ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบบสวมบทบาทเป็นแฟนพระเอก

    ลำดับตอนที่ #2 : โลกที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ค. 66


    บทที่ 2

     

    [โฮสต์ทำหน้าแบบนั้น ระวังสามีของโฮสต์สงสัยนะครับ]

    คนอารมณ์เสียกำลังตักโจ๊กมื้อเช้าเข้าปากดันกัดช้อนด้วยความแค้นจากบทบาทที่ได้รับ ซึ่งสามารถพูดได้เต็มปากว่า 'มัน ช่าง ดี เสีย จริง'

    เป็นสามีเพื่อนสนิทที่เคยเห็นหน้ากันยามเด็กก็ว่าแย่แล้ว นี่กะจะให้แอบลักลอบมีชู้อีก!

    กวงหมิงสนิทกับเทพแห่งท้องนภาตั้งแต่แบเบาะ มีหรือจะทำอีกฝ่ายได้ลงคอ 

    ในสายตาของเทพแห่งแสงสว่าง ไป๋อวิ๋นคือเพื่อนที่ดีและตามใจที่สุดในจักรวาล พวกเขาเป็นเทพบรรพกาล ไม่เคยได้สัมผัสกับคำว่าพ่อแม่ มีแต่หน้าที่เกิดมาได้รับมอบหมายจากสวรรค์ 

    แม้จะเป็นเทพแต่ก็มีความโดดเดี่ยวไม่น้อย หากไม่นับเทพแห่งอัสนีที่คอยอยู่เป็นเพื่อน ไป๋อวิ๋นคือคนที่คอยดูแลและห่วงใยเขาเสมอ พอให้มาทำร้ายอีกฝ่าย เขาก็อดไม่ได้ที่จะเศร้านิดหน่อย 

    ทว่าภารกิจก็คือภารกิจ จะมาล้มเหลวกลางคันไม่ได้!

    ทางด้านพ่อบ้านเห็นท่าทางขุ่นเคืองของคุณชายน้อยอาจเป็นผลจากการถูกนายท่านใหญ่จับได้ว่าแอบเข้าผับเมื่อคืนจึงจำต้องรีบถอย มิเช่นนั้นอาจเกี่ยวข้องการทะเลาะของคู่สามีสองคนนี้อีก

    ชุนอวิ๋นนั่งรับประทานอาหารอยู่ฝั่งตรงข้ามย่อมต้องมองเห็นบรรยากาศเยือกเย็นแผ่มาจากคู่แต่งงาน เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

    "วันนี้ไม่ต้องไปทำงานก็ได้"

    "หือ?"กวงหมิงสงสัย ก่อนจะปรากฏหน้าจอขึ้นเป็นระบบ

    [จางฉือหมิงทำงานเป็นเลขาระดับสามของสามีโฮสต์]

    ไม่ต้องเน้นย้ำเรื่องสามีก็ได้

    …แต่เลขาระดับสามคืออะไร?

    ไม่แปลกที่กวงหมิงจะไม่ค่อยเชี่ยวชาญทางด้านนี้ เพราะเขาเป็นเทพบรรพกาลที่ไม่ค่อยรู้เรื่องโลกมนุษย์มากเท่าไหร่ ทั้งยังเก็บตัว และเอาแต่อ่านนิยายโบราณจากซือมิ่งในตำหนักของตนเอง

    อาจเป็นเพราะตัวตนของเขาไม่ค่อยสนใจนิยายเนื้อหาปัจจุบันเท่าไหร่นัก จึงไม่ได้เอ่ยขอ แต่นั่นก็ส่งผลให้เขาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับโลกมนุษย์ใบนี้เลย

    [ปกติตำแหน่งเลขาจะคอยช่วยเหลือประธานบริษัท แต่ชุนอวิ๋นเป็นคนระวังตัวมาก เขาเลยแบ่งเลขาเป็นสามระดับ ระดับแรกคอยจัดการประสานงานในบริษัท คุยงานแทนเจ้านาย แถมยังต้องเก็บความลับสำคัญ ระดับสองคอยจดตาราง รายงานประชุม แล้วแต่เจ้านายจะสั่ง

    …ส่วนระดับสุดท้าย จริง ๆ มันไม่มีระดับนี้แต่สามีโฮสต์เพิ่มมา เพราะพ่อแม่โฮสต์อยากให้เข้ามาทำงานเรียนรู้ประสบการณ์ แต่ละวันของจางฉือหมิงแทบไม่ค่อยทำอะไรนอกจากเล่นเกมที่โต๊ะทำงาน]

    โอ้ งั้นนี่ก็เข้าทางกวงหมิงเลย เนื่องจากเขาก็ทำงานด้านเอกสารไม่เป็นเหมือนกัน

    จากใจจริง หากชุนอวิ๋นต้องการให้สอนฝึกพลังลมปราณเพื่อกำจัดคนชั่วช้า เขาสามารถทำได้นะ

    ระบบขำแห้ง[ถ้าโฮสต์ทำแบบนั้น เอกลักษณ์ของโลกกำจัดพวกเราจนปลิวไปอากาศแหง]

    ระหว่างทั้งสองกำลังคุยกัน ชุนอวิ๋นกลับสังเกตเห็นชายหนุ่มกำลังเหม่อลอยจึงเอ่ยต่อ"จริง ๆ นายสามารถเข้าผับ ดื่มเหล้าได้ แต่นายไม่ควรไปกลับคนพวกนั้น มันมีแต่จะดึงให้นายเสียลงเรื่อย ๆ"

    ถึงจะตั้งกฎขึ้นมา นายท่านตระกูลชุนก็หวั่นว่ามันจะกำจัดการใช้ชีวิตอีกฝ่ายมากเกินไป อย่างไรพวกเขาก็แต่งงานโดยไร้ความยินยอมจากทั้งสองฝ่าย หากไม่ยอมถอยให้กันบ้าง คงทำให้ชีวิตคู่อึดอัด

    กวงหมิงรู้สึกตัว อีกฝ่ายอาจจะหมายถึงผับที่จางฉือหมิงแอบเข้าไปกับเพื่อนฝูงเป็นแน่ เขาเลยเอ่ยกับอีกฝ่ายด้วยใบหน้าจริงใจ"ไม่ต้องกังวลเสี่ยวอวิ๋น ผมไม่ไปแล้ว ต่อจากนี้ผมจะเป็นคนดี ประพฤติดี รู้จักรับผิดชอบในหน้าที่สามีแน่นอน"

    ชุนอวิ๋นพยักหน้าราวกับไม่ได้คาดหวังในคำพูดของอีกฝ่าย"ตกลง อย่าลืมคำพูดตนเองล่ะ"

    หลังจากนั้นทั้งสองคนรับประทานอาหารอย่างเงียบงัน ภายใต้สายตาแปลกประหลาดของพ่อบ้าน ซึ่งทุกทีสองคนนี้มักจะทะเลาะกันทุกมื้ออาหาร จนมองหน้ากันไม่ค่อยติด

    …นี่อาจเป็นครั้งแรกที่คู่แต่งงานยอมอ่อนลงให้กันและกันแล้วกระมัง

    แน่นอนว่าพ่อบ้านย่อมดีใจในความสัมพันธ์ของทั้งสองคน ถึงคุณชายน้อยจะชอบทำตัวเอาแต่ใจกับนายท่านชุน แต่ลึก ๆ ก็ยังปฏิบัติกับทุกคนในคฤหาสน์เป็นอย่างดี และอาจเป็นเพราะข้อตกลงการแต่งงานแบบคลุมถุงชน จึงทำให้คุณชายน้อยไม่ชอบหน้าสามีตนเอง

    ขณะเดียวกัน นายท่านใหญ่ก็เริ่มเบื่อกับการทะเลาะซ้ำซาก ต่างคอยหลบหน้าตลอดเวลา มีแค่คราวนี้ที่ได้รับประทานอาหารกันแบบดี ๆ เหมือนกับคู่แต่งงานทั่วไปเสียที

    พ่อบ้านที่ยืนหลบกำแพงอยู่ถอนหายใจ ก่อนจะหันไปเจอบรรดาคนรับใช้ต่างมองมุงดูหลังเสาคล้ายกับตุ๊กแกเกาะเรียงกันอย่างไรก็ไม่รู้

    "…"พ่อบ้าน

    "…"บรรดาคนรับใช้

    จากนั้นทุกคนโดนไล่ตะเพิดทางสายตาจากพ่อบ้าน

    คนเหล่านี้ว่างงานกันหรือยังไง มาแอบดูคู่แต่งงานกำลังหวานกัน 

    …ช่างใช้ไม่ได้จริง ๆ 

    ส่วนทางด้านคู่แต่งงาน พอทานอาหารเสร็จ ชุนอวิ๋นก็แยกย้ายไปทำงาน ส่วนทางด้านของกวงหมิงแอบใช้เหตุผลว่ายังไม่สร่างเมาขึ้นมาในห้องเพื่อวางแผนในอนาคตกับระบบต่อ

    "นายช่วยพูดจุดหลักทั้งหมดหน่อย กิ๊กของจางฉือหมิงคือใครนะ?"

    [คือเลขาระดับสอง หลิวเหว่ย]

    โอ้ จางฉือหมิงช่างเลือกคนเสียจริง ไม่แปลกที่หลังจากถูกฟ้องหย่าจนหมดตัว จางฉือหมิงยังสามารถหาเงินมาจ้างคนทำร้ายชุนอวิ๋นได้ เป็นเพราะหลิวเหว่ยคอยหนุนหลังนี่เอง

    [จริง ๆ แล้วหลิวเหว่ยก็ไม่ได้ชอบจางฉือหมิง แต่เขาจีบอีกฝ่ายเพราะต้องการใช้เป็นเครื่องมือทำร้ายชุนอวิ๋น เนื่องจากความอิจฉา แล้วแย่งซิงซวน คนรักใหม่ของชุนอวิ๋นมาเป็นของตัวเอง]

    นอกจากจะเป็นตัวร้าย เขายังสวมบทบาทของพระรองด้วยหรือ?!

    [โฮสต์คาดเดาถูกต้อง เขาคือตัวร้ายตัวจริง]

    "งั้นข้-ฉันต้องร่วมมือกับเขาเพื่อร้ายเสี่ยวอวิ๋น?"

    [เอาน่าโฮสต์ วิญญาณของเทพแห่งท้องนภาจะได้กลับมาเป็นปกติเหมือนกับเทพแห่งอัสนีและน้องชายของเทพแห่งความตาย]

    เทพแห่งอัสนี เพื่อนรักอีกคนของเขาก็จิตวิญญาณแตกหักเหมือนกัน ทว่าอีกฝ่ายไม่ได้หนักขนาดนั้น แต่ก็ยังอยู่ในสภาพน่าเป็นห่วง ยามเขาเจอตัวอีกฝ่ายก็ส่งวนเวียนให้เกิดใหม่บนโลกมนุษย์จนกว่าจะสามารถจุติใหม่ในร่างเทพได้

    ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด ถึงกลับมาช้าขนาดนั้น เขาดันมาเข้าพื้นที่ระบบล่วงหน้าการกลับมาอีกฝ่ายหนึ่งวัน ยังไม่ได้ทันร่วมแสดงความยินดีก็กลับมาเสียก่อน

    กวงหมิงถอนหายใจ

    …เอาเถอะ ตอนนี้ต้องตั้งเป้าหมายเรื่องภารกิจก่อน จะมัวแต่ลังเลไม่ได้ ยังไงก็ต้องทำให้ไป๋อวิ๋นกลับมาจุติที่ร่างเทพเหมือนเดิมให้ได้!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×