คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : คำถามที่ 3 : ทำไมจูบเธอคืดถึงเขา ?
3
แฮก แฮก แฮก !
โชคดีชะมัด !
เขานั่งหอบตัวโยนก่อนจะนั่งคิดในใจว่าคนที่สลบไปเป็นมิจิน ไม่ใช่เพื่อนคนอื่นๆ ไม่งั้นคงได้ลากแทนการอุ้มมา ต้องขอบใจพระเจ้าที่สร้างให้มิจินมีร่างกายที่เล็ก บางยังกับผู้หญิง ทำให้สะดวกต่อการพกพา เอ๊ย ! ต่อการขนย้าย เฮ้ย ! เออ เขาเรียกว่าไงนะ ช่างมันเถอะก็แล้วกัน --*--
เขาล่ะใจหล่นไปอยู่นิ้วหัวแม่เท้าเมื่อจู่ๆร่างบางของเจ้าเพื่อนรักก็ทรุดฮวบลงไป และถ้าเขาเข้าไปรับตัวมันช้ากว่านี้สักนิดนะ สาบานได้ว่าป่านนี้มันอยู่โรงพยาบาลแน่ๆ เพราะหัวมันอาจจะฟาดไปโดนหินที่โรงเรียนจัดวางไว้ริมทางก็เป็นได้
“เพื่อนของเธออาการดีแล้วจ้ะ เธอไปเรียนต่อได้แล้ว” อาจารย์สาวคนสวยผู้บอกกับเขาเบาๆแต่นัยน์ตาสีฟ้าคู่นั้นกลับฉายแววไล่เขาอย่างปิดไม่อยู่ หากแต่ในเวลาที่ทอดมองอีกบุรุษผู้อยู่บนเตียง มันกลับฉายแววห่วงใยหนักหนา เรือนผมสีน้ำตาลเข้มถูกมัดรวบสูงคล้ายทรงซามูไร
“แต่คาบต่อไปมันว่าง นี่ก็เกือบจะเลิกเรียนแล้ว อาจารย์ให้ผมอยู่เฝ้าเพื่อนผมเถอะนะ” พ่อสุภาพบุรุษสุดหล่อให้สายตาอ้อนวอน ส่งประกายปิ๊งๆไปให้อาจารย์สาว
ตอนแรกเธอทำท่าจะค้าน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มแบบนึกสนุกแล้วพยักหน้า
“ได้สิ งั้นฉันฝากปิดห้องพยาบาลด้วยนะ ไปละ” ทันทีที่ร่างสูงระหงส์คว้ากระเป๋าแล้วเดินออกไปจนพ้นระดับสายตาคู่สีดำแล้ว คนเดียวที่ยังมีสติอยู่ก็รีบลากเก้าอี้เข้ามาข้างเตียงของเพื่อนรัก
แต่ทันทีที่หย่อนก้นลงนั่งปุ๊บ เจ้าคนที่เคยหลับ(รึสลบ?)เงียบๆมานานก็เริ่มพึมพำออกมา
“แอบรัก...ใครจะเข้าใจ...การ...แอบรักคนๆนึง...” เสียงทุ้มพึมพำละเมอ มือเรียวยกขึ้นในอากาศเหมือนพร่ำเพ้อหาอะไรสักอย่าง เคียวขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่ชอบใจ
นี่สรุปว่าเพื่อนเขามันจะมีแฟนโดยไม่บอกเขาเหรอ
“ความสัมพันธ์...ไม่อยาก...ให้มันพัง...มิตร..ภาพ อยาก...อยากเก็บ...เอาไว้...”
“เฮือก ! เคียวคุง !!!” อยู่ๆร่างบางก็ลุกพรวดขึ้นมาก่อนจะทำหน้าตกใจอย่างแรงที่เห็นเขานั่งมองตาแป๋วอยู่ข้างเตียง
“ไง เป็นไงบ้าง”
“กะ...ก็ดี มะ...เมื่อกี้ฉันละเมออะไรบ้าง”
“ฮะๆ ฉันรู้หมดแล้วล่ะ”
“หา ! รู้หมดแล้ว งั้นเหรอ” ดวงตากลมโตเบิกขึ้นสุดขีด ใบหน้าหวานสวยค่อยๆเพิ่มสีแดงขึ้นเรื่อยๆจนสุกก่ำ
“ใช่ รู้หมดแล้วว่านายน่ะกำลังแอบรักใครโดยไม่บอกฉัน”
“หา ?” น้ำเสียงบอกความแปลกใจดังขึ้น ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวเหยเกอย่างงงๆ ก่อนจะหัวเราะร่วนออกมา
“สรุปว่าเคียวคุงรู้ว่าฉันชอบคนๆนึงใช่ไหม”
“ใช่ ทำไมเหรอ”
“เปล่าๆ ฮ่าๆๆ” แล้วเจ้าตัวก็ยังนั่งขำต่อ
“นายขำอะไร แต่ว่านะมิจิน นายชอบใครน่ะ รีบๆบอกเขาไปสิ ไม่งั้นอาจกินแห้วนะ ต้องดูอย่างฉันนี่ ถูกใจใครบอกว่าชอบไว้ก่อนเลย”
“จะ...จะให้บอกไปตรงๆเลยจะดีเหรอ --///--” อยู่ๆมิจินก็หยุดขำแล้วเปลี่ยนมาใช้น้ำเสียงจิงจัง
“ก็บอกไปสิว่านายชอบเธอคนนั้นมากแค่ไหน”
“มากที่สุดเลยล่ะ รักมานานแล้วด้วย” ยิ่งพูดใบหน้าหวานยิ่งแดง เพราะงั้นเลยยิ่งก้มต่ำหลบสายตาสีดำคู่สวยที่ทอดมองอย่าสงสัยและเอาใจช่วย
“เคียวคุง...เป็นเพลย์บอย คงไม่เข้าใจความรู้สึกของฉันหรอก เพราะฉันเกิดมามีหน้าตาเหมือนผู้หญิง และยัง...ไม่กล้าแม้แต่พูดคำว่ารัก”
“เขาคนนั้นเป็นเพื่อนของฉัน เพื่อนที่ฉันให้ความสำคัญมากที่สุด เรารู้จักกันมานานมาก” สมองของเคียวพยายามนึกแม้ยังคงตันเหมือนเดิม ผู้หญิงคนไหนนะที่รู้จักกับมิจินนานพอๆกับเขา (โง่ฉิบหาย)
“แต่เพราะเราเป็นเพื่อนกันมานาน ฉันก็เลยไม่กล้าที่จะพูดมันออกไป...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าใครคนนั้นจะรังเกียจ และทำให้ความสัมพันธ์ของเราต้องจบลง...” พูดถึงตรงนี้ ร่างบางเริ่มสั้นน้อยๆ เขาสังเกตเห็นน้ำหยดแล้วหยดเล่าได้หลั่งเทรดบนเตียงผู้ป่วย
“ฉันมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย (แล้วผู้ชายที่ไหนเขาชอบผู้ชายด้วยกันเล่า) ไม่กล้าแม้แต่จะพูดว่าฉันรักเขา และยิ่งฉันเห็นเขากำลังมีความสุขกับใครอีกคนหนึ่ง ฉันก็ยิ่งทำอะไรไม่ได้เลย” พูดถึงตรงนี้ ร่างบางชันเข่าขึ้นมาก่อนปล่อยโฮออกมา
เคียวตาค้าง เขาไม่เคยเห็นมิจินอ่อนแอและร้องไห้แบบนี้มาก่อน ร่างสูงกว่าพรวดขึ้นไปนั่งบนเตียงเดียวกันก่อนดึงร่างบางเข้ามากอดปลอบ มือใหญ่ลูบเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนเบาๆ
“เงียบนะ...นายอย่าร้องสิ สักวันหนึ่ง คนคนนั้นของนายจะต้องรู้ว่านายน่ะ รักเธอมากขนาดไหน เธอจะต้องรู้ ฉันเชื่ออย่างนั้น และคงไม่มีใครที่ไม่รักนายได้หรอก ในเมื่อนายเป็นคนดีขนาดนี้” แต่ยิ่งเขาปลอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลมากเท่าไหร่ ร่างบางที่เขาปลอบอยู่ก็ยิ่งร้องไห้มากขึ้นเท่านั้น มิจินร้องไห้สะอึกสะอื้นจนเขาเองก็สั่นไปด้วย
เขาไม่ชอบเลย เวลาที่เห็นเพื่อนที่เขารักที่สุดต้องมานั่งร้องไห้อย่างที่เขาไม่สามารถช่วยอะไรได้ มันทำให้เขารู้สึกเหมือนกับตัวเองไร้ค่า แค่เพื่อนสมัยเด็กยังปกป้องไม่ได้ แค่นี้ยังต้องทำให้เพื่อนทุกข์ใจ
เสื้อเชิ้ตนักเรียนสีขาวสะอาดตา บัดนี้เริ่มเปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำหยดแล้วหยดเล่าที่พรั่งพรูออกมาจากคนที่มีเรื่องปิดบังเอาไว้ในใจ
“มีสิ ทำไมจะไม่มีคนที่ไม่รักฉัน...ในเมื่อคนคนนั้นเห็นฉันเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่ง และไม่มีวันเป็นมากกว่านั้นได้เลย” เสียงนุ่มนั้นดังอู้อี้ เขาหัวเราะน้อยๆก่อนจะแกล้งประชด
“ในเมื่อรักผู้หญิงแล้วเขาไม่ชอบ งั้นหันมารักเพศเดียวกันเลยเป็นไง ก๊าก ฮ่าๆๆ” แต่อยู่ๆร่างในอ้อมแขนก็ค่อยๆเงยหน้า ช้อนนัยน์ตากลมโตที่เอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตาขึ้นมองเหมือนจะให้เขาเข้าใจความคิดของมิจินในตอนนี้ แต่คนโง่ก็ยังเป็นคนโง่ เขาไม่อาจรับรู้ถึงความรู้สึกของมิจินที่มีต่อเขาได้
เคียวใช้นัยน์ตาใสซื่อสีดำคมมองตอบ ก่อนที่ร่างบางจะรีบดีดตัวออกห่าง เมื่อรู้สึกตัวว่าตนเองถูกกอดปลอบมานานแล้ว
“ขอบใจมากนะเคียวคุง ฉันไม่เป็นไรแล้ว”
“เฮ้ เดี๋ยว นี่นายเป็นลมไปน่ะ เป็นอะไรเหรอ”
“โรคเก่าๆน่ะ โรคที่ตอนเด็กๆทำให้ฉันต้องออกกำลังกายเล็กน้อยแต่ต้องบ่อยๆ แล้วก็ห้ามคิดเรื่องกลุ้มใจ”
“อ๋อ ไอ้โรคบ้าๆนั่นที่นายชอบเป็นลมบ่อยๆตอนเด็กๆนั่น...แต่มันหายไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ” เคียวถามขึ้น มิจินยักไหล่ไม่รู้
ออดดดดดดด !
“เลิกเรียนแล้ว ป่านนี้รีนะจังคงรอนายอยู่นะ ไปสิ รีบไป ทำให้สาวๆรอเนี่ยไม่ดีเลย...” เสียงนุ่มพูดก่อนที่จะค้างไปเมื่อมือใหญ่เอื้อมเข้ามาปาดน้ำตาให้ก่อนที่เคียวจะสะบัดหัวตัวเองแรงๆหนึ่งทีแล้วคว้าป้าวิ่งออกมา ทิ้งให้คนป่วยนั่งนิ่งงันอยู่คนเดียว
บ้าจริง ! เมื่อกี้เขาคิดบ้าอะไรเนี่ย
ชั่ววูบหนึ่งที่เขาคิดว่ามิจินเป็นผู้หญิงและไม่ชอบเลยที่เห็นมันร้องไห้ ก็จริงที่เขาไม่ชอบให้ใครร้อง แต่จะว่าไปเขาไม่เห็นต้องกอดปลอบเลยนี่ แล้วไอ้ท่าทีเช็ดน้ำตาเหมือนเป็นพระเอกละครนี่มันอะไรเนี่ย !
“เคียวเป็นอะไรไปน่ะ” เสียงหวานถามขึ้น สาวน้อยผมสีทองนักวิ่งหญิงของโรงเรียนถามเขาด้วยนัยน์ตาสีเดียวกับเส้นผม ขณะที่ในมือของเธอมีไอศกรีมโคนรสสตอเบอรี่
“เปล่าหรอกรีนะจัง อ๊ะ แก้มเปื้อนหมดแล้ว” ว่าแล้วเจ้าตัวก็เอื้อมมือไปเช็ดคราบไอศกรีมที่ติดอยู่ที่แก้มให้รีนะจัง หล่อนหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ เธอเริ่มรู้สึกว่าชายตรงหน้าเธอเป็นคนดีมากๆ ประกอบกับใบหน้าที่แสนจะหล่อคมคายขนาดซูเปอร์สตาร์ยังอายนี่อีก แบบนี้มันทำให้เธอชอบเขาได้ไม่ยากทีเดียว
“เคียว นายชอบฉันไหม”
“หือ...ชอบสิ” เคียวตอบก่อนยิ้มให้
“นายชอบฉัน...เพราะอะไร”
นั่น ! เอาเข้าแล้วไง คำถามที่มิจินเล่าให้ฟัง
“ชอบ...ทุกส่วนที่เป็นเธอ” รีนะหน้าแดงก่อนถามต่อ
“แล้วถ้าฉันบอกว่าอยากได้ดอกไม้ที่มีค่าที่สุดล่ะ นายจะซื้อดอกอะไรให้ฉัน”
“ฉันว่า...ดอกไม้อะไรก็ได้ที่ไม่เพียงแต่งามและยังมีความหอมและแข็งแกร่ง เฉกเช่นเดียวกับเธอที่ไม่ได้งามเพียงรูปกาย” หยอดคำหวานเข้าไปอีกนิด ก่อนที่จะสังเกตเห็นว่าเธอกำลังอายม้วนเลยทีเดียว
“แล้วถ้านายจะให้ของขวัญฉันล่ะ นายจะให้อะไร”
“ฉันจะให้สิ่งนี้แก่เธอคนเดียว และจะให้ตลอดไป นั่นคือความรักและหัวใจของฉัน”
“นี่เคียว...นายกำลังจะขอฉันเป็นแฟนเหรอ” เธอถาม เขานิ่งงันเลยทีเดียว
วันนี้ที่ได้เที่ยวกับเธอก็ได้รู้ว่าเธอเป็นคนดีและน่ารักมากๆ หากใครไม่ชอบเธอคงจะแย่ แล้วเขาเองก็เคยคบใครๆมาหลายคน ถ้าจะคบเธออีกก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร
“แล้วเธอจะตกลงไหมล่ะ”
“ดะ...ได้” เธอตอบสั้นๆก่อนก้มหน้างุด ชายหนุ่มมองเธอก่อนจะเอื้อมมือไปจับชายคางมนให้เงยหน้าขึ้นแล้วประกบริมฝีปากเข้าไปทันที
แปลก ?... เขาไม่ได้รับรู้ถึงความหวานจากจูบนี้สักนิด เธอเองก็จูบตอบเขาเช่นกัน แต่เธอดูช่ำชองเกินไป เหมือนกับเธอเคยจูบกับใครมาบ่อยมาก บ่อยจนเขานึกไม่ชอบใจ และเขาเอง ก็ไม่ชอบกินของเหลือจากใครด้วย
เขาค่อยๆถอนจูบออกช้าๆ ก่อนจะยิ้มเหมือนดีใจที่สุดให้เธอ
แต่ตอนนี้เขายังไม่ถูกใจใครอีกเลย คบเธอไปก่อนก็ไม่เห็นเป็นอะไร
แต่ว่า...ณ ตอนนี้ ทำไมเขาไม่มีความสุขที่ได้อยู่กับเธอ...แต่กลับ...
...นึกถึงร่างเล็กบางของใครบางคน ที่คงกำลังเดินกลับบ้านคนเดียว...
มาอีกแล้ว อ่านจบเมนท์เลยนะคะ เซนนะรอฟังคอมเมนท์จากทุกๆท่านอยู่ค่ะ
ความคิดเห็น