ตอนที่ 1 : [SASUSAKU] Letting go
Letting go
[ Uchiha Sasuke x Haruno Sakura ft. Uchiha Itachi ]
I’d been holding on to you for so long
But now I must let go
EPIK HIGH (에픽하이) - 스포일러 (SPOILER) + 헤픈엔딩 (HAPPEN ENDING)
SAKURAA_HARUNOO : ซาสึเกะคุง
SAKURAA_HARUNOO : วันนี้ตอนบ่ายว่างรึเปล่า?
SAKURAA_HARUNOO : ออกมาเจอกันหน่อยได้มั๊ยจ๊ะ?
SAKURAA_HARUNOO : J
นิ้วยาววางค้างบนแป้นพิมพ์ นัยย์ตาสีเดียวกับท้องฟ้ายามเที่ยงคืนมองตัวอักษรบนหน้าจอผ่านพายุความรู้สึกที่กำลังหมุนวน ผ่านความทรงจำที่เริ่มไหลซึมออกมาเหมือนน้ำจากเขื่อนที่กำลังจะทลาย เขากระพริบตา สูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะพรมนิ้วลงบนแป้นพิมพ์อย่างเชื่องช้าพร้อมๆกับลมหายใจที่ค่อยๆระบายออก
SASUKE_U : อ่า
SASUKE_U : ที่ไหน?
ซาสึเกะมองจุดสามจุดที่เป็นเครื่องหมายว่าอีกฝ่ายกำลังพิมพ์ขณะเอื้อมมือไปหยิบกาแฟที่วางอยู่ใกล้ๆขึ้นจิบ พอข้อความตอบกลับเด้งขึ้นมาเขาก็ไม่สามารถที่จะฝืนมุมปากไม่ให้ยกสูงขึ้นได้
SAKURAA_HARUNOO : อิจิราคุเป็นไงจ๊ะ?
SASUKE_U : เธออยู่กับนารูโตะมากไปแล้วมั้ง
SAKURAA_HARUNOO : แหม ซาสึเกะคุงล่ะก็!
SAKURAA_HARUNOO : อย่ามาทำเป็นซึนไปเลย! ฉันรู้นะว่าซาสึเกะคุงก็ชอบที่นั่นน่ะ L
SASUKE_U : ใครบอกเธอ?
SAKURAA_HARUNOO : ไม่เห็นจำเป็นต้องมีใครบอกเลย~
SAKURAA_HARUNOO : ก็ฉันน่ะ รู้จักซาสึเกะคุงดีที่สุดเลยนี่นา
SAKURAA_HARUNOO : ใช่มั๊ยล่า~ J
SAKURAA_HARUNOO : ซาสึเกะคุง? ยังอยู่รึเปล่าจ๊ะ?
SASUKE_U : ขอโทษที
SASUKE_U : ไว้เจอกันสักบ่ายสอง?
SAKURAA_HARUNOO : โอเค! J
เขากดปิดกล่องข้อความก่อนจะปิดหน้าต่างนั้นทิ้ง ซาสึเกะสูดหายใจระริกขณะเอนตัวพิงกับเก้าอี้อย่างคนหมดแรงแล้วยกแขนขึ้นมาปิดตา
ภาพความทรงจำเก่าๆซัดใส่เขาเหมือนคลื่นที่กระทบเข้าฝั่ง
******
“เน่ๆ ซาสึเกะคุง”
“ฮืม?”
“เรามาคบกันมั๊ย?”
ขายาวที่กำลังจะก้าวไปข้างหน้าชะงัก เจ้าของนัยย์ตาคมกริบเหมือนเหยี่ยวหันหน้ามามองคนข้างตัวด้วยความรู้สึกหลากหลายอย่างปนเปกัน ทั้งตกใจ ประหลาดใจ และพอใจ คิ้วเรียวเลิกขึ้นเป็นเชิงคำถามและหญิงสาวผมชมพูยิ้มกว้างโชว์ฟันเรียงสวยก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่สดใสพอๆกับรอยยิ้มประจำตัวของเธอ
“ก็ถ้ารอให้ซาสึเกะคุงขอล่ะก็ ฉันคงต้องอยู่บนนคานไปตลอดชีวิตแน่ๆเลย”
“แล้วเธอรู้ได้ไงว่าฉันจะตอบตกลง?”
“ง่ายจะตาย เพราะฉันรู้จักซาสึเกะคุงดีที่สุดน่ะสิ!”
“....”
“สรุปเราคบกันแล้วเนอะ?”
ซาสึเกะกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะยกมือขึ้นแล้วใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางแตะลงบนหน้าผากที่เคยเป็นปมด้อยของซากุระในวัยเด็กแต่ตอนนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายที่เธอชอบที่สุด
“อือ”
และวันนั้นในเดือนเมษายน ช่วงเวลาที่ดวงตะวันกำลังจะลับขอบฟ้า อุจิวะ ซาสึเกะรับฮารุโนะ ซากุระเข้ามาในหัวใจของเขาโดยสมบูรณ์ และในเวลานั้น ไม่มีเลยแม้แต่เสี้ยวความคิดเดียวที่เขาคิดจะปล่อยเธอไป
5 ปีต่อมา
“นี่ ซาสึเกะคุง”
เจ้าของชื่อเหลือบมองคนเรียกตัวเองที่นั่งกอดเข่าอยู่บนโซฟาแล้วเลิกคิ้ว เดิมทีซากุระเป็นคนตัวเล็กอยู่แล้ว ยิ่งพอเธอขดตัวแบบนั้นยิ่งดูบอกบางมากขึ้นไปอีก เขาถอนหายใจ ผูกเนกไทจนเสร็จเรียบร้อยก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงข้างซากุระ มือที่ใหญ่กว่าเธอมากเอื้อมไปดึงมือของหญิงสาวมากุม เขาใช้นิ้วโป้งไล้ไปบนหลังมือของเธอ ซาสึเกะเพิ่งสังเกตว่าข้อมือซากุระเล็กขนาดนี้
คนรักของเขาผอมลงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรนะ?
พอมองย้อนกลับไปช่วงสองสามปีที่ผ่านมาเขาแทบไม่ได้มองเธอจริงๆจังๆเลย ซาสึเกะเพิ่งรับสาขามาจากบริษัทใหญ่ของคุณพ่อ เวลาทั้งหมดที่เขามีจึงทุ่มเทไปกับการประคองบริษัทที่ตนรับผิดชอบและหาทางเพิ่มผลกำไร ซากุระเองก็ยุ่งๆกับที่โรงพยาบาลจนเวลาของเราแทบจะไม่ตรงกัน นอกจากการโทรหาอาทิตย์ละไม่กี่ครั้ง และทานมื้อกลางวันด้วยกันไม่กี่หน.... ครั้งสุดท้ายที่ได้มานั่งคุยกันจริงๆจังๆกับเธอแบบนี้นั้นเลือนลางจนเขาแทบจะจำไม่ได้แล้ว
ซากุระเอนศีรษะมาพิงที่ไหล่เขา
“นี่ ซาสึเกะคุง”
“หืม?”
“เราเลิกกันมั๊ย?”
และนั่นเป็นครั้งแรกที่ซาสึเกะเข้าใจความรู้สึกที่โลกหยุดหมุน ดวงตาเบิกกว้าง เขากำลังจะดันซากุระออกไปแต่เธอฝืนตัวเอาไว้ มือที่เขากุมไว้พลิกกลับมาประสานกัน ร่างเล็กๆที่ดูบอบบางนั่นกลับมีแรงเยอะอย่างน่าเหลือเชื่อ
“หมายความว่ายังไง?”
“เราเลิกกันเถอะ”
“ฉันขอเหตุผลซากุระ”
“เพราะเหมือนกับว่าฉันไม่จำเป็นกับซาสึเกะคุงอกต่อไปแล้ว”
“...”
“เหมือนกับว่าความสุขของซาสึเกะคุงไม่ได้อยู่กับฉันอีกต่อไปแล้ว”
“ไม่--“
“ฉันไม่มีความสุขเลย ซาสึเกะคุง”
“...”
“เมื่อก่อนฉันคิดว่าแค่ได้อยู่ข้างๆซาสึเกะคุง ฉันก็มีความสุขมากๆแล้ว แต่ตอนนี้การได้อยู่ตรงนี้มันทำให้ฉันหายใจไม่ออก”
“...”
“ตอนนี้มันเหมือนกับว่าเธอเจอสิ่งที่สำคัญกับตัวเองมากกว่า และฉันไม่อยากจะเป็นภาระ รู้รึเปล่าว่าทุกครั้งที่เราเจอกัน ตอนทานข้าวกลางวันด้วยกัน เธอแทบจะไม่มองฉันเลย เธอดูเครียด และความสัมพันธ์ของเราดูกลายเป็นหน้าที่ที่ทำให้เธอเหนื่อยกว่าเดิม”
“...”
“เพราะฉะนั้น เลิกกันเถอะนะ”
“...”
“ฉันเคยคิดกับตัวเองไว้ว่า ถ้าทำให้เธอมีความสุขไม่ได้ ฉันก็จะไม่มีทางทำให้ซาสึเกะคุงต้องทุกข์ใจ”
“เธอไม่รู้อะไร--“
“ไม่หรอก ฉันน่ะรู้จักซาสึเกะคุงดีที่สุด”
เธอพลิกตัวในอ้อมแขนของเขา(เขากอดเธอตั้งแต่เมื่อไรกัน?) ดวงตาสีมรกตเป็นประกายด้วยหยาดน้ำตาที่กระทบแสงไฟ และรอยยิ้มที่เคยเปรียบเสมือนสายลมในฤดูร้อนตอนนี้กลับกลายเป็นเกล็ดหิมะในฤดูหนาวที่ทำให้ทั้งร่างเขาเย็นเฉียบ
“เราคงต้องปล่อยมือกันแล้วนะ”
เธอกระชับมือ และมันเป็นครั้งแรกที่ซาสึเกะสังเกตว่าเป็นซากุระที่กุมมือเขามาตลอด(เขาคลายมือออกตั้งแต่เมื่อไร?) และเมื่อความอบอุ่นที่เคยโอบล้อมมือของเขามาเสมอเริ่มผละออกไป จิตใต้สำนึกของซาสึเกะเริ่มต้นแผดเสียง ตะโกนบอกให้เขาทำอะไรสักอย่าง ขยับ! อย่าปล่อยเธอ! อย่าให้เธอไป! ขยับสิ!!
แต่สิ่งที่ซาสึเกะทำได้ทั้งหมดคือการนั่งอยู่ตรงนั้นราวกับคนโง่ และมองผู้หญิงที่เขารักเดินออกไปจากห้อง(ออกไปจากชีวิตของเขา)
ในเดือนตุลาคม ช่วงเวลาที่หยดฝนเม็ดแรกตกลงสู่พื้นถนนแห้งผาก อุจิวะ ซาสึเกะมองฮารุโนะ ซากุระเดินจากไปพร้อมกับฤดูร้อน ทิ้งเขาไว้กับฤดูหนาวและเสียงกรีดร้องที่เขาไม่รู้ว่ามาจากลมนอกหน้าต่าง หรือมาจากหัวใจของตัวเอง
*****
ซาสึเกะมาก่อนเวลา ... เหมือนเดิม
แต่ซากุระเองก็ยังมาถึงก่อนเขา ... เหมือนแต่ก่อน
“ซาสึเกะคุง”
รอยยิ้มนั้นยังเหมือนวันวาน รอยยิ้มเต็มหน้า ดวงตาสีน้ำทะเลลึกที่เต็มไปด้วยความมีชีวิต เปล่งประกายราวกับใบหญ้าที่แพรวพราวด้วยหยาดน้ำค้างยามเช้า และเหมือนทุกครั้งที่เขาอยู่ในบรรยากาศเดียวกันกับเธอ ซาสึเกะผ่อนคลายลงอย่างอัตโนมัติ
ซากุระมีผลกับเขาแบบนี้เสมอ
“ไง”
“ฉันสั่งกาแฟไว้ให้แล้ว ขมปี๋แบบที่เธอชอบเลย~”
มือเล็กยกขึ้นมาประสานกันบนโต๊ะก่อนใบหน้ารูปหัวใจจะวางลงบนนั้น ซากุระมองเขาด้วยดวงตาที่ยังเต็มไปด้วยความอ่อนโยนเหมือนเดิม เต็มไปด้วยความรักเหมือนเดิม
แต่บางอย่างไม่เหมือนเดิม
บางอย่างไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นแบบเดิม
“ไม่เจอกัน... นานเลย”
“อื้อ... หกปีแล้วเนอะ”
ถึงจะคุยกันอยู่บ้างบนโลกโซเชียลมีเดีย แต่ตั้งแต่ที่เธอเดินออกไปจากห้อง(จากชีวิต)ของเขา หลังจากวันที่ฤดูหนาวอันยาวนานเริ่มต้นขึ้น ซาสึเกะก็ไม่ได้พบซากุระแบบต่อหน้าอีกเลย อาจเป็นเพราะซากุระเลือกที่จะหลบหน้าเขา หรือเป็นเพราะเขาเองที่รู้สึกละอายเกินกว่าจะเผชิญหน้าเธอ คำถามที่มักผุดขึ้นมาในเวลาที่เขาทิ้งตัวลงบนที่นอนหลังจากวันที่เหนื่อยล้า ทำไมเขาถึงไม่ตามหาเธอ ซากุระจะยังอยากที่จะมีปฎิสัมพันธ์กับเขาอยู่หรือเปล่า จนถึงวินาทีนี้คำถามบางคำถามเหล่านั้นก็ยังไร้ซึ่งคำตอบ
“ที่เธอนัดฉันมาวันนี้ มีอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า?”
ซาสึเกะยัดมือทั้งสองข้างที่เริ่มชื้นเหงื่อเข้าในกระเป๋าเสื้อฮู๊ด เขารู้ตัวว่าไม่ควรหวัง เขารู้ว่าควรจะยัดความคาดหวังที่ชูคอขึ้นมาทันทีตอนที่เห็นข้อความของเธอ ตอนที่ได้ยินเสียงของเธอ กลับเข้าไปส่วนลึกที่สุดในหัวใจ--ในที่ที่มันควรจะอยู่ เขารู้ว่าถ้าเขาหวัง มันมีความเป็นไปได้สูงมากที่เขาจะต้องเจ็บ แต่ตั้งแต่เมื่อไรกันที่มนุษย์สามารถควบคุมความไฝ่ฝันของตัวเองได้?
ซาสึเกะเองก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง
และแม้ว่าหัวใจของเขาจะแตกหักไปบ้าง แต่มันก็ยังคงทำงาน
ซากุระยืดตัวตรง สองมือที่เคยประสานกันเลื่อนลงกุมแก้วมิลค์เชคที่วางอยู่ตรงหน้าเธอหลวมๆ ซาสึเกะเข้าใจท่าทางนั้นได้ในทันที--ผู้หญิงที่เขารักกำลังประหม่า
หญิงสาวหัวเราะแผ่วเบา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เบายิ่งกว่า ซาสึเกะมองเข้าไปในดวงตาสีมรกตของเธอ มองเงาของเขาสะท้อนบนนัยตาที่กำลังเปร่งกระกายยิ่งกว่าเดิมด้วยความสุข
ความหวังที่เขาพยายามจะกดเก็บมันไว้เริ่มตั้งขึ้นสูงเหมือนตัวต่อไม้ที่เขาเคยเล่นสมัยยังเด็ก
“ฉันกำลังจะหมั้นล่ะ”
และเหมือนสมัยยังเด็ก ตัวต่อไม้เหล่านั้นพังทลายลงเพราะเขาไม่ระมัดระวัง
ซาสึเกะนั่งอยู่ตรงนั้น ตาเบิกกว้าง ในขณะที่สมองกำลังประมวลผลประโยคที่กระเด้งกระดอนไปมาในหัว โลกทั้งใบของเขาเหมือนหยุดหมุนลงไปพร้อมๆกับหัวใจที่แผ่วลงเรื่อยๆใต้แผ่นอก
“ฉันกำลังจะหมั้นล่ะ”
“กับ... ใคร?”
ซากุระหหลุบตาลง พวงแก้มเนียนนั้นขึ้นสีฝาดด้วยความเขินอาย ซาสึเกะสูดลมหายใจระริก มองริมฝีปากสีกลีบบัวที่ความหวานของมันยังติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเขาค่อยๆคลี่เป็นรอยยิ้ม
มือที่ซ่อนอยู่ในฮู๊ดกำแน่น แน่นจนเล็บคมจิกเข้าไปในเนื้อจนได้เลือดแต่เขากลับไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด กลับกัน ซาสึเกะในตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรเลย เขาเหมือนกับคนที่โดนน้ำเย็นจัดราดใส่ทั้งตัว ทุกอย่างชาและเขาอยากจะตะโกนออกมาให้สุดเสียง เขาอยากจะทำลายอะไรสักอย่างให้มีสภาพเดียวกับความหวังเขาเขา เขาอยากจะชกผู้ชายคนนั้นที่ซากุระรัก อยากจะทำให้เจ็บให้ได้เท่าเสี้ยวหนึ่งที่เขากำลังรู้สึกตอนนี้ อยากจะอุ้มซากุระที่อยู่ตรงหน้าของเขา(อยู่แค่ช่วงเอื้อมมือของเขา ไม่ใช่แค่ในความฝัน ไม่ใช่ภาพลวงตาที่เขาสร้างขึ้นมาหลอกตัวเองแล้วหนีไปให้ไกล
แต่เขาไม่มีสิทธิ์
เป็นแค่คนที่ยังรัก... ไม่มีสิทธ์ขนาดนั้น
“อิทาจิ”
“เธอ.... ว่าไงนะ?”
“ฉันกำลังจะหมั้นกับพี่อิทาจิจ้ะ เราเพิ่งคุยกันเมื่ออาทิตย์ก่อนนี่เอง เธอรู้เป็นคนแรกเลยนะซาสึเกะคุง”
และมันเป็นตอนนั้นเองที่เศษซากหัวใจของเขาแหลกสลายจนไม่หลงเหลืออะไร
ซาสึเกะรู้สึกเหมือนอยู่ๆเขาก็ถูกทิ้งลงทะเล จมดิ่งลงไปเรื่อยๆในความหนาวเหน็บที่ทิ่มแทงเขาเหมือนเข็มนับล้านเล่ม ชิ้นส่วนของความหวังที่ล่มสลายฉุดรั้งเขาลึกลงไป หัวใจที่แทบจะหยุดทำงานกำลังเค้นอากาศออกไปจากปอด คำพูดที่เขาอยากจะเอ่ยออกไปสำลักอยู่ในลำคอ และ โอ้ พระเจ้า เขารู้สึกเหมือนกำลังจะตาย ซาสึเกะก้มหน้าลง ปล่อยให้ผมสีปีกกาปกปิดแทนที่หน้ากากของเขาที่เริ่มจะร้าว เขาสูดหายใจระริก หมัดที่กำแน่นจนข้อขาวค่อยๆคลายออก เขายังมีสิ่งที่สำคัญที่ต้องถาม เขายังไม่สามารถพังทลายอย่างสิ้นเชิงในตอนนี้ ที่นี่ ได้
“เธอ.... อิทาจิ พี่ทำให้เธอมีความสุขรึเปล่า?”
เพราะความสุขของซากุระคือสิ่งที่สำคัญที่สุด และถ้ามีอะไรสักอย่างที่ซาสึเกะมั่นใจที่สุดในโลก
“อื้อ!”
คืออิทาจิจะไม่มีวันผิดพลาดแบบเขา
ซาสึเกะเหยียดยิ้มหยันกับตัวเอง เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามส่งอากาศที่แสนสำคัญผ่านก้อนที่ขมวดอยู่ในลำคอของเขาจนเจ็บเข้าปอดให้ได้มากที่สุด ซาสึเกะเงยหน้าขึ้น ประสานสายตากับดวงตาสีเดียวกับใบอ่อนของต้นไม้ในฤดูใบไม้ผลิที่ตอนนี้มีความกังวลและไม่แน่ใจฉายชัด และยิ้มอีกครั้ง
เขาไม่รู้ว่ามันออกมาในสภาพไหน แต่ถ้ามันทำให้เธอยิ้มตอบแบบในตอนนี้ได้ ซาสึเกะก็ไม่คิดจะสนใจ
ตลอดเวลาท่ผ่านมา ตั้งแต่ที่เราแยกทางกันวันนั้น ลึกๆในหัวใจของเขายังคงเกาะเกี่ยวกับความหวังว่าเธอจะกลับมา ด้วยความสิ้นหวังเท่ากับชายที่กำลังจะจมน้ำกอดขอนไม้ เหมือนชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับความคิดนั้น และในตอนนี้ ยามที่ทุกอย่างมาถึงจุดสิ้นสุด
มือของซาสึเกะคลายออกอย่างสมบูรณ์ เขาดึงมืออกจากกระเป๋าฮู๊ดด่อนจะวางลงบนตัก
“ยินดีด้วยนะ”
คงต้องถึงเวลาที่จะต้องปล่อยมันไปสักที
เพราะถ้ายังฝืนยึดเหนี่ยวอยู่ต่อไป นอกจากตัวเขาเองก็ยังมีคนที่เขารักที่สุดอีกสองคนที่จะต้องเจ็บปวดตามไปด้วย
“ขอให้เธอมีความสุขมากๆ”
และซาสึเกะรู้ว่าอิทาจิจะรักและดูแลซากุระได้ดีและถูกต้องกว่าเขา--พี่ชายของเขาดีกว่าเขาในทุกด้านเสมอ
“ฉันมีความสุขกับเธอด้วยจริงๆ”
เพราะถ้าซากุระมีความสุข มันก็ไม่อยากที่เขาจะมีความสุขไปด้วย
“ขอบคุณนะจ๊ะซาสึเกะคุง ฉัน--“
ประโยคถูกตัดเพราะเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของซากุระ เธอขมวดคิ้วก่อนจะหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาดู และทันทีที่เห็นชื่อบนหน้าจอ ซากุระที่สว่างไสวอยู่แล้วก็เจิดจ้าขึ้นจนเขารู้สึกอยากจะหันหน้าหนี
“พี่อิทาจิน่ะ”
ซาสึเกะพยักหน้าหนึ่งครั้ง ก้อนที่ติดอยู่ในลำคอใหญ่ขึ้นจนมันเริ่มทำให้พูดลำบาก
“แล้ว... เจอกันเร็วๆนี้?”
ซากุระหัวเราะ และซาสึเกะปิดเปลือกตาลง ซึมซาบเสียงที่เขาคิดว่าไพเราะที่สุดในโลก บันทึกมันไว้ในกล่องความทรงจำที่เขาจะไม่มีทางลืม
กล่องที่มีชื่อว่าฮารุโนะ ซากุระ
“เจอกันจ้ะซาสึเกะคุง”
เธอยืนขึ้น หยิบกระเป๋าขึ้นถือและหันหลังเตรียมจะเดินจากไป และมันเป็นตอนนั้นที่มือของซาสึเกะโฉบออกไปคว้าข้อมือเธอไว้ก่อนที่ตัวเขาเองจะได้ทันอนุญาต
“จ๊ะ?”
“ฉัน...”
“ซาสึเกะคุง?”
ประกายความกังวลกลับมาฉายชัดในลูกแก้วคู่นั้นอีกครั้ง ซากุระหันกลับมาหาเขาเต็มตัวแล้วยื่นมือมาอังบริเวณหน้าผาก ซาสึเกะสูดลมหายใจเข้า พาเอากลิ่นแอปเปิ้ลและพีชที่ดูจะติดตัวเธอไปทุกที่เพื่อทุเลาความร้อนผ่าวบริเวณขอบตาและความรู้สึกบีบรัดในอก
“ซาสึเกะคุง?”
“อ่า”
“ฉัน--“
“ฉันไม่เป็นไร”
ในสักวันหนึ่ง
“พี่จะดูแลเธอได้ดีแน่ๆ”
เหมือนที่เขาทำให้เธอไม่ได้
“ยินดีด้วยจริงๆ... อีกครั้งนะซากุระ”
ขอให้เธอมีความสุข
“รักกันนานๆ”
และซาสึเกะ อุจิวะจะรักฮารุโนะ ซากุระตลอดไป
ซาสึเกะท้าวคาง ดวงตาสีดียวกับท้องฟ้ายามเที่ยงคืนมองหญิงสาวผมสีชมพูผ่านหน้าต่าง มองเธอเดินเข้าไปในอ้อมแขนของผู้ชายอีกคนที่สำคัญกับซาสึเกะพอๆกับเธอ มองคนที่เขารักที่สุดในโลกทั้งสองคนมอบความรักให้กัน
อิทาจิมองมาทางเขาก่อนริมฝีปากบางเฉียบของพี่จะยกยิ้มอ่อนโยนแบบเดียวกับที่พี่มอบให้เขาเสมอ แม้เขาจะทำความผิดร้ายแรง แม้เขาจะทำตัวน่าผิดหวัง
มือที่ไม่ได้โอบซากุระยกขึ้นทำเครื่องหมายโทรศัพท์ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินหายไปในฝูงชน
ซาสึเกะก้มหน้าลงมองเอสเพรสโซ่ในแก้วเซรามิคสีขาวตรงหน้าของเขา หยดน้ำหยดนึงตกใส่ในแก้ว ก่อนจะตามมาด้วยอีกหยด อีกหยด และอีกหยด จนกระทั่งเขาเลิกที่จะนับ
นิ้วเรียวเกี่ยวหูแก้วแล้วขึ้นจรดริมฝีปาก ก่อนจะจิบเครื่องดื่มที่เขาแทบจะดื่มแทนน้ำในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอย่างเชื่องช้าราวกับกาแฟในแก้วคือยาพิษและเขาคือนักโทษประหาร
เขาวางแก้วลงบนโต๊ะ เอนตัวพิงกับเก้าอี้ราวกับหุ่นเชิดที่ถูกตัดสายสลิง แล้วยกต้นแขนขึ้นมาปิดดวงตาเปียกชื้น
“ขม... ชะมัดเลยแหะ”
สวัสดีค่ะ! นี่ศรีเอง แฮ่
อยู่เรือนี้มาก็ตั้งนานเพิ่งได้มาเขียนคู่นี้ครั้งแรกจริงๆจังๆ รู้สึกเขินแปลกๆแหะ (...)
อันนี้ก็เป็นรวมOS/SF ออลซากุระค่ะ กับใครบ้างก็ดูจากหน้าบทความได้เลย~
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น้ำตาไหลเลย เข้าใจความรุ้สึกเกะมากเลย รออ่านยุน๊าาาา
เขียนดีมาก เข้าถึงอารมณ์ของซาสึเกะตอนกินกาแฟได้เลย มาต่อนะคะ รออ่านอยู่ค่ะ สู้ๆ
ตอนแรกก็ดราม่าแล้ว(╥﹏╥)