คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : คำถามที่ 2 : ฉันทำอะไรได้ ?
2
“เฮ้ เคียวได้ข่าวว่านายจีบกะเทยในชมรมคาราเต้ของมิจินเหรอวะ ก๊าก ฮ่าๆๆ” เสียงกวนประสาทของไอคาว่าทำเอาเขาหันควับไปจ้องมองตาเขียวปั๊ดใส่ แต่ไหนเลยที่มันจะกลัว กลับนั่งหัวเราะกันเป็นบ้าเป็นหลังกับมาซาโตะเสียนี่
“นายสองคนไปรู้เรื่องนี้มาจากไหน มิจินนายใช่ไหม !” เขาหันไปตวาดใส่มิจินซึ่งนั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ เจ้าของชื่อสะดุ้งเบาๆก่อนเงยขึ้นมามอง
“ฉันเปล่านะ เคียวคุงก็รู้นี่ว่าฉันไม่โกหก” ตอนแรกก็ว่าจะไม่เชื่อหรอก แต่พอเห็นนัยน์ตากลมโตสีฟ้าที่แสนใสซื่อบริสุทธิ์นั่นทีไร เขาก็ต้องใจอ่อนทุกทีสิน่า ให้ตายเหอะ --*-- !
เหมือนเป็นเส้นความสัมพันธ์บางๆที่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ดูอย่างตอนเที่ยงที่ไอคาว่ากับมา-ซาโตะมาบอกเรื่องมิจินสิ เขาเองยังวิ่งหาซะทั่วโรงเรียนเลย คงเป็นเพราะ...มิจินเป็นเพื่อนรักมั้ง
“งั้นนายสองคนไปรู้มาจากไหน” เขาพูดก่อนทิ้งตัวลงนั่งข้างๆมิจิน หมอนั่นปิดหนังสือก่อนเอามาหนุนคางแทนหมอนฟังพวกเขาคุยกัน
“ฉันมีสายลับเฟ้ย ฮ่าๆ” มาซาโตะพูดก่อนหัวเราะต่อไปเหมือนคนบ้า
ไอ้พวกบ้า !
เขาด่ามันในใจก่อนหันไปหาเจ้าตัวเล็กที่เหลือบมองเขาเป็นพักๆ
“มีอะไรเหรอมิจิน เห็นนายจ้องฉันบ่อยๆ”
“ฉะ...ฉันไม่ได้มองเคียวคุงหรอก นู่นต่างหาก” ว่าแล้วเจ้าตัวก็หลับหูหลับตาชี้ไปอีกทางนึง พวกเขาสามคนมองตามนิ้วเรียวไปก่อนจะตาค้าง
“วะ...ว้าว ! นายเนี่ยสิงห์ซุ่มนี่หว่ามิจิน” ไอคาว่าพูดก่อนยิ้มกรุ้มกริ่ม เจ้าของดวงตาสีฟ้าฉายรอยสงสัยก่อนมองไปทางที่ตัวเองชี้
“เฮ้ย !” ร้องเสียงหลงก่อนรีบหันกลับมาทันที
“บ้าจริง” เขาได้ยินเสียงเจ้าตัวเล็กมันบ่น ก็จะอะไรซะอีก สิ่งที่มันชี้ไปน่ะคือนักเรียนสาวนั่งอ้าเห็นกางเกงในน่ะสิ เคียวยกมือขึ้นมาป้องปากหัวเราะคิกคักก่อนจะหุบปากให้สนิทเมื่อตากลมๆมองมาอย่างหมั่นไส้
“เออนี่เคียวคุง...คือ...บ้านนายอยู่ไหน”
“หา นายจะรู้ไปทำไม--_--”
“ก็อยากรู้นี่นา เผื่อว่าจะได้เดินกลับด้วยกัน”
“อ๋อ ฉันล่ะนึกว่านายจะย่องเข้าห้องเคียวตอนดึกซะอีก” มาซาโตะหัวเราะขำขัน ขณะที่เขายิ้มน้อยๆ แต่มิจินนี่สิ หน้าแดงไปถึงหูแล้ว
“หอพักโชคิเอย์ ห้อง309น่ะ”
“เหรอ ฉันอยู่หอพักชาเฮย์ ตรงข้ามกันเลยอ่ะ”
“อืม งั้นเดินกลับบ้านด้วยกันเหมือนตอนประถมนะ” เคียวพูดส่วนมิจินพะยักหน้ารับก่อนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ถึงอดีตแสนเฮฮา
“เอ่อ เคียว” อยู่ๆเสียงหวานก็เรียกขึ้นจากหน้าประตู เสียงที่มิจินจำได้ดี ทำเอาเคียวรีบลุกขึ้นแล้วยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ทันที
“คิดว่าใคร ที่แท้ก็รีนะจังนี่เอง”
“อื้อ...อ้าว มิจินอยู่ด้วยเหรอ” เธอหันมาก่อนยิ้มกว้างแล้วเดินพรวดผ่านเคียวเข้ามาในห้องทันที
“หวัดดี ไม่เจอกันนานนะรีนะจัง”
“นั่นสิ ทั้งๆที่อยู่โรงเรียนเดียวกันแท้ๆเลยนะ คาราเต้ไปถึงไหนแล้วจ๊ะ” เธอพูดก่อนเอียงคอมองในหน้าสวยของผู้ชายคนนี้
“ก็ดี แล้ววิ่งของเธอล่ะเป็นไง”
“เหนื่อยมากเลยล่ะ โหย ประธานชมรมน่ะให้วิ่งตั้ง1000เมตรแน่ะ” เธอพูดก่อนย่นจมูก ขณะที่เคียวเอ๋อรับประทานตั้งแต่สองคนนี้คุยกันคำแรกแล้ว
“นี่มิจิน เคียวเขาเป็นเพื่อนเธอเหรอ”
“อื้อ เอ่อ..ไงล่ะ เพื่อนสมัยเด็กน่ะ แต่ เฮ้ย ! ไม่ใช่เพื่อนสมัยเด็กเหมือนที่หนุ่มสาวเขาพูดกันนะ” เจ้าตัวรีบพูดก่อนที่จะโบกไม้โบกมือปฏิเสธ รีนะหัวเราะเบาๆก่อนยิ้มรับรู้
“จ้าๆ ฉันรู้แล้ว อ้าว เคียว มานั่งสิ” เธอพูดก่อนกวักมือเรียกเคียวที่ยืนแข็งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เดี๋ยวก่อนรีนะจัง ฉัน...มีเรื่องจะถามเธอ” มิจินพูดเบาๆราวกระซิบ ก่อนจูงมือรีนะออกมานอกห้องเรียน
ร่างบางที่ความสูงก็พอๆกัน ดีไม่ดีรีนะจะสูงกว่าด้วยซ้ำยืนข้างกัน ใครเห็นคงคิดว่าสองสาวยืนคุยกันแน่ๆ มิจินยืนอ้ำอึ้ง อึกอักไม่กล้าพูด ก่อนจะถอนหายใจหนักๆแล้วหันหน้าทอดมองสายตาไปยังระเบียงและวิวสวยเบื้องหน้า
“ฉันรู้ว่าเคียวคุง...เขาชอบเธอ แล้วเธอล่ะรู้สึกยังไงกับเคียวคุง รีนะจัง ?” เสียงนุ่มเอ่ย รีนะพยายามมองให้เห็นแววตาของอีกฝ่าย แต่เจ้าผู้ชายคนสวยก็หันหน้าหนีเอาเสียดื้อๆ
“ไม่รู้สิ ฉันว่าเขาเป็นคนน่าสนใจนะ แล้วฉันก็อาจจะ...ชอบเขาก็ได้” เพราะเธอมัวแต่ก้มหน้าพูด จึงไม่ได้เห็นอาการสะดุ้งเล็กๆของคนตรงหน้า
“งะ...งั้นเหรอ เคียวคุงเป็นคนดีมากนะ เขาชอบเธอมาก แล้วพวกเธอก็เหมาะสมกันดี อย่าปล่อยให้เขาหลุดมือไปเลยนะ” เสียงนุ่มยังพูดต่อก่อนที่นัยน์ตาสีฟ้าจะปิดลงแล้วเปิดขึ้นมาใหม่ด้วยแววตาที่ร่าเริง
“สัญญาด้วยเกียรติของเพื่อนกันนะรีนะจัง เธออย่าทำให้เขาผิดหวัง” ว่าแล้วก็ยื่นนิ้วก้อยออกไป อีกฝ่ายยิ้มรับก่อนยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวด้วย
“เฮ้ๆ พวกนายจะยืนเกี่ยวก้อยกันอีกนานม่ะ รีนะมาหาฉันมีอะไรเหรอ” เคียวพูดก่อนหันไปส่งสายตาอาฆาตให้มิจินที่ทำหน้าแหยๆตีหน้าไม่ถูก
“อ้อ จริงด้วยนะ ฉันว่าจะชวนเคียวไปเที่ยวกันเย็นนี้”
“จริงน่ะ ดีเลยเย็นนี้วะ...” เสียงของเคียวขาดหายไป
‘เดินกลับบ้านด้วยกันนะ’ เจ้าคนที่เคยพูดแบบนี้หันมายิ้มสนับสนุนเขา
แต่จะปล่อยให้ตัวเล็กเดินกลับบ้านคนเดียวเหรอ เกิดมีใครคิดว่ามันเป็นผู้หญิงแล้วฉุดไปล่ะ...
เฮ้ย ! เดี๋ยวๆๆ ฮานาเซะ เคียว นายยังจะห่วงคนที่เป็นถึงสายดำและประธานชมรมคาราเต้อีกเหรอ
เฮ้อ เขานี่ท่าจะบ้า --*--
“ได้สิ เจอกันที่ประตูสองนะ” เขาตอบรับตามประสาเพลย์บอย
“จ้ะ งั้น บาย” รีนะพูดก่อนยิ้มหวานให้แล้วเดินออกไป
“เยี่ยมเลยเคียวคุง นายกำลังจะมีเดท” มิจินพุดก่อนพยายามจะเอื้อมมือไปตบบ่าเขา
“หึๆ รู้ตัวไหมว่าตัวเองน่ะเตี้ยขนาดไหน ยังจะมาทำเป็นตบบ่าฉันอีก”
“ก็ฉันเกิดมาเป็นแบบนี้นี่ ไม่ได้เกิดมาหล่อเท่ สูงโปร่งแบบเคียวคุงสักหน่อย” ไอ้ตัวเล็กยังบ่นต่อๆไปก่อนจะพูดอะไรหงุงหงิงเหมือนภาษาเอเลี่ยนอย่างที่มิจินชอบบ่นบ่อยๆตอนเด็กๆ
“อ้อ นี่นายยังพูดภาษาเอเลี่ยนได้อีกเหรอเนี่ย”
“ไม่ใช่ภาษาเอเลี่ยนสักหน่อยนะเคียวคุง” เจ้าตัวหันมาพูดก่อนบ่นอะไรต่อไป
เฮ้อ เดทงั้นเหรอ กับรีนะจัง จะว่าไปมันก็ไม่เลวที่จะได้ไปเที่ยวกับสาวน่ารักที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของโรงเรียน แต่โรงเรียนนี้มีคนสวยๆ น่ารักๆตั้งหลายคน ขืนคบใครแบบจิงๆจังๆเป็นตัวเป็นตนล่ะก็ อาจสิ้นลายเพลย์บอยก็เป็นได้
“นี่เคียวคุงรู้อะไรไหม” อยู่ๆเสียงนุ่มของมิจินก็ดังขึ้น เขาหันไปมองก่อนจะเลิกคิ้วสงสัย
“รีนะจังเคยเป็นเพื่อนสนิทของฉันสองปี แต่เป็นแค่เพื่อนนะ !” เจ้าตัวรีบพูดเมื่อเห็นเขาส่งสายตาอาฆาต
“แล้วไง ?” เขาถามก่อนที่มือเรียวของเพื่อนจะคว้าหมับที่มือเขาแล้วลากลงบันไดมา
“เฮ้ยๆ จะไปไหนมิจิน” เขาถามแต่ร่างบางไม่ตอบก่อนจะวิ่งลงมาเรื่อยๆแล้วมาหยุดที่โต๊ะหินอ่อนหลังโรงเรียน
“ขอโทษนะ แต่ข้างบนคนเยอะเหลือเกิน...คือ...ฉันอยากถามนายว่า...นายจิงจังกับรีนะจังขนาดไหน” เสียงนุ่มดูอึกอักในทีแรกก่อนจะถามโพล่งตรงๆออกมา เคียวขมวดคิ้วก่อนยักไหล่
“ไม่รู้ ฉันเพิ่งรู้จักเขาวันแรก แต่เขากลับมาชวนฉันไปเที่ยวฉันก็คิดว่าเขาต้องชอบฉันแน่ๆ แต่ตัวฉันเองน่ะ บอกไม่ได้หรอกว่าจริงใจกับรีนะแค่ไหน”
“เคียวคุง...รีนะจังเขาชอบเคียวคุงนะ ฉันรู้ดี แต่ถ้าเคียวคุงแค่ชอบเธอแบบเพราะอารมณ์ชั่ววูบล่ะก็ ฉันเสียใจ”
“เฮ้ๆ ! นี่นายคงไม่ออกอาการหึงรีนะจังหรอกใช่ไหม”
“ฉันเปล่า แต่รีนะจังไว้ใจฉันมาก และถ้านายชอบเธอ ฉันจะช่วย” ว่าจบร่างเล็กกว่าก็เอามือไขว้หลังแล้วยิ้มแฉ่งออกมา
“เพราะเธอมีคำถามที่เอาไว้ถามผู้ชายทุกคนที่จีบเธอ และรีนะจังเคยบอกคำตอบให้ฉันรู้ และถ้าให้ฉันช่วย เคียวคุงอาจเป็นแฟนกับรีนะจังได้เร็วขึ้น”
“หา ? งั้นนายลองบอกมาสิว่ามีอะไรมั่ง”
“ข้อแรก เธอจะถามว่าชอบเธอที่ตรงไหน เคียงคุงต้องบกว่าทุกส่วนของเธอ หมายถึงเคียวคุงชอบนิสัยของเธอ พอใจที่เธอมีหน้าตาที่ดี แต่ที่ทำให้เคียวคุงชอบเธอก็เพราะความเป็นตัวของรีนะจัง” เคียวพะยักหน้าเข้าใจก่อนเซฟข้อมูลใส่สมองไว้
“ข้อสอง ดอกไม้อะไรที่มีค่าที่สุด ข้อนี้เคียวคุงจะตอบว่าไง”
“กุหลาบมั้ง” เจ้าคนสูงพูดก่อนจะทำหน้างงเมื่อได้ยินคำเฉลย
“ผิดเลย ดอกไม้ที่มีค่าที่สุดคือดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมและแข็งแกร่งที่สุด แม้จะไม่ใช่ดอกไม้ที่มีพันธ์สวยที่สุดแต่ก็เป็นดอกไม้ที่ควรค่าแก่ความต้องการมากที่สุด”
“ข้อสามล่ะ”
“ของขวัญที่เคียวคุงคิดว่าควรมอบให้เธอมากที่สุดคืออะไร”
“อันนี้ฉันรู้ ความรักที่บริสุทธิ์และซื่อตรงต่อเธอ”
“ถูกต้อง ! ผู้หญิงไม่ต้องการอะไรมากหรอก ขอแค่คนที่เขาชอบจริงใจต่อเขาก็พอแล้ว หรือไม่...ก็ขอเป็นแค่คนที่แอบรักเขาฝ่ายเดียว เพื่อรักษามิตรภาพเอาไว้ได้ตลอดไป” นัยน์ตาสีฟ้าฉายแววเหม่อลอยอ้างว้าง
“หา ? นายพูดยังกับนายเป็นผู้หญิง หรือไม่ก็แอบรักใครอยู่อย่างนั้นแหละนะ หึๆ” เขาพูดแซวเสียงใสก่อนจะใช้นัยน์ตาสีดำจ้องมองลงไปให้ลึกในดวงตากลมโตนั้น
“ใช่ ฉันแอบรักคนคนนึงอยู่...เอ๊ย ! ไม่ใช่ๆๆๆ ! อย่าเข้าใจผิดนะ ฉันไม่ได้ชอบใครทั้งนั้น แล้วก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงด้วย >///<”
ไอ้เจ้านี่แปลกคน เขายังไม่ได้พูดอะไรแท้ๆเลยนะเนี่ย ไม่ไหวๆ(--_-- ) ( --_--) (--_-- )
“หรือว่านายแอบชอบรีนะจังจริงๆแต่เพราะฉันเป็นเพื่อนรักนาย นายเลยเสียสละให้”
“เพราะเป็นเพื่อน...” เสียงทุ้มพึมพำกับตัวเองเบาๆ
ก็เพราะทั้งเคียวคุงและรีนะจังเป็นเพื่อนของเขายังไงล่ะ เขาถึงทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากสนับสนุนให้ทั้งคู่คบกัน !
เหมือนเข็มนับร้อยพุ่งเข้ากลางอก ร่างบางสะดุ้งเฮือก มือเรียวกุมที่อกซ้ายอย่างเจ็บปวด
โรคบ้าๆนี่...กลับมาอีกแล้วเหรอ
ฟุ่บ !
**********สวัสดีค่ะ ขอโทษอย่างสูงที่หายไปนานนะคะ ตอนนี้มาแต่งต่อแล้ว อ่านแล้วคอมเมนท์ให้กำลังใจกันนิดนึงนะ เซนนะมีงานด่วนเข้ามาอ่ะ อ้อ! ขอบคุณสำหรับแฟนพันธ์แท้คนแรกนะคะ อิอิ เป็นปลื้มมากๆเลยค่ะ (มีคนอ่านสักที) เมนท์ๆ โหวๆ โปรโมทให้ด้วยนะคะ ผู้อ่านที่รักทุกคน บายค่ะ
ความคิดเห็น