ลำดับตอนที่ #50
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #50 : ตอนที่ 43 : สอบปากคำ
ตอนที่ 43 : สอบปากคำ
- ปราสาทเฮล -
- ตี 4 -
ตึกๆๆๆๆๆๆๆ
ปัง!!!
เสียงเปิดประตูดังลั่น ทำเอาฮาเดส เอเธียร่า และเครสสะดุ้งเฮือก [ฮาเดสเป็นคนนอนน้อยเป็นปรกติ ส่วนเอเธียร่าและเครสเป็นเวรเฝ้าปราสาทวันนี้]
“กลับมาแล้วคร้าบบบบบบ”
“การ์ริน?”เอเธียร่าขมวดคิ้ว เพราะเพิ่งจ่านไปแค่ 3 วันนับจากวันที่วินเซนต์ลากการ์รินไปทำภารกิจ มันเร็วเกินไปที่การ์รินจะกลับมาแล้ว
“หลับมาแล้วคร้าบ ท่านฮาเดส พี่เอเธียร่า พี่เครส”การ์รินยิ้มแฉ่ง
“นี่หนีงานกลับมารึไง การ์ริน?”ฮาเดสถาม เพราะไม่เห็นวี่แววของวินเซนต์
“โธ่ ผมไม่หนีงานหรอกน่า”การ์รินถอนใจ “แค่คิดถึงเกมส์ที่ร๊ากกกกกก เลยรีบทำรีบกลับเท่านั้นครับพ้ม!!!”
“งานเสร็จแล้วรึไง?”เครสถาม
“แน่น้อน”
ตึง!!!
จบคำ การ์รินก็ปลดผนึกเวทย์พรางตา ร่างของไมออสที่ถูกพันธนาการด้วยเชือกอาคมอย่างหนาแน่นและร่ายเวทย์ทำให้หลับอยู่ ก็ถูกปล่อยร่วงลงมาจากกลางอากาศ
“นี่ครับ หนึ่งในสิบสองขุนพลเทพที่ผมจับมาได้”การ์รินอวดผลงาน
“...”เอเธียร่าเบิกตากว้าง
“ท่านวินเซนต์ให้เอากลับมาให้ท่านฮาเดสสอบปากคำครับ!”การ์รินทำท่าตะเบ๊ะราวกับทหารฝึกใหม่
“...เอ่อ...”ฮาเดสหรี่ตาลงน้อยๆ เพื่อประเมินเหยื่อที่ถูกการ์รินจับกลับมา
“งั้นผมไปเล่นเกมส์ได้แล้วใช่มั๊ยครับ?”การ์รินส่งายตาออดอ้อนให้เอเธียร่าและฮาเดส
“...อ่า...ไปเถอะ...”เครสตอบทั้งๆที่ยังอึ้งไม่หาย
“เยส!!!!!”
เฟี้ยว!
จบคำอนุญาติจากเครส การ์รินก็วิ่งออกจากห้องโถงด้วยความเร็วสูงสุด!!!
“ตัวจริงรึเปล่าคะ ท่านฮาเดส”เอเธียร่าถาม
“จริง”ฮาเดสตอบ แล้วเดินเข้าไปใกล้ๆร่างที่หลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราวนั้น
“......”ฮาเดสพึมพำคาถาแปลกๆ เพื่อบีบบังคับให้ตราสัญลักษณ์ที่หลังมือซ้ายของไมออสปรากฎขึ้นมา เขาพินิจพิเคราะห์มันอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงยื่นให้เอเธียร่าดู
“นี่ไง...ตราสัญลักษณ์ของหนึ่งในสิบสองขุนพลเทพ”
ตราสัญลักษณ์ที่หลังมือของไมออสนั้น จะแตกต่างจากตราสัญลักษณ์ของวิญญาณแห่งเฮฟเว่นทั่วๆไป เพราะใจกลางของสัญลักษณ์จะมีตัวเลขที่แสดงถึงลำดับของสิบสองขุนพลเทพนั้นๆอยู่ด้วย และลำดับหมายเลขของคนที่สลบเหมือดอยู่นี่ก็คือ...
......7......
“สิบสองขุนพลเทพอันดับที่เจ็ด”เอเธียร่าเอ่ยช้าๆ
“เจ้าการ์รินนี่ฝีมือไม่ตกเลยนะ”ฮาเดสแสยะยิ้มที่มุมปาก “เจ้าหมอนี่มีความสามารถในการพรางจิตสูงกว่าคู่หูหอยเชลล์กับยัยเวรกรรมนั่นเยอะ ขนาดว่าอยู่ต่อหน้าชั้นแท้ๆยังแทบไม่รู้สึกถึงไอพลังแห่งเฮฟเว่นเลย”
“แต่การ์รินคนเดียว ไม่น่า...”เครสเอ่ย
“ใช่ ถ้าตามปรกติการ์รินคนเดียวปราบหมอนี่ไม่อยู่ง่ายๆแน่”ฮาเดสว่า
“แล้วทำไม...”เอเธียร่าสงสัย
“ดูนี่สิ”ฮาเดสชี้ไปที่รอยช้ำที่ต้นคอที่ดูจะยังสดๆใหม่ๆอย่างเห็นได้ชัด เพราะมันเขียวคล้ำจนน่ากลัว และยังมีสีม่วงบ่งบอกว่าแผลนี้ติดพิษร้ายแรงมาเสียด้วย
“ก่อนจะต่อสู้กับการ์ริน หมอนี่ผ่านการต่อสู้มาก่อน และการที่ได้รับบาดแผลมาแบบนี้แสดงว่าศัตรูฝีมือไม่เลวเสียด้วย ไม่แน่ว่านอกจากแผลนี่แล้วอาจจะยังเสียไอเวทย์ไปเยอะ เพราะงั้นไอเวทย์ที่แผ่ออกมาถึงได้น้อยขนาดนี้”ฮาเดสเอ่ย “ที่การ์รินชนะได้สบายๆเพราะหมอนี่บาดเจ็บมาก่อนเท่านั้นแหละ ไม่งั้นอย่างต่ำเจ้าการ์รินคงได้แผลกลับมาอย่างต่ำก็อาจจะแขนหัก”
“สิบสองขุนพลเทพมีพลังขนาดนั้นเชียวเหรอคะ”เครสถาม
“ใช่ เพราะหากพวกสิบสองขุนพลเทพไม่เก่งกาจจริงๆ ก็จะโดนสงครามภายในนั่นแหละ กำจัดทิ้งซะก่อนที่จะถึงมือพวกเราซะอีก”ฮาเดสตอบ
“อย่างนี้เจ้าของหมายเลข 1 “เพิร์ล พารันต์” คนนั้นก็ต้องเก่งกาจมากๆเลยสิคะ”เครสครุ่นคิด
“ไม่แน่เสมอไป เพราะถึงความแข็งแกร่งจะเรียงขึ้นไปเป็นอันดับก็จริง แต่จะยกเว้นไว้ที่หมายเลข 1 เพราะถือว่าเป็นหัวหน้า บางทีอาจจะไม่ต้องเก่งมากก็ได้ แค่มีความสามารถที่โดดเด่นก็เป็นเจ้าของหมายเลขนี้ได้”เอเธียร่าอธิบาย
“เช่น ฉลาดแกมโกง วางแผนเป็นเลิศ หรือมีความสามารถแปลกๆที่คนอื่นไม่มี”ฮาเดสต่อ
“ก็หมายความว่าคนที่เก่งกาจที่สุดจริงๆก็คือหมายเลข 2 ใช่มั๊ยคะ?”เครสสรุป
“ไม่หมายเลข 2 ก็หมายเลข 1 นั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็นสิบสิงขุนพลเทพรุ่นไหน คนที่เก่งกาจที่สุดก็ยังเป็น 1 ใน 2 คนนี้อยู่ดี”เอเธียร่าว่า
“อ๋อ”เครสพยักหน้าหงึกๆ
“แล้วจะเอายังไงกับหมอนี่ดีคะ?”เอเธียร่าปรายตามอง
“เดี๋ยวต้องสอบปากคำกันหน่อย”ฮาเดสแสยะยิ้มเหี้ยม
“เครส เอเธียร่า ไปปลุกทุกคนมาที่นี่ ไม่ต้องเลือกวิธีนะ”
“รับทราบค่ะ!”
“งืมๆ จาลากมาทามมายอ่า”เซรอขยี้ตาน้อยๆ มาดหนุ่มจอมกวนหายไปไม่มีเหลือ เมื่อเจ้าตัวอยู่ในชุดนอนลายกระต่าย!!!
“กำลังหลับสบายเลยคร่า”ซิลเรียพึมพำ
“ช่าย~ ปลุกราวมาทามมายยยย”เซียร์พูดลอยๆเหมือนคนเมา
“ฟรี้~”ทีน่าเองก็ถูกเครสใช้เวทย์วาร์ปมาส่งในห้องโถงทั้งๆอย่างนี้เลย เพราะปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นซักที
“ชั้นเป็นคนเรียกมาเอง”ฮาเดสยอมรับ แต่มีใครฟังที่ไหน ทั้งสี่เริ่มทำปฎิกิริยาจะไปเฝ้าพระอินทร์อีกแล้ว
“จะตื่นกันได้รึยัง หา!!!!!”ฮาเดสตวาดอย่างเหลืออด
“ค...ค่ะ!”สมกับที่เป็นเจ้าของฉายา “เจ้าแม่รักษาระเบียบ” ทีน่าสะดุ้งเป็นรายแรก แต่สามพ่อลูกตระกูลฮีมาเธียร์ยังคงหลับสนิท
“เครส จัดการ!”ฮาเดสสั่ง
“ค่ะ!”เครสรับคำ
ซ่า!!!!!
“จ๊าก!!!”เซรอสสะดุ้งเมื่อโดนน้ำเย็นจัดสาดใส่
“หวา!!!”เซียร์เด้นผึงขึ้นจากโซฟาตัวนุ่มที่นั่งอยู่ทันที
“เหวอ อะไรกันคะเนี่ย!!!”ซิลเรียตื่นเต็มตา
“เออ ตื่นกันซะที”ฮาเดสแผ่รังสีสังหาร ทำเอาสามพ่อลูกหัวเราะแห้งๆ
“เอ่อ...เรียกพวกเรามาทำไมครับท่านฮาเดส”เซรอสอ้ำอึ้ง
“มาช่วยชั้นคิดวิธีสอบปากคำคนหน่อย”ฮาเดสแสยะยิ้ม
......มึนหัวจัง......
......จริงสิ...เรา......
“เฮ้ย!!!!!”ไมออสลุกพรวดขึ้น
“โอ้ ฟื้นพอดี”เซรอสตบมืออย่างถูกใจ
“แก! เซรอส ฮีมาเธียร์!!!!!”ไมออสแยกเขี้ยว
“จุ๊ๆ พูดจาให้มันดีๆหน่อยซี่ ไม่งั้นเดี๋ยวโดนหรอก”เซรอสขู่
“โดนอะไร? ยังไงพวกแกก็เล่นมัดข้าไว้แบบนี้อยู่แล้วนี่!!!”ไมออสว่า
“หัดใจเย็นลงบ้างก็ดี ไอ้ขุนพลซังกะบ๊วย”
เฮือก!
“คิง...ฮาเดส”ไมออสกัดฟันกรอด
......แสดงว่าเราถูกจับมาเป็นตัวประกันจริงๆด้วย!!!......
“พอจะเดาออกแล้วสินะ”ฮาเดสยิ้มที่มุมปากน้อยๆ “ที่นี่คือเฮล เพราะงั้นหัดอยู่อย่างสงบเสงี่ยมหน่อย ไม่งั้นแกได้โดนชั้นเล่นงานแน่”
“ต้องการอะไร”ไมออสเจาะเข้าประเด็นไม่อ้อมค้อม
“ถามคำถามง่ายๆแค่ไม่กี่ข้อเท่านั้นเอง”เครสตอบ
“เฮฟเว่นน่ะเปลี่ยนตัวสิบสองขุนพลเทพบ่อยจะตาย เพราะงั้นตอนนี้เราเลยไม่มีข้อมูลของคนในสิบสองขุนพลเทพเท่าไหร่”ทีน่าขมวดคิ้ว “อย่างนายก็เหมือนกัน เราไม่มีข้อมูลของนายเลย ถ้าไม่นับที่การ์รินส่งข้อมูลมาให้”
“เข้าเรื่องเลยนะ แกไปทำอะไรที่เอดินเบิร์ก”ฮาเดสถามตรงๆ
“เรื่องอะไรที่ข้าต้องบอกศัตรูของเฮฟเว่นอย่างพวกยมฑูตกันล่ะ”ไมออสสะบัดหน้าหนี
“ไอ้นี่...มันน่านักนะแก”เซียร์ทำท่าจะเข้าไปตั๊นหน้าเข้าให้ด้วยความหมั่นใส้
“ไม่เอาน่าพี่เซียร์ พอเถอะ”ซิลเรียรีบปรามพี่สาว
“เอาเถอะ ยังไงเท่าที่ดูแกคงไม่ใช่พวกเดียวกับคิงอัลเซเชีย เพราะงั้นจะปล่อยๆให้หน่อยก็ได้”ฮาเดสผ่อนปรน
พรืด...
จบคำ เชือกลงอาคมที่มัดร่างของเฮฟเว่นหนุ่มก็คลายตัวออก ปล่อยให้ไมออสเป็นอิสระอีกครั้ง
“ปลดเชือกออกเนี่ย ไม่กลัวข้าจะหนีรึไง?”ไมออสงงกับการกระทำของฮาเดสมาก เพราะจากที่ได้ยินมานั้น ราชายมฑูตผู้พี่เป็นคนที่ค่อนข้างจะโหดร้ายทารุณ ศัตรูที่ถูกหมายหัวและถูกจับได้ไม่เคยมีใครรอดกลับไปแบบครบสามสิบสอง และส่วนน้อยเท่านั้นที่รอดชีวิต
“ถ้าแกคิดจะหนีจริงคงไม่ถามแบบนี้ ไมออส ดีริค”
“แกรู้จักข้าได้ยังไง”ไมออสขมวดคิ้วหนัก
“ไอริส”ฮาเดสตอบสั้นๆง่ายๆ
“ยัยนั่นไม่ยอบบอกข้อมูลของพวกของไอ้เจ้าชายเฮงซวย แต่บอกว่าตอนนี้ภายในของเฮฟเว่นแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายไอ้ราเอล กับฝ่ายเจ้าชายผู้สืบสายเลือดมาจากอัลเซเชีย และยังไม่ยอมบอกข้อมูลอะไรเลยของพวกไอ้ราเอล”
......ขอบใจนะไอริส......ไมออสแอบคิดในใจ
“ส่วนที่ท่านฮาเดสไม่ทำอะไรนายเพราะท่านไอริสขอเอาไว้น่ะ ว่าอย่าทำอะไรกับเพื่อนๆของท่าน”ซิลเรียหัวเราะน้อยๆ
“แต่แกยังไม่ตอบเลยว่ารู้ชื่อข้าได้ยังไง”ไมออสวกกลับเข้าเรื่องเดิม
“เมื่อกี้ชั้นให้ไอริสมายืนยันตัวก่อนสิ เพราะถ้าไม่ใช่พวกเพื่อนของยัยนั่น ข้าจะได้ลงมือได้เต็มที่หน่อย เสียดายจริงๆ”ฮาเดสทำหน้าเสียดายน้อยๆ แบบที่ไมออสถึงกับหนาว เพราะนั่นหมายความว่าหากว่าเปลี่ยนจากเขาเป็นคนอื่น ที่ไม่ใช่พวกของราเอล ก็คงไม่รอดพ้นมือของราชาแห่งความมืดมิดผู้นี้ได้แน่นอน
“นั่งก่อนเถอะค่ะ เรายังไม่ทำอะไรท่านหรอก”ซิลเรียเอ่ย พลางผายมือไปทางโซฟาข้างหลังของไมออส พร้อมกับมีชาอุ่นๆเตรียมอยู่พร้อม
“ของกินนั่นกินได้นะ พวกเราไม่เลวขนาดใช้วิธีวางยาหรอก”เซรอสแซว
“ก็ได้”ไมออสยอมสงบสตือารมณ์แล้วนั่งลงนิ่งๆ แต่ยังไม่ยอมแตะของกิน
“เอาล่ะ เข้าเรื่องซะที”ฮาเดสนั่งไขว่ห้าง มือทั้งสองประสานไว้ที่หน้าตักแล้วเอ่ยเสียงเครียดว่า
“แกไปทำอะไรที่เอดินเบิร์ก หรือว่าพวกเฮฟเว่นวางแผนอะไรไว้อีก”
“เสียใจที่บอกไม่ได้”ไมออสปฎิเสธ
“ถ้างั้นอย่างน้อยท่านก็น่าจะบอกได้นะคะ ว่าเรื่อวที่ท่านไปที่เอดินเบิร์กนั้น เป็นเพราะคำสั่งจากเบื้องบน หรือท่านไปเองโดยไม่ได้รับคำสั่ง”ซิลเรียพูดอย่างละมุนละม่อม
“......”ไมออสมองหน้าซิลเรียพักหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจ
“ไม่ใช่เรื่องที่เป็นอันตรายกับธิดาแห่งความมืดหรอก วางใจได้”
“ไม่เกี่ยวกับเฟลิโอน่าสินะ”ฮาเดสทำสีหน้าโล่งอกออกมาแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบตีสีหน้าขรึมเหมือนเดิม
......หืม......เจ้าหมอนี่ก็ยังมีด้านที่เป็นห่วงน้องสาวอยู่เหมือนกันนี่......
......แต่ที่จริงแล้ว...จะบอกว่ามันไม่เกี่ยวกับธิดาแห่งความมืดก็ไม่ใช่ซะทีเดียวนา...เราแค่บอกว่าไม่เป็นอันตราย ไม่ได้บอกว่าไม่เกี่ยวซะหน่อย......
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น