คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : My name is Bee
My name is Bee
แช๊ะ! แช๊ะ!
เสียงกดชัดเตอร์ในมือของตากล้องประจำสำนักสื่อหรือสิ่งพิมพ์ต่างๆดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย
แสงแฟลชที่ตกกระทบเข้ากับดวงตาสีอัลอนด์ของร่างสูงโปร่งได้รูปที่พึ่งจะได้รับรางวัล
นักธุรกิจดาวรุ่ง ประจำปี มาหมาดๆ “ บี
น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ ” ใช่ นั่นคือชื่อของฉันเอง
เพิ่งจะบินมาถึง ยังไม่ทันจะได้พักผ่อน มารับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ เหอะ!
มันก็แค่รางวัลตบตาประชาชนทั้งนั้น
เจ้าของงานไม่เห็นจะยินดียินร้ายกับผู้ที่ได้รับสักนิด แน่ละ
ตอนที่ฉันเข้ามาบริหาร BNT Property แรกๆใครๆก็ว่าไปไม่รอดหรอก คำดูถูกสารพัดที่ออกมาจากปากเหล่าบรรดาไฮโซพวกนี้
แต่พอฉันผ่านมาได้กลับกลายมาสนิทรู้จักฉันกันทั้งนั้น
“ ดีใจด้วยนะคะ บี ”
เสียงที่ดังมาจากทางด้านหลังเรียกความสนใจจากเจ้าของชื่อที่ถูกเรียกให้หันกลับไปมอง
บี หันกลับไปก่อนจะเห็นหน้าของผู้เรียกชัดๆแล้วจึงยิ้มรับก่อนจะพูดขึ้น “อ้าว เมย์
ขอบคุณนะ”
พร้อมกับรับช่อดอกไม้จากมือของคู่สนทนามาไว้กับตน เมย์ หรือ พิชญ์นาฏ
ลูกสาวท่านพัฒวงษ์ เจ้าของบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ของวงการ
“ ค่ะ
ยินดีด้วยนะ ปีที่สองแล้วนี่ เก่งไม่เบานะคะ ท่านประธานบี ” พิชญ์นาฏพูดขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในระยะที่ใกล้พอที่บีจะได้ยิน พร้อมกับยกแขนขึ้นคล้องแขนอีกคน
ท่ามกลางกล้องนับสิบตัวในบริเวณนั้น
“ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ” บีเอ่ยขึ้นพร้อมกับระบายยิ้มบางๆให้กับร่างบางข้างตัวก่อนที่ทั้งคู่จะหันกลับไปมองที่กล้องเพื่อให้ได้รูปที่สวยที่สุด
ก่อนจะมีเสียงจากบุคคลในกลุ่มกล้องดังขึ้น
“ คุณเมย์มาแสดงความยินดีแบบนี้
พวกพี่พลาดข่าวอะไรไปหรือเปล่าครับเนี่ย”
พูดจบก็ยื่นไมค์ไปให้ทั้งคู่เพื่อรอฟังคำตอบ
“ หื้มม พลาดอะไรเหรอคะ
เมย์ก็แค่มาแสดงความยินดีกับ เพื่อนที่สนิทที่สุดในตอนนี้ แค่นั้นเองค่ะ”
พิชญ์นาฏตอบออกมาก่อนจะยิ้มให้กล้อง แล้วหันมาหาคนสนับสนุนคำพูดของตน “ ใช่มั้ยคะ บี ”
ว่าจบก็ช้อนสายตาขึ้นมองคนที่สูงกว่าตนด้วยแววตาที่คนที่อยู่ในพื้นที่ต่างพากันอมยิ้ม
และรีบกดชัตเตอร์มือเป็นระวิง
ได้ข่าวไปเขียนแล้วโว้ย...
“ค่ะ ดีใจนะคะที่มา” บี
ตอบกลับรับคำอีกคนแล้วหันไปยิ้มให้กล้องอีกครั้ง
“คุณบีครับ
ได้รับรางวัลนี้สองปีซ้อนแล้วรู้สึกยังไงบ้างครับ?” นักข่าวคนใหม่ถามขึ้น
“ก็เหมือนเดิมค่ะ ตื่นเต้นน้อยลง
และจะพยายามทำงานให้หนักขึ้นค่ะ”
ร่างสูงตอบอย่างฉะฉานและฉายแววความมุ่งมั่นในแววตา
“ครับ ทำงานหนักขนาดนี้
เมื่อไรจะมีคนมาคอยช่วยแบ่งเบาสักทีละครับ?” นักข่าวอีกคนถามเสริมขึ้นมา
“...” ก่อนที่บีจะได้ตอบก็มีเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมา
“ เอ...รึว่า มีอยู่แล้วเหรอครับ” พร้อมกับมองบีกับเมย์สลับกันไปมา
“ยังหรอกค่ะ บียังไม่อยากให้มีอะไรสำคัญไปมากกว่างานกับบริษัทของบี”
ร่างสูงตอบออกไปอย่างแน่วแน่ เป็นผลให้พิชญ์นาฏแทบจะปล่อยมือออกจากแขนของอีกคนทันที
“โอเคๆ ครับ ขอบคุณ คุณบีมากนะครับ ยินดีกับรางวัลด้วยครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับการเริ่มสลายตัวของนักข่าวและตากล้องจากสำนักข่าวต่างๆที่ทะยอยเดินออกไป
“บี เหนื่อยมั้ยคะ กลับบ้านเลยมั้ย”
เมย์ถามขึ้นเมื่ออยู่กันเพียงสองคนแล้ว
“อีกแปปนึง คงกลับแล้วล่ะ เมย์ล่ะ” ร่างสูงที่ถูกถามเอ่ยตอบก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“กลับด้วยได้มั้ยคะ?” อีกคนตอบพร้อมกับเอนศีรษะลงกับไหล่ของร่างสูง
“ได้สิ เดี๋ยวบีไปส่งที่โต๊ะคุณลุง” บี
ตอบก่อนจะทำท่าจะเดินไปทางโต๊ะของคุณพัฒวงษ์จริงๆ
“ไม่สิคะ..” เมย์
เอ่ยขึ้นพร้อมกับรั้งแขนของอีกคนพลางสบตาสื่อความนัย
“ทำไมคะ ก็เมย์จะกลับแล้วนี่” คนถูกรั้งตอบยียวนทั้งๆที่รู้ความหมายดี
“เมย์ หมายถึง...กลับพร้อมบี รถบี ...” เมย์ยังพูดไม่ทันจบ
บีก็ขัดขึ้น “บ้าน บี...” พูดจบก็ยกยิ้มขึ้นมุมปากพร้อมกับสายตาแพรวพราวใส่อีกคน
“รู้ดี ... “ เมย์พูดขึ้นพร้อมกับส่งสายตาร้อนแรงสบตากับร่างสูง ก่อนจะพากันเดินไปที่ลานจอดรถของโรงแรมที่เป็นสถานที่จัดงานเดินไปจนถึงลานจอด VIP ของห้างก็พบกับ Bentley exp10 speed 6 รถที่บีใช้ขับมางานวันนี้ เจ้าของรถกดปลดล็อกประตูพร้อมกับเดินไปหน้ารถเพื่อเก็บดอกไม้ไว้ในนั้น
Bentley Speed 6
ก่อนจะเดินวนไปเปิดประตูฝั่งคนนั่งให้หญิงสาวคนสวยที่เดินมาด้วย
แล้วจึงเดินไปเปิดฝั่งคนขับก่อนจะสตาร์ทรถและขับออกไป
รถแล่นมาสักพักก็เจอเข้ากับไฟจราจรสีแดงสว่างพร้อมกับแสดงเวลา 160
ให้ตายเถอะติดนานขนาดนั้นเชียว
ทางแยก 5 แยก ขอบคุณ
บีค่อยๆผ่อนความเร็วลงจนกระทั่งรถนิ่งแล้วถึงหันมาหาบุคคลที่นั่งโดยสารมาด้วย
“บีคะ” เมย์ เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบบนรถ
“คะ”
บีตอบรับพร้อมกับสบตากับอีกคนแล้วยกยิ้มมุมปากขึ้น
“น่าเบื่อจะตาย พนันกันมั้ย ฆ่าเวลา” เมย์พูดขึ้น
“พนันอะไรคะ?”
บี ตอบพร้อมกับแสดงสีหน้าอยากรู้
“หัวก้อยค่ะ” เมย์พูดพลางหยิบเหรียญออกมาจากกระเป๋าถือใบหรู
“หืมม ชวนบีพนันหัวก้อยนี่นะ”
บีถามขึ้นเมื่อได้รับรู้อุปกรณ์ในการพนันครั้งนี้
“น่าสนใจตรงรางวัลคนชนะมากกว่าค่ะ” เมย์พูดพลางโน้มตัวไปใกล้ร่างสูง
“ไม่สนเหรอคะ บี” พูดขึ้นพลางใช้นิ้วมือเกลี่ยปกเสื้อเชิ้ตของอีกคนเล่น
“ถ้าชนะ บีได้อะไร” คนถูกท้าเริ่มสนใจก่อนจะหันมาหาอีกคน
ส่งผลให้หน้าทั้งคู่อยู่ห่างกันเพียงกระดาษกั้น
“ ได้ทุกอย่างที่บีต้องการจากเมย์ คืนนี้”
คนถูกถามตอบพร้อมกับลดเสียงลงให้แหบเย้ายวนมากขึ้น
“และในทางกลับกัน ถ้าเมย์ชนะ เมย์จะได้ทุกอย่างจากบี... "" ”....ทั้งคืน”
บีทำท่าคิดอยู่ซักพักก่อนจะ ... “ดีล”
เมย์ได้ยินคำตอบที่พอใจก็ย้ยตัวเองกลับมานั่งที่เดิมก่อนจะถามอีกคน
“บีเลือกอะไรคะ หัว หรือ ก้อย”
“หัว”
เมย์เริ่มโยนเหรียญขึ้นแล้วรีบปะกบมือลง
ก่อนจะแบมือออก
“หัว” เมย์พูด คำนั้นทำให้บียิ้มขึ้นก่อนจะพูดอย่างผู้ชนะ “ตามใจบี ...”
“ 2
ใน 3” เมย์ชิงขัดขึ้นก่อน
“อ้าว! เมื่อกี้ไม่เห็นบอกก่อนเลย” คนตัวสูงโวยวาย
“เมย์เพิ่มแล้ว ไม่สนค่ะ” อีกคนพูดตอบกลับมาอย่างเอาแต่ใจ
“ทำไมล่ะคะ ไม่อยากตามใจบีเหรอ หืมม” บีแกล้งปล่อยมือจากพวงมาลัยมาจับมืออีกคนแล้วเกลี่ยหลังมือเบาๆไปมา
“อะไรที่ได้ง่ายๆ จะตื่นเต้นเหรอคะ” เมย์พูดแล้วจับมือบีไว้ก่อนจะยกมันขึ้นมาจุมพิตที่ปลายนิ้วเบาๆ
“หรือว่าบี..ไม่อยากตื่นเต้น เมย์โอเคนะ”
“โอเคๆ 2 ใน
3 ก็ได้คะ” บีพูดพร้อมกับขยับมือของตนออกจากปากอีกคน
“หัว หรือ ก้อยคะ”
“ต้องเลือกใหม่ด้วยเหรอคะ”
“อะไรที่ซ้ำซาก น่าเบื่อจะตาย เลือกมาค่ะ”
“งั้น..ก้อยก็ได้ค่ะ คนสวย”
เมย์ได้ยินดังนั้นก็โยนขึ้นแล้วใช้มือทับไว้ ก่อนจะยกมือออกมาดูผล “หัวค่ะ 1 ต่อ 1” “ต่อไปเมย์ขอก้อยละกัน”
กริ้ง!
พรึ่บ
“หัว”
เสียงที่ดังขึ้นก่อนที่เมย์จะได้ดูเหรียญในมือตัวเอง ต้นเสียงมาจากคนที่นั่งข้างกันที่ชะโงกหน้ามาดูทันที เพราะมาถึงคอนโดพอดี
“บีชนะ 2 ต่อ
1" บีพูดแล้วเปิดประตูลงจากรถก่อนจะเดินอ้อมไปเปิดประตูให้อีกคนที่ทำหน้างออยู่ให้ลงมาก่อนจะพากันเดินเข้าลิฟท์ขึ้นไปชั้นบนสุดของคอนโดนี้
ห้อง GBP100
! ติ๊ด !
เสียงคีย์การ์ดแตะ เพื่อเปิดประตูก่อนที่พิชญ์นาฏจะเดินนำเข้าไปแล้วทิ้งตัวลงที่โซฟากลางห้องอย่างแรงพร้อมยกแขนขึ้นมากอดอก
“งอนบีทำไมคะ หืมม” บีว่าพลางเดินไปนั่งข้างๆแล้วโอบอีกคนเข้ามาในวงแขน
“ตามใจบีแล้วไม่ดีเหรอคะ”
“ไม่ใช่ค่ะ
แต่ทุกครั้งเมย์ก็แพ้ตลอดอยากชนะแล้วตามใจเมย์บ้าง” พิชญ์นาฏพูดขึ้นแล้วเงยหน้าสบตากับอีกคน
“แล้วที่บีทำ ไม่ตามใจเมย์เหรอคะ
บีทำตามแต่คำสั่งของเมย์เลยนะ ตรงนี้ ตรงนั้น บีไม่เห็นเคยทำตามใจบีเลย”
บีว่าพลางยกอีกคนให้นั่งคร่อมบนตักตัวเอง
“ก็...บีชอบเอาแต่ใจตัวเอง” เมย์พูดแล้วซบลงบนไหล่กว้างของคนที่อยู่ตรงหน้า
“ยังไงคะ?” บีทำหน้าไขสือใส่ให้พิชญ์นาฏได้หมั่นเขี้ยว
“ไม่พอ เมย์บอกให้พอก็ไม่พอสักที” เมย์เอ่ยขึ้นเสียงแข็ง
“ฮึ ที่บีเป็นแบบนั้นเพราะเมย์นี่คะ บีไม่ผิดซักหน่อย ไม่อยากพูดแล้ว...” น้ำทิพย์ว่าแล้วก็กดจูบหนักๆลงไปที่ริมฝีปากบางของอีกคนก่อนจะค่อยๆทวีความร้อนแรงขึ้น เสื้อผ้าชุดราตรีสวยบนตัวของพิชญ์นาฏค่อยๆหลุดออกตามแรงพายุรักที่โหมกระหน่ำลง เสื้อสูทสีดำบนตัวน้ำทิพย์เช่นกันถูกพิชญ์นาฏถอดเหวี่ยงออกไปทางด้านหลังโซฟาก่อนจะตามด้วยมือเรียวที่ค่อยๆไล่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตทีละเม็ด....
ตัดภาพไปที่โคมไฟ
ทุกพื้นที่ในคอนโดของน้ำทิพย์ไม่มีทีไหนที่ทั้งคู่ไม่ไปถึง ไม่ว่าจะโซฟา เคาน์เตอร์ครัว โต๊ะทานข้าว ห้องน้ำ ห้องนอนหรือแม้แต่ระเบียง
ดังคำของพิชญ์นาฏ “อะไรที่ซ้ำซาก น่าเบื่อ”
ก็ต้องทำให้ไม่เบื่อสินะ
เช้าวันรุ่งขึ้น
!ติ๊ด!
เสียงคีย์การ์ดกระทบกับตัวสแกนดังขึ้นพร้อมกับประตูที่เปิดออก
ร่างสมส่วนที่แขนมีเสื้อกาวน์พาดไว้ก้าวเข้ามาก่อนจะเปลี่ยนรองเท้าจากคัทชูส้นสูงเป็นสลิปเปอร์คู่บาง
แล้วเดินไปวางกระเป๋าเอกสารที่โซฟากลับเหยียบเข้ากับอะไรบางอย่างก่อนจะก้มดูพบเป็นแพนตี้ลายลูกไม้สีแดง
“อะไรวะเนี่ย!!!”
“แกจะเสียงดังทำไม พลอย” เสียงดังมาจากในครัวที่มีคนตัวสูงตัดผมประบ่ายืนทำอาหารอยู่ตะโกนถาม
“แกน ของใครวะ”
คนถูกเรียกว่าพลอยถามขึ้นพลางชี้ลงไปที่ชิ้นส่วนต้นเหตุที่ทำให้เธอตะโกนออกมา
“ไม่ใช่มึง ไม่ใช่กู เหลือใครล่ะ?” คนที่ถูกเรียกว่า แกน ตอบอย่างยียวนกวนประสาท “กูเจอเยอะกว่ามึง กูยังไม่โวยวายเท่ามึงเลยนะพลอย”
“มึงเจออะไร หนักกว่านี้ก็คงเห็นเต็มๆสองตาแล้วละ”
“หนักกว่านั้น”
“อะไรวะ”
“พวกมันทิ้งคราบไว้บนเคาน์เตอร์ครัว”
“บี ...มันพาใครมาวะ กูบอกแล้วว่าอย่าพามาที่นี่” พลอยพูดขึ้น ก่อนจะถามอีกคน
“แล้วนี่มึงนึกครึ้มอะไร มาทำกับข้าวแต่เช้า” ว่าพลางเดินเข้าไปในครัว
“ก็เห็นตารางงานมึง เข้าเวรดึก ก็เลยตื่นมาทำให้
มึงคงไม่ได้กินไรมา” ออร์แกนตอบอย่างลื่นไหล
“เอาความจริง
เตรียมไว้ซะดีเชียวนะมึง” พลอยพูดพลางเดินไปรินน้ำใส่แก้วดื่ม “แต่นับว่าทายถูก หิวจะตายแล้ว ตอนเนี้ย”
“อะไรของมึง กูพูดจริง”
“มึงโกหก”
“จริง”
“โกหก”
“กูพูดจริงๆพลอย”
“มึงโกหกกู อิแกน น้องคนนั้น”
“คนไหน??” ออร์แกนถามพลางหันมายืนเท้าเอวมองหน้าพลอย
“เด็กฝึกงานที่ช่วงนี้มึงประคบประหงมอย่างดี”
พลอยตอบแล้วเดินไปยกตัวขึ้นไปนั่งบนโต๊ะทานข้าว
“มึงมั่ว” ออร์แกนพูดแล้วหันหน้าหนี
“กูเห็นน้องเค้าที่โรงพยาบาล
ทำไมกูต้องมั่ว”พลอยถามพลางเท้าแขนลงกับโต๊ะ ก่อนจะ.. "อะไรวะเนี่ย!!!
WTF”
“ฮ่าฮ่าฮ่า นั่นแหละสิ่งที่กูเจอ” ออร์แกนหัวเราะและชี้ไปที่มือพลอยที่เปื้อนด้วยน้ำสีใส
“เชี่ยบี!!!
มึงตื่นเถอะ คอยดู” พลอยพูดคาดโทษเพื่อนตัวดีที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร แล้วเดินไปล้างมือ
“วันนี้มึงจะเจอน้องคนนั้นมั้ย” พลอยถามออร์แกน
“ทำไมอ่ะ มีอะไร”ออร์แกนถามกลับพลางคิด
กูว่ากูรอดแล้วนะ
“จะฝากบอกว่าย้ายแม่ไปห้องพักฟื้นแล้ว
เดี๋ยวไปหาจะไม่เจอ โทรไปก็ไม่รับสาย ”พลอยพูดพลางเช็ดมือไปด้วย
ก่อนจะเดินไปหยิบจานที่ออร์แกนตักแยกไว้ให้แล้ว “แล้วก็ขอบคุณนะคะ คุณแม่ออร์แกน” พูดจบทำท่าจะเข้าไปกอดและยื่นปากไปจะจุ๊บ
“ใครแม่มึง เดี๋ยวเหอะ ไปไกลๆตีน” ออร์แกนพูดก่อนจะตักข้าวผัดอย่างง่ายใส่ปิ่นโตแยกไว้
พร้อมกับยกมือซ้ายยันหน้าเพื่อนจอมกวนออกไปไกลๆ
“โธ่ คุณแม่แกนก็โหดร้ายกับลูกพลอยตลอดเลยนะคะ”
พลอยยังคงพูดจากวนออร์แกนต่อไป จนได้ยินเสียงฝีเท้าก้าวใกล้เข้ามาในโซนครัว
ก่อนจะปรากฏเพื่อนร่วมห้องตัวสูงเจ้าของเหตุการณ์ที่ตัวเธอพบเจอในเช้านี้กำลังเดินขยี้ตาเข้ามา
“ใครทำอะไรกินวะ โครตหอม” ร่างสูงของบีกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับทำจมูกฟุดฟิดไปมา
“ข้าวผัด กูทำ ไม่มีของมึง”
ออร์แกนตอบเพื่อนรักของตน
“อ้าว ไมอ่ะ ของไอพลอยก็มี ทำไมของน้องบีไม่มีล่ะคะแม่แกน”
บีพูดขึ้นพร้อมกับส่งสายตาอ้อนๆไปให้กับออร์แกน
“กูคิดว่ามึงน่าจะอิ่มแล้วนะ” คนถูกถามตอบกลับไป
“อิ่มที่ไหน
ข้าวยังไม่ตกถึงท้องตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
“อ้าว ก็กูคิดว่ามึงกินทั้งคืนแล้วซะอีก”
“.....กูขอโทษ”
“ไม่ต้องเลย พวกกูบอกมึงแล้วอย่าพาใครขึ้นมา คอนโดมึงก็มีไม่ไปวะ” พลอยเอ่ยขึ้นพลางจ้องหน้าบีขณะที่ตักข้าวเข้าปากไปด้วย
“เออๆ กูสัญญามันจะไม่มีครั้งที่สอง
แต่ตอนนี้กูขอกินด้วยดิ พลอย หิวว”
คนตัวสูงที่มีชะงักติดหลังเอ่ยขึ้นพลางเดินไปหยิบช้อนมา
“ไม่ต้องขอหรอกมั้ง ถ้ามึงจะหยิบช้อนขนาดนั้น
อิบี” ออร์แกนพูดพลางชี้ไปที่มือของคนที่ถูกกล่าวถึง
“กูขอพอเป็นมารยาท ถึงมันจะตอบว่าไม่
กูก็จะกินอยู่ดี”
บีพูดจบก็ลงมือกินข้าวในจานของพลอยที่พร่องไปเพียงครึ่งจาน
“มึงพาใครมา?”
ประโยคคำถามหลุดออกจากปากคนเจ้าระเบียบอย่างออร์แกน
บีเงยหน้าสบตากับคนถามก่อนจะเอ่ยคำตอบ
“ก็...เมย์”
“เมย์?? เมย์ไหนวะ”
พลอยถามพลางทำหน้าฉงน
“เมย์ พิชญ์นาฏ ลูกท่านพัฒวงษ์” บีตอบแล้วก้มหน้าจัดการอาหารตรงหน้าต่อ
“เชี่ยบี มึงหาเรื่องอยู่ยากรึไง”
“อะไร อยู่ยากอะไร
“ก็บริษัทพ่อเค้า คือ SK
Ent. สื่อยักษ์ใหญ่นี่นะ”
“ทำไมอ่ะ
เค้ากับกูต่างคนก็ไม่ได้คิดจะอะไรอยู่แล้วป่ะ วินวิน”
“แล้วเค้าคิดเหมือนมึงมั้ย”
“ก็....”
“คิดค่ะ”
เสียงที่แทรกขึ้นมาพร้อมกับร่างสมส่วนของคนที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ เรียกให้ทั้งสามคนหันไปมอง
“เหมือนจะพูดถึงเมย์อยู่นะคะ” พิชญ์นาฏยกยิ้มก่อนจะเดินเข้ามาหาคนที่อยู่กับเธอทั้งคืน แล้วนั่งลงบนตักทันที
“เอ่อ...ค่ะ”
“เมย์นี่ ออร์แกน เมย์คงรู้จักอยู่นะ”
บีกล่าวขึ้นทำลายความเงียบพร้อมกับผายมือไปยังคนที่ยืนพิงเคาน์เตอร์ครัวอยู่
“ค่ะ ทำไมจะไม่รู้ล่ะคะ คุณออร์แกน ราศี
ประธานบริษัทอัญมณี ที่โด่งดังขนาดนั้น” พิชญ์นาฏพูดแล้วส่งยิ้มให้กับเจ้าของชื่อ
“เกินไปค่ะ ยังไม่ดังขนาดนั้น”
ออร์แกนเอ่ยตอบพร้อมกับส่ายศีรษะไปมา
“ยินดีที่ได้รู้จักย่างเป็นทางการนะคะ”
เมย์พูดพร้อมกับยื่นมือไปเพื่อเช็คแฮนด์กับอีกคน ออร์แกนก็ตอบรับด้วยดี
“ส่วนนี่พลอยค่ะ พลอย
เฌอมาลย์” บีพูดแล้วชี้นิ้วไปทางซ้ายของตน เมย์หันไปตามทางที่คนเป็นเก้าอี้จำเป็นของเธอชี้
“สวัสดีค่ะ คุณพลอย”
“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” พลอย
พูดกอนจะระบายยิ้มบางๆส่งไปให้
“ค่ะ เช่นกัน”
เมย์พูดแล้วทำเหมือนกับที่ทำกับออร์แกน
“เมย์ จะกลับเลยมั้ยคะ เดี๋ยวบีไปส่ง”
น้ำทิพย์ถามคนบนตัก
“ค่ะ เดี๋ยวเมย์ไปอาบน้ำก่อนนะ รอเดี๋ยวเดียวค่ะ
จุ้บ” พิชญ์นาฏพูดพร้อมกับยื่นปากไปสัมผัสกับแก้มของอีกคนแล้วลุกเดินไปเข้าห้องน้ำในห้องของบีที่เค้าได้บอกเธอไว้
“บี” เสียงประสานของเพื่อนทั้งสองทำให้น้ำทิพย์รีบยกมือขึ้นขนาบศีรษะอย่างยอมแพ้
ก่อนจะเอ่ยออกไป “เออๆ แค่ครั้งนี้ กูสัญญา”
“ให้เรียบร้อย” เสียงของเพื่อนหมออย่างพลอยกล่าวขึ้นเรียบๆ
“ถ้ากูไม่ตื่นก่อน ถ้าคนที่ตื่นเป็นเค้า จะแย่เอา
ถึงเค้าจะนอนกับมึง แต่บริษัทพ่อเค้าไม่ได้นอน ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา
มันจะไม่สนุกอย่างที่มึงคิด” ออร์แกนพูดยาวพร้อมกับสบตากับอีกคนให้รู้ว่าเขาจริงจัง
“กูรู้ โอเค มันจะไม่มีอีก” บีเข้าใจเพื่อนทั้งสองคนว่าทำไมต้องเตือนเธอและมีกฎในการอยู่ร่วมกันบนเพนท์เฮาส์โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวที่เธอทั้งสามคนเป็นเจ้าของ และอุตส่าห์ลงแรงรวมหัวรีโนเวท
ย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน ช่วงที่ วัชร ไดมอนด์ปรับเปลี่ยนมือผู้บริหาร มาเป็นออร์แกนราศี เพื่อนของเธอ
“แกน มึงเป็นไร” น้ำทิพย์ที่เพิ่งกลับถึงห้อง ถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเธอนั่งเหม่อมือกุมศีรษะอยู่ที่โต๊ะทานข้าวหันหน้ามาทางประตู
มีเอกสารกระจัดกระจายอยู่ตรงหน้าทั้งงานออกแบบ คำอธิบายแบบ และอะไรมากมายอยู่บนโต๊ะ
“...บี กูโดนลอกแบบ” ออร์แกนพูดตอบกลับพร้อมกับก้มหน้าฟุบลงกับโต๊ะ
“เฮ้ย!! ได้ไง
กูก็เห็นมึงนั่งทำอยู่ที่นี่ แบบก็เก็บไว้ที่นี่ มึงไม่เคยยกไปไหน
มันจะโดนก็อบได้ไงวะ” บี กล่าวขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปหาเพื่อนของตน
พลางยกกระดาษตรงหน้าเพื่อเธอขึ้นมา ก่อนจะพบแบบที่เหมือนกันอย่างกับแกะ
แตกต่างกันเพียงชื่อของผู้เขียนแบบและกระดาษใบที่ไม่ใช่ชื่อเพื่อนเธอมีวันเวลาเสนอขึ้นสายผลิตแล้วเรียบร้อย
“...นั่นก็เป็นสิ่งที่กูกำลังคิดนี่ละ
แต่กูก็คิดไม่ออกไง!! เพราะทั้งห้องมีแค่มึง กู
แล้วก็ไอพลอยที่เข้าออกประจำ แล้วกูไม่เห็นว่าพวกมึงจะต้องเอาแบบกูไปขายด้วย!!” ออร์แกนพูดทั้งน้ำตาแล้วตบโต๊ะเสียงดัง ปัง!!!
“นั่นสิ กูจะเอาไปทำไม แต่เดี๋ยว...”บี
พูดขึ้นก่อนจะเว้นช่วงเมื่อนึกอะไรบางอย่างออกแล้วมองหน้ากันกับอีกคนก็พบว่าออร์แกนมองตนอยู่ก่อนแล้ว
ก่อนพูดออกมาพร้อมกัน “...เดียร์”
เดียร์ หรือ เดียร์น่า ฟลีโป คนรักของออร์แกนในขณะนั้น ที่มีฐานะเป็นลูกของประธาน FL Group บริษัทจัดการด้านสื่อสารมวลชน ซึ่งเป็นการคบกันที่รู้ในวงแคบๆ เพราะพ่อแม่ทางฝั่งของเดียร์น่า ไม่ยอมรับในการที่ลูกสาวจะคบผู้หญิงด้วยกัน
ออร์แกนรักเดียร์น่ามาก ยอมทุกอย่างจนเพื่อนๆทั้งพลอย บีและรุ่นน้องที่สนิทกัน ก็พากันแซวว่า แกนกลัวเมียกันหมด และไว้ใจถึงขั้นพาเข้าในห้องที่พวกเธอสามคนรวมเงินกันซื้อไว้และลงทุนรีโนเวทใหม่หมดคือจัดการให้มีโซนครัว โซนพักผ่อน ห้องทำงาน และแยกห้องนอนออกเป็น 3 ห้องเหมือนเป็นคอนโดใครคอนโดมันที่อยู่รวมกัน เพื่อความเป็นส่วนตัว
แต่แล้วความไว้ใจนั้นพังลง เมื่อเพื่อนของเธอสืบจนพบตัวคนที่ขโมยแบบไปขายให้กับคู่แข่ง
คือ คนที่เธอไว้ใจ ที่ใช้ความไว้ใจของเธอเป็นช่องทางในการหยิบของๆเธอไป ในวันที่มาห้อง กล้องวงจรปิดที่ติดไว้ในห้องทำงานของทั้งสามคน
เผยให้เห็นว่าวันนั้นเป็นวันที่ออร์แกนพาเดียร์น่ามาค้าง
พอถึงเช้าวันรุ่งขึ้นเดียร์น่าตื่นก่อนออร์แกนเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมงเพื่อค้นหาแบบที่อยู่ในห้องทำงาน
รื้อและเก็บไว้ที่เดิม เมื่อยังไม่พบสิ่งที่ต้องการ รื้อหาไปซักพักก็เจออยู่ที่ด้านหลังเก้าอี้ทำงานของออร์แกน ที่มักจะถ่ายเอกสารแบบไว้เพื่อจะนำไปเสนอให้ทางคณะกรรมการตัดสินใจว่าจะขึ้นสายผลิตดีหรือไม่
พอได้ของที่ต้องการก็จัดการนำไปเก็บใส่กระเป๋าถือของตนก่อนจะพิมพ์ข้อความส่งให้ใครบางคน
แล้วยังมีเวลาพอที่จะตรวจสอบความเรียบร้อยในห้องทำงาน
แล้วจึงออกไปเตรียมอาหารเช้าไว้ให้คนที่กำลังหลับสบายโดยไม่รู้อะไร
เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ทั้งสามทำข้อตกลงร่วมกันว่าจะไม่พาใครขึ้นมาที่นี่เด็ดขาด
เพราะฉะนั้นน้ำทิพย์จึงเข้าใจและไม่โกรธที่เพื่อนทั้งสองจะไม่พอใจเธอในครั้งนี้
กลับกันอยากจะขอบคุณซะมากกว่าที่ช่วยเตือนสติ
“งั้นกูรีบไปส่งเค้าก่อนละกัน
พวกมึงก็รีบอาบน้ำล่ะ เดี๋ยวไปทำงานสาย โดนไล่ออกกูไม่รู้ด้วยล่ะ”
บีพูดขึ้นพร้อมกับลุกเดินไปยังห้องของตนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
“มึงอาจลืมว่ากูเพิ่งออกเวรและไอแกนเป็นประธานบริษัทนะ
บี น้ำทิพย์!!!” พลอยตะโกนไล่หลังเพื่อนตัวสูงไป
To be continued...
._______________________________________________________________________________.
: Talk
เป็นงานเขียนครั้งแรก อ่านแล้วเป็นยังไงบ้างเอ่ย ติชมได้เลยจ้า มีจุดไหนที่ควรแก้ไขปรับปรุง หรือมีคำผิดเม้นบอกกันได้นะคะ
ไม่กัดนะ ฉีดยาแล้วจ้า แฮร่ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ
หนึ่งเม้น = สิบกำลังใจ..
- ZanonZane -
ความคิดเห็น