ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Black rose ทวงแค้น แสนรัก

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่3 ข้อเสนอ

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ค. 58


    บทที่ 3

    ข้อเสนอ

     

    แสงไฟสลัวๆภายในผับ กับภาพคู่รักนั่งนัวเนียกันเป็นอะไรที่เธอรู้สึกคุ้นเคย

     

    หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งการปวดสะโพกไปได้เธอก็เริ่มออกล่าเหยื่ออีกครั้ง

     

    เหยื่อรายแรกเป็นมนุษย์

    รายที่สองเป็นลูกครึ่งกวางกับแมมมอส

    รายที่สามเป็นพวกฟังค์กี้

    รายที่สี่.. อืม.. ดูจากรสชาติเลือดแล้วน่าจะเป็น.. ซิบบริน

    เหลือเวลาอีกแค่หนึ่งสัปดาห์ มหาลัยก็จะเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อเวลานั้นมาถึง เธอคงหมดโอกาสสนุกแบบนี้แน่ๆ

     

    หลังจากคืนนั้นชีวิตของ 'ไอยศา' หรืออาซาก็ยังคงดำเนินอย่างปกติ ไม่มีการติดต่อใดใดจากอีกฝ่าย และเธอเองก็ไม่ได้หาทางติดต่อกลับไปเช่นกัน แม้ว่าเธอจะรู้สึกเจ็บใจมากก็ตาม แต่ต้องยอมรับตามตรงว่าในตอนนี้สถานการณ์ของเธอยังถือว่าอยู่ในฝ่ายเสียเปรียบ

     

    ในขณะที่หญิงสาวนั่งคิดถึงเรื่องราวต่างๆ กลิ่นหอมบางอย่างก็ได้ลอยมากระทบ

     

    กลิ่นที่เธอกำลังรอคอย

     

    กลิ่นเลือดของกระต่าย

     

    แน่นอนว่าพวกทรานส์ไม่ได้มีแค่สัตว์ประหลาด หรือสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวเท่านั้นสิ่งมีชีวิตที่น่ารักบางประเภทก็จัดว่าอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน อาธิเช่นหนุ่มน้อยกระต่ายป่า ในชุดลำลอง สวมแว่นตาสีดำ ที่กำลังเดินผ่านไปเมื่อสักครู่

    ถ้าจะให้เธอจัดอันดับเลือดที่อร่อยที่สุดห้าอันดับเลียงจากน้อยไปมากก็คงต้องเริ่มจาก

    อืม..

    เลือดมนุษย์

    เลือดสิงโต

    เลือดกระต่าย

    เลือดแวมไพร์

    แล้วก็.. เลือดหมาป่า

     

    ชิ พูดถึงหมาป่าแล้วอารมณ์เสียเป็นบ้า

     

    แต่ก็เอาเถอะ ไหนๆก็โชคดีได้มาเจอกับกระต่ายน้อยน่ารักแล้ว แน่นอนว่าฉันจะไม่ปล่อยให้เขาหลุดมือไปแน่ๆ คริคริ

     

    โดยไม่ต้องรอช้า หญิงสาวเดินตรงไปนั่งที่โต๊ะของพ่อกระต่ายหนุ่มทันที

     

    การกินเลือดของเธอไม่ใช่เรื่องหน้ากลัวอย่างที่ใครคิด และแน่นอนว่าไม่มีใครตายหลังจากที่เธอดูดเลือดไป เผลอๆพวกเขาอาจจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

     

    น้ำลายของแวมไพร์มีฤทธิ์เหมือนยาชาและยาสมานแผล มันจะทำให้พวกคุณไม่รู้สึกเจ็บ และไม่รู้ถึงเขี้ยวนั้นเมื่อมันฝังลงบนคอ และทันทีที่เธอดูดเลือดเสร็จ เธอก็จะเลียบาดแผลพวกนั้นจนหายสนิทโดยใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาที

     

    ส่วนเลือดที่เธอดูดออกมา ก็เป็นเพียงแค่เลือดเสียที่ไม่จำเป็นต่อร่างกายแล้ว

    จะว่าไงดีละ.. คล้ายๆกับการบริจาคเลือดมั้ง

     

    ก็นะ.. อย่างที่บอก ชีวิตจริงมันไม่เหมือนกับในหนังหรอก

     

    บางทีพวกคุณอาจจะสงสัยนะ ว่าถ้าเราดูดเลือดจากคนที่เป็นเอดส์

    เราจะเป็นเอดส์ไหม?

    จะบอกอะไรดีดีให้นะ

    สำหรับแวมไพร์ ไม่มีพิษชนิดไหนที่เป็นอันตรายต่อชีวิตของพวกเราได้

     

    สิ่งเดียวที่ทำให้เราดับลง คือเพชร

    มันอาจจะฟังดูแปลกๆนะ

    ตามปกติในหนังแวมไพร์ต้องแพ้เงิน หรือโลหะ ไม่ก็กระเทียม

     

    ซึ่งนั้นมันก็มีแค่ในหนังเท่านั้นแหละ

     

    ทันทีที่การดูดเลือดของเธอจบลง เธอจะพ่นสารพิษบางอย่างออกมาจากปาก ซึ่งนั้นจะทำให้อีกฝ่ายอยู่ในอารมณ์เคลิบเคลิ้มและหลับใหลไป ทันทีที่เขาตื่น ความทรงจำก่อนหน้านั้นจะถูกลบไป

     

    จากสถิติเฉลี่ยตามที่บรรพบุรุษของเธอบอกมา ความทรงจำจะลบไปราวๆ 20-30 นาทีก่อนที่เหยื่อจะฟุบหลับ ซึ่งนั้นหมายความว่าเธอมีเวลาราวๆ 20นาทีในการดูดเลือดและทำความรู้จักแบบแนบชิดกับเหยื่อ ก่อนที่จะลบความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับตัวของเธอ

     

    หลังจากได้เลือดเพียงพอแล้ว หญิงสาวจึงตัดสินใจกลับมานั่งที่โต๊ะของตัวเองโดยไม่ทันสังเกตเลยว่ามีบางคนเดินตามเธอมาและเขาคนนั้นก็กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้แล้ว

     

    "ไง" ชายหนุ่มตรงทักทายเธออย่างเป็นกันเอง พร้อมยกแก้วไวน์ที่บรรจุของเหลวสีฟ้ามากระทบกับปากแก้วไวน์ของเธอ

     

    ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้ม สวมชุดสูทบวกกับรองเท้าหนัง ดูจากลักษณะท่าทางแล้วเดาได้ว่าน่าจะอยู่ในวัยทำงาน

     

    "ไง" เธอยิ้ม "เดาว่า.. คุณคงเป็นแวมไพร์เหมือนกันสินะ"

     

    "แน่นอน" ชายหนุ่มตรงหน้าเริ่มโน้มตัวเข้ามาหาเธอ "ผมชื่อวิศรุทธิ์ เรียกสั้นๆว่า วิศ ก็ได้ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก" เขายิ้มให้เธออย่างเป็นกันเอง

     

    "อาซาค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน"

     

    การสนทนาของทั้งสองฝ่ายยังคงดำเนินขึ้นเรื่อยๆ อาซารู้ดีว่าวิศรุทธิ์เข้าหาเธอด้วยจุดประสงค์อะไร แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมรับว่ามีไม่กี่ครั้งที่เธอจะได้พบกับเผ่าพันธุ์แวมไพร์ด้วยกันเอง แถมเลือดของแวมไพร์ยังเป็นอะไรที่ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าเธอเองก็เฝ้ารอที่จะลิ้มรสมานานแสนนาน

     

    เผ่าพันธุ์แวมไพร์โดยแท้เริ่มน้อยลงทุกวัน ในขณะที่เผ่าพันธุ์ผสมเริ่มมากขึ้น

     

    "คืนนี้... คุณอาซาว่างรึเปล่าครับ" ในที่สุดเขาก็เริ่มพูด

     

    "ค่ะ" เธอตอบกลับเขาไปสั้นๆ ใจนึงก็กลัวในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่อีกใจนึงก็พยายามจะคิดว่าในตอนนี้เธอไม่มีอะไรจะเสียแล้ว และเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายสักเท่าไหร่นัก หากแลกกลับรสชาติเลือดอันแสนหอมหวาน.. ก็จัดว่าคุ้มอยู่ แถมคนตรงหน้าก็หล่อเหลาเอาการ

     

    "งั้น.. "

     

    "ค่ะ" หญิงสาวตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่แฝงไว้ด้วยเลศนัย

     

    สำหรับแวมไพร์ความรักกับความกระหาย รวมถึงความใคร่มันเป็นคนละเรื่องกัน เธอเป็นแวมไพร์ และเขาก็เป็นแวมไพร์ คงไม่ต้องมานั่งอธิบายกันยาวถึงข้อกำหนดในความสัมพันธ์ เพราะดูแล้วไม่ว่าจะเขาหรือเธอก็คงยังไม่มีใครพร้อมที่จะผูกมัดกันแน่ๆ

     

    "แล้ว.. จะไปที่ไหนดีละครับ"

     

    เธอยิ้มแล้วจ้องตาเขาอยู่สักครู่ประหนึ่งว่าต้องการจะทรมานคนตรงหน้าเล่นๆ

     

    ก่อนที่จะเอ่ยคำพูดที่ทำให้คนฟังถึงกับต้องยิ้มให้กับความร้ายกาจของแม่เสือสาว

     

    "ตรงนี้แหละ" เธอมองหน้าเขาด้วยสายตายั่วยวน ก่อนที่เลียริมฝีปากตัวเองช้าๆราวกกับกำลังท้าทาย "ทำให้ฉันรู้สึกว่าคุณพิเศษมากพอที่ฉันจะเสียเวลาคืนนี้กับคุณสิคะ ถ้าคุณสอบผ่าน ฉันจะไปกับคุณ"

     

    ต้องยอมรับว่าในชีวิตเขาผ่านผู้หญิงมามากมาย แต่ยังไม่มีใครที่ทำให้เขาถูกใจได้เท่ากับคนตรงหน้า

     

    เธอมีดวงตาที่ดูดุร้าย อันตราย แต่ก็น่าหลงใหล นี่ยังไม่นับรวมริมฝีปากสีแดงสดที่น่าบดขยี้ กับบั้นท้ายกลมคลึงได้รูป ประกอบกับนิสัยตรงไปตรงมา และคำพูดคำจาที่ฟังดูทั้งยั่วยวนและสงวนท่าทีในเวลาเดียวกัน ต้องยอมรับว่าถ้าหากคืนนี้ไม่มีอะไรขัดข้องเขาอาจจะนัดเจอเจ้าหล่อนอีก

     

    ชายหนุ่มค่อยๆเขยิบตัวเข้าหาหญิงสาวช้าๆ เขาเชยคางของเธอขึ้นมาแล้วบรรจงจูบอย่างแผ่วแบา ก่อนที่จะเริ่มกดริมฝีปากหนาลงไปประกบกับปากบางๆของหล่อนให้แน่นยิ่งขึ้น เขาดูดปากเธอแล้วค่อยๆสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวาน

     

    ตอนนี้ร่างกายของเธอถูกคร่อมด้วยร่างหนาอย่างไม่มีทางออก มือของเขาเริ่มป้วนเปี้ยนไปมาทั่วร่างกายและแน่นอนว่ามือของเธอเองก็ไม่ได้อยู่เฉยเช่นกัน

     

    วิศเริ่มไซร้ซอกคอของอาซา เคี้ยวทั้งสองซี่โผล่ออกมาหมายจะลิ้มรสความหวาน หญิงสาวเอียงคอยอมแต่โดยดี เพราะถึงอย่างไรเธอเองก็คิดจะดูดเลือดของเขาเช่นกัน ก็.. แฟร์ๆดี

     

    'พลัก'

     

    "โอ้ยยยย"

     

    โดยไม่ทันได้ตั้งตัว

     

    อยู่ดีดีร่างหนาที่คร่อมตัวของเธออยู่ก็กระเด็นออกไป

     

    และบุคคลต้นเหตุนั้นก็ไม่ใช่ใครนอกเสียจาก

     

    'ไอ้กุริ'

     

    "ไง" รอยยิ้มที่เย็นยะเยือกปรากฏบนหน้าของผู้มาใหม่

     

    "นายมาขัดจังหวะทำไม'

     

    "ทำไมฉันจะขัดไม่ได้ละ ถ้าสามีเห็นภรรยาของตัวเองมีชู้ แล้วเข้ามาห้าม แบบนี้เรียกว่าขัดจังหวะตรงไหน"

     

    ชายหนุ่มจงใจพูดเสียงดัง และเน้นหนักตรงคำว่าสามีและภรรยา แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ทำให้อาซามีทีท่าเดือดร้อนแต่อย่างใด

     

    เธอหันไปมองคุณวิศสุดหล่อด้วยความเสียดาย อีกแค่นิดเดียวเธอก็จะได้กินเลือดรสชาติเยี่ยมที่รอมานานแล้ว ถ้าไม่ติดว่าเขาดันโดนต่อยจนสลบไปก่อน

     

    แต่.. จริงๆแล้วกินเลือดตอนสลบก็ได้นี่หว่า..

     

    แต่.. มันผิดจรรยาบรรณป่าวว้า

     

    ชั่งเหอะ

     

    ยังไงก็แบกเขากลับไปที่ห้องดีกว่า

     

    ไม่รอช้าหญิงสาวรีบลุกขึ้นยืนแล้วหมายจะเดินตรงไปหาร่างสูงซึ่งนอนไร้สติอยู่บนพื้น แต่มีหรือที่คนอย่างกุริจะรู้ไม่ทัน

     

    กุริรีบคว้าข้อมือของร่างบางก่อนที่จะฉุดเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด แล้วจับหญิงสาวอุ้มพาดบ่าทันที

     

    "ต้องการอะไร" เธอถาม

    "ไปคุยกันหน่อย"

    "ได้ แต่ต้องหลังจากคืนนี้"

    "ทำไม"

    "ฉันจะดูดเลือดจากผู้ชายคนนั้น"

    "คงไม่ได้ทำแค่ดูดเลือดหรอกมั้ง" เขาแค่นเสียงหัวเราะออกมา

    "ก็คงงั้น"

    "อาซา!"

    "อะไร ว.. ว้าย"

     

    จะเพราะอะไรก็ตามแต่ ในที่สุดเธอก็ถูกยัดเข้ามาอยู่ในรถคันสีแดงของผู้ชายที่เธออยากจะเหยียบให้จมดินมากที่สุดแล้ว

     

    รถของเขาเคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็ว  เร็วมากสะจนเธอแอบด่าบิดาของคนขับอยู่ในใจไปตั้งหลายรอบ

     

    "สรุปคุณจะพาฉันไปไหน" เธอตัดสินใจถามใจที่สุด เมื่อเห็นว่าทางที่เขาขับเริ่มไม่คุ้นตา

     

    "ม่านรูด" ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ

     

    "คุณขับเลยมาตั้งสามที่แล้วนะ จริงๆฉันมีที่แนะนำนะ อยู่ใกล้กับผับที่คุณเพิ่งลากฉันออกมา ฉันเคยไปข้างกับเพื่อน.. "

     

    'เอี๊ยด'

     

    "โอ้ย" หญิงสาวมองคนข้างด้วยสายตาโกรธเคือง แรงเบรกเมื่อสักครู่ทำเอาเธอเกือบจะหัวโน นี่ดีนะที่เอามือยันกับกระจกหน้ารถทัน

     

    "วันหลังถ้าจะเบรกก็บอกกันหน่อยสิ เสียมารยาทจริงๆ"

    "...."

    "ทำไมเปลี่ยนใจจะกลับไปม่านรูดที่ฉันแนะนำหรอ"

    "..ยังไง"

    "ก่อนอื่นคุณต้องยูเทรินรถแล้วก็ ขับกลับไปที่ผับก่อน เสร็จแล้วก็ขับตรงไปเเล้วเลี้ยวซ้าย.."

    "ไม่ใช่" เขาพูดขัด "ผมหมายถึง.. คุณเข้าไปได้ยังไง!!"

     

    "ยุ่งไม่เข้าเรื่อง" เธอตอบเสียงเรียบ

     

    "หึ" เขาแค่นเสียงออกมา "อยากมากหรอ"

    "แล้วคุณว่างมากหรอ ถึงได้มายุ่งกับคนอื่นแบบนี้"

     

    "มีเรื่อง.. ที่อยากจะคุยด้วย" เขาเงียบไปสักพักก่อนที่จะเอ่ยปากพูดออกมา

    "ก็พูดมาสิ"

    "ไม่ใช่ที่นี่"

    "งั้นที่ไหน"

    "เดี๋ยวถึงก็รู้"

    "ตอบมา"หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะเบะปากให้กับท่าทางของคนข้างๆ เธอไม่ได้กลัวว่าเขาจะพาเธอไปไหน แต่เธอรู้สึกไม่ชอบใจที่ต้องเป็นฝ่ายตามเกมโดยที่ไม่รู้อะไรเลย

    "...."

     

    เมื่อไม่ได้รับคำตอบจากคนตรงหน้า เธอจึงตัดสินใจปลดเข็มขัดออก แล้วตั้งท่าจะกระโดดลงจากรถ แต่มีหรือที่ร่างสูงจะยอมปล่อยให้คนตัวบางๆ แบบนี้ลงไปได้

     

    เขารีบหยุดรถ ก่อนที่จะเอื้อมมือไปคว้าร่างบางที่กำลังพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดออกจากพันธนาการ

     

    เขาเองต้องยอมรับเลยว่าอาซาจัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่มีแรงเยอะมาก และนั่นทำให้เขาหัวเสียเล็กน้อย แต่ในที่สุดเธอก็ต้องยอมอยู่นิ่งๆภายใต้อ้อมกอดของเขา ด้วยความเหนื่อย และความรำคาญในที่สุด

     

    "สรุปคุณต้องการอะไร" เมื่อเห็นว่าไม่มีทางหนีได้ เธอจึงตัดสินใจเบี่ยงประเด็น

     

    อย่างน้อยก็ดีกว่านั่งเงียบๆให้สถานการณ์มันชวนอึดอัดมากไปกว่านี้ เธอคิดในใจ

     

    "อย่างแรก.. เรียกผมว่า กุริ"

    "ไม่"

    "และผมจะเรียกเธอว่าอาซา"

    "ไม่"

     

    "ดื้อจังน้า" เขาใช้จมูกดุนไปที่ซอกคอของหญิงสาว แม้ว่าอาซาจะพยายามเบี่ยงตัวหลบเท่าไหร่ แต่ก็ไม่อาจดิ้นหลุดออกไปจากอ้อมแขนแกร่งของคนตรงหน้าได้ เมื่อเป็นเช่นนี้เธอจึงใช้หัวของตัวเองกระแทกไปที่กระพุ้งแก้มของเขา

     

    "โอ้ย" ชายหนุ่มร้องโอดครวญ "เจ็บนะ"

     

    "อย่าคิดนะ ว่าการที่ฉันกับคุณเคยมีอะไรกันจะทำให้ฉันต้องยอมคุณทุกอย่าง ฉันเคยบอกคุณไปแล้วไม่ใช่หรอ ว่าฉันไม่แคร์เรื่องพรรคนั้น"

     

    "ฉันรู้มาว่าแวมไพร์หน่ะ.. สามารถกินอาหารได้3แบบ" กุริพูดต่อ มือข้างขวาของเขายังคงโอบตัวของเธอไว้อย่างหลวมๆ ส่วนมือซ้ายของเขานั้น กำลังลูกแก้มของตัวเองปอยๆ

     

    "แล้วไง"

     

    "แบบแรกคือกินแบบมนุษย์ทั่วไป มันจะทำให้เธออิ่ม แต่ไม่ได้ทำให้เธอมีพลัง"

     

    "อ่าห้ะ"

     

    แบที่สองคือจากการดูดเลือด.. มันจะทำให้เธอไม่อิ่ม แต่มีพลัง.. ดังนั้นแวมไพร์จึงต้องกินทั้งสองสิ่งนี้ควบคู่กันไป"

     

    "คุณ..ต้องการจะสื่ออะไร"

     

    "แบบที่สาม คือ เซ็กส์... ซึ่งมันจะให้ทั้งความอิ่ม และพลังงาน รวมถึง.. ความมันส์" พอพูดถึงคำสุดท้าย แววตาของเขาก็เริ่มมีประกายบางอย่าง เป็นแววตาที่ทำให้เธอรับรู้ถึงภัยอันตราย

     

    "แล้ว..?" หญิงสาวยักคิ้วท้าทาย เชิงกวนประสาทคนตรงหน้า  เธอไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหน สิ่งที่เธอทำได้ดีที่สุดคือการวางตัวนิ่งๆและทำหน้ากวนประสาทเขาต่อไป ทำเหมือนว่าเธอสามารถคุมเชิงได้เหนือกว่า แม้ว่าจริงๆแล้วเธอเองก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่

     

    "เรา... มาลองมีความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดกันมั้ย... เราทั้งคู่จะได้ทั้งความสนุก ความมันส์ แถมเธอยังได้ทั้งความอิ่มและพลังงานอีกด้วย.." เขาพูดพร้อมก้มลงมามองสบตาเธอ "สนใจมั้ย"

     

    "ไม่" หญิงสาวตอบแบบไม่ต้องคิด "บอกแล้วไงว่าไม่ชอบของเก่า"

     

    "ฉันให้เวลาคิดหนึ่งคืน แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาตอบ"

     

    "ถึงตอนนั้นฉันก็.."

     

    "เอากลับไปคิดดูก่อนสิ ถึงเวลานั้นเธออาจะเปลี่ยนใจก็ได้"

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×