คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : ตอนพิเศษ 2 : วัยเด็กของสามแฝดแห่งตระกูลซาฟรานโน่ [4]
ตอนพิเศษ 2 : วัยเด็กของสามแฝดแห่งตระกูลซาฟรานโน่ [4]
“เอาพวกเราเป็นเครื่องมือเลยนะสเฟียร์”ครูเอลยิ้มแหยๆ
“ช่วยไม่ได้ค่ะ อยากอยู่ให้หนูใช้เองทำไม”สเฟียร์ตอบโดยไม่มองหน้าทั้งสองคนเลยซักนิด เพราะเอาแต่เดินไปข้างหน้าด้วยอารมณ์ “งอน” พี่ชายทั้งสองของตัวเอง
“ตระกูลพวกเธอนี่มันน่ากลัวกันทั้งพี่ทั้งน้องจริงๆ”ฮาเดสออกความเห็น
“เอ้อ จะว่าไปแล้ว พวกเธออยู่ตระกูลอะไรกันล่ะ ไม่เห็นพวกนั้นเคยบอกเลย”ครูเอลถาม
“ไอ้ครูเอล”ฮาเดสขมวดคิ้ว แต่ครูเอลแอบส่งซิกซ์ให้ฮาเดสหุบปากเอาไว้
“พวกเรานามสกุล “ซาฟรานโน่” ค่ะ แต่พวกพี่เฟริสกับพี่เฟียร์สไม่ชอบใช้นามสกุลนี้ เลยบอกว่าไม่มีนามสกุล”สเฟียร์ตอบ
“อ้าว ทำไมไม่ชอบใช้นามสกุลนี้ล่ะ?”ครูเอลถามต่อ
......อ้อ...ไอ้นี่......ฮาเดสเริ่มจับเค้าลางความคิดของครูเอลได้
......หลอกถามกันแบบนี้เลยนะไอ้ครูเอล......
“เพราะพวกพี่เขาบอกว่า มันเป็นนามสกุลเดียวกับท่านพ่อน่ะสิคะ”สเฟียร์เอ่ย และด้วยความโกรธ ทำให้เธอพูดออกมาอย่างอัดอั้น เพราะพี่ชายพยายามห้ามมาตลอดไม่ให้พูดเรื่องนี้กับใคร
“ท่านพ่อน่ะ เกลียดพวกเราสามคนจะตาย เพราะงั้นเลยแจ้งราชสำนักไปว่าพวกเราสามคนตายตั้งแต่แรกคลอดพร้อมท่านแม่ไปนานแล้ว ไม่งั้นหนูกับพวกพี่ๆคงไม่ต้องเดือดร้อนเพราะไม่มีไม้กางเขนประจำตัวหรอก”
“โกหกราชสำนักงั้นเหรอ?”ฮาเดสอึ้ง
“ค่ะ ท่านพ่อโกหกไปแบบนั้น แถมยังปล่อยปละละเลย มีพวกเราก็เหมือนไม่มี มองเป็นอากาศเลยด้วยซ้ำ พี่เฟริสเลยพาหนูกับพี่เฟียร์สหนีออกจากบ้าน”สเฟียร์ถอนหายใจ ดูเหมือนอารมณ์จะเริ่มเย็นลงบ้างแล้ว
“หลังจากแยกมาอยู่กันเอง ก็เป็นอย่างที่พี่ๆเห็นนี่แหละค่ะ พวกเราก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เรื่องการเรียนการสอนก็สบายๆ พี่เฟริสกับพี่เฟียร์สเป็นคนสอนหนูเองทั้งหมดอยู่แล้ว ทั้งเรื่องหลักการปกครอง เรื่องการใช้เวทย์มนต์ การประยุกต์ใช้กลยุทธ การวางแผนการรบ แล้วก็...”
“เดี๋ยวๆๆๆๆ”ครูเอลรีบห้ามซะก่อน
“คะ?”
“เธอเรียนเรื่องพวกนั้นด้วยเหรอ?”ครูเอลถามตะกุกตะกัก
“เรียนค่ะ เพราะท่านพี่ทั้งสองน่ะ เกลียดพวกยมฑูตเข้าใส้เลย เกลียดพอๆกับพวกคนที่โกหกท่านพี่น่ะค่ะ ก็เลยบอกว่า “ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางยอมอ่อนกว่าพวกยมฑูตแน่ๆ ไม่ว่าเรื่องไหนก็เถอะ” แล้วก็เรียนกันเป็นบ้าเป็นหลังเลย”สเฟียร์ว่า
“อะไรจะเกลียดขนาดนั้น”ฮาเดสเหงื่อตกอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“อ่ะ พูดง่ายๆคือโกรธนั่นแหละค่ะ ก็พวกราชสำนักนี่เซ่อกันซะไม่มี คิดดู ขนาดว่ามีเด็กนอกกฎหมายถึงสามคนอยู่ในเมืองมาตั้งห้าสิบกว่าปี ยังไม่ได้สังเกตเลยนี่คะ”สเฟียร์ว่า
ฉึก! [นึกภาพศรคำพูดแทงใจดำทั้งสองแฝดเอาตามสะดวก]
“นอกจากนี้นะ พวกเราลอบออกจากกำแพงสีขาวทุกวันๆตลอดสามสิบกว่าปี ยังไม่เคยถูกจับได้ซักครั้ง ราชสำนักน่ะโหลยโท่ยจะตาย ไม่รู้เอาเวลาไปทำอะไรหมด ไม่เคยมาดูแลการปกครองภายในเลย แถมทหารยมฑูตที่เฝ้าประตูก็อ่อนแอออก ถ้าจวนตัวจริงๆพี่เฟริสเขาซัดครั้งเดียวก็หมอบแล้ว ไม่เห็นได้เรื่อง”
ฉึกๆๆๆๆ
“นี่พวกลูกน้องเราห่วยขนาดนั้นเลยเหรอวะไอ้ฮาเดส”ครูเอลแอบกระซิบถาม
“เหอะๆ”ฮาเดสหัวเราะแห้งๆ
“เชอะ”สเฟียร์สะบัดหน้าหนี เธอไม่ได้ยินที่ครูเอลกับฮาเดสพูดกัน ก็เลยเห็นแค่ว่าจู่ๆฮาเดสกับครูเอลก็เอามือกุมขมับกันทั้งคู่ “พูดแล้วฉุน พี่เฟริสน่ะ จะเก่งอะไรมากมายนักก็ไม่รู้ สงสัยกลัวเก่งไม่พอ ฝึกเวทย์มนต์อยู่ได้ทุกคืน พี่เฟียร์สก็เหมือนกัน แล้วก็เอาพลังมาซัดกันเอง สุดท้ายหนูก็ต้องเดือดร้อนมาเป็นคนทำแผล ไม่ก็เก็บกวาดบ้านทุกทีเลย”
“เหมือนใครก็ไม่รู้เนาะ”ครูเอลเหงื่อตก
“แล้วไม่มีไม้กางเขน ไม่มีปัญหาเรื่องการควบคุมพลังเลยเหรอ?”ฮาเดสถาม
“ไม่มีหรอกค่ะ พี่เฟียร์สเขาสอนวิธีการใช้พลังผ่านร่างกายโดยตรง แบบไม่ต้องใช้ไม้กางเขนหรือคทาเลยด้วยซ้ำ”สเฟียร์ว่า
“เก่งดีแฮะหมอนั่น”ฮาเดสเอ่ยปากชม
“สเฟียร์!”
“เชอะ มาตามแล้วล่ะสิ เห็นมั๊ย”สเฟียร์สะบัดหน้าหนี ก่อนจะรีบไปแอบหลังฮาเดส
“อ้าว ไม่กลับบ้านเหรอ”ครูเอลถาม
“ไม่เอา ไม่รักพวกพี่ๆแล้ว”สเฟียร์หลบ
“ง่า อย่าโกรธดิ๊สเฟียร์”เฟียร์สง้อน้องสาว
“ไม่เอา ไม่สนใจแล้ว หนูโกรธแล้วนะ”สเฟียร์สะบัดหน้าหนี
“เฮ้อ”เฟริสถอนหายใจ
“ไอ้เฟริส ช่วยหันหน่อยดิว๊า~”เฟียร์สจนปัญญา
“ได้”เฟริสยิ้มเล็กๆ “สเฟียร์ นี่เย็นแล้ว ถ้าเธอไม่รีบกลับบ้าน เดี๋ยวมืดขึ้นมาไม่มีใครช่วยเธอได้นะ”
เฮือก!
สเฟียร์รีบเหลือบไปมองท้องฟ้าทันที ก็พบว่าดวงตะวันได้ตกดินไปแล้ว
“หรือ...จะอยู่ในที่มืดๆคนเดียวพี่ก็ไม่ว่านะ”เฟริสยิ้มอย่างชั่วร้าย
“ฮึก...ไม่เอานะ”สเฟียร์ปากคอสั่น
“พี่ไม่ว่านะถ้าจะงอน แต่...ฮาเดสกับครูเอลก็ต้องกลับบ้าน แล้วก็ทิ้งเธอไว้กับความมืด...คนเดียว”
“แง้!!!”สเฟียร์กระโดดโหยง เกาะพี่ชายแน่น
“ไม่เอานะๆ กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย ฮือ~”สเฟียร์น้ำตาไหลพรากเมื่อนึกถึงตอนที่เธอต้องอยู่คนเดียวท่ามกลางความมืด
“เอาจุดอ่อนคนมาขู่นี่หว่า”เฟียร์สอ้าปากค้าง
“ของแบบนี้มันต้องใช้ทริกต่างหาก”เฟริสเถียง “แต่คนอย่างนาย พูดไปก็คงคิดไม่ได้หรอก”
“เฮ้ย อยากมีเรื่องรอบสองรึไงวะ!”เฟียร์สแยกเขี้ยว
“พอแล้วสำหรับวันนี้ ชั้นไม่อยากใช้วิธีนี้บ่อยๆ”เฟริสเช็ดน้ำตาให้น้องสาว
“สเฟียร์กลัวความมืดเหรอ?”ครูเอลเองก็เพิ่งรู้นี่เอง
“อืม กลัวการอยู่คนเดียว ความมืดแล้วก็ผีขึ้นสมองเลยล่ะ ทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นวิญญาณอยู่แล้วแท้ๆ เฮ้อ”เฟียร์สถอนหายใจ
“แบบนี้จะไม่ให้ห่วงยังไงไหว อยู่คนเดียวไม่ได้หรอก มีหวังเอาแต่ร้องไห้ ไม่กล้านอนทั้งคืนแน่”เฟริสลูบผมสีทองของน้องสาวเบาๆ
“งั้นพวกเรากลับเลยละกัน”ฮาเดสเอ่ย
“นั่นสิ”ครูเอลพยักหน้าเห็นด้วย “แต่นายนี่มันจริงๆเลยนะเฟริส ไปหัดวิธีกำราบเด็กเวลาเด็กโกรธจากไหนน่ะ?”
“เวลาเด็กโกรธ ก็มักจะทำอะไรตามอารมณ์อยู่แล้ว พอปล่อยให้อารมณ์เย็นลงหน่อยเดี๋ยวก็หายโกรธเองแหละ”เฟริสว่า “อย่างสเฟียร์ ก็โกรธซะจนไม่ดูเวล่ำเวลาว่ามันเย็นแล้ว ทั้งๆที่กลัวการอยู่คนเดียวมากแท้ๆ”
“อย่างที่เขาว่า เด็กโกรธมักจะทำอะไรไม่ดูกาลเทศะสินะ”ฮาเดสว่า
“ราวๆนั้น”เฟริสพยักหน้า
“เอ้อ ก่อนไป ถามอะไรหน่อยดิ”ครูเอลว่า
“ถามอะไรอ่ะ?”เฟียร์สเอ่ย
“พวกนาย...ไม่ชอบยมฑูตมากเลยเหรอ”ครูเอลถาม
“ถ้าเมื่อก่อนน่ะใช่ แต่ตอนนี้ไม่”เฟริสตอบ
“เอ๋?”
“พวกเราแค่คิดว่าโกรธไปเกลียดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา เพราะยังไงๆพวกยมฑูตก็ไม่มีวันทำอะไรเราได้อยู่แล้ว งั้นก็ทางใครทางมันเหอะ”เฟียร์สโบกมือไปมา “สำหรับพวกเรา แค่มีชีวิตอยู่ไปวันๆด้วยกันสามคนก็พอแล้ว”
“เหรอ แล้วทำไมไม่ไปสมัครเป็นยมฑูตล่ะ พลังของพวกนายน่ะผ่านฉลุยอยู่แล้วนี่”ครูเอลถามอีก
“ไม่เอาอ่ะ จากที่เคยอ่านมาเขาว่า พวกชนชั้นสูงน่ะหยิ่ง พวกเราไม่ชอบ แถมชนชั้นทหารยมฑูตก็มีวิญญาณมาสมัครตั้งเยอะแยะ ทำไมเราต้องไปแออัดกับพวกนั้นด้วยไม่ทราบ”เฟียร์สปฏิเสธทันที
“นั่นมันรุ่นที่แล้วต่างหาก”ฮาเดสเถียง “ชนชั้นสูงของรุ่นนี้น่ะบ้าๆบอๆ เอาดีไม่ได้ซักคนกันทั้งนั้น”
“เหอๆๆๆๆ”ครูเอลหัวเราะอย่างไร้อารมณ์ขัน
“งั้นคำถามสุดท้ายนะ ถ้าพวกนายเกิดได้เป็นยมฑูตจริงๆ จะเป็นชนชั้นไหน?”
“ถ้าได้ก็คงเอาห้าหน่วยล่าสังหารล่ะมั๊ง”เฟียร์สตอบ
“ทำไมไม่เอาสูงกว่านั้นล่ะ? พวกสี่จตุรฑูตหรือสามมหาปราชญ์แบบเนี้ย”ครูเอลงง
“เอาสูงมากทำไม? ถ้าต้องเลือกจริงๆอยากเป็นขั้นต่ำสุดด้วยซ้ำ จะได้ไม่ต้องมีภาระอะไรให้รับผิดชอบ ไม่ต้องให้ใครมาคาดหวังอะไร”เฟียร์สว่า
“แต่ขั้นต่ำสุดมันคงไม่เหมาะกับสเฟียร์ ส่วนขั้นทหารยมฑูต...”เฟริสทำตาขวาง “...ส่วนมากมันก็มีแต่ผู้ชาย แล้วคิดว่าชั้นจะให้น้องสาวไปอยู่กลางวงผู้ชายรึไง หา?”
“ห้าหน่วยล่าสังหาร งานน้อย ถึงแต่ละงานจะหนักก็เถอะเนาะ แต่มีเวลานอนเล่นสบายๆคงดี”เฟียร์สฉีกยิ้ม “จะได้เอาเวลาไปกินขนมฝีมือสเฟียร์ กับฝึกเวทย์ไปอัดไอ้เฟริส”
“แต่ให้พูดตรงๆ พวกเราไม่ได้อยากเป็นยมฑูต อยู่อย่างที่เคยเป็นมาตลอดนี่ก็พอใจมากแล้ว”เฟริสตัดบท
“อื้ม งั้นฝันดีนะ”ครูเอลโบกมือลา แล้วสามพี่น้องก็แยกกับพวกเขาไป
“...ครูเอล...นายคงไม่คิดจะ...”ฮาเดสขมวดคิ้ว
“ปล่อยคนมีฝีมือแบบนี้เอาไว้เปล่าๆก็เสียดายของแย่สิ”ครูเอลหัวเราะชั่วร้าย
“ถึงพลังระดับนี้จะเข้าสามมหาปราชญ์ได้เลยก็เถอะ แต่พวกเขาว่าไงก็ว่าตามนั้นแล้วกัน”ฮาเดสเองก็คิดเช่นเดียวกับครูเอล เพราะพลังของแฝดสามนั้น ถ้าปล่อยเอาไว้โดยไม่ใช้ประโยชน์ก็ถือว่าเสียดายของดีอยู่มากทีเดียว แถมยิ่งทั้งสามเป็น “เพื่อน” เพียงกลุ่มแรกของเขาซะด้วย...
- อาทิตย์ต่อมา
“แปลกแฮะ”
“แปลกอะไรเหรอคะพี่เฟียร์ส?”เฟียร์ถาม
“ก็ช่วงนี้ไอ้พวกนั้นไม่มาหาเลยอ่ะดิ”เฟียร์สว่า
“พวกพี่ครูเอลน่ะเหรอคะ”
“เออดิ หายต๋อมไปเลย สงสัยตายไปแล้วม๊างงง”เฟียร์สลากเสียงยาว
“จะว่าไปก็แปลกดีนะ”เฟริสเอ่ยช้าๆ
“แปลก?”เฟียร์สหันมาทางเฟริส
“อะไรแปลกเหรอคะพี่เฟริส?”สเฟียร์เอียงคอถาม
“ชื่อไง”เฟริสเอ่ย
“ชื่อ?”เฟียร์สยิ่งงงหนัก
“ชื่อของฮาเดสกับครูเอล ชั้นลองไปหาคำแปลมาแล้ว”เฟริสเอ่ย “ชื่อของทั้งสองคนน่ะ เป็นชื่อที่แปลกมาก ฮาเดส แปลว่าเทพเจ้าแห่งความตาย ส่วนครูเอล ก็แปลว่าโหดร้ายทารุณ มันแปลกดีมั๊ยล่ะ ไอ้บ้าที่ไหนจะตั้งชื่อแบบนี้?”
“เอ๋ แปลกจริงๆด้วยสิ”สเฟียร์กระพริบตาปริบๆ
“สงสัยพ่อของสองคนนั้นมีรสนิยมประหลาดๆมั๊ง”เฟียร์สยักไหล่
“หรือไม่ก็...”เฟริสเอ่ย แต่ก็มีการขัดจังหวะเสียก่อน
ปัง!
“เฟริส ซาฟรานโน่ , เฟียร์ส ซาฟรานโน่ และ สเฟียร์ ซาฟรานโน่ ไปกับเรา เดี๋ยวนี้!”ชายผู้บุกรุกตะโกนลั่นบ้าน
“ใครน่ะ!”เฟริสเอาตัวมาขวางหน้าทันที
“เฮ้ย ไม่รู้จักชั้นจริงง่ะ?”ชายคนนั้นอ้าปากค้าง
“น้อยๆหน่อยน่ะเซรอส”สตรีอีกคนก้าวเข้ามาในบ้าน
“แล้วป้าเป็นใครอีกล่ะ”เฟียร์สพูด
“ป้า?”หญิงสาวอ้าปากค้าง ที่จริงแล้วเธอยังดูหน้าอ่อนอยู่เลยด้วยซ้ำ อายุอานามไม่น่าจะห่างจากพวกเขาเท่าไหร่หรอก แต่ก็อย่างที่รู้...
...เฟียร์สกับเฟริสมันปากจัด!!!...
“พูดแบบนี้กับหนึ่งในสามมหาปราชญ์ อยากมีเรื่องใช่มั๊ยพวกแก!!!”ทหารยมฑูตที่ตามมาทีหลังตะโกนอย่างเป็นเดือดแป็นแค้นแทนเจ้าตัวเสียอีก
“หนึ่งในสามมหาปราชญ์?”สามแฝดเบิกตากว้าง
“ปิ้งป่อง ถูกต้องนะคร้าบบบ”ชายคนนั้นลากเสียงยาว
“อย่าเอาแต่เล่น เซรอส”หญิงสาวเตือน
“เหอๆ ชั้นคือ เซรอส ฮีมาเธียร์ รองแม่ทัพใหญ่แห่งเฮล ส่วนนี่ เอเธียร่า ดรอสฟอร์ด หนึ่งในสามมหาปราชญ์แห่งเฮล เคยได้ยินชื่อมั๊ย?”เซรอสยิ้ม
“ไม่เคย!”สามพี่น้องประสานเสียงตอบอย่างชัดเจน
“ง่ะ!”เซรอสหน้าเสีย
“อย่าลืมว่าขนาดราชาทั้งสองพวกเขายังไม่รู้จักเลย เซรอส”เอเธียร่าเอ่ยเตือน
“เชอะ เอาเป็นว่าพวกนายต้องมากับเรา เดี๋ยวนี้เลยด้วย”เซรอสฉีกยิ้ม
“ถ้าไม่ไปล่ะ?”เฟริสเอ่ย
“ถามได้...”เอเธียร่าถอนหายใจ
“มันก็ต้องใช้กำลังน่ะสิ!”เซรอสดูท่าจะสนุกสนานเหลือเกิน
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ความคิดเห็น