คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ความสงบสุขที่เริ่มจะหายไปทีละนิด
เวลา สองทุ่ม ณ โรงงานร้าง
ตึก…ตึก…ตึก
ท่ามกลางความเงียบสะงัด ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เป็นฝีเท้าของคนสองคนที่เดินมาประจบพบเจอกัน
"มาแล้วสินะครับคุณเกลนดอน เป็นเกียรติจริงๆที่ได้มานะครับ"
แดเนียลกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“เห้อ คิดว่าอยากมาหรือไง ถ้าไม่ติดที่ว่าโดนรู้เรื่องนี้นะ”
"แหมๆ ผมก็จำเป็นต้องทำแบบนี้นะครับคุณเกลนดอน แต่ก่อนจะเริ่ม คุณอยากจะถามอะไรผมก่อนรึเปล่าครับ?"
“ไม่มีหรอก ฉันไม่อยากรู้ว่านายใช้หลักการอะไรดัดแปลงร่างกายนายให้เป็นแบบนั้นหรอก”
"โอ๊ะ? รู้เรื่องของผมด้วยหรอครับเนี่ย? น่าทึ่งจริงๆ สมแล้วที่เป็นผู้ครองพลังที่แข็งแกร่งที่สุด"
แดเนียลกล่าวพลางนวดมือตัวเองเบาๆ
“พอดีทางฉันก็มี สายข่าว ละนะ ถึงเจ้านั้นจะไม่ใช่มนุษย์ก็เถอะ”
"แหมๆ~ ผมล่ะอยากเจอจริงๆ แต่ว่าวันนี้ต้องเริ่มที่คุณก่อนก็แล้วกันนะครับ ให้ผมให้เห็นสิ่งที่ผมต้องการทีเถอะนะครับ"
แดเนียลกล่าวแบบนั้นแล้วเดินเข้าไปหาเกลนดอนทีละก้าวๆ
“นายต้องการอะไร?”
"ผมแค่ยากจะรู้ว่า อะไรที่ทำให้คุณเกลนดอนได้รับฉายาว่า ผู้ครองพลังที่แข็งแกร่งที่สุดยังไงล่ะครับ"
“ไม่ต้องรู้หรอก แต่ฉันสงสัยนะ ไปเอาฉายางี้เง่านี้มาจากไหนกัน ฉันจำได้ว่าฉันใช้แค่ตอนนั้นไปแค่ครั้งเดียวนะ ผ่านไปแค่ไม่กี่วันก็มีฉายาพวกนี้ผุดมาแล้วหรอ?”
"พอดีคนในวงการมืดตั้งฉายาให้หลังจากเห็นคลิปสั้นๆจากคุณ….เท่านั้นเองล่ะครับ!"
แดเนียลพูดจบ เขาก็แบมือและทำมือคล้ายรูปมีดแล้วแทงโจมตีเกลนดอน
ฟึบ!
แต่มือของแดเนียลก็เหวียงออกไปจากเป้าหมาย โดยที่เกลนดอนยังอยู่ที่เดิม
“ฉันหาข้อมูลมามากพอควรนะ รู้ว่าคุณมันชำแหละสิ่งที่คุณสนใจเนี้ย แต่ไม่คิดว่ากะชำแหละสิ่งมีชีวิตนะ”
"แหมๆ คงจะเรียกได้ว่าเป็นความรู้สึกส่วนตัวของผมก็ได้นะครับ แต่เหมือนว่าคุณจะมีอะไรดีๆซ่อนอยู่เยอะกว่าที่คิดไว้ นึกว่าแขนผมจะกระจุยไปแล้วซะอีก"
“โทษทีละกัน ฉันยังไม่อยากใช้พลังมากเท่าไหรหรอก เพราะฉันตัดสินใจที่ะใช้ชีวิตอย่างปกติเหมือนคนปกติ”
"หืม?"
แดเนียลแอบเลิกคิ้วเบาๆด้วยความสงสัยในคำพูดของเกลนดอน
“และฉันก็ไม่อยาก ฆ่า อะไรเพิ่มหรอกนะ”
"....."
แดเนียลยิ้มมุมปากเหมือนจะคิดอะไร ก่อนจะถามเกลนดอนไปว่า
"อะไรที่ผลักดันคุณให้ทำหรืออยากมีชีวิตอย่างคนปกติหรอครับ?"
“ถามงี้คิดว่าฉันจะตอบหรือไง?”
"มนุษย์น่ะ มักจะมีอะไรมากระตุ้นที่ทำให้ตนมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ต่อแม้ว่ามันจะน่ำแย่เพียงใดก็ตาม ผมถึงได้สนใจและถามคุณว่าอะไรที่ผลักดันคุณให้อยากมีชีวิตแบบปกติสุขยังไงล่ะครับ หรือคำถามของผมมันทำให้คุณตอบไม่ได้? ผมคงจะลุกล้ำมากไปสินะ"
แดเนียลพูดจบก็ทำการสะบัดมือของตนฟาดไปที่คอของเกลนดอนอีกที
“อ่า เพราะนี้มันส่งผลถึงความปลอดภัย ฉันก็ขอไม่บอกละนะ”
เกลนดอนกล่าว ขณะที่มีม่านควันสีดำโผล่มาป้องกันเอาไว้อย่างน่าแปลกประหลาด
"คุณรู้ไหมครับว่าในจะมีคนจ้องจะจัดการคุณที่นอกจากผมอยู่น่ะ?"
(ซีโร่ : พวกมรึงนี้ตีไปคุยไปกันอย่างใจเย็นกันจังวะ)
(แมวดำ: มันก็มีไอฉากที่ตีไปคุยไปอยู่นะ0^0)
“ฉันไม่สนหรอกนะ ถ้าพวกมันโจมตีมา ฉันก็แค่ป้องกันกลับไป”
"แม้จะมีคนที่สามารถจัดการคุณได้อย่างงั้นหรอครับ?"
“ฉันคิดว่าบนโลกนี้ไม่น่าจะมีนะ ถ้าความแข็งแกร่งยังไม่มากพอที่จะฆ่าพระเจ้า ได้นะ”
"โห?"
แดเนียลลดมือลง แล้วยืนเงียบๆเหมือนกับคิดอะไรอยู่ แล้วพูดต่ออีกว่า
"อาจจะนอกเรื่องไปหน่อย แต่ผมอยากรู้ว่าคุณมีวิธีตัดสินใจคนว่าคนไหนเป็นคนดีไม่ดีอย่างไรหรอครับคุณเกลนดอน?"
“ของแบบนั้นฉันไม่มีหรอก เพราะไอสิ่งที่เรียกว่าความดีและความเลวมันก็แค่นิยามที่ผู้คนเอาไว้แบ่งแยกคนอื่นๆที่ไม่เหมือนตัวเองไม่ใช่หรือไง?”
"...แล้วถ้าเป็นคุณเกลนดอน คุณมองผมว่าเป็นคนยังไงหรอครับ?"
“ผู้สูงอายุที่ดันหน้าหนุ่มผิดวัยละนะ”
"...อุ๊บ! ฮ่าๆๆๆ!!"
จู่ๆแดเนียลก็หลุดขำออกมาจนน่าตกใจ
“มีอะไรน่าขำละนั้น?”
"ฮ่าๆๆ อุ๊บ! ขอโทษทีนะครับ ผมน่ะไม่ได้มีเจตนาจะล้อเลียนคุณหรือกล่าวอะไรในทางที่ไม่ดีหรอกนะครับ แต่ผมน่ะชักจะเริ่มสนใจเข้าให้แล้วสิครับ"
แดเนียลกล่าวตอบโดยที่เขาพยายามกลั้นขำตัวเอง
“สนใจ?”
"นานแล้วนะที่ไม่ได้ขำหรือรู้สึกในแง่บวกมานานแล้วนะ เรื่องชำแหละคุณผมคงต้องวางมือไปก่อนแล้วสิครับ"
“นี้คิดชำแหละจริงๆดิ”
"ผมบอกว่าแค่วางมือก่อน นั่นหมายถึง ผมจะไม่ชำแหละคุณไปซักพัก เพื่อผมจะคอยอะไรที่น่าสนใจในตัวคุณไปก่อน"
“ไม่ต้องแค่วางมือแล้วหายไปเลยจะน่าขอบคุณมากกว่าเยอะ”
"ใจร้ายจังเลยนะครับ ผมน่ะเป็นคนประเภทที่ว่า จะช่วยคนที่ผมคิดว่าดีจริงๆเท่านั้น และผมก็เจอเข้าให้แล้วล่ะครับ"
แดเนียลกล่าวพร้อมชี้ไปที่เกลนดอน
"นั่นก็คือคุณ...คุณเกลนดอน ผมจะยอมวางมือไม่ชำแหละคุณถ้าคุณต้องการ ผมยอมให้คุณตั้งข้อเสนอให้ผมทำตามได้ ถือว่าเป็นสิทธิ์เพื่อคุณโดยเฉพาะ"
“เห้อ…”
เกลนดอนถอยหายใจเบาๆ ทำไมมันวุ่นวายเพียงนี้ฟะ
"หืม? เป็นอะไรไปหรอครับ? นี่ผมขออะไรมากไปรึเปล่าครับ?"
“ไม่หรอก”
"งั้นก็ดีแล้วล่ะครับ"
แดเนียลตบไหล่เกลนดอนเบาๆก่อนจะก้มไปกระซิบข้างหูเกลนดอนว่า
"รีบกลับบ้านไปก่อนจะดีกว่านะครับ พอดีมีแขกมาที่นี่ ผมต้องไปต้อนรับเขาน่ะ"
แดเนียลกล่าวแบบนั้นก่อนจะปล่อยมือแล้วถอยออกมาจากเกลนดอนเล็กน้อย
“อ่า ขอให้โชคไม่ดีไม่มีชัย”
"ฟังแล้วรู้สึกเจ็บจัง แต่ผมก็ขออวยพรให้คุณกลับบ้านอย่างปลอดภัยก็แล้วกันนะครับคุณเกลนดอน"
สิ้นเสียง ทั้งคู่ก็หันหลังและแยกทางกันไป
"......."
แดเนียลยังคงยืนอยู่ที่เดิม เพื่อให้'คนๆนั้น'โผล่ออกมา
ฟึบ!
ฟุบ!!
หมับ!
แดเนียลทำการใช้มือซ้ายรับการโจมตีจากของแข็งที่เหมือนเป็นท่อนเหล็กจากร่างของคนๆนึงที่กระโดดโผล่พุ่งตัวออกมาด้วยความเร็วเหนือมนุษย์
"อุ๊บ! มาเร็วเหมือนกันนะครับ"
"ห๊าาา?~ แล้วตาแก่อย่างนายทำไมถึงปล่อยเหยื่อไปแบบนั้นล่ะ?"
คนๆนั้นมีน้ำเสียงแหบพร่าและยานคาง แต่แฝงไปด้วยความฉุนฉิวอย่างรุนแรง
"ผมแค่จะลองย้ายฝั่งดู เพราะผมนั้นสนใจในตัวเขาขึ้นมา เพราะงั้นผมจะไม่ให้ใครมารังความชีวิตของคุณเกลนดอนเด็ดขาดหรอกครับ!"
แดเนียลกล่าวแบบนั้นแล้วจับคอเสื้ออีกฝ่ายแล้วเหวียงลงกับพื้น
"อึก?! หนอย..!! นายนี่มัน...เหม็นขี้หน้าตั้งแต่แรกเห็นจริงๆ"
"หึๆ นานๆทีจะออกแรงเองแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันครับ ว่าไงล่ะครับคุณผีปอบญี่ปุ่น"
"ก็เข้ามาเด้ไอ้ตาแก่หนังซีด!"
แล้วหลังจากนั้น เสียงการเข้าปะทะก็ดังขึ้น ๆม่มีใครอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือฝ่ายใดแพ้ชนะแต่อย่างใด ปล่อยให้ค่ำคืนไร้คนคืนนี้เป็นพยานของเหตุการณ์นั้นไป….
.
.
.
.
.
.
วันต่อมา วันหยุดจ๊ะ
แกร๊ก
“ให้ตายสิ เพราะเมื่อวานกลับบ้านมาดึก เล่นซะตื่นสายเลยเหะ”
เกลนดอนกล่าวเบาๆขณะเปิดประตูออกมาและเดินลงบันได
"นี่ๆพี่ไอจัง อันนั้นมันอะไรหรอ?"
"โอ๊ะ อันนั้นก็เป็นของเล่นนะ เป็นตัวต่อล่ะนะ"
"เอ๋?~ จริงหรอคะ แต่เยอะจังเลยอะ"
"ฮิๆ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวพี่ไอจังคนนี้จะสอนและช่วยน้องอลิสจังเอง!"
เมื่อก้าวเท้าของเกลนดอนลงมาที่ขั้นบันไดหนึ่งขั้น ก็ได้ยินเสียงอลิสที่กำลังพูดคุยกับเสียงของเด็กสาวที่ตนไม่คุ้นหูอย่างแรง ไม่ดิ น่าจะเรียกว่าไม่อยากได้ยินเสียงนี้มากกว่า
“.....ยัยนั้นอีกแล้วหรอ?”
เกลนดอนบ่นออกมาก่อนจะเดินลงบันไดมาเจอคนคุ้นหน้าอีกคน
"อ้าว? อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่เกลนดอน!"
อลิสโบกมือทักทาย
"สวัสดีจ้า~....พี่เกลนดอน!"
“มาบ้านฉันอีกทำไมฟะยัยไอ เงินหมดอีกแล้วหรอ?”
"มาเล่นกับอลิสไง...แล้วใช่ เงินของไอจังหมดแล้วอะ แหะๆ~"
เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม นัยน์ตาสีท้องนภา กับการกระทำที่ขัดกับบุคลิกอย่างมาก กล่าวออกมาแล้วทำหน้าแอ๊บแบ๊วเขกหัวตัวเองเบาๆ
“.....สงสัยต้องไปหาเกลือมาวางไว้รอบบ้านๆแล้วสิ จำได้ว่าเมื่อสองสามวันก่อนหล่อนเพิ่งจิ๊กเงินฉันไปเองนะ”
"ใจร้ายอะ! ไอ้พี่กระเป๋าตังค์เคลื่อนที่ แต่ตอนนี้อลิสจังหิวข้าวแล้วนะ ฉันก็ด้วย ช่วยทำอาหารให้ทีสิพี่เกลนดอน~"
ไอกล่าวแบบนั้น อลิสจังก็เริ่มหิวแล้วด้วย
“เอ่อ กำลังจะไปทำเนี้ยแหละ”
"เย้!!~~"
.
.
.
.
.
"...ทำไมมีแค่สองจานอะ?"
ไอถาม
“ก็จานของฉันกับอลิสไง”
"แล้วของฉันอะ?!"
“ไม่มี…..”
"ใจร้ายอะQAQ?!"
“ก็ไม่ยอมถนอมเงินไว้ซื้ออาหาร และไม่ยอมหางานเองนี้”
"งือออออTAT~"
"นี่ๆ พี่เกลนดิน หนูขอถามอะไรหน่อยสิ"
อลิสถาม
“อะไรงั้นหรออลิส?”
"คนนั้นใครอะ? หนูว่าคุ้นๆแต่จำชื่อไม่ได้"
อลิสกล่าว
“หืม? ใครหรอ?”
"นั่นน่ะๆ"
อลิสชี้ไปที่แถวหลังกำแพงที่มีเด็กหนุ่มผมสั้นสีขาวแซมดำ หน้าตาน่ารักสมวัยที่แอบย่องๆมองๆพวกเกลนดอนอยู่
“เอ่อ น่าคุ้นๆจริงด้วยเหะ……แต่เดียวเฮ้ย! เข้าบ้านมาได้ไงฟะ?!”
"เอ่อ...หวัดดีฮะ ชื่ออะไรบ้างหรอฮะ? ผมชื่อโอคุโอกะ รินเซย์ฮะ"
"รินเซย์?...รินเซย์…."
อลิสนั่งคิดแล้วท่องชื่อของเด็กหนุ่ม
"เด็กคนนั้นมันมาอยู่บ้านพี่เกลนดอนมาซักระยะแล้วล่ะ0^0"
ไอกล่าว(ที่ไอเห็นได้ คนสร้างตัวละครไม่ได้เขียนว่าไอเห็นได้ แต่พวกเราใส่กันเองแหละ)
“เอ่อ แปบนะนึกก่อนชื่อคุ้นๆนะ…..อ๋อ! เจ้าเด็กผีนี้เอง!”
"เอ๋? ผีหรอ??"
อลิสช็อค
"ผมจำไม่ได้ว่าผมมาที่นี่ได้ยังไง แต่ผมมาดีฮะ!
...ว่าแต่มีซักสองร้อยเยนให้ผมไหมฮะ?"
"เอาไปทำไรอะ?"
อลิสถาม
"ไปซื้อหนมฮะ"
“ผีมันไปซื้อขนมได้ด้วยหรอ?”
"เอ๋?"
รินเซย์ทำหน้าแบบเด๋อขึ้นมาเลย
"0^0;"
"0.0;"
ไอจังงง อลิสก็งง
"น้องเป็นผีไม่ใช่หรอ?"
"เอ๋? ผมหรอ? อืม….."
รินเซย์ยืนคิด แต่ก็มานึกออกว่าตัวเองเป็นผีจริงๆ เพราะตนเพิ่งมาดูขาตนที่จางๆเหมือนเด็กไม่มีขาเมื่อตะกี้
(ซีโร่ : ลืมกระทั่งว่าตัวเองเป็นผีก็เกิ๊นปายยยย)
(แมวดำ: เหอะๆ เกินจริงๆ ถ้าอั้วคุมตัวละครผิดแปลดยังไงก็มาเตือนด้วยละกันนะ)
"ยังไงก็เถอะ! มาเล่นกับผมหน่อยสิฮะ ผมเหงาอะ~"
รินเซย์กล่าวด้วยสีหน้าที่ดูหงอยๆ เมื่อกี้ยังมาขอตังค์เค้าอยู่แล้ว ตอนนี้ก็มาขอเล่นละ นี่น้องลืมหรอน่ะ?!
"แต่ฉันเพิ่งจะได้กินข้าวเองนะ"
อลิสกล่าว
"ค่าข้าวเท่าไหร่ฮะ?"
“40 บา—เฮ้ย! ไม่ใช่ร้านอาหารตามสั่ง!”
"แหะๆ โทษทีฮะ แต่ผมยังไม่รู้สึกหิวตอนนี้หรอกฮะ"
รินเซย์กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงที่อารมณ์ดีตามประสาเด็ก
“เห้อ….แค่ตัวป่วนตัวเดียวก็ปวดหัวจะแย่แล้ว”
"เมื่อกี้พี่ว่าไงฮะ0^0?"
รินเซย์ถาม
“แค่บ่นเท่านั้นแหละ”
"ดูเข้าสิๆ~ พี่เกลนดอนโดนเด็กป่วนล่ะ!"
ไอเองก็ยังมาแซะกวนเกลนดอนอีกโดยที่ตนใช้นิ้วชี้จิ้มแก้มเกลนดอนสองสามทีหยอกๆ
“ก็ยังดีกว่าคนที่ชอบจิ๊กเงินละกัน”
"งะ0□0?!!"
“ไม่ต้องมางะเลย! มาทีไร ฉกเงินฉันไปทุกครั้ง! ถึงจะมีคืนด้วยก็เถอะ”
ติ๊งต่องๆ!
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงกริ่งหน้าประตูบ้านดังขึ้น ทำให้เกลนดอนต้องลุกไปเปิดดูว่าใครมา
"อรุณสวัสดิ์ครับคุณเกลนดอน"
อือหือ….น้ำเสียงที่สุภาพ ทุ้ม แต่ค่อนข้างแหบแห้งเล็กน้อยที่คุ้นเคยนี่มัน….
ปึง แกร๊ก
ไม่รอคำเพิ่มเติม เกลนดอนก็ปิดประตูแล้วก็ล็อคซ้ำไปด้วย
ก็อกๆๆ
"คุณเกลนดอนครับผมแค่มาเอาของฝากให้คุณเท่านั้นแหละครับ"
แดเนียลขานบอกเกลนดอนจากข้างนอก
“ไม่ละเกรงใจมากมาย”
"พี่ชาย ใครมาหรอคะ?"
อลิสเดินไปหาเกลนดอนแล้วถาม เพราะได้ยินเสียงเปิดประตูและปิดประตูแปบเดียวเอง
“คนขายประกันเจ้าเดิมนะ”
เกลนดอนกล่าว….แล้วไหงยังเป็นคนขายประกันอีกละ?
(ซีโร่ : ยัง…ยังแกงอยู่อีก)
(แมวดำ: เดี๋ยวก็มีคนให้แกงเพิ่มในตอนถัดไปเนี่ยแหละ เพราะผี(คนที่ตามมารังควานเกลนดอน)มันเยอะ)
(แดนเนียล : รู้สึกสังหรไม่ดีเลยเหะ)
"เอ๋? เมื่อคืนเขาก็มาไม่ใช่หรอคะ?"
อลิสสงสัย
“ก็นะ ตอนนี้ไปกินข้าวให้เสร็จก่อนดีกว่านะ”
"หนูกินข้าวเสร็จแล้วค่า และกำลังจะไปเล่นกับพี่ไอจังด้วย พี่ชายจะไปเล่นกับหนูด้วยกันไหมคะ?"
“เอาสิ แต่พี่ขอคุยกับคนขายประกันก่อนนะ ไปเล่นกับไอก่อนเลยนะอลิส”
"ได้ค่า~"
อลิสขานตอบแล้ววิ่งกลับไปเล่นกับไอต่อ
แกร๊ก
แล้วเกลนดอนก็ปลดล็อคประตูแล้วแง้มประตูออกมา
“มาทำไรอีกเนี้ย”
"ผมแค่มาเอาของฝากให้เพื่อนบ้านอย่างคุณไงล่ะครับ"
แดเนียลกล่าวตอบแบบนั้น แล้วมอบเป็นตะกร้าที่มีขนมของหวานที่ดูน่าทานน่ากินให้เกลนดอน
“เพื่อนบ้าน?”
"หืม? ไม่รู้หรอครับ? บ้านผมอยู่ใกล้ๆหมู่บ้านที่คุณอยู่ ผมเดินทางผ่านมาที่หมู่บ้านนี้ประจำ ผมเลยนับคุณเป็นเพื่อนบ้านที่ผ่านทางมาอะไรแบบนี้น่ะครับ"
“เอาจริง?”
"คิดว่าผมโกหกหรอครับ?"
“เห้อ…ให้ตายสิ”
"แต่ผมก็ไม่ได้มีเจตนามาทำอะไรไม่ดีคุณเลยนะครับ ผมมาดี อีกเดี๋ยวก็ไปทำงานแล้วล่ะครับ"
“น่าเชื่อถือตายละ”
"ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะครับ ผมมาดีจริงๆ"
“จะพยายามเชื่อละกัน”
"ถ้างั้นผมขอตัวก่อนก็แล้วกันนะครับ"
แดเนียลกล่าวลาแล้วเดินจากไป
“เห้อ…สงสัยจะอยู่สงบยากแล้วสิ”
พูดจบเกลนดอนก็หยิบตะกร้าขนมเข้าบ้านมา ดูท่า จะอยู่อย่างสงบสุขลำบากแน่นอน
ความคิดเห็น