ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic SNSD : Love Generation (รวม I - IV) [Yuri]

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 3 : Something in my mind… - บางสิ่ง... ในหัวใจ

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 54


    + + Tiffany Talk + +
    ทำไมฉันต้องรู้สึกหงุดหงิดตอนที่เห็นแทยอนกอดกับเพื่อนของเธอด้วยนะ... นี่ชั้นเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย...
    ทิฟฟานี่รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก เธอค่อยๆ ก้าวลงจากบันไดมาทีละขั้นๆ อย่างช้าๆ พลางคิดทบทวนถึงเรื่องต่างๆ ก่อนที่เธอจะเดินมาและเจอกับซันนี่ที่นั่งเล่นอยู่บริเวณม้านั่งในสวนหย่อมข้างๆ หอพัก
    ไงซันนี่ ^^ ขอชั้นนั่งด้วยคนสิ
    อือมาสิๆ ^^” เธอตอบกลับมาพร้อมกับทำท่าตบที่ม้านั่งข้างๆ ฉันจึงเดินเข้าไปหาและค่อยๆ นั่งลง
    เป็นไรมาอ่ะแก ? เหมือนแกจะดูเครียดๆ นะ ?”
    มีเรื่องอะไรให้คิดนิดหน่อยแหล่ะ ^^”
    ม่ายหน่อยมั๊ง หน้าของเธอนี่แทบจาเอาทีนก่ายหน้าผากได้เลยนะนั่น -.-”
    เว่อไปละ -*-
    เค้าล่อเล่นน่า ^__^” ซันนี่พูดพร้อมกับยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะเอื้อมมือมาหยิกที่แก้มซ้ายของฉันเบาๆ อย่างเอ็นดู
    นี่ๆ...
    หืม ?”
    แกเคยมะ แบบว่า... รู้สึกหงุดหงิดไม่ชอบใจเวลาที่เห็นเพื่อนเราไปกอดกับอีกคนอ่ะ ?”
    เพื่อนที่ว่า... แกหมายถึงใครล่ะนั่น ?” ซันนี่ถามกลับ
    ก็... ก็แค่เพื่อนคนนึงน่ะแหล่ะ
    ฉันรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงไม่เป็นจังหวะของตัวเอง ฉันค่อยๆ เอามือซ้ายมาสัมผัสที่หน้าอกของตัวเองเบาๆ
    เธอแน่ใจเหรอว่าแค่เพื่อน ?”
    แน่ใจสิ !!”
    ถ้าอาการแบบนี้นะ... ชั้นว่าแกคงต้องคิดอะไรกับเพื่อนคนที่แกว่าอยู่แน่เลยล่ะ ไม่งั้นแกไม่เป็นแบบนี้หรอก... หัวใจเต้นเร็วไม่เป็นจังหวะ รู้สึกเหมือนตัวร้อนขึ้นมา ทำอะไรไม่ถูก รู้สึกลนลานแปลกๆ เวลาที่อยู่ต่อหน้าเพื่อนคนนั้น...
    ยัยนี่พูดมาไหงมันถูกหมดทุกอย่างเลยฟะ -..-
    กะลังนึกในใจน่ะสิ ว่าที่ชั้นพูดไปทำไมถูกหมดทุกอย่าง...
    นั่นมันยังรู้อีกนะ - -a
    เปล่าซะหน่อย !!”
    ซันนี่มองดูเพื่อนสาวตรงหน้าก่อนที่จะถอนหายใจออกมา และยิ้มให้กับเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ
    เอาน่า... ตอนนี้แกคงยังสับสนอยู่... แต่สักวันแกก็จะรู้เองล่ะ ความรู้สึกลึกๆ ของแก ที่มีต่อเพื่อนคนนั้น ^^”
    ขอบคุณนะ...
    อือ ไม่เป็นไรหรอก ^^ อย่าไปเครียด มามะขอกอดที ซันนี่พูดพร้อมกับอ้าแขนรับทิฟฟานี่ ก่อนที่แทยอนที่อยู่ทางชั้นบนจะมาเห็นจังหวะนี้เข้าพอดี สิ่งที่เธอทำได้ในตอนนี้ มีเพียงแต่ยืนมองอย่างเงียบๆ เท่านั้น
    ซันนี่และทิฟฟานี่คลายอ้อมกอดออกจากกัน ก่อนที่ซันนี่จะลุกขึ้นยืน
    เดี๋ยวชั้นไปมั่งดีกว่า...
    แกจะไปไหนล่ะนั่น ?” ฉันถามขึ้นอย่างสงสัย
    อ๋อ ! พอดีนัดกับยัยซูยองไว้ มันว่าจะไปเดินเมียงดงเที่ยวหาซื้อของใหม่ แกจะไปด้วยไหมล่ะ ?”
    อือๆ ไปสิ งั้นเดี๋ยวชั้นมานะ แกรออยู่นี่ก่อน
    อือๆ อย่านานนักล่ะ
    จ้าๆ ฉันตอบกลับไปและเดินกลับเข้ามายังหอพัก และเดินขึ้นไปยังห้องพักของตัวเอง ในระหว่างที่เดินมาตามทาง ฉันก็คิดทบทวนเรื่องของแทยอนมาตลอด
    ทำไมกันนะ... ชั้นถึงได้รู้สึกแปลกๆ เวลาที่อยู่ใกล้ๆ เธอ...
    ภาพตอนที่แทยอนจับมือฉันผุดขึ้นมาในหัว ก่อนที่ฉันจะเห็นแทยอนเดินสวนกลับมาเข้าห้อง โดยที่ไม่ยอมพูดอะไรกับฉันเลย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ...
    เดี๋ยวชั้นไปเมียงดงกับเพื่อนก่อนนะ เธอจะเอาอะไรไหม ? หรือจะไปด้วยกันปะ ?”
    ไม่ล่ะ ชั้นไม่อยากไปไหน ขออยู่แบบเงียบๆ ดีกว่า เชิญเธอไปซื้อของให้ สนุก เถอะ แทยอนตอบกลับมา น้ำเสียงของเธอดูแข็งกร้าวขึ้นจนแปลกไป
    เธอเป็นอะไรเปล่าเนี่ย ?”
    ไม่อ่ะ... ชั้นแค่รู้สึกเพลียๆ อยากจะอยู่เงียบๆ คนเดียว
    งั้นเธอก็ดูแลตัวเองดีๆล่ะ เดี๋ยวชั้นซื้อของกินไรเข้ามาฝาก
    เดี๋ยวชั้นไปหากินกับยูริอ่ะง่ายดี ได้ไม่ต้องไปลำบากเธออีก เธอไปเถอะ เดี๋ยวจะให้เพื่อนเธอรอนาน
    คำพูดที่ออกมาจากปากของแทยอนในตอนนี้กลับทำให้ฉันรู้สึกแปลกไปไม่เหมือนเคย ราวกับว่าที่อยู่ตรงนี้ ไม่ใช่แทยอนที่ฉันรู้จัก... แต่กลับกลายเป็นใครก็ไม่รู้
    งั้นชั้นไปก่อนละกัน
    อืม... แทยอนพูดจบก็นอนฟุบลงบนเตียงนอนของเธออย่างเงียบๆ ฉันค่อยๆ เปิดประตูห้องออกมาและปิดลงอย่างค่อยๆ เพื่อที่จะได้ไม่เป็นการรบกวนเธอ ก่อนที่ฉันจะก้าวออกห่างจากประตูหนึ่งก้าว และหันกลับไปมองอีกครั้ง
    เธอเป็นอะไรไปนะ... แทยอน
    + + Tiffany End + +
     
    + + Taeyeon Talk + +
    หลังจากที่ทิฟฟานี่เดินออกจากห้องไป ฉันก็นอนฟุบอยู่กับเตียงตามลำพัง พลางนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เธอเห็นมากับตา ภาพที่ทิฟฟานี่กับซันนี่กอดกันยังวนเวียนอยู่ในหัวไม่ไปไหน
    เธอคงจะมีคนที่ชอบอยู่แล้วสินะ...ทิฟฟานี่ ในเมื่อฉันไม่ได้เป็นคนที่เธอเลือก ฉันก็ขอไม่รักเธอเลยจะดีกว่า...
    ฉันลุกขึ้นจากเตียงนอนของตัวเองและเดินไปหยิบเครื่องเล่น mp3 ขึ้นมาและนำหูฟังมาเสียบเข้ากับหูของตัวเอง ก่อนที่จะกดเล่นเพลง
    ฉันกดหาเพลงไปเรื่อยๆ จนมาสะดุดเข้ากับเพลงๆ หนึ่ง “Living in my heart”
    เพลงนี้ชั้นไปเอามาตอนไหนนะ...
    พลันนึกย้อนกลับไปเรื่อยๆ ก็รู้ว่ายูริเป็นคนส่งมาให้พร้อมกับบอกว่าเป็นเพลงที่ความหมายดี
    ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ ลองฟังดูเลยละกัน...
     
    Un – Un – Untouchable come in at you once again!

    Please come back to me
    Please come back to me
    Please come back to me Girl
    I can`t Breath I can`t smile everyday so because of you
    (ฉันไม่อาจหายใจ ฉันไม่อาจยิ้มได้ทุกๆ วันก็เพราะเธอ)
    I can`t sleep I can`t live everyday so because of you...
    (ฉันไม่อาจหลับตาลง ฉันไม่อาจอยู่ได้ทุกๆ วันก็เพราะเธอ)
    Girl, 아직너를향한맘은숨이가빠지게뜨거워
    (เธอ,ใจฉันยังคงส่งผ่านไออุ่นไปถึงเธอ มันยังคงเต้นอย่างไม่อ่อนล้า)
    허나나를향한맘은숨이멎어지게차가워
    (แต่ใจเธอกลับส่งผ่านความหนาวเหน็บมายังฉัน ช่างหนาว หนาวเหน็บเหลือเกิน จนหัวใจอาจจะหยุดเต้นเข้าสักวัน)
     
    ฮะๆ ถูกอย่างที่เธอพูดเลยยูริ... เพลงนี้เพราะจริงๆ
    ฉันนึกในใจ ความรู้สึกที่เหมือนกับอัดอั้นอยู่ภายในได้คลายออกพร้อมกับน้ำตาใสๆ ที่ไหลรินออกมาอย่างไม่ขาดสายจนเปียกที่นอนของเธอ ยิ่งฟังก็เหมือนกับยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของตัวเอง
    เพลงถูกเล่นซ้ำไปซ้ำมาหลายๆ รอบจนฉันแทบจะจำคำร้องได้จนหมด แต่ละประโยคที่ผ่านเข้าหูมานั้น ราวกับจะทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจพร้อมกับสร้างบาดแผลลึกเกินกว่าที่จะรักษาได้เอาไว้ ฉันนั่งฟังเพลงเดิมซ้ำไปซ้ำมา น้ำตาที่ไหลออกมาก็ไม่รู้ว่าหยุดไหลไปเมื่อไร ราวกับว่าไม่มีน้ำตาจะไหลออกมาอีกแล้ว
     
    그대때문에숨을있어요
    (ฉันหายใจได้เพราะเธอ)
    그대때문에웃을수가있어요
    (ฉันยิ้มได้เพราะเธอ)
    이상하게웃어도눈물이흘러요
    (น่าแปลก ตอนที่ฉันยิ้ม น้ำตามันก็ยังคงไหล)
     
    ฉันลุกขึ้นจากเตียงอีกครั้งพร้อมกับมองดูนาฬิกาที่อยู่หัวนอน เวลาช่างผ่านไปยาวนานเหลือเกิน แสงแดดเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มยามอาทิตย์ตกดิน ฉันเดินมาที่หน้าต่างและจ้องมองออกไปยังวิวด้านนอกอย่างเหม่อลอย สายลมเย็นๆ พัดผ่านเข้ามาเอื่อยๆ
    ถ้าเป็นแบบนี้... ฉันขออยู่คนเดียวจะดีเสียกว่า...
    ก๊อกๆ... ก๊อก...
    เสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉันค่อยๆ เดินไปพร้อมกับเปิดประตูออกอย่างช้าๆ ยูริเพื่อนสาวกำลังยืนยิ้มให้อยู่ทางด้านหน้า ฉันจึงบอกให้เธอเข้ามานั่งในห้อง ก่อนที่ฉันจะเดินไปหยิบผ้าปูเตียงอันเก่าที่เปียกน้ำตาของฉันออก
    แกเอาออกทำไมอ่ะนั่น ?”
    พอดีน้ำมันหกใส่เลยเปียกน่ะ ไม่มีอะไรมากนักหรอก...
    แกหลอกฉันไม่ได้หรอกนะแทยอน... ชั้นรู้ว่าแกร้องไห้มา ดวงตาของแกมันฟ้อง...
    แกคิดไปเองน่ะสิ... เมื่อกี้ตอนที่ฉันนั่งกินน้ำอยู่ มันมีตัวอะไรไม่รู้บินเข้ามาทางหน้าต่าง แล้วมันมาโดนตาของชั้น ชั้นเลยไปล้างน้ำออก แล้วก็ดันทำน้ำหกบนเตียงอีก... มันเลยเป็นอย่างที่เธอเห็นนี่ล่ะ -*-
    งั้นชั้นก็คิดไปเองน่ะสิ -..- ไรว๊า คนอุตส่าเป็นห่วง...
    เอาน่า... ฉันพูดพร้อมกับเดินไปหายูริและหอมแก้มเธอไปหนึ่งที
    ขอบคุณนะ ที่เป็นห่วง
    อือ เราเพื่อนกันนี่หว่า ^^ แกไม่เป็นอะไรก็ดีละล่ะ... งั้นเราไปหาไรกินกันดีกว่าปะ ชั้นเริ่มหิวละ
    เอาสิ ! ชั้นเองก็เริ่มหิวละ
    ก่อนที่ฉันและยูริจะเดินออกมาจากห้องพักด้วยกัน และเดินลงไปยังชั้นล่าง เพื่อไปหาอะไรกิน เราสองคนเดินคุยกันไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้สังเกตคนที่เดินสวนไปมาเลย
    นี่แทแท...
    หืม ?”
    ชั้นว่าเธอแปลกๆ ไปนะ
    ทำไมเหรอ ?” ฉันถามขึ้นอย่างงงๆ
    เมื่อกี้ทิฟเดินผ่านไป แล้วยัยนั่นมันทักฉันกับแกด้วย แต่แกกลับทำเป็นเหมือนไม่เห็นเธอซะงั้นอ่ะ
    อ่าวเหรอ... ก็ชั้นไม่เห็นจริงๆ นี่
    ชั้นว่าระหว่างแกกับทิฟ ต้องมีเรื่องอะไรกันแน่เลย...
    ไม่มีหรอกแก ก็ชั้นไม่เห็นจริงๆ นี่หว่า -*-
    เหมือนกับทิฟจะน้อยใจที่แกเมินใส่เมื่อกี้ด้วย...
    -*-
    ชั้นขอถามตรงๆ เลยนะแทยอน มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับทิฟฟานี่กันแน่ ยูริถามด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างออกไปจากเคย จนทำให้ดูเหมือนเธอกำลังโกรธอยู่ในขณะนี้
    ฉันค่อยๆ ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ ก่อนที่จะพูดขึ้น
    ไปหาที่นั่งคุยกันเถอะ...
    เราสองคนเดินมานั่งบริเวณที่ทิฟฟานี่และซันนี่กอดกันอยู่เมื่อช่วงเย็น มันกลับทำให้ฉันรู้สึกแย่ยิ่งขึ้น เมื่อต้องมาพูดเรื่องของทั้งสองคนนั้นในบริเวณที่เกิดเหตุแบบนี้ ฉันนั่งลงที่ม้านั่งตรงข้ามกับม้านั่งที่ซันนี่และทิฟฟานี่นั่ง ก่อนที่ยูริจะมานั่งลงข้างๆ สายลมพัดผ่านไปมาไม่ขาดสาย
    จริงอย่างที่เธอพูดยูริ... ชั้นมีเรื่องไม่สบายใจเกี่ยวกับทิฟฟานี่
    แล้วเรื่องมันเป็นไงมาไง ?”
    ชั้นถามแกบ้างแล้วกัน... ถ้าแกเห็นเจสสิก้าไปกอดกับคนอื่น เธอจะรู้สึกยังไงล่ะ ?”
    ยูริถึงกับสะอึกไปชั่วครู่ ก่อนที่จะหันมองมาทางฉัน
    คงรู้สึกแบบเดียวกับเธอนั่นแหล่ะแทยอน... ถ้าเป็นชั้นองก็คงทนไม่ได้ที่เห็นคนที่ชั้นรักไปกอดกับคนอื่นแบบนั้น
    อืม... ชั้นเลยพยายามที่จะลืมเธอไง ในเมื่อเธอมีคนที่รักอยู่แล้ว ฉันที่แอบรักเธออยู่ข้างเดียวจะไปมีประโยชน์อะไรล่ะ ? แกว่าจริงไหม ?”
    ยูรินิ่งเงียบ เธอได้แต่เพียงพยักหน้าตอบเท่านั้น เธอค่อยๆ เอื้อมมือมากุมมือของฉันเอาไว้จนรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นอีกครั้งหนึ่ง ฉันหันไปมองเพื่อนสาวที่อยู่ข้างๆ และค่อยๆ เอนหัวไปซบลงกับอกของเธอ ถึงแม้จะเศร้า... ถึงแม้จะเจ็บปวด... แต่น้ำตาก็ไม่ไหลออกมาอีกแล้ว
    ชั้นขออยู่แบบนี้สักพักนะ...
    อืม... ชั้นคงช่วยแกได้แค่นี้ T__T” ยูริพูดและเริ่มร้องไห้ออกมา
    แกไม่ใช่ชั้นซะหน่อย แกจะร้องไห้ทำไมกัน บ้ารึเปล่า ?”
    ยูริเอื้อมมือมาโอบกอดร่างของฉันเอาไว้จนแน่น พร้อมกับมอบความอบอุ่นให้
    ขอบคุณนะยูริ... ขอบคุณ... ขอบคุณจริงๆ
    เราเป็นเพื่... เพื่อนกันน...นี่ มีอะไรร...เราก็ต้องช่วยเหลือกะ... กัน
    ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว บัดดี้มีเพียงแต่ดวงจันทร์สีเหลืองนวลลอยเด่นอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าเบื้องบน บรรกากาศเงียบสงัดทำให้รู้สึกปล่าวเปลี่ยว ฉันและยูริยังคงนั่งกอดกันอยู่อย่างนั้นไม่ไปไหน ก่อนที่ยูริจะค่อยๆ คลายอ้อมกอดออก
    เธออย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครนะยูริ
    อือ...
    เธอตอบกลับมาพร้อมกับมองหน้าฉันสักพักก่อนที่จะค่อยๆ เชยคางของฉันขึ้นอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เธอจะบรรจงจูบที่หน้าผากของฉันอย่างเอ็นดู
    ถ้าเจสสิก้ารู้ เธออาจจะตายได้นะยูริ
    ก็อย่าให้รู้สิ ฮะๆๆ ยูริพูดและหัวเราะคิกคักชอบใจ ก่อนที่เธอจะเดินจูงมือฉันออกมาจากบริเวณดังกล่าว และตรงไปหาร้านอาหารเพื่อหาอะไรกินกัน
    เรื่องของทิฟแกจะทำยังไงต่อไปล่ะ ?”
    ฉันคงไม่สนใจเธอแล้วล่ะ... เพราะถึงยังไงมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี...
    + + Taeyeon End + +
    แทยอนพูดออกมาโดยที่หารู้ไม่ว่าทิฟฟานี่ คนที่เธอพูดถึงนั้นจะยืนอยู่ตรงข้ามกับเธอ ทันทีที่ทิฟฟานี่ได้ยิน เธอก็หันหลังกลับพร้อมกับเดินออกมาจากบริเวณนั้นทันที
    ทำไมเราถึงได้รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจด้วยนะ... ทำไมกัน
    ทิฟฟานี่คิดในใจ ก่อนที่จะเริ่มก้าวขาและวิ่งออกมา และกลับไปยังห้องพักของเธอ
    ทำไมกัน... ทำไมเราถึงได้รู้สึกเจ็บปวดแบบนี้... ทำไมกัน T___T
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×