รักร้ายของท่านชายเว่ย
เขาทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว หลังจากนี้ไปเขาจะไปจากที่นี่ไปให้ไกลจากบุรุษใจร้ายอย่างจ้าวอวี้อิงหลงจะตัดคนผู้นั้นออกจากใจไปพร้อมกับลมหายใจของเขาอยู่ให้ห่างอย่างที่คนผู้นั้นต้องการ
ผู้เข้าชมรวม
546
ผู้เข้าชมเดือนนี้
12
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เขาไม่เคยเชื่อเรื่องของโลกหลังความตาย ยิ่งไม่เคยเชื่อเรื่องของโลกวิญญาณ
เว่ยหย่าหมิงองค์ชายสามบุตรชายของฮ่องเต้เว่ยถังหย่งและฮองเฮาหลี่อี้ถงทรราชที่ก้มหัวให้กับกบฎอย่างชินอ๋องเว่ยไห่ส่วงที่ลอบทำร้ายพี่ชายของตนเองจนหายสาบสูญไปกว่าหนึ่งปีสถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้แต่งตั้งเว่ยหย่าหมิงเป็นจวิ้นอ๋องเล่นบทฮ่องเต้ผู้แสนดีจวิ้นอ๋องเว่ยหย่าหมิงปักใจแม่ทัพจ้าวบังคับร้องขอสมรสพระราชทานกับแม่ทัพจ้าวอวี้อิงหลงแต่งเข้าเป็นพระชายาด้วยความไม่เต็มใจกักขังเอาไว้ในเรือนหลังหากความเป็นจริงแล้วสิ่งที่เว่ยหย่าหมิงทำไปทั่งหมดก็เพียงเพื่อรักษาชีวิตของจ้าวอวี้อิงหลงเอาไว้เท่านั้นด้วยนิสัยซื่อตรงยอมหักไม่ยอมงอของจ้าวอวี้อิงหลงแล้วการร้องขอสมรสพระราชทานและแต่งอีกฝ่ายเข้ามากักขังเอาไว้ในวังย่อมดีกว่าการปล่อยให้อีกฝ่ายเคลื่อนทัพก่อนจะโดนประหารข้อหากบฎการเคลื่อนทัพโดยพละการนั้นคือสิ่งที่เว่ยไห่ส่วงต้องการ การร้องของสมรสพระราชทานทำให้จ้าวอวี้อิงหลงจำต้องคืนตราแม่ทัพแม้มีอำนาจในการเข้าออกค่ายทหารแต่ไม่มีสิทธิ์เคลื่อนพลหรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของข้อราชการในกองทัพนอกจากอวี้อิงหลงยังมีอนุอีกห้าคนที่ถูกบังคับให้แต่งให้จวิ้นอ๋องเว่ยหย่าหมิง
หนึ่งปีให้หลังรัชทายาทเว่ยเทียนอี้เสด็จกลับมาพร้อมกับกวาดล้างฮ่องเต้กบฎอย่างเว่ยไห่ส่วงถอดยศและเนรเทศจวิ้นอ๋องเว่ยหย่าหมิงไปแดนใต้แต่งตั้งจ้าวอวี้อิงหลงเป็นแม่ทัพใหญ่ฮ่องเต้เว่ยเทียนอี้รับอู่หลิงหลิวเข้าวังหลังเป็นหนึ่งในสี่สนมแม่ทัพจ้าวอวี้อิงหลงในช่วงที่มีงานเลี้ยงราชทูตได้พบรักกับศิษย์คนสำคัญของปรมาจารย์โหย่วอี้เกอผู้มีพลังปราณของธาตุศักดิ์สิทธิ์อย่างธาตุแสงธาตุแห่งการรักษา
เว่ยหย่าหมิงนวดขมับที่เต้นๆ ตุบๆ ด้วยความวิตกอีกหนึ่งปีเขากำลังจะโดนเนรเทศก่อนนี้ตัวเขาเป็นเพียงชายหนุ่มอายุยี่สิบแปดเป็นเพียงนักธุรกิจที่ชื่นชอบการทำอาหารและการเล่นดนตรีอย่างการเป่าขลุ่ยเท่านั้นหลังจากทำงานหนักคิดจะพักสายตากลับพบว่าตนเองอยู่ในร่างของจวิ้นอ๋องเว่ยหย่าหมิงยังพบว่าจวิ้นอ๋องเว่ยหย่าหมิงตัวจริงนั้นตายไปแล้วเพราะถูกวางยาจากอนุโจวซึ่งเป็นสายของชินอ๋องจนตายและเขากับเด็กคนนี้ก็ได้หลอมรวมเป็นคนเดียวกันแล้วนั้นหมายความว่าเขาตายแล้วตายจากโลกก่อนแล้วซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นเพียงในนิยายเล่มโปรดที่ตัวของเคยซื้ออ่านในอดีตเท่านั้นแล้วดูสิดูตอนนี้สิ
“เฮ้อ”
เว่ยหย่าหมิงถอนหายใจออกมาอย่างคิดหนักตอนนี้เขาคือจวิ้นอ๋องเว่ยหย่าหมิงการกระทำหลังจากนี้คือสิ่งที่เขาจะเลือกด้วยตนเองเขาจะไม่เดินตามทางเว่ยหย่าหมิงคนก่อนความทรงจำมากมายทั้งดีแลร้ายทุกข์และสุขเขาล้วนรับรู้มาจนหมดไม่รักต่อให้พยายามมากเพียงใดสุดท้ายก็ยังไม่รักอยู่ดีสู้ตัดอกตัดใจเสียตั้งแต่ตอนนี้จะดีกว่า
“ท่านอ๋อง เป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ”
จิ้งอวี้หนิงเป็นขันทีน้อยที่เว่ยหย่าหมิงช่วยเหลือเอาไว้เมื่อหลายปีก่อนอีกฝ่ายอยู่ข้างกายเว่ยหย่าหมิงคนก่อนมาโดยตลอดและเป็นคนหนึ่งที่ซื่อสัตย์กับเว่ยหย่าหมิงมาก ดวงหน้าซีดเซียวของเว่ยหย่าหมิงผินมองขันทีน้อยเล็กน้อยก่อนขยับขึ้นนั่งพิงพนักเตียง
“อาหนิงมานี่”
น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยเรียกขันทีน้อยพร้อมกับกระดิกนิ้วเรียกให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ จิ้งอวี้หนิงแม้งุนงงแต่ก็ยอมขยับเข้าไปใกล้เว่ยหย่าหมิง
“คืนนี้ให้เหวินหลาง วางยานอนหลับคนของเรือนเหมยฮวาเสีย จากนั้นให้เหวินหลางมาพบข้า”
จิ้งอวี้หนิงแม้จะสับสนวุ่นวายใจกับคำสั่งที่ได้รับก็ได้แต่ทำตามอย่างไม่คิดขัดข้องชีวิตของเขาท่านอ๋องเป็นผู้หยิบยื่นและช่วยเหลือเอาไว้ต่อให้ต้องตายแทนเขาก็ยินดีทำ
เย็นวันนั้นหลังจากขันทีน้อยออกไปพบเหวินหลางหนึ่งเค่อต่อมาจิ้งอวี้หนิงจึงเดินนำเหวินหลางเข้ามาด้านในตำหนักซึ่งมีเจ้าของตำหนักนั่งรออยู่ตั่งน้อยริมหน้าต่าง
“ท่านอ๋อง”
เหวินหลางทำความเคารพผู้เป็นนายและก้มหน้านิ่งอยู่อย่างนั้นเหวินหลางเป็นอีกหนึ่งคนที่ภักดีกับเว่ยหย่าหมิงมากแม้เว่ยหย่าหมิงในตอนนี้จะทำตัวเหลวแหลกมากเพียงใดก็ตาม
“ตามสบายเถิด ข้ามีงานให้เจ้าทำ”
“เชิญท่านอ๋องรับสั่งมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”
เว่ยหย่าหมิงไม่ได้เอ่ยคำใดมากมายเพียงดึงเอาแก่นดวงจิตครึ่งหนึ่งออกจากร่างอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครทัดทานได้ทัน
“เจ้านำคนของวิหคปักษาสิบห้าคน เดินทางลงใต้มุ่งหน้าไปยังเมืองอี้ซานตามหาท่านพี่ สิ่งนี้จงนำไปด้วย มันสามารถช่วยนำทางพวกเจ้าได้”
เหวินหลางและจิ้งอวี้หนิงใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อได้ฟังสิ่งที่เว่ยหย่าหมิงเอ่ยออกมาไหนจะแก่นดวงจิตนั้นอีกแล้วไหนจะคนของหน่วยวิหคปักษาที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องทั้งองค์รัชทายาทและท่านอ๋องอีก หน่วยวิหคปักษาถูกฝึกโดยหลี่อี้ถงอดีตฮองเฮาเป็นผู้ฝึกเองกับมือทุกคนล้วนเก่งกล้าหนึ่งคนของหน่วยวิหคปักษาสามารถล้มคนถึงห้าสิบคนได้ซึ่งตราหัวหน้าหน่วยนั้นถูกส่งมอบให้กับเว่ยหย่าหมิงก่อนที่ฮองเฮาจะสิ้นพระชนย์
“เหตุใดจึงต้องไปที่นั้นเล่า พ่ะย่ะค่ะ”
“ท่านพี่และข้าสื่อถึงกันไม่รู้หรือในอดีตเจ้าเองก็น่าจะรู้ว่าข้า มีดวงจิตเพียงครึ่งนั่นเป็นส่วนที่ท่านพี่มอบให้ข้าและตอนนี้ข้ากำลังจะส่งคืนแก่เจ้าของ อึก แค่ก แค่ก รีบไปเถิด”
ในโลกใบนี้น้อยคนนักที่จะมีแก่นดวงจิตและผู้ที่มีแก่นดวงจิตนั้นถือว่าเป็นคนที่ได้รับการยกย่องมากและยิ่งมีดวงจิตแข็งแกร่งก็ยิ่งทำให้มีพลังปราณแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีกตัวของเว่ยหย่าหมิงนั้นตั้งแต่เกิดมาตัวเขามีดวงจิตเพียงครึ่งเท่านั้นผู้เป็นพี่ชายอย่างเว่ยเทียนอี้ไม่อาจทนเห็นน้องอย่างเข้าเป็นเช่นนี้ได้จึงดึงแก่นดวงจิตครึ่งหนึ่งให้เขาตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้ว เขากำลังจะตายใช่เว่ยหย่าหมิงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานเพื่อให้เว่ยหย่าหมิงยอมสยบและไม่แวงกลับมาทำร้ายตนได้อีกเว่ยไห่ส่วงยื่นข้อเสนอให้เว่ยหย่าหมิงดื่มยาพิษกร่อนวิญญาณหากไม่ทำนอกจากจ้าวอวี้อิงหลงจะต้องตายแล้ว ตระกูลอู่ ตระกูลจ้าวและตระกูลเสวียนจะโดนประหารในขอหากบฎไปด้วยซึ่งตัวเว่ยหย่าหมิงยอมให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้ยังมีเรื่องนั้นที่เขาไม่อาจดื่มยาปกปิดเอาไว้ได้อีกแล้ว
เหวินหลางรับดวงจิตครึ่งหนึ่งมาประคองเอาไว้อย่างจำยอมก่อนจะหันหลังเดินออกไปไม่ยอมหันกลับไปมองผู้เป็นนายที่กระอักเลือดออกมาสีหน้าเจ็บปวดนั้นทำให้จิ้งอวี้หนิงร้องไห้ออกมาเงียบๆ ก้าวเข้าไปช่วยประคองและดูแลเว่ยหย่าหมิงทั้งน้ำตา จิ้งอวี้หนิงเองก็รับรู้มาว่าผู้เป็นนายเหนือหัวดื่มยาพิษกร่อนวิญญาณเข้าไปวันนั้นตัวจิ้งอวี้หนิงติดตามเว่ยหย่าหมิงเข้าวังไปด้วยหลังจากก้าวออกจากวังหลวงและก้าวขึ้นรถม้าเว่ยหย่าหมิงก็กระอักเลือดออกมามากมายเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในตำหนักส่วนตัวของฮ่องเต้จิ้งอวี้หนิงจึงไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วยแต่เพราะตัวของจิ้งอวี้หนิงเคยเป็นลูกศิษย์ของเหอฉินเล่อจึงพอจะรู้เรื่องสมุนไพรอยู่บ้างวันนั้นเขาจึงได้รู้ว่าท่านอ๋องดื่มยาพิษกร่อนวิญญาณเข้าไปเพื่อยื้อชีวิตผู้อื่นทั้งที่ทำเพื่อผู้อื่นมากมายคนพวกนั้นกลับยังทำร้ายจิตใจนายของเขาได้ลงคอ
หลังจากทะลุมิติมาอยู่ที่แห่งนี้ได้หนึ่งสัปดาห์ในที่สุดเขาก็มีโอกาสได้พบหน้าพระชายาของตนเองเสียทีใบหน้าหล่อเหลาคมคายยิ่งมองยิ่งดูน่าเกรงขามดวงตาคู่คมที่เพียงได้สบตาก็ทำให้ใจสั่นไหวไปทั้งใจ
"ท่านอ๋อง"
อวี้อิงหลงยกมือประสานทำความเคารพเว่ยหย่าหมิงหนึ่งครั้งก่อนเดินจากไปอย่างรวดเร็วไม่คิดจะหันกลับมามองเว่ยหย่าหมิงที่ออกมารอรับที่หน้าประตูวังเลยแม้แต่น้อย
"อาหลงเดี๋ยวสิ เจ้า"
จ้าวอวี้อิงหลงเร่งฝีเท้าเดินตรงกลับเข้าเรือนตนเองให้เร็วยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ยินเสียงเรียกและฝีเท้าที่วิ่งตามมาไกลๆเว่ยหย่าหมิงเด็กคนนั้นในอดีตทั้งน่ารักน่าเอ็นดูแต่ในยามนี้ไม่ใช่อีกแล้วก้าวขาเข้าเรือนมาได้อวี้อิงหลงก็ปิดประตูลงในทันทีก่อนจะกางม่านพลังครองเรือนเอาไว้ไม่ให้เว่ยหย่าหมิงก้าวเข้ามาด้านในเรือนได้
หลายวันมานี้หลังจากพบกันในวันนั้นเว่ยหย่าหมิงก็ไม่ได้พบหน้าของพระชายาของตนอีกเลยดวงหน้าน่ารักของเว่ยหย่าหมิงเศร้าหมองขึ้นมาเมื่อคิดว่าจ้าวอวี้อิงหลงคงไม่ต้องการพบหน้าเขา ต้องทำอย่างไรกันนะอาหลงเจ้าจึงจะยอมรักข้าบ้าง
"ท่านอ๋องเหตุใดช่วงนี้ไม่เห็นเหวินหลางเลยเล่าเจ้าค่ะ"
โจวซินหลิงเอ่ยถามด้วยความสงสัยหลายวันมานี้นางไม่เห็นองครักษ์ผู้นี้เลยแม้แต่น้อยจึงต้องการสืบข่าวให้กับฮ่องเต้เว่ยไห่ส่วง
"คนผู้นั้นเห็นแล้วขัดหูขัดตาข้าไม่ชอบให้ใครมองเจ้า จึงสั่งให้เขาหลบอยู่ในเงาไม่ต้องออกมา"
น้ำเสียงห้วนและใบหน้าไม่สบอารมณ์ทำให้โจวซินหลิงเชื่ออย่างสนิทใจตามที่เว่ยหย่าหมิงเอ่ยบอกมาดวงหน้างดงามอ่อนหวานก้มลงด้วยความเขินอายจึงไม่เห็นแววตารังเกียจเดียดฉันท์จากเว่ยหย่าหมิง
"ท่านอ๋องกระหม่อมกลับมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
เว่ยหย่าหมิงเงยหน้าขึ้นจากหนังสือในมือเมื่อได้ยินเสียงของผู้ที่ตนเฝ้ารอคอยอย่างใจจดใจจ่อจิ้งอวี้หนิงเดินนำเหวินหลางเข้ามาด้านในห้องนอนเพราะคืนนี้เขาส่งนมอุ่นผสมยาลวงวสันต์ไปให้นางจึงไม่จำเป็นต้องมากังวลเรื่องของสตรีนางนั้นให้มากความ
"ว่าอย่างไร"
"พ่ะย่ะค่ะเป็นไปตามที่ท่านอ๋องกล่าวเอาไว้ ตอนนี้องค์รัชทายาทกำลังพักรักษาตัวอยู่เกรงว่าอีกไม่นานคงหายดีพ่ะย่ะค่ะ"
"ดี จากนี้เจ้าทำอย่างไรก็ได้ให้คนของจ้าวอวี้อิงหลงหาเสด็จพี่เจอ หลังจากนั้นจงนำคนของหน่วยวิหคปักษาทั้งหมดเข้าร่วมกับพวกเขาเสีย"
"ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะหากทำเช่นนั้น แล้วเกิดคนผู้นั้นเกิดหน้ามืดตามัวขึ้นมาอีกผู้ใดจะปกป้องพระองค์กัน"
"เจ้าไม่ต้องกังวลไปมิใช่ว่ายังมีท่านพี่หลี่ฉางฉิงอยู่หรืออย่างไรกัน"
แม้ตัวเว่ยหย่าหมิงจะเป็นเพียงตัวประกอบที่ใครๆต่างก็ชิงชิงแต่ไม่ใช่กับคนตระกูลหลี่ หลี่ฉางฉิงคือทายาทตระกูลหลี่เพียงคนเดียวที่ยังเหลืออยู่หลังจากการขึ้นครองราชย์ของเว่ยไห่ส่วงความเคียดแค้นมากมายจึงถูกเก็บออกไว้ในใจเพื่อรอวันสะสางในคราเดียวเมื่อไม่อาจคัดค้านสิ่งใดได้เหวินหลางจึงได้แต่น้อมรับและทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
ยามบ่ายของวันนี้เว่ยหย่าหมิงนั่งทบทวนเรื่องราวต่างๆในศาลากลางน้ำคนเดียว ตัวเว่ยหย่าหมิงพอมีสายลับของหน่วยวิหคปักษาอยู่ในสำนักหมอหลวงและห้องเครื่องเขาให้คนเหล่านั้นแอบใส่ยาสลายกำลังในทุกวันวันล่ะครั้งสองครั้งแล้วแต่สะดวกให้เว่ยไห่ส่วงกินยาชนิดนี้ถูกคิดค้นมาอย่างดีไม่อาจใช้เข็มเงินหรือแม้แต่การใช้พลังในการตรวจสอบก็ไม่อาจจะพบเจอได้ร่างกายของเว่ยไห่ส่วงจะค่อยๆอ่อนแอลงอย่างช้าๆ
"ท่านอ๋อง ท่านแม่ทัพ ท่านแม่ทัพได้รับบาดเจ็บพ่ะย่ะค่ะ"
จิ้งอวี้หนิงพรวดพราดเข้ามาภายในศาลาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักใบหน้าน่ารักแดงก่ำลมหายใจเข้าออกหอบถี่จากการวิ่งมาหาเขาที่นี่
"เกิดอะไรขึ้นอาหนิง"
"วันนี้ฮ่องเต้ทรงออกตรวจเยี่ยมค่ายทหารก่อนเสด็จกลับไม่รู้คิดอย่างไรจึงท้าประลองกับท่านแม่หลังจากนั้นท่านแม่ทัพก็บาดเจ็บจนต้องประคองพากลับมาพ่ะย่ะค่ะ"
ยามได้ฟังสิ่งที่ขันทีน้อยราบงานมามือบางกำเข้าหากันแน่นด้วยความไม่พอใจรอก่อนเถิดเว่ยไห่ส่วงข้าจะกระชากเจ้าลงมาให้จงได้รอก่อนเพียงไม่นานหรอก
"อาหนิงไปเอายาลูกกลอนสมานกายมา"
จิ้งอวี้หนิงผู้รู้ใจผู้เป็นนายหันหลังวิ่งกลับห้องบรรทมไปนำยามาให้เว่ยหย่าหมิงทันที ยามเมื่อเว่ยหย่าหมิงมาถึงเรือนของจ้าวอวี้อิงหลงอีกฝ่ายกำลังนั่งพิงหัวเตียงให้ท่านหมอตรวจอาการอยู่แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นเว่ย ผู้ซึ่งไม่เคยพ่ายแพ้ให้แก่ศึกใดจนได้ฉายาแม่ทัพปีศาจผู้ถือครองตราพยัคฆ์ที่มีอายุน้อยที่สุดเก่งกาจที่สุดโหดเหี้ยมที่สุดและเขาคือผู้ที่ทำลายเกียติยศความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีของอีกฝ่ายจนไม่เหลือชิ้นดี
"ท่านมาทำไม"
น้ำเสียงเย็นชาของจ้าวอวี้อิงหลงดังขึ้นเมื่อหมอที่ทำการตรวจจากไปยามเอ่ยถามแม้แต่หน้าของเขาจ้าวอวี้อิงหลงก็ไม่คิดจะมองด้วยซ้ำไป
"ข้าเอายามาให้นี่เป็นยาสมานกาย แผลภายนอกภายในล้วยหายดีเพียงไม่เกินสองวัน"
เว่ยหย่าหมิงเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มมือบางยื่นส่งขวดยาไปให้จ้าวอวี้อิงหลงก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะแข็งค้างและค่อยๆหุบลงเมื่อไม่เพียงแต่จ้าวอวี้อิงหลงจะไม่รับไปมือหนาปัดทั้งขวดยาและมือของเว่ยหย่าหมิงออกอย่างไม่ใยดีขวดยาในมือของเว่ยหย่าหมิงตกลงบนพื้นแตกกระจายในเวลาเช่นนี้กลับไม่มีองครักษ์แม้เพียงคนเดียวปรากฏตัวออกมาแม้แต่องครักษ์หน้านิ่งผู้นั้นก็ไม่โผล่ออกมาน่าแปลกใจยิ่งนัก
"ออกไป อยู่ให้ห่างกระหม่อม"
ตัวของเว่ยหย่าหมิงแข็งค้างดวงใจเจ็บปวดขึ้นมาเมื่อได้ยินอีกคนเอ่ยปากไล่กันอย่างไม่ใยดีไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองกลับออกมาได้อย่างไรความรู้สึกโดดเดี่ยว หดหู่ประดังเข้ามาในใจอย่างรวดเร็วเขาควรตัดใจเขาไม่ใช่เว่ยหย่าหมิงคนนั้นแต่เหตุไฉนเขากลับเจ็บปวดและทุกข์ทรมานเหลือเกินยามที่จ้าวอวี้อิงหลงแสดงออกมาว่าชังเขาเพียงใด
"ท่านอ๋อง"
จิ้งอวี้หนิงอดที่จะสงสารและเห็นใจนายของตนไม่ได้เขารู้เขาเห็นทุกอย่างแต่กลับทำสิ่งใดไม่ได้ช่วยสิ่งใดท่านอ๋องไม่ได้เลยจวิ้นอ๋องเว่ยหย่างหมิงบังคับแม่ทัพจ้าวอภิเษกสมรสแต่ก็ไม่เคยหักหานน้ำใจยิ่งไม่เคยทำร้ายร่างกายและจิตใจของท่านแม่ทัพเลยแม้แต่น้อย
"เหวินหลางส่งข่าวมารึยัง"
"พ่ะย่ะค่ะ อีกห้าวันพวกเขาจะเดินทางไปสมทบกับองค์รัชทายาท"
เมืองอี้ซานอยู่ห่างจากเมืองหลวงไม่น้อยกว่าการส่งข่าวจะมาถึงพวกเขาคงรวมตัวกันแล้วหลังจากเรื่องพวกนี้จบลงเขาจะเดินทางไปยังอวินซูชานใช้ชีวิตที่เหลืออยู่น้อยนิดที่นั้น
"แล้ว ท่านพี่หลี่เล่าว่าอย่างไรบ้าง"
"พ่ะย่ะค่ะ ท่านชายรับทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
"งั้นหรือ แค่ก แค่ก อึก"
เว่ยหย่าหมิงเอ่ยเพียงเท่านั้นก็ไอออกมาหน้าแดงก่ำมือบางที่ขึ้นสีแดงยกขึ้นมาปาดเช็ดของเหลวที่ไหลออกมาจากปากและจมูกอย่างรวเร็วใบหน้าหล่อน่ารักเหม่อมองแสงสุดท้ายบนขอบฟ้าที่ค่อยๆหายไปก่อนจะหันกายมุ่งหน้ากลับไปพักผ่อนสำหรับวันพรุ่งนี้
ผลงานอื่นๆ ของ เสี่ยวซีหมีน้อย ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เสี่ยวซีหมีน้อย
ความคิดเห็น