ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ^_^เศษเสี้ยวของความเจ็บปวดที่มีต่อรัก^O^[YAOI]

    ลำดับตอนที่ #2 : ขอเป็นเพียงเศษเสี้ยวในความทรงจำก็พอ

    • อัปเดตล่าสุด 6 ม.ค. 51


    ขอเป็นเพียงเศษเสี้ยวในความทรงจำก็พอ

    เวลาเลิกเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่ง นักเรียนต่างเก็บกระเป๋าทยอยกลับบ้านและผมก็เป็น
    หนึ่งในนั้น
     

    "เรย์ไปเที่ยวกัน พวกฉันจะไปโยนโบว์ลิ่ง นายต้องไปด้วย" เอย์อิจิเอยชวนผมแกมบังคับ


    "โทษทีเอย์อิจิ ฉันติดธุระ ต้องรีบกลับ" เอย์อิจิ ทำหน้าผิดหวังเล็กน้อยเมื่อผมปฏิเสธคำชวนก่อนจะ
    ยิ้มกว้างให้ผม


    "อืมไม่เป็นไรหรอก ไว้คราวหน้านายต้องชดเชยด้วยการไปด้วยแล้วเลี้ยงขนมฉันนะ อะ ฉันไปก่อนนะ

    เดี๋ยวพวกนั้นคอยนาน
    " เอย์อิจิวิ่งไปหาเพื่อนที่ยืนคอยแล้วพากันออกจากห้องเรียนไป


    ผมเดินออกมาคอยรถเมล์ที่ป้ายหน้าโรงเรียน ระหว่างนั้นผมเห็นรถเบนท์สีดำแล่นเข้าไปในโรงเรียน


    "คงมารับ ท่านเซนซินะ"  ผมเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับท่านเซน ด้วยความเมตตาของท่านเซนผมจึงมี

    โอกาสได้เรียนในโรงเรียนแห่งนี้โรงเรียนที่มีชื่อเสียง โรงเรียนของคนรวย โรงเรียนที่มีแต่คนมีความ

    สามารถมาเรียนกัน เรื่องเงินผมอาจขาดคุณทรัพย์ แต่เรื่องความสามารถผมไม่เป็นรองใคร  แต่

    เพราะความสามารถนี้ทำให้ผมถูกรังเกียจจากตระกูลศิลปะเสษโรจนวิวัตร ทำให้ท่านเมสันต้อง

    ลำบาก แต่เรื่องนั้นชั่งมันเถอะ เพราะท่านเมสันบอกอย่าคิดมากและตอนนี้ผมกำลังมีความสุข ถึง

    แม้จะมิอาจใช้นามสกุลของท่านเมสัน แต่ผมก็ได้นามสกุลของป้าเมษแม่นมผู้ใจดีของท่านเซนมา 

    นามสกุลของป้าเมษคือ พงศ์ไพศาล ชื่อผมจึงเป็น เซเรย์ พงศ์ไพศาล ท่านเซนบอกผมว่านามสกุลนี้

    เพราะกว่านามสกุลท่านอีก  เสียงบีบแกจากรถเบนท์ที่มาจอดหน้าป้ายที่ผมยื่นอยู่ ทำให้ผมได้สติ 

    หลุดจากหวงความคิด ผู้ที่ยื่นหน้าออกมาจากกระจกรถคือท่านเซน


    "เรย์ขึ้นรถซะ ไหนๆก็ต้องไปทางเดียวกัน ไปด้วยกันเถอะ" ท่านเซนพูดกับผมด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าของ

    ท่านที่ยิ้มทำให้หลายคนหันมามอง อาจจะเพราะผมทรงรากไทรสีน้ำเงินเข้มจนเหมือนดำ ดวงหน้า
     
    หล่อเหลาคมคาย นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่ทอดมองมาด้วยความอ่อนโยน พร้อยรอยยิ้มน้อยๆนั้น ทำ

    ให้ผู้คนต่างหลงใหลจนอดมองตามไม่ได้ แต่ผมก็เป็นคนทำให้รอยยิ้มนั้นหายไป ถึงแม้แววตายังอ่อน

    โยนก็ตาม


    "ไม่ได้หรอกท่านเซน ผมไม่ควรกลับรถคันเดียวกับท่าน ท่านก็รู้ ขอโทษครับผมต้องไปแล้ว รถเมล์มา

    แล้วครับ
    " ผมรีบวิ่งไปขึ้นรถเมล์ที่จอดคอยผู้โดยสารอยู่ แต่ผมก็เป็นคนทำให้รอยยิ้มนั้นหายไป ผมไม่

    อยากปฏิเสธท่านไม่อยากเห็นหน้าที่ไร้รอยยิ้มของท่าน แต่ผมก็มิอาจเอื้อมเทียบเท่าท่าน สำหรับผม

    ท่านคือเจ้าชีวิต แต่สำหรับท่านผมขอเป็นเพียงเศษเสี้ยวในความทรงจำของท่านก็พอ นี่คือสิ่งที่ผม

    คอยท่องซ้ำไปซ้ำมาในใจ เพื่อมิให้อาจเอื้อมเทียบเท่าท่าน


               
                                 

     


    พึ่งจะเริ่มแต่งแนว Y ขอกำลังใจด้วยนะค่ะ จะพยายามแต่งสุดฝีมือเลย ตอนที่3มาลงช้าหน่อยนะ เขียนใส่สมุดได้ 4-5ตอนแล้ว แต่ต้องเอามาปรับเปลี่ยนเนื้อหาก่อนลงคอมฯเลยค่อนข้างช้า ช่วยเม้นเยอะนะค่ะจะได้มีกำลังใจ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×