ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [One piece x kimetsu no yaiba]คราวนี้ขอเป็นคนดี

    ลำดับตอนที่ #1 : โลก

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 64


     

    นิ้วมือเรียวขาวกดโทรศัพท์รัวๆแบบสะกดกั้นอารมณ์เดือดที่ใกล้ปะทุเต็มที

     

    "ไอ้พวกนี้ต้องให้อธิบายอีกกี่รอบถึงจะเข้าใจ!!"บิ๊วกระแทกเสียง จ้องมองคอมเม้นคลิปเบียดเรือคลิปนึงที่ดันมีคนเห็นดีเห็นงามด้วยเป็นแสน!!

     

    “ไม่ว่าเรือไหนมันก็ไม่ควรเบียดป่ะ!!ให้ชิปเงียบๆๆแล้วทำไมมึงไม่เลิกเบียด!!”มือขาวกำโทรศัพท์แน่่่นเหมือนจะจิกให้แตกเป็นเสี่ยงๆ

     

    “กิทันไม่ดีตรงไหน!!ศีลธรรม กฏหมายบ้านพ่อง!!ไทโชมันไม่มีโว้ย!!”ยิ่งโกรธเล็บยิ่งจิกหน้าจอโทรศัพท์จนแทบจะสลาย

     

    บิ๊วโมโหฟึดฟัดลุกขึ้นยืนอย่างเร็วด้วยความโกรธแต่ก็เพราะความโกรธจึงลุกเร็วไปจน…

     

    “โอ้ย!!”บิ๊วล้มลงหน้ากระแทกพื้นอย่างไม่ได้เป็นมานานกระตุ้นอารมณ์โกรธมากยิ่งขึ้นอีกถึงขั้นที่ว่าตอนนี้คุกกี้มรณะฟีมืิอเจ้าตัวที่ไม่สามารถทำให้ขาดหรือแตกไดัหัก

     

    มือขาวอวบยันตัวขึ้นจากพื้นโดยไม่สนเลือดสีแดงที่ออกมาจากหน้าผากสักนิด

     

    ติ้ง ติ้ง ติ้ง ติ้ง โทรศัพท์ส่งเสียงแจ้งเตือนรัวๆเรียกสายตาบิ๊วได้ดีเธอเอื้อมมืิอมาหยิบโทรศัพท์ไปดูอย่างใจเย็นหลังจากได้เลือดมาเตือนสติ

     

    โทรศัพท์ถูกพลิกขึ้นมาเปิดให้แสงสีฟ้าฉายออกมาดวงตาสีน้ำตาลไล่มองคอมเม้นต่างๆจากในแอปtixto_โดยที่มันมีแต่คอมเม้นด่า ว่าเธอ

     

    “ทัวร์ลงหรอ คนที่จำกัดทุกอย่างไว้ในสิ่งที่สังคมกำหนดแบบพวกมัน?ใครมันจะสนไอ้พวกปัญญาอ่อนแบบนี้กัน”บิ๊วเหยียดยิ้มให้พวกคนแสนดีเหล่านั้น

     

    บิ๊วลุกขึ้นโดยเก็บความรู้สึกหน่วงในใจและการซ้ำเติมตัวเองกับคอมเม้นพวกนั้นไว้ในหัวเหมือนทุกที

     

    “ไม่เคยหัวแตกซะด้วยแม่จะกังวลไหมนะ”บิ๊วบ่นพึมพัมระหว่างควานหายาทาแผล

     

    “แม่ไปฉีดวัคซีนน่าจะต้องกินพาราดักไข้ไว้ก่อนยาแก้ปวดหัวก็ด้วย ผ้าชุบน้ำๆส่วนพ่อก็น่าจะปวดแขนแผ่นคลายกล้ามเนื้ออยู่ไหน”แป็บๆก็ทำแผลเป็นครั้งแรกด้วยท่าทางเก้ๆกังๆเสร็จแล้วเลยหาอุปกรณ์ดูแลครอบครัว

     

    “ย่าออกไปเก็บค่าเช่าที่แฟลชกับปู่พี่เบสก็คุยกับเพื่อนในห้องหมาโง่ก็นอนโง่ๆในโซเชียลก็โดนทัวร์ลง เห้อ~ มีที่ๆไม่มีคนคอยกดดัน มีเพื่อนดีๆ มีสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมายไม่ต้องอยู่ในกรอบสังคมบ้างไหม”บิ๊วบ่นพึมพัมระหว่างตามปกติแต่ตาก็สดุดเข้ากับพื้นคอนกรีตเงาวับ

     

    ‘ในเงาสะท้อนเป็นโลกอีกใบที่เหมือนโลกนี้เป๊ะแต่พวกเราจะข้ามไปอีกฝั่งไม่ได้ ต่อให้ทุบไปเรื่อยๆจนพื้นแตกแต่ประตูก็จะไม่เปิดเว้นแต่เราจะเป็นคนเดินเข้าไป’ความคิดในหัวเริ่มเเล่นไปเรื่อยๆเช่นเคย

     

    “อีกล่ะ เพ้อเจ้อไร้สาระหัวแตกแล้วหลอนอีกล่ะกู”ไม่นานบิ๊วก็ระบายยิ้มขบขันออกมา

     

    “แต่ถ้าเป็นจริงก็ดีสิ…โลกอิสระที่มีเพื่อนเยอะแยะทำให้ชีวิตมีสีสันมีความหมาย”ไม่ต้องรอนานบิ๊วก็ระเบิดหัวเราะให้ความคิดปัญญาอ่อนนี้

     

    บิ๊วยกมือขึ้นมาขยี้ตาแบบไม่ต้องสงสัยอะไรก็รู้ได้ว่าตาคู่นี้ล้าเต็มทนกับการจ้องมองแสงสีฟ้าตลอดวัน

     

    ขาอวบย่างก้าวขึ้นบรรไดไปบนห้องนอนแล้วกระโดดลงเตียงทันที

     

    ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองโต๊ะกระจกแต่งหน้าของแม่ที่สะท้อนเงาตัวเองไปนาน

     

    “อยากได้ห้องของตัวเองจัง”บ่นพึมพัมตามภาษาแล้วล้มตัวลงบนเตียงเดี่ยวติดกับเตียงคู่

     

    ใบหน้าสวยซุกลงไปในหมอนแล้วสติก็ค่อยๆคล้อยดับไปช้าๆ

     

    _________________________________________

     

    “โฮ่ลีเชียส”บิ๊วยันตัวลุกขึ้นแล้วจึงสังเกตุว่าที่ๆเธออยู่มันคืิอป่า

     

    ถึงบ้านกับโรงเรียนจะมีสัตว์และต้นไม่เยอะแต่มันก็ไม่ถึงขั้นป่างั้นที่นี่คือมาไง?ความฝัน?พ่อแม่พามาเที่ยวแต่พึ่งตื่นเลยจำไรไม่ได้?คิดไปเอง?เล่นเครื่องเล่นอะไรสักอย่างในสวนสนุก?ความฝันเข้าสุดว่ะ

     

    เดี๋ยวนะไอ้ชายถ้าฝันแล้วกูคุมตัวเองได้หรือนิ?ไรนิหรือคิดไปเอง

     

    นายคิดไปเองลอยมาเลย

     

    งั้นสรุปสั้นๆง่ายๆเลยล่ะกัน

     

    ขอสรุปในแบบวิทยาศาสตร์ในฐานะที่เรียนมาจะขอสรุปๆง่ายๆได้ใจความว่า ไม่รู้

     

    ก็คิดซะว่าทะลุมิติมาแบบนิยายฟิคล่ะกันแต่เราอยู่เมะเรื่องไรนั่นคือปัญหา

     

    เอาเป็นว่าลุกขึ้นมาเดินหาคนก่อนล่ะกัน

     

    ขาขาวย่างก้าวไปจนทั่วและได้พบว่าที่นี่คือโลกของ…เกาะร้าง

     

    ใช่แล้วโลกของเกาะร้างเงิบมากไหมล่ะใครเงิบไม่เงิบไม่รู้แต่ที่รู้ๆตูเงิบแดร็ก

     

    ขอคิดว่าโลกวันพีชฟันธง!!

     

    แต่ฟันธงทำไมนี่งงกว่ามาที่นี่ยังไงอีก

     

    แล้วตี้ควรได้มันจริงดิ

     

    มันคือสิ่งที่โอตาคุต้องการเลยนะ

     

    โอตาคุดีๆก็มีตั้งเยอะนี่

     

    หรือเพราะตี้ไม่เบียดเรือ

     

    ชั่งๆๆๆๆ ตอนนี้ได้โอกาสแล้วมันไม่เกี่ยวกับควรไม่ควรแล้ว

     

    งั้นได้เวลาทำสิ่งที่ทั้งครอบครัวฝั่งเจ้าสาวต้องการมานานนั่นคือ…การผอม

     

    ใช่แล้วการผอม

     

    ก็ครอบครัวที่เป็นผญ.ไม่มีใครผอมสักคนแต่มีผอมตอนเด็กอ้วนตอนโตอยู่นะ

     

    ส่วนเค้ารึบิ๊วตี้ก็

     

    ไม่เคยผอมเลยทั้งชีวิต

     

    งั้นก็ถึงเวลาเริ่มปฏิบัติการผอม!!

     

    ขั้นแรกออกกำลังกา-ไม่เป็นไรอ้วนก็ดี

     

    _________________________________________

     

    ถึงจะตัดสินใจแล้วก็เหอะแต่…มึงเป็นใครมาสั่งกูให้ผอม

     

    กูอ้วนของกูมาเป็นปีๆแล้วมึงจะให้กูเลิกอ้วนได้ไง

     

    “รู้นะคิดไรอยู่”เด็กผู้ชายตรงหน้ายิ้มทะแล่น

     

    “มาๆเล่นกานนนน-ต้องไปหาแม่นี่หว่า”เด็กตัวเล็กน่ารักโพลูกตรงหน้าหยุดชะงักจับมือลากบิ๊วพาไปหาแม่ตัวเอง

     

    “แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหม~เลือกที่จะไม่ไปได้รึป่าว~”ไม่ต้องรอนานเพลงก็ถูกล้อเลียนแบบไม่อิงลิขสิทธิ์ใดๆ

     

    “พูดอะไรอ่ะ”เด็กตัวเล็กน่ารักโพลูกหันมาถามคนข้างหลังที่โดนพา(ลาก)มาด้วย

     

    “พูดญี่ปุ่นไมอ่ะ”คราวนี้แหละมึงเอ้ยบิ๊วกับเด็กโพลูกรวมพลังงงแสนน่ารักเค้าด้วยกัน

     

    “อะแระ/อะรึว่า”เด็กน่ารักกับบิ๊วพูดพร้อมกัน

     

    ลืมเลยวุ้ยเมะเจเปนนิสมันเสียงพาร์กเจเปนแล้วทีนี้จะคุยไง

     

    “เอ่อ เธอพูดอะไร”เด็กตัวยืนงงในดงป่า

     

    แปลภาษาอยู่ไหนๆวุ้นแปลภาษาโดระเอพ่อง~เดี๋ยวมึงบ้าหรือมึงบ้าว่ะไอ้ชาย

     

    โทรศัพท์ช่วยคุณได้แต่ไม่มีโทรศัพท์

     

    รังสีความเศร้า ผิดหวังแผ่กระจายออกมามากมายจากตัวบิ๊วสะตี้ๆๆ

     

    เอาจริงถึงมีโลกนี้ก็ไม่มีเน็ตอ่ะเอาจริง

     

    “ไปหาแม่ผมก่อนล่ะกัน”สุดท้ายบิ๊วก็โดนลากไปบ้านเด็กตัวเล็ก

     

    _________________________________________

     

    “หนูมีครอบครัวไหมจ้ะ”ผู้หญิงผมยาวสีขาวนวลยิ้มอย่างอบอุ่น

     

    “อีกล่ะนะ เจเปนอีกล่ะนะ”การที่ไม่มีคนเข้าใจสิ่งที่เธอพูดนั้นคือประตูสู่นรกเกรียนแตกของบิ๊วสะตี้

     

    “?”คุณแม่คนสวยงงหนักไม่เข้้าใจภาษาประหลาดๆนั่น

     

    “คนนี้พูดอะไรแปลกๆมาตั้งนานแล้วฮะ”โชตะน้อยชี้นิ้วไปทางเด็นแปลกหน้า

     

    “งั้นหนูลองเขียนดูล่ะกันนะ”คูมมี้หยิบกระดาษกับดินสอมายัดใส่มือเด็กตรงหน้า

     

    “ไอโน เอ่อ สปีกแอนไรท์”ภาษาอังกฤษแบบถูๆไถๆของบิ๊วที่อุส่าเอาตัวรอดเกรด4ทุกปีมาได้ถูกงัดมาใช้

     

    “อ๋อ งั้นจะสอนภาษามือให้นะจ้ะ”คูมมี้ท่าจะช่วยดะใจดีจุง อีบิ๊วจะพยายามมินำความเกรียนแตกไปให้นะ

     

    หน้าสวยขยับขึ้นลงแล้วส่งยิ้มให้คนตรงหน้า

     

    _________________________________________

     

    สองสามปีต่อมาบิ๊วได้หัดภาษาญี่ปุ่นและภาษามือจนใช้ภาษามือถึงขั้นเซียน(ฟังภาษาญี่ปุ่นไม่ออกหรอกแต่เดาๆเอาว่าเค้าพูดอะไร)

     

    คุณแม่ทำท่าทางตามภาษามือขอให้บิ๊วช่วยตามชิโระฮารุไปหน่อยหรือง่ายๆก็พี่เลี้ยงอเนกประสงค์

     

    บิ๊วพยักหน้าวิ่งท่านารูโตะแอบตามชิโระไปพบว่า…

     

    อยู่กับการ์ป

     

    ใช่นี่คือหมู่บ้านฟูชะแต่ไม่ใช่ไทม์ไลน์ตอนลูฟี่เอสซาโบ้เป็นเด็กหรอกนะ

     

    ตอนนี้เอสออกเรือไปสองปีแล้วปีหน้ากฺ็ตาลูฟี่

     

    “คุณการ์ปพาผมไปหาพี่ลูฟี่หน่อยยยยย”ชิโระอ้อนการ์ปสุดชีวิต

     

    “555ได้สิเจ้าหนู”การ์ปหัวเราะให้การอ้อนนี้กับฝีมือการแอบตามของบิีี๊วดังลั่น

     

    “ซ่อนห่วยมาก”การ์ปเดินหิ้วคอบิ๊วออกจากที่ซ่อนอย่างทุกที

     

    บิ๊วทำแบมือโดยพับนิ้วชี้ลงแล้วทำมือชูสองนิ้วติดกันต่อด้วยทำมือวงกลมไม่เต็มวงตามมาติดๆกับชูสองนิ้วซึ่งแปลว่าF U C K

     

    “ปากร้ายนักนะ”การ์ปขยี้กลุ่มผมสีดำอย่างมั่นเขี้ยวไม่สนบิ๊วที่ทำมือบอกว่ามือร้ายต่างหาก

     

    “โห่ บิ๊วมาทำไมอ่าผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ"ชิโระงอแงดิ้นท่าไม้ตายท่าจักจั่น

     

    “ถถถถถถ มี้ขอโทษค้าบบบบ”บิ๊วพูดอีกอย่างมืออีกอย่าง

     

    “เธอก็เคยพูดแบบนั้นนะ”บิ๊วทำมือบอกว่าคนพูดงี้เด็กทุกคนการ์ปเลยแย้งแบบหน้าอิหยังว่ะให้

     

    ‘เผือกค่ะ’ถึงจะสุภาพแต่เป็นมือที่ด่าเจ็บและแรงมาก

     

    “พูดจาให้มันดีๆหน่อย”การ์ปเริ่มหัวเสียแต่บิ๊วก็ทำมือกวนไม่เลิกโดยบอกว่ายังไม่ได้พูดสักคำ

     

    “เพ้อเจ้อไร้สาระกินเนื้อแล้วหลอน”

     

    _________________________________________

     

    ภูมิใจกับประโยคสุดท้ายของน้องมากฆร่ะ

     

    ร้อยเปอร์มีคนคิดว่าเรื่องนี้มาม่า555555


    แล้วน้องคือบับเหมือนเป็นใบ้แล้วก็หูกนวกเลยอ่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×