ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : + + Chapter 10 + + [Fixed : แก้คำผิด] + (BG Music)
เกล็ดเล็กๆ : ในการอ่านให้ได้อรรถรสยิ่งขึ้น แนะนำให้ทำการเปิด BG music ไปพร้อมกับอ่านไป โดยการเปิด tab ขึ้นมาอีก 1 และ Copy ลิงค์ไปใส่ เพื่อความตื่นเต้นที่มากยิ่งขึ้น
------------------------------------------------------------------------------------------------
ยูรินั่งรถแท๊กซี่มาตามทางเรื่อยๆ ซึ่งไม่นานนักเธอก็มาถึงยังจุดหมายปลายทาง
ยูรินั่งรถแท๊กซี่มาตามทางเรื่อยๆ ซึ่งไม่นานนักเธอก็มาถึงยังจุดหมายปลายทาง
เธอเดินตางมายังตู้ล๊อคเกอร์ทางด้านล่างและไขมันออก และก็เป็นอย่างที่เธอคิดเอาไว้ ด้านในนั้นมีเพียงซองจดหมายสีขาวฉบับเดียวเท่านั้น
เธอค่อยๆ ปิดตู้กลับไปเช่นเดิมและเก็บซองจดหมายลงในกระเป๋า
เมื่อกลับขึ้นมาด้านบน ยูริก็ตัดสินใจเดินเล่นตามทางไปเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่บริเวณทางม้าลายเพื่อข้ามถนน ผู้คนที่ทยอยกันมาเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ยูริมองไปยังตัวเลขนับถอยหลังที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
34
33
32
.
.
.
ตัวเลขยังคงนับถอยหลังต่อไปเรื่อยๆ พร้อมๆ กับที่รถยังคงวิ่งสวนกันไปมาด้วยความเร็วตามปกติ
ปึกกก !!!
ร่างของยูริ ที่อยู่ๆ ก็ถูกผลักออกมาทำให้คนที่อยู่ข้างหลังต่างก็ตกใจสุดขีด เมื่อพบว่ารถคันหนึ่งกำลังวิ่งมาด้วยความเร็วสูง ตรงเข้าไปหาเธอ
“กรี๊ดดดดดดดด !!!”
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดด !!!
เสียงกรีดร้องดังขึ้นทันทีเมื่อรถคันดังกล่าวปะทะเข้ากับร่างของยูริอย่างจังจนตัวเธอลอยกระเด็นกลับหลังไป
โครมมมม !!!
ราวกับเวลาทั้งหมดได้หยุดลง และเริ่มย้อนกลับไปอีกครั้ง
.
.
.
โครมมมม !!!
.
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดด !!!
.
“กรี๊ดดดดดดดดด !!!”
ยูริที่รู้สึกได้ว่ามีคนผลักเธอออกมา แต่มันก็ไม่ทันที่จะหันกลับไปมองเสียแล้ว ในเมื่อรถคันหนึ่งกำลังวิ่งตรงเข้ามาหาเธอด้วยความเร็วสูง
บัดซบ !!!
เธอยกมือขึ้นมากันส่วนหัวของตัวเองเอาไว้ ก่อนที่จะตัดสินใจกระโดดพุ่งใส่รถคันนั้นในเสี้ยววิ
“กรี๊ดดดดดดดดดด !!!”
หญิงสาวคนหนึ่งที่เห็นรถกำลังพุ่งเข้าหายูริร้องกรี๊ดลั่นพร้อมกับเอามือขึ้นปิดตา ก่อนที่รถคันนั้นจะเหยียบเบรคจนมิด แต่มันก็ไม่ทันเสียแล้ว
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดด !!!
โครมมมม !!!
ยูริที่อาศัยการหมุนตัวเพื่อลดแรงกระแทกจากรถคันนั้น แต่ด้วยความเร็วที่พุ่งเข้าหา ทำให้ร่างของเธอนั้นกระเด็นไปไกลพอสมควร
“อั่คคคคค !!!”
ร่างของเธอยังคงถอยกรูดไปกับพื้นถนนไกลพอสมควร
ปิ๊นนนนนนน !!!!
เอี๊ยดดดดดดดดดดดด !!!
ยูริรีบเอี้ยวตัวหลบล้อรถที่กำลังวิ่งเข้าหาเธอได้อย่างฉิวเฉียด ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะจอดลงที่ข้างๆ พร้อมกับคนขับที่รีบเปิดประตูลงมาดูอาการของเธอ
“เธอเป็นอะไรรึเปล่า ได้รับบาดเจ็บอะไรไหม ?”
ชายคนนั้นถามอย่างเป็นห่วง พร้อมกับสำรวจดูร่างกายของเธอ แต่ยูริกลับไม่ได้สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเลย สิ่งที่เธอสนใจนั้นมีอยู่เพียงอย่างเดียว นั่นก็คือ
ใครที่เป็นคนผลักเธอ
อาการชาที่บริเวณแขนยังคงอยู่ อีกทั้งยังอาการจุกจากการกระแทก ทำให้ยูริเดินลำบากเล็กน้อย
เธอหยุดนั่งพักอยู่บริเวณม้านั่งยาวสักพัก เพื่อสำรวจอาการบาดเจ็บของตน พร้อมๆ กับที่พักฟื้นร่างกายไปด้วย เธอนั่งหลับตาพร้อมกับสูดหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไปจนเต็มปอด ก่อนที่จะค่อยๆ ผ่อนมันออกมา
ความคาใจที่ยังคงอยู่ ทำให้ยูริพยายามนึกย้อนกลับไปอีกครั้ง
แต่ไม่ว่าจะพยายามนึกยังไง มันก็ไม่มีท่าทีว่าจะยอมออกมาง่ายๆ เลย
“เฮ้อ !”
เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนทีจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืนและเดินทางกลับยังบ้านของตัวเองต่อไป
“ยูลไปไหนมาอะ ปล่อยให้สิก้ามารอตั้งนาน”
เจสสิก้าพูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาควงแขนของยูริเอาไว้ ก่อนที่จะเอนหัวซบกับแขนของเธอ
“พอดีไปธุระมาน่ะ
^^”
เธอตอบกลับและยิ้มให้ ก่อนที่เจสสิก้าจะเดินควงแขนยูริมาตามทางเรื่อยๆ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุข ซึ่งยูริเมื่อเห็นว่าเจสสิก้ามีความสุข นั่นก็พลอยทำให้เธอมีความสุขไปด้วย
http://www.youtube.com/watch?v=rcBrGKZpj7A [Background Music]
เจสสิก้ายังคงเดินควงแขนของยูริมาเรื่อยๆ พร้อมกับชี้ให้ดูร้านค้าต่างๆ ตามทางไปเรื่อย
เธอแวะเข้าไปในร้านขายเสื้อ พร้อมกับเดินเลือกชุดต่างๆ บ้างก็นำมาทาบกับตัวของยูริและหัวเราะคิกคักอย่างชอบอกชอบใจ
เมื่อเสร็จจากร้านดังกล่าว เธอก็เดินออกมาและเดินต่อมาอีกครั้ง
“นี่ๆ ยูล สิก้าอยากกินไอติมอะ >_<”
หญิงสาวคนรักพูดอย่างอ้อนๆ พร้อมกับเขย่าแขนของยูริเบาๆ เพียงแต่เธอไม่รอคำตอบจากอีกฝ่าย แต่ดึงเธอเข้าไปยังร้านไอศกรีมดังกล่าวทันที ซึ่งยูริได้แต่เพียงยิ้มออกมากับท่าทีดังกล่าวของคนรักเท่านั้น
“เอาวนิลลาค่ะ ^^”
“กี่อันจ๊ะ ?”คุณป้าเจ้าของร้านถามขึ้น ก่อนที่เจสสิก้าจะหันมาหายูริสักแปปและหันกลับไปสั่ง
“อันเดียวพอค่ะ ^^”
เธอตอบกลับไป ก่อนที่จกระซิปเบาๆ ที่ข้างหูของยูริ
“สิก้ากินไม่หมดหรอก เดี๋ยวเราแบ่งกันกินนี่แหล่ะ ^^”
“เอ้านี่จ๊ะ ^^”
หลังจากที่เธอรับไอศกรีมมาแล้ว ทั้งคู่จึงเดินออกมาจากบริเวณนั้น
“อ้ะ !”
เจสสิก้ายื่นมาให้กับยูริ ก่อนที่สาวร่างสูงจะกินไปหน่อยหนึ่ง พร้อมกับยิ้มให้กับเจสสิก้า
ร่างบางค่อยๆ นำไอศกรีมโคนนั้นมากินบ้าง ก่อนที่จะสังเกตเห็นคราบไอศกรีมเปรอะปากของคนรัก เธอจึงเอื้อมมือไปเช็ดมันออกเบาๆ พร้อมกับยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
ช่วงเวลาแห่งความสุขของพวกเธอก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
ท้องฟ้าที่แปรเปลี่ยนเป็นสีเทาหม่น กับสายลมที่ค่อนข้างแรงพัดผ่านไปมา
กิ่งไม้ที่เริ่มไหวไปตามกระแสลม จนในที่สุด เม็ดฝนเม็ดแรกก็ได้ตกลงมาลงบนศรีษะของเจสสิก้า
เธอเอามือขึ้นมารองพร้อมๆ กับที่เงยหน้ามองขึ้นไปยังท้องฟ้าเบื้องบน
ก่อนที่สายฝนจะค่อยๆ ตกกระหน่ำลงมา
ซ่าาาาา !!!
ทั้งยูริและเจสสิก้าต่างก็พากันวิ่งหลบฝนไปยังบริเวณอุโมงค์ใต้สะพานบริเวณสวนสาธารณะข้างๆ ก่อนที่จะมองหน้ากันและหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
“ฮะๆๆ”
“เปียกหมดเลยแฮะ...”
“นั่นสิ...”
ยูริตอบกลับไปเบาๆ เธอมองหญิงสาวตรงหน้าสักพัก ก่อนที่จะค่อยๆ ดึงตัวเธอเข้ามากอดอย่างอ่อนโยน ทำเอาร่างบางรู้สึกเขินกับการกระทำของคนรัก แต่เธอก็มีความสุขเป็นอย่างมาก
“ไม่ได้เอาร่มมาซะด้วยสิ...”
“นั่นสิ... แบบนี้มีหวังได้ติดอยู่ตรงนี้ยาวแหงๆ”
เจสสิก้าตอบกลับมา ก่อนที่จะเดินออกไปหยุดอยู่ที่ปากอุโมงค์และเอามือรองน้ำฝนเล่น ซึ่งยูริก็เดินตามเธอออกมาและยืนมองหญิงสาวคนรักเล่นอะไรแบบเด็กๆ
ก่อนที่อยู่ๆ เจสสิก้าก็จะพูดขึ้น
http://www.youtube.com/watch?v=5fvb2kRqRko [Background Music]
“ยูลรู้ไหม ว่ามันมีนิทานเกี่ยวกับสายฝนด้วยนะแม่ของสิก้าชอบเล่าให้สิก้าฟังตอนยังเป็นเด็ก...”
ร่างบางพูดออกมาเบาๆ
“ว่าไงเหรอ ?”
ยูริถามกลับ ก่อนที่จะคลายอ้อมกอดจากคนรักก่อนที่จะนั่งลงและดึงตัวเจสสิก้าเข้ามานั่งตักเธอเอาไว้ และกอดเธอเอาไว้อีกครั้ง เพื่อมอบความอบอุ่นให้กับเธอ
มีอาณาจักรอยู่อาณาจักรหนึ่ง ที่นั่น มีเจ้าหญิงผู้เลอโฉมอยู่คนนึง ซึ่งพระองค์ก็ทรงปกครองประชาชนมาด้วนความรัก และคอยเอาใจใส่ตลอด
แล้วท่านก็ได้มีความรัก แต่ก็เป็นความรักที่ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างเด็ดขาด...
“ทำไมเหรอสิก้า ?” ยูริถามขึ้นอย่างสงสัย ก่อนที่ร่างบางจะเล่าต่อ
“เพราะว่าท่านทรงมีความรักกับนายทหารคนหนึ่ง...”
ความรักระหว่างเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ กับนายทหารชั้นต่ำต้อย ไม่มีทางที่จะได้สมหวังกันเลย
ซึ่งทางพระมหากษัตริย์ และราชินีต่างก็ไม่เห็นด้วยและทรงโกรธเป็นอย่างมาก จึงได้สั่งลงโทษคนทั้งสอง เจ้าหญิงต้องถูกขังเอาไว้ในห้อง ไม่ได้ออกไปไหน ส่วนคนรักของพระองค์ก็ถูกทำโทษอย่างหนัก และถูกสั่งห้ามไม่ให้ทั้งสองได้พบเจอกันอีก
วันหนึ่ง องค์หญิงนั้นแอบฝ่าฝืนคำสั่งของเสด็จพ่อออกมา เพียงเพื่อต้องการจะมาหาคนรัก ซึ่งทั้งคู่ก็ได้พากันหนีออกมาจากอาณาจักรแห่งนั้น
ออกไปใช้เวลาอยู่ด้วยกัน...
แม้จะเป็นเพียง 1 คืนที่แสนสั้น แต่ทั้งคู่ก็รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก
ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ให้คำสัญญาแก่กันว่า พวกเขาจะไม่ยอมพรากจากกันไปไหนอีก ถึงแม้ความตายจะมาเยือนก็ตาม อีกฝ่ายก็จะไม่ทอดทิ้งกัน และจะตายตามไปด้วย
พอพระมหากษัตริย์ทรงรู้เรื่อง พระองค์ก็ทรงออกตามล่านายทหารคนนั้น พร้อมๆ กับเจ้าหญิง เมื่อพบตัว พระองค์ก็ทรงนำตัวพวกเขากลับไปที่อาณาจักรทันที
ก่อนที่จะได้ประหารชายคนรักเสีย
จากเมืองที่เคยสดใส กลับกลายเป็นเมืองที่มีแต่เพียงสายฝนเท่านั้นที่ตกลงมา ไม่มีแม้แต่แสงแดดจะสาดส่องลงมาเลย เพราะความเศร้าของเจ้าหญิงที่ต้องสูญเสียคนรักไป
และด้วยคำสัญญาที่ว่า พวกเขาจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ทำให้เจ้าหญิงเลือกที่จะกินยาพิษตายตามไปด้วย...
และจากตอนนั้นจนถึงตอนนี้ อาณาจักรแห่งนั้นก็ไม่เคยได้เห็นรอยยิ้มและความสดใสอีกเลย มีแต่เพียงความเศร้า และสายฝนที่ตกตลอดปีเท่านั้น...
“เศร้าจัง...” ยูริพูดเบาๆ พร้อมกับซบใบหน้าลงกับแผ่นหลังของเจสสิก้าคนรัก
“แล้วระหว่างเราล่ะ ยูล... ความรักของเราจะเป็นแบบนั้นไหม ?”
เจสสิก้าหันมาถามยูริ
“แน่นอนสิ... เจสสิก้า เราจะรักกัน และอยู่ด้วยกันตลอดไป...”
ก่อนที่ยูริจะเป็นฝ่ายถามขึ้นบ้าง
“แล้วถ้าชั้นตาย... เธอจะทำเหมือนกับเจ้าหญิงคนนั้นไหม ?”
“แล้วพ่อแม่ของสิก้ายังอยู่รึเปล่า ?” ยูริถามขึ้นพร้อมกับเอนศรีษะหันไปมองคนรักข้างตัว
“พวกท่านก็ยังอยู่นะ ทำไมเหรอ ?”
ยูริเงียบไปสักพัก ก่อนที่เธอจะเริ่มเล่าขึ้นบ้าง
“ครอบครัวชองชั้น... พวกท่านเสียไปหมดแล้วล่ะ...” เธอพูดพร้อมกับเอามือลูบหัวคนรักอย่างเอ็นดู
“เป็นเพราะชั้น... พ่อ แม่ น้องสาวของชั้น ทุกคนต้องตายหมด...”
เจสสิก้าที่นั่งอยู่ข้างๆ เริ่มสังเกตเห็นน้ำตาที่เอ่อขึ้นในดวงตาของยูริ
ตอนที่ชั้นยังเด็ก... ชั้นกับครอบครัวได้มีโอกาสไปเที่ยวด้วยกัน แล้วขากลับ มันก็จะผ่านร้านขายของร้านนึง ซึ่งแม่ของชั้นได้สัญญาเอาไว้แล้วว่าจะพาชั้นแวะไป
แต่เพราะฝนที่ตกหนักมาก ทำให้พวกท่านต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางใหม่ ตอนนั้นชั้นยังเป็นเด็กอยู่ใช่ไหมล่ะ
พอเห็นว่าแม่ไม่รักษาสัญญา ชั้นก็โวยวาย แล้วก็งอแง...
“พูดแล้วก็ตลกดีนะ ตัวเองเป็นพี่ แต่กลับมาร้องไห้งอแง ในขณะที่น้องสาวชั้นนั่งเฉยๆ”
ยูริพูดขึ้นและเริ่มร้องไห้ออกมา เธอปาดน้ำตาออก ก่อนที่จะเริ่มเล่าต่ออีกครั้ง
แล้วพอเป็นแบบนั้น ชั้นเลยบอกพวกเค้าว่า ถ้าไม่เปิดประตูให้ ชั้นจะเป็นฝ่ายเปิดลงไปเอง...
“แล้วเธอเปิดลงมาจริงๆ น่ะเหรอ ?”
เจสสิก้าถามขึ้น แต่ยูริกลับไม่ได้ตอบอะไร
ก็อย่างที่เธอว่ามาแหล่ะ...
ชั้นเปิดประตูออกทั้งๆ ที่รถกำลังวิ่งอยู่ แม่ของชั้นเลยพยายามที่จะดึงตัวชั้นเอาไว้ และพ่อของชั้น ที่เผลอมองดูแต่ชั้น เลยไม่ทันเห็นรถที่วิ่งสวนมาข้างหน้า
.
.
.
ยูริที่ไม่สามารถสะกัดกั้นน้ำตาเอาไว้ได้อีกต่อไป เธอปล่อยโฮออกมาอย่างเจ็บปวด
“อย่าร้องนะยูล... เรื่องมันผ่านไปแล้วนะ...”
เจสสิก้าเองก็รู้สึกเศร้าเป็นอย่างมากที่ได้ยินเรื่องดังกล่าวจากปากของยูริ
“อย่าร้องนะยูล... อย่าร้องเลยนะ...”
เจสสิก้าพูดพร้อมกับโอบกอดคนรักของเธอเอาไว้แน่น
“เธอยังมีชั้นอยู่นะ... ฮือๆๆ”
เธอยังมีชั้น...
ในที่สุด สายฝนก็ได้สิ้นสุดลงพร้อมๆ กับน้ำตาที่เหือดหายไป... ที่ยังเหลืออยู่มีแต่เพียงความเศร้าในจิตใจเท่านั้น
ตลอดเส้นทางขากลับ ยูริแทบไม่พูดจาอะไรเลย ซึ่งมันทำให้เจสสิก้ารู้สึกแย่เป็นอย่างมาก
ซึ่งไม่กี่นาทีต่อมา พวกเธอก็เดินทางกลับมาถึงบ้าน
ยูริทิ้งตัวนอนลงบนเตียงพร้อมกับยกแขนขึ้นมาก่ายหน้าผากเอาไว้ ส่วนเจสสิก้าได้แต่นั่งมองคนรักของเธออย่างเงียบๆ เท่านั้น ยามที่ยูริเศร้า เธอเองก็พลอยรู้สึกเศร้าไปด้วยเช่นกัน
เจสสิก้าเปลี่ยนความสนใจมามองออกไปยังวิวด้านนอกห้องแทน ซึ่งเธอก็สามารถสังเกตเห็นความแตกต่างของกระจกได้ทันที ราวกับมันเพิ่งจะถูกเปลี่ยนมาใหม่ได้ไม่นานนัก
เธอเดินมาหยุดยืนอยู่หลังบานกระจกพร้อมกับเอามือเอื้อมไปสัมผัสมันเบาๆ
“เธอเพิ่งจะเปลี่ยนกระจกใหม่เหรอยูล ?”
เจสสิก้าหันไปถามหญิงคนรักที่นอนอยู่บนเตียง
“อือ
กระจกมันแตกเมื่อเช้าตอนที่ขนของน่ะ
”
ยูริตอบกลับมาและดันตัวลุกขึ้นนั่ง เจสสิก้าทำท่าครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนที่เธอจะเดินมานั่งลงที่ปลายเตียงข้างๆ ตัวของยูริ ก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายเอนตัวลงนอนเสียเอง
ยูริมองดูคนรักของตัวเองที่นอนอยู่ข้างกายและยิ้มออกมาบางๆ
“ไปอาบน้ำแล้วหาอะไรกินก่อนดีกว่า
ที่ร้านกาแฟตรงข้ามนี่อะ” ยูริพูดเสนอความเห็น ก่อนที่เจสสิก้าจะเหลือบมองมาทางเธอ และพูดขึ้นอีกครั้ง
“อือ
”
พูดจบเจสสิก้าก็ลุกขึ้นจากเตียงและเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ซึ่งมันก็ได้โอกาสแล้วที่ยูริจะได้นำซองจดหมายนั้นออกมาอ่าน
เธอเดินมาหยิบกระเป๋าที่ห้อยไว้บริเวณเสาไม่ไกลออกไปเท่าไรนัก ก่อนที่จะค่อยๆ รูดซิปเปิดมันออก และหยิบซองจอดหมายด้านในออกมา
แคว่กกก !!
เธอฉีกซองมันออกและคลี่เอาจดหมายด้านในออกมาอ่านทันที
เจอกันคืนนี้ที่ ALLEN & DELANCEY; 115 Allen Street, New York, NY10002 เวลา 19.00 น.
XXX
เมื่ออ่านจบยูริจึงขยำกระดาษแผ่นนั้นทิ้งทันที
เข้าใจเลือกสถานที่นักนะ
ยูริคิดอย่างเจ็บใจ
ALLEN & DELANCEY นั้นเป็นร้านอาหารมีชื่อร้านหนึ่งในนิวยอร์คซิตี้ ซึ่งถือว่าเป็นภัตตาคารสุดหรูแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ มีผู้คนจำนวนมากที่ต่างก็ติดใจในรสชาติอาหารจึงพากันแวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสาย
และถ้าเป็นที่นั่น การจะไปแก้แค้น ก็คงจะทำไม่ได้ง่ายๆ
ยูริกำหมัดแน่น ก่อนที่จะเขวี้ยงเศษกระดาษในมือลงถังขยะไป
บ้าชิบ !!!
หลังจากที่พวกเธออาบน้ำเสร็จแล้ว เจสสิก้าก็เดินนำยูริมายังร้านกาแฟสตาร์บัคฝั่งตรงข้าม และเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านในทันที บรรยากาศภายในยังคงเหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย
กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟชวนให้อยากลิ้มลอง
เจสสิก้าเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าเคาท์เตอร์พร้อมกับเลือกดูขนมเค้กและขนมปังต่างๆ อย่างสบายๆ ส่วนยูริยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม่ได้ขยับไปไหน ในหัวของเธอมีแต่แผนการลอบฆ่าให้ได้แนบเนียนที่สุดเท่านั้น
มันจะมีวิธีไหนบ้างนะ
หรือว่าการที่มันเลือกมาเจอกันในที่แบบนั้นเพราะมีเรื่องจะคุย ?
ยูรินึกอย่างสับสน
ในเมื่อมันสั่งคนมาเก็บเราแล้ว มันยังจะมีอะไรต้องคุยกันอีกล่ะ
“ยูล
ยูล
”
เสียงใสๆ ของเจสสิก้าที่กำลังเรียกเธอ ทำให้ยูริรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง
“อ
อะไรเหรอสิก้า ?”
“เธอไม่เป็นอะไรแน่นะ ดูเธอเหม่อๆ ยังไงไม่รู้นะ
” เจสสิก้าพูดอย่างเป็นห่วง สายตาของเธอยังคงจับจ้องอยู่ที่ยูริไม่ไปไหน มีเพียงแต่รอยยิ้มจางๆ ของยูริเท่านั้นที่ปรากกขึ้นบนใบหน้า
“ไม่เป็นไรแล้วล่ะ
”
เธอตอบกลับมา แต่นั่นก็ทำให้เจสสิก้าอดที่จะเป็นห่วงเสียมิได้เลย
“เอ้อใช่ยูล ! วันนี้สก้ามีนัดคุยงานกับที่ทำงานนะ เดี๋ยวสักพักสิก้าก็ไปละ”
“อ
อือ” ยูริตอบกลับไป
“เธอไม่เป็นอะไรจริงๆ นะ ?”
“อือ
ขอบคุณนะที่เป็นห่วง แต่ชั้นไม่ได้เป็นอะไรแล้วล่ะ ^^”
ยูริตอบกลับไป ทำให้เจสสิก้ารู้สึกดีขึ้นมาเปลาะหนึ่ง
“ถ้ายูลไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วล่ะ ^^”
ยูริยิ้มตอบกลับ ก่อนที่จะเหลือบมองออกไปยังนอกหน้าต่าง
ทีนี้ก็ไม่มีคนมาคอยเกะกะแล้วสินะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น