คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่4 ข้อกำหนด
บทที่ 4
ข้อกำหนด
หลังจากการสนทนาสิ้นสุดลง ทั้งรถก็เหลือไว้เพียงความเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรต่อ หญิงสาวเพิ่งรู้ว่าทางที่กุริขับมานั้นมันคือทางลัดกลับสู่คอนโด เธอและเขาเดินขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกันและแยกย้ายเข้าห้องของตนโดยปราศจากคำพูดใดใด
ความคิดมากมายกำลังแล่นอยู่ในหัวของเธอ ที่ผ่านมาเธอเอาชนะศัตรูได้ เพราะเธอรู้จุดอ่อนของนั้น และก็เข้าเล่นงาน
แต่สำหรับกุริ ผู้ชายที่เดาตัวตนได้ยาก..
ตลอดเวลาที่เธอเคยพยายามค้นหาและสังเกตนิสัยเขา มันทำให้เธอรู้สึกได้ว่าภายใต้รอยยิ้มของชายหนุ่ม มันยังมีความรู้สึกอย่างอื่นเยอะมาก เธอรู้ว่าเขามีจุดอ่อน และเขาเองก็พยายามซ่อนมันไว้ภายใต้รอยยิ้ม... เหมือนกับเธอ
แต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าจุดอ่อนของเขาคืออะไร
ถ้าหาก..
ฉันสามารถเข้าใกล้เขาได้มากกว่านี้ แล้วก็ค่อยๆแทงข้างหลังเขาทีละนิด
ถ้าหากฉันเข้าใกล้จนรู้จุดอ่อนของเขาได้ละก็..
ฉันเองก็รอเวลานี้มานานแล้วเหมือนกัน
หญิงสาวนอนคิดเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ จนผล็อยหลับไปในที่สุด
เข็มนาฬิกายังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ จากหนึ่งนาทีเป็นหนึ่งชั่วโมง จากหนึ่งชั่วโมงเป็นสองชั่วโมง แล้วก็ล่วงเลยไปสู่ชั่วโมงที่ สาม และสี่ และห้า และ.....
จนกระทั่ง
'ติ๊ง ติง ติ๊ง ติง'
หญิงสาวตื่นขึ้นมาด้วยอาการงัวเงีย เธอไม่รู้จะขอบคุณคนสร้างคอนโดที่อยากอำนวยความสะดวกให้คนที่มาซื้อรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน จึงสร้างออดไว้กดตรงหน้าประตู หรือด่าเขาให้เสียใจจนไม่กล้าสร้างคอนโดใหม่เลยดี ที่ทำให้เธอต้องตื่นตั้งแต่เช้าด้วยเสียงอันแสบแก้วหูแบบนี้
แต่.. เอาจริงๆเธอควรจะด่าคนที่มากดออดมากว่า
เสียมารยาทจริงๆ
ไม่เคยดูเวลารึไง นี่มันยังเช้าอยู่เลยนะ!
อาซาค่อยๆเดินอย่างเชื่องช้า เรียกได้ว่าเธอแทบจะหลับตาเดินกันเลยทีเดียว มือบางเอื้อมไปหมุนล็อคประตูออก โดยลืมมองผ่านตาแมว ในใจเธอคิดเพียงแค่ว่าอาจจะเป็นเพื่อนที่มหาลัยไม่ก็ใครสักคนที่เธอน่าจะรู้จักดี เพราะถ้าไม่ใช่คนที่เธอสนิทจริงๆ ก็คงไม่มีทางรู้ที่อยู่ของเธอได้แน่ๆ
แต่ภาพตรงหน้าก็บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเธอคิดผิดอย่างถนัด
ไอ้บ้ามารยาททราม ที่ไม่มีความสนิทชิดเชื้อใดใดกับเธอแต่ยังมีความด้านได้อายอดอย่างไม่ถดถอยมายืนกดออดหน้าประตูเธอได้อย่างหน้าไม่อาย
'กุริ!!'
หญิงสาวมองเขาด้วยสายตาสลึมสลือ แต่ก็แฝงไปด้วยความโกรธเคือง แม้เธอต้องการจะอ้าปากด่า แต่สมองของเธอในตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะประมวลผลใดใดทั้งสิ้น
ตรงกันข้ามกับชายหนุ่มที่กำลังจ้องคนตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา
ผมยาวถูกปล่อยสยาย บางเส้นชี้ฟูเล็กน้อย ประกอบกับหน้ามึนๆที่กำลังทำตาปรืออยู่ เดาได้ว่าเธอคงลุกออกมาจากเตียงเมื่อสักครู่ เธอสวมชุดนอนสีดำลายมินเนี่ยน เป็นชุดนอนแบบเสื้อเชิ้ตติดกระดุม กับกางเกงขาสั้นสีดำ ซึ่ง.. ในตอนนี้กระดุมสองเม็ดบนสุดไม่ได้ถูกติดไว้.. คงไม่มีอะไรจะบรรยายได้ดีถึงความยั่วยวนชวนหลงใหลของหน้าอกสีขาวอมชมพูที่ถูกเผยให้เห็นออกมา แม้ว่ามันจะเพียงเล็กน้อยก็ตาม
เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนที่จะถือวิสาสะดันคนร่างเล็กที่กำลังกึ่งยืนกึ่งหลับอยู่หน้าประตูให้เดินเข้าห้องและเดินตามไปด้วย
ที่ผ่านมาเขาเองก็มีประสบการณ์ด้านนี้อย่างโชกโชน ไม่ว่าจะเป็นการใช้คำพูด การล่อลวงเป้าหมาย การเอาอกเอาใจ การใช้คำหวาน ซึ่งทั้งหมดนั้นคือส่วนหนึ่งในการล่ากระต่ายเข้าถ้ำเสือ ก่อนจะลงมือกินอย่างสนุกสนาน ทั้งๆที่ออกจะดุเด็ดเผ็ดมันส์ แต่สุดท้ายเขาก็รู้สึกเบื่อและเลิกไปเอง ก่อนที่จะไปตะล่อมสาวคนใหม่ ชีวิตของเขามักจะวนลูปแบบนี้เสมอ ไม่เคยมีใครทำให้เขาใจเต้น หรือรู้สึกแปลกใหม่เลยสักคน
จนกระทั่ง.. เมื่อสักครู่
ชายหนุ่มสลัดความคิดบ้าๆออกจากหัวก่อนที่จะล้มตัวลงนั่งบนเก้าอี้นวมสีดำ
หญิงสาวไม่ได้บ่นอะไรมากมาย เธอพอจะเดาได้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์มันต้องมารูปแบบนี้ แม้ว่าเธอจะขัดขืนไม่ยอมอย่างไรแต่ถ้าเขาคิดจะเข้ามาในห้องจริงๆ เธอก็คงขวางไม่ได้ ถ้าจะโทษก็คงต้องโทษความสะเพร่าของตัวเองที่ไม่ยอมเช็คทางตาแมวก่อนให้ดีว่าใครเป็นคนที่มากดออด...
หญิงสาวนั่งอยู่บนโซฟาสีครีมในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่น เธอพยายามตั้งตัวให้ตรงที่สุด เพื่อแสดงความ.. เอ่อ.. จะเรียกว่ายังไงดี เอาเป็นว่าเธอจะไม่มีวันยอมให้อีกฝ่ายเห็นเธอในมุมที่ดูด้อยกว่าเด็ดขาด
เธอยังคงพยายามต่อไปโดยไม่รู้ตัวเลยว่าอีกฝ่ายกำลังแอบอมยิ้มอยู่
"ถ้าไม่ไหวไปนอนก่อนก็ได้นะ" ในที่สุดเขาก็เอ่ยปากพูดขึ้นมา ใจจริงเขาก็อยากจะแกล้งคนอวดดีตรงหน้าอีกสักหน่อย แต่อีกใจนึงเขาก็อดสงสารปนเอ็นดูเธอไม่ได้
ผู้หญิงที่ทั้งดุ เป็นตัวของตัวเอง ปากจัด ร้าย แรง ขี้เหวี่ยง แถมยังไร้หัวใจ ใครจะรู้ว่าเธอคนนั้นคือคนคนเดียวกับที่กำลังสลึมสลือเหมือนกับเด็กน้อยอยู่ตรงหน้าเขา
แน่นอนว่าเขาไม่ได้รับคำตอบใดใดทั้งสิ้นจากปากของเธอ
เพราะว่าตอนนี้อาซาได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปเสียเเล้ว
กุริแหงนมองนาฬิกาที่ชี้บอกเวลา ก่อนที่จะอดขำให้กับความขี้เซาของคนตรงหน้าเสียไม่ได้
หึหึ.. สมแล้วจริงๆที่เป็นแวมไพร์
ชายหนุ่มปล่อยให้เธออยู่ในห้วงนิทราต่อไปโดยไม่ทำการรบกวนใดใดทั้งสิ้น เขาตัดสินใจจะเดินกลับห้องของตนเอง ก่อนที่ชั่ววูบหนึ่งจะมีความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัว ความคิดที่ทำให้เขาตัดสินใจหันหลังกลับ
เขามองห้องของเธอซึ่งถูกตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่ก็ดูดี ผนังสีขาวทำให้ห้องของเธอดูปลอดโปร่ง ข้าวของเครื่องใช้ส่วนมากมักจะมีแค่ของที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น เขาถือโอกาสเดินสำรวจรอบๆห้องของเธอ ในขณะที่เจ้าตัวยังคงไม่รู้เรื่อง
ห้องครัวของเธอดูเหมือนว่าจะมีเพียงแค่อาหารสำเร็จรูปแช่แข็งในตู้เย็น มาม่าคัพ กาน้ำร้อน ไมโครเวฟ และอุปกรณ์เครื่องครัวไม่กี่อย่างที่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เคยหยิบมันมาใช้เลยสักนิด
ไม่แปลกใจเลยที่ตัวเตี้ย..
เขาแอบแขวะคนร่างบางที่ยังหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนโซฟา
ถัดจากตู้เย็นเครื่องแรก เขาก็พบตู้เย็นอีกเครื่องที่มีขนาดใหญ่และดูหรูกว่าอันข้างๆ ด้วยความสงสัยเขาจึงเปิดมันออก สิ่งที่อยู่ภายในทำให้เขาถึงกับอ้าปากค้าง
บรรดาขวดแก้วมากมายหลากหลายสีสันและขนาด ถูกวางซ้อนดันอย่างเป็นระเบียบ ในตู้นี้มีทั้งขวดไวน์ วิสกี้ วอสก้า เหล้า เบียร์ ของผสม โซดา และอื่นๆอีกมากมายหลาหลายชนิด ถ้าจะให้เขามานั่งดูทีละอันอาจจะต้องใช้เวลาค่อนวัน ซึ่งพวกมันทั้งหมดถูกวางอย่างเป็นระเบียบประดุจเขากำลังนั่งอยู่ในร้านเหล้า.. ถ้าไม่ติดตรงที่ว่า ตู้บ้านี่มันอยู่ในห้องของผู้หญิงตัวเล็กๆที่เพิ่งเรียนมหาลัยได้แค่สามปี
เขาหันไปมองยัยตัวแสบที่ตอนนี้ล้มตัวลงไปนอนบนโซฟาเต็มรูปแบบ
ภาพตรงหน้ามันช่างขัดกับตัวตนของหญิงสาวที่เขาเคยรู้จักเสียเหลือเกิน
ผู้หญิงที่เจ้าคิดเจ้าแค้น คนที่ทำให้ผู้ชายหลายสิบคนต้องหัวปั่นจนกระทั่งตัดมิตรสะบั้นไมตรีกันได้ ผู้หญิงที่ร้ายกาจแถมยังชอบทำตัวกร้านโลก ผู้หญิงที่เร้าร้อนแต่ไร้หัวใจ ผู้หญิงคนนั้นกำลังนอนอมยิ้ม พร้อมกับขดตัวเข้าหากันประหนึ่งว่าอยู่ในความฝันที่แสนสุข
เขารู้ดีว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือความอันตราย แต่เขาเองก็ชอบเล่นกับความอันตรายเหมือนกัน
ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าในเกมนี้ใครจะเป็นคนชนะ
เพราะผมเองก็แพ้ใครไม่เป็นเหมือนกัน..
ชายหนุ่มเดินสำรวจทั่วห้องประหนึ่งว่าที่นี่คือทรัพย์สินส่วนรวม
จนกระทั่งเขาเดินมาถึงประตูบานสุดท้าย.. ประตูห้องนอน
เขาลังเลอยู่สักครู่ก่อนที่จะเปิดมันออก
กลิ่นหอมอ่อนๆโฉยมาแตะจมูก เขามักจะได้กลิ่นแบบนี้เวลาที่อยู่ใกล้กับอาซา
"ทำอะไรอยู่"
เขาสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อพอว่าต้นเสียงคือคนที่เขากำลังเสียมารยาทไปละลาบละล้วงพื้นที่ส่วนตัวของเธออยู่
เธอไม่ได้แสดงสีหน้าใดใดออกมา เพียงแค่กวักมือเรียกให้เขาเดินไปนั่งที่เก้าอี้นวมตัวเดิม
ชายหนุ่มยอมเดินตามอย่างว่าง่าย
เขาหย่อนตัวลงบนเก้าอี้ก่อนที่จะหันหน้าเข้าหาหญิงสาว
ถามว่ารู้สึกผิดมั้ยที่ไปยุ่งเรื่องส่วนตัว.. ตอบเลยว่า ไม่
เขาเตรียมใจแล้วที่จะถูกด่า.. เอาเหอะ คิดซะว่าฟาดเคราะห์ไปแล้วกัน
"ที่นายถามเมื่อคืนเรื่องความสัมพันธ์ของฉันกับนาย"
นั่นไง เดาไว้แล้วว่าเธอต้องด่า
เอ๊ะ
เดี๋ยวนะ..
เมื่อกี้เธอ.. เธอพูดถึงเรื่องเมื่อคืน?
เธอไม่ได้ด่า? ไม่ว่า? ไม่บ่น?
"ทำหน้าเหวอแบบนั้นหมายความว่าไง" หญิงสาวยักคิ้วกวนประสาทอีกฝ่าย ความจริงเธอตื่นนอนมาได้สักพักแล้ว เพียงแค่แกล้งหลับต่อไปเฉยๆ เธอเพียงต้องการจะดูว่าอีกฝ่ายจะทำอย่างไรในตอนที่เธอไม่รู้ตัว และมันก็เป็นไปอย่างที่คิด หมอนี่ไว้ใจไม่ได้จริงๆด้วย
"ป.. เปล่า พูดต่อเลย" ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจปนๆกับอึ้ง ที่ผ่านมาเขาได้ฉายาว่าเสือผู้หญิง ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่เขาหมายปองแล้วจะหลุดมือไป ไม่มีใครที่เขาเดาใจไม่ออก เขามักจะเดาใจคนอื่นออกเสมอ และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เขาสามารถจีบผู้หญิงหลายคนได้ในเวลาเดียวกัน
แต่.. กลับเธอคนนี้
มันช่าง..
"ฉัน.. ตอบตกลง"
"ห้ะ.. ตกลง? เอ่อตกลงหมายถึงตกลงคบ หรือยังไงตกลงอะไร คือเอ่อ.. นี่เธอไม่ได้พูดเล่นใช่มั้ย? คือตกลงว่าคบหรอ" นี่เป็นครั้งสองของวันที่เขาต้องมานั่งเจอกับเรื่องราวที่ไม่สามารถคาดเดาได้ โดยทั้งหมดเกิดจากคนแค่เพียงคนเดียว
"ใช่ คบ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดาประหนึ่งว่าเรื่องที่พูดมันเป็นเรื่องทั่วไป "หมายถึงเรามีความสัมพันธ์แบบ.. เซ็กส์.. อะไรทำนองนั้น แค่เซ็กส์เท่านั้น ไม่ผูกมัด ไม่มีอะไรทั้งสิ้น"
"อ่าห้ะ" เขาเริ่มค่อยๆปรับตัวสภาพเข้าสู่โหมดปกติได้สักพัก ก่อนที่จะพยายามทำสีหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด
บางทีนอกเหนือจากลักษณะนิสัยอันร้านกาจแล้ว เขาคงต้องเพิ่มนิสัยเดาใจยากลงไปในรายการอีกสักข้อ ทั้งๆที่เมื่อคืนปฏิเสธ แต่ตอนนี้กลับยอมปฏิสนธิ(?)
นี่เธอกำลังเล่นตลกอะไรอยู่รึเปล่าเนี้ย
"ถ้าจะยอมก็อย่าแกล้งเล่นตัวตั้งแต่แรกสิ" เขาแสร้งจิกกัดเธอเล็กน้อยด้วยความหมั่นไส้
"ก็แค่อยากรู้ว่านายจะมีน้ำยามากสักแค่ไหน.. หวังว่าครั้งต่อไปจะไม่น่าเบื่อเหมือนคืนนั้นนะ เพราะว่าฉันไม่ชอบอะไรที่ซ้ำซาก" หญิงสาวเลียริมฝีปากตัวเองช้าๆ แล้วช้อนตามองเขา แววตาที่ยั่วยวนพร้อมกับท้าทาย ประหนึ่งต้องการจะกวนอารมณ์เขา
ชายหนุ่มแสยะยิ้มก่อนที่จะเชยคางคนตรงหน้าขึ้นมา ริมฝีปากหนาบดขยี้ปากบางอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเริ่มกดแรงลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ ฝ่ายร่างบางเองก็ดูท่าจะไม่ยอมแพ้ เธอเองก็จูบเขากลับเช่นกับ ลิ้นทั้งสองตวัดเกี่ยวรัดกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร ลิ้นหนาดันตัวเข้าไปสำรวจในโพรงปากหวานอย่างโหยหา ฝ่ายหญิงสาวก็ไม่ยอมน้อยหน้า เมื่อเห็นว่าตนเริ่มเสียเปรียบเธอจึงแกล้งขบลิ้นเขาเบาๆ
แต่มีหรือที่คนอย่างเขาจะยอม ชายหนุ่มถอนลิ้นออกมาก่อนที่จะใช้ฟันหน้าขบริมฝีปากของคนตัวเล็กเบาๆ เป็นการสั่งสอนที่ทำให้เขาต้องเจ็บตัว
หญิงสาวใช้มือสองข้างจับหน้าของชายหนุ่มให้แนบชิดกับหน้าของตนมากขึ้น ฟันขาวซี่ิเล็กเริ่มทำหน้าที่กัดริมฝีปากล่างของคนตัวโตก่อนที่จะดึงออกมาเล็กน้อย แล้วใช้ลิ้นเรียวๆตวัดเข้าไปในโพรงปากของร่างใหญ่บ้าง
ชายหนุ่มปล่อยให้เธอทำแบบนั้นต่อไปเพราะรู้ดีว่าหากยังไม่ยอม คงต้องมีฝ่ายใดฝ่ายนึงได้ปากระบมกันไปข้างนึงแน่ๆ
มือหนาเริ่มเปลี่ยนที่จากปลายคางของร่างบางมาเป็นที่สะโพกแทน แต่เขาก็จำต้องชักมือกลับเมื่อถูกอีกฝ่ายมือบางฟาดลงมาอย่างแรง
"โอย" เขาร้องออกมา พร้อมทำหน้าเหยเก "เจ็บนะ ทำอะไรของเธอเนี่ย"
"ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าจะยอมมีอะไรกับนายตอนนี้" เธอตอบหน้าตาย
ริมฝีปากของเธอบวมแดงขึ้นเล็กน้อยจากแรงกดและเบียดเมื่อสักครู่ แต่หากเทียบกับปากของร่างหนาที่ถูกเธอกัดแล้วละก็.. จัดได้ว่าปากเธออยู่ในสภาพที่ค่อนข้างสมบรูณ์เลยละ
ชายหนุ่มจ้องหน้าเธอนิ่ง เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะมาไม้ไหน แต่ที่รู้ๆคือตอนนี้เขากำลังต้องการจะทำบางอย่างเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ที่ถูกคนตรงหน้าสร้างขึ้นมา แถมยังปล่อยให้ค้างคาอีกต่างหาก
แต่ถึงอย่างนั้นเขาเองก็มีความเป็นสุภาพบุรุษมากพอที่จะไม่ฝืนใจคนตรงหน้า
"ฉันมีข้อตกลงบางอย่าง และนายจะต้องยอมรับมันให้ได้ แต่ถ้านายคิดว่ายอมรับไม่ได้ ก็อย่ามายุ่งกับฉัน ทางใครทางมัน"
"ว่ามาสิ"
"อย่างแรกเราจะไม่มีการผูกมัดใดใดทั้งสิ้น ไม่มีการแสดงความเป็นเจ้าของใดใด นายจะมีใครก็ได้ และฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน.. แต่ถ้าคนของนายมาหาเรื่องฉันเมื่อไหร่ ฉันกัดไม่ปล่อยแน่" หญิงสาวยิ้มมุมปากเล็กน้อย
"อย่างที่สอง คือเราจะทำกันในที่ที่มันเป็นส่วนตัว และเเน่นอนว่าฉันจะไม่ทำที่คอนโดของฉันเด็ดขาด เพราะงั้น..."
"ทำที่ห้องผมก็ได้" ชายหนุ่มรีบพูดดักคออย่างรู้ทัน
"โอเค" หญิงสาวตอบตกลงทันที
ถ้าอยากเอาลูกเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือ ถ้าอยากได้ข้อมูลก็คงต้องเข้าหาละนะ
"อย่างที่สามเรื่องทั้งหมดจะเป็นความลับและไม่มีการเผยแพร่ใดใด"
"อย่างที่สี่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตอนที่เราอยู่ด้วยกัน คุณต้องเป็นคนจ่าย"
"อ่าห้ะ" เขาพยักหน้าฟังเงียบๆ ชายหนุ่มไม่ได้มีข้อโต้แย้งใดใดกับข้อตกลงนี้เท่าไหร่นัก แม้ว่าบางข้อจะดูเอาเปรียบเขาไปหน่อย แต่ถ้าเทียบกันกับการได้มีร่างบางมาอยู่ใต้ร่างของตนแล้ว ก็.. จัดว่าไม่ได้แย่นัก
"ผมยอมรับข้อเสนอของคุณได้" เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความลังเล "และผมหวังว่าอาซาจะยอมรับข้อเสนอของผมได้เหมือนกัน"
"ก็ลองพูดดูสิ"
"อย่างแรก ผมมีสิทธิในตัวคุณ ที่จะจับ กอด จูบ ลูก คลำ หรือทำอะไรทำนองนั้นได้อย่างเต็มที่เหมือนคนเป็นแฟนกันทำ"
"อย่างที่สอง ผมมีสิทธิในการทำอย่างว่าได้ตลอดเวลา แต่แน่นอนว่าผมจะให้เวลาคุณพักผ่อนแน่ๆ" เขายิ้มอย่างร้ายกาจ
"อย่างที่สาม เราสามารถทำอะไรแบบที่แฟนทำกันได้โดยไม่มีการผูกมัดหรือหึงหวง เช่น เราอาจจะเดินจับมือ เดินกอดคอ ไปเดต ไปเที่ยว ไปดูหนังในตอนที่เราเบื่อ เป็นต้น"
"เหงามารึไง" เธอแขวะ
"ก็.. ไหนๆก็จะเอาทั้งที ก็คงต้องเอาให้คุ้มอะนะ" เขายิ้มให้เธอเล็กน้อย ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังเบะปากด้วยความหมั่นไส้
แม้ลึกๆเธอจะหมั่นไส้เขา แต่ต้องยอมรับเลยว่าเขาเองก็เก่งไม่เบาในด้านของเรื่องบนเตียง และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งในความต้องการของหล่อน
"และอย่างสุดท้าย เราจะมาเปลี่ยนสรรพนามกันใหม่"
"พี่จะเรียก อาซาว่า อาซา และเรียกแทนตัวเองว่าพี่.. ส่วนอาซาก็เรียกพี่ว่ากุริ แล้วเรียกแทนตัวเองว่า.. "
"ไม่" หญิงสาวรีบขัดคอเขาทันที "ทำไมต้องเปลี่ยนด้วย อย่าไร้สาระน่า.."
"โถ่ อาซา.. จริงๆเราอาซาห่างกันแค่ปีเดียวเองนะครับ" เขาแกล้งทำเสียงอ้อน
"ไร้สาระ"
"งั้นอาซาเรียกพี่ว่าอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่คำว่าคุณสิ คำว่าคุณมันดูห่างเหินไปป่ะ"
เขาแสร้งดัดเสียงให้ดูน่ารักขึ้น เพื่อให้ฝ่ายหญิงยอมใจอ่อน ฝ่ายสาวเจ้าตัวก็เงียบไปสักครู่ก่อนที่จะเงยหน้ามองเขาในเชิงครุ่นคิด
"งั้นเรียกว่า นาย แล้วกัน"
"ก็ได้.. " เขาพยักหน้า อย่างน้อยมันก็ดีกว่าเรียกว่า คุณ ชายหนุ่มคิดในใจ
ในที่สุดเกมส์ร้ายก็เริ่มขึ้น
เธอ.. ตั้งกฏสี่ข้อขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง และเพื่อการทวงคืนสิ่งที่ยังไม่ได้สะสาง
เขา.. ตั้งกฏสี่ข้อขึ้นเพื่อปราบพยศและเอาชนะคนอย่างเธอ
เกมร้ายที่เดิมพันธ์ด้วยร่างกายที่ปราศจากหัวใจ
หนึ่งคือคนที่หัวใจด้านชา และอีกหนึ่งคือคนที่ยังไม่เคยมอบหัวใจของตนเองให้กับใคร
สุดท้ายแล้วมันจะจบอย่างไร แล้วใครคือผู้ชนะ..
ฉันไง... หญิงสาวคิดในใจ
ผมเองแหละครับ.. ชายหนุ่มเองก็มั่นใจไม่ต่างกัน
ความคิดเห็น