คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Look like That
You Look like that.?
ศิรินผ่านช่วงทดลองงานโดยประธานน้ำทิพย์มาได้ แต่กว่าจะผ่านแต่ละวันคนตัวสูงมักจะคอยหาเรื่องให้เธอทำตลอดๆ เช่น พาเธอไปยืนบนระเบียงสูงๆ ของโครงการทั้งๆที่รู้ว่าเธอกลัวความสูง พาเธอไปไซต์แต่เช้าตรู่ ไม่รู้จะไปทำไมหรือแม้แต่ไปนัดลูกค้าแล้วปล่อยให้เธอหาทางกลับเอง และยังจะมาขอสรุปงานวันนั้น ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการคุยงานเสร็จ กว่าจะหาทางกลับได้ก็ปาไปเกือบชั่วโมง เล่นนัดลูกค้าซะเกือบจะนอกเมืองอยู่แล้ว การหาแท็กซี่จึงค่อนข้างลำบาก แต่ศิรินก็พยายามทำงานให้ได้ตามที่ประธานเจ้านายตนต้องการจนผ่านมาได้ และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่หนักสำหรับศิรินอีกวัน เพราะวันนี้ตัวน้ำทิพย์จะต้องเสนอโครงการของคุณพิบูลย์ ให้กับผู้ร่วมลงทุน อย่าง เปรมกิจ กรุ๊ป กลุ่มบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ชี้แจงรายละเอียดโครงการของโรงแรมขนาดใหญ่ของคุณพิบูลย์ที่เจรจาตกลงแบบกันได้ลงตัวแล้ว เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางที่ทุกคนเห็นชอบและเป็นทางเดียวกัน
“...ทางเราจะดำเนินการก่อสร้างภายใน 2 สัปดาห์นี้ รายละเอียดของแปลนโรงแรม ให้คุณปิยะรัฐอธิบายแล้วกันนะคะ “ เสียงหวานของคนตัวสูงทำให้เหล่าผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ตั้งใจฟัง เว้นแต่ ตัวประธานบริษัท อย่างธราภุช
“คุณธราภุช มีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับเลขาของฉันหรือเปล่าคะ” น้ำทิพย์กล่าวขึ้นเมื่อเธอเริ่มจะรู้สึกรำคาญตาอย่างไรบอกไม่ถูก สังเกตตั้งแต่เข้าห้องประชุมแล้วว่าเขาเอาแต่มองเลขาของเธอ ส่งสายตาให้ตลอดเวลาหาไม่ได้สนใจการประชุมเลย เธอมองจนคนติดตามของเขาคอยสะกิดอยู่บ่อยครั้ง
“...ปะ เปล่าครับ ผมก็มองเรื่อยเปื่อยแหละครับคุณบี “ คนถูกถามเอ่ยตอบก่อนจะทำสายตากวาดไปมาอย่างบอกให้รู้ว่าเขาไม่ได้เจาะจงจะมองใครเป็นพิเศษ
“ถ้าอย่างนั้นฉันต้องขอโทษด้วยละกันนะคะที่อาจเข้าใจคุณผิดไป” น้ำทิพย์ตอบกลับทั้งๆที่ภายในอยากจะเดินเข้าไปกระชากตัวเขาออกจากห้องประชุมเลยด้วยซ้ำ
“เอ่อ ต่อนะครับ” เสียงของปิยะรัฐดังขึ้นเพื่อขจัดบรรยากาศมาคุระหว่างน้ำทิพย์กับธราภุช
“ขออธิบายเพิ่มเติมนะครับ” ปิยะรัฐพูดแล้วกดรีโมทน้อยในมือให้จอโปรเจกเตอร์แสดงภาพออกมา ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปชี้ยังจุดต่างๆและอธิบาย
“ด้านโครงสร้างของตึกจะเป็นรูปทรงคล้ายตึกทั่วไปแต่มีความพิเศษตรงจะมีส่วนโค้งให้คล้ายกับครึ่งวงกลมโดยจะโค้งในจุดที่เป็นลิฟท์หรือทางหนีไฟของตัวอาคาร และในแต่ชั้นนตั้งแต่ชั้น 4-6 ชั้นละ 15 ห้อง เป็นห้องพักแบบธรรมดา , ระดับสวีทคือชั้น 8-9 ชั้นละ 10 ห้อง ระดับ luxury ชั้น11-12 ชั้นละ 7 ห้อง , ระดับ VIP ชั้น14 มี 5 ห้องครับ และจะมี Penthouse 2 ห้องใหญ่ อยู่ที่ชั้น 15-16"
“ส่วนของการตกแต่งภายในจะเป็นงานของมัณฑนากรของทาง BNT เอง ในส่วนของด้านหน้าโรงแรมจะเป็นสวนน้ำพุขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกสบายเมื่อเริ่มเข้าสู่เขตโรงแรมของเราครับ” ปิยะรัฐพูดก่อนจะส่งไม้ต่อให้ธนัท
“ครับ เรื่องพื้นที่ส่วนกลาง สำหรับลูกค้าทุกคนคือพื้นที่สำหรับนักเสี่ยงโชคที่ไม่ต้องการกำไรมาก เล่นแค่พอสนุกและคลายเครียดไว้รับรองในชั้น2 ครับ ในชั้นแรกจะมีร้านอาหารของโรงแรมและล็อบบี้ ซึ่งในครั้งแรกจะเป็นของสำนักงานขายไปก่อน
และจะมีส่วนกลางของแต่ละระดับห้องพักจะมีส่วนกลางของตัวเอง จะใช้คีย์การ์ดห้องสแกนเข้าใช้งาน 1.สำหรับห้องพักแบบธรรมดา จะอยู่ที่ชั้น 3 จะให้ห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำ สปา นวดแผนไทย และพื้นที่สีเขียวแบบเอาท์ดอร์ 2.สำหรับห้องระดับสวีท ส่วนกลางจะอยู่ที่ ชั้น7 มีสระว่ายน้ำส่วนกลางที่มีขนาดใหญ่กว่า มีพื้นที่ของการดื่มและส่วนของการจัดปาร์ตี้และพูลปาร์ตี้เพิ่มขึ้นมา 3.สำหรับห้อง Luxury จะอยู่ที่ชั้น 10 จะเพิ่มการบริการอาหารด้วยการนำเชฟระดับมิชลินสตาร์มาไว้ให้เพิ่ม 4.สำหรับห้อง VIP อยู่ที่ชั้น 13 จะมีการจัดโซนทำอาหารปาร์ตี้เองได้หรือสามารถติดต่อเชฟที่ต้องการมาทำอาหารก็ได้เช่นกัน ในส่วนของห้อง Penthouse จะได้พื้นที่ส่วนตัวในชั้นของห้องตัวเองเพิ่มสามารถเรียกออกแบบไปต่อเติมเพิ่มได้เอง โดยเราไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม ในด้านของห้องพักผมขอให้คุณศิรินเป็นคนขึ้นมาพูดดีกว่านะครับ เพราะเธอเคยทำงานในสายนี้มาก่อน”
“ค่ะ ในส่วนของห้องพักเราจะมีห้องปกติ ห้องสวีท ห้องLuxury ห้อง VIP ซึ่ง ห้องปกติจะเปิดทั้งหมด 45 ห้อง ในชั้นที่ 4,5,6 โดยในแต่ละห้องจะกว้าง 40 ตารางเมตร ห้องสวีท จะเปิดทั้งหมด 20 ห้องในชั้น 8 และ 9 แต่ละห้องจะกว้าง 60 ตารางเมตร ห้อง luxury เปิดทั้งหมด 14 ห้อง จะอยู่ในชั้น 11-12 แต่ะละห้องจะกว้าง 80 ตารางเมตร และสุดท้าย VIP จะเปิดทั้งหมด 5 ห้อง ที่ชั้น 14 กว้างห้องละ 100 ตารางเมตร ส่วนในส่วนของเพนส์เฮาส์จะปล่อยให้ผู้เข้าอาศัยเลือกแบบที่สนใจหรือเข้ามาคุยกับเราในเรื่องของการออกแบบเอง เนื่องจากทางเราอยากให้คุณอยู่แล้วรู้สึกเหมือนเป็นบ้านอีกหลังหนึ่งค่ะ” พอศิรินพูดจบทุกคนก็ปรบมือให้ เพราะเป็นงานออกมาจากการกลั่นและรวมแบบที่ทุกคนต้องการที่คุยกันก่อนหน้าก่อนจะมาถึงวันนี้ BNT สามารถเกลาให้ทั้งหมดเข้ากันได้อย่างน่าอัศจรรย์ ศิรินจึงค้อมศีรษะลงเล็กน้อยก่อนจะเข้าไปนั่งประจำที่เดิมของตนเองทางด้านข้างซ้ายของน้ำทิพย์
“มีใครสงสัยตรงไหน หรืออยากแนะนำอะไรเพิ่มเติมบอกได้เลยนะคะ” น้ำทิพย์พูดขึ้นเมื่อการเสนอแบบจากทางบริษัทตนจบลง
“ค่ะ ถ้าไม่มีอะไรเพิ่มเติม เอาเป็นว่าเดี๋ยวบีจะให้ธนัทส่งเมลพร้อมกับเอกสารชุดนี้ไปให้ทุกคนนะคะ ไม่เกินวันนี้แน่นอนค่ะ” น้ำทิพย์พูดแล้วยกยิ้มขึ้น ก่อนจะกล่าวปิดการประชุม แล้วทุกคนก็พากันเดินออกจนหมดเหลือเพียงพวกน้ำทิพย์กับธราภุช ยิ่งทำให้น้ำทิพย์สงสัยว่าทำไมเขาไม่ยอมลุกสักที
“ไม่กลับเหรอคะ คุณธราภุช” น้ำทิพย์เอ่ยปากถามอีกคน
“กำลังจะกลับครับ แต่ผมสงสัยว่าคุณตั้งใจฉีกหน้าผมต่อหน้าลุงพิบูลย์ทำไม” ธราภุชเอ่ยถามสิ่งที่ตนข้องใจก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมกับสาวเท้าเดินเข้ามาใกล้น้ำทิพย์มากขึ้น
“ฉันไม่ได้ฉีกหน้าคุณ ฉันพูดความจริงค่ะ” น้ำทิพย์พูดตอบกลับไป ก่อนจะผินหน้าเก็บเอกสารต่อ
“งั้นเหรอครับ แต่เอาไว้หลังประชุมก็ได้ แต่จู่ๆคุณก็พูดขึ้นมา มันทำให้ภาพลักษณ์บริษัทผมเสียหายนะครับ” ธราภุชยังคงพูดต่อ
“คุณก็ทำตัวให้ดีๆสิคะ ภาพลักษณ์ที่มีอยู่น้อยนิดจะได้ยังอยู่กับคุณ” น้ำทิพย์พูดก่อนจะสบตาอีกคนนิ่ง
“คุณน้ำทิพย์ !” ธราภุชเรียกอีกคนเสียงดัง
“จะเรียกเสียงดังทำไมคะ ก็อยู่กันแค่นี้เอง แล้วอีกอย่างที่ฉันต้องพูดเพราะคนที่คุณกำลังมองเป็นคนของฉันคุณจะทำให้เขาเสียงาน” น้ำทิพย์พูดขึ้นแล้วชี้นิ้วไปทางศิริน ศิรินที่เพิ่งรู้ตัวว่าถูกมองจึงทำหน้าตาเหรอหรา
“คุณบี เขายังไม่รู้ตัวว่าผมมองเลยนะครับ ดูสิครับเนี่ย แล้วอีกอย่าง...” ธราภุชเว้นท้ายประโยคก่อนจะขยับตัวเข้าไปกระซิบกับน้ำทิพย์ “ของสวยๆงามๆใครก็อยากมอง จริงมั้ยครับ คุณบี” เมื่อพูดจบก็ขยับตัวกลัมายืนที่เดิม น้ำทิพย์ได้ยินแบบนั้นทำให้เธอเองพุ่งตัวไปกระชากคอเสื้อของอีกคน คนที่อยู่ในห้องอีกราวหกชีวิตพากันตกใจก่อนที่น้ำทิพย์จะพูดลอดไรฟันให้ได้ยินแค่สองคน
“อย่าทำปากพล่อยในบริษัทฉัน” ธราภุชได้ฟังก็หัวเราะในลำคอ “ผมพูดความจริงนี่ครับ หรือคุณจะปฏิเสธ อย่าเลย คุณก็มองเค้าอยู่เหมือนกันไม่อย่างนั้นคุณจะรู้เหรอครับว่าผมมองเค้าอยู่ เจ้าตัวยังไม่รู้เลยนะครับ คุณน้ำทิพย์” ธราภุชพูดแล้วยกยิ้มขึ้นแล้วดันตัวน้ำทิพย์ออกเบาๆ ก่อนจะแสร้งจัดเสื้อตัวเองให้เข้าที่ น้ำทิพย์หน้าคว่ำเดินออกจากบริเวณนั้นไป พอเธอเดินออกมาก็ได้ยินเสียงศิรินดังขึ้นในห้องประชุมที่ตนจากมา “ขอโทษแทนประธานด้วยนะคะ คุณธราภุช” ยิ่งทำให้น้ำทิพย์ถอนหายใจพรืดอย่างร้อนในใจ
สักพักก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของ ธนัท ราเชนทร์รวมทั้งศิรินและปิยะรัฐ ที่กำลังเดินตามมา เมื่อถึงหน้าห้องของตัวเองน้ำทิพย์เปิดเข้าไปก่อนจะปล่อยประตูกระแทกเสียงดัง ปัง!!! ส่งผลให้คนที่เดินตามมาพากันสะดุ้งสุดตัว รวมทั้งออร์แกนที่เพิ่งจะเดินออกมาจากลิฟท์ก็หันมาทางปิยะรัฐก่อนจะเอ่ยขึ้น “มันเป็นอะไร?” ปิยะรัฐได้แต่ส่ายหัวก่อนจะยิ้มบางๆแล้วพยักเพยิดหน้าไปทางประตูห้องเชิงบอกให้ไปถามเอง ออร์แกนจึงเดินเข้ามาใกล้แล้วเปิดประตูเข้าไป
“ไง เป็นอะไรไปน้องบี” ออร์แกนส่งเสียงทักทายคนที่ยืนหันหลังมองออกไปดูวิวทิวทัศน์ด้านนอกอาคาร ให้หันมาสนใจ
“มีอะไร” น้ำทิพย์พูดเสียงแข็งพร้อมกับหันหน้ามาสบตากับราศี
“ไม่มี แล้วมาหาไม่ได้เหรอ” ออร์แกนพูดพลางเดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟารับแขกโดยไม่ต้องขออนุญาต “แล้วนี่เป็นไร ปิดประตูซะเสียงดัง” ออร์แกนถามก่อนจะถอดเสื้อสูทสีเทาตัวนอกออกไปพับไว้ข้างตัวแล้วปลดกระดุมที่คอปกเสื้อออก
"รำคาญนิดหน่อย” น้ำทิพย์ตอบทั้งๆที่ยังสนใจวิวด้านนอกอยู่
"เมื่อกี้กูเห็นร้านอาหารเปิดใหม่แถวนี้ ไปมั้ย เผื่ออารมณ์ดีขึ้น” ออร์แกนถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเห็นร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดใหม่ตรงทางผ่านมาบริษัทเพื่อนตน
“มาจากทางไหน ” น้ำทิพย์ถามแล้วขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัย ก็ร้านที่ออร์แกนเห็นมันไม่ใช่ทางที่มาจากบริษัทของเพื่อนเธอนี่นา
“เอ่ออ...กูไปโรง’บาลมา” ออร์แกนอึกอักก่อนจะพูดออกมา
“เป็นไร ไปโรง’บาลทำไม” น้ำทิพย์ถามขึ้นเมื่อเธอก็เห็นว่าอีกคนสบายดีไม่ได้มีแววป่วยหรือเจ็บตรงไหน
“ก็.....” ออร์แกนยังพูดไม่จบเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงน้ำทิพย์ก็สั่นเรียกให้เจ้าของหยิบขึ้นมาดู หน้าจอแสดงชื่อผู้โทรเข้ามา พลอย ไลลา น้ำทิพย์กดรับสายก่อนจะยกขึ้นแนบหู
‘บี กูเจอไอแกนมันมาโรง’บาล’ เสียงใสของคุณหมอดังขึ้น
“เออ มันบอกกูแล้ว” น้ำทิพย์ตอบกลับก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาข้างกับออร์แกน
’กูเห็นมันมากับน้องคนนึง หน้าตาน่ารักมากเลยนะมึง’ เสียงดังลอดโทรศัพท์ออกมาทำให้ออร์แกนหันมามองหน้ากับน้ำทิพย์
”เป็นไง ที่ว่าน่ารักของมึง” น้ำทิพย์เอ่ยถามกลับไป
’ก็ตัวขาวๆ ตัวเล็ก ค่อยๆพูด ดูนอบน้อมกับอิแกนมากเลยนะมึง’ พลอยยังคงเล่าต่อ
”มึงชอบ” น้ำทิพย์ถามพลางเลิกคิ้วขึ้น
’มึงจะบ้าเหรอ’ เสียงของเฌอมาลย์ดังขึ้นกว่าเดิมอย่างตกใจ
”พลอย หยุด” ออร์แกนได้ยินบทสนทนาทั้งหมดเมื่อเริ่มจะเยอะเกินไปจึงส่งเสียงขัดขึ้น
’อะไรวะ มึงอยู่กับมันเหรอ’ เฌอมาลย์เอ่ยตามสายถามน้ำทิพย์เมื่อได้ยินเสียงเพื่อนอีกคนดังขึ้น
”อือ”
’มันมาบ่อยละนะ กับน้องคนนี้ แหน่ๆๆ อิแกน ยังไง’ เฌอมาลย์เมื่อรู้ว่าเพื่อนอีกคนอยู่จึงเอ่ยถาม
”หยุด มึงวางเลยบี อย่าไปฟังมัน” ราศีเห็นว่าเฌอมาลย์เชิงจะพูดเยอะเกินไปจึงบอกให้น้ำทิพย์กดวาง
’เอ้า กูพูดเรื่องจริง มึงจะว่าไรกู’ เสียงเฌอมาลย์ยังคงดังต่อเนื่อง
”กูบอกให้มึงพอ ไอ่พลอย” ออร์แกนเน้นน้ำหนักเสียงให้มากขึ้น
’โธ่ ป๋าแกนเป็นไรคะ แค่อยากบอกเล่าเรื่องราวสุดประทับใจ นานๆจะเห็นออร์แกนปลอบคนอื่น’ เฌอมาลย์เมื่อรับรู้ว่าออร์แกนเริ่มจะทนไม่ไหวจึงยิ่งแหย่ให้ออร์แกนหัวเสียไปอีก
”อิพลอย บีวาง” ออร์แกนพูดก่อนจะทำเป็นจะแย่งมือถือมาจากมือของน้ำทิพย์
”ไม่!! อิแกนมึงอย่ามาแย่งกู กูอยากฟัง พลอยมึงเล่ามาเลย” น้ำทิพย์พูดในขณะที่ต้องขยับตัวหนีเพื่อนตัวร้ายทีคอยจะแย่งมือถือเธอไป
’อิบี เอาเป็นว่า เจอกันเที่ยงนี้กูว่าง โอเค้’ เฌอมาลย์เห็นท่าไม่ดีจึงรีบตัดบทก่อน
”ที่ไหน แกนมันชวนกูไปร้านญี่ปุ่นที่เพิ่งเปิดอ่ะ ทางจากโรงบาลมาบริษัทกูอ่ะ” น้ำทิพย์บอกเฌอมาลย์
’ตรงไหนวะ ... อ้อ! กูนึกออกละ โอเคเจอกัน’ พลอยรับคำก่อนจะกดวางสายไป น้ำทิพย์จึงเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงก่อนจะหันมายิ้มแฉ่งให้ราศีที่ทำหน้างุ้ยอยู่
”ทีงี้ตัดสินใจไวเชียวนะ” ออร์แกนพูดขึ้นอย่างเคืองๆ
”ต่อมเผือกกูต้องทำงาน ว่าแต่น้องคนนั้น ใครวะ” น้ำทิพย์พูดขึ้นก่อนจะสบตากับราศีเพื่อหาคำตอบ ออร์แกนเมื่อได้ยินคำถามจึงรีบหลบสายตาอย่างคิดคำตอบ
”ก็...แค่..น้องที่ทำงาน แม่เค้าป่วย” ออร์แกนตอบกลับไปอย่างกับตอบเรื่องดินฟ้าอากาศ
”มึงจำเป็นต้องไปเยี่ยม” น้ำทิพย์ถามแล้วทำหน้าสงสัย
”เออ...ก็...น้องเค้ามาอยู่กับแม่สองคน และก็มีกูที่เค้ารู้จัก กูก็พาไป ไม่ได้เดือดร้อนอะไร” ออร์แกนตอบแล้วมองสบตากับน้ำทิพย์
”แค่นั้น” เสียงน้ำทิพย์ดังขึ้นอย่างบอกความรู้สึกว่าไม่เชื่อในคำตอบของเพื่อนตนเลย
”แค่นี้ดิ! จะแค่ไหนวะ อะไรของมึงเนี่ย” ออร์แกนเน้นคำตอบอีกครั้งก่อนจะขมวดคิ้วอย่างหาเรื่องน้ำทิพย์
”เผื่อจะฝากตัวเป็น ลูกเขยซะเลย” น้ำทิพย์เลยแกล้งหยอกกลับไป
”อิบี” ราศีเอ่ยเสียงเข้ม
”กูพูดถูกละสิ หวังจะอะไรเค้ารึไง ยิ่งหญ้าอ่อน มันนิ่มเคี้ยวง่ายนะป๋าขาา” น้ำทิพย์พูดขึ้นก่อนจะเอนศีรษะลงไปซบกับไหล่ของออร์แกนแล้วถูไปมา
”เดี๋ยวกูยันตกโซฟา” ออร์แกนพูดพร้อมกับขยับตัวออกเตรียมทำอย่างที่พูดจริงๆ
“ใจเย็น บริษัทกู ให้เกียรติกูบ้าง” น้ำทิพย์พูด ก่อนที่เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของราศีจะดังขึ้น แล้วราศีจึงขอตัวออกไปรับข้างนอก สบจังหวะพอดีกับเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้น พร้อมกับเสียงขออนุญาตของเลขาของน้ำทิพย์
ก๊อก ก๊อก "ขออนุญาตค่ะ”
ราศีที่เดินออกไปทำให้สวนทางกับคนที่กำลังจะเดินเข้ามาพอดี "..คริส" เสียงจากราศีที่พูดขึ้นเบาๆเมื่อเห็นหน้าคนที่เดินสวนเข้ามา เสียงที่ดังขึ้นเบาๆเรียกให้ศิรินเงยหน้าสบตากับคนที่เอ่ยชื่อตนออกมาก็พบกับร่างที่สูงพอๆกับน้ำทิพย์ ออร์แกน ศิรินได้แต่เรียกไว้ในใจก่อนจะเดินต่อไป
“คุณปิยะรัฐ ให้นำเอกสารมาให้ค่ะ” ศิรินพูดพร้อมกับเดินผ่านน้ำทิพย์เอาแฟ้มเอกสารเข้าไปวางบนโต๊ะทำงานของคนตัวสูง
“ขอบใจ แล้วช่วยแต่งตัวให้มันเรียบร้อยกว่านี้หน่อยนะ อย่าให้คนอื่นสนใจเธอมากกว่างานอีก” น้ำทิพย์พูดขึ้นโดยไม่หันมามองหน้าคนที่คุยด้วย
“ค่ะ คราวหลังฉันจะระวังให้มากกว่านี้” ศิรินเอ่ยตอบก่อนจะเตรียมก้าวเดินออกไป
“เธอคงจะชอบล่ะสิ ตกเป็นจุดสนใจของผู้ชายรวยๆแบบนั้น” น้ำทิพย์พูดก่อนหันห้ามาสบตากับศิริน
“ต้องขออภัยที่การกระทำของฉันทำให้คุณเข้าใจแบบนั้น”
“เพราะมันเป็นเรื่องจริงใช่มั้ยละ ก็ดีนะ เขารวยมากเลยนะ สนใจรึเปล่าละ จะแบบยาวนานหรือสั้นๆดีละ ฉันช่วยได้นะ” น้ำทิพย์พูดแล้วสาวเท้าเข้าใกล้ศิรินมากขึ้น
“ท่านประธาน!” ศิรินแห้วอีกคนเสียงดัง เมื่ออีกคนเริ่มพูดจาไม่ให้เกียรติเธอ
“ทำไมล่ะ ฉันพูดความจริงเธอรับไม่ได้งั้นเหรอศิริน หรือไม่ชอบแบบไอ้เซนต์ ฉันยังรู้จักคนอีกเยอะนะ ทั้งรวยกว่าและก็มีชาติตระกูลที่ดีกว่านี้เธอต้องการรึเปล่าละ เดี๋ยวติดต่อให้ เผื่ออยากมาก จนต้องอ่อยในที่ประชุมขนาดนั้น”
เพียะ!! เสียงฝ่ามือเล็กๆของศิรินกระทบหน้าใสของน้ำทิพย์ ให้ขึ้นเป็นรอยแดงรูปนิ้ว น้ำทิพย์สูดหายใจเข้าลึกก่อนจะเอื้อมมือไปบีบแขนของคนตัวเล็กกว่า
“เธอกล้าดียังไงมาตบหน้าฉัน” น้ำทิพย์พูดลอดไรฟันก่อนจะสบตากับศิรินนิ่งอย่างคาดเดาอารมณ์ไม่ได้
“ก็คุณพูดจาไม่ให้เกียรติฉัน ถึงฉันจะเป็นแค่เลขา ลูกน้องใต้บัญชาของคุณแต่คุณอย่าลืมว่าเราก็เป็นคนเหมือนกันไม่ใช่จะพูดอะไรหยามคนอื่นแบบนี้ก็ได้” ศิรินพูดอย่างไม่ยอม โดยพื้นฐานที่เป็นคนไม่ยอมใครอยู่แล้ว
“เหอะ!! ค่าความเป็นคน ของเธอยังมีอยู่เหรอศิริน คนที่เอาตัวเข้าแลกกับเงินก้อนโตแบบนั้น เธอไม่ควรจะเอาคำๆนี้มาใช้ด้วยซ้ำ!!” น้ำทิพย์ว่าพร้อมกับดึงตัวอีกคนออกจากห้องไปพร้อมกับตนเอง "แกน เรื่องร้านอาหารไว้หลัง ฝากขอโทษไอ่หมอด้วย"
“จะไปไหน ปล่อย!! ปล่อยนะ บี!!” ศิรินร้องเรียกคนที่ดึงแขนเธออยู่เสียงดัง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ในตอนนี้เธอก็อยู่กับเขาแค่สองคนในลิฟท์แล้ว เสียงของศิรินเรียกให้เหล่าพนักงานให้ความสนใจเลขากับเจ้านายที่อกไปด้วยกัน เกือบจะทั้งบริษัท
เมื่อลงมาถึงชั้นล่างน้ำทิพย์ก็ลากศิรินมาจนถึงรถของตัวเองก่อนขับออกไปอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าไปยังที่ๆน้ำทิพย์มักไประบายความเครียดที่นั่นอยู่เสมอ ความเงียบภายในรถยนต์คันหรูที่แล่นไปตามท้องถนนเรื่อยๆด้วยความเร็วชนิดที่ว่าหากมีอะไรตัดหน้าละก็...ไม่เหลือชิ้นดีแน่ๆ น้ำทิพย์ขับแซงรถทุกคันก่อนจะเหยียบคันเร่งขึ้นอีกเมื่อเริ่มออกจากเขตตัวเมืองมาแล้วรถที่อยู่บนถนนลดจำนวนลงมาก
“...จะ ป ปะ ไปไหน” ศิรินเอ่ยอย่างกล้าๆกลัวๆเมื่อรอบข้างเริ่มจะมีบ้านคนน้อยลงทุกที และอยู่อย่างห่างๆกัน
“เป็นอะไร กลัวรึไง เมื่อกี้ยังปากเก่งอยู่เลยนี่” คนที่นั่งอยู่ตำแหน่งคนขับเอ่ยขึ้นทั้งที่ยังสนใจถนนตรงหน้า แล้วหักพวงมาลัยเข้าไปเมื่อมาถึงที่ๆเธอต้องการ
KK Racing SportClub
ป้ายเด่นหลาที่ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าทำให้ศิรินสงสัย สนามแข่งรถ ?? เมื่อน้ำทิพย์แล่นรถเข้ามาจอดเธอก็เปิดประตูรถลงไปก่อนจะต้องหงุดหงิดอีกครั้งเมื่ออีกคนที่นั่งมาด้วยยังคงนั่งเฉยไม่ยอมลงมา
“เป็นง่อยรึไง เปิดประตูไม่เป็น” น้ำทิพย์เอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาดึงประตูออกให้อีกคนลงมา
“ฉันไม่ได้เป็นง่อยแต่ฉันไม่ลง” ศิรินเอ่ยแล้วนั่งนิ่งอยู่บนรถ น้ำทิพย์เห็นแบบนั้นจึงเอี้ยวตัวไปดึงอีกคนลงมาล้วลากเข้าไปในเขตที่มีการแข่งอยู่ แล้วพาอีกคนขึ้นไปนั่งบนอัฒจรรย์ฝั่งคนดู เรียกความสนใจจากผู้ที่มาชมการแข่งในวันนี้อย่างมากเมื่อคนตัวสูงที่ใส่สูทผู้หญิงสีขาวทับเสื้อยืดสีขาวด้านในที่คว้านคอลึก โชว์เนินอกวับๆแวมๆ สวมแว่นกันแดดเลนส์ปรอท กับรองเท้าส้นสูงที่ยิ่งส่งให้อีกคนดูดีขึ้นไปอีกและมากับหญิงสาวหน้าหมวยที่ใสเสื้อแขนกุดสีขาวกับกระโปรงสีเขียวที่มีเพชรวิบวับขับความสวยใบหน้าหมวยที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์บางๆให้ดูสวยขึ้นไปอีก และคนตัวสูงที่พามายังเรียกได้ว่าเป็นสิงห์ประจำสนามเลยก็ว่าได้ มาทีไหนต้องได้ของติดมือกลับไปทุกครั้งและของทีเอามาแลกก็น่าสนใจเสมอ งไม่แปลกที่คนทั้งสนามจะหันมามอง
เจ้าหน้าที่ประจำสนามเมื่อเห็นน้ำทิพย์ก็รีบเข้ามาเดินนำไปที่ห้อง VIP ทันที ห้องอยู่ในมุมที่เห็นได้ชัดเมื่อรถแต่ละคันเข้าสู่สนามและเป็นจุดที่เห็นถึงความสวยงามในขณะขับของรถทุกคันเพราะเห็นภาพในมุมที่สูงกว่าผู้ชมทั่วไป น้ำทิพย์เดินตามเจ้าหน้าที่คนนั้นในขณะที่มือก็กึ่งลากกึ่งจูงศิรินให้เดินตามมา เมื่อเข้ามาถึงในห้องน้ำทิพย์จึงยอมปล่อยมืออกแล้วเดินไปเกาะแผงเหล็กที่กั้นขึ้นมากันไม่ให้ตกลงไป แล้วมองลงไปยังสนามแข่งก็เห็นรถคุ้นตาสีขาว พร้อมกับหนุ่มหน้าตี๋ใส่แว่นที่เพิ่งจะเป็นประเด็นต่อกันเมื่อการปรุมที่ผ่านมา น้ำทิพย์จึงยกยิ้มเมื่อนึกอะไรสนุกๆออก จึงเดินไปยังโทรศัพท์ที่วางอยู่ในห้องข้างๆแท็บเล็ตที่เอาไว้ลุ้นและพนันกันระหว่างห้องที่กันอยู่ “สวัสดี ฉันน้ำทิพย์” เมื่อคนตัวสูงเอ่ยขึ้นเสียงโทรศัพท์ก็รีบตอบกลับมา
'คุณบีเหรอครับ มีอะไรไม่พอใจหรือว่าต้องการอะไรเพิ่มรึเปล่าครับ'
“เปล่า แค่จะโทรบอกว่า ฉันขอลงแข่งวันนี้ด้วย Aston Martin สีขาว ธค123” น้ำทิพย์บอกกลับไปก่อนจะหันไปดูป้ายทะเบียนรถที่ตนต้องการแข่งด้วย
“ครับได้ครับ อีกสักประมาณ 20 นาทีลงมาได้เลยนะครับ” เสียงในสายบอกกล่าวก่อนที่จอแท็บเล็ตจะแสดงผลขึ้นมา
29/10/2017 : 11.47
1st Player TIME 2nd Player
Namthip J. 20 minute left Tharapuch K.
น้ำทิพย์ยกมุมปากขึ้นเมื่อสายตาของเธอไม่พลาด ว่ารถคันที่เธอเห็นคือรถของธราภุชจริงๆ เมื่อเห็นหน้าจอแสดงผลแบบนั้นจึงเดินไปจูงมือศิรินที่นั่งอยู่ให้เดินตามออกมายังสนามแข่งด้านล่างเรียกเสียงโห่ร้องจากผู้ชมข้างสนามได้อย่างดีเพราะชื่อที่ปรากฏบนจอแสดงถึงคู่ที่ดุเดือดเสมอเมื่อพบกัน น้ำทิพย์พาศิรินเดินมาถึงยังกลางสนามก่อนจะยืมไมค์ของพิธีกรมาไว้ในมือก่อนจะชูกุญแจรถลูกรักของตนขึ้น "Lamborghini Veneno 160 ล้านบาท กับ .... ผู้หญิงคนนี้ ถ้าใครชนะฉันได้ เอาไปเลย" น้ำทิพย์พูดก่อนจะเดินไปโอบเอวศิรินไว้หลวมๆ ถ้อยคำที่ออกมาจากปากของน้ำทิพย์ทำให้ศิรินหน้าเสีย ไม่คิดว่าเขาจะเห็นเธอเป็นของกำนัลเล่นๆขนาดนี้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่สูดหายใจเข้ากลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา
"น่าสนใจนะครับ แล้วของคุณธราภุชละครับ มีอะไรมาแลกเอ่ย" พิธีกรชายพูดขึ้นพร้อมกับหันไปทางธราภุช
"ฮาฮ่า ของของผมคงไม่น่าสนใจเท่าของคุณบีหรอกครับ เอาเป็นว่าแข่งก่อนดีกว่านะครับ" ธราภุชพูดแล้วยิ้มอย่างกวนๆขึ้นก่อนจะเดินไปใส่ชุดเซฟตี้ของตนแล้วขึ้นรถไป น้ำทิพย์ได้แต่ยกยิ้มบางๆแล้วไปใส่ชุดเซฟตี้ของตนเองแล้วขึ้นรถไปบ้าง ในขณะที่ศิรินถูกนำตัวไปยืนบนแท่นกลางสนามแข่งพร้อมกับรถคันหรูของน้ำทิพย์ ความรู้สึกของศิรินในขณะนั้นพังทลายลงไม่เป็นท่า ทั้งเสียใจ หดหู่ สมเพช ประเดประดังเข้ามาจนแทบร้องไห้แต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะกลั้นทุกอย่างไว้ได้แต่หวังว่าจะไม่เกิดอะไรที่ไม่ดีขึ้นกับตน
เมื่อเสียงสัญญาณอนุญาตออกรถดังขึ้นพร้อมกับพริตตี้สาวสวยหุ่นเอ็กซ์โบกธงให้รถทั้งสองคันทะยานออกไป หัวใจศิรินกระตุกวูบพร้อมกับเสียงนั้น เธอไม่ชอบเลยความรู้สึกแบบนี้ แล้วแม่สาวหุ่นเอ็กซ์ก็เดินเข้ามาหาศิริน
"ทำไมถึงมากับคุณบีได้" เข้ามาถึงก็ถามศิรินเสียงแข็ง
"ฉันเป็นเลขาเค้า เธอล่ะ" ศิรินตอบกลับไป
"จริงเหรอ แค่เลขาจริงอ่ะ" สาวคนเดิมถามซ้ำ
"อื้อ ทำไมเหรอ" ศิรินทำหน้าฉงน
"ไม่เคยนอนกับคุณบีเหรอ"
"จะบ้ารึไง!!" ศิรินว่าพลางทำหน้าตกใจ
"เอ้า! ร้อยทั้งร้อยใครๆเค้าที่มากับคุณบีได้ ไม่ใช่ว่าถูกเขี่ยทิ้ง ก็ไม่รู้จะอะไรละนะ" สาวสวยคนเดิมพูดขึ้น
"เหรอ..." ศิรินพึมพำขึ้นเบาๆ บีเป็นแบบนั้นเหรอ
"นี่อย่ามาใส เคยได้ก็บอกจะได้ถามว่าคุณบีชอบไหน แบบแซ่บๆหรือหวานๆ จะได้ทำตัวถูก เผื่อคุณเซนต์จะชนะ แม้โอกาสมันจะ 1 ใน 100 ก็เหอะ" แม่สาวหุ่นแซ่บถามพลางทำหน้าเพ้อฝัน
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่เคยไง จะรู้ได้ไง" ศิรินตอบเสียงนิ่งแล้วถอนหายใจพรืดออกมา
"โกหก เล่ามาเหอะ อย่าเก็บเป็นความลับไว้คนเดียวสิ" สาวคนเดิมยังซักไซร้
"ก็บอกว่าไม่เคยไงเล่า!" ศิรินว่าเสียงดังขึ้น สาวคนนั้นจึงบุ้ยปากแบบไม่พอใจก่อนจะว่าศิริน "ขี้หวง"
"เธอจะอยากรู้ไปทำไม"
"นั่นคุณบีนะเธอ รวยขนาดนั้น อายุอานามก็กำลังพอดี แถมหล่อและสวยในเวลาเดียวกัน ไม่อยากได้ก็แปลกละ"
ศิรินได้ยินก็คิดตามพลางนึกว่าก็จริง เขามีพร้อมทุกอย่างทั้งหน้าตาและฐานะ เฮ้ออ
และแล้วเวลาที่ศิรินไม่อยากให้มาถึงก็มาถึงจนได้แต่ก็ต้องแปลกใจ ไม่ใช่เพียงแต่ศิริน ผู้ชมทั้งสนามก็เช่นกัน เมื่อรถที่เข้ามาก่อนเป็นรถของธราภุชไม่ใช่น้ำทิพย์แต่ดูสีหน้าของธราภุชเหมือนจะไม่ค่อยพอใจเท่าไรทั้งๆที่ชนะ และแล้วทุกคนพบคำตอบเมื่อมีภาพวิดีโอย้อนให้ดูพบว่าน้ำทิพย์จอดรถรอให้รถของธราภุชเข้าเส้นชัยก่อนทั้งๆที่เหรออีกไม่ถึงเมตรจะถึงเส้นชัยแล้ว สร้างความหัวเสียให้ธราภุชอย่างมากถึงเขาจะอยากได้ของกำนัลจากน้ำทิพย์มากแค่ไหนแต่การที่อีกคนทำแบบนี้ก็ไม่ต่างจากการเหยียบหน้าเขาต่อหน้าผู้ชมเลยซักนิด
"ยินดีด้วยนะ เซนต์ ชนะแล้ว 1 ใน เกือบร้อยรอบที่เราเจอกัน ชนะซักทีนะ ของรางวัลฉันคงดีใจแย่ที่นายชนะ อ่ะ!" น้ำทิพย์พูดแล้วโยนกุญแจรถคันงามให้ธราภุช ก่อนจะเตรียมตัวเดินออกไป แต่ก็ต้องหยุดเท้าลงเมื่อรู้สึกถึงแรงดึงจากข้อมือ จึงหันมา
เพียะ!!!!
"เลว!" ศิรินพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม จนหน้าตาหมวยใสเต็มไปด้วยน้ำตา การที่น้ำทิพย์ทำแบบนี้ไม่ต่างจากการจับเธอใส่พานยื่นให้อีกคนเลย
"ฉันคิดว่าเธอจะชอบซะอีก อุตส่าห์ลงทุนแข่งกับไอ้เซนต์เลยนะเนี่ย ว้า! น่าเสียดายจัง" น้ำทิพย์แกล้งพูดขึ้นก่นจะเดินไปหาธราภุชและพูดขึ้น "สงสัยเธอจะชอบแบบซาดิสม์ๆนะ ตบจูบ ตบจูบ ฝากด้วยละกันนะ" ว่าจบก็เดินออกไปเปลี่ยนชุดกลับคืน ทิ้งศิรินให้ยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้นโดยไม่สนใจเลย....
To be continued.........
- ZenonZane -
________________________________________________________________
TALK :
ขอบคุณที่ติดตามกันมานะคะ รักรีดเดอร์ทุกคนเลย ^^
ปล.อาจมีผิดพลาดในเรื่องของตึกในเรื่องนะคะ แต่นั่นคือการจินตนาการก็คิดว่ามันเป็นไปได้เนอะ
ติชมได้เลยจ้า 1 คอม = 100 กำลังใจเลย
ความคิดเห็น