ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบบสวมบทบาทเป็นแฟนพระเอก

    ลำดับตอนที่ #25 : โลกที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 66


    บทที่ 24

    "ไม่เป็นไร หากเขาชอบก็ให้อ่าน"

    หวังไป๋อวิ๋นตอบด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายราวกับการกระทำของหวางเฟยไม่มีผลกระทบอะไรกับเขามากนัก อาจเป็นเพราะแต่ก่อนยามเด็ก เขาถูกฮ่องเต้องค์ก่อนค้นพบว่าตนเองแอบอ่านหนังสือประเภทนวนิยายในเวลาว่าง ซึ่งในตอนนั้นทุกคนเอาแต่ขำขันเหมือนเขาเป็นตัวประหลาดกับสิ่งที่เกิดขึ้น 

    ฮ่องเต้องค์ก่อนฉีกกระดาษหนังสือท่ามกลางเสียงปรบมือเห็นด้วยของเหล่าสนม

    หวังไป๋อวิ๋นจึงสั่งไม่ให้คนในตำหนักพก หรืออ่านหนังสือประเภทนั้นอีก

    พอเขารู้ว่าไห่ฮุ่ยหมิงต้องการอ่านหนังสือนวนิยาย เขาไม่อยากขัดขวาง อย่างไรก็เป็นความชอบของหวางเฟย เพราะการได้อ่านหนังสือที่ชอบก็เหมือนได้รับความสุขในชีวิต

    …และพวกเขาทั้งคู่ต่างโดนเรื่องราชวงศ์มาเปลี่ยนชีวิต หากอยากอีกฝ่ายอยากหาความผ่อนคลายในชีวิตเสียหน่อย คงไม่เป็นไรหรอก 

    ท่านอ๋องของราชวงศ์หวังมองผ่านหน้าต่าง ซึ่งอีกห้องส่วนตัวสามารถมองเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของหวางเฟยกำลังหัวเราะกับสาวใช้ที่ยื่นหนังสือมาให้จัดในห้องหนังสือ 

    "เรื่องการประชวรของไทเฮาเป็นอย่างไรบ้าง?"หวังไป๋อวิ๋นหมุนกายนั่งลงบนเก้าอี้ ก่อนจะมองพ่อบ้านถอนหายใจ"…ตอบตามจริงเถอะ"

    "พระองค์ทรงสุขภาพแข็งแรงดี แต่เนื่องจากอาการป่วยกำเริบอีกวัน จึงขอเลื่อนวันเข้าเฝ้าของพวกท่านไปอีก"

    ประโยคช่างขัดแย้งกัน อย่างไรพวกเข้าเฝ้าก็มีแค่ยกน้ำชาเพื่อยอมรับคู่แต่งงานเท่านั้น ทว่าการที่ไทเฮาทรงทำเช่นนี้ นอกจากจะเป็นการทำให้ทุกคนซุบซิบนินทา ยังบ่งบอกว่าไทเฮาไม่ยอมรับการแต่งงานตามพระราชโองการของฮ่องเต้ด้วย 

    คงต้องเล่าไปถึงตอนท่านอ๋องอายุครบสิบห้าปีตรงกับเวลาฮ่องเต้องค์ก่อนสิ้นพระชนม์พอดี วันนั้นฮองเฮาองค์ก่อนที่เป็นภรรยาหลวงของฮ่องเต้รับไม่ได้ในการสูญเสียครั้งนี้ ซึ่งขณะฮ่องเต้สิ้นพระชนม์ หวังไป๋อวิ๋นกำลังจัดงานวันเกิดในตำหนักเงียบ ๆ ทว่าฮองเฮาองค์ก่อนไม่พอใจที่หวังไป๋อวิ๋นกำลังสำราญในวันที่บิดาตนเสียได้

    นางเข้ามาปาข้าวของในตำหนักกระจัดกระจาย พลางเอ่ยโทษตัวเองที่รับหวังไป๋อวิ๋นเข้าวังหลวง จึงทำให้สามีตนเองสิ้นพระชนม์ รวมถึงกล่าวอีกว่าเป็นเพราะหวังไป๋อวิ๋นเป็นมารฆ่าพ่อแม่ เกิดมาเพื่อทำให้ทุกคนต้องตาย ส่งผลฮ่องเต้องค์ก่อนสิ้นพระชนม์

    แท้จริงแล้วเรื่องของฮ่องเต้องค์ก่อนเป็นเพียงอุบติเหตุ ท่านอ๋องน้อยในเวลานั้นไม่รู้ว่าบิดาสิ้นพระชนม์เพราะไม่มีใครแจ้งข่าว เนื่องจากไม่ค่อยมีคนรับใช้อยากเข้าใกล้หวังไป๋อวิ๋น เพราะเชื่อว่าเขาจะนำความตายสู่ทุกคน ทำให้เขามารู้อีกทีตอนฮองเฮาองค์ก่อนบุกเข้ามาในตำหนักเท่านั้น

    …นี่อาจเป็นแผลในใจของชินอ๋องนับแต่นั้นมา

    ไทเฮาปัจจุบัน หรือก็คือฮองเฮาองค์ก่อนเลยไม่ชอบท่านอ๋องเป็นอย่างมาก การปฏิบัติแบบนี้กับท่านอ๋องเป็นการเหยียดหยามอย่างเห็นได้ชัด

    "…แต่ฮองเฮาทรงส่งบัตรเชิญให้ท่านอ๋องกับหวางเฟยเข้าเฝ้าเพื่อยกน้ำชาแก่ญาติผู้ใหญ่"พ่อบ้านกล่าว

    หวังไป๋อวิ๋นส่งเสียงอืมในลำคอ ก่อนจะส่งสัญญาณมือเชิงไล่พ่อบ้านออกไปจากห้องส่วนตัวก่อน เพื่อให้เขาอยู่ในความคิดของตนเองสักพัก

    สงครามระหว่างไทเฮากับฮองเฮายังเป็นสงครามขนาดย่อม เนื่องจากไทเฮาคิดว่าฮองเฮาองค์ปัจจุบันไม่เหมาะกับลูกชายตนเอง เพราะมีความก้าวร้าวไม่เคารพผู้ใหญ่ การที่ฮองเฮาเชิญพวกเขาก็เป็นการตั้งใจหักหน้าไทเฮาอย่างแน่นอน

    ต่อให้ไม่ไปก็คงมิได้เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหน้าตาของคู่แต่งงานทั้งสอง

    …อย่างไรก็คงมีแต่แผนการเดียวเท่านั้น 

    หวังไป๋อวิ๋นถอนหายใจ เขามองไปที่หวางเฟยกำลังเลือกหนังสือบนชั้นวางกับสาวใช้ ซึ่งสามารถบอกได้ว่าการจัดหนังสือผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

    ชินอ๋องสังเกตไปมาก็รู้สึกหวางเฟยคนนี้ค่อนข้างมีรอยยิ้มสว่างไสวงดงามยิ่งนัก และพอนึกถึงใบหน้าของหวางเฟยอาจหงอยเหงา เพราะเขาไม่ได้อยู่กินข้าวด้วยเช่นตอนเช้า

    หวังไป๋อวิ๋นจึงตัดสินใจนั่งทานอาหารกับอีกฝ่ายในช่วงเย็น

    …พวกเขาเป็นคู่แต่งงานตามกฎหมาย คงไม่เป็นอะไรมากหรอก

    ฉะนั้นยามถึงมื้อเย็น หวางเฟยมีสีหน้าตื่นตกใจกับพฤติกรรมของท่านอ๋องที่ไม่ได้เห็นหน้าเห็นตามานาน(ตั้งแต่เช้า)กำลังนั่งรับประทานอาหารจากอีกฝั่งนึงของโต๊ะด้วยสีหน้าเรียบเฉย

    บรรยากาศมีเพียงความอึดอัดปกคลุมผิดปกติ หวังไป๋อวิ๋นตัดสินใจคีบผักให้อีกฝ่ายบนจาน เพราะสังเกตว่ากวงหมิงมักคีบแต่ของจืด อีกฝ่ายอาจเป็นคนชอบอาหารไม่ค่อยมีรสชาติ

    เมื่อเห็นสีหน้าสงสัยของกวงหมิง ชินอ๋องก็พูดเพียงว่า"ทานสิ"

    "ขอบพระคุณท่านอ๋อง"

    "ใช้คำธรรมดากับข้าก็พอ"หวังไป๋อวิ๋นกล่าว พลางคีบผักให้หวางเฟยต่อด้วยท่าทางเคร่งขรึม ซึ่งค่อนข้างเป็นที่แปลกสายตาจากพ่อบ้าน เนื่องจากมันไม่มีใครปฏิบัติกับคู่แต่งงานด้วยการคีบข้าว พลางมีสีหน้ากดดันให้กินราวกับทหารออกคำสั่ง

    …นี่อาจเป็นผลร้ายจากการที่ท่านอ๋องมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับค่ายทหาร จึงหล่อหลอมให้เขาเป็นคนค่อนข้างเย็นชา แต่จริง ๆ ข้างในของเขามีความใส่ใจทุกคนอยู่

    พ่อบ้านฮัมเพลงอย่างร่าเริง ก่อนจะกวักมือส่งสัญญาณให้หลายคนออกไปข้างนอกห้องทานอาหาร เพื่อไม่ให้ขัดขวางคู่รักที่พึ่งแต่งงานกันใหม่กำลังหวานกัน

    กวงหมิงสังเกตเห็นคนรับใช้ออกไปข้างนอกก็ไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงมองผัก แล้วเงยหน้ามองเห็นสายตานิ่งเรียบของหวังไป๋อวิ๋น จากนั้นจึงคีบอาหารใส่ปากอย่างเชื่อฟัง

    สายตาของชินอ๋องค่อย ๆ อ่อนขึ้นอย่างไม่รู้ตัวราวกับมีบรรยากาศล้อมรอบความอ่อนโยนเข้ามาอีกครั้งนึงในชีวิต ซึ่งเขาไม่คิดว่าตนเองจะกลับมามีออร่าแบบนี้กลับมาได้ 

     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×