ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    boku no hero​ academia​ :: You're only mine | omegaverse

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 ผู้สืบทอด

    • อัปเดตล่าสุด 30 ม.ค. 65


    α

    β

    Ω

    Warning:

     Consent (ยินยอมพร้อมใจ) , Pedophilia (การใคร่เด็ก) , Abuse (ใช้อำนาจข่ม)

    _______

     

    บทที่ 1

     

    _______

     

     

    สิ่งที่โลกโอเมก้าเวิร์สกลัวมากที่สุดกำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการที่โอเมก้ามีอิทธิพลต่ออัลฟ่า

     

    หากมันเป็นเช่นนั้นทุกสิ่งทุกอย่างล้วนจะกลับตาลปัตร เมื่อโอเมก้าเริ่มรู้จุดยืนของตัวเอง ความเป็นใหญ่ของอัลฟ่าจะไม่มีอีก และจะไม่มีการแก่งแย่งความเป็นใหญ่ หารู้ไม่นั่นเป็นสิ่งที่ดีเสียยิ่งกว่าดี

     

    เหตุผลที่สังคมเลือกปฏิบัติกับโอเมก้าด้วยความไม่เท่าเทียม, โอเมก้าเป็นเพศที่ไร้ความสามารถทั้งด้านพละกำลังและอัตลักษณ์ พวกเขาส่วนมากล้วนไร้อัตลักษณ์ แต่เหตุใดโลกนี้ถึงเลือกตัดกำลังของพวกเขาทิ้งเช่นนี้ อาจเป็นเพราะพวกเขามีอะไรบางอย่างที่พิเศษเหนือชั้นกว่าสิ่งที่เรียกว่าอัตลักษณ์

     

    อาจจะเป็น ฟีโรโมน แต่น่าแปลกใจที่พวกเขาไม่รู้วิธีใช้มันให้เกิดประโยชน์ หรือเป็นเพราะสังคมที่กดขี่พวกเขาโดยใช้เหตุผลของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์มานิยาม –ชีวิตของโอเมก้านั้นไม่ต่างอะไรไปจากความผิดพลาดของพระเจ้า สร้างมันขึ้นมาให้กลายเป็นสิ่งน่ารังเกียจของสังคม ทำให้พวกเขานึกขยาดการมีตัวตนอยู่ของพวกเขาเอง

     

     

    วันเวลาผันผ่านไปไม่นาน ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็โถมเข้ามาให้อิซึคุหนักใจเล่น ครั้นฮีโร่คนโปรดยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมยื่นข้อเสนอแสนพิเศษให้กับเขา

     

    เสียงน้ำทะเลซัดเข้ากับหาดทรายก็ไม่อาจทำให้จิตใจของร่างเด็กหนุ่มสงบลงได้เลย

     

    มันทั้งกังวล, สับสน และลังเล

     

    หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ กลัวอีกฝ่ายจะผิดหวังที่ได้ยื่นข้อเสนอนั่นมาให้เขา

     

    อิซึคุเพียงแค่หลอกใช้ออลไมท์, หลอกให้ชายผู้นั้นมาเป็นแท่นเหยียบขึ้นไปสู่ความสำเร็จ

     

    ตัวเขาไม่อาจคิดร้ายกับชายผู้เป็นฮีโร่ที่ตนเองปลาบปลื้มคนนี้ได้จริงๆ จึงตัดสินใจสำรอกความจริงที่ตนเองคิดลวงวาจาออกไปเสียหมด

     

    "ผม– ขอโทษครับ"

     

    ใบหน้าตกกระปริน้ำตา ต่างจากชายผอมแห้งที่คลายยิ้ม เหมือนกับเขารู้มาตลอด เพียงแต่ไม่ได้เอ่ย อิซึคุแหงนหน้ามองสัญลักษณ์แห่งสันติภาพตรงหน้า พร้อมที่จะรับคำกล่าวว่าคาดโทษสารพัด

     

    "ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจดีหนุ่มน้อย"

     

    ร่างกายทิ้งตัวลงบนผืนทราย ปล่อยให้น้ำตาพรั่งพรูออกมาจากมรกตเม็ดงาม ความทุกข์ที่ปกปิดเริ่มระบายออกมาพร้อมน้ำสีใสที่หลั่งรินออกมาจากดวงตา

     

    "แต่.. ฉันยินดีนะ"

    "..?"

     

    เอาอีกแล้ว

    เพราะแบบนี้ไงเขาถึงไม่กล้าหลอกใช้อีกฝ่าย

     

    เขารู้สึกว่าออลไมท์ดีเกินไป เขาชอบฮีโร่ ชอบฮีโร่แบบออลไมท์ ชอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ชายคนนี้เป็น

     

    แต่

     

    "ทำไมคุณถึงยอมให้ผมเหยียบย่ำมัน"

    ทำไมเขาถึงยอมรับ

    "เพราะผมเป็นโอเมก้า?"

     

    ออลไมท์ยืนนิ่ง ชายวัยกลางคนยิ้มพร้อมส่ายหน้า.. แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับไม่เอ่ยปากตอบคำถาม

     

    บางที

    อาจเป็นเพราะว่าอัลฟ่า และ โอเมก้า ก็มีบางอย่างที่สามารถใช้สอยผลประโยชน์ร่วมกันได้

     

    งั้นเขาไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแล้ว?

     

    การใช้มารยา, เล่ห์กล หรือหลอกลวง เป็นอะไรที่ง่ายสำหรับโอเมก้ามาก และอิซึคุก็เห็นด้วย เขาเริ่มเข้าใจนิยามนั้นตั้งแต่ที่เขาอยู่มัธยมต้น

    เพื่อนสนิทที่มีเพศรองเป็นอัลฟ่าอย่าง บาคุโก คัตสึกิ ก็เคยเอ่ยไว้

    โอเมก้าสามารถทำทุกวิถีทางเพื่อให้หลุดพ้นออกจากฐานพีระมิด ไม่เว้นแม้แต่การยอมทิ้งศักดิ์ศรี ร่างกาย หรือทุกสิ่งทิ้งอย่างที่มี

     

    แต่ตอนนั้นเขาก็ไม่อาจทำใจเชื่อได้ขนาดนี้ จนกระทั่งวันที่เขาได้เห็นและต้องยอมรับความจริง ทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่างที่ผู้คนวิจารณ์ ตั้งแต่ที่รู้ตัวว่าเป็นโอเมก้า มันเหมือนกับโลกทั้งใบพังทลาย โอเมก้าไม่มีสิทธิ์ ไม่มีเสียง ราวกับพวกเขาไม่ใช่มนุษย์

     

    วันที่ผู้เป็นแม่ของเขา ยอมให้อัลฟ่าพวกนั้นแตะเนื้อต้องตัว เพื่อแลกกับเศษเงิน

     

    ผู้เป็นแม่คนนั้นกำลังทำหน้าที่เป็นคุณแม่แสนดี เงินทั้งหมดที่หามาได้ก็นำมาจ่ายค่าข้าวของครัวเรือนให้กับลูก

     

    ส่วนผู้เป็นพ่อนั้นดันเป็นอัลฟ่าไร้สามัญสำนึก ทำพันธะยึดครองกายาของโอเมก้าหญิง และทิ้งลูกในไส้ของตัวเองไว้โดยไม่แม้แต่จะเหลียวกลับมา แต่เธอไม่อาจละทิ้งเด็กคนนี้ไปได้ เธอให้คำมั่นสัญญากับตัวเองแม้จะลำบากมากเพียงไหนเธอก็จะเลี้ยงดูเด็กคนนี้ด้วยความรัก

     

    มิโดริยะ อิซึคุ

     

    เด็กคนนี้ใช้นามสกุลของผู้เป็นแม่

     

    เธอไม่คิดปริปากกล่าวถึงการมีอยู่ของผู้ชายคนนั้น เพียงแค่พรรณนาและพร่ำเล่าความขมขื่นในความสัมพันธ์ของเธอกับใครบางคนเพื่อระบายความรู้สึกที่สั่งสม และพร่ำสอนเขาให้อยู่ห่างจากอัลฟ่าจำพวกนั้น

     

    แต่หนทางเดียวที่เขาจะสามารถยืนตระหง่านอยู่เหนือยอดฐานพีระมิดนั้นได้ก็ต้องใช้อัลฟ่าเข้าช่วย..

     

    และข้อเสนอของคัตสึกิก็น่าสนใจไม่น้อย

     

    หากฝ่ามือของชายตรงหน้ายื่นมาด้วยความหวังดีเขาก็ไม่รังเกียจที่จะเอื้อมไปจับมัน, เขาลุกขึ้นยืนออกจากพื้นทราย หยาดน้ำตาพวกนั้นเหือดแห้งทิ้งไว้เพียงคราบบนใบหน้าสวย

     

    ริมฝีปากสีชมพูคลี่ยิ้ม ก่อนจะพยักหน้าเชิงตอบรับ

     

    ตอบรับข้อเสนอสุดพิเศษของฮีโร่อันดับหนึ่ง

     

    "ผมตกลงครับ"

    "ได้โปรด"

     

    ดวงตาสองสีประสาน อิซึคุรู้ เราทั้งสองกำลังจะใช้ผลประโยชน์ร่วมกันในนามผู้สืบทอด แต่โอเมก้าหนุ่มยอมรับว่าเขายังคงชื่นชอบและยังคงชื่นชมออลไมท์อยู่ ชายผู้นี้เป็นเสมือนแสงสว่างที่เข้ามาในชีวิตเขา จากการเฝ้ามองคนๆ นี้จากจอโทรทัศน์มาตลอด จวบจนได้ยืนเคียงข้างในฐานะผู้สืบทอดพลัง

     

    หรือควรเรียกว่าการใช้ผลประโยชน์ร่วมกัน ความสัมพันธ์ของสองสิ่งมีชีวิต ต่างฝ่ายต่างเกื้อกูลผลประโยชน์ ราวผึ้งและดอกไม้ น้ำหวานที่หอมหวนย่อมมีผึ้งที่โหยหาความหวานนั้นอยู่ร่ำไป ผึ้งจะช่วยให้ดอกไม้นี้ได้ผสมเกสรและแพร่ขยายพันธุ์ ส่วนผึ้งก็จะได้รับน้ำหวานจากเกสรของดอกไม้

     

    ในเมื่อต่างคนต่างหวังผลประโยชน์ของกันและกัน

     

    "ฉันรู้ว่าเธอต้องตกลง" นัยน์ตาฟ้าครามหลุบลงต่ำจับจ้องยังมรกตเม็ดงาม "แต่ว่าการรับพลังนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ"

     

    "เธอต้องการจะเข้ายูเอใช่มั้ย"

     

    "ครับ เพราะยูเอเป็นโรงเรียนที่คุณจบมา ผมเลยคิดว่าถ้าจะเข้าก็ต้องเข้าโรงเรียนยูเอ"

     

    พวงแก้มตกกระขึ้นสีแดงจางๆ

     

    "เธอนี่เป็นแฟนพันธุ์แท้จริงๆ"

     

    ก็เป็นเพราะเขาคลั่งไคล้ในฮีโร่ และออลไมท์

     

    ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะทำให้พลังนี้เป็นของเขาให้ได้

     

    แม้ต้องแลกกับอะไรก็ตาม

     

     

     

     

     

     

     

    แสงแดดสีนวลสาดกระทบร่าง หยาดเหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้าสวย ร่างกายของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อจากการออกกำลังยามเช้า เสียงหอบเบาๆ เรียกรอยยิ้มของชายที่เฝ้ามองอยู่ได้ไม่ยาก

     

    อิซึคุนั่งอยู่บนกองขยะ และของเหลือทิ้งข้างหาดทราย ขยะรอบชายหาดเขาเก็บรวบรวมมันทั้งหมดมาไว้จุดเดียว นั่นเป็นคำขอของออลไมท์ราวกับนั่นเป็นการฝึก ฮีโร่คนนั้นยืนมองเด็กหนุ่มอยู่ข้างล่าง 

     

    นับจากวันที่อิซึคุตอบตกลง เวลาก็ล่วงเลยมาจนครบ 10 เดือน สิบเดือนที่เขาต้องหมั่นฝึกฝนร่างกายจวนตอนนี้จากร่างกายผอมกะหร่องเริ่มมีน้ำมีนวลและกล้ามเนื้อบ้าง แม้จะมีช่วงที่ต้องหยุดพักไปเพราะอาการฮีท แต่ทุกอย่างก็ลุล่วงไปได้ด้วยดี... ?

     

    มีคืนหนึ่งโอเมก้าและอัลฟ่าออกมาพบกันในยามวิกาล ทั้งคู่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรความรู้สึกผิดชอบชั่วดีนั้นจึงถูกกำจัด ค่ำคืนอันยาวนานได้ผ่านพ้นไป รู้ตัวอีกทีร่างกายของเด็กหนุ่มก็มีร่องรอยจารึกไว้เต็มตัว เว้นแต่เพียงรอบลำคอขาว

     

    โอเมก้าหนุ่มลุกขึ้นยืนมองตรงลงมาที่ฮีโร่อันดับหนึ่ง วันนี้เป็นวันที่เขาจะต้องสานต่ออัตลักษณ์ของชายคนนี้

    ขาเรียวก้าวลงมาจากกองขยะน่าขยาดพวกนั้น สองแขนสวมโอบรอบคออัลฟ่าหนุ่มผอมแห้ง ความสูงที่แตกต่างไม่เป็นอุปสรรคใดๆ

     

    "ถึงเวลารับรางวัลแล้วหนุ่มน้อยอิซึคุ"

     

    มือหนารวบเอวอิซึคุไว้ ริมฝีปากของอีกฝ่ายประทับลงบนอวัยวะเดียวกัน ช่วงแรกมันแผ่วเบาไม่ลุกล้ำ อิซึคุเบื่อกับสัมผัสอ่อนนุ่มของออลไมท์ ทำให้ชายวัยกลางคนลอบถอนหอยใจ ลิ้นร้อนเริ่มสอดแทรกล่วงล้ำความเป็นส่วนตัว แต่แล้วแขนที่โอบรอบลำคอของอัลฟ่าหนุ่มก็กำชับเข้าหาแน่น ลิ้นเล็กตอบรับสัมผัสนั้นอย่างชำนาญ

     

    ทั้งสองคนดื่มด่ำกับการมอบรางวัลโดยไม่กังวล ราวกับหากใครจะผ่านมาพบก็ไม่เป็นไร แต่พวกเขารู้, เวลานี้คงไม่มีใครย่างกายมาที่หาดนอกจากเราทั้งคู่

     

    ไม่นานทั้งสองคนก็ผละออกจากกัน

     

    อิซึคุเช็ดมุมปาก กระแอ่มเสียงเบาคล้ายจับหาเส้นเสียงตัวเอง

     

    "ต้องใช้วิธีนี้ด้วยเหรอครับ"
     

    "อย่างที่ฉันเคยบอก มันไม่สำคัญว่าจะใช้วิธีไหน ตราบเท่าที่เธอรับดีเอ็นเอฉันเข้าไป"

     

    ...

    "งั้นผมไม่ได้รับมันไปตั้งนานแล้วเหรอ?"

    นิ้วเรียวยกแตะแก้มแสร้งทำท่าทีสงสัย

     

    "ที่ผ่านมาไม่นับน่ะ"

     

     

    ยุ่งยากจัง แต่เขาก็ชอบนะ

     

     

    "จริงสิหนุ่มน้อยอิซึคุ"

     

    "อย่าลืมกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าล่ะ ..กลิ่นฟีโรโมนเธอแรงมากเลย"

     

    นิ้วมือหนาถูจมูกตัวเองเบาๆ เพราะเหงื่อมากมายทำให้กลิ่นฟีโรโมนของโอเมก้าหนุ่มฟุ้งกระจายไปทั่ว ชวนน่าอึดอัดสำหรับอัลฟ่า

     

    กลิ่นมันก็หอมดี

    แต่หากมากไปมันจะแย่เอา

     

    ร่างเล็กกระตุกยิ้มเล่ห์ สาวเท้าเข้าไปหาออลไมท์ก่อนจะกระซิบเสียงอ่อนข้างหู เรียกใบหน้าชายคนนั้นขึ้นสีได้ไม่ยาก 

     

    "เดี๋ยว–"

     

    ทว่าเจ้าตัวร้อยเล่ห์กลับวิ่งหนีหายไปเสียแล้ว ทิ้งไว้เพียงกลิ่นหอมอ่อนๆ ของฟีโรโมนจางๆ กับชายผมบลอนด์ทองที่ขมวดคิ้วเป็นปมแน่น

     

    'แต่ตอนนั้นคุณดูชอบกลิ่นผมมากเลยนะ'

     

    "ให้ตายสิ.."

     

     

     

     

     

     

     

     

    ร่างเล็กในยูนิฟอร์มนักเรียนรัฐสีดำย่างกายเข้ามาภายในรั้วยูเอ โรงเรียนชั้นนำอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น

     

    ขณะนี้เวลา 8 นาฬิกา 40 นาที เขามาทันจนได้ การจัดแจงตัวเองภายในหนึ่งชั่วโมงเป็นอะไรที่เร่งเร้ามากสำหรับโอเมก้า ทั้งดับกลิ่นฟีโรโมน, ทั้งฉีดยาระงับฮีทดักไว้ ไหนจะเตรียมร่างกายให้พร้อมรับอัตลักษณ์ใหม่ที่ได้รับมาภายในร่างกาย

     

    "เดกุ"

     

    ไม่ทันได้ถอนหายใจหายกาย เสียงคุ้นเคยเอ่ยเรียกด้วยชื่อเล่นอันคุ้นหู และต่อมาเขาก็ต้องชะงักเมื่อพบกับอดีตเพื่อนสนิทอย่างบาคุโก คัตสึกิ ถึงจะเป็นเหตุการณ์ที่คาดเอาไว้แล้วแต่ก็อดนึกตกใจไม่ได้

     

    "ค– คัตจัง!"

     

    "โอเมก้าอย่างแกจะดิ้นรนไปทำไม" ชายผมสีฟางเดินผ่านเขาไปอีกทั้งยังพูดจาเหน็บแนมใส่ "เดี๋ยวก็กลายเป็นขยะข้างทางแล้ว สกปรก"

     

    เขาเบื่อที่ต้องทนคำดูถูกพวกนั้นแล้ว

     

    "ผมว่าคัตจังต่างหากที่ดิ้นรนน่ะ"

    "ไม่สิ ผมหมายถึงต้องดิ้นรนให้มากกว่านี้"

     

    "แกว่ายังไงนะ!"

     

    อีกฝ่ายหันกลับมา คว้ากระชากคอเสื้อเด็กหนุ่มขึ้นจนรองเท้าผ้าใบสีแดงลอยเหนือพื้น เขายกมือขึ้นยอมแพ้แต่ใบหน้านั้นกลับยิ้มเยาะอย่างไม่ยี่หระ ทำเอาชายดวงตาสีชาตกัดฟันกรอดอารมณ์เริ่มคุกรุ่นขึ้นมา

     

    กลิ่นเขม่าดินปืนลอยคละคลุ้งออกมาจากฝ่ามือทั้งสองของคัตสึกิ ราวขู่ขวัญ หากไม่หยุดกวนประสาทจะไม่ตายดี

     

    "อย่ามาขวางทาง อยากตายรึไง"

     

    คนที่ว่าขวางทาง คือคัตจังต่างหากล่ะ

    ทั้งๆ ที่เดินเข้ามาหาเขาเองแท้ๆ

     

    เสียงปะทะคารมที่มาตามมาด้วยบรรยากาศมาคุ เราทั้งสองตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนโดยรอบ ผู้เริ่มสงครามประสาทจิ๊ปาก มือที่กำคอเสื้อคลายออก ปล่อยให้ร่างเขาเป็นอิสระ

     

    "กล้าขึ้นเยอะนะ คงทำตามที่บอกไปแล้วงั้นสิ" เขาเค้นเสียงหึในลำคอ ดวงตาสีแดงหรี่มองร่างโอเมก้าตรงหน้าตั้งแต่ตัวจรดเท้า "โสโครกจริง"

     

    คัตสึกิปัดมือตัวเองราวกับเพิ่งจับสิ่งสกปรกไป ใบหน้าเปื้อนยิ้มแสยะ ก่อนวกกลับขึ้นมามองมรกตสีหม่น...

    แต่เจ้าของนัยน์ตามรกตนั่นกลับยิ้มเจ้าเล่ห์ชอบกล

     

    จะว่าโสโครกได้ยังไง

     

    ในเมื่อตัวเองเป็นคนริเริ่มขยี้ร่างของเขาเองกับมือแท้ๆ ร่างกายของเขามันมีมลทินมาตั้งแต่ที่ชายคนนี้แตะเนื้อต้องตัวเขาแล้ว

     

    คัตสึกิเบิกตากว้าง "นี่แกทำมันจริงๆ?"

     

    ก็เขานั้นเป็นดอกไม้

    ดอกไม้สำหรับผึ้งทุกตัว ไม่ได้ถูกกำหนดไว้ให้ผึ้งแค่ตัวเดียวเสียหน่อย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ออลไมท์และอิซึคุนัดเจอกัน อิซึคุบอกความจริงเกี่ยวกับการที่เขากำลังจะหลอกใช้ออลไมท์ให้เป็นแท่นเหยียบขึ้นไปสู่ความสำเร็จ แต่ทั้งคู่ก็ตกลงกันด้วยความเข้าใจ ออลไมท์ยอมให้อิซึคุใช้ตัวเองเป็นแท่นเหยียบ อิซึคุตอบรับข้อเสนอของออลไมท์ 

    ผ่านไป 10 เดือน ถึงวันสอบเข้าโรงเรียนยูเอ อิซึคุใช้เวลาฝึกฝนตัวเองและร่างกายก็พอมีกล้ามเนื้อขึ้นมา ขณะที่อิซึคุกำลังเดินเข้ารั้วโรงเรียนยูเอก็พบเข้ากับคัตสึกิ คิตสึกิพูดจาเหน็บแนมอิซึคุเล็กน้อยแต่ครั้งนี้อิซึคุเบื่อที่ต้องทนกับคำดูถูกของเขา จึงตัดสินใจโต้กลับ และทำให้มีปากเสียงกันเล็กน้อย คัตสึกิรู้สึกว่าอิซึคุมีท่าทีเปลี่ยนไป

     

     

     

     

    ___________

    Talk

    - DNA ในน้ำลายมาจากไหน?

    น้ำลายมีเม็ดเลือดขาว 74% ของปริมาณดีเอ็นเอทั้งหมด และยังมาจากเยื่อบุกระพุ้งแก้มอีกด้วยค่ะ ดังนั้นไม่แปลกที่น้ำลายจะมีดีเอ็นเอ

     

    ขอโทษที่ห่างหายไปนานเป็นปีๆ นะคะแงงงงงงง กลับมาแล้วค่ะ TTTTTT

     

    หากใครไม่โอเคกับแฟนฟิคเรื่องนี้รบกวนคุยกับเราดีๆ นะคะ ฟิคเรื่องนี้เราแจ้งเตือนชัดเจนมากๆ และเราก็จะมีคำเตือนในตอนด้วยอีกทีนึงค่ะ สำหรับคนที่ไม่โอเคและไม่ต้องการอ่านตอนที่มีเนื้อหานั้นๆ เราจะมีการสรุปเนื้อเรื่องท้ายบทให้เข้าใจง่ายๆ และสามารถอ่านตอนต่อไปได้โดยไม่ต้องจำใจอ่านค่ะ

     

     

     

     

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×