ลำดับตอนที่ #69
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #69 : ตอนที่ 60 : ปราชญ์แห่งคาโนวาล ลิเดีย ไลเวอร์ร่า
มาแล้วคร้าบบบบบ
พอดีว่าวันนี้อาจจะลงอีกตอนช้าไปหน่อย
อาจจะลงตอนสายๆครับ
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ตอนที่ 60 : ปราชญ์แห่งคาโนวาล ลิเดีย ไลเวอร์ร่า
“โห...พี่สาวเป็นถึงปราชญ์เชียวเหรอฮะเนี่ย”เฟรินอึ้ง
“ใช่แล้วจ้า”ลิเดียยิ้มกว้าง แล้วชูสองนิ้วเป็นตัววีอย่างน่ารัก
“แต่...แต่”คิลอ้าปากค้าง
“อ้อ ถ้าอยากรู้ พี่อายุแค่ 21 เท่านั้นนะ เทียบๆได้กับพวกนักเรียนปีเจ็ดของเอดินเบิร์กนั่นแหละ เพราะงั้นเรียก “พี่” ดีกว่านะ”ลิเดียว่า
“อายุ 21 เนี่ยนะ!!!”เฟรินและคิลว๊าก
“ดูหน้าอ่อนกว่าพวกพี่โรเวนตั้งเยอะ!”เฟรินว่า
“อายุแค่ 21 เป็นปราชญ์เนี่ยนะ!!!”คิลตะโกน
“ความสามารถของลิเดียเป็นของจริง เรื่องนี้ชั้นยืนยันได้”คาโลยิ้มน้อยๆ ตอนแรกเขาเองก็ไม่อยากจะรับเธอเข้ามาในปราสาทคาโนวาลด้วยซ้ำ แต่พอเห็นพลังเข้าจริงๆ จากที่คิดว่าจะให้เป็นขุนนางขึ้นต่ำก็ต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ล่ะ เรียกว่าเป็นพวก “ซ่อนคม” ของจริง
“แล้ว...จะเอายังไงล่ะคะท่านคาโล”ลิเดียถาม
“รีบเข้าปราสาทคาโนวาลเลย ชั้นไม่มีเวลาเถลไถล”คาโลส่งายตาดุๆไปทางหญิงสาว
“รับทราบปฏิบัติเจ้าค่ะ”ลิเดียยิ้มกริ่ม เธอถีบคนขับเกวียนเข้ามาภายในเกวียน ส่วนตัวเธอออกไปควบคุมบังเหียนแทน
“จะซิ่งล่ะน้า~~~”เสียงลิเดียแว่วๆ
กุบกับ...กุบกับ
กับกับกุบกับ
กุบกับๆๆๆ
เฟี้ยว!!!
ไม่พูดพล่ามทำเพลง ลิเดียเร่งความเร็วม้าซะจนคนในเกวียนทั้งสาม [บวกข้ารับใช้ที่ขับเกวียนเมื่อครู่] แทบจะหาที่ยืดไม่ทัน ดีที่คาโลคงจะเคยชินกับการขับซิ่งในแบบฉบับของปราชญ์สาวแล้ว ถึงได้ใช้เวทย์ยกกระเป๋าของทั้งสามเอาไว้ไม่ให้ร่วงลงไปจากเกวียนเสียก่อน
“ข้างหน้าๆๆๆๆๆ”คิลว๊าก จากมุมของเขาเห็นได้ชัดเจนว่าลิเดียขับเกวียนมุ่งตรงไปยังต้นสนต้นใหญ่!!!
“ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ หาที่จับให้ดีๆ จะบินกันล่ะน้า~~~”ลิเดียดูจะสนุกสนานซะเหลือเกิน
กุบกับๆๆๆๆๆๆๆ
“เอ้า โดด!!!”ลิเดียกระตุกบังเหียนอย่างแรง
กึง!
ฉับพลัน ที่กีบเท้าของม้าลากเกวียนก็ปรากฎผงสีทองจางๆขึ้น ละอองผงเหล่านั้นลากสายขึ้นไปบนท้องฟ้า ม้าก็ยังคงควบต่อไปโดยยึดเอาผงสีทองเป็นลู่วิ่ง ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้ายามค่ำคืนในทันใด
“ส...สุดยอด”คิลคราง เมื่อใช้ผงสีทองเป็นลู่วิ่ง เกวียนก็ไม่มีการสั่นสะเทือนอีก เขาจึงชะโงกหน้าออกมารับลมภายนอก
“อย่างกับซานตาคลอสแน่ะ”เฟรินตื่นเต้น
“ฮะๆ จะว่าอย่างนั้นก็ได้นะ”เสียงลิเดียแว่วมาจากที่นั่งคนขับ
“แต่นี่น่ะ เร็วกว่านั้นอีก”คาโลชี้ลงไปเบื้องล่าง
“นั่นมัน...โคมิเน่นี่นา”คิลทบทวน
“ใช่จ๊ะ ถ้าใช้ทางเดินธรรมดามันต้องอ้อมบารามอสก่อน ซึ่งต้องใช้เวลานาน แต่เพราะนี่เป็นทางด่วนพิเศษแบบไม่ต้องจ่ายตังค์ เลยลัดผ่านน่านฟ้าของโคมิเน่โดยตรงเลยไง”ลิเดียอธิบายโดยไม่วายเสริมคำพูดให้ดูตลกไปอีกแบบ
“แบบนี้ตอนเช้าก็ถึงปราสาทคาโนวาลแล้ว”คิลว่า
“ถูกต้อง เพราะงั้นชั้นถึงได้เลือกลิเดียมาเป็นคนรับไง”คาโลว่า
“อ...อือ”
“เฮ้! ทุกคน รีเนลฟื้นแล้ว!”เสียงยินดีร้อง
“เร...นอน”รีเนลลืมตาขึ้นมามองเพื่อนร่วมห้อง
“ไงรีเนล ร่างกายเป็นยังไงบ้าง”มาทิลด้าโผล่มาจากอีกฟากของเตียง
“...ร่าง...กาย...”รีเนลยังคงเบลอ ไม่รับรู้เรื่องราว
“จริงสิ สิงโตนั่น!!!”รีเนลผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เพราะร่างกายขาดเลือดมากเกินไป เธอจึงหน้ามืดหมดแรงลงไปนอนแผ่อยู่บนเตียงอีกครั้ง
“สิงโต? สิงโตอะไรเหรอรีเนล???”แองจี้งง
“เห็นตอนที่พี่ยูริซิสเขามาส่ง ก็บอกแค่ว่าเธอหนีออกมาจากห้องพยาบาล พวกเราเป็นห่วงแทบแย่แน่ะ”เรนอนว่า
......ไม่รู้งั้นเหรอ?......
......แสดงว่าไอ้ครูเอลไม่ได้บอกว่าเราโดนเล่นงาน......
......เอ๊ะ...เดี๋ยวก่อนสิ......
“ค...ใครมาส่งชั้นนะ?”รีเนลถามช้าๆ หวังให้ตัวเองหูฝาด
“เอ๋? พี่ยูริซิสไง”แองจี้ตอบ
“อะไรนะ!!!”รีเนลทวนคำเสียงสูง
- โบสถ์ร้าง -
“...รี...นาลีส...”
“ท่านราเอล?”เพิร์ลเงยหน้าขึ้นมองร่างของผู้สูงศักดิ์ที่นอนสลบไสลไม่ได้สติมาหลายวันแล้ว
“...รีนาลีส...รีเนล...”ราเอลพึมพำ
“เป็นห่วงน้อง...นี่สินะจิตใจของคนเป็นพี่”
“โฟร์เลส”เพิร์ลหันไปทางประตูที่เฮฟเว่นหนุ่มเพิ่งจะก้าวเข้ามา
“ไอ้เจ้าชายคงเป็นห่วงน้องน่ะสิ ถึงจะยังไม่ได้สติก็ยังห่วง นี่แหละจิตใจของคนเป็นพี่”โฟร์เลสสรุปสั้นๆ เขาลงมานั่งข้างๆเฮฟเว่นสาวซึ่งเป็นหัวหน้าของเขาด้วย
“ไปพักได้แล้ว ถึงเวลาเปลี่ยนเวรแล้ว”โฟร์เลสว่า
“ไม่เป็นไร...ชั้นยังไหว”เพิร์ลยิ้มบาง
“อยากเห็นไอ้ท่านราเอลลำบากใจรึไง ที่พวกเราต้องมานั่งเฝ้า โดยเฉพาะเธอ เพิร์ล”โฟร์เลสว่า
“ชั้น...อยากมั่นใจว่าท่านราเอลจะปลอดภัยเสียก่อน”เพิร์ลเอื้อมมือหมายจะสัมผัสร่างของผู้เป็นนาย แต่สุดท้ายก็ชะงักฝ่ามือแล้วถอยกลับไปเอง
“แต่เธอไม่ได้พักเลยตั้งแต่พาท่านราเอลกลับมา น้ำซักหยดยังไม่แตะด้วยซ้ำ”โฟร์เลสว่า
“ชั้นบอกแล้วไงว่าชั้นยังไหว”เพิร์ลเริ่มเสียงแข็ง
“ดื้อจริงๆ”
ปั๊ก!!!
“อึ๊ก!”
“อย่าคิดว่าเธอจะเหนือกว่าชั้นได้ เพิร์ล”โฟร์เลสพูดเสียงเย็น
โฟร์เลสจำเป็นต้องให้หัวหน้าพักผ่อนเสียที เขาจึงตัดสินใจใช้วิธีรุนแรง โฟร์เลสสับฝ่ามือลงบนต้นคอของหญิงสาวอย่างแรง แน่นอนว่าร่างกายที่อ่อนล้ากับพลังเวทย์ที่ถดถอยของเพิร์ลย่อมไม่มีทางสู้เขาได้
......แม้ว่ายามปรกติจะสู้เขาไม่ได้อยู่แล้วก็เถอะ...แต่ก็ไม่ถึงกับโดนเล่นงานง่ายๆแบบนี้......
......พลังของเพิร์ลอ่อนแรงลงมากเกินไป......
โฟร์เลสรับร่างไร้สติของเพิร์ลไว้ก่อนจะล้มลง ก่อนจะถอนหายใจหน่ายๆ
......หัวแข็ง...ดื้อไม่มีใครเกิน......
......พวกระดับสูงของเฮฟเว่นเป็นแบบนี้ทุกคนรึยังไง......
โฟร์เลสคิด แต่คิดปิดมาเขาก็ถอนหายใจอีกรอบ
......แล้วเราจะด่าตัวเองทำไมวะ?......
โฟร์เลสก้มลงมองสัญลักษณ์ที่หลังฝ่ามือ ซึ่งมันเข้มขึ้นจากการที่เขาลงมือ
‘3’
ตัวเลขที่เด่นหราใจกลางสัญลักษณ์แห่งเฮฟเว่น ทำเอาเจ้าตัวต้องถอนหายใจ
......ระดับสูงของเฮฟเว่น...มันก็ตัวเราเองนี่หว่า......
......แล้วจะด่าตัวเองทำเพื่อ?......
โฟร์เลสพาร่างไร้สติของเพิร์ลไปส่งที่ห้องนอนของเจ้าหล่อย ก่อนจะเดินลงมาชั้นล่าง
“โฟร์เลส เพิร์ลล่ะ?”ไมออสถาม
“ยัยนั่นไม่ยอมพัก ชั้นก็เลยต้องลงแรงนิดหน่อย”โฟร์เลสตอบเรียบง่าย
“โหดจริง”ไมออสยิ้มน้อยๆ
“ช่างชั้น”โฟร์เลสตัดบท
“อ้อไมออส นายว่างรึเปล่า?”
“ว่างดิ ทำไมอ่ะ?”ไมออสถาม
“ไปดูแลปรินเซสรีนาลีสทีสิ”โฟร์เลสสั่งสั้นๆ
“หือ? เอางั้นนะ?”ไมออสทวนคำ
“เดี๋ยวถ้าศัตรูบุกมา ชั้นกลับมาช่วยไม่ทันนะเว๊ย”
“ไม่เป็นไร”โฟร์เลสว่า “ถ้าศัตรูมาคราวนี้...ชั้นจัดการเอง”
“ดูแลคนป่วยสามคนเนี่ยนะ?”ไมออสทวนคำ
เพราะสภาพอากาศของเอเดน ทำให้เลนเน่ เด็กสาวที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มของราเอลปรับตัวไม่ทันจนต้องล้มป่วยลง และเพิร์ลเองก็ต้องการพักผ่อน ถ้าไมออสไปคราวนี้หมายความว่าหน้าที่ทั้งหมดจะตกเป็นของโฟร์เลสคนเดียว
“ชั้นไหว ถ้าไม่ไหวก็แค่ปลดปล่อยร่างวิญญาณเท่านั้น”โฟร์เลสว่า “แต่ถ้าเราไม่ดูแลปรินเซส เมื่อปรินซ์ตื่นขึ้นมาพวกเราจะโดนหนักนะ”
“ก็จริงของนาย”ไมออสถอนหายใจ
“งั้นถ้าไม่ไหวก็เรียกละกันนะ โฟร์เลส”ไมออสว่า แต่ก็หัวเราะกับตัวเองเสียก่อน
“แต่คงตลกน่าดูล่ะ ถ้าผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของสิบสองขุนพลเทพจะมาเรียกให้ขุนพลเทพอันดับเจ็ดอย่างชั้นไปช่วยงานเนี่ย”
“ก็รู้อยู่แล้วนี่”โฟร์เลสถอนหายใจ “แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดคือ “คนคนนั้น” ต่างหากล่ะ”
“ท่านอันดับสองผู้ลึกลับน่ะนะ?”ไมออสทวนคำก่อนจะยิ้มกริ่ม “นายจะมาคิดอะไรกับคนที่หายตัวไปสามร้อยกว่าปีแล้วล่ะโฟร์เลส “คนคนนั้น” ที่นายว่าน่ะ”
“ชั้นแค่จะบอกว่าพลังของชั้นยังไม่ถึงกับ “แข็งแกร่งที่สุด” ต่างหากล่ะไมออส”โฟร์เลสถอนหายใจ
“คร้าบ คร้าบ ถ่อมตัวเข้าไป”ไมออสว่า
“ชั้นแค่พูดความจริง”โฟร์เลสบอก
“อาจจะจริง หรืออาจจะไม่จริงก็ได้นะโฟร์เลส นายอย่าลืมว่า “คนคนนั้น” หายตัวไปสามร้อยปีกว่าๆเข้าไปแล้ว ไม่แน่อาจจะตายไปแล้วก็ได้ใครจะรู้”ไมออสแบะปาก
“นายก็แช่งคนอื่นจังนะ”โฟร์เลสยิ้มบาง
“ผิดตรงไหนล่ะ? ถ้าไม่ใช่พวกเดียวกับท่านราเอลก็คือศัตรูทุกคน เหลือแค่เราจะประกาศตัวเมื่อไหร่เท่านั้น”ไมออสยิ้มตาม
“ตอนนี้เราคงต้องชะลอแผนการนั้นไว้ก่อนล่ะน่า นายก็เห็นว่าทุกคนยังไม่พร้อม”โฟร์เลสเอ่ย
“ช่าย แต่ถ้าท่านราเอลชิงกุญแจลับทั้งหมดมาได้ ตอนนั้นก็คือเวลาของพวกเราที่จะประกาศถอนตัวออกจากเฮฟเว่นสินะ โฟร์เลส”ไมออสว่า
“ใช่...เพราะท่านรีนาลีสที่เป็น “บุตรีแห่งพิภพ” จำเป็นต้องใช้กุญแจนั้น”โฟร์เลสว่า
“ชั้นว่าจะถามนานแล้วล่ะนะโฟร์เลส”ไมออสเอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“อะไรล่ะ?”
“นายอายุมากกว่าชั้น และสนิทกับท่านราเอลและท่านรีเนลก่อนชั้น น่าจะบอกได้สินะ ว่าทำไมท่านราเอลกับท่านรีเนลถึง...กลายเป็นเฮฟเว่นไปได้”ไมออสหรี่ตาลง
“ฮะๆ”โฟร์เลสหัวเราะน้อยๆ
“ก็ชั้นสงสัยนี่หว่า พลังระดับท่านราเอล แค่จะหนีการจับกุมของเฮฟเว่นน่ะทำได้สบายอยู่แล้ว แล้วทำไม...”
“ที่จริงเรื่องนี้มันไม่สมควรจะพูด และชั้นเองก็ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางมากนัก”โฟร์เลสหุบยิ้ม “แต่เอาเถอะ ถ้านายอยากรู้ ชั้นจะบอกให้”
“ก็ว่ามาเลย”ไมออสว่า
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น