คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : บทที่ 14 สุขแทบจะลืมความฝันความตั้งใจที่เคยมีไว้ก่อนหน้านี้
Lonely Moon
บทที่ 14
สุขแทบจะลืมความฝันความตั้งใจที่เคยมีไว้ก่อนหน้านี้
พอถึงวันประกาศรายชื่อ ฉันได้รับโทรศัพท์ติดต่อกลับจากฝ่ายบุคคลของโรงแรมที่สมัครงานไว้ เจ้าหน้าที่ให้คำตอบว่าฉันได้ผ่านการทดสอบเข้าร่วมทำงานกับที่นั่น
ตอนแรกฉันเองก็ไม่ค่อยมั่นใจว่าตัวเองจะได้รับคัดเลือกจากทางโรงแรมหรือเปล่า เพราะตอนที่ไปสมัครทดสอบก็มีคนที่เรียนจบใหม่เหมือนกับฉันไป สมัครไว้อีกประมาณสามถึงสี่คน
แต่พอรู้ว่าตัวเองผ่านการทดสอบได้เข้าไปเป็นผู้ช่วยเชฟ ตอนนั้นฉันดีใจมากๆ มือที่กำลังจับโทรศัพท์มือถืออยู่มันสั่นจนเกือบจะคุมตัวเองเอาไว้ไม่ได้
มันทั้งรู้สึกตื่นเต้นและโล่งใจ เหมือนไม่เสียแรงเปล่าที่ได้เรียนมา มันทำให้ฉันหายเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก
ฉันเพิ่งเข้าใจความรู้สึกของรุ่นพี่ที่วิทยาลัยตอนที่เขามาแนะแนวสายอาชีพให้กับรุ่นน้องฟังในหอประชุม เวลาที่เขาได้งานทำหลังจากที่เรียนจบแล้วมันรู้สึกดีมากๆแบบนี้นี่เอง
หลังจากที่ได้การตอบรับเข้าทำงานกับทางโรงแรม ในอาทิตย์ต่อมาฉันก็ทำเรื่องขอลาออกจากร้านกาแฟของพี่นุ่นทันที พอถึงเวลาที่ฉันต้องลาออก พี่นุ่นแสดงท่าทีเศร้าใจและยังบอกว่าแอบเสียดายฉันอยู่เหมือนกัน
พี่นุ่นพูดตัดพ้อนิดหน่อยว่าไม่ค่อยเจอคนที่ตั้งใจและทำงานกับร้านได้นานๆแบบฉันสักที ปกติคนที่เข้ามาทำงานพาร์ทไทม์กับที่ร้านจะทำอยู่ได้.ไม่กี่เดือนก็ขอลาออกไปทำอย่างอื่นแล้ว
พอพี่นุ่นพูดมาแบบนั้นฉันก็เลยพลอยเศร้าใจไปด้วย เพราะฉันเองก็ผูกพันกับพี่นุ่นและร้านนี้มากเหมือนกัน ในระหว่างที่ทำงานฉันได้รับความรู้สึกดีๆและประสบการณ์ความรู้อะไรหลายอย่างมาก
และที่สำคัญรายได้บางส่วนจากการได้ทำงานกับพี่นุ่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฉันมีเงินเอาไว้ใช้ในแต่ละวัน และมันยังช่วยทำให้ฉันมีเงินไว้จ่ายค่าเทอมจนเรียนจบออกมาได้ พอคิดว่าจะไม่ได้งานที่นี่อีกต่อไปแล้วก็ใจหายเหมือนกัน
วันแรกของการเข้าทำงานตำแหน่งผู้ช่วยเชฟกับทางโรงแรม ฉันรู้สึกตื่นเต้นไปพร้อมกับความกระตือรือร้นที่ตั้งใจจะเริ่มต้นเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การได้ทำ งานในครัวเบเกอรี่ร่วมกับเชฟ ฉันได้เห็นถึงความแตกต่างจากตอนที่เคยเรียนรู้.ในห้องเรียนเป็นอย่างมาก เพราะการทำงานจะถูกจัดเป็นระบบมากกว่า และแต่ละคนก็จะมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบอย่างชัดเจน
บรรยากาศที่นี่อาจจะไม่ได้วุ่นวายหรือทำไปเล่นไปอย่างสนุกสนานเหมือนกับตอนเรียนกับเพื่อนๆในชั้นเรียน แต่ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองสนุกกับมันได้.ไม่ต่างกัน เพราะการทำขนมของโรงแรมมีหลายอย่างที่ฉันเองก็ต้องเริ่มค่อยๆเรียนรู้ ฉันเลยไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองกำลังทำงานอยู่สักเท่าไหร่
ฉันมีความสุขทุกครั้งที่ได้ตีไข่ นวดแป้ง ได้กลิ่นเนยของขนมจากเตาอบ และได้เรียนรู้จากเชฟที่คอยสอนอะไรมากมายอย่างที่ฉันไม่เคยได้รู้มาก่อน
ในทุกๆวันฉันจะเดินทางไปทำงานด้วยรถโดยสารประจำทางรอบเมือง หรือบางทีถ้าพี่ตะวันเข้ามาในตัวเมือง เขาก็จะแวะมารับ - ส่งฉันกลับไปด้วยกันฉันยังคงใช้ชีวิตที่วนเวียนอยู่อย่างนี้ซ้ำๆ จนไม่นานเวลาก็ผ่านไปแล้วหนึ่งปีที่ฉันได้ทำงานผู้ช่วยเชฟในครัวเบเกอรี่กับทางโรงแรม
พอพูดถึงเรื่องอนาคตของฉัน พี่ตะวันเองก็อยากให้ฉันกลับไปเรียนต่อปริญญาตรีให้จบ แต่สำหรับฉันแล้วในตอนนี้ฉันยังอยากทำงานที่โรงแรมต่อไปอีกสักหน่อย เพราะฉันรู้สึกว่าตัวเองยังเรียนรู้เรื่องทำขนมจากที่นี่ได้.ไม่เยอะเท่าไหร่ และอีกอย่างโอกาสที่จะได้มาทำงานเป็นผู้ช่วยเชฟจากฝรั่งเศสของโรงแรมก็ไม่ได้ มีมาง่ายๆด้วย ฉันถึงตัดสินใจพักเรื่องเรียนต่อเอาไว้ก่อนอีกสักระยะ
พอคุยกันเรื่องเรียนต่อมหาวิทยาลัยของฉันไม่สำเร็จ พี่ตะวันก็เบนความสนใจมาที่ฉันอีกครั้ง พี่เขาบอกว่าตอนนี้ฉันควรจะขับรถยนต์.ให้เป็นได้แล้ว ซึ่งในเรื่องนี้ฉันเองก็เห็นด้วยมากๆ
แต่อันที่จริงฉันก็ไม่ได้ลำบากอะไร เพราะการใช้ชีวิตในแต่ละวันฉันจะอาศัยรถโดยสารรอบเมืองซะเป็นส่วนใหญ่ แล้วตอนนี้ฉันเองก็ยังไม่ค่อยพร้อมที่จะ ซื้อรถเอาไว้ใช้ขับด้วย ในระหว่างนี้ฉันก็เลยยังอาศัยนั่งรถโดยสารรอบเมืองมาทำงานเหมือนเดิมไปก่อน
จนมาวันหนึ่งตอนเวลาหลังเลิกงาน ที่พี่ตะวันแวะมารับฉันกลับหอพักเช่นเคย แต่จะแตกต่างจากทุกวันเพราะพี่ตะวันขับรถญี่ปุ่นคันเล็กสีขาวมารับฉันที่โรงแรม เขาบอกว่ารถคันนี้จะเอามาไว้.ให้ฉันหัดขับและให้..ไว้.ใช้.ไปทำงาน แต่ฉันก็ปฏิเสธไม่ขอรับไว้เพราะมูลค่าของมันมากเกินไป ฉันรับมันเอาไว้.ไม่ได้จริงๆ
แต่พี่ตะวันก็ยังยืนยันคำเดิมว่าอยากให้เอาไว้.ใช้ขับไปทำงานและเขาก็ไม่อยากให้ฉันคิดมาก เพราะที่จริงแล้วรถคันนี้เป็นรถที่พี่ภูพี่ชายของเขาเอาไว้ใช้งานภายในไร่ แต่ไม่ค่อยได้เอามันออกมาขับเพราะรถมันคันเล็กเกินไปสำหรับผู้ชาย แล้วมันก็ใช้งานไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ให้ฉันคิดซะว่าเขาเอามาให้ยืมหัดขับฉันจะได้ขับรถเป็นสักที
จนแล้วจนรอดฉันก็ยอมใจอ่อนจนได้ ก็เพราะว่าเขาดีกับฉันและทำตัวน่ารักซะขนาดนี้ จะไม่ให้ฉันหลงรักจนหมดหัวใจไปได้ยังไง แต่ที่น่ารักไปกว่านั้นก็คือพี่ตะวันไม่ได้.ให้ยืมแค่รถเอาไว้ใช้อย่างเดียว เพราะเขายังส่งตารางหัดขับรถในวันหยุดมาให้ฉันไปเข้าเรียนอีกด้วย
พอฉันเข้าไปเรียนที่โรงเรียนสอนขับรถและได้หัดขับอยู่ไม่นานฉันก็เริ่ม ขับรถเป็น แต่อาจจะยังไม่คล่องมากเท่าไหร่ ที่จริงก่อนหน้านี้ก็ได้พี่ตะวันมาช่วยสอนขับเบื้องต้นก่อนด้วยนั่นแหละ เพราะเขาบอกว่าก่อนไปเรียนก็น่าจะให้พอมีพื้นฐานเอาไว้บ้างสักหน่อย
พอหลังๆฉันเริ่มขับได้ชินกับระบบมากยิ่งขึ้นในที่สุดก็สอบใบขับขี่รถยนต์ผ่านได้สำเร็จ กลายเป็นว่าในตอนนี้ฉันมีพี่ตะวันเข้ามาในชีวิตของตัวเองอย่างเต็มตัวจนเหมือนกับอากาศที่ขาดไม่ได้ไปแล้ว
และหลังจากนั้นไม่นานฉันก็ตัดสินใจย้ายออกจากห้องพักแล้วเข้าไปอยู่คอนโดของพี่ตะวันในตัวเมืองแทน ที่นั่นห่างจากห้องพักเก่าของฉันไม่มากนัก
พี่ตะวันบอกกับฉันว่าคอนโดในตัวเมืองที่ซื้อเอาไว้เขาไม่ค่อยได้เข้ามาอยู่เท่าไหร่ เพราะจริงๆแล้วเขาเองก็อยู่บ้านที่ไร่ส้มในต่างอำเภอมากกว่า พี่เขาเลยเอาไว้ใช้นอนพักเฉพาะตอนที่เข้าเมืองมาคุยเรื่องงานกับลูกค้าซะเป็นส่วนใหญ่
ตอนนี้ฉันเองก็ขับรถเป็นแล้ว เวลาที่เดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวก มากยิ่งขึ้น พอฉันได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่คอนโดของพี่ตะวัน เราสองคนก็ได้.ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากกว่าเมื่อก่อน เขาเองก็มีมาพักด้วยกันบ้างถ้าวันไหนต้องคุยงานกับลูกค้าดึกๆ ตัวฉันเองก็ไม่อยากให้เขาต้องขับรถกลับไปที่ไร่ในเวลากลางคืนเท่าไหร่ เพราะกลัวว่าเขาจะเหนื่อยจนเผลอหลับในระหว่างที่ขับรถ
ปกติแล้วพี่ตะวันจะไม่เคยล่วงเกินอะไรฉันเลยในระหว่างที่เราสองคน คบกัน มันเป็นเพราะฉันเคยขอเขาเอาไว้ว่าอยากให้ตัวเองพร้อมกว่านี้อีกสักหน่อย ส่วนพี่ตะวันเองก็เข้าใจ เขายอมทำตามอย่างที่เคยรับปากฉันเอาไว้ แต่จะมีจับมือ หรือไม่ก็กอดจูบกันบ้างตามโอกาสพิเศษที่เราได้อยู่ด้วยกัน พี่ตะวันไม่เคยมานั่งเรียกร้องอะไรกับฉันในเรื่องนี้เลย เพราะพี่ตะวันเองเขาก็คิดว่าอยากให้มันเกิดขึ้นด้วยความเต็มใจจากทั้งสองฝ่ายเช่นกัน
จนฉันเริ่มรู้สึกว่าทุกอย่างระหว่างเรามันพิเศษและชัดเจนมากขึ้น เราทั้งคู่เลยตัดสินใจเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ของร่างกายตามมา ครั้งแรกที่เรามีอะไรกันคือตอนที่พี่ตะวันพาฉันไปเที่ยวทะเลด้วยกันที่เกาะช้าง
มันเป็นความยินยอมพร้อมใจของฉันเองที่เป็นคนเริ่มก่อน ที่ตัดสินใจแบบนั้นไม่ใช่เพราะความใจง่ายหรือขาดสติ ฉันคิดมาดีแล้วถึงได้ตัดสินใจยอมเป็นของเขาทั้งตัวและหัวใจ
ฉันรู้สึกรักผู้ชายคนนี้จริงๆ พี่ตะวันเป็นคนที่เข้ามาเติมเต็มส่วนที่เคยขาดหายไปในชีวิตของฉัน ความรัก ความอบอุ่น การดูแลซึ่งกันและกันที่เขามีให้ฉัน มันทำให้ฉันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
สุขแทบจะลืมความฝันความตั้งใจที่เคยมีไว้ก่อนหน้านี้ ราวกับว่าขอแค่ฉันได้มีเขาในชีวิต ก็เหมือนกับทุกอย่างจะเพียงพอแล้วในตอนนี้
"พี่ตะวันคะ"
"หืม"
"พระจันทร์รักพี่นะ รักมากเลยแหละ"
"พี่รู้"
ฉันอยากจะกอดเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้กับตัวเองให้นานๆ เพราะที่ผ่านมาฉันใช้ชีวิตอยู่กับตัวเองมาโดยตลอด
ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อความรู้สึกรักที่มีต่อตัวเอง แต่มาวันนี้ฉันกลับรู้สึกว่าความรักมันมีค่ามากเมื่อได้มอบให้กับคนที่เรารัก
ฉันไม่แปลกใจเลยทำไมแม่ถึงยังคงรักพ่อ รักทั้งๆที่พ่อทำให้แม่เจ็บปวด แต่เมื่อรักแล้วก็คือรัก มันไม่ได้มีเหตุผลหรือต้องหาเหตุผลอะไรเลย
To Be Continued
เพจ "เงียบๆ" ที่อาจจะไม่ค่อยมีอะไรของคนเขียน : )
Lonely Moon มี E-Book ออกแล้วนะคะ
^^ หากสนใจรูปเล่มทักที่เพจเลยค่ะ ฝากด้วยนะคะ : )
ความคิดเห็น