ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แหลกสลาย | yuwin

    ลำดับตอนที่ #1 : แหลกสลายไปราวกับฝุ่นละออง

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 64


    แหลกสลาย | yuwin

    By: Yufa

     

     

     

     

    ณ สำนักงานของ FBI

    ร่างสูงของหัวหน้าหน้าที่มีชื่อว่าเรียวตะ ชายหนุ่มสัญชาติญี่ปุ่นที่มากความสามารถจนเลื่อนตำแหน่งมาเป็นหัวหน้าหน่วย 5 หน่วยที่เก่งที่สุดของสำนักงาน เขาผ่านการลงภาคสนามมาไม่ต่ำกว่า 100 ภารกิจโดยไม่สูญเสียลูกทีมไปสักคน จนได้รับฉายาว่านักรบไร้รอยแผล เสื้อยืดสีกรมทับเสื้อหนังสีดำกับกางเกงยีนสีดำเป็นตัวเลือกง่ายๆ ที่เรียวตะเลือกใส่ในวันสบายๆ เช่นนี้ หลังจากที่เขาได้รับข้อความจากเพื่อนในทีมให้เข้ามาสำนักงานวันนี้เพื่อรับสมาชิกใหม่ฝ่ายไอทีในทีม

    “มาเร็วเหมือนเดิมเลยนะมึง” เรียวตะเอ่ยเมื่อเปิดประตูเข้าไปเจอกับไทชิเพื่อนสนิทที่ฝึกกับเขาตั้งแต่แรกๆ พ่วงด้วยเป็นทีมเดียวกันกับเขา คนที่เขาพูดด้วยยักไหล่เล็กน้อยตามสไตล์ ยัดขนมปังเข้าปาก แล้วจ้องมองจอสี่เหลี่ยมที่กำลังฉายภาพของนักร้อง K-POP ที่มันชอบหนักหนา

    “กินไรมายัง” ไทชิถามเขาโดยที่สายตายังคงจับจ้องหน้าจอทีวีอยู่อย่างไม่ละสายตา

    “ยัง” เรียวตะตอบแล้วปิดประตูห้อง เขาเดินมานั่งลงบนโซฟาสีดำภายในห้องที่มีแค่ทีมของเราเท่านั้นที่สามารถเข้ามาได้

    “รับ" ไทชิบอกแล้วโยนแซนด์วิชในมือมาให้ ความเร็วจากการฝึกฝนมาทั้งชีวิตทำให้เรียวตะรับมันได้อย่างแม่นยำ

    “เบื่อ” เขาบอกแล้วแกะแซนด์วิชกินไปพลางๆ ระหว่างที่รอสมาชิกในทีมทั้งหมด 7 คน ประกอบด้วยแฮกเกอร์มือดีเท็นจิ มือสไนเปอร์โจเซฟ สายลับเจไมล์ นักฆ่าไทชิ และภาคสนาม เจสันเพื่อนที่ฝึกด้วยกันกับเขาและไทชิ ดีแลน และเขา

    “มาแล้วหรอจ๊ะแม่คนน่ารัก” ไทชิหันมายิ้มให้กับผู้ที่เปิดประตูเข้ามาใหม่ นั่นก็คือเท็นจังที่หอบถุงอาหารมาให้พวกเราเป็นประจำ ไทชิไม่ว่าเปล่ายังรีบปิดจอทีวีแล้วรีบลุกไปช่วยคนตัวเล็กที่สุดในทีมถือถุงอาหารด้วยรอยยิ้มหวานๆ ที่ทำเอาเรียวตะขนลุกแทบทุกครั้ง

    “ต้องโดนปืนจ่อหัวอีกใช่ไหมฮะพี่ไทชิ ถึงจะเลิกเรียกเท็นว่าอย่างนั้น” เท็นจังพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดแล้วปล่อยให้ไอ้พี่ไทชิถือถุงอาหารช่วย ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ได้สะทกสะท้านใจแม้แต่น้อย แถมยิ้มกับคำขู่อีกต่างหาก

    “ไอ้ไทชิมันต้องโดนสักวันแล้วล่ะพี่ว่า” เรียวตะพูดพร้อมกับมองเท็นจังที่ทำหน้าเหนื่อยหน่ายสุดๆ

    “ฝากพี่เรียวตะด้วยนะครับ” เท็นจังบอกด้วยน้ำเสียงปลงๆ พร้อมกับนั่งลงบนโซฟา มองไทชิที่วางถุงอาหารลงบนโต๊ะหลังโซฟา

    “อย่ามาร้องไห้ขี้มูกโป่งตอนพี่โดนยิงละยัยน่ารัก” ไทชิหัวเราะเบาๆ ทิ้งตัวลงข้างๆ เท็นจังก่อนจะหาเรื่องให้คนตัวเล็กโวยวายและงอแง พอเท็นจังงอแงมันก็จะโอ๋ของมันเอง

    “รำคาญโว้ยยย” เสียงโวยวายของเจสันดังขึ้นทันทีที่เปิดเข้ามาในห้อง ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย เท็นจังที่กำลังจะเอ่ยถามถึงสาเหตุก็เข้าใจได้เมื่อเห็นโจเซฟกับเจไมล์เดินกอดแขนหยอกล้อกันเข้ามาในห้อง

    “คู่รักมหาภัยนี่เอง” ไทชิเอ่ยพร้อมกับมองสมาชิกทีมที่มีอายุน้อยที่สุดในทีม และมันก็คบกันมาตั้งแต่เรียนไฮสคูล แถมยังไม่มีท่าทีว่าจะรักกันน้อยลง ถ้าหากว่าวันไหนที่มือสไนเปอร์และสายลับไม่ต้องทำงาน ทุกคนในทีมก็จะรู้ได้เลยว่าพวกมันแอบไปจู๋จี๋ที่มุมตึก

    “ดีครับพี่ๆ” เจไมล์เอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม แล้วพวกมันก็พากันไปนั่งเล่นที่โต๊ะตามประสาคู่รัก

    “เสียงโวยวายไปถึงข้างนอก” ดีแลนปิดประตูเข้ามาด้วยใบหน้าหงุดหงิด ทรงผมน้ำตาลอ่อนที่มักจะถูกจัดแต่งให้เป็นทรงยุ่งเหยิงเหมือนเจ้าของใบหน้า

    “บอสทำอะไรอีกวันนี้” ไทชิถามเมื่อผู้มาใหม่เดินมานั่งลงข้างๆ เจสันที่เตรียมโอ๋เต็มที่ เพราะมันรักดีแลนเปรียบประหนึ่งน้องชาย ทั้งที่น้องชายแท้ๆ ของมันกำลังนั่งกอดกับแฟนในห้อง

    “ช่างหัวบอสมัน” น้ำเสียงหงุดหงิดพร้อมกับดีแลนที่ดีดดิ้นอย่างไม่พอใจ “กูไม่แต่งงานกับมันล่ะ แม่ง!!” ดีแลนพูดแล้วเบะปากงอแงกับเจสัน

    “โอเคค่ะ ไม่แต่งก็ไม่แต่ง” เจสันกอดดีแลนพร้อมกับลูบหัวไปด้วย

    “พี่เชื่อเถอะ ว่าไม่กี่ชั่วโมงก็ดีกัน” เจไมล์หันมาพูดแล้วก็กันไปหยอกล้อกับแฟนของมันต่อ

    “โอย!! พี่ไทชิ เท็นอึดอัด เลิกกอด” เท็นจังพยายามผลักไทชิให้หยุดกอดรัดตัวเองเสียที

    เรียวตะได้แต่นั่งมองแล้วถอนหายใจเบาๆ นี้ละครับหน่วย 5 ที่ทุกคนในสำนักงานยอมรับในฝีมือ แต่ข้อเสียของพวกมันคือเวลาไม่ได้ทำงานพวกมันจะไม่ค่อยมีสาระแก่นสารใดๆ

    “มาครบกันรึยังครับ” เสียงของผู้มาใหม่ดังขึ้นพร้อมกับบอสที่เปิดประตูห้องเข้ามา ใบหน้าหล่อเหลาราวกับพระเจ้าปั้นแต่งกับทรงผมที่ถูกเซตเป็นอย่างดี ความเงียบเข้ามาปกคลุมภายในห้อง ทุกคนหยุดการกระทำทั้งหมดแล้วมองมาที่บอส แต่มีอีกคนที่ไม่ได้รู้สึกเกรงใจแม้แต่น้อย เอาแต่กอด ซุกเจสันไม่หยุด

    “คุณดีแลน” เสียงเย็นยะเยือกกับสายตาที่ดุไม่ได้ทำให้เจ้าของชื่อหยุดแม้แต่น้อย แถมยังหมุดหนักกว่าเดิมอีกต่างหาก “ถ้ายังไม่เลิกดื้อพี่จะดุแล้วนะคะ” ปกติแล้วดีแลนจะเป็นคนเงียบๆ และจริงจังมากๆ แต่พอบทจะดื้อมันก็ดื้อจนแม้แต่น้ำเสียงจริงจังของบอสใหญ่ก็ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายบทก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ไปเอง “โอเคค่ะ ถ้างั้นเลิกงานก็มาคุยกันด้วยเหตุผล” สุดท้ายบอสก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ไปเอง แล้วหันมามองพวกเราทุกคนต่อ

    “อย่างที่พวกคุณรู้ เรามีสมาชิกใหม่จากจีนเข้ามาร่วมทีมในฐานะไอทีและฝ่ายอาวุธของพวกคุณ”

    “ครับบอส แต่เราต้องการข้อมูลของเขาครับ” เรียวตะพูดเพราะเมื่อสองปีก่อนมีสมาชิกเข้ามาใหม่ของหน่วย 3 ที่เป็นนักสืบข้อมูลปลอมตัวเข้ามาเพื่อคัดลอกข้อมูลของทุกคนไปขายในเว็บไซต์มืดและถูกตามไล่ฆ่า เรียวตะจึงไม่อยากให้เหตุการณ์นั่นเกิดขึ้นกับทีมของเขา

    “ผมให้เลขาจัดเตรียมให้แล้ว ข้อมูลของรหัส 07111 ส่งเข้าในเมลล์ของพวกคุณทุกคนแล้ว และผมได้ให้ทีมตรวจสอบข้อมูลตรวจให้แล้ว ดังนั้นพวกคุณเชื่อใจได้”

    “ครับ”

    “เข้ามาได้เลยครับคุณต่ง ซือ เฉิง”

    “สวัสดีครับ ผมรหัส 07111 ต่งซือเฉิง จากจีนครับ เรียกวินวินก็ได้ครับ” สิ้นเสียงแนะนำจากผู้มาใหม่ก็ทำให้เรียวตะที่หันหลังให้กับประตูหันไปมอง ทั้งที่ที่เรียวตะสบตาคู่นั่น ใบหน้า และรอยยิ้มที่คุ้นเคยแบบนั้นก็ทำให้เขากำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว เรียวตะไม่เคยรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้เช่นนี้มาก่อน เขาลุกขึ้นยืนท่ามกลางสายตางงๆ ของทุกคน

    “ขอไปเข้าห้องน้ำนะ” เรียวตะบอกแล้วเดินผ่านหน้าต่งซือเฉิงไป

    “อ่า ยินดีที่ได้รู้จักนะครับน้องวินวิน พี่ไทชิครับ” ไทชิทักทายวินวินที่ยืนทำหน้าไม่ถูกจึงได้แต่ยิ้มแห้งๆ

    “อ่า ครับพี่ไทชิ”

    “งั้นพวกคุณทำความรู้จักกันเถอะ ผมขอตัว” บอสบอกแล้วเดินออกจากห้องไปเงียบๆ

    “วินวิน มานั่งๆ เราชื่อเท็นจังนะ รียกเท็นก็ได้ เราน่าจะอายุเท่ากันเพราะดูจากข้อมูลของวินวินแล้ว”

    “ครับ” วินวินยิ้มอ่อนๆ แล้วทุกคนในทีมก็เดินมาแนะนำตัวกับเขา จนวินวินลดความประหม่าและความเกร็งลงได้บ้างเขามองไปทางประตูที่เรียวตะหัวหน้าทีมที่เดินออกไปตั้งแต่เจอหน้าเขา ยังไม่เลิกเกลียดกันอีกหรอ

    “เดี๋ยวพี่ไปตามเรียวตะนะ” ไทชิลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามหลังเพื่อนสนิทที่เดินหายออกไปนาน ตั้งแต่คบกันมาไทชิไม่เคยเห็นอีกฝ่ายเป็นอย่างนี้มาก่อน เพราะด้วยความที่มันเป็นหัวหน้า สติและอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญในการทำงานมาก

    “กูแปลกใจนะ” ไทชิพูดขึ้นเมื่อเดินออกมาที่ระเบียงแล้วเห็นเรียวตะกำลังยืนดูดบุหรี่อยู่ เป็นภาพที่ไม่คุ้นตาเอาซะเลย ถ้าเป็นเจสันหรือโจเซฟก็ค่อยว่าไปอย่าง เรียวตะไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร มันพ่นควันสีขาวออกจากปากช้าๆ

    “โทษที กูยั้งตัวเองไม่อยู่” เรียวตะตอบแล้วอัดนิโคตินในมือเข้าปอดต่อ

    “น้องมันตกใจอยู่นะ” ไทชิมองเรียวตะอย่างสงสัย เขาคบกันมาตั้งนานทำไมจะไม่รู้ว่าเด็กใหม่คนนั้นมีผลทำให้เรียวตะเป็นอย่างนี้ “มีอะไรที่มึงยังไม่ได้บอกกูหรือเปล่า??” คำพูดของไทชิทำให้คนถูกถามเงียบไปครู่หนึ่งพลางอัดบุหรี่ในมือให้มือ แล้วทิ้งมันลงบนที่เขี่ยบุหรี่ ใบหน้าที่คาดเดาความรู้สึกได้ยากของเรียวตะทำให้ไทชิต้องเอ่ยถามออกไป

    “เปล่า กูแค่ไม่ชอบเด็กคนนั้นเฉยๆ” เรียวตะตอบอย่างขอไปที “เข้าไปกันเถอะ” เรียวตะตบบ่าไทชิแล้วเดินนำกลับเข้าไปในห้อง เขามองทุกคนที่มองตรงมาที่เขา จนกระทั่งเขาเดินกลับไปนั่งที่เดิม

    “นายรู้จักทุกคนหมดแล้วใช่ไหม” เรียวตะถามวินวินที่มองมาที่เขา

    “ครับ”

    “ผมซาโตชิ เรียวตะ หัวหน้าทีม คุณมีหน้าที่เช็กอาวุธของหน่วยและช่วยเท็นจังเข้าใจใช่ไหม” เรียวตะมองวินวินที่พยักหน้าเข้าใจ “ดี คุณพักกับเท็นจังแล้วกัน วันนี้ก็พักเถอะ ผมมีธุระต่อ” เรียวตะเอ่ยจบแล้วหยิบกุญแจรถที่วางทิ้งไว้ที่โต๊ะข้างๆ ทีวี

    “แต่วันนี้เรามีเลี้ยงต้อนรับสมาชิกใหม่นะครับ”

    “ส่งข้อมูลให้ผมแล้วกัน ถ้าทำธุระเสร็จเร็วจะไป” ทันทีที่เอ่ยจบหัวหน้าทีมก็ไม่ได้รอให้ใครบอกลา ร่างสูงเดินออกไปจากห้องทิ้งไว้แค่เพียงสถานการณ์ปกติ เสียงพูดคุยหยอกล้อของโจเซฟและเจไมล์ที่พี่เจสันเรียกว่าคู่รักมหาภัย กับเสียงตะโกนไล่ของเท็นจัง ทำให้วินวินยิ้มออกมา รอยยิ้มครั้งแรกในรอบหลายปีเลยนะวินวิน

    “พี่เรียวตะเขาไม่ชอบผมรึเปล่าครับ” วินวินถามเจสันที่นั่งอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไรให้อีกฝ่ายไม่พอใจอยู่หรือเปล่านะ

    “จำไม่ได้จริงๆ สินะ” เจสันพูดเสียงเบาให้วินวินพอจะได้ยินบ้าง “อย่าใส่ใจเลย ไอ้เรียวมันก็เป็นแบบนี้ล่ะ”

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    16/07/64

    ภารกิจครั้งที่ 4 ของรหัส 07111

    “ล็อกเป้าหมาย” โจเซฟกรอกเสียงตามสายไป ด้วยตาคู่คมกำลังจ้องมองเป้าหมายของตัวเองในภารกิจครั้งนี้

    “เท็นจัง” เสียงจริงจังของไทชิดังเข้ามาร่วมสาย

    “เป้าหมายจะถึงจุดยิงอีก 2 นาที ดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลได้ 97 %” เสียงของนักแฮกมือดีประจำหน่วยดังในสาย

    “ทุกคนประจำตำแหน่ง” เรียวตะออกคำสั่งผ่านวิทยุสื่อสารที่ทุกคนมีอยู่ เขาพยักหน้าให้ดีแลนและเจสันเข้าประจำที่

    “ดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลสำเร็จ”

    “เป้าหมายจะถึงตำแหน่งในอีก 5 4 3 2 1”

    “โจมตีเป้าหมายสำเร็จ” โจเซฟพูดอีกครั้ง เมื่อร่างของเป้าหมายของตัวเองล้มลงไป เขาเก็บอุปกรณ์ใส่กล่องแล้วรีบลงจากตึกเพื่อไปยังจุดนัดเจอ

    “ถอนกำลัง” เสียงสั่งของเรียวตะทำให้ไทชิที่กำลังจะบุกไปหยุดชะงัก แล้วรีบปิดไมค์

    “บ้าเอ๊ย!!” ไทชิบ่นอย่างหัวเสียแล้วรีบวิ่งกลับไปยังจุดนัดพบ “เรียวตะ” ไทชิกรอกเสียงตามวิทยุสื่อสารอีกอันที่มีแค่เขา เรียวตะ และเจสันที่มีมันอยู่

    “เออ พวกกูรู้แล้ว” เจสันตอบกลับมาแทนพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ดังตามจังหวะการวิ่งของพวกเรา

     

    “วิน ทำไม” เท็นจังถามเมื่อหลังจากที่เขาเก็บอุปกรณ์ใส่กล่อง วินวินกลับใช่ปืนจ่อเจไมล์เป็นตัวประกัน ปืนที่มีเพียงคนในทีมของเราที่มีมัน

    “ส่งแฟลชไดรฟ์ให้ผม” วินวินออกคำสั่งขณะที่ล็อกคอเจไมล์ไว้ ปลายปืนจ่อที่ขมับของน้องเล็กของทีม

    “แลกเจไมล์กับเรา” เท็นจังหยิบแฟลชไดรฟ์แล้วเดินมาหาวินวิน

    “ส่งมันมาก่อน”

    กริ๊ก!! เสียงปลดไกปืนพร้อมกับความเย็นที่สัมผัสบริเวณต้นคอทำให้วินวินชะงัก

    “ปล่อย เจไมล์” เสียงทุ้มเรียบของเรียวตะดังขึ้นข้างหลังพร้อมกับมือแกร่งที่ขยับมาปลดแมกาซีนปืนในมือของวินวินอย่างรวดเร็ว แล้วออกแรงดึงแขนของวินวินๆ ให้เดินห่างออกจากทุกคน

    แม้แรงจากข้อมือของเรียวตะจะทำให้วินวินๆ เจ็บแต่เขาก็ไม่คิดจะร้องออกมาให้อีกฝ่ายได้ยืน ความโกรธของเรียวตะถูกส่งผ่านโดยการกำข้อมือของวินวินแน่นจนมันอาจจะแหลกคามือของเขาได้ คนตัวสูงผลักร่างของวินวินออกห่าง แววตาที่เคยเรียบนิ่งมองวินวินอย่างรังเกียจ

    “ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน คุณก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนะต่งซือเฉิง” เรียวตะพูดพร้อมกับมองบุคคลที่เขาไม่คิดว่าชาตินี้จะได้เจออีกจนกระทั่งเมื่อ 4 เดือนก่อนที่อีกฝ่ายเข้ามาแฝงตัวในนาม รหัส 07111 วินวิน

    “นึกว่าจะแกล้งจำกันไม่ได้แล้วเสียอีก ซาโตชิ เรียวตะ” ต่งซือฉิงหัวเราะเบาๆ แล้วยันตัวเองลุกขึ้นจากพื้น ใบหน้าของอีกฝ่ายไม่ได้รู้สึกรู้สาใดๆ กับคำพูดของเขาสักนิดเดียว

    “จำได้สิ แต่ผมนึกว่าคุณจะรักคนอื่นเป็นบ้างนอกจากตัวเอง” เรียวตะยิ้มแล้วยื่นกระบอกปืนสีเงินในมือให้ต่งซือเฉิง รอยยิ้มของอีกฝ่ายทำให้ต่งซือเฉิงทำอะไรไม่ถูก รอยยิ้มที่เขาไม่เคยได้เห็นมันอีกเลยตั้งแต่วันนั้น

    “ผมรักคุณ” ต่งซือเฉิงตอบกลับไปเสียงดัง นั่นเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนต่งซือเฉิงเสมอว่าเขายังมีความรู้สึกอยู่ ความรู้สึกรัก

    “ฮ่า” เรียวตะหัวเราะเสียงดังแล้วยัดกระบอกปืนในมือให้อีกฝ่าย เขาใช้มือข้างหนึ่งปิดตาของตัวเองเอาไว้ “ฮ่า รักกันหรอ แล้วทำไมวันนั้นถึงทิ้งกันไปล่ะ? คุณรู้ไหม หลายปีที่ผ่านมาผมพยายามเกลียดคุณมาโดยตลอด แต่ผมทำไม่ได้เลย ผมยังอยากได้ฟังคำว่ารักจากคุณ มันน่าสมเพชสิ้นดี”

    “ไม่ใช่นะ”

    “ครั้งที่แล้วคุณได้ความรักผมไปแล้วนิ ครั้งนี้คุณยังอยากได้ชีวิตผมอีกหรือ” เรียวตะหัวเราะอย่างนึกสมเพชตัวเอง ชีวิตในที่นี่ไม่ใช่ชีวิตเขา แต่เป็นสมาชิกในทีมที่เป็นเหมือนครอบครัวของเขาต่างหาก

    “ผมขอโทษ” ต่งซือเฉิงทำได้เพียงขอโทษชายตรงหน้าอย่างไม่รู้จะพูดอะไร เขารู้สึกผิดจริงๆ

    “จะขอโทษผมเรื่องอะไรดีล่ะ เรื่องที่คุณทิ้งผมไป หรือเรื่องที่คุณกำลังจะกำจัดทีมของผมกันล่ะ” เรียวตะพูดแล้วหัวเราะออกมา ไม่ว่าจะผ่านมีกี่สิบปีเขาก็ยังโดนคนตรงหน้าหลอก เขา ไทชิ และเจสันพอจะทราบเรื่องที่หน่วยของพวกเราจะโดนกำจัดมาก่อนที่ต่งซือเฉิงจะเข้ามาในหน่วยแล้ว เพราะในอีก 2 เดือนข้างหน้าพวกเราจะลาออกและแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตัวเอง FBI คงกลัวข้อมูลหลุดรั่วออกไป แต่ไม่คิดว่าสำนักงานจะใช้แผนให้ต่งซือเฉิงเข้ามาหาจุดอ่อนของพวกเขา

    “ผมขอโทษทุกเรื่อง” ต่งซือเฉิงกำลังร้องไห้ คนอย่างต่งซือเฉิงเนี่ยนะ เรียวตะคิด เขาเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้า ไม่คิดว่าจะได้เจออีกครั้งด้วยซ้ำ

    “คุณจำได้ไหม ว่าผมจะรักคุณ คุณที่เป็นซือเฉิงของผม” เรียวตะเช็ดน้ำตาให้อีกคน เขากุมมือของซือเฉิงไว้ ขยับปลายกระบอกปืนให้อยู่ในตำแหน่งอกของตัวเอง “ตอนนี้ผมก็ยังรักคุณ”

    เรียวตะยิ้มก่อนจะกดมือซือเฉิงให้ลั่นไกปืน ปัง!! เสียงปืนดังลั่นไปทั่วบริเวณ เลือดสีแดงกระเด็นเปรอะเปื้อนทั่วร่างของซือเฉิง ดวงตาสุกใสที่มีหยดน้ำตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ร่างของเรียวตะล้มลงไปกองกับพื้น

    “เรียวตะ!!” ซือเฉิงตะโกนเสียงดังแล้วโอบกอดร่างของเรียวตะเอาไว้ เขาไม่คิดว่าเรียวตะจะทำอะไรเช่นนี้ เสียงของรถยนต์เคลื่อนเข้ามาข้างในโกดังที่ซือเฉิงอยู่ ตามด้วยเสียงระเบิดที่เขาเป็นคนติดตั้งเองกับมือ เพื่อจัดฉากให้ดูเหมือนหน่อย 5 เสียชีวิตในภารกิจอย่างไม่น่าสงสัย “ลืมตาเดี๋ยวนี้นะ” ซือเฉิงจับใบหน้าของเรียวตะเบาๆ พร้อมกับซบหน้าลงกับไหล่คนตัวสูง เขาร้องไห้อย่างที่ไม่เคยเป็นมา

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    เมื่อ 20 ปีก่อน

    “สวัสดีเราชื่อเรียวตะนายล่ะ” รอยยิ้มจากเด็กญี่ปุ่นที่เพิ่งย้ายเข้ามาในโรงเรียนทำให้เด็กน้อยที่นั่งอยู่เพียงลำพังในสนามเด็กเล่นเงยหน้าขึ้นมอง

    “เราชื่อต่งซือเฉิง”

    “เป็นคนจีนสินะ มาเป็นเพื่อนกันเถอะ” รอยยิ้มของเรียวตะถูกส่งให้เด็กน้อยอีกครั้ง ความรู้สึกเหมือนโลกนี้มีเพียงเขาคนเดียวของซือฉิงกำลังถูกโลกของเรียวตะซ้อนทับเข้ามา

     

    “เป็นแฟนกันนะ” เสียงของเรียวตะดังขึ้นขณะที่พวกเรากำลังนั่งเล่นในสนามหญ้า แหวนสีเงินเกลี้ยงเกล้าวางลงบนฝ่ามือของซือเฉิง เขาหันมองรอยยิ้มนั้นจนต้องยิ้มตาม

    “ให้แบบนี้เราปฏิเสธได้หรือเปล่า” ซือเฉิงพูดติดตลก

    “ไม่ได้ดิ”

    “งั้นก็เป็น”

    “เอาไว้เป็นของแทนใจ” เรียวตะพูดแล้วบรรจงสวมแหวนให้ซือเฉิง “เวลาที่เราไม่อยู่ มันจะได้เป็นตัวแทนของเรา ว่าซือเฉิงไม่ได้ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้”

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ซือเฉิงยืนนิ่งหน้าหลุมศพที่มีป้ายหลุมศพของทุกคนในหน่วย 5 ตั้งแต่วันนั้นพบแค่ศพของเรียวตะ ส่วนคนอื่นๆ ตำรวจสันนิษฐานว่าคงโดนไฟเผาไหม้ไปหมดแล้ว ร่างของเรียวตะถูกนำมาฝังไว้ที่นี่ สถานที่ที่เงียบสงบ เป็นอีกครั้งที่ซือเฉิงร้องไห้ออกมาเพียงลำพังตลอดสองเดือนที่ผ่านมา เขาไม่เคยหลับลงสักคืน

    เรียวตะจะรู้หรือเปล่านะ ว่าโลกของซือเฉิงมันพังทลายไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว

    “ยังมาอีกหรอ ที่นี่ไม่มีใครกลับมาแล้วนะ” เสียงคุ้นหูพร้อมกับร่างสูงของเจสันในชุดสีดำสนิท เขาวางดอกทานตะวันในมือลงบนหลุมศพของเพื่อนสนิทอย่างสงบ

    “ครับ ผมกลัวเขาเหงา”

    “นายรู้ไหมว่ามันรักนายมาก มากจนมันต้องมีสภาพเช่นนี้” เจสันพูดเสียงเรียบเขารับรู้ได้ตลอดว่ามันรักคนที่ยืนข้างๆ เขาจนวินาทีสุดท้าย “พวกเรารู้ว่านายถูกส่งมา 1 อาทิตย์ก่อนที่จะปฏิบัติภารกิจนั้น ฉันกับไทชิยื่นข้อเสนอให้ฆ่านายทิ้งซะ แต่มันกลับบอกว่ามันจะจัดการเอง” เจสันถอนหายใจเบาๆ เขาเองก็เจ็บปวดไม่น้อยที่ต้องมาเล่าเรื่องนี้อีกครั้ง “ก่อนที่มันจะตาย มันสามารถหนีออกมาได้ แต่มันรู้ดีว่าคุณจะต้องถูกหน่วยตามล่า มันถึงได้ยอมตายเพื่อคุณ”

    “ผมขอโทษ” ซือเฉิงเอ่ยหลังจากที่เจสันพูดจบ

    “คุณไม่ผิด นั่นคือสิ่งที่มันขอจากพวกเรา” เจสันพูดจบจึงเดินจากไป ทิ้งให้ซือเฉิงจมอยู่กับคำพูดของเขา นั่นคือสิ่งที่เจสันทำแทนเรียวตะได้ในสถานะเพื่อน

     

    จบลงแล้วสินะความเจ็บปวดของเรียวตะ

    ความเจ็บปวดจากโลกใบเดียวของมัน

    ความเจ็บปวดจากเปลวไฟดวงสุดท้าย

    และความเจ็บปวดจากความรัก ที่มันรักมาตลอด

    รักที่ไม่ว่าจะพยายามวิ่งตามแค่มันก็ไม่ไม่เคยถึง

    หรือแม้แต่พยายามลืมเรียวตะก็ไม่มีวินาทีใดที่เขาจะลืม

    ลืมคนที่เขารักสุดหัวใจ

    ต่ง ซือ เฉิง

     

     

    ทุกความสัมพันธ์ต้องมีใครเสียใจ

    ไม่ผิดที่เขาจะไม่รักเรา

    และไม่ผิดที่เราจะรักเขา

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×