ระบบสวมบทบาทเป็นแฟนพระเอก

ลำดับตอนที่ #5 : โลกที่ 1

บทที่ 4

สิ่งที่หลิงเหมยคาดไม่ถึงคือ เทพเจ้าที่ดลบันดาลพรให้แก่เธอกำลังกลับไปเล่นเกมตรงโต๊ะทำงาน 

กวงหมิงมองสุนัขตัวน้อยกำลังกระโดดสิ่งกีดขวางด้วยความเคร่งเครียด เขาเล่นจนถึงด่านที่สิบแปดแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถผ่านไปได้เสียที

[โฮสต์อยากให้ระบบช่วยไหม?]

"ไม่ คนแข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถข้ามผ่านด้วยตนเอง"เทพแห่งแสงสว่างมีสีหน้าจริงจัง ในตำรากล่าวไว้ว่าการพึ่งพาตนเองให้ไปสู่ชัยชนะดีที่สุด 

[…แต่นี่มันรอบที่ 58 แล้วนะครับ]

ระบบกล่าวอย่างจนปัญญา พนักงานหลายคนต่างกลับบ้านแล้ว เหลือแต่โต๊ะทำงานของเทพแห่งแสงสว่างกำลังเล่มเกมอยู่คนเดียว ทว่าดีที่มีชายหนุ่มมาตามให้กลับบ้าน ซึ่งเขากำลังมองสามีของตัวเองอยู่หน้าโต๊ะทำงาน โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้สึกตัว

ชุนอวิ๋นถอนหายใจ แม้อยากจะกลับบ้านเต็มที แต่ก็ไม่อาจทิ้งสามีตามกฎหมายของตนเองให้กลับบ้านคนเดียวได้

"จะกลับหรือยัง?"

"ห๊ะ หือ?"กวงหมิงดูมีสมาธิขึ้น เขามองหน้าจอปรากฏตัวอักษร แพ้ ในเกมอย่างท้อแท้ ก่อนจะเงยหน้ามองชุนอวิ๋นทำหน้าเบื่อหน่าย

"จะกลับหรือยัง?"นายท่านตระกูลชุนกล่าวทวนซ้ำ แล้วได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าจากจางฉือหมิง จึงมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือของตนซึ่งเข็มสั้นชี้ที่เลขเก้า เข็มยาวชี้ที่เลขสอง"…จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย อีกสิบนาทีเจอกันตรงลานจอดรถ"

"ได้เลยเสี่ยวอวิ๋น"

คนถูกเรียกว่าเสี่ยวอวิ๋นเดินตรงไปยังสถานที่ลานจอดรถของส่วนผู้บริหาร โดยมีคนขับรถกำลังสตาร์ทรถรอในเวลากลับประจำของท่านประธาน เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับที่พักของเจ้านาย ที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัทนัก

รถกำลังจะเดินหน้า แต่เจ้านายกลับพูดประโยคน่าตกใจขึ้นมาว่า"รอจางฉือหมิง"

จะไม่ให้ตกใจได้อย่างไร?!

ปกตินายท่านไม่เคยรอสามีตัวเองหรอก เนื่องจากทุกครั้งที่กลับบ้านด้วยกัน จำต้องทะเลาะกันตลอดทาง ตั้งแต่เรื่องเล็ก จนถึงเรื่องสำคัญ จางฉือหมิงจะหาเรื่องให้ท่านประธานเครียดตลอดการเดินทาง

ช่วงแรกที่คนขับรถเห็นสองคนนี้แต่งงานใหม่ ๆ ก็เห็นทะเลาะกันทุกที

…นี่อาจเป็นครั้งแรกในรอบปีเลยกระมัง ที่เจ้านายเป็นคนสั่งให้รอคู่แต่งงานตนเอง

ผ่านไปตามเวลาสิบนาที ชุนอวิ๋นก็เห็นร่างสามีตามกฎหมายวิ่งมายังลานจอดรถด้วยสีหน้าเหนื่อยหอบ เขาเปิดประตูเข้ามาฝั่งหลังคนขับ และนั่งข้างกายของนายท่านชุน 

"หวังว่าจะทันเวลานะ"กวงหมิงคลี่ยิ้มสดใสราวกับแสงสว่างของโลกใบนี้กำลังรวบรวมอยู่ที่เขาคนเดียว

ชุนอวิ๋นเห็นแล้วชะงักไปสักพัก ก่อนจะทำใบหน้าเบื่อหน่ายเช่นเดิม"ทัน"

"เยี่ยมไปเลย ตอนแรกนึกว่าจะไม่ทันเสียแล้ว"

[ระบบเตือนแล้ว]

เสียงระบบแทรกขึ้นมา กวงหมิงคือเทพเจ้าพึ่งเคยเห็นโลกใบใหม่อย่างแท้จริง เลยอาจชอบศึกษาเทคโนโลยีแปลกตาจากบนสวรรค์ ซึ่งพบได้น้อยมากในสายตาของเทพชั้นบรรพกาล เพราะพวกเขายังไม่ได้ทำการนำเข้าของใหม่มาขนาดนั้น นอกจากจะเอามาใช้เสริมพลังเพื่อให้ง่ายต่อการทำงาน

แต่ตอนนี้เทพผู้ดื้อดึงมัวติดเกม จนป่านนี้ยังไม่ยอมกินข้าวกินปลา

หากปวดท้องขึ้นมา ระบบจะขำให้!

บนรถเต็มไปด้วยความเงียบสนิท จนกระทั่งเดินทางถึงที่พัก ทั้งสองคนต่างแยกย้ายไปทำธุระของตนเอง กวงหมิงกำลังจะอาบน้ำนอน แต่กลับมีเสียงแจ้งเตือนจากสิ่งที่ระบบเรียกว่าโทรศัพท์ดังลั่นห้องนอน

[ดูเหมือนหลิงเหว่ยจะส่งข้อความมาหาโฮสต์]

ข้อความของหลิวเหว่ยอธิบายว่าไม่สามารถกลับกับเขาได้ เนื่องจากติดธุระกะทันหัน จนต้องเข้าไปจัดการในฝ่ายของผู้บริหาร

กวงหมิงเพียงตอบว่า อืม ไม่เป็นไร ตามที่ระบบแนะนำ ไม่อย่างนั้นตัวของหลิวเหว่ยจะสงสัยแล้วเสียแผนการสวมหมวกชาเขียวเอาได้

กวงหมิงเดาว่าหลิวเหว่ยคงหัวเสียกับแผนการตนเองได้พังทลายลงอย่างคาดไม่ถึง จนต้องจัดการวุ่นแล้วดันความผิดให้แก่พนักงานคนนั้นที่สุมหัวคิดด้วยกันกับอีกฝ่าย

ช่างเป็นเรื่องที่น่าสมเพชเสียจริง

ถือว่าเขาทำให้ในอนาคตชุนอวิ๋นไม่ต้องรู้สึกผิดกับเหตุการณ์จบชีวิตของหลิงเหมยแล้วกัน อีกอย่างหลิงเหมยเป็นหญิงสาวที่เก่งกาจ อายุเพียงยี่สิบกว่าปี กลับสามารถยื่นเอกสารฝึกงานบริษัทใหญ่ ๆ ได้ ในอนาคตอาจช่วยพัฒนาบริษัทได้อีกยาวไกล

…และหลังจากเขาถูกฟ้องหย่าแล้ว ชุนอวิ๋นจะได้มีความสุขกับซิงซวนจริง ๆ เสียที 

เพื่อนสนิทมีความสุข กวงหมิงก็มีความสุขด้วย 

เทพแห่งแสงสว่างนอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข ขณะที่สามีของตนกำลังทำงานในอีกห้องหนึ่ง หลังจากกลับมาแล้ว เขาก็ไม่ได้นอนเลย แต่กลับมาค้นหาเอกสารเพิ่มเติมในห้องส่วนตัวของตนเอง

เรื่องถูกปล่อยข้อมูลค่อนข้างน่าสงสัย แต่ดีที่แผนการธุรกิจที่ถูกเปิดเผยไม่ได้ส่งผลต่อบริษัทขนาดนั้น เพราะเป็นเอกสารที่เขาตั้งใจทิ้ง ไม่ได้เก็บมาสานต่อ ทว่าไม่รู้ทำไมข้อมูลถึงหลุดได้ง่ายขนาดนั้น

การตรวจสอบปรากฏเป็นพนักงานแผนกฝ่ายผลิตใส่ร้ายผู้ช่วยเลขา ซึ่งทำให้ชุนอวิ๋นต้องให้หน่วยประชาสัมพันธ์ประกาศเกี่ยวกับเรื่องอีเมล และอาจต้องกำกับเรื่องอีเมลของพนักงานอย่างเข้มงวด ไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้อีก 

มีความเป็นไปได้คือ ข้อมูลนั้นอาจถูกหลุดมาจากฝ่ายบริหาร

แต่ฝ่ายบริหารบางคนกลับเลือกสงสัยในตัวของจางฉือหมิง สามีตามกฎหมายของเขาเอง

ชุนอวิ๋นได้ยินก็รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นไปได้ค่อนข้างน้อย เพราะถึงวัน ๆ ของจางฉือหมิงจะไม่ค่อยทำอะไร และจากพฤติกรรมปัจจุบันที่ติดไปทางค่อนข้างสติปัญญาน้อย ก็ไม่ใช่คนที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ลึกขนาดนี้ 

เรื่องแบบนี้คงต้องสืบหาโดยละเอียด