คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันรักได้จากฉันไปหมดแล้ว
Lonely Moon
บทที่ 4
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันรักได้จากฉันไปหมดแล้ว
ฉันเริ่มมองหาหนทางที่จะพึ่งพาพ่อให้น้อยลงและค่อยๆเริ่มตีตัวออกหากจากพ่อ ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกของเราลดลง มันห่างเหินไปไกลขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นฉันคิดได้เลยว่าถ้าบ้านหลังนี้ไม่ใช่บ้านที่แม่และฉันเคยอยู่มาก่อนฉันก็ไม่รู้จะอยู่ที่นี่อีกต่อไปเพื่ออะไรกัน
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันรักได้จากฉันไปหมดแล้ว แม้แต่ต้นดอกกุหลาบก้าน ยาวสีขาวที่ฉันเคยปลูกเอาไว้เพื่อให้แม่ได้คอยเฝ้ามองพวกมันจากข้างริมหน้าต่างห้องนอน แค่เศษซากก็ไม่มีหลงเหลืออยู่เลยสักนิด
การเปลี่ยนเส้นทางสายการเรียนเป็นสิ่งที่ฉันรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่ สุดสำหรับฉันนับตั้งแต่วันที่แม่จากฉันไป ฉันสนุกกับการลงเรียนสาขาวิชานี้มาก การได้ทำขนมได้ลองทำอาหารมันทำให้ฉันผ่อนคลาย ที่วิทยาลัยฉันมีเพื่อนสนิทมากๆอยู่หนึ่งคน เธอชื่อว่ามะปรางหรือมีชื่อจริงว่ามลฤทัย มะปรางเธอเป็นเด็กต่างอำเภอที่เข้ามาเรียนอยู่ในตัวเมือง มองภายนอกอาจจะค่อนข้างดูซื่อๆแต่ก็เข้มแข็งและจริงใจ
ฉันสัมผัสได้ถึงความสบายใจเวลาอยู่กับเพื่อนคนนี้
มะปรางบอกกับฉันว่าพ่อแม่ของเธอตายหมดแล้วตั้งแต่เธอยังจำความไม่ได้ด้วยซ้ำ ตอนนี้เหลือแต่ย่าที่เลี้ยงดูเธอมา ย่าของมะปรางเป็นแม่บ้านให้กับเจ้าของไร่ส้มที่เธอและย่าอาศัยอยู่ด้วยกัน ฉันเคยได้ยินมาบ้างว่าไร่นี้เป็นไร่ที่ใหญ่และดังมากในตัวจังหวัด เพราะที่นั่นเป็นที่พักรีสอร์ตและมีผลผลิตจากส้มเยอะไปหมด
ฉันรู้สึกว่าตัวเองเริ่มโตและเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น การที่ถูกน้าวิมลและน้องๆพูดจาถากถางใส่มันทำให้ฉันเริ่มชินและทำใจให้ปล่อยมันไปได้ ฉันพยายามอยู่อย่างสงบเท่าที่พอจะทำได้ ส่วนพ่อก็เหมือนเดิมท่านเอาแต่ทำงานจนไม่ได้มีเวลามาสนใจอะไรฉันสักเท่าไหร่
แต่ก็ยกเว้นกับน้องๆที่พ่อมักใช้เวลาอยู่ด้วยเสมอในวันหยุดพักผ่อน บางทีฉันก็เคยคิด พ่ออาจจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามีฉันเป็นลูกสาวของพ่ออีกคน ก็คงไม่แปลกอะไร เพราะในความเป็นจริงพ่อคงจะผูกพันกับพวกเขามากกว่าฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ผ่านไปสามปีกับการใช้.ชีวิตให้สนุกอย่างที่แม่บอกไว้ เวลาเดินเร็วมาก จนในที่สุดฉันก็เรียนจบประกาศนียบัตรวิชาชีพ วันนี้เป็นวันที่ฉันภูมิใจในตัวเองมากที่สุด ฉันกับมะปรางปรึกษากันไว้แล้วว่าพวกเราคงจะเรียนต่อวิชาชีพชั้นสูงอีกสองปีเพื่อจะได้มีวุฒิการศึกษาเพิ่มขึ้น
แม่เป็นคนแรกที่ฉันคิดถึงเมื่อได้ผ่านความสำเร็จในชีวิตไปอีกขั้น ฉันรู้สึกอยากขอบคุณแม่จริงๆที่แม่เคยสอนให้ฉันคิดได้แบบนั้น มันทำให้ฉันได้สนุกกับการใช้.ชีวิตที่ได้ตัดสินใจเลือกเรียนในวิทยาลัยแห่งนี้ ถึงตอนนี้จะไม่มีแม่คอยอยู่เคียงข้างกัน แต่ความทรงจำแสนวิเศษที่แม่เคยบอกและสอนไว้มันยังคงอยู่ในหัวใจของฉันเสมอ
ก่อนหน้าที่จะถึงวันรับใบประกาศจบการศึกษา ฉันจำได้ว่าฉันบอกกับพ่อล่วงหน้าไปแล้วว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันเข้ารับใบประกาศนียบัตรวิชาชีพกับทางวิทยาลัย เมื่อก่อนฉันเคยหวังเอาไว้นะว่าอยากให้พ่อได้ภูมิใจเรื่องการเรียนของฉัน
ถึงฉันจะเรียนหนังสือไม่เก่งแต่ฉันก็สามารถทำมันให้สำเร็จได้ ฉันอยากให้พ่อได้มาเห็นและมาอยู่แสดงความยินดีไปกับฉันด้วยในวันที่ฉันนั้นประสบความสำเร็จไปอีกขั้น
แต่สุดท้ายแล้วพ่อก็ไม่ได้มา
มันเป็นเพราะสองวันก่อนหน้านี้เป็นวันเดินทางไปฉลองวันเกิดของต้นอ้อที่ฮ่องกง
น้าวิมลเป็นคนจัดแจงเรื่องทุกอย่างเอาไว้เกี่ยวกับการพาทุกคนไปเที่ยวที่นั่น ตั๋วเครื่องบินได้ถูกจองผ่านบริษัททัวร์ล่วงหน้าไปก่อนแล้วหนึ่งเดือน
ซึ่งเหตุผลการจองตั๋วไปเที่ยวฉลองวันเกิดของต้นอ้อที่น้าวิมลบอกกับพ่อ มันช่างประจวบเหมาะมาตรงกับวันสำคัญของฉันพอดี พ่อบอกกับฉันว่าจะปล่อยให้น้องๆกับน้าวิมลล่วงหน้าไปก่อนก็ไม่ได้ด้วย เพราะแบบนี้แหละพ่อถึงยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางออกไปไม่ได้
ตอนแรกฉันก็อยากรู้ว่าทำไมพ่อถึงไม่เลือกอยู่กับฉัน แต่พอได้ฟังจากปากของพ่อแบบนั้นฉันเองก็ไม่ได้คิดที่จะถามอะไรต่อ มันคงไม่มีประโยชน์อะไรถ้าฉันจะหวังให้พ่อเลือกอยู่ในวันสำคัญของฉันมากกว่าไปเที่ยวกับครอบครัวของพ่อ หากฉันเรียกร้องหรือแสดงความต้องการให้พ่ออยู่กับฉันในวันนี้ ในใจของฉันมันรู้คำตอบดีอยู่แล้ว ถึงยังไงพ่อก็ต้องให้ความสำคัญกับครอบครัวของพ่อมาก่อนอยู่ดี
ยิ่งถ้าฉันถามอะไรไปมากกว่านี้ก็คงมีแต่คำตอบที่ทำให้ฉันต้องมานั่งเสียใจและเจ็บปวดซะเอง ฉันเลยได้แต่คอยปลอบตัวเองว่าไม่เป็นไร ฉันจะพยายามทำใจยอมรับให้.ได้ และฉันจะใช้ความทรงจำสวยงามที่มีต่อแม่ทำให้ความรู้สึกดีๆเหล่านั้นคอยอยู่เคียงข้างฉัน มองเห็นความสำเร็จของตัวฉันเองในวันนี้ อย่างน้อยมันก็เป็นการเรียกความรู้สึกด้านบวกให้ตัวฉันเองได้มีกำลังใจในการใช้.ชีวิตต่อไป
"ขอบคุณนะมะปราง ถ้าไม่มีแกกับย่า
ฉันคงรู้สึกว่าวันนี้ตัวเองไม่มีใคร เลยจริงๆ"
"จะคิดมากไปทำไมแก ฉันว่าเรามาถ่ายรูปด้วยกันดีกว่า
ยิ้มให้กว้างๆเลยนะพระจันทร์"
ถึงแม้วันนี้ฉันจะไม่มีใครมาร่วมแสดงความยินดีในความสำเร็จเลยสักคน แต่ฉันก็ยังคงรู้สึกอบอุ่นเพราะว่ามีย่าของมะปรางที่กลายมาเป็นผู้.ใหญ่ในงานฉลองวันสำคัญของฉันอีกคน
มะปรางบอกว่าย่าอายุมากแล้วก็จริง แต่ท่านก็ยังความจำดีและร่างกายแข็งแรงอยู่ ถึงจะหยิบจับอะไรไม่ถนัดตามประสาคนแก่ แต่ใจของท่านก็ยังสู้.ไหว ทุกวันนี้เวลาสั่งเด็กคนอื่นทำงานดูแลความเรียบร้อยต่างๆให้เจ้านาย อย่างพวกลงครัวทำอาหารทำความสะอาดบ้าน ท่านก็ยังคอยช่วยดูแลแทนได้สบาย
พอลองมองย้อนกลับไปในชีวิตที่ผ่านมาของตัวเอง ฉันก็อดที่จะคิดถึงแม่ไม่ได้ ถ้าหากแม่ของฉันยังมีชีวิตอยู่ ฉันต้องรู้สึกดีมากกว่าในตอนนี้แน่ๆ
ถึงจะมารู้ความจริงทีหลังว่าพ่อมีครอบครัวใหม่ไปแล้ว แต่ถ้าแม่ของฉันท่านยังอยู่ด้วยกัน ชีวิตของฉันคงจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวและเหงามากขนาดนี้
นับวันลับหลังพ่อต้นอ้อและต้นปาล์มจะก้าวร้าวกับฉันมากขึ้นทุกที
บางครั้งพวกเขาก็ชอบแกล้งเอารองเท้าผ้าใบสีขาวของฉันไปตากให้.โดนน้ำฝนที่ระเบียงบ้านจนมันเปียก
และทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์แบบนั้น ฉันต้องฝืนทนใส่เสมอเพราะว่าฉันมีรองเท้าผ้าใบเพียงแค่คู่เดียว อย่างบางวันฉันเองก็ต้องรีบไปเข้าเรียนที่วิทยาลัยให้ ทันด้วย
ฉันเลยไม่มีเวลามานั่งทำให้มันแห้งก่อนใส่
และที่แย่ไปกว่านั้นบางทีก็มีหมากฝรั่งมาติดที่ในรองเท้าจนมันเหนียวติดเท้าไปหมด
ฉันก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะทำไปเพื่ออะไรกัน
เพราะมันไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลยนอกจากความสะใจ
ฉันก็พอจะรู้ว่าน้องๆไม่เคยเห็นฉันเป็นพี่มาตลอดอยู่แล้ว แต่ตัวฉันก็พยายามอดทนไม่ไปยุ่งและก้าวก่ายอะไรในชีวิตของพวกเขา
เพราะฉันเองก็ไม่ได้อยากมีปัญหาอะไรกับการอยู่ร่วมกับคนอื่นๆในบ้านหลังนี้ ฉันเลยเลือกที่จะยอมปล่อยให้มันผ่านไป
To Be Continued
เพจ "เงียบๆ" ที่อาจจะไม่ค่อยมีอะไรของคนเขียน : )
Lonely Moon มี E-Book ออกแล้วนะคะ
^^ หากสนใจรูปเล่มทักที่เพจเลยค่ะ ฝากด้วยนะคะ : )
ความคิดเห็น