ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
กริ๊งงงงง!
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นบ่งบอกถึงการเริ่มต้นวันใหม่อันแสนสดใส พร้อมก้าวเข้าสู่การเรียนหนังสืออย่างจริงจังอีกครั้งในรั้วโรงเรียนหลังจากที่ปิดเทอมไปนานหลายเดือน เด็กนักเรียนหลายๆคนรีบอาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อมมาโรงเรียนเพื่อมาพบปะเพื่อนๆของตนเอง ซึ่งห่างหายกันไปนานหลังจากปิดเทอมใหญ่ หากแต่ไม่ใช่กับ 'ภูเขา' เด็กหนุ่มขี้เซาที่ไม่ค่อยจะตื่นเต้นกับการเปิดเรียนวันแรกมากนัก แม้เขาจะรู้อยู่แล้วว่าระยะทางจากบ้านของเขากับโรงเรียนไม่ใกล้กันซักนิด แต่ก็ไม่สามารถทำให้หนุ่มร่างเล็กลุกจากที่นอนได้ เขาเอื้อมมือไปกดปิดเสียงดังน่ารำคาญ รบกวนการนอนของเขา ซึ่งเขาปิดมันเป็นครั้งที่สี่ของเช้านี้แล้ว
"ภูเขา! ตื่นได้แล้วลูก จะนอนไปถึงไหน สายมาแล้ว"
ไม่ใช่รสจุมพิตอันแสนหวานของเจ้าหญิงแสนสวยที่มาปลุกเจ้าชายนิทราซึ่งกำลังอยู่ในโลกแห่งความฝันให้ฝื้นขึ้นมาสู่โลกความเป็นจริง แต่เป็นการตะโกนขึ้นมาปลุกอย่างดังจากหญิงสาววัยกลางคนชนิดที่ว่าลูกข้างบ้านตื่น ทำเอาเจ้าชายนิทราสะดุ้งตื่นอย่างตกใจหลังจากที่เผลอหลับไปจนฝันจบไปหลายเรื่อง
"ตื่นแล้วครับแม่"
คนเพิ่งตื่นรีบขานรับเพราะไม่ต้องการให้ผู้เป็นแม่ตะโกนซ้ำเป็นรอบที่สอง ด้วยความที่กลัวว่าเพื่อนบ้านจะไม่ได้ใช้นาฬิกาปลุกของตนเองแต่เป็นเสียงของแม่แทน คนพึ่งตื่นนึกตลกกับความคิดของตนเองจนเผลอยิ้มออกมาแบบไม่รู้ตัว เขารีบสะบัดไล่ความคิดในหัวของตนเองก่อนเหลือบไปเห็นตัวเลขบนนาฬิกาปลุก
"เชี่ย!"
เขาเผลออุทานหยาบคายออกมาตามสัญชาตญาณซึ่งปกติหาฟังได้ยากจากปากของภูเขา แต่จะไม่ให้เขาตกใจได้อย่างไรในเมื่อเข็มบนหน้าปัดนาฬิกาบ่งบอกว่าขณะนี้เวลาแปดโมงตรง ซึ่งเพื่อนๆที่โรงเรียนเริ่มเรียนคาบแรกกันแล้ว เขารีบล้างหน้าแปรงฟันอย่างรวดเร็ว ก่อนมานั่งทานแซนวิชกับนมสดเป็นอาหารเช้าบนรถ โดยมีคุณพ่อเป็นคนขับรถมาส่ง ถ้าเป็นพ่อแม่บ้านอื่นคงบ่นลูกจนตูดชี้ไปแล้วที่ตื่นสายขนาดนี้ กว่าจะออกจากบ้านโรงเรียนก็เข้าแล้ว แต่ไม่ใช่กับครอบครัวของภูเขา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไปสาย เพราะเขาไปสายทุกๆวันจนแทบเข้าเรียนไม่ทันคาบแรกเสมอ เรียกว่าเป็นปกติไปแล้วก็ว่าได้ จึงไม่แปลกที่พ่อกับแม่จะไม่บ่นจนหูชา
"ดื่มให้หมดนะลูก จะได้สูงๆ"
"ผมมอห้าแล้วนะพ่อ"
คนอายุน้อยกว่าพยายามแก้ตัว ด้วยความที่อายที่พ่อชอบพูดเรื่องส่วนสูงของตนเอง แต่จะให้เขาทำอย่างไรได้ในเมื่อพันธุกรรมจากพ่อกับแม่ก็มีส่วนทำให้เขาสูงเพียงแค่หนึ่งร้อยหกสิบแปดเซนติเมตรเท่านั้น คิดแล้วเขาก็อดน้อยใจไม่ได้ที่ไม่สูงไม่ล่ำ ตัวไม่ใหญ่เท่าเพื่อนๆค่อนข้างเล็กด้วยซ้ำ จึงไม่แปลกที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีสาวๆมาสนใจซักเท่าไหร่ ยิ่งเขาเป็นคนขี้อาย ไม่กล้าพูด ไม่กล้าแสดงออกด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เขาดูไร้ตัวตนเลยก็ว่าได้
"ภูเขาตื่นได้แล้วลูก ถึงโรงเรียนแล้ว"
เมื่อคนถูกปลุกรู้สึกตัวจึงรีบลงจากรถวิ่งเข้าโรงเรียนโดยไม่ลืมขอบคุณและบอกลาคนที่ขับรถมาส่ง
ภูเขารีบวิ่งขึ้นตึกมาอย่างสุดชีวิต แม้เขาจะรู้ตัวว่าเป็นท่าวิ่งที่สามารถเรียกเสียงหัวเราะจากผู้คนได้ไม่น้อย แต่ไม่น่าจะมีใครเห็น เพราะนักเรียนส่วนใหญ่เข้าห้องเรียนกันหมดแล้ว และเขาเองก็ไม่อยากขาดเรียนคาบแรกตั้งแต่วันแรก ด้วยความที่โรงเรียนแห่งนี้มีพื้นที่ไม่กว้างมากนัก และห้องเรียนก็อยู่แค่ชั้นสามบนตึกมอปลายซึ่งไม่ไกลมาก ทำให้ไม่ถึงห้านาที คนที่กำลังหอบด้วยความเหน็ดเหนื่อยเหมือนพึ่งวิ่งรอบโรงเรียนก็มาถึงหน้าห้องเรียน คนร่างเล็กหอบเฮือกสุดท้ายก่อนเคาะประตูห้องเบาๆสามครั้งตามมารยาท แล้วค่อยๆเปิดประตูเบาๆ
"ขออนุญาตเข้าห้องครับ"
"มาสายเหมือนเดิมเลยนะภีมพล ไม่รอให้หมดคาบแล้วค่อยมาละ คราวนี้ถ้าชั่วโมงเรียนไม่พอครูช่วยเธอไม่ได้แล้วนะ รีบเข้าไปนั่งทีได้แล้ว "
นั่นคือประโยคทักทายของ'อาจารย์หมึก'อาจารย์ประจำวิชาแรกของวันนี้ ซึ่งสนิทกับภูเขาพอสมควรเพราะเธอเป็นครูประจำชั้นตอนมอสาม วันนี้เขาเลยไม่โดนหนักเท่าไหร่ ถือว่ารอดตัวไป
ภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มาก มีนักเรียนชายและหญิงรวมกันประมาณสี่สิบกว่าคน โต๊ะนักเรียนถูกวางชิดกันเป็นคู่อย่างเป็นระเบียบเขารีบเดินตรงเข้าไปที่ว่างที่เหลืออยู่ที่หนึ่งซึ่งเป็นที่ที่'นิว'เพื่อนสนิทตั้งแต่มอต้นจองไว้ให้ก่อนหน้านี้แล้ว เขาจัดการวางกระเป๋าและนั่งลง เปิดหนังสือเรียนวิชาภาษาไทยของอาจารย์หมึก
"มีวันไหนที่มึงจะมาเช้าบ้างไหมวะ?"
ประโยคทักทายแรกของเพื่อนสนิทปากหมา หน้าหล่อ คนฟอลโล่ไอจีเกือบแสนอย่าง'ไอนิว'เอ่ยถามกับคนที่พึ่งมาถึงได้ไม่นาน
"วันสอบไง"
"วันสอบมึงก็มาสาย"
"มึงจำผิดแล้ว ปกติกูมาเช้ามาก ไม่เชื่อถามไอ้ตั้ม กับไอเจ"
"ใช่เว้ยไอนิว ปกติไอภูเขามันมาเช้าทุกวัน เช๊า เช้าเลย ใช่ไหมวะไอเจนี่"
ตั้มและเจนี่ที่นั่งอยู่ด้านหน้าคู่สนทนา นั่งฟังตั้งแต่ต้นเมื่อได้ยินชื่อตนเองจึงรีบหันมาร่วมสนทนาด้วย หลังจากไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน
"กูบอกอย่าเรียกกูว่าเจนี่ (ผัวะ) เออ ใช่ๆ มึงโคตรมัวเลยไอนิว"
เด็กสาวน่าตาน่ารัก แต่นิสัยกลับห้าวเสียยิ่งกว่าผู้ชาย หันมาย้ำเรื่องชื่อของเธอกับตั้ม เธอไม่พูดเปล่าแต่แถมหมัดหนักๆประทับไว้ที่ท้ายทอยของเพื่อนตั้มเพื่อจะได้บันทึกเข้าไปในเซลล์สมองเสียที และหันมายืนยันกับคนที่นั่งกับภูเขาว่าคนร่างเล็กมาเช้าเป็นประจำ
กลุ่มนักเรียนทั้งสี่คนที่กำลังสนทนา หยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน พวกเขาสนิทกันมาตั้งแต่สมัยมอต้น จึงไม่แปลกที่จะใช้ความรุนแรงกันบางเป็นธรรมดา
"มึงสองคนพูดเข้าข้างมันตลอดเลยนะ กูอยากรู้ถ้าไอภูไม่มีการบ้านให้พวกมึงลอก จะยังเข้าข้างมันไหมวะ"
เพื่อนสนิทที่นั่งคู่หน้าทั้งสองคนของภูเขาได้แต่ยิ้มแห้งๆกลับมา ทำเอานิวยิ้มเยาะอย่างสะใจ ราวกับว่าตนเองเป็นฝ่ายชนะในศึกปะลองฝีปากในครั้งนี้ ถึงคนที่รู้สึกวินในตอนนี้จะพูดไปแบบนั้นแต่ทุกคนในกลุ่มก็รู้ดีอยู่แล้วว่าพวกเขาไม่ได้คบกันเพื่อหวังผลประโยชน์
คาบเช้าผ่านไปไวเหมือนโกหก ผ่านมาห้าคาบทำเอานักเรียนทั้งสี่คนหิวจนกินเพื่อนทั้งห้องได้ ยิ่งไม่ยอมลงไปหาอะไรรองท้องช่วงพักเล็ก เพราะมัวแต่คุยกันนานไปหน่อย ส่วนภูเขาก็หลับเป็นตาย ทำให้ไม่แปลกที่ในท้องจะเริ่มมีเสียงประท้วงออกมา หลังจากพวกเขาทานข้าวกันเสร็จเรียบร้อยภูเขาและเจก็หนีร้อนไปนั่งเล่นเกมส์อยู่บนห้องคอม แอร์เย็นฉ่ำ ส่วนเพื่อนหน้าหล่ออย่างไอนิวก็หวานเสน่ห์อยู่แถวสนามกลางโรงเรียน ทำเอาสาวๆรุ่นเล็กรุ่นใหญ่กรีดกราดกันเป็นแถว โดยมีตั้มไปอยู่เป็นเพื่อน
หลังจากพักกลางวันนักเรียนชั้นมัธยมห้าก็นั่งใช้สมองอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมถึงสามชั่วโมง ไม่นานนักเสียงเพลงประจำโรงเรียนซึ่งเปรียบเหมือนเสียงสวรรค์ของเด็กนักเรียนก็ดังขึ้นบ่งบอกว่าถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว นักเรียนกว่าสี่สิบคนถูกปล่อยตัวออกจากห้องเรียน ต่างพากันรีบวิ่งพุ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็ว เบียดเสียดกันที่ประตูราวกับนักโทษถูกปล่อยออกจากที่คุมขัง แต่ไม่ใช่กับภูเขาและเพื่อนอีกห้าหกคนที่เป็นเวรรักษาความสะอาดห้องเรียนในวันนี้ เพื่อนบางคนบางจัดโต๊ะ บางทำความสะอาดกระดาน ส่วนคนตัวเล็กกำลังกวาดพื้นห้องที่เต็มไปด้วยเศษขยะและขี้ยางลบ
"ไอภูเขาๆ!"
"แปปนึง"
เสียงเรียกชื่อคนที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างขะมักเขม้นดังมาจากนอกห้องที่ประตูหลังซึ่งกำลังเปิดอยู่ คาดว่าเจ้าของเสียงยืนไม่ไกลจากประตูมากนัก ส่วนเจ้าของชื่อที่กำลังโกยเศษขยะลงในถังซึ่งถูกลากมาหน้าประตูหลังรีบขานรับสาวห้าวเพื่อนสนิทเจ้าของเสียงก่อนหันหลังไปสนทนาอย่างรวดเร็ว เขาไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนยื่นพิงประตูอยู่ก่อนแล้ว ทำให้หมุนตัวไปชนรุ่นพี่ร่างสูงชั้นมัธยมหกเข้าอย่างจัง ปลายจมูกของทั้งคู่สัมผัสเข้าด้วยกัน ทั้งสองเหมือนตกอยู่ในภวังค์ สายตาสองคู่จ้องมองไปในแววตาของกันและกัน จนมองเห็นดวงหน้าตนเองในนัยน์ตาอีกฝ่าย
คนตัวเล็กเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนผลักคนร่างสูงออกห่าง
"ขะ...ขอโทษครับ"
คนเป็นรุ่นน้องกล่าวขึ้นด้วยความลนลานและความตกใจ หยดน้ำใสๆเริ่มผุดออกมาจากใบหน้าขาวเนียน จนเจ้าตัวรู้สึกได้ถึงใบหน้าที่ร้อนผ่าวราวกับอยู่ในทะเลทราย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อสักครู่เป็นครั้งแรกที่ภูเขาสัมผัสเข้ากับคนที่ไม่เคยรู้จักกันอย่างใกล้ชิด จนเกือบจะ...
จูบ
แค่คนร่างเล็กคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เกือบทำให้ริมฝีปากตนเองประกบกับอีกฝ่ายก็ทำให้เขารู้สึกแปลกๆจนทำตัวไม่ถูก
คนเป็นรุ่นพี่เห็นคนตัวเล็กแสดงอาการเคอะเขินจนเก็บอาการไม่อยู่
หูทั้งสองข้างแดงกำ เหงื่อแตกพลั่กๆก็เผลอยิ้มขำอย่างงเอ็นดู ทำให้คนเป็นรุ่นน้องเคอะเขินเข้าไปใหญ่ ยิ่งเขาเป็นคนขี้อายด้วยแล้ว ยิ่งทำให้การเงยหน้าขึ้นมาสบตากับรุ่นพี่เป็นเรื่องยากลำบากสำหรับเขา
"เฮ้ย ไม่เป็นไรๆ พี่ก็ขอโทษเราเหมือนกันที่มายืนเงียบๆ เออ น้องนิวอยู่ห้องนี้ใช่ไหม นั่งตรงไหนละ พอดีพี่เอาของมาให้"
คนเป็นรุ่นพี่รีบพูดเปลี่ยนเรื่อง ก่อนรุ่นน้องจะเขินจนแดงไปทั้งหน้า วันนี้เขาเอากุหลาบและการ์ดมาให้หนุ่มเนื้อหอมเพื่อนสนิทภูเขา ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องจะนำของชิ้นเล็กชิ้นน้อยมา'จีบ'คนหล่ออย่างนิว ยิ่งเพื่อนรักอย่างภูเขาที่ไม่ค่อยกล้าปฏิเสธคนอื่นด้วยแล้ว การเข้าหานิวผ่านคนตัวเล็กก็เป็นเรื่องธรรมดาจนเขาเคยชินไปแล้วก็ว่าได้
"อะ..เออ โต๊ะที่ติดหน้าต่าง ตัวใน ถะ..แถวที่สองครับ"
คนเป็นรุ่นน้องพูดตะกุกตะกักขณะที่ลุบตาลงต่ำ ไม่ยอมสบตาอีกฝ่าย พร้อมใช้นิ้วโป้งชี้ตามทิศทางที่พูดเพื่อให้คนที่กำลังแอบอมยิ้มเข้าใจเข้าใจมากขึ้น
รุ่นพี่เดินตรงไปยังโต๊ะที่คนร่างบางที่ตอนนี้กำลังมองหาใครบอกคนบอก เมื่อจัดการสิ่งที่ตั้งใจจะทำเสร็จก็กลับไปอย่างรวดเร็วจนคนตัวเล็กไม่ทันสังเกต ส่วนเจ้าของเสียงซึ่งเป็นตนเหตุให้คนตัวเล็กเขินจนแก้มแทบแตกก็หายไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น