ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ผีร้ายแห่งทานเทียส
ตอน 2
ผีร้ายแห่งทานเทียส
“พ่อคร้าบ ฮืออออ พ่อไม่นะไม่”เสียงเล็กๆร้องเรียกคนที่เพิ่งจากไป สายตาจับจ้องไปยังซากของบ้านไม้ที่จมอยู่ในกองเพลิง ดวงหน้าชุ้มไปด้วยน้ำตาแห่งการสูญเสีย
“ไปกันเถอะลูก”อีกเสียงที่ส่อให้เห็นถึงความพยายามที่จะกลั่นน้ำตาเอาไว้อย่างสุดความสามารถ มือที่สั่นเทาจับรอบแขนเล็กๆของอีกคนเอาไว้แน่น “รีบไปกันเถอะ อย่าให้พ่อต้องเป็นห่วงเลย”
เด็กน้อยพยายามฝืนเอาไว้ แต่สุดท้ายก็ยอมแต่โดยดี ทั้งสองวิ่งต่อไปเป้าหมายคือป่าใหญ่ท้ายหมู่บ้าน
“บ้าเอ้ย!!! ไอสารเลวนั่นเล่นซะปวดไปหมด”เสียงหนึ่งดังขึ้น เจ้าของของมันน่าจะตายไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เค้ายังคงพูดจ้อได้อย่าหน้าตาเฉย “อ้าวเว้ย!!! แล้วนี่ทำไมทุกอย่างถึงได้กลับหัวไปหมดว้า”ท็อดผู้เป็นเจ้าของเสียงกล่าว อันที่จริงทุกอย่างจะไม่กลับหัวได้ยังไง เพราะ ตอนนี้สิ่งที่กลับหัวจริงๆก็หัวของเค้าต่างหาก หัวของเค้าเกือบจะขาดอย่างหมิ่นเหม่เป็นที่สุด มันห้อยอยู่ตรงแผ่นหลังของเค้า เจ้าของหัวพยายามใช้มือที่เหลือเพียงข้างเดียวที่หนำซ้ำนิ้วยังเหลือไม่ครบอีกต่างหากเค้าค่อยๆประคองหัวที่เกือบขาดกลับเข้าที่อย่างทุลักทุเล ดูน่าสยองเอามากๆ เพราะแรงระเบิดทำเราร่างของท็อดเละไปหมดทุกส่วน
แต่ด้วยเหตุใดทำไมเค้าถึงยังไม่ตาย
“บ้าชิบ มีหวังยายลิลิตสวดหูดับแน่”ท็อดบ่นสีหน้าที่เละจนดูแย่มากอยู่แล้วกลับแย่หนักกว่าเก่า “เล่นแรงเป็นบ้าไม่นึกว่าไอเจ้าเลซโล่จะเอาจริง”
เค้าพยายามยันกายลุกขึ้นด้วยขามีบิดไปคนละทิศอย่างพยายามสุดๆ จนในที่สุดก็หยัดยืนด้วยขาที่ไม่น่าจะยืนได้อีกแล้วอย่างเหลือเชื่อ
“อ้าวเห้ย!!!!”ท็อดอุทานลั่นเลือดกระเด็นออกจากปากตามมาด้วยฟันกรามซี่ใหญ่ “หนีไปไกลแล้วนี่นา เอาละนะ ชั้นจะจับจริงๆแล้ว”เค้าตะโกนผ่านกองเพลิงที่เคยเป็นอดีตบ้านหลังน้อยไปยังหญิงวัยกลางคนและเด็กชายที่วิ่งหนีอย่างสุดชีวิตตรงไปทางป่าใหญ่
อากาศเย็นเหยียบแสงจันทร์และแสงดาวยังคงเจิดจ้าทำให้เห็นทุกสิ่งรอบกายอย่างชัดเจน สองคนสี่เท้าก้าวอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผ่านสนามหญ้ากว้างใหญ่ที่เปียกลื้นไปด้วยน้ำค้าง ทั้งสองหอดอย่างรุนแรงแต่ก็ยังฝืนใจวิ่งต่อไปโดยไม่หันกลับไม่มองเบื้องหลังดังคำสัญญาที่ให้ไว้กับผู้เป็นที่รัก
ท็อดค่อยๆเดินอย่างแช้มช้าเซไปซ้ายทีขวาที หัวก็จะหล่นอยู่ลอมล่อ จนในที่สุดก็ก้าวผ่านเศษซากของบ้านไม้มาก็จึงหยุดยืนอยู่ในสนานหญ้าเลือดแดงฉานไหลเป็นทาง
“เอาละนะ หมดเวลาเล่นกันแล้ว”ท็อดพูด “เอาละ” เค้าพูดพลางหลับตาลงเนื้อตรงแก้มเค้าเปิดออกทำให้ตาหลับไม่ค่อยสนิดเท่าไร
“จงฟังนามข้า เหล่าผีร้ายผู้สิงสู่อยู่ในป่าเขา”ท็อดกล่าว “‘นาเบรุส’ นั่นแหละคือนามข้า”เค้ากล่าวต่อ “จงทำตามประสงแห่งข้า ‘ผีร้ายแห่งทานเทียส’”เป็นคำกล่าวที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก มันทำให้อากาศเย็นลงอย่างรวดเร็วไอสีดำพวยพุ่งมาจากป่าเบื้องหน้าของ2ผู้เคราะห์ร้าย
“ปรากฏกายเหล่าผู้หิวกระหาย ปรากฏกายๆ ฮ่ะๆๆๆๆๆๆๆๆ”ท็อดหรือนาเบรุสร้องเสียงลั่นตามด้วยเสียงหัวเราะหัวของเค้าเริ่มเซไปเซมาอีกครั้ง
หมอกสีขาวที่มาจากไหนไม่ทราบ ปกคลุมพื้นที่โดยรอบอย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุ อากาศหนาวจัดรุนแรง สองผู้เคราะห์ร้ายหยุดเท้า
รอบกายมองไม่เห็นอะไรอีกต่อไป
เงาสีดำเงาพุ่งออกมาจากป่า ตามด้วยอีกเงาและอีกเงาจนในที่สุดก็หลังไหลกันออกมาดั่งสายน้ำหลากพวกมันคล้ายผ้าสีดำทำพุ่งไปมาได้ แต่พวกมันไม่มีตัวตน บริเวณโดยรอบปกคลุมไปด้วยสีดำสนิดและกลุ่มหมอก ภูตผีนับร้อยพันบินวนไปโดยรอบของสองผู้เคราะห์ร้ายทั้งสองตื่นตกใจอย่างสุดขีด
พวกเค้าตกอยู่ในวงล้อมแห่งความตายเสียแล้ว
“แม่ครับ....ผมกลัว”เสียงเด็กชายที่ทั้งสั่นๆและแหบพร่าพลางหอบอย่างแรงนั่นคือเสียงของเฟรายน์เค้ายังคงร้องไห้ไม่หยุด
“ไม่ต้องกลัวเฟรายน์แม่จะปกป้องลูกเอง”หญิงวัยกลางคนนั่นคือนางซิเลีย สแวน เธอกวาดสายตาไปโดยรอบอย่างหวาดกลัว และกอดเฟรายน์ไม่ในอ้อนอกแน่น
“เอาละ แค้นก็ๆได้แก้แค้นแล้ว แล้วอีกอย่างก็จะทำจุดมุ่งหมายสำเร็จ งานนี้ถึงจะเดี้ยงก็คุ้มละโว้ย”มันเป็นของใครอื่นไม่ได้นอกจากท็อดจอนโฉดนั่นเอง “เอาละถึงเวลาซะที บอกลากันซะแม่ลูก ถึงเวลาของการจากลาแล้น”
“เฟรายน์”ซิเลียกล่าวเสียงเบา
“ครับ”เด็กชายตอบ
“สัญญาอะไรกับแม่สักอย่างได้มั้ย”เธอกล่าว
“ได้ครับได้ผมสัญญา”เด็กชายกล่าวพลางกอดผู้ที่เค้าไม่เคยกอดมาตลาด5ปีแน่น
“ดีจ่ะ เฟรายน์สัญญากับแม่นะว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นลูกจะมีชีวิตต่อไปให้ได้ แล้วจงอยู่อย่างมีความสุข”เธอกล่าวน้ำตาที่ฝืนเอาไว้เริ่มล้นเอ่อเธอพยายามหลบและเบือนหน้าจากสายตาสีดำคู่น้อยที่พยายามจะมองหน้าเธอ
“ได้ครับแม่......ผมสัญญา ผมจะ...ผมจะมีชีวิตต่อไปให้ได้ และผมจะมีความสุขกับมัน”เด็กน้อยกล่าวน้ำตามเริ่มจางหายไปที่ละน้อย
เห็นดังนั้นซิเลียจึงถือโอกาสเอ่ยต่อ “เฟรายน์ แม่ไม่อยากให้ลูกเสียใจกับการสูญเสียในวันนี้นะ แต่แม่อยากให้ลูกคิดว่ามัน เป็นการ เริ่มต้มอันแท้จริง ของลูก แม่ไม่อยากให้ลูกเสียใจกับการสูญเสียในวันนี้ แต่ลูกเพียงจดจำและคิดถึงพ่อและแม่
พ่อและแม่จะอยู่เคียงข้างลูกเสมอ”
สิ้นเสียงของซิเลีย รอบด้านเหล่าผีร้ายที่หายไปตั่งแต่ตอนไหนไม่ทราบ รวมตัวกันเป็นสายสีดำใหญ่ดังเช่นพายุงวงช้าง มันพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงนับร้อยเมตร มันหมุนวนกันเหมือนพายุทอร์นาโด เมื่อมันขึ้นไปถึงระดับนึงก็หันหัวกลับลงมามันมุ่งลงสู่พื้นเบื่องล่าง
“ขอให้มีความสุขนะลูก ทุกคนต้องการลูก แม่รักลูกนะ”อ้อมกอดที่เคยกอดแน่นเริ่มคลายออกทีละน้อย คำกล่าวทำเอาเฟรายน์ตกใจไปชั่วครู่
“แม่ครับทำไมถึง...”เฟรายน์ไม่ทันพูดจบพายุอันดำมืดเปร่งเสียงกรีดร้องเสียดแทงแก้วหูเป็นที่สุด เสียงโหยหวนแห่งความเจ็บปวดดังระงมไปทั่ว พายุผีร้ายตรงดิ่งสู่พื้นหญ้ามันหักเลี้ยวเปลี่ยนทาง เพียงโฉบผ่านต้นหญ้าเพียงเล็กน้อยต้นหญ้าก็ตายสนิดทันที
“ไม่!!!!!!!!!!!!!!!”เฟรายน์ตะโกนลั่น ซิเลียผลักเฟรายน์ห่างออกไปจากตัวเธอ เค้าล้มลง ภายในจิตใจของซิเลียไร้ซึ่งความกลัวใดๆ เธอยิ้มอย่างอ่อนโยนเป็นครั้งสุดท้ายอย่างไม่ได้แสร้งทำให้แก่เด็กชายที่เธอรักด้วยชีวิต
“แม่ครับบบบบบบบบบบบบบ”น้ำตาไหลอาบท้วมใบหน้าเฟรายน์ เค้าตะโกนลั่น
สายธารพายุแห่งผีร้ายหอบเอาร่างอันผอมบางของซิเลีย สแวนขึ้นสูงไปบนท้องฟ้านับสิบนับร้อยเมตร ไม่มีเสียงกรีดร้องใดๆจากเธอ เธอหลับตาพริ้มสีหน้าไร้กังวนใดๆ
เค้าจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และเค้าจะมีความสุข เธอคำนึงภายในใจอย่างสงบโดยไม่สนใจสิ่งใด เหล่าผีร้ายหอบเอาร่างเธอลอยค้างกลางอากาศ พวกมันพุ่งผ่านร่างกายเธอ มันดูดกลืนทุกสิ่งที่เป็นของเธออย่างไร้ปรานี หลั่งไหลผ่านร่างบางดั่งสายน้ำหลาก พวกมันดูดกินวิญญาณ ความสุข หรือแม้กระทั่งชีวิตของเธอ เหลือเพียงสิ่งเดียวที่มันไม่สามารถช้วงชิงไปจากเทอได้นั้นก็คือ ควากรักที่ได้รับจากเด็กชายคนนึง แม้มันจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่นาที แต่เธอจะจดจำมันไว้มิรู้ลืม เพราะนั่นคือสิ่งที่เธิเฝ้าคอยมาตลาด ซิเลียสิ้นใจอย่างสงบอย่างไม่น่าเชื่อ ร่างกายเธอค่อยๆแห้งลงเพราะการหลั่งไหลผ่านร่างและดูกินของพวกผีร้าย จนสุดท้ายเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก
เด็กน้อยผู้อาพับซุดหัวลงกับพื้นน้ำตายังคงไหลล้นแม้จะนึกถึงคำกล่าวของคนที่รักทั้งสอง ร่างไร้วิญญาณของซิเลียตกลงมาตรงหน้าของเฟรายน์พอดี เฟรายน์ค่อยๆใช้มือทั้งสองที่สั่นไปหมดโอบกอดร่างอันแห้งกรอบของซิเลียน้ำตาไหลนองร่างนั้น
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
เฟรายน์คำรามอย่างบ้าคลั่งต่อการสูญสียที่ยากจะยอมรับ ทุกอย่างที่เค้ารอคอยมันสูญสิ้นในพริบตาตรงหน้าเค้า ทุกอย่างได้สายไปเสียแล้ว เด็กชายกอดร่างนั้นไว้แน่นเค้ายังคงร้องอย่างกราดเกรี้ยวสายตาเคียดแค้นจับจ้องไปยังชายผู้เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ท็อดนั่นเอง
“จะมองชั้นด้วยสายตาแบบไหนก็เชิญ เคียดแค้นซ่ะให้พอ ยังไงแกก็ทำอะไรฉันไม่ได้ ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ”ท็อดกล่าว
เฟรายน์กัดฟันแน่นน้ำตาได้เลือนหายไปเสียสิ้นแล้ว
อากาศอันเคยหนาวยะเยือกกลับกลายค่อยๆอุ่นขึ้นอย่างน่าตกใจหมอกหนาทึบจางหายหมดสิ้น สายลมอุ่นๆพัดหมุ่นวนรอบๆร่างของเฟรายน์ ตอนนี้เค้าสิ้นสติไปเสียแล้ว
ลำแสงสีขาวเจิดจ้าพุ่งลงมาจากฟากฟ้าไร้จุดเริ่มต้น ฉายตรงมายังร่างของเด็กน้อยผู้สิ้นสติ
“บ้าน่ะ มันไม่น่าจะเร็วขนาดนี้นี”ท็อดอุทานลั่น “ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย”สีหน้าของผู้ที่เคยมีใช่เหนืออีกคนที่ดูยังไงก็ไม่ต่างกับสีหน้าอื่นถูกแทนที่ด้วยสีหน้าที่ถอดสี
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น