยและพยายามจะดึกเจ้าหอกนั้นออกจากตัว ซูยองจึงวิ่งสวนกลับไปโดยที่หยิบเอาแท่งเหล็กของซอฮยอนที่หล่นอยู่เข้าไปด้วย
ผัวะ !!!
ปลายด้านหนึ่งถูกหวดเข้าที่ใบหน้าอย่างแรงจนเลือดสีแดงสดพุ่งพรวดทะลักออกทางปากจนกรามนั้นถึงกับหัก ก่อนที่จะหวดซ้ำกลับไปอีกครั้ง จนเลือดนั้นสาดกระเซ็นไปทั่วทั้งบริเวณ
พรวดดดด !!!
ฉัวะ !!
โชคยังดีนักที่ซูยองสามารถหลบมีดที่ตรงเข้าจะฟันเธอไปได้อย่างฉิวเฉียด ซึ่งหากเธอหลบช้าไปกว่านี้ มันอาจจะไม่ใช่เพียงแค่เสื้อเท่านั้นที่ขาด แต่อาจจะเป็นช่วงเอวของเธอด้วยก็เป็นได้
“ฮิฮิ…”
น่าแปลกที่โดนหวดไปขนาดนั้นแล้วยังหัวเราะอยู่ได้ เธอพยายามจะดึงหอกที่เสียบร่างของพยาบาลสาวคนนั้นออก แต่กลับถูกเจ้าของร่างกระชากมันออกเสียก่อน พร้อมกับเหวี่ยงมันกระเด็นออกไปจนพ้นทาง จึงทำให้ทั้งตอนนี้ทั้งซูยองและซอฮยอนไม่มีอาวุธอะไรเหลือติดไม้ติดมืออีกแล้ว
เธอมองไปยังร่างที่ค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างช้าๆ ทั้งๆ ที่เลือดนั้นไหลจนท่วมตัวแล้ว
ย… ยัยนั่นมันเป็นอมตะรึไง !?
จากเสียงหัวเราะเมื่อครู่เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเสียงขู่คำรามคล้ายกับสัตว์ป่าเวลาโกรธ ปากที่ห้อยลงมาเพราะกรามที่ถูกซูยองหวดจนหักทำให้เธอยิ่งดูน่าขนลุกขึ้นไปอีก กระทั่งมันเขยิบเข้ามาใกล้และถูกแสงแดดส่องเข้าบริเวณตา นั่นจึงทำให้ซูยองเห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น
เธอค่อยๆ ก้มลงไปเก็บเศษกระจกที่หักของซอฮยอนขึ้นมาถือเอาไว้ โชคดีนักที่มันยังพอสะท้อนกับแสงไฟได้บ้างแม้จะไม่เท่ากับกระจกเงาก็ตาม แต่นั่นก็ทำให้ซูยองเลือกที่จะลองเสี่ยงดู โดยการที่นำกระจกนั้นไปยังจุดที่แสงแดดนั้นส่องเข้ามา จนมันกระทบเข้ากับกระจกนั้นและเห็นแสงอ่อนๆ ที่สะท้อนกับดวงอาทิตย์ไปยังผนังอีกฝั่ง
“แฮ่ !!!!”
มันส่งเสียงขู่คำรามอย่างโกรธๆ พร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งบังแสงนั้นเอาไว้ ทันทีที่ซูยองเบนกระจกไปอีกทิศหนึ่ง มันก็ตั้งท่าจะพุ่งเข้าใส่เธอ แต่เมื่อนำกระจกนั้นลับมาส่องมัน มันก็ชะงักและถอยกลับอีกครั้ง นั่นจึงทำให้ซูยองเริ่มมีความได้เปรียบในเชิงพื้นที่ กระทั่งเธอก้มลงไปเก็บแท่งเหล็กของซอฮยอนมาถือเอาไว้
“เห็นสายที่ห้อยอยู่ข้างๆ กระจกไหม ?”
“สายไหนคะ ?”
“สายดึงม่านที่ห้อยอยู่ข้างๆ”
“เห็นค่ะ ทำไมเหรอ ?”
ซอฮยอนถามด้วยความฉงน กระทั่งซูยองจะอธิบายถึงแผนการและสิ่งที่ต้องการจนกระทั่งซูยองนั้นโยนกระจกทิ้งและผงกศีรษะให้สัญญาณกับซอฮยอน นั่นเป็นจังหวะเดียวกับที่พยาบาลคนนั้นจะพุ่งเข้าใส่ซูยองด้วยความเร็วพร้อมกับเสียงกรีดร้องอันแสบแก้วหู
แต่ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าทำให้ซูยองสามารถกระทุ้งปลายเหล็กด้านหนึ่งเข้าใส่กระจกด้านข้างเต็มแรงจนมันแตกละเอียด พร้อมกับส่งสัญญาณให้ซอฮยอนดึงเชือกม่านนั้นขึ้น
“กรี๊ดดดดดดดดดด !!!!!”
ทันทีที่แสงสว่างนั้นสาดส่องเข้ามาพยาบาลตนนั้นก็กรีดร้องด้วยความทรมานเมื่อผิวหนังของเธอเริ่มมีควันขึ้นราวกับถูกแดดเผา ก่อนที่จะเกิดสะเก็ดไฟลุกพรึ่บขึ้นอย่างรวดเร็วสร้างความตกใจให้กับซูยองและซอฮยอนไม่น้อย
“กรี๊ดดดดดดดดด !!!!!”
ร่างที่พยายามจะวิ่งตรงเข้าหาถูกซูยองใช้แท่งเหล็กในมือนั้นหวดเข้าใส่ที่สีข้างอย่างแรงจนมันพลัดตกลงไปยังชั้นล่างพร้อมกับแท่งเหล็กที่หลุดออกจากมือไป กระทั่งได้ยินเสียงดังตุบเบาๆ และตามมาด้วยเสียงสัญญาณกันขโมยที่ดังขึ้นมา ซูยองจึงค่อยๆ ชะโงกหน้าออกไปดูผ่านทางกระจกที่แตกละเอียด
และพบร่างของพยาบาลสาวคนนั้นถูกเผาอยู่บนหลังคารถเก๋งที่จอดอยู่ด้านล่าง
.
.
.
เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ !
ก่อนที่ซูยองจะถอยหลังกลับเข้ามาในตัวอาคารและถอนหายใจเฮือกใหญ่ พร้อมกับพูดขึ้น
“หวังว่าคงจะไม่เจอตัวอะไรบ้าๆ แบบนี้อีกแล้วนะ…”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น