ลำดับตอนที่ #89
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #89 : ตอนที่ 76 : มนุษย์...หรือ...ยมฑูต
วันนี้เราจะลงแค่ตอนเดียวนะครับ
ต้องขออภัยจริงๆ เพราะมีปัญหาเล็กน้อยกับการเป็นไข้หวัด!!!
ที่บ้านคนแต่งเดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก
ม่ายหวายแย้วววว
แอ่ก!
[ดีใจได้อย่างเดียวคืออย่างน้อยก็ยืนยันได้ว่าคนแต่งยังไม่บ้า เพราะคนบ้าต้องไม่ป่วย ฮัดชิ้ว!]
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ตอนที่
“ท่านรีนาลีส! รอด้วยครับ!!!”ไมออสและโฟร์เลสตะโกน
“ชักช้าอืดอาดจริงๆเลย รีบๆหน่อยสิทั้งสองคน!!!”รีเนลตะโกนอย่างหงุดหงิด
ตอนนี้โฟร์เลส ไมออสและรีเนลกำลังเดินทางออกจากป้อมอัศวิน ที่แน่นอนว่าเมื่อไม่มีโรเวน การหลบออกมาย่อมง่ายดายยิ่งนัก รีเนลจึงไม่รอช้า จับมังกรบินข้ามเมืองต่างๆเพื่อไปยังคาโนวาลโดยเร็วที่สุด ชนิดที่ว่าโฟร์เลสกับไมออสยังถูกทิ้งให้ต้องไล่ตามนายหญิงสุดแสบ
“แต่...แต่ท่านไม่ควรตามท่านราเอลไปนะครับ มันอันตราย!!!”ไมออสตะโกน หวังจะเปลี่ยนใจรีเนลให้ย้อนกลับไป
“แล้วไงล่ะ”รีเนลหันมาทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ใส่ไมออส
“...เอาแล้วไง...หน้าแบบนั้น...โฟร์เลสพึมพำ เขาเลี้ยงรีเนลมากับมือทำไมจะไม่รู้ว่าหน้าแบบนั้นมันหมายความว่ายังไง
“แหม...ก็ท่านพี่ห้ามไม่ให้เราพูดเรื่องเลิกล้มความตั้งใจนี่นา”รีเนลทำแก้มป่อง
“แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า...”ไมออสอยากจะร้องไห้จริงๆซะแล้ว
“จะทำไม ในเมื่อท่านพี่ไม่เลิกล้มความตั้งใจเอง น้องสาวที่รักคนนี้ก็ต้องมาคอยนั่งเป็นห่วงเป็นใย คอยดูแลท่านพี่ห่างๆแบบนี้น่ะสิ!!!”
ฟิ้ว...
“เร็วอีก เร็วอีก”เด็กสาวร้องเป็นเพลงอย่างสนุกสนาน แต่...คนติดตามทั้งสองนี่สิ
“พูดมาได้นะท่าน เราก็เร็วได้แค่นี้แหละคร้าบบบบบ”ไมออสตะโกนสู้เสียงลม
“โธ่ เร็วกว่านี้อีกก็ได้นี่นา เน้อ~”รีเนลหันไปลูบหัวเจ้ามังกรของตัวเอง
“กี๊ซ!”
“เห็นมะ มันยังบอกเลยว่าเร็วกว่านี้ก็ได้”รีเนลหันมายิ้มเยาะใส่ไมออส
“กระผมฟังภาษาสัตว์ไม่ออกแบบท่านหรอก ท่านรีนาลีส!”ไมออสว๊าก
“งั้นก็ไปกันเล้ย!!!”รีเนลดูสนุกสนานสุดๆ เจ้ามังกรบินทั้งสามเลยพลอยสนุกตามไปด้วย ทั้งบินขึ้น เดี๋ยวๆก็ดิ่งลง หักโค้งซ้าย - ขวาแบบไม่มีสัญญาณล่วงหน้าจนกระทั่งบินตีลังกาก็ยังมี
“...แหวะ...”ไมออสดูจะเมาไม่น้อย สีหน้าของเฮฟเว่นหนุ่มน้อยดูซีดเซียว มือทั้งสองจับบังเหียนแน่นไม่ยอมปล่อย
“เอ้าๆ เมาซะแล้วไมออสเรา”รีเนลได้ทีหยอกล้อ
“ผมไม่ได้ชิน...กับพวกสัตว์ทั้งหลายแหล่แบบ...ท่าน...นะคร้าบบบบบบบ”ไมออสพูดไปอุดปากไป ท่าทางอยากอ้วกเต็มทน รีเนลเลยให้เจ้ามังกรบินตีลังกากลับหัวเข้าให้อีกรอบ คำพูดสุดท้ายของไมออสเลยกลายเป็นลากเสียงยาวเหมือนๆจะว๊ากเสียอย่างนั้น
“เลิกเล่นเถอะครับ ท่านรีเนล สงสารไมออส”โฟร์เลสถอนหายใจหน่ายๆ โฟร์เลสเป็นเจ้าของพลังธาตุดิน เขาจึงไม่ถนัดกับการอยู่กลางอากาศมากนัก เพราะจะทำให้เขาดึงพลังออกมาได้ไม่ถนัด ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงอยากไปถึงเป้าหมายให้เร็วที่สุดมากกว่าจะมาดูนายหญิงของตัวเองกลั่นแกล้งเพื่อนร่วมงาน
“จ้า~”รีเนลยิ้มแหยๆให้โฟร์เลส เพราะถึงจะดูภายนอก โฟร์เลสกับเธอคงเป็นแค่รุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ที่จริงแล้วก็โฟร์เลสนี่แหละที่คอยดูแลเธอมาตั้งแต่เพิ่งเข้าสู่เฮฟเว่นด้วยซ้ำ พูดง่ายๆก็คือโฟร์เลสเป็นทั้งเพื่อนและพี่เลี้ยงของเธอในคราวเดียวกันนั่นแหละ
“ไหวรึเปล่า ไมออส?”โฟร์เลสถาม
“คิดว่า...นะ”ไมออสฟุบหน้าลงกับหลังมังกร แน่นิ่งไปเลย
“อ...อึ๊ก”คาโลหอบแฮ่ก
“เชดด์ซีเคร็ต” ของภูติน้อย แท้จริงแล้วคือการแปรสภาพของเงาของตัวคาโลเองให้มีชีวิต เงานั้นแปรสภาพเป็นดาบสีดำสนิทและพุ่งเข้าใส่คาโลจากด้านหลัง ดีที่คาโลได้ยินเสียงแหวกสายลมของตัวดาบและเอี้ยวตัวหลบทัน แต่ดาบที่คมกริบก็ได้เฉือนต้นคอของคาโลไป เรียกเลือดออกจากปากแผลได้ไม่น้อยเลย
ส่วนตัวภูติน้อยเอง ก็โดนเวทย์ของคาโลเข้าไปเต็มๆดอก กลายเป็นภูติแช่แข็ง ไม่สามารถขยับตัวได้แล้ว
‘เจ็บใจจัง...แต่แอล...แพ้แล้วจริงๆ’ภูติน้อยยิ้มให้คาโล
วิ้ง!!!
ร่างของแอลสลายกลายเป็นละอองเล็กๆ จากนั้นละอองนั้นก็กลับมารวมกันเป็นคทาตะวันของเอเธียร่าอีกครั้ง
‘...พี่คะ...แอลขอโทษ...’
“แอล!!!”เอเธียร่าร้องเสียงหลง ความเยือกเย็นที่ปราชญ์สาวเคยมี สูญสลายจนหมดสิ้น ร่างบางถลาเข้าไปหาคทาของตัวเองที่ตกกระทบพื้นน้ำแข็งโยไม่สนใจอะไร
“พี่?”คาโลขมวดคิ้ว มือข้างหนึ่งกุมแผลที่ต้นคอเอาไว้
“ทำไม...ถึง”คิลหน้าซีด
ตอนนั้นคิลกำลังซัดมีดสายฟ้าใส่เธออยู่ แต่แทนที่เธอจะหลบ กลับพุ่งตัวเข้าหาคทาของตนโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ดังนั้นตอนนี้ มีดสั้นสายฟ้าห้าเล่มจึงปักอยู่ที่กลางหลังของเธอแท้ๆ เลือดสีแดงฉานอาบเต็มชุดสีขาวสะอาดจนเปราะเปื้อนไปหมด
“...แอล...”เอเธียร่าคราง มือทั้งสองกอดคทาแนบอก
แปะ...แปะ...
เลือดของเอเธียร่าหยดลงอย่างเงียบๆ ในลานน้ำแข็งนี้ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาเลย
“เก่งมากนะ...ทำร้ายแอลได้ขนาดนี้”เสียงหวานเอ่ยอย่างเย็นยะเยือก
ตึก
ร่างบางค่อยๆลุกขึ้นยืนช้าๆ แต่ยังก้มหน้านิ่ง เอเธียร่าถอนมีดออกจากหลังตัวเองทีละเล่มๆจนหมด เธอพึมพำชั่วแวบเดียว บาดแผลทั้งหมดก็หายไป
“เอามีดของนายคืนไป”เอเธียร่าเอ่ย
วิ้ง!
เธอเงยหน้าขึ้นมาหาเด็กหนุ่มทั้งสอง ด้วยดวงตาสีดำสนิท แทนที่จะเป็นสีขี้เถ้าเช่นเดิม
ฟิ้วๆๆๆๆ
เอเธียร่าปามีดทั้งห้ากลับมาอย่างแรง คิลตกใจรีบกระโดดหลบ ส่วนคาโลก็ตั้งโล่น้ำแข็งรับ แต่...
เพล้ง!
ฉัวะ...ฉึก!
มีดทั้นทั้งห้ากลับแทงทะลุเกราะน้ำแข็งของคาโลมาได้ สองจากในห้าเล่มโนคาโลเข้าไปอย่างแรง เล่มหนึ่งเฉือนขาขวา อีกเล่มปักเข้าที่ต้นขาซ้าย
“บ้าน่ะ!”คิลร้อง
วู้ม...
แล้วความจริงก็เปิดเผย เมื่อมีดสั้นของคิลอีกสามเล่มที่พลาดเป้าลงไปปักอยู่ที่พื้นได้ปล่อยไอมนต์สีดำสนิทออกมา...ไอมนต์แห่งทริสทอร์
......มิน่าล่ะ! เพราะไอมนต์ที่แฝงมากับมีดสั้นนี่เอง ที่ทำให้เกราะของคาโลทานไม่อยู่จนต้องแตกสลายลง แต่ทำไม......
“สงสัยเรื่องไอเวทย์นี่รึไง คิลมัส”เสียงของเอเธียร่าเย็นเยียบ
“ก็ใช่น่ะเซ่! พี่น่ะ...เป็นยมฑูตไม่ใช่รึไง! พลังเวทย์มันก็ต้องเป็นของยมฑูตสิ อย่างคนที่ชื่อไอริสนั่นน่ะ ถ้าตายไปพลังเวทย์จะเปลี่ยนเป็นพลังวิญญาณแทนไม่ใช่เหรอ แล้วทำไม...”
“ถามได้...”เอเธียร่ายิ้มวูบหนึ่ง เธอเรียกอาวุธสารพัดชนิดขึ้นจากไอเวทย์ทริสทอร์ของตนเอง
“...เพราะชั้นยังไม่ตายน่ะสิ!!!”
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว
“ชั้นพูดถูกรึเปล่า...ราฟาเอล”
“แหม...หูแมวจมูกหมาจริงๆเลยน้า”
วูบ...
ฉับพลัน ร่างของราฟาเอลก็โผล่ขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่า ในมือของราเอลมีผ้าคลุมสีฟ้าจางๆอยู่ด้วย
“ขนาดว่าใช้ “ผ้าผืนฟ้า” ของเพิร์ลแล้วแท้ๆ ยังจับได้อีกเหรอ”ราเอลสะบัดผ้าคลุมสีฟ้าอ่อนนั่นเล็กน้อย ก่อนจะทำให้มันจางหายไป
“ผ้านั่นปิดปังสายตาชั้นก็จริง แต่ไม่ได้ทำให้ตัวตนของแกหายไปได้แน่นอน ราเอล”ครูเอลยิ้มอย่างเป็นต่อ “ห้องประชุมนี่มีพรมขนสัตว์สีแดงสด พรมนี่ทั้งหนาและคลายตัวค่อนข้างยาก เพราะงั้นเวลาที่แกก้าวเดินมันจะยุบเป็นรอยอย่างที่เห็นนั่น”
“ชริ ฉลาดเป็นกรดอีกตามเคย”ราเอลพึมพำ “แต่ก็สายไปแล้วล่ะนะ”
ฟู่!!!
สิ้นคำ ควันประหลาดก็ถูกพ่นออกมาอย่างรวดเร็ว บดบังการมองเห็นจากทุกคนจนสิ้น
“แค่กๆ นี่มัน...”
......ควันยาสลบ!!!......
“ทุกคน อย่าสูดมันเข้าไป!”ครูเอลตะโกน แต่ก็ไม่ทัน
“จุ๊ๆๆ ช้าไปแล้วครูเอล”ราเอลยิ้มยิงฟัน ก่อนจะสลัดผ้าคลุมในมือ ร่างทั้งร่างก็หายไป
“กรอด...อย่าคิดว่าจะหนีพ้นนะ ราฟาเอล!!!”ครูเอลวิ่งออกจากห้องประชุมไป
ปัง!!!
“แฮ่ก...แฮ่ก”ครูเอลหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
“ในที่สุด...ก็...จนมุมนะ”ครูเอลเอ่ยทั้งหอบ
“ว้า...ผ้านี่ใช้กับนายไม่ได้ผลเลยรึไงนะ”สิ้นคำ ราเอลก็สลัดผ้าคลุมทิ้งไป ร่างสูงโปร่งของเจ้าชายหนุ่มน้อยปรากฎสู่สายตาของราชายมฑูตผู้น้องอีกครั้ง
ครูเอลวิ่งไล่ล่าราเอลมาตั้งแต่ห้องประชุม วนรอบปราสาทไปเสียหลายรอบกว่าจะมาสุดเอาที่หอคอยทิศตะวันออกของปราสาท จนครูเอลยังแอบอดสงสัยไม่ได้ว่าไอ้เจ้าชายตรงหน้านี่มันจะถึกไปถึงไหน วิ่งได้ไม่มีเหนื่อยหอบเลยซักนิด
“แต่ยกย่องนายจริงๆแฮะ วิ่งตามข้ามาได้ถึงนี่ทั้งๆที่ร่างกายเป็นแบบนั้น น่านับถือๆ”ราเอลแสยะยิ้ม
“ร่างกายเป็นแบบไหนไม่ทราบ หา?”ครูเอลแยกเขี้ยวใส่ รู้ดีอยู่หรอกว่าเป็นกลลวงของเจ้าตัวแสบ แต่ก็อดสะดุ้งไม่ได้
“นายก็รู้ตัวดีแก่ใจ”ราเอลว่า พลางตวัดมือเรียกดาบเล่มยาวออกมา
“คิดจะสู้ด้วยดาบเหรอ...ตลกไปหน่อยมั๊ง”ครูเอลชักดาบของตัวเองออกมาบ้าง
“เปล่า...แค่จะงัดเอาหลักฐานของนายออกมาก็เท่านั้น”ราเอลยิ้มอย่างเป็นต่อ
“พูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง”ครูเอลพูดรัวเร็ว
“งั้นก็ช่วยไม่ได้”ราเอลจับดาบสองมือด้วยท่าเตรียมพร้อม
......ลงมือก่อนดีกว่า......ครูเอลคิดได้ดังนั้น ร่างสูงก็พุ่งเข้าใส่ทันที!!!
เคร้ง!
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ถึงป่วยก็ฮึดสู้ล่ะวะ!!!
ยั่วๆกับตอนต่อไป...ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆ
“ก็ว่าแล้วว่าเวทย์บ้าๆของเจ้าเจเนสนั่น...ไม่น่าจะหยุดแค่กระตุ้นให้อาการกำเริบเฉพาะตอนนั้นหรอก”ราเอลหงุดหงิดเสียเต็มประดา เพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่ที่แขนซ้ายของครูเอลนั่น...คือเครื่องเตือนใจที่เขาไม่คิดจะเห็นมันอีกเป็นรอบที่สอง
รอยสักสีดำสนิทนั่น!!!
ว่าแล้ว...ก็หลบลงหลุมโดยไว!!!
76 : มนุษย์...หรือ...ยมฑูตเก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น