ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { Hidden Love ร้ายซ่อนรัก } [ บีคริส ]

    ลำดับตอนที่ #4 : My Secretary

    • อัปเดตล่าสุด 4 มิ.ย. 62



    My Secretary

    21.10.60

    04.30

    เช้าวันรุ่งขึ้น

          ศิรินรีบตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวและลงไปเตรียมอาหารเช้าอย่างง่ายสำหรับตัวเธอเองและเด็กชายตัวน้อย ก่อนจะขึ้นไปปลุกลูกชายตนให้ตื่นและพาเขาไปอาบน้ำแต่งตัวไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าของเขามาด้วยก่อนจะเดินเข้าไปในห้องของตนเองแล้วหยิบเอกสารชุดเดียวกันกับเมื่อวานนี้ลงไปด้วย หนึ่งเด็กหนึ่งผู้ใหญ่รีบจัดการกับอาหารตรงหน้า พอจัดอาหารเรียบร้อยศิรินยกจานทั้งสองใบไปล้าง    

     “พีทครับ มาใส่รองเท้าเร็ว” ศิรินมองนาฬิกาพบว่า 05.40 แล้วจึงเรียกเด็กชายให้ไปใส่รองเท้า พีทเดินมาหาอย่างว่าง่าย แล้วทั้งสองคนก็พากันเดินไปหน้าบ้านเรียกวินมอเตอร์ไซค์ให้ส่งที่ปากซอยบ้าน เพื่อรอรถแท็กซี่ไปส่งเด็กชายตัวน้อยให้ทันโรงเรียน ยิ่งการจราจรในเมืองหลวงแบบนี้ออกจากบ้านเช้าเท่าไรนับว่าเป็นเรื่องที่ดี รอไม่ถึงสิบนาทีก็มีแท็กซี่ขับผ่านมา ศิรินจึงยกมือขึ้นกวักเรียก แล้วย้ายตัวเข้าไปนั่งภายในรถพร้อมบอกจุดหมายปลายทาง เธอให้เขาไปส่งที่โรงเรียนลูกชายก่อนซึ่งอยู่ห่างไปจาก 2 กิโลเมตรแล้วค่อยพาเธอไปส่งที่ BNT Property ในภายหลัง

              06.33

         รถเขียวเหลืองแล่นมาจอดที่หน้าโรงเรียนศิรินจึงบอกพี่คนขับรถว่าให้รอเธอเดี๋ยวเดียวขอเข้าไปส่งลูกชายที่ห้องเรียนก่อนพี่คนขับพยักหน้าเข้าใจเธอจึงลงไปพร้อมกับยืนรอสะพายกระเป๋าตราโรงเรียนใส่หลังของเด็กชายที่ตามลงมาแล้วพากันจูงมือไปยังห้อง อนุบาล เมื่อเดินมาถึงศิรินย่อตัวลงกอดลูกชายพร้อมกับหอมแก้มเขาไปหนึ่งที “ตั้งใจเรียนนะครับ ตอนเย็นเจอกัน”

    “ครับ หม่ามี้ ฟอดดด” พีทเอ่ยตอบคนเป็นแม่ก่อนจะกดจมูกน้อยๆลงบนแก้มใสของศิรินแล้วผละตัวออก

    “อย่าลืมหยิบสมุดที่ทำเมื่อคืนให้คุณครูนะครับ หม่ามี้ไปก่อนนะ”ศิรินพูดแล้วรีบวิ่งไปหน้าโรงเรียนพร้อมกับก้าวขึ้นรถคันเดิมเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายที่สอง เมื่อรถแล่นมาถึงหน้าบริษัทที่มีป้ายเขียนตัวใหญ่สวยงามว่า BNT Property ศิรินจึงก้าวลงจากรถพร้อมกับส่งธนบัตรให้พี่คนขับแท็กซี่แล้วเดินเข้าไปภายใน ก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู 07.18 จึงกระชับเสื้อคลุมตัวนอกเดินเข้าไปถามประชาสัมพันธ์ “มารายงานตัวที่สัมภาษณ์ผ่านเมื่อวานนี้ค่ะ ไม่ทราบว่าห้องไหนคะ”

    “ใช้ลิฟท์ทางด้านซ้ายมือของคุณแล้วกดชั้น 6 นะคะจะพบกับผู้ชายคนนึงยืนรอรับคุณอยู่ยินดีที่มาเป็นครอบครัวเดียวกันค่ะ” ประชาสัมพันธ์คนสวยที่มีชื่อติดอกว่า วรรณปิยะ ออมสินนพกุล’ INFORMATION

    “ขอบคุณนะคะ” ศิรินว่าพลางรีบสาวเท้าเดินเข้าลิฟท์ไปแล้วกดตามที่พนักงานคนนั้นบอก

    เมื่อลิฟท์เคลื่อนมาถึงชั้น 6 แล้วประตูเปิดออกศิรินก็พบกับผู้ชายใส่ชุดสูทท่าทางภูมิฐานดูดียืนรออยู่จริงๆ

    “รายงานตัวรึเปล่าครับ?” ชายคนนั้นถามขึ้น ศิรินพยักหน้าพร้อมกับตอบรับ “ค่ะ”

    “เชิญห้องทางซ้ายมือครับ ที่มีป้ายติดไว้ว่า ปิยะรัฐ นะครับ” ชายคนเดิมพูดพร้อมกับผายมือไปยังห้องดังกล่าวศิรินค้อมหัวให้อีกคนพร้อมกับเดินไปยังทางนั้น เมื่อเดินมาถึงทำให้เธอเจอกับคนที่เจอกันเมื่อวานนี้

    “ซาบีน่า” ศิรินทักขึ้นพร้อมกับเดินไปนั่งข้างๆ

    “อ้าว พี่คริส พี่ก็ผ่านเหมือนกันใช่มั้ย”คนถูกเรียกว่าซาบีน่าพูดขึ้นและส่งยิ้มกว้างให้กับศิริน

    “อื้อ แล้วนี่เค้าให้เรามาทำอะไรเหรอ”ศิรินถามเพราะเธอเห็นว่าซาบีน่า น่าจะมาถึงก่อนเธอนานแล้ว

    “เค้าให้เรามาสัมภาษณ์กับบอร์ดบริหารน่ะ เห็นว่าเค้าไม่ค่อยมั่นใจฝ่ายบุคคลเท่าไร”ซาบีน่าพูดก่อนจะลดเสียงลงในช่วงท้ายของประโยค

    “อ่อ โอเค”ศิรินพูดรับก่อนจะนั่งพิงหลังลงไปกับพนักแล้วทำสมาธิ ใช่ว่าเธอไม่เคยสัมภาษณ์งานแต่เพราะคนสัมภาษณ์วันนี้คือ เต้ ที่เธอก็รู้จักเขามาก่อน แม้จะหายจากกันไปเกือบๆ 7 ปี

    “พี่คริส ตื่นเต้นมั้ย บีน่าตื่นเต้นมาเลยอ่ะ งานแรกขอให้ได้ด้วยเถอะ”ซาบีหันมาถามศิริน ซาบีน่าอายุ 22 เพิ่งเรียนจบใหม่ๆ งานนี้เป็นการสัมภาษณ์งานแรกของเธอ

    “นิดนึง พี่ก็ขอให้ได้แบบนั้นละกัน”ศิรินเอ่ยตอบกลับไป

    “แล้วงานก่อนหน้าพี่ทำอะไรเหรอว่จะถามตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”ซาบีน่าถามต่อ

    “ก็งานพวกเลขานี่แหละ” ศิรินตอบแล้วส่งยิ้มให้

    “แล้วลาออกทำไมเหรอ เงินไม่ดีหรือเจ้านายขี้หลีล่ะพี่”ซาบีน่าถามเพราะอีกคนก็ใช่ว่าหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่อะไร

    “คงจะเป็นเงินมั้ง จะว่าดีมันก็ดีแต่พี่มีลูกกับพ่อแม่ต้องดูน่ะ มันเลยอาจดูน้อย”ศิรินตอบพร้อมกับระบายยิ้ม

    “พี่มีลูกแล้วเหรอ น่ารักมั้ยอ่ะ” ซาบีน่าถามพลางทำตาเป็นประกาย

    “ไม่รู้สิ” ศิรินตอบ

    “อ้าว” ซาบีน่าว่าเสียงดัง

    “ก็ลูกพี่ พี่ก็ว่าเขาน่ารักแต่สำหรับคนอื่นพี่ไม่รู้นี่นา”ศิรินตอบแล้วหัวเราะน้อยๆ

    “มีรูปป่ะ”ซาบีน่าถามแล้วสบตากับอีกคน

    “มีๆ เดี๋ยวให้ดูละกัน” ศิรินบอกก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแกลลอรีรูปภาพให้อีกคนดู


    “หูยย น่าชังจังเลย น่ารักจะตายพี่คริส” ซาบีน่าว่าหลังจากรับโทรศัพท์มาดูรูปแล้ว

    “ว่าไป “ ศิรินพูดแล้วรับโทรศัพท์มาคืนจากอีกคน

    “เห็นแล้วอยากมีลูกเลยอ่ะ” ซาบีน่า ว่าแล้วทำท่าเพ้อฝัน

    “ก็มีสิ แต่เหนื่อยหน่อยนะ เลี้ยงเด็กอ่ะ” ศิรินว่า

    “พี่คริสค่ะ ควรหาแฟนก่อนมั้ยคะ บางที”ซาบีน่าว่า ก่อนจะมีเสียงแทรกขึ้น

    “คุณ ซาบีน่า ไมซิงเกอร์ เชิญค่ะ”

    “ไปก่อนนะพี่คริส” ซาบีน่าบอกศิรินเมื่อได้ยอนเสียงเรียกชื่อตน แล้วรับลุกไปในห้องที่คนเรียกเปิดประตูไว้รอแล้ว

    ศิรินจึงนั่งอยู่เพียงคนเดียวในบริเวณนั้น เพราะนี่คือห้องรับรองในห้องของปิยะรัฐอีกที สักพักโทรศัพท์เธอก็สั่น ศิรินหยิบขึ้นมาดู หน้าจอโชว์เบอร์พร้อมกับชื่อที่แสดง ปั้นจั่น

    “ว่าไงปั้น” ศิรินกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์

    เป็นไงบ้าง วันนี้ได้ยินข่าวว่าไปสัมภาษณ์งานเหรอ

    “อื้อ  ผ่านแล้วรอรายงานตัวอยู่”

    เฮ้ออ จริงๆเลยนะคริส ทำไมต้องเรื่องลำบากด้วยเนี่ยย ปั้นไม่เข้าใจ"   

    “หน่าปั้น คริสสบายใจดี ไว้วันไหนไม่ไหวแล้วคริสจะยอมกลับไปอยู่บ้านสบายๆให้คุณปั้นสามีดีเด่นดูแลละกัน”

    เดี๊ยะเหอะ มาเป็นแม่บ้านให้ละกันนะยะ คริส

    “นี่ๆน้อยๆหน่อย ฉันเป็นภรรยาคุณนะ”

    ย่ะ โอเคงั้นไม่กวนละ ให้ไปรับพีทให้มั้ย คริสจะได้กลับบ้านเลย ยังไงปั้นก็ผ่านบ้านคริสอยู่แล้ว

    “ไม่อ่ะ เดี๋ยวคริสไปรับเอง ขอบใจนะ”

    โอเค งั้นไม่กวนละ ขอให้ได้งานสมใจอยากนะ สบายๆไม่ชอบ แม่คนแปลก

    “จ้า บายนะ”

    อื้อ

    ศิรินกดตัดสายหลังจากอีกคนพูดจบ ปั้นจั่นมักจะคอยเวียนมาช่วยเธอเลี้ยงพีทเสมอแม้จะไม่ได้เป็นกิจลักษณะแล้วยิ่งช่วงปีนี้บ้านเขากำลังเปิดโครงการบ้านจัดสรรใหม่ซึ่งปั้นจั่นรับงานนี้เต็มๆเป็นบิ๊กโปรเจกต์ของเขา เธอเลยไม่ค่อยอยากรบกวนเขามาเท่าไร

    “คุณศิริน หอวัง เชิญค่ะ” เสียงเรียกเธอดังขึ้นพร้อมกับซาบีน่าที่เดินยิ้มออกมาไม่ต้องถามก็รู้ว่าได้หรือไม่ได้

    “พี่คริส ไฟท์ติ้ง”ซาบีน่าพูดพร้อมกับยกแขนขึ้นตั้งฉากกับลำตัวให้อีกคนได้ยิ้มเบาๆก่อนพยักหน้าตอบแล้วเดินต่อไป

    เมื่อศิรินเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของเจ้าของห้อง เธอก็ได้สำรวจรอบๆห้อง ห้องนี้ได้รับการตกแต่งอย่างดีด้วยโทนสีเรียบๆ มีตู้โชว์สูงภายในมีเกียรติบัตรการันตีความสามารถวางไว้

    “สวัสดีครับ เชิญนั่งก่อน” เสียงคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะดังขึ้น

    “สวัสดีค่ะ” ศิรินนั่งลงและกล่าวสวัสดี ก่อนที่คนหลังโต๊ะจะเงยหน้าขึ้นจากเอกสารตรงหน้า

    “เคยทำงานที่ อโนทัย คอร์ปเปอร์เรชั่น” ปิยะรัฐ เอ่ยขึ้นพร้อมกับสบตาอดีตเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงหน้า

    “ค่ะ” ศิรินตอบ

    “ตำแหน่งอะไรครับ” ปิยะรัฐถามต่อ

    “เลขานุการรองประธานค่ะ”ศิรินตอบ

    “ทราบใช่มั้ยครับว่าที่นี้คือเจ้าของคือใคร” ปิยะรัฐถามแล้วสบตากับศิริน

    “ค่ะ ทราบค่ะ”

    “ขอเหตุผลทำไมคุณถึงเลือกที่นี้แทนบริษัทก่อนหน้าทุกคุณทำงานด้วย”

    “ขออนุญาตเรียนตามตรง ว่าค่าตอบแทนที่ได้รับจากที่นี่สูงกว่าบริษัทเดิมค่ะ”

    “....คุณมีความจำเป็นต้องใช้เงินมากมายเหรอครับ”

    “ค่ะ ตัวฉันเองมีลูกและพ่อแม่ที่ต้องดูแลค่ะ”

    “....ครับ จากประวัติการทำงานของคุณ คนมีความสามารถแบบนี้ ผมว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่จะติดเพียงเพราะว่าคนๆนั้นคือคุณ ทราบใช่มั้ยครับ”

    “ค่ะ ทราบค่ะ แต่เรื่องงานก็คืองานไม่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว”

    “ครับ ยินดีที่ได้ร่วมงานนะครับ คริส”  ปิยะรัฐว่าก่อนจะจรดปากกาลงในกระดาษตรงหน้าในช่องบนชื่อตนเอง

    “ค่ะ ถ้างั้นไปได้แล้วใช่มั้ยคะ?” ศิรินถามก่อนจะเตรียมตัวลุกขึ้น

    “เดี๋ยวก่อนครับ ผมอยากคุยกับคูณต่อ แต่ไม่ใช่ในฐานะของคนสมัครงาน” ปิยะรัฐพูดแล้วดันแฟ้มที่เป็นเอกสารของศิรินไปทางมุมโต๊ะขวาที่มีของคนอื่นๆอยู่ก่อนหน้า แล้วยกหูโทรศัพท์ต่อสายหาคนหน้าห้องของตน “ลิลลี่ มาเอาเอกสารไปให้ประธาน” รอสักพัก พนักงานคนสวยเจ้าของชื่อ ลิลลี่ ก็เดินเข้ามายกกองแฟ้มเอกสารออกไป ปิยะรัฐจึงหันมาให้ความสนใจกับศิริน

    “ทำไมเธอถึงมาสมัครงานที่นี่ คริส” ปิยะรัฐเริ่มบทสนทนา

    “ก็ตามที่ตอบนั่นแหละ” ศิรินตอบแล้วยิ้มบางๆให้

    “เฮ้ออ ไม่เข้าใจแกเลยนะ” ปิยะรัฐพูดแล้วฟุบหน้าลงบนโต๊ะ

    “เต้” ศิรินเรียกอีกคน

    “แกรู้ใช่มั้ยว่า บีมันเป็นยังไงในวันที่แกไม่อยู่” ปิยะรัฐพูดก่อนจะมองสบตากับศิริน

    “ฉันรู้เต้ ...” ศิรินพูดแล้วเม้มริมฝีปากเมื่อรู้สึกถึงก้อนอะไรบางอย่างที่จุกขึ้นมาบนอก

    “ฉันจะเอาใจช่วยแล้วกัน ฉันเข้าใจนะ  เอ้อ!..ที่แกบอกว่าแกมีลูก ลูกแกเหรอ” ปิยะรัฐถาม

    “เปล่าหรอก ลูกยัยพลอย” ศิรินตอบแล้วยิ้มให้ปิยะรัฐ

    “อ่อ โอเค แล้วเจอกันพรุ่งนี้ 8 โมงนะ” ปิยะรัฐพูดแล้วลุกขึ้นยืนรอให้ศิรินลุกแล้วเดินไปส่งด้านล่างก่อนจะพบว่าอีกคนไม่ได้ขับรถส่วนตัวมา

    “คริส แกมายังไง” ปิยะรัฐถามเมื่ออีกคนเตรียมจะเดินไปยังทางเข้าใหญ่ที่อยู่ติดถนน

    “แท็กซี่น่ะ ไปก่อนนะเดี๋ยวแท็กซี่หนี” ศิรินพูดแล้วเดินข้ามถนนหน้าบริษัทไปยังทางเข้าบริษัททางด้านนอก

    “อะไรกัน ไหนว่าแต่งงานกับลูกชายบริษัทบ้านจัดสรรทำไมปล่อยให้ภรรยาขึ้นแท็กซี่" ปิยะรัฐได้แต่เก็บความสงสัยไว้ภายในใจ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปด้านในแล้วพบกับประธานคนสวยกับเลขาอย่างธนัท

    “อ้าว พี่เต้ไปไหนมาเหรอ” บีเอ่ยขึ้นเมื่อเธอจะลงมาคุยกับลูกค้าที่ร้านกาแฟด้านล่าง

    “เอ่อ .. พาคนมาส่งน่ะ พี่ไปทำงานต่อก่อนนะ” ปิยะรัฐอึกอักก่อนจะตอบออกไปแล้วรีบเดินหนีอีกคนไป

    “อ้าว  แปลกๆนะเนี่ย” บี พึมพำกับตัวเองพลางสาวเท้าไปยังร้านกาแฟ ร้อยวันพันปีพี่เต้ไม่เคยลงมาจากห้องก่อนถึงเวลาพักกลางวันแต่ทำไมวันนี้กลับลงมา แปลกจริงๆ แต่ก็ต้องหยุดความคิดของตนไว้เมื่อมาถึงยังร้านกาแฟแล้วพบว่าลูกค้านั่งรออยู่ก่อนแล้วจึงรีบเดินเข้าไปแล้วขอโทษขอโพยก่อนจะเริ่มต้นคุยงานกัน

    ทางด้านคนที่ขึ้นแท็กซี่มา บอกให้พี่คนขับจอดที่หน้าห้างสรรพสินค้าเพื่อที่จะไปหากลุ่มเพื่อนของเธอที่ขลุกกันอยู่ที่ร้าน Café Alive

    “หมวยมาแล้ว  เป็นยังไงบ้าง” วุ้นเส้นที่นั่งอยู่บนโซฟาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นศิรินที่หน้าประตูร้าน

    “ก็ดี เจอเต้ด้วย” ศิรินพูดขึ้นแล้วเดินมาทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างๆคนที่ทักเธอ

    “เต้ ? เต้ไหน?”  เจนี่นั่งอยู่ตรงหลังเคาน์เตอร์โผล่หน้าขึ้นมาถาม

    “ชีเต้ ปิยะรัฐไง” ศิริน พูดแล้วยกยิ้มขึ้น

    “อ่อ มึงก็ความจำสั้นเนอะอีเจ วันเปิดตัวบริษัทบี มึงยังเจอมันอยู่” นานา พูดก่อนจะถูกแอนตีไหล่เข้าให้ “โอ้ยย!

    “พูดไร วันนั้นอีหมวยมันไม่ได้ไป” แอนพูดให้ได้ยินกันสองคน

    “พวกแกไปด้วยเหรอ” ศิรินถาม เพราะเธอเพิ่งจะมารู้ว่าเต้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารก็วันที่เธอจะสมัครงานนี่ละ เพราะปกติเวลามีข่าวหน้าหนังสือพิมพ์หรือเวลาไปงานมักจะมีแต่น้ำทิพย์ที่ไปเธอจึงไม่รู้ว่ามีปิยะรัฐทำงานอยู่ด้วย

    “อือ  ก็มีการ์ดมาน่ะ  สงสัยเต้มันไม่ได้ติดต่อแกนาน คิดว่าแกไปอยู่ต่างประเทศแล้วมั้งเลยไม่ได้ส่งให้” เจนสุดาเดินออกมาจากหลังร้านมาตอบแล้วเดินเข้าไปโอบไหล่สาวหน้าหมวย “ มึงอย่านอยด์เลยนะ ”

    “อื้ม กูไม่ได้นอยด์สักหน่อย ถึงส่งมากูก็ไม่กล้าไปสู้หน้าหรอก” ศิรินว่าแล้วก้มหน้าลงมองหน้าขาตนเอง

    “เออๆๆ ช่างมัน มันผ่านมาแล้ว ว่าแต่วันนี้เราจะไปเลี้ยงกันที่ไหนดีคะเพื่อนนน” วุ้นเส้นสายปาร์ตี้เอ่ยขึ้นขัดบรรยากาศอึมครึมในบริเวณนั้น

    “เลี้ยงเนื่องในงานอะไรคะ คุณวุ้นเส้น” พอลล่าเอ่ยขึ้น

    “ก็เนื่องในโอกาสที่เพื่อนหมวยของเราได้งานทำไงคะ คุณพอลล่า” วุ้นเส้นเอ่ยตอบกลับไป

    “เออใช่ งั้นที่ไหนดีอ่ะ ร้านเดิม?” เจนี่ออกความเห็น

    “ไม่อ่ะ เบื่อ” เจนสุดาเอ่ยขัดขึ้น

    “แต่กูว่า ร้านเดิมก็ดีนะ ติดต่อที่จอดรถง่ายดี” นานา ช่วยเสริมความเห็นของเจนี่

    “แต่ไอว่าลองร้านใหม่ๆดีกว่านะ” สาวลูกครึ่งเอ่ยออกมา

    “แต่ฉันว่าร้านเดิมก็ดี สบายหูดี เผื่อไปร้านใหม่เจอเด็กตีกันวิ่งจนกระดูกเคลื่อนเลยนะ” เสียงอีกเสียงจากแอนอลิชาพูดขึ้น

    แล้วก็กลายเป็นสงครามน้ำลายของกลุ่มเพื่อนเธอ 

    “พรุ่งนี้กูมีงานเช้า 8 โมงเพราะงั้นไปร้านเดิม มันใกล้บ้านทุกคน และ กูจะไปแค่แปปเดียว เพราะพีทต้องคุยกับพลอยก่อนนอน  โอเค้ ตามนี้” ศิรินทนไม่ไหวพูดขึ้น

    “โอเคค่ะ” เจนี่พูดแล้วยิ้มร่า แล้วหันไปทำหน้ากวนโอ้ยใส่เจนสุดา จนอีกคนยกมือขึ้นเตรียมฟาดลงบนไหล่ เจนี่จึงรีบออกวิ่งไปรอบๆร้าน เจนสุดาก็ออกวิ่งตาม จนเพื่อนๆพากันเวียนหน้าไปหมด

    “พวกแกก็เล่นกันเป็นเด็กๆไปได้เนอะ พอ! หยุดได้แล้ว!” แอน อลิชาพูดขึ้นเสียงแข็ง ส่งผลให้เพื่อนชื่อคล้าย รีบหยุดแล้วเดินไปนั่งที่เดิมแต่โดยดี

    “โดนแม่ดุเลย เห็นมั้ย เพราะมึงแหละ อีเจี๊ยบ”  เจนสุดาพูดพอให้ได้ยินกันแค่สองคน

    “อะไรยะ ถ้ามึงไม่ตามกูก็จบมั้ย” เจนี่พูดแล้วสบตาเจนสุดา

    “ถ้ามึงไม่วิ่งหนีกูก็จบมั้ย” เจนสุดายังคงไม่ยอม

    “พอๆทั้งคู่แหละ เถียงกันงุ้งงิ้งอยู่นั่นละ” อลิชาพูดขึ้น

    “ค่ะ แม่” ทั้งคู่ประสานเสียงกันโดยอัตโนมัติ

    ศิรินได้แต่ยิ้มกับความน่ารักของเพื่อนของเธอที่คบกันมา มีทะเลาะกันบ้าง ตีกันบ้างเหมือนเด็กๆแต่สุดท้ายกืนดีกัน จนทุกวันนี้เกือบ 18 ปีแล้ว ตั้งแต่ตัวเธอเองเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัย จะห่างกันก็ตอนที่ตัวเธอเองไปแต่งงานแต่ก็มีคุยๆกันบ้างหลังที่เธอไปพาพีทมาเลี้ยง  แก๊งเพื่อนเธอก็พากันแวะเวียนไปเยี่ยมและช่วยเลี้ยงบ้าง       

      

    @BNT Property


    “ค่ะ ขอบคุณที่ไว้ใจร่วมงานกับเรานะคะ คุณพิบูลย์” น้ำทิพย์พูดก่อนจะระบายยิ้มให้กับคู่สนทนา

    “ครับ ยินดีที่ได้ร่วมงานนะครับ ไว้โครงการเริ่มเมื่อไรทางเราจะติดต่อให้คุณเข้าไปดูอีกทีนะครับ” คุณพิบูลย์พูดก่อนจะส่งเอกสารรายละเอียดโครงการโรงแรมเฟสใหม่ที่จะดำเนินการในอีกสองถึงสามอาทิตย์ที่จะถึงนี้

    “ค่ะ ไว้พบกันค่ะ” น้ำทิพย์พูดแล้วยกมือยื่นไปทางด้านหน้าของตน อีกคนเห็นแบบนั้นจึงยกมือมาสัมผัสตอบ

    “ครับ ผมขอตัวนะครับ”คุณพิบูลย์พูดพลางรีบเดินออกไป

    “เหนื่อยอีกแล้วสินะครับ งานนี้” ธนัทพูดเมื่ออยู่กันเพียงสองคน

    “นั่นสิ  นี่ติดต่อบริษัทรับเหมาหรือยัง โปรเจคใหญ่แน่”น้ำทิพย์พูดแล้วทำหน้าเหนื่อยใจ ก่อนจะลุกแล้วเดินไปเข้าลิฟท์เพื่อทำงานต่อ  ธนัทจึงเดินตามไปก่อนจะพูดตอบ

    “ติดต่อไปสองบริษัทครับ มี เปรมกิจ กับ นิรัตน์ ครับ รอติดต่อกลับ” ธนัทพูดก่อนจะนึกได้ “คุณบีครับ  พรุ่งนี้จะมีเลขาคุณบีมาใหม่นะครับ  เอกสารรายละเอียดผมวางไว้บนโต๊ะแล้วนะครับ”

    “....อ่อ โอเค” น้ำทิพย์ตอบรับก่อนจะเดินออกจากลิฟท์เมื่อถึงชั้นที่ต้องการแล้วเข้าห้องของตนเองไป ก่อนจะพบแฟ้มวางไว้อย่างที่ธนัทบอกจริงๆ จึงเดินไปทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตัวนุ่มแล้วหยิบแฟ้มนั้นมาเปิดดู แล้วก็ต้องพบกับสิ่งที่แทบจะทำให้เธอไม่อยากจะอ่านต่อ  หน้าของคนในรูปแผ่นใหญ่ที่แนบมากับใบสมัครงานที่หน้าแรกตรงกับรูปคนที่อยู่ในกรอบบนโต๊ะทำงานของเธอทุกกระเบียดนิ้วผิดต่างกันตรงการแต่งหน้าและชุดที่สวมใส่เท่านั้นเอง

    ศิริน  หอวัง  .... ชื่อที่ปรากฏต่อมายิ่งทำให้น้ำทิพย์มั่นใจว่าไม่ใช่คนหน้าเหมือน แต่คือคนๆเดียวกับที่จากเธอไปโดยไม่บอกลาหรือบอกล่วงหน้าเลย ทิ้งให้เธอเจ็บเจียนตายอยู่คนเดียว ไปเสวยสุขกับทายาทคนรวยล้นฟ้าอย่างนายปรมะอะไรนั่น

    ...แล้ววันนี้เธอกลับมาทำไม ศิริน...

     น้ำทิพย์ได้แต่จมอยู่กับความสงสัยและเจ็บช้ำที่หายไปนานเริ่มจะกำเริบขึ้นอีกครั้งพร้อมกับมองรูปที่อยู่ในกรอบราวกับมันจะตอบเธอได้ เมื่อคิดไปคิดมาพาลจะพาให้ร้องเสียดื้อๆ  

    ...เป็นบ้าอะไร อย่าร้องนะ ผู้หญิงแบบนั้นไม่มีค่าพอให้แกเสียน้ำตาหรอกนะ หยุด! เขาก็แค่หมดเงินแล้วก็เท่านั้นเอง ถึงได้ซมซานกลับมาแบบนี้ .... 

    เมื่อคิดได้แบบนั้นจึงต่อสายหาเพื่อนรักเพราะรู้ว่ายังไงคืนนี้คงไม่สามารถนอนหลับได้อย่างเป็นสุขหรอกหากยังมีเรื่องกวนใจเธออยู่แบบนี้ รอสักพักปลายสายจึงขานรับ “แกน คืนนี้เจอกันที่เดิม บอกไอ้พลอยด้วย” พูดสั่งคนรับจบน้ำทิพย์ก็กดตัดสายแล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว...

     

    ศิรินนั่งอยู่กับเพื่อนจนได้เวลาที่ต้องไปรับพีท จึงของตัวกลับก่อนแล้วขึ้นแท็กซี่ไปยังโรงเรียนของลูกชายตน พาพีทกลับบ้านแล้วจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยจนใกล้ถึงเวลาที่นัดกับเพื่อนไว้จึงไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยเดรสสีดำมีผ้าลูกไม้บางช่วงเอวเน้นให้ดูมีทรวดทรงมากขึ้นแล้วไม่ลืมที่จะหยิบเสื้อคลุมสีดำไปเผื่อด้วย




     ตือดึ้ง! เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้น ศิรินหยิบขึ้นมาดู

    แก๊งคุณป้า (7)

    JT Nine11     มึงกูออกไปแล้วนะ    21.40

    NaNa 2B   มึงรีบเหรออีเจี๊ยบ   21.40

    JT Nine11  อะไรมึง กูจะมาจองโต๊ะ  21.41

    PPaula  ให้มันจริงนะ เจที  21.41

    JaneSu เออ มึงมันขาเลาะ จะไปสอยใครยะ  21.41

    WoonWiri อีเจี๊ยบตอบ! 21.42

    JT Nine11   พวกมึงมาเหอะเดี๋ยวก็เห็นเอง บายนะ ไปรับอิหมวยด้วย 21.42

    Ann  เออ อิคริส เสร็จยัง?  21.42

    21.42  กำลังจะเสร็จ กูไปแท็กซี่ได้มึง  Celine

    JaneSu มึงอย่าหมวย ไป ใครอยู่ใกล้ไปรับมันเลย 21.42 

    WooWiri  กำลังไปจ้า มารอหน้าบ้านเลย ถึงที่หมายอีก 3 นาที  21.43

    21.43  วุ้น!!!! Celine

    JaneSu  55555 21.43

    Ann   5555 ไวมากค่ะ เพื่อนวุ้น  21.43

    JT Nine11   มึงยอดมากค่ะ วิริ  21.44

    WoonWiri  ลงมาได้แล้วค่ะ อิหมวย  21.44

    21.44  แปปนึง  กูจะลงแล้ว  Celine

    เมื่อพิมพ์ข้อความเสร็จศิรินจึงรีบเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วสะพายไหล่ลงไปด้านล่าง ก็พบกับรถสีขาวของวิริฒิพาที่จอดอยู่ จึงเปิดประตูรถเข้าไปนั่งแล้วขับออกไป

    At. XXX Night Club

    เมื่อกลุ่มของศิรินเดินเข้ามาพาให้หนุ่มสาวในบริเวณนั้นหันมามองกันเป็นแถบ

    แน่นอนล่ะ เมื่อแต่ละคนจัดเต็มเว้าหน้าแหวกหลัง ผ่าสูง ซะขนาดนั้นใครจะไม่มอง

    แล้วพวกเธอก็พากันเดินไปที่โต๊ะที่อยู่ชิดกับบาร์นั่งดื่มชิลล์

    “แหม พวกมึงมากันซะพวกนั้นมองกันจนคอจะเคล็ดแล้วมั้ง” เจนี่ที่นั่งอยู่ก่อนทักขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนตนชัดๆก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปทางบาร์นั่งชิลล์ตั้งแต่ทางหน้าร้าน 

    “นิดนึง นานๆพวกกูจะได้มาเช็คเรตติ้งบ้าง” วิริฒิพาพูดขึ้นก่อนที่จะพากันนั่งลงบนโซฟาตัวยาวที่ถูกอกอกแบบให้โค้งเป็นครึ่งวงกลมให้มองเห็นหน้ากันได้สะดวก

    “จ้า  แม่คนงาน หนีสา มาได้เหรอ” เจนี่เอ่ยขึ้นเชิงหมั่นไส้

    “ไม่หนีค่ะ รุ่นนี้เค้าขอกันได้ยะ อิเจี๊ยบ” วุ้นเส้นตอบกลับ ก่อนจะหันไปสั่งบริกรที่เคาน์เตอร์บาร์ด้านหลัง “น้องค่ะ ขอ Flaming Dr.pepper โต๊ะนี้ด้วยนะ” ว่าแล้วก็ยักคิ้วให้บริกรหนุ่มเขินไปหนึ่งที

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ flaming dr. pepper 

    “มึงเปิดด้วยของแรงไปมั้ย อิวุ้น” นานา เอ่ยถามเมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนสั่ง

    “ไม่นี่ เอาน่า นานๆที” วุ้นเสินพูดก่อนจะโยกตัวไปตามจังหวะเพลง

    “ได้แล้วครับ” บริกรหนุ่มคนนั้นเดินมาพร้อมกับแก้วช็อตเล็กๆ 7 ใบ ก่อนจะวางเรียงบนโต๊ะแล้วจุดไฟลงทีละแก้วอย่างสวยงามเรียงเสียงวี๊ดว้ายจากสาวๆทั้งโต๊ะที่ไม่ว่าจะดื่มกี่ครั้งก็ยังคงตื่นเต้นอยู่ดี

    “สวยมากมึง! เอ้าๆๆ ชน!!” เจนี่พูดขึ้นแล้วยกแก้วของตนขึ้นไปยังกลางวง

    แกร๊ง!! เสียงแก้วช็อตชนกัน ก่อนจะแยกย้ายปจรดที่ริมฝีปากงามของสาวๆ

    “แด่งานของอิหมวย” ทุกคนประสานเสียงกันขึ้น แล้วพากันสั่งเครื่องดื่มมาวางไว้บนโต๊ะเมื่อแอลกอฮอล์ เข้าสู่กระแสเลือดในปริมาณที่มากพอสมควร ทุกคนก็เริ่มที่จะออกไปวางลวดลายบนฟลอร์หรือแม้แต่การเข้าไปขอใครสักคนมาร่วมเต้นด้วย เว้นแต่ศิรินกับพอลล่าที่ยังคนนั่งอยู่ที่โต๊ะ เพราะในจิตใจเธอมันว้าวุ่นกลัวว่าพีทจะตื่น จึงหาทางที่จะไปบอกกับเจนี่หรือวุ้นเส้นที่เต้นอยู่แต่เพื่อนเธอไม่ได้ยินเพราะเสียงเพลงที่กระหึ่มในสถานบันเทิงแบบนี้ทำให้ศิรินขยับตัวเข้าใกล้วิริฒิพามากขึ้นจนแทบจะแนบตัวกัน เมื่อได้ยินศิรินพูดแล้ววิริฒิพาจึงพยักหน้าเข้าใจ “ห้ายย กูไปส่งมั้ย”

    “เอ่อ ไม่ต้องหรอก กูบอกปั้นแล้ว” ศิรินตะโกนบอกก่อนจะเดินมารอข้อความจากปั้นจั่น เขาบอกเธอรออยู่ในนี้ยังปลอดภัยกว่าด้านนอก

    “ให้ไอไปส่งก็ได้นะ” พอลล่าพูดเมื่อศิรินเดินกลับมา

    “ถ้ายูไป ใครจะดูพวกมัน” ศิรินพูดแล้วชี้ไปยังกลุ่มเพื่อนของตน

    “โอ้วว โอเค” พอลล่าพูดแล้วหันไปสนใจเครื่องดื่มตรงหน้าต่อ


    ตื้อดึง!!

    PJPorama :   อยู่ไหน คริส   23.58


    เมื่อเห็นข้อความนั้นศิรินจึงรีบกดพิมพ์ตอบอกสถานที่ไป  สักพักปั้นจั่นก็มาถึงก่อนจะเดินไปยังโต๊ะที่ศิรินบอกแล้วพากลับไปส่งบ้าน ซึ่งทั้งหมดนั้นอยู่ในสายตาของคนตัวสูงที่กระดกแก้วเข้าปากอย่างไม่สนอะไรที่นั่งอยู่ทางด้านบนของสถานบันเทิงนี้

    มักมาก...อยากได้ทั้งชายและหญิง คำบรรยายที่น้ำทิพย์ให้กับอีกคนที่เค้ามองตั้งแต่เดินเข้ามาด้านใน แหงละ น้ำทิพย์จำเพื่อนของศิรินได้ดีเพราะสนิทกันมาก  เมือเห็นอีกคนที่มารับเหมือนกับยิ่งตอกย้ำแผลใจของน้ำทิพย์ ยิ่งเห็นยิ่งยกแก้วขึ้นจรดริมฝีมากจนออร์แกนกับพลอยต้องรีบช่วยกันห้ามเมื่อน้ำทิพย์เริ่มจะไมไหวแล้วจึงพากันขึ้นรถคันสีเหลืองของออร์แกนกลับบ้าน พาเพื่อนคนเมาขึ้นรถไปด้วย

    “นี่ สรุปมันเรียกเรามาดูมันกินเนี่ยนะ” พลอยถามก่อนจะชี้นิ้วโป้งไปด้านหลัง

    “คงงั้น” ออร์แกนตอบก่อนจะหันกลับไปสนใจถนนด้านหน้า ก่อนจะรีบหันมาเมื่อได้ยินคนด้านหลังละเมออกมา

    จะกลับมาทำไมวะ  ฉันไม่รวยเหมือนเค้า ก็แค่เด็กคนนึงเท่านั้นเองไม่ใช่เหรอ จะกลับมาทำให้ตายกันไปข้างนึงเลยรึไงวะโครตไม่เข้าใจเลยวะ จะกลับมาทำร้ายกันไปถึงไหน ห้ะ คริส!!!’

    ชื่อตรงท้ายประโยคทำให้คนที่นั่งอยู่ด้านหน้าสองคนหันมาสบตากันโดยไม่ได้นัดหมาย ได้แต่ภาวนาว่าขออย่าใช่คนๆนั้นเลยนะ อย่าเป็น คริส หอวัง

     



    - ZanonZane -

     

    To be Continued


    ภาพประกอบ Flaming Dr.pepper : https://cdn.liquor.com/wp-content/uploads/2009/11/05151251/flaming-dr-pepper-shot.jpg

    ปล.อ่านแล้วสับสน ไม่เข้าใจ ติชม หรือพบคำผิดคอมเม้นท์บอกกันได้นะคะ

    ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×