ลำดับตอนที่ #91
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #91 : ตอนที่ 78 : ราชินีแห่งเดมอส
ตอนที่ 78 : ราชินีแห่งเดมอส
......ท่านอลิเซียไม่ได้ถูกเฮฟเว่นจับตัวไป......
“แล้ว...แล้วทำไมพี่ต้องสู้กับพวกเรา”คิลงงวูบ
“เรื่องแค่นี้บอกมาตรงๆก็หมดเรื่องแล้วนี่ครับ?”คาโลเองก็สงสัยเช่นกัน
“แต่ถ้าชั้นจะบอกว่า...ท่านอลิเซียก็ไม่ได้อยู่ในเฮลเช่นกันล่ะ”
“ห...หา?!?”
“ดวงวิญญาณของท่านอลิเซีย...ไม่ได้อยู่ทั้งในเฮลและเฮฟเว่น”เอเธียร่าถอนหายใจ
......ท่านเซฟิวรอธ...ข้าขอโทษ......
......ขอโทษที่รักษาคำสัญญาไว้ไม่ได้...ขอโทษที่ผิดสัญญา......
“ผมแอบได้ยินมาตอนที่ท่านฮาเดสคุยกับท่านครูเอล เห็นว่ากันว่าวิญญาณของท่านอลิเซียไม่ได้อยู่ทั้งในเฮลละเฮฟเว่น ดวงวิญญาณของท่านอลิเซียนั้นบริสุทธิ์มากจนไม่จำเป็นต้องมาที่เฮลก็สามารถกลับไปเกิดได้ด้วยตนเอง เพราะเรื่องที่ท่านยอมสละตนเองเพื่อประชาชน”โรพูด
“หมายความว่าควีนอลิเซียกลับไปเกิดใหม่แล้ว?”โรเวนถาม
“ผมไม่ทราบรายละเอียดในส่วนลึกครับ แต่รู้ว่าท่านอลิเซียไม่ได้อยู่ทั้งในเฮลและเฮฟเว่น และอีกข้อคือดวงวิญญาณของท่านอลิเซียได้รับการลงมนตราจากจ้าวปิศาจเอวิเดสโดยตรง แต่นอกเหนื่อจากนั้นผมไม่รู้ครับ”
“ก็ไม่แปลก...เรื่องลับขนาดนี้แม้แต่ชั้นยังไม่รู้เลยนะเนี่ย”เครสกระพริบตาปริบๆ
“แต่ถ้าคำตอบมันมีแค่นี้ ทำไมเอเธียร่าถึงไม่พูดออกมาตรงๆซะเลยล่ะ มันก็ไม่เสียหายอะไรนี่”อาเธอร์ว่า
“ไม่เสียหายอะไรล่ะครับ พี่เอเธียร่าเป็นคนที่ท่านเซฟิวรอธไว้ใจมากที่สุด เรียกว่าถ้าไม่ติดที่เธอเป็นสามมหาปราชญ์ใต้บังคับของท่านครูเอลแล้วล่ะก็ มีหวังป่านนี้เธอเป็นเลขาคนสนิทข้างกายท่านเซฟิวรอธไปแล้ว”โรว่า “และจาการคาดการณ์ของผม พี่เอเธียร่าน่าจะรู้ “อะไรๆ” ได้มากกว่านี้...บางทีพี่เขาอาจจะรู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้วิญญาณท่านอลิเซียที่แท้จริงแล้วอยู่ที่ไหนกันแน่ แต่น่าจะสัญญากับใครซักคนเอาไว้ว่าจะปิดปากเรื่องนี้”
“จริงสินะ...เอเธียร่าเป็นคนที่รักษาคำสัญญามากที่สุดในหมู่พวกเรานี่นา”เครสหัวเราะแห้งๆ
“ยังไง?”ลอเรนซ์ไม่เข้าใจเอาซะเลย
“แหม พูดแล้วจะหาว่านินทานะเนี่ย”เครสยิ้มบางๆ
“ชั้นเคยได้ยินว่าเอเธียร่าน่ะ เป็นวิญญาณของคนที่ยังไม่ตาย แต่ต้องคำสาปให้กลายเป็นน้ำแข็งถูกผนึกอยู่ที่ไหนซักแห่งในเดมอส ดวงวิญญาณของเอเธียร่าก็พยายามดิ้นรนจะรักษา “สัญญา” ที่ให้ไว้กับใครซักคน จึงไม่ยอมตายโดยเด็ดขาดจนกระทั่งวิญญาณนั้นกลายมาเป็นยมฑูตทั้งๆที่ยังไม่ตายนั่นแหละ”เครสทำท่านึก “แต่เรื่องคำสัญญาเป็นยังไงก็ไม่มีใครรู้หรอกนะ แถมหลายๆคนบอกว่านี่เป็นข่าวโคมลอยเสียอีกเพราะนี่มันตั้งสองร้อยกว่าปีแล้วนี่นา มันจะเป็นไปได้ยังไงถ้าเอเธียร่าจะยังมีชีวิตอยู่น่ะ”
“......”ทุกคนถึงกับเงียบสนิทเมื่อเรื่องราวถูกเล่าออกจากปากของเครส
......จริงๆแล้ว...มันก็เป็นไปได้จริงๆ......
......หากว่าร่างกายของเธอถูกแช่อยู่ในน้ำแข็งที่เกิดจากคำสาป ถึงจะผ่านมาสองร้อยกว่าปีก็ไม่ได้หมายความว่าคำสาปจะหมดไปตามกาลเวลา......
......และความเย็นของน้ำแข็งก็อาจจะรักษาสภาพร่างกายของเธอเอาไว้ให้ยังอยู่ในช่วงเดิมกับที่ถูกคำสาปนั่น......
“แต่มันก็น่าพิสูจน์นี่เครส”โรเวนยิ้มนิดๆ
ไม่รู้ว่าทำไม แต่เมื่อเครสเห็นรอยยิ้มนั่นแล้วรู้สึกขนลุกเกรียวยังไงชอบกล
ตูม!!!
ครึ่ก ครึ่ก
ฉับพลัน ปราสาทคาโนวาลก็สั่นสะเทือนเลื่อนลั่น พร้อมกับเสียงระเบิดอย่างแรงจากบนหัวของทั้งหมด
“เสียงนั่น! มาจากไหนกัน!!!”
“รอยสักนี่...มันเกี่ยวอะไรกับแก”ครูเอลดึงชายผ้าขาดๆลงมาปิดรอยสักสีดำสนิทนั่น
“นายคิดว่ามีนายคนเดียวที่รู้ความหมายของรอยสักนั่นรึไง”ราเอลยิ้มอย่างเป็นต่อ
“!!!”ครูเอลเบิกตากว้าง
......รอยสักนี่...มันขึ้นมาหลังจากการต่อสู้กับเจเนส...และเราโดนวิชาประหลาดของมันที่เร่งอาการของเราให้เร็วขึ้น......
......จากที่เมื่อก่อนมีแค่ปีละครั้ง...ค่อยเลื่อนมาเป็นเดือนละครั้ง......
......และไม่นานมานี้...อาการก็กำเริบขึ้นอาทิตย์ละครั้งทีเดียว......
“ทุกครั้งที่อาการของนายกำเริบ รอยสักนั่นก็จะยิ่งลาม...นั่นเปรียบเหมือน “เส้นชีวิต” ที่เหลืออยู่ของนายนั่นแหละครูเอล”ราเอลว่า
“แกไปรู้มาจากไหน!!!”ครูเอลกัดฟัน
......มันรู้ได้ยังไง...ขนาดฮาเดสหรือท่านพ่อยังไม่รู้ด้วยซ้ำ......
“เหอะๆ”ราเอลหัวเราะอย่างขมขื่น ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกที่ครูเอลได้เห็นรอยยิ้มแบบนั้น
เปรี๊ยง!!!
“อั๊ก!”ฉับพลัน ราเอลก็ยิงเวทย์สายฟ้าเข้าใส่ครูเอลทันที ถึงเจ้าตัวจะรับได้ แต่แรงกระแทกก็ยังทำครูเอลปลิวไปไกลพอดู
“อย่ามาขุดคุ้ยกันไปหน่อยเลยน่า”เสียงของราเอลดูขมขื่นยิ่งนัก
......นายไม่รู้หรอกว่าความทรมานในช่วงสุดท้ายของโรคนี้มันเป็นยังไง......
“ครูเอล...ในเมื่อรอยนั่นมันปรากฎออกมาแล้วก็ช่วยไม่ได้”
วู้ม...วู้ม
ห่วงเล็กๆสีทองลอยวนอยู่รอบๆร่างของเฮฟเว่นหนุ่มช้าๆ
“ชั้นจะฆ่าแกซะ”ราเอลพูดเสียงหนักแน่น
.........ครูเอล...แกรู้มั๊ยว่าแกหนึ่งในคนไม่กี่คนที่ทำให้ข้าสนุก......
......ทำให้ข้ารู้สึกหายเบื่อกับชีวิตที่ต้องเป็นตัวหมากตลอดไปแบบนี้ได้......
......เพราะงั้น...นี่ถือเป็นเรื่องเดียวที่ข้าจะทำเพื่อแก......
......ความทรมานของ “ขั้นสุดท้าย” น่ะ...แกไม่อยากรู้แน่นอน......
“ท่านอลิเซียไม่ได้อยู่ทั้งในเฮลและเฮฟเว่น...พลังของท่านเอวิเดสได้ทำการปลดปล่อยวิญญาณของเธอให้เป็นอิสระไปแล้ว”
“ปลดปล่อยวิญญาณ?”
“ให้พูดก็คง...หมายถึงการที่วิญญาณดวงนั้นสามารถกระทำอะไรก็ได้ตามแต่ที่ใจต้องการ”เอเธียร่าปาดเลือดที่มุมปากออก “ท่านอลิเซ๊ยสามารถเลือกที่จะทำอะไรๆเองได้ ไม่ว่าจะสามารถกลับไปเกิดใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ หรือการที่สามารถใช้พลังได้โดยไม่มีข้อผูกมัด”
“แล้ว...”
“สิ่งที่ท่านอลิเซียเลือกน่ะแตกต่างนะ...คาโล”เอเธียร่าหอบ “ดวงวิญญาณของท่านอลิเซีย...ไม่ได้เลือกจะกลับไปเกิดใหม่อย่างที่วิญญาณทุกดวงต้องการ...สิ่งที่นางต้องการมีเพียงสิ่งเดียว”
“นั่นคือต้องการให้สงครามทั้งหมดจบลง”
“ยังไงหว่า?”คิลขมวดคิ้ว
“ท่านอลิเซียได้พาตนเองไปอยู่ในรอยเชื่อมภพ รอยต่อระหว่างภพนี้กับภพหน้า พูดง่ายๆก็คือช่วงต่อระหว่างมนุษย์กับวิญญาณ”เอเธียร่าว่า
“ท่านต้องการดึงเอเดนและเดมอสออกจากแนวรบ...จึงไปที่นั่นเพื่อปิดรอยเชื่อมต่อนั้นด้วยพระองค์เอง”
“แล้ว...ถ้ารอยเชื่อมนั่นปิดลงล่ะ จะเป็นยังไง”คาโลถาม
“ถ้ารอยเชื่อมนั่นปิดลง...โลกวิญญาณของเฮฟและเฮฟเว่นจะกลายเป็นโลกคู่ขนานกับเอเดนและเดมอสทันที โดยที่คนของทั้งสองฝั่งไม่สามารถติดต่อกันได้อีก”เอเธียร่าตอบ “รอยเชื่อมต่อทั้งหมดจะหายไป ทั้งสองฝ่ายจะถูกตัดพันธะทั้งหมดออกไป มนุษย์จะมองไม่เห็นวิญญาณ เหตุการณ์ทั้งหมดที่เคยมีพวกเราเข้าไปเกี่ยวข้องจะถูกลบหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ให้กลับมาเป็นในสิ่งที่มันสมควรจะเป็น”
“อะไรนะ!!!”
“หมายความว่า...”
......เหตุการณ์ทั้งหมดจะย้อนกลับไป......สู่จุดเริ่มต้น!!!......
“อย่างที่พวกนายน่าจะคิดออก...ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลง ถึงแม้ว่าเวลาที่พวกนายยืนอยู่จะไม่เปลี่ยนไป แต่ความทรงจำบางส่วนอาจจะขาดห้วงไป ซึ่งบางทีอาจหมายถึงการหายตัวของคนหลายคน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะตายหรอกนะ แต่จะเป็น “ไม่เคยรู้จักกันมาแต่แรก” มากกว่า”
“นอกจากนั้นชั้นก็ไม่รู้แล้ว”เอเธียร่าเอ่ยเมื่อพูดจนจบ
“...และถ้าเป็นแบบนั้น...ก็ไม่แปลกที่ต้องเก็บเป็นความลับ แม้แต่กับพวกเฮลสินะ...”คาโลพึมพำ
......แต่ทำไม...หมอนั่นถึงมีแหวนวงนั้นได้ล่ะ......
แกร๊ก!
“เฮ้ย คาโล!”คิลร้อง เมื่อพื้นน้ำแข็งที่พวกเขายืนอยู่ค่อยๆแตกตัว
“...ฉลามไงล่ะ...”เอเธียร่าหอบหายใจ “...ตอนแรกก็คิดอยู่เหมือนกัน...กลิ่นเลือดหึ่งขนาดนี้...ฉลามไม่มาสิแปลก...”
“ยุ่งล่ะ คาโล รีบกลับเร็วเข้า!”
เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ
“อึ๊ก!”
“เกิดอะไรขึ้นคาโล!”คิลตกใจเมื่อเห็นมือทั้งสองข้างของคาโลชุ่มโชกไปด้วยเลือด ทันทีที่แตะคทาพิพากษา
“...กลับ...ไม่ได้...”คาโลกัดฟัน “เป้าหมายมีการเปลี่ยนแปลงไป...มีใครกำลังถล่มปราสาทคาโนวาล!!!”
“หา!!!”
“แรงสั่นสะเทือนของปราสาทไม่แน่นอน ชั้นกำหนดเป้าหมายไม่ได้”คาโลรีบพูด
แกร๊ก แกร๊ก
พื้นน้ำแข็งแตกร้าวไปเสียหลายส่วน พื้นน้ำแข็งใสๆสะท้อนภาพด้านล่างที่มีฝูงฉลามกำลังพยายามชนพื้นน้ำแข็งให้แตกเป็นส่วนๆอยู่
“คาโล ใต้เท้านาย!”คิลร้อง พอดีกับที่พื้นน้ำแข็งตรงส่วนของคาโลโดนชนอีกครั้งอย่างแรงจนคาโลรู้สึกเหมือนแผ่นดินไหว ทรงตัวไม่ค่อยจะอยู่แล้ว
“คาโล...หุ้มพื้นเอาไว้อีกชั้นได้มั๊ย”เอเธียร่าถาม
“ไม่ไหวครับ พื้นสั่นสะเทือนเกินไป”คาโลว่า
ฟิ้ว...ฟิ้ว
หูคองคิลได้ยินเสียงอะไรเล็กๆบางๆแหวกอากาศมาทางพวกเขา ด้วยสัญชาติญาณทำให้คิลรีบหันปาต้นเสียงทันที และรีบตั้งมือรับอาวุธที่อาจเข้ามาทำร้าย แต่...
กึ๊ด!
“ด...ด้าย?”คิลเลิกคิ้วอย่างงงๆ ด้ายสีฟ้าอมเขียวนั่นเองที่พุ่งเข้ามา เส้นด้ายทั้งสามมัดแขนของคิลแน่น ส่วนอีกหกเส้นก็กระจายตัวเข้าหาคาโลและเอเธียร่า
“ด้ายนี่...”คาโลพูดได้แค่นิดเดียว แรงกระชากจากต้นทางก็ดึงร่างของทั้งสามไปแล้ว
หวือ...
“น...หนัก”รีเนลคราง
กึ๊ด!
รีเนลนั่นเองที่เป็นคนมาช่วยทั้งสามเอาไว้ แม้ตัวเธอจะรู้ดีว่าแรงของเธอไม่มีทางดึงขึ้นมาทีเดียวทั้งสามคนได้ แต่สถานการณ์ที่คับขันก็ทำให้เธอไม่มีทางเลือก เธอขอร้องให้มังกรที่เธอขี่มาบินเหนือท้องทะเล จากนั้นก็เอาด้าบพันเข้ากับแขนตัวเองเพื่อเพิ่มแรงดึง ก่อนจะเหวี่ยงด้ายออกไป
ปึ๊ด ปึ๊ด
แรงเสียดสีของด้ายฝนพรำบาดแขนของเธอจนชุ่มโชกไปด้วยเลือด นิ้วของเธอเองก็ไม่แตกต่างกันมากนัก
“อ...อุก”รีเนลกัดฟัน
ว่ากันตามจริง หากอาวุธของเธอเป็นด้ายธรรมดาๆมันคงขนาดไปนานแล้ว แต่ด้ายของรีเนลเป็นด้ายพิเศษที่ทำมาจากเส้นผมของเธอเอง และผ่านการร่ายมนต์จากราฟาเอลพี่ชาย ทำให้มันเป็นอาวุธที่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ตามใจ ทั้งความยาวหรือความคม แต่ตัวรีเนลเองก็ไม่ได้เก่งเวทย์ พลังเวทย์ก็ไม่มีมากมายนัก การจะควบคุมด้ายทั้งเส้นได้มันก็ออกจะเกินไปหน่อย เธอจึงปรับความคมให้มันน้อยที่สุดตรงปลายส่วนที่ส่งไปรัดกับพวกคาโลและส่วนที่พันแขนของตัวเอง แต่นอกจากนั้นตรงส่วนด้ายที่ยืดไปมันยังคงมีความคมกริบขนาดตัดหินได้สบายๆอยู่ดี เพราะงั้นรีเนลก็ได้แต่หวังว่าพวกคาโลจะไม่ไปจับต้องส่วนนั้น
แต่แม้ความคมของมันจะแทบไม่เหลือ แรงที่รีเนลจำเป็นต้องใช้ดึงก็ยังทำให้แขนของเธอโดนบาดจนเลือดซิบอยู่ดี ร่างกายที่เพิ่งฟื้นตัวไม่นานของรีเนลเองก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน และรีเนลก็หวังว่าขีดจำกัดของมันจะยังไม่ใช่ตอนนี้
“มาแล้ว!”รีเนลยิ้มออกอย่างยินดีเมื่อเริ่มเห็นเงาร่างทั้งสามที่ถูกดึงมาใกล้จะถึงแล้ว
วืด...
ตึก!
รีเนลเหวี่ยงร่างของทั้งสามลงบนหลังมังกร จริงๆเจ้ามังกรก็อยากประท้วงอยู่หรอก แต่กลิ่นเลือดที่หลังมันก็ทำให้มันรู้ดีว่าไม่ใช่เวลาจะพูดเรื่องนั้น เจ้ามังกรหันหัวกลับทางทิศเดิมตามที่ตกลงกับรีเนลเอาไว้ แล้วมุ่งหน้าไปทันที
“แฮ่ก...แฮ่ก”
“เธอ...รีเนล”คิลคราง
“เกือบไปแล้วนะ...พวกนาย”รีเนลฉีกยิ้มให้ทั้งๆที่อ่อนแรง แขนข้างซ้ายโชกเลือดไปหมดและอ่อนแรงจนยกแทบไม่ขึ้น
“...เธอ...”คาโลทำท่าจะถาม
“อะไรก็ช่างเถอะ...ไว้ไปคุยกันที่นั่น”รีเนลตัดบททันที
แผละ
แล้วร่างบางก็ล้มลงไปกองกับหลังมังกร หลับสนิทด้วยความอ่อนเพลีย
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
คราวนี้จะยั่วหน่อยดีมั๊ยน้า~
ดี...ไม่ดี...ดี...ไม่ดี
...ดี...
โอเค งั้นตัวอย่างตอนต่อไป...
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!”
“ร...รีเนล!”
......ทำไมรีเนลถึงปกป้องมันล่ะ!!!......ราเอลตกใจแทบสิ้นสติ หากเขาหยุดมือไม่ทันล่ะก็ได้มีเลือดตกยางออกไปแล้วแน่ๆ
......ยัยนั่นมาทำอะไรที่นี่!!!......ครูเอลเองก็ตกตะลึงเช่นกัน
ว่าแล้วก็ติดเสือเผ่น [แน่บ]
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น