คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #86 : ตอนพิเศษ 3 : สาเหตุแห่งการหลบหนี [3]
ตอนพิเศษ 3 : สาเหตุแห่งการหลบหนี [3]
- ห้องนั่งเล่นรวม -
“เลนเน่!”โฟร์เลสและรีเนลร้องอย่างตกใจ เมื่อเห็นร่างของเด็กสาวลอยละลิ่วออกนอกหน้าต่างไป
“อ๊ะๆ อย่ามัวแต่สนใจทางนั้นสิรีนาลีส”จาเฟรย์ว่า ก่อนที่ดาบจะฟาดฟันลงมา ตัดด้ายฝนพรำที่เหนียวนักหนาของรีเนลจนขาดสะบั้น
“ด้ายชั้นมันยืดได้ย่ะ! เค็จ เน็ต!”ด้ายของรีเนลยืดตัวออกอีกครั้ง และคราวนี้สานตัวเป็นคล้ายๆร่างแห รัดร่างของจาเฟรย์เอาไว้
“โฟร์เลส ชั้นไม่ขวางล่ะ!”รีเนลรู้ดีว่าถ้าเหลือแค่โฟร์เลสคนเดียวในลานต่อสู้...มันจะดีกว่ามีเธอเป็นตัวเกะกะ เธอจึงแลบลิ้นใส่ขุนพลเทพทั้งสอง ก่อนจะกระโดดลงไปจากหน้าต่างอีกคน หนีไปเสียอย่างนั้นเลย
“รีบไปเถอะครับท่านรีนาลีส”โฟร์เลสส่ายหัวกับความขี้เล่นของนายสาว ที่ไม่แพ้คนเป็นพี่ซักนิด
“เฮอะ พูดไปเถอะ เหลือแต่แกคนเดียวจะทำอะไรได้?”ไพโรคัสปาดเลือดออกจากมุมปาก เขาสู้โฟร์เลสไม่ได้เลยไม่ว่าจะพยายามขนาดไหน จึงเสียเปรียบเป็นอย่างมาก แต่หากมีซาคริสเข้ามาเสริมล่ะก็ ฝั่งนี้ก็จะได้เปรียบอย่างแน่นอน
“นั่นสินะ...หนึ่งต่อสามมันไม่ค่อยดีจริงๆนั่นแหละ”โฟร์เลสกวาดตามองไพโรคัส ซาคริส และจาเฟรย์
......ก็ไม่ได้อยากใช้หรอกน้า......โฟร์เลสถอนหายใจ
......แต่ว่า......
“ถ้าอยากสู้นัก...งั้นชั้นจะสนองให้”โฟร์เลส
ครึ่ก
เสียงแปลกๆที่ดังขึ้น ปลุกประสาทสัมผัสของทั้งสามให้ตื่นตัว ยิ่งกับไพโรคัสและซาคริสที่เป็นขุนพลเทพ เคยชินกับการต่อสู้แล้วยิ่งแล้วใหญ่
“เสียงแปลกๆนี่...อะไรกัน”ซาคริสพึมพำ
......เดี๋ยวก่อน......ไพโรคัสฉุกใจคิดอะไรบางอย่าง
......โฟร์เลส...เป็นนักเวทย์ธาตุดิน......
......งั้นก็ต้อง......
“พื้น!!!”ไพโรคัสตะโกน
“รู้ตัวช้าไปรึเปล่า”โฟร์เลสยิ้ม...ด้วยรอยยิ้มที่ไม่มีทางให้พวกเพื่อนๆได้เห็น...
...รอยยิ้ม...ของนักฆ่า!...
...รอยยิ้มที่จะปรากฎออกมา...เมื่อ “เหยื่อ” ติดกับ...
เปรี๊ยะ!
พื้นหินอ่อนของห้องนั่งเล่นแตกร้าว โดยมีจุดศูนย์กลางที่ตัวโฟร์เลส รอยแตกแผ่ไปรอบๆห้องอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ใครจะทันตั้งตัว และ...
“ลาก่อน”โฟร์เลสแสยะยิ้มเหี้ยม นิ้วชี้ของเขาทำท่าปาดคอเป็นการสั่งลา
ตูม!!!
โครม!!!
...สิ้นคำ...หอคอยหินแห่งปราสาทเฮฟเว่น...ก็แตกกระจาย...
...แม้เศษหินที่ควรจะมี...กลับเหลือเพียงเศษผงจางๆ...
ครึ่ก...
ไพโรคัสค่อยๆผุดลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก เพราะคลื่นทำลายล้างที่แผ่มากับเวทย์ของโฟร์เลสนั้น นอกจากจะทำลายหอคอยทั้งหอแล้ว คลื่นบางส่วนยังมาทำลายระบบประสาทและพลังเวทย์ไปหลายส่วน
......แต่ถึงจะไม่มีคลื่นพวกนั้น...กำลังใจในการต่อสู้ของพวกเขาก็ลดลงกว่าครึ่งแล้ว......
“น...นี่มัน...สิบสามเวทย์ทำลายล้าง...ปฐพีวินาศ”ซาคริสคราง ระหว่างการตกลงมา เขาพลาดท่าถูกพวกเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งกระแทกเข้าอย่างจังเพราะต้องปกป้องร่างไร้สติของนามิเน่อีก เรียกได้ว่าทุลักทเลเอาการ
“แก...ลักลอบเรียนเวทย์ของพวกยมฑูตงั้นเหรอ!!!”จาเฟรย์ตวาด สภาพของเขานั้นก็ไม่ต่างจากขุนพลเทพคนอื่นมากนัก เพราะระหว่างที่ตกลงมา เขาเป็นคนเดียวที่ปะทะกับโฟร์เลส ในขณะที่ซาคริสนั้นต้องปกป้องนามิเน่ ส่วนไพโรคัสแค่เอาตัวรอดยังเกือบแย่เพราะโดนเล่นงานมาแต่เนิ่นๆแล้ว
“ตลกล่ะ...เวทย์ของยมฑูต เขาก็มีไว้ให้ยมฑูตใช้ เฮฟเว่นอย่างเราจะเอาพลังจากไหนมาใช้ได้”โฟร์เลสแสยะยิ้ม
......โง่เขลาเสียจริง...ชายผู้นี้ไม่สมควรกับตำแหน่ง “เจ้าชาย” เลยด้วยซ้ำ......โฟร์เลสลอบคิด
......แต่ความใจกล้าบ้าบิ่นนี่ต้องขอนับถือ......
“แล้วแก...ใช้เวทย์นี่ได้ยังไงกัน!!!”ไพโรคัสตวาด
“จะบอกให้ก็ได้...ปฐพีวินาศน่ะเป็นเวทย์สายดิน เพราะพวกยมฑูตน่ะ ถึงจะมีเวทย์เป็นสายธาตุแบบพวกเรา แต่ก็ไม่ได้มีแต่การเจาะลึกที่เวทย์ประจำสายของตัวเองเท่านั้น เพราะยังมีเวทย์บางบทที่ยมฑูตชั้นสูงต้องเรียน และเป็นเวทย์คละธาตุ”โฟร์เลสว่า
“ซึ่งในที่นี้คือ...สิบสามเวทย์ทำลายล้าง เก้าเขตอาคมมนตรา และยี่สิบหกเวทย์ปกปักษ์...ถูกมั๊ยล่ะ”ซาคริสว่า
“ใช่...ตั้งแต่ครั้งแรกที่ชั้นเห็นเวทย์ทำลายล้างนี่ ชั้นก็รู้แล้วว่าเวทย์ทำลายล้างทั้งสิบสามบทน่ะ ไม่ใช่เวทย์สายเดียวกัน แต่เป็นเวทย์คละสาย จริงอยู่ที่ชั้นไม่อาจดัดแปลงมันให้เป็น “พลังของชั้น” ได้ทั้งหมด แต่ขอบอกเลยนะว่าพลังของพวกยมฑูตที่เป็นธาตุ “ดิน” น่ะ ชั้นเรียนรู้และดัดแปลงมันมาหมดแล้ว”โฟร์เลสยิ้ม
“หมายความว่านอกจากปฐพีวินาศแล้ว...แกยังมีเวทย์ดัดแปลงอีกอย่างนั้นสิ!”จาเฟรย์กัดฟันอย่างเจ็บใจ
......ทำไมคนแบบนี้...ถึงอยู่ใต้บัญชาของไอ้ราฟาเอล...ไม่ใช่ข้า!!!......
เปรี๊ยะ
คทาของโฟร์เลสส่งประกายไฟฟ้าแล่นเปรี๊ยะๆออกมา ราวกับเป็นการประท้วงที่ใช้มันจนเกินควร
“หมดเวลาสนุกแล้วสิ”โฟร์เลสถอนหายใจ
......ต้องรีบกำจัดพวกเขาซะ...ก่อนที่ใครบางคนในนี้จะไปเล่นงานท่านรีนาลีสได้......
ฉึก
โฟร์เลสปักคทาลงกับพื้น ปากพึมพำคาถา
“แย่ล่ะ...มันจะใช้ท่าไม้ตาย!”ซาคริสเป็นคนเดียวที่เคยเห็นท่าพลังที่เกิดจากโฟร์เลสท่านี้ จึงสามารถรู้ได้ทันทีว่าที่โฟร์เลสกำลังจะทำ...มันคืออะไร
“รีบหยุดไว้!”จาเฟรย์สั่ง
“สมเป็นอันดับสามแห่งขุนพลเทพจริงๆ...เจ้าโฟร์เลส”อัลเซเชียเอ่ย
......เจ้าเด็กอัจฉริยะในรอบร้อยกว่าปีคนนี้...เติมโตได้รวดเร็วดีจริงๆ......
......แม้กระทั่งเวทย์ของยมฑูต...ยังลอกเลียนมาปรับเปลี่ยนเป็นพลังในรูปแบบของตัวเองได้......
“แต่เล่นซะพังทั้งหอคอยแบบนั้นก็ไม่ไหวกระมัง”อัลเซเชียหรี่ตาลงอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
ปี๊บ
‘ประกาศถึงผลของสงคราม! ประกาศถึงผลของสงคราม! รายงาน!!!’
“ว่ามา”อัลเซเชียสั่ง
‘สามในสิบสองขุนพลเทพ ท่านเชลล์ ท่านเวย์น และท่านเจเนส....สิ้นชีวิตในการศึกด้วยน้ำมือของราชายมฑูตฮาเดสและกองกำลังยมฑูต ผสานกับจ้าวปิศาจเอวิเดสและธิดาปิศาจทั้งสอง ส่วนเจ้าชายราฟาเอลรอดชีวิตกลับมาได้ในสภาพร่อแร่ แขนข้างหนึ่งยัง...ยัง...’
“ว่ามา”อัลเซเชียสั่งย้ำ
‘ข...แขนข้างหนึ่งของพระองค์ถูกตัดขาดครับ...ตอนนี้ทีมผู้รักษากำลังพยายามเยียวยาอย่างสุดความสามารถ’
“อะไรนะ”อัลเซเชียผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ในทันที
......ขนาดเจ้าราฟาเอลที่ว่าแน่ๆ...แขนยังถึงกับขาดเชียวรึ......
“ฮึฮึ...ฮึๆๆๆๆๆ...ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
‘ท...ท่านอัลเซเชียขอรับ’
“ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”อัลเซเชียหัวเราะร่วน
......แน่ไม่เลวนี่...ฮาเดส......
......คิดไม่ผิดจริงๆที่ให้ราฟาเอลไป......
“แล้วเจ้าราฟาเอลอาการเป็นยังไงบ้าง”อัลเซเชียถาม
‘เอ่อ ครับ...คือท่านเสียเลือดไปไม่มากเพราะที่ปากแผลมีน้ำแข็งเกาะอยู่ แต่เซลล์ตรงส่วนนั้นตายสนิทแบบที่ไม่สามารถเย็บติดกันได้ครับ’
......ยังอึดไม่เปลี่ยน......อัลเซเชียลอบถอนหายใจอย่างเสียดาย
......น่าจะตายๆไปซะแท้ๆ......
......ไม่สิ...ยังไงก็ต้องรั้งมันไว้ก่อน...เพราะมีแต่มันที่มีโอกาสมากที่สุด ในการจัดการเจ้าครูเอลและเจ้าฮาเดส......
......หมากตัวนี้ยังใช้การได้......
“ราฟาเอลอยู่ที่ไหนตอนนี้”อัลเซเชียถาม
‘อยู่ ณ ห้องพยาบาลฉุกเฉินที่ชั้นสองครับ’
“เก็บแขนข้างที่ขาดไว้ เดี๋ยวข้าจะไปรักษาให้ด้วยตัวเอง”อัลเซเชียว่า
‘หา!’
ปี๊บ
“แย่จริง”อัลเซเชียส่ายหัว
......แบบนี้...ก็ปล่อยให้ยัยรีนาลีสตายไม่ได้......
......คงต้องไปห้ามจาเฟรย์เสียแล้ว......
พรึ่บ
ร่างสูงสะบัดผ้าคลุมยาวลากพื้นอย่างขัดใจ ก่อนจะเดิมุ่งหน้าไปยังหอคอย ที่เดิมเคยเป็นห้องนั่งเล่นรวมของราฟาเอลและพวกพ้อง
“ฟิ้ว...เจ้าโฟร์เลสเล่นลอกเลียนแบบมากระทั่งเวทย์นี้เชียวเหรอเนี่ย”รีเนลผิวปาก
......เก่งขึ้นเยอะเลยแฮะ...หมอนั่น......
......อยากรู้จังว่าฝีมือตอนนี้จะเทียบ “อันดับสอง” ได้รึเปล่าน้า......
วูบ...
ระหว่างที่รีเนลกำลังรอให้โฟร์เลสต่อสู้จนจบโดยคิดอะไรเพลินๆไปพลางนั้น พลังมหาศาลวูบหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่ร่างของเธออย่างรุนแรง
“อ...อึ๊ก!”ร่างเล็กของรีเนลถึงกับหมดแรงเอาดื้อๆ ทรุดตัวลงไปนั่งแปะอยู่กับพื้นดิน
......พลังนี่...พลังมหาศาลจนน่ากลัวนี่มัน......
......ราชาอัลเซเชีย!......
“แย่แล้ว...ต้อง...รีบไปบอก...โฟร์เลส”รีเนลคราง เธอพยายามควบคุมความกลัวที่พุ่งเข้ามาในจิตใจ มือเล็กๆเกาะกุมกันแน่นและเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อเย็นเยียบ ฟันกัดกรอด
......ไม่ไหว...ลุกไม่ไหวเลย......
“...อึก...”แค่ควบคุมอารมณ์ให้เข้าที่เข้าทางก็แทบจะกินพลังใจของรีเนลไปจนหมด ความต่างชั้นอย่างไม่มีทางเทียบติดของราชาอัลเซเชียยังคงเป็นสิ่ลที่สร้างความหวาดกลัวให้ผู้คนตลอดเวลา เพียงแต่ตัวราชาจะปกปิดมันไว้ ไม่เคยเอาออกมาใช้เลย
......อัลเซเชีย...กำลังโกรธจัด......
......เพราะอะไรกัน?......
......แต่...ไม่มีเวลาจะมานั่งคิดแล้ว......
“โฟร์...โฟร์เลส”รีเนลเปล่งเสียงเรียก
“โฟร์เลส...โฟร์เลส!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
วู้ม...
ไอเวทย์ที่กดดันของอัลเซเชียที่ถึงขนาดทำรีเนลกลัวได้ แน่ล่ะว่าระยะแค่นี้มันต้องแผ่มาถึงอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้ทั้งสี่ก็รู้สึกและสัมผัสได้เป็นที่เรียบร้อย
“กรอด...ท่านพ่อ”จาเฟรย์กัดฟัน
......ราชาอัลเซเชีย......
......ขืนมาเห็นเราต่อสู้กับบุตรแห่งพระองค์คงไม่ดีแน่......โฟร์เลสคิด เขาจึงสลายเวทย์ที่กำลังร่ายอยู่เสีย
“ถอยกลับไปซะ ตราบเท่าที่พวกแกยังมีโอกาส”โฟร์เลสขู่
“ถอยก่อนเถิดท่านจาเฟรย์”ไพโรคัสว่า
“ท่านจาเฟรย์”ซาคริสเองก็ไม่อยากเผชิญหน้ากับอัลเซเชีย ในช่วงที่อารมณ์เป็นแบบนี้เท่าไหร่นัก
......เอาเถอะ...ไม่ว่ายังไง......
......ภารกิจหลักของเราก็สำเร็จแล้ว......
“ครั้งนี้เราจะยอมถอยไปก่อนก็ได้...โฟร์เลส”จาเฟรย์แค่นเสียง “แต่จำไว้ว่าซักวัน...แค้นนี้ต้องชำระ!”
วูบ!
ร่างของทั้งสี่สลายหายไปกับอากาศ โดยที่โฟร์เลสไม่ได้มีความคิดจะไล่ตามซักนิดเดียว
“จะแกล้งสลบอีกนานมั๊ย ไมออส”โฟร์เลสเอ่ยขึ้น
แคร่ก...
“ว้า...นายรู้ตัวอีกแล้วสิเนี่ย”ไมออสถอนหายใจหน่ายๆ ร่างสูงลุกขึ้นอย่างสบายๆพลางปัดพวกเศษอิฐเศษผงออกจากตัว
“เปล่า ชั้นไม่รู้สึกด้วยซ้ำ”โฟร์เลสส่ายหัว
......ในขุนพลเทพทั้งหมด ไมออสเป็นคนที่พรางพลังได้แนบเนียนที่สุดอยู่แล้ว......
......ไม่มีทางหรอกที่เราจะรู้สึก......
......แค่...คิดว่า......
“แค่คิดว่าคนอย่างนาย...ไม่น่าจะสลบได้ด้วยเรื่องแค่นั้น”โฟร์เลสหันไปทางไมออส “คนอย่างนายน่าจะแกล้งสลบให้พวกนั้นตายใจ แล้วลอบโจมตีเอาระหว่างที่มันเผลอมากกว่า”
“วะ...รู้ทันทุกรอบเล้ย”ไมออสยีหัวตัวเอง
“เรื่องเล่นไม่ซื่อ แล้วก็ขี้โกงน่ะ มันงานถนัดนายไม่ใช่รึไง เจ้าของพลังพรางตัวที่ยอดเยี่ยมที่สุดอย่างนาย มักจะชอบลอบเล่นงานข้างหลัง สังหารเหยื่อในทีเดียว...ทั้งหมดที่พูดน่ะ...มันงานถนัดนายเลยนี่”โฟร์เลสว่า
“ก็จริงของนาย”ไมออสยักไหล่ เพราะในกลุ่มของราฟาเอล เขาเป็นคนที่มักจะทำหน้าที่ “สืบเสาะ” “ติดตาม” “ลอบโจมตี” และ “ลอบสังหาร” เป็นปรกติอยู่แล้ว
“ถ้าท่านรีนาลีสรู้เข้าคงไม่ดี นายเลยต้องรอท่านจากไปก่อนสินะ”โฟร์เลสดูไม่หยี่ระอะไรเลยกับเรื่องทั้งหมดที่เอ่ยไป ไม่คิดถึงชีวิตที่เสียไปภายใต้น้ำมือของเขา หรือของเพื่อนๆซักนิด
“เพราะพวกเรามันไม่ใช่คนดีนักน่ะซี่”ไมออสยิ้มยิงฟัน “เพื่อตัวเองกับเพื่อนๆแล้วจะให้ฆ่าคนก็ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก คนอย่างพวกเรานี่มันดีนักแหละเนาะ?”
“ท่านรีนาลีสเกลียดนักล่ะกับเรื่องพวกนี้ ขนาดท่านราฟาเอลเองยังไม่กล้าทำต่อหน้าน้องสาวเลย”โฟร์เลสส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ
......คนที่อ่อนต่อโลกอย่างท่านรีนาลีส...หากต้องอยู่ในสมรภูมิจริงๆล่ะก็...นางไม่รอดแน่......
“แต่ชั้นสงสัยอย่างฟร่ะ เรื่องที่พวกมันยอมถอยไปแต่โดยดีเนี่ย”ไมออสว่า
“ชั้นก็สงสัยเหมือนกัน”โฟร์เลสเสริม “เตรียมการมาดีขนาดนั้น ไม่น่าจะยอมถอยไปง่ายๆเพราะท่านอัลเซเชียคนเดียวหรอก แล้วยิ่ง...”
“เฮ้ย!!!”แล้วทั้งสองก็สะดุ้ง ร้องตะโกนพร้อมๆกัน
......ตายล่ะวา! เราปล่อยท่านรีนาลีสเอาไว้คนเดียว!!!!!......
ตึก!
“...รีนาลีส...”เสียงเย็นชาของชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้าเธอเอ่ย
“คาร...วะ...เพคะ”รีเนลเอ่ยตะกุกตะกัก ใบหน้าขาวซีดไร้สีเลือด
“เดี๋ยวเราจะมาถามเรื่องหอคอยกลายเป็นแบบนี้ทีหลัง”อัลเซเชียยื่นมือให้รีเนลที่นั่งแปะอยู่กับพื้น
“อ...เอ่อ...ขอบพระทัย”รีเนลค่อยๆจับมือของอัลเซเชีย และพยุงตัวลุกขึ้นมา
“เจ้าน่ะ...ไปกับข้าเดี๋ยวนี้”อัลเซเชียสั่ง
“หม่อมฉัน?”รีเนลชี้ตัวเองอย่างงงจัด
“เจ้านั่นแหละ”อัลเซเชียว่า
“ขอบังอาจเรียนถาม...เอ่อ...ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอันใดรึเพคะ”รีเนลถาม
“...พี่เจ้า...”อัลเซเชียเอ่ย
“ท่านพี่? ท่านพี่ราเอลเป็นอะไรไปรึเพคะ!”รีเนลตกตะลึง
“ราฟาเอลบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กลับมา ขุนพลเทพทั้งสามตายเรียบ ไอริสแปรพักต์ เพิร์ลพาราฟาเอลกลับมาได้ แต่เจ้าตัวก็แขนขาดไปข้าง บาดเจ็บพอสมควร”อัลเซเชียร่ายยาว
......ท่านพี่!!!......
......เป็นไปไม่ได้!!!......
......ท่านจะเป็นอะไรไปไม่ได้นะ......ท่านพี่ราเอล......
......ทั้งหมด...ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี่......
......เพราะราชายมฑูตทั้งสองคนแท้ๆเชียว!!!!!......
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
จบตอนพิเศษแล้วครับ
และในส่วนนี้จะเฉลยถึงว่า ทำไมรีเนลถึงได้แค้นครูเอลนักหนาด้วยนะครับ
ที่จริงเกิดจากแค้นาชายมฑูตทั้งสองคน แต่ฮาเดสหาตัวยาก ส่วนครูเอลหาตัวง่ายเพราะเรียนอยู่ที่เดียวกัน
เพราะงั้นเลยลงกับครูอี้น้อยซะหมดเลย งุงิๆ
เหอๆๆๆๆๆๆ
เจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการนะคร้าบบบบบ
ความคิดเห็น