ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คืนจันทร์ #ป๋อจ้าน

    ลำดับตอนที่ #2 : คืนที่สอง

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.พ. 63



    "คุณ คุณ ตื่นสิ คุณ คุณปกป้อง! "


     


     

    .

    .


     


     

    "ป้อง ป้อง ตื่น ป้อง เป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย ปกป้อง! "


     

    ปกป้องสะดุ้งตื่น เหงื่อท่วมตัวจนเสื้อเปียกโชก


     

    "เป็นอะไรลูก ไม่สบายหรือเปล่า"

    "แม่! "


     

    เขาหันหน้าซ้ายขวาสำรวจไปรอบๆ ไม่มีต้นไม้ ไม่มีลำธาร ไม่มีชายแปลกหน้าที่เขาอยากรู้จัก

    มีเพียงห้องของเขา กับแม่ที่ทำสีหน้าดูกังวลจนเห็นชัด


     

    "เป็นอะไรหรือเปล่าป้อง แม่เคาะประตูเรียกตั้งนานก็ไม่เปิด แม่เลยเปิดประตูเข้ามา ห้องก็ไม่ยอมล็อค"

    "ผมล็อคแล้วนะแม่"

    "ก็ถ้าล็อค แม่จะเปิดเข้ามาได้ยังไงล่ะลูก"


     

    ปกป้องขมวดคิ้ว


     

    "แล้วนี่ไม่สบายเหรอ เป็นไข้หรือเปล่า ไหนแม่ดูซิ"


     

    หญิงสาวผู้เป็นแม่ยกมือขึ้นแตะหน้าผาก
     


     

    "รอยแดงอะไรน่ะลูก นอนดิ้นจนหัวไปกระแทกอะไรเข้าน่ะ"


     

    ปกป้องคิดในใจ หรือสิ่งที่เขาพบเจอมันก็แค่ความฝัน แผลเลือดออกอะไรนั่นไม่มีจริง

    ความรู้สึกเจ็บก็คงแค่นอนดิ้นจนหัวไปกระแทกเข้ากับอะไรสักอย่าง อาการปวดเนื้อเมื่อยตัวก็แค่อาจจะเป็นไข้เท่านั้น


     

    ปกป้องหายเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหวังให้สดชื่นขึ้นมาสักหน่อย ก่อนจะมานั่งรับประทานอาหารฝีมือแม่ที่คุ้นเคย


     

    "กินเยอะๆ นะ ช่วงนี้ลูกดูผอมลงไปเยอะเลยนะป้อง"

    "ครับแม่"


     


     

    ปกป้องใช้ช้อนส้อมเขี่ยข้าวในจานไปมา


     


     

    "กับข้าวแม่ไม่อร่อยหรือยังไง"

    "เปล่าครับ ผมแค่ไม่ค่อยหิว"

    "ไปหาหมอสักหน่อยมั้ยป้อง ลูกดูไม่ค่อยดีเลยนะ"

    "ช่วงนี้ผมนอนไม่ค่อยหลับอะแม่ เพิ่งมาหลับเอาวันนี้"

    "สงสัยคงจะเพลียสะสมมาล่ะสิ วันนี้ถึงหลับลึกเชียว เดี๋ยวถ้าแม่กลับแล้ว ป้องก็นอนพักซะนะลูก พรุ่งนี้หยุดไม่ใช่เหรอ"

    "ครับ แล้ววันนี้แม่ไม่นอนค้างกับผมเหรอ"

    "วันนี้แม่ต้องรีบกลับไปเก็บกระเป๋าน่ะ"

    "คราวนี้บินไปไหนอีกล่ะแม่"

    "อังกฤษ"

    "กี่วัน"

    "สองอาทิตย์"

    "ไปนานจัง ผมคิดถึงแย่เลย"

    "ก็พ่อเราน่ะสิ ต้องไปดูงาน จริงๆ แม่ก็ไม่ได้อยากไปหรอก"

    "แน่ใจเหรอ ไม่ใช่ว่าจะได้ไปเดินชอปปิ้ง ถ่ายรูปเซลฟี่ไปอวดเพื่อนในไลน์เหรอ"

    "แหม รู้ดีไปหมดเลยนะลูกคนนี้"


     


     

    การคุยหยอกล้อกับแม่ ทำให้ปกป้องรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง

    หลังรับประทานอาหารและร่ำลากันเสร็จสิ้น ปกป้องเดินลงไปส่งแม่ถึงที่จอดรถ


     


     

    "ฝากบอกพ่อด้วยครับว่าผมคิดถึง อย่าทำงานหักโหมมากนัก ผมไม่ได้เห็นหน้าพ่อนานแล้ว"

    "จ้า เดี๋ยวแม่จะบอกให้ละกันนะ เราเองก็โทรหาพ่อบ้างล่ะ เห็นเงียบๆ ขี้เก๊กแบบนั้นน่ะ เป็นห่วงแล้วก็คิดถึงเราจะตาย"

    "ครับแม่"


     


     

    ปกป้องเปิดประตูรถให้หญิงสาว


     

    "เอ้อ ต้นไม้หน้าห้องน่ะ อย่าลืมย้ายไปไว้ที่ระเบียงนะ จะได้โดนแดดโดนฝนบ้าง วางไว้หน้าห้องเดี๋ยวจะตายเอา อย่าลืมรดน้ำให้มันด้วยล่ะลูก"

    "ต้นไม้"

    "อื้ม ก็ต้นไม้น่ะสิ เราซื้อมาไม่ใช่เหรอ"

    "ไม่นะแม่ ผมไม่เคยซื้อต้นไม้มานะ"

    "อ้าว แล้วของใครล่ะ เออ ช่างมันเถอะ ถ้าไม่มีเจ้าของป้องก็เอาไปเลี้ยงซะนะลูก สงสารมัน แม่ไปละนะ"

    "ครับ ขับรถดีๆ นะ"


     

    เมื่อปกป้องเดินขึ้นมา ก็พบกับสิ่งแปลกตาตามที่แม่บอกไว้

    ต้นไม้ใบสีเขียวอ่อนถูกใส่ลงในกระถางดินเผาทรงกลม

    เป็นต้นไม้ที่เขาไม่รู้จักว่าชื่ออะไร และไม่รู้ที่มาของมันเช่นกัน


     


     

    "คุณครับ คุณ อยู่ห้องหรือเปล่า"


     

    ปกป้องเคาะประตูเรียกเพื่อนบ้านข้างห้องสักพักใหญ่ ก่อนเจ้าของห้องจะออกมาส่ายหัวให้เป็นคำตอบ


     

    "ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ก็มาอยู่ด้วยกันก่อน พรุ่งนี้จะตามหาเจ้าของให้ละกันนะ"


     

    ปกป้องยกกระถางต้นไม้ปริศนาเข้ามาในห้อง เดินตรงออกไปนอกระเบียง

    เขาสังเกตเห็นใบมันเริ่มเหี่ยวลงเล็กน้อย คงเป็นเพราะไม่ได้รับน้ำรับแดดเลยทั้งวัน


     

    "ชื่ออะไรก็ไม่รู้นะ ฉันไม่เชี่ยวชาญพวกต้นไม้ ดอกไม้ซะด้วยสิ"


     

    ทันทีที่พูดจบ ลมเบาๆ ก็พัดต้องสัมผัสใบไม้สีเขียวอ่อนให้รับกับแสงสะท้อนจากดวงจันทร์

    ต้นไม้ตรงหน้าเปล่งประกายราวกับมีแสงในตัวเอง แสงนุ่มนวลชวนดึงดูดให้ปกป้องจ้องมองจนไม่อาจละสายตาไปไหนได้


     

    เขาคว้าโทรศัพท์ขึ้นถ่ายรูปส่งถึงผู้เชี่ยวชาญเรื่องต้นไม้ สักครู่ปลายสายก็โทรกลับมา


     


     

    "ฮัลโหลพี่บอม"

    "เดี๋ยวนี้เลี้ยงต้นไม้แล้วเหรอไอ้ป้อง"

    "พอดีได้มาอะพี่"

    "ได้มาจากไหนวะ"

    "เดี๋ยวไว้ผมเล่าให้ฟังนะ ว่าแต่มันคือต้นอะไรอะพี่"

    "ต้นแสงจันทร์"

    "แสงจันทร์เหรอ สวยสมกับชื่อเลย"

    "อืม ยิ่งเวลาใบสะท้อนกับแสงจันทร์ มันจะเหลืองนวลชวนหลงเลยล่ะมึง"

    "จริงพี่ ชวนหลงจริงๆ ด้วย"


     


     

    หลังจากจบบทสนทนา ปกป้องก็ตัดสินใจพิมพ์ค้นหาข้อมูล


     


     

    'ต้นแสงจันทร์'


     


     

    เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้มาดูแลต้นไม้อะไรแบบนี้ เพราะปกติเป็นคนไม่ค่อยชอบและสันทัดเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่

    ที่เคยผ่านมือมาและยังไม่ล้มตายจากไปไหนก็เห็นจะเป็นตะบองเพชรจิ๋วที่อยู่ที่บ้าน


     


     

    "เท่าที่อ่านก็น่าจะทนแดดทนลมดีเหมือนกันนะ คงดูแลไม่ยากหรอกมั้ง ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่มีใครมารับไป ก็อยู่ด้วยกันนะแสงจันทร์"


     


     

    ปกป้องยิ้ม


     


     

    อากาศเริ่มเย็นลงอีกครั้ง ปกป้องดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวจนมิดชิด ก่อนจะหลับลงท่ามกลางความมืดสนิท


     


     

    .

    .


     


     

    "คุณ คุณครับ"


     


     

    ปกป้องค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพราะเสียงเรียกที่ดังอยู่ข้างหู

    เขารู้สึกปวดหัวเล็กน้อย เพราะเหมือนเพิ่งได้หลับไปไม่กี่นาทีก็ต้องโดนปลุกให้ตื่นอีกครั้ง


     


     

    "ฟื้นแล้ว"


     


     

    หันไปหาเจ้าของเสียง ก็พบกับใบหน้าที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยเห็นที่ไหน

    ปกป้องขมวดคิ้ว


     


     

    "คุณสลบไป"

    "อะไรนะครับ"

    "จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ"

    "ผมจำได้ว่า ผมกำลังจะเข้านอน"


     


     

    ชายตรงหน้าเป็นฝ่ายขมวดคิ้วแทน


     


     

    "คุณชื่อปกป้อง ผมเจอคุณที่ลำธารหลังหมู่บ้าน คุณบอกว่าคุณไม่รู้ว่ามาที่นี่ได้ยังไง พอผมเข้าไปคุยด้วย อยู่ๆ คุณก็สลบไป"

    "ฮะ! "


     

    ปกป้องพยายามคิดทบทวน หรือเหตุการณ์นี้อาจจะเป็นเหตุการณ์ที่ต่อจากความฝันเมื่อครั้งที่แล้ว


     


     

    "คุณชื่ออะไร"


     


     

    ปกป้องถามคนตรงหน้า

    รอยยิ้มสดใสปรากฏขึ้น ดวงตากลมโตเป็นประกายมองมาที่เขา

    ริมฝีปากบางขยับช้าๆ


     


     

    "แสงจันทร์ ผมชื่อแสงจันทร์"


     


     

    ทันทีที่ได้ยินชื่อ ปกป้องก็จดจำได้ขึ้นใจ

    เขานึกถึงต้นไม้ใบสีเขียวอ่อนแกมเหลืองชวนหลงเมื่อต้องแสงจันทร์

    ดูช่างไม่ต่างอะไรจากคนตรงหน้านี้

    พระจันทร์ทอดแสงผ่านเข้ามาสัมผัสใบหน้านวล

    จุดเล็กๆ ใต้ริมฝีปากทำให้เขาจดจำแสงจันทร์ได้อย่างขึ้นใจ


     


     

    "แสงจันทร์ ชื่อเพราะจัง"


     


     

    ปกป้องค่อยๆ ขยับลุกขึ้น เพื่อจะได้มองเห็นใบหน้านั้นใกล้ๆ


     


     

    "คุณอย่ารีบลุกนักสิ คุณควรนอนพักให้มากๆ ก่อนนะ"

    "ผมดีขึ้นแล้ว"

    "นอนลงก่อนเถอะ คุณยังมีไข้อยู่เลย"


     


     

    แสงจันทร์ผลักไหล่ปกป้องเบาๆ ก่อนจะยกหลังมือขึ้นแตะหน้าผาก

    ปกป้องกวาดสายตาไปรอบๆ ที่นี่เป็นที่ที่เขาไม่คุ้นตาเลยสักนิด


     


     

    "ผมอยู่ที่ไหน"

    "บ้านผมเอง"

    "แล้วบ้านแสงจันทร์อยู่ที่ไหน ผมหมายถึงอยู่จังหวัดอะไรน่ะ"

    "อำเภอพะเยา จังหวัดเชียงราย"

    "ฮะ! พะเยาเหรอ"


     


     

    แสงจันทร์พยักหน้า


     


     

    "เดี๋ยวนะแสงจันทร์ พะเยาเป็นจังหวัดไม่ใช่เหรอ"


     

    ปกป้องทวนถาม เพราะเขาคิดว่าอาจจะได้ยินผิดพลาดไป

    แต่แสงจันทร์กลับขมวดคิ้ว ส่ายหน้าไปมา


     

    "พะเยาเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเชียงราย แต่อยู่ไกลจากอำเภอเมืองค่อนข้างมาก"


     

    คำอธิบายของแสงจันทร์ทำให้ปกป้องยิ่งงุนงง เขาจำได้ดีว่าเกิดมา เขาก็รับรู้ว่าพะเยาคือจังหวัดหนึ่ง ไม่ใช่เพียงแค่อำเภอ


     


     

    "แล้วคุณล่ะ คุณมาจากไหน"

    "บ้านผมอยู่กรุงเทพ"

    "กรุงเทพ กรุงเทพมหานครน่ะเหรอ"

    "ใช่"

    "โห ไกลมาก ว่าแต่ชื่อจังหวัดใหม่นี่สวยงามเหมือนกันนะ"


     

    เป็นอีกครั้งที่ทำให้ปกป้องสงสัยในคำพูดของคนตรงหน้า


     

    "แล้วคุณมาทำอะไรถึงที่นี่"

    "คือ ผมก็ไม่แน่ใจ ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามาที่นี่ได้ยังไง"

    "ผมเองก็แปลกใจ เพราะปกติไม่เคยมีใครเข้ามาถึงที่นี่ได้ หมู่บ้านเราค่อนข้างห่างไกลจากตัวอำเภอ ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ส่วนคนในหมู่บ้านเองก็รู้จักมักคุ้นกันหมด เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นญาติกันทั้งนั้น พอเห็นคุณครั้งแรกผมเองก็ตกใจยอมรับว่าแอบกลัว"

    "คุณไม่ต้องกลัวผมนะ"

    "เห็นคุณเป็นแบบนี้ผมก็ไม่กลัวแล้วล่ะ"

    "..."

    "สงสารคุณมากกว่า"


     


     

    แสงจันทร์ค่อยๆ บิดผ้าขนหนูชุบน้ำ ก่อนจะบรรจงสัมผัสลงบนใบหน้าของคนป่วย หวังให้ไข้ค่อยๆ จางไป

    และคอยนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ เกือบตลอดทั้งคืน


     


     

    ปกป้องรู้สึกตัวอีกครั้งก็เป็นเวลาเช้า เขาคิดในใจก่อนจะลืมตาขึ้นมองว่าคงพบกับห้องนอนของเขา คอนโดสูงใจกลางเมืองกรุง

    แต่เขาคิดผิด ปกป้องยังคงติดอยู่ในความฝัน ความฝันที่เหมือนจริงจนไม่น่าเชื่อ


     


     

    "แสงจันทร์"


     


     

    ปกป้องเอ่ยเสียงเรียกชายหนุ่มที่กำลังวุ่นวายอยู่ในครัว

    แสงจันทร์หันมองพร้อมกับรอยยิ้ม


     


     

    "คุณหิวหรือยัง รอหน่อยนะ ผมกำลังเตรียมกับข้าวให้"


     


     

    ปกป้องเกรงใจ รีบก้าวเท้าเข้าไปช่วยเหลือ


     


     

    "ให้ผมช่วยอะไรมั้ย"

    "อย่าดีกว่า คุณเพิ่งหายไข้ นั่งรอผมตรงนี้เดี๋ยวนะ"


     

    แสงจันทร์พาปกป้องมานั่งลงบนพื้น ห่างจากบริเวณที่เรียกว่าครัวไม่ถึงสิบเก้า

    ไม่นานนักแสงจันทร์ก็ยกอาหารมาวางไว้และนั่งลงอยู่ฝั่งตรงข้ามเขา


     


     

    "ไม่รู้ว่าคุณจะพอทานได้หรือไม่ อาหารที่นี่อาจจะไม่ค่อยถูกปากนัก"


     


     

    ปกป้องก้มลงดูอาหารในชาม เขาไม่รู้จัก แต่คิดว่าคงไม่ยากเกินที่จะทานเข้าไป

    แสงจันทร์ส่งช้อนให้เขา


     

    "น้ำแกงร้อนๆ อาจจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น"


     

    ปกป้องลองตักน้ำแกงเข้าปาก รสชาติดีมากทีเดียว


     

    "มันคือ..."

    "อ่อมไก่ แต่เป็นแบบจืดน่ะ ปกติแล้วอ่อมไก่จะใส่เครื่องแกงด้วย แต่เห็นว่าคุณเพิ่งฟื้นจากไข้ ผมเลยทำแบบนี้ให้ทาน"

    "หอมกลิ่นตะไคร้มาก"

    "ส่วนอันนี้จอผักกาด คุณลองชิมดู"

    "จอผักกาด เหมือนผมเคยได้ยินมาบ้าง แต่ไม่เคยทานสักที"


     

    ปกป้องใช้ช้อนตักชิม รอยยิ้มเจือจางปรากฏส่งให้คนตรงหน้า

    แสงจันทร์ยิ้มตอบกลับให้เขา


     


     

    "ส่วนอันนี้ไข่ป่าม ผมกลัวคุณทานอาหารพื้นเมืองไม่ได้ ผมเลยทำอันนี้มาให้"


     

    จะว่าไข่เจียวก็ไม่ใช่ ไข่ปิ้งไข่ย่างอะไรก็ไม่เชิง ปกป้องไม่รู้จะนิยามมันอย่างไร แต่กลิ่นหอมของใบตองที่ห่อไว้กับรสชาติอร่อยๆ ทำให้เขาทานจนหมด


     


     

    "คุณจะกลับกรุงเทพเมื่อไหร่"


     

    แสงจันทร์เริ่มบทสนทนาขึ้นอีกครั้งหลังเก็บของในครัวเสร็จ


     

    "ผมจะกลับยังไงได้บ้าง ที่นี่มีสนามบินมั้ย"

    "สนามบินเหรอ ที่นี่ไม่มีหรอกคุณ ถ้าจะไปก็ต้องนั่งรถออกจากหมู่บ้านไปตัวอำเภอ นั่งรถจากอำเภอไปที่เชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทางเป็นวัน"

    "เชียงรายก็มีสนามบินไม่ใช่เหรอ"

    "ไม่มี สนามบินมีที่เดียวคือที่เชียงใหม่"


     


     

    ทั้งสองคนขมวดคิ้ว


     


     

    "เชียงรายเนี่ยนะไม่มีสนามบิน เมื่อต้นปีก่อนผมยังไปเที่ยวแม่ฟ้าหลวงอยู่เลย"


     


     

    แสงจันทร์ยกมือขึ้นช้าๆ แตะลงบนหน้าผากของปกป้อง


     

    "คุณยังมีไข้อยู่เหรอ พิษไข้อาจทำให้คุณสับสนหรือเปล่า"


     

    ปกป้องเริ่มกังวลและสงสัย เขาชักเริ่มไม่แน่ใจว่าข้อมูลของเขาผิดเพี้ยน หรือข้อมูลของแสงจันทร์ที่ผิดพลาดกันแน่


     

    "แล้วถ้าจะกลับ ผมต้องไปขึ้นรถที่ไหน"

    "ถ้าคุณจะกลับเลย ผมจะไปส่งคุณที่ท่ารถในตัวเมืองเอง"


     

    ใจจริงปกป้องก็ยังไม่อยากกลับสักเท่าไหร่ แต่เขาเกรงใจที่ต้องมาอาศัยบ้านของแสงจันทร์

    ลึกๆ แล้วแม้ว่าเขาจะรู้ดีว่ามันเป็นเพียงความฝัน พอลืมตาตื่นขึ้น ทุกอย่างก็กลับสู่ชีวิตจริงตามปกติ

    แต่ ณ เวลานี้ เขายังออกจากความฝันไม่ได้ และเขาเองไม่อยากรู้สึกลำบากหรือกังวลใจ ถึงแม้จะแค่ในความฝันก็ตาม เขาจึงต้องหาทางกลับบ้าน

    เพราะอย่างน้อย การกลับไปสู่สิ่งที่คุ้นเคยอยู่ทุกวันก็อาจจะดีกว่าติดอยู่ในที่ที่แปลกที่แปลกทางเช่นนี้


     


     

    แสงจันทร์ไปขอรถกะบะจากคนที่เขาเรียกว่าพ่อหลวงบ้าน

    เป็นรถที่เอาไว้โดยสารสำหรับคนในหมู่บ้านเพื่อออกไปทำงานต่างถิ่น


     

    แสงจันทร์กระโดดขึ้นกะบะรถ นั่งลงเหยียดขา


     

    "ขึ้นมาสิคุณ"


     

    ปกป้องลังเลอยู่สักครู่ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ


     

    "รอบนี้มีแค่เราไปกันสองคน คนอื่นๆ ออกไปกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างแล้ว"

    "เขาไปไหนกันเหรอ"

    "ไปทำงานในตัวเมือง ส่วนใหญ่คนที่นี่เข้าไปรับจ้างในตัวเมือง อยู่ตลาดบ้าง ตามร้านค้าของคนจีนบ้าง ส่วนที่เหลือก็ปลูกผักทำสวนทำไร่อยู่ที่นี่"

    "ผมนึกว่าคุณจะขับรถไปส่งผมซะอีก"

    "ผมขับรถยนต์เป็นที่ไหนกันเล่า แค่เงินซื้อรถเครื่องสักคันยังไม่มีเลย ทุกวันนี้มีแต่รถถีบ"

    "รถถีบ"

    "ผมไม่รู้ว่าคนกรุงเทพเรียกว่าอะไร"

    "ถ้าผมเข้าใจถูกนะ ผมเรียกว่ารถจักรยาน"

    "อ่อ รถจักรยาน"


     

    ระหว่างทาง ปกป้องสังเกตสองข้างทางมีแต่ธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ มีบ้านให้เห็นบ้างประปราย ถนนหนทางส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลาดยางด้วยซ้ำ

    รถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งสวนไปมาก็เป็นยี่ห้อและรุ่นเก่าๆ ที่เขาไม่ค่อยคุ้นตาสักเท่าไหร่
     

    ใช้เวลาเดินทางนานจนปกป้องหลับๆ ตื่นๆ ไปหลายครั้ง

    หันไปเห็นแสงจันทร์นั่งคอพับคออ่อน สัปหงกเป็นรอบ เขาจึงขยับตัวให้คนข้างๆ ได้เอาหัวพิงเข้ากับไหล่ของเขา


     


     

    เมื่อถึงที่หมาย ปกป้องลงไปติดต่อที่จุดขายตั๋ว เขาหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นจ่าย แปลกใจกับค่ารถพอสมควร ถูกมากจนไม่อยากเชื่อ

    ยื่นเงินหนึ่งร้อยบาทส่งให้ แต่ถูกปฏิเสธ


     

    "เงินปลอมหรือเปล่าเนี่ย ทำไมไม่เหมือนของคนอื่น"


     


     

    พนักงานขายตั๋วพูด


     


     

    "ไม่นะครับ ผมก็ใช้แบบนี้ตลอด"

    "แบบนี้อะไรกัน เขาใช้กันแบบนี้ต่างหาก ใช้กันทั้งประเทศ"


     


     

    พนักงานขายตั๋วชูแบงค์ร้อยขึ้นให้ปกป้องดู เขารู้ดีว่ามันคือธนบัตรแบบเก่า เพราะเคยเห็นพ่อเก็บไว้ในตู้สะสม


     


     

    "เขาเลิกใช้กันนานแล้วนะครับ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นแบบนี้แล้ว"

    "จะเปลี่ยนได้ยังไงพ่อหนุ่ม พูดอะไรเพ้อเจ้อ ดูชิเอามาจากไหนเนี่ย เอาคืนไปเลย ฉันไม่ขายให้หรอกนะ"


     


     

    ปกป้องเดินออกมาแบบงงๆ แสงจันทร์ที่รออยู่รีบตรงเข้ามาหา


     


     

    "เกิดอะไรขึ้นเหรอคุณ"

    "ผมว่ามันแปลกๆ "

    "อะไรเหรอ"

    "แสงจันทร์ ผมถามอะไรหน่อย"

    "อื้ม"

    "ปีนี้ ปีพุทธศักราชอะไร"


     

     

    .

    .



    ฝากติดตามด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ :)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×