คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Boyfriend for Rent l JK x You Part 3 (+Explain M rating)
Title : Boyfriend for
Rent Part 3
Paring : Jeon jungkook
x Fem! Reader
Genre: Slight smut, Fluff
Warning : Mention of Make out*
MAKE OUT : — phrasal
verb with make verb “to kiss and touch in a sexual way, or to succeed in having
sex with someone”
Link : https://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/make-out
ชายหนุ่มตื่นขึ้นในเช้าวันถัดมา
สิ่งแรกที่รู้สึกบนเตียงกว้างคือสัมผัสนุ่มลื่นบนผิวเนื้อของอีกคนหายไป
ต่อให้ควานหาข้างหน้าเท่าไหร่ก็ไม่เจอ จนต้องลืมตาตื่นขึ้น
และเมื่อมองไปทั่วทั้งห้องเขาก็พบความจริงว่าหญิงสาวคนนั้นได้จากไปแล้ว
เหลือเพียงแต่ชุดคลุมอาบน้ำที่เธอใส่เมื่อคืนหล่นอยู่บนพื้น
ความเย็นเฉียบของเครื่องปรับอากาศทำให้รู้สึกหนาวสั่นอย่างประหลาด
แม้ว่าจองกุกจะเป็นห่วงหญิงสาวก็ไม่มีทางติดต่อได้อีก
10โมงเช้าแล้ว
ทุกอย่างสิ้นสุดลง
เธอและตัวเขากลายเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าต่อกันแล้ว
ข้างในอกรู้สึกถึงความหน่วงปนปวดแปลบ หัวของจองกุกคิดถึงเรื่องเมื่อคืน
ที่เขาเผลอใช้อารมณ์ทำให้ค่ำคืนแรกของหญิงสาว
มันค่อนข้างดุดันไม่ได้ค่อยเป็นค่อยไปอย่างที่ควรเป็น
แต่เธอก็ยินยอมไม่ขัดขืนปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยไม่อุธรณ์ใด ๆ ดวงหน้าแดงกร่ำ
ดวงตาฉ่ำวาวไปด้วยหยาดน้ำตา ริมฝีปากที่เผยอหอบหายใจจากแรงรักที่จาบจ้วงยังคงติดตรึงในความรู้สึกของชายหนุ่ม
เขาใช้เวลาอยู่นานบนเตียงก่อนจะค่อยๆ
เขยิบตัวเองไปที่ด้านข้างของเตียง
ก่อนจะสังเกตุเห็นกระดาษโน้ตที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง จองกุกหยิบมันขึ้นมาดู
‘คุณเช็คเอ้าท์ออกได้เลย
ไม่ต้องรอนะ ขอบคุณมากสำหรับบริการเมื่อวาน มันดีมาก ชั้นจะลบคอนแทคของคุณตามเวลา
ไม่ต้องห่วงนะ’
ฝ่ามือที่หยิบกระดาษโน้ตกำแน่นจนกระดาษใบนั้นยับย่นไปตามแรงมือ
จองกุกไม่รู้ควรรู้สึกยังไง เขาควรดีใจที่งานจบลง
แต่เขารู้สึกปวดหน่วงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ความรู้สึกที่ชอบใครสักคนเป็นความรู้สึกที่ไม่ควรมีในการทำงานนี้
รุ่นพี่หลายคนคอยเตือนเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน
ซึ่งเขาก็ผ่านใครก็ใครหลายคนโดยยึดถือสิ่งนั้นมาจนกระทั่งตอนนี้
เธอเป็นผู้หญิงที่แตกต่างไปจากคนที่ชายหนุ่มเคยเจอก่อนหน้า
เป็นผู้หญิงที่น่ารัก แม้ว่าจะนิ่งเงียบไปบ้าง มีความคิดอะไรบางอย่างภายใจ
แต่ก็ดูใส่ใจคนอื่นดี โดยเฉพาะเวลาที่สนใจบางอย่าง
ดวงตาของเธอมีประกายวาววับบางอย่างเล็ดรอดออกมา
นั่นเป็นภาพที่น่าดูที่สุดสำหรับเขา
ถ้าเกิดเป็นเขาก่อนหน้านี้คงบอกไปตามตรงว่าอีกฝ่ายไม่ได้เป็นสาวในอุดมคติของเขาเป็นแน่
และแม้ว่าเธอเองจะแก่กว่าเขาแต่ไม่ได้ทำให้ตัวเองดูอาวุโสกว่าแม้แต่น้อย
นั่นทำให้เขากล้าที่จะทำความรู้จักกับหญิงสาวให้มากขึ้น
เขารู้ว่าเธอเองก็มีใจให้เขา
แต่เธอไม่มีทางรู้อีกต่อไปแล้วว่าเขาเองก็มีใจให้เธอเช่นกัน
คุณมองหน้าจอคอมพิวเตอร์นิ่ง
ไม่เป็นอันทำงาน ใจคุณเหม่อลอยออกไปไกลถึงเรื่องอื่น
ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเป็นประจำในหมู่นี้
บางครั้งคุณก็เหมือนคนอกหักตามคำบอกเล่าของคนอื่น
คุณนิ่งเงียบตามจากปกติที่ดูเป็นมิตรเเละเป็นที่พึ่งพาอาศัยได้ของคนทั้งแผนก
คงมีอยู่เรื่องเดียวที่คุณคิดมาตลอดสองอาทิตย์
คือเรื่องการใช้จ้างเดทครั้งเเรกเเละน่าจะเป็นครั้งเดียวในชีวิตของคุณ
คุณพยายามตัดใจตั้งเเต่เช้ามืดวันนั้นที่คุณปล่อยอีกฝ่ายไว้คนเดียวที่โรงเเรมนั่น
เลือกนั่งรถกลับมาเองพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความเศร้า
เเต่ก็ดูเหมือนจิตใจของคุณจะไม่ได้ตามเจ้าของร่างมาด้วย
จนดูเหมือนคุณทิ้งมันไว้ที่โรงเเรมเเห่งนั้น ทิ้งมันไว้กับเขา
เเต่คุณรู้ตัวเองดี
คุณพยายามบอกตัวเองว่าคุณอาจจะหวั่นไหว ไปกับบริการของเขาก็ได้
เเละเเน่นอนมันไม่มีทางเป็น ความรัก ได้เลย ในเมื่อมันเป็นเเค่เพียง งาน
ของอีกฝ่ายเท่านั้น ไม่มีความเป็นไปได้ใดๆ เลย ทางที่ดีที่สุดก็เพียง รักข้างเดียว
เขาไม่มีวันมารักคนอย่างคุณตอบอยู่เเล้ว
เพราะคุณตัดสินใจลบคอนเเทคของเขาตั้งเเต่วันนั้น ตามกฎของเว็บๆ นั้น
เเม้ในใจคุณจะคาดหวังในใจลึกให้อีกฝ่ายติดต่อกลับมา
มันก็ไม่เคยมีปาฏิหารย์เกิดขึ้นเลยจนถึงตอนนี้
"....." คุณหันไปตามเสียงเรียกก็พบเพื่อนร่วมงานที่เจอเมื่ออาทิตย์ก่อนยืนอยู่ด้านหลังมีท่าทีดูเป็นห่วงเป็นใย
คุณรู้สึกผิดหวังในตัวเองที่เริ่มทำให้คนอื่นเป็นห่วงคุณมากขึ้น
"ทะเลาะกับแฟนเหรอ"
ดูเหมือนทุกคนจะรู้หมดเเล้วหลังจากวันนั้นว่าคุณมีคนคบหาอยู่
จากปากของเพื่อนร่วมงานคนนี้
คุณเงียบไม่ได้ปฏิเสธ
คุณไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เพื่อนของคุณฟังดีว่า จองกุกไม่ใช่แฟนของคุณเเล้ว
อีกฝ่ายดูยิ่งเป็นห่วงคุณมากกว่าเดิม
"พูดกับเราได้นะ
ถ้าเธอมีเรื่องไม่สบายใจ" เพื่อนสาวคนนั้นเสนอตัว
เเต่คุณก็ไม่ได้เล่าเรื่องทั้งหมดออกไป คุณเเค่พูดออกไปว่าคุณกับแฟนหลอกๆ
นั้นผิดใจกันเล็กน้อย อีกฝ่ายดูรับฟัง ไม่ได้ขัดอะไร
ก่อนจะชวนคุณออกไปหาอะไรทำในวันพรุ่งนี้ที่เป็นวันหยุด
คุณตอบตกลงเพราะคุณเหนื่อยที่จะเพ้อกับเรื่องในอดีตแบบนี้เเล้ว
คุณอยากลองเปลี่ยนตัวเองดูสักครั้ง อย่างน้อยก็เพื่อที่จะไม่ต้องอยู่กับมัน
อยู่กับคุณคนเดิมที่คนๆ นั้นไม่ได้ชอบคุณเลยเเม้เเต่น้อย ต่อจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเข้ามาคุณสัญญากับตัวเองว่าจะพร้อมรับมันทุกอย่าง
เพื่อจะได้เป็นคุณคนใหม่
วันต่อมาคุณเเละเพื่อนร่วมงานอีกสองสามคนไปเดินชอปปิ้งในห้างด้วยกัน
เเรกเริ่มเดิมทีคุณไม่ใช่คนชอบชอปปิ้งเสียด้วยซ้ำ
ที่คุณชอบทำส่วนใหญ่ก็คือหมกตัวอยู่ในร้านหนังสือเเละร้านขายเกมเสียเป็นส่วนใหญ่
ส่วนเรื่องเสื้อผ้าคุณชอบใส่เเบบสบายเพราะฉะนั้นทุกคนในที่ทำงานมักได้เห็นคุณใส่เเบบเดิมๆ
เป็นประจำ เเต่วันนี้คุณอยากลองเปลี่ยนลุคตัวเองดู เมื่อคุณบอกสิ่งที่อยู่ในใจ
เพื่อนๆ ต่างก็กระตือรือร้นในการแปลงโฉมคุณ เรียกว่าคุณสามารถรื้อเสื้อผ้าที่มีในตู้ทิ้งทั้งหมดได้
ขณะที่ทุกคนดูสนุกกับการเเต่งเติมคุณให้มีชีวิตชีวา
มันกลับทำให้คุณดูไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองนัก
จากคุณที่ใส่เสื้อสบายๆ
ในตอนเเรก
กลับเป็นชุดมินิเดรสชีฟองสีดำขับผิวเปิดไหล่เนียนสองข้างและรองเท้าส้นสูงพร้อมสายรัดส้น
ด้วยความสูงของมันทำให้คุณไม่ค่อยสบายใจ เเม้ว่าคุณจะเคยได้ใส่มาบ้าง
ทรงผมจากที่เคยปล่อยสยาย โดนจับเกล้ารวบเป็นมวยเเต่ผมข้างหน้าถูกปล่อยตามเดิม
เเต่ทุกคนก็ช่วยพูดปลอบคุณให้มีความมั่นใจขึ้น
พร้อมทั้งใบหน้าที่ถูกเติมสีสันในยามนี้ เหมือนกับเป็นคนละคนกับตอนเช้า
คุณไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองนักทันทีที่เดินออกมาจากร้านเสื้อผ้า
คุณรู้สึกได้ถึงสายตาบางคู่ที่จดจ้องมาทางคุณโดยเฉพาะ
ใจนึงคุณอยากจะเปลี่ยนกลับเสียให้รู้เเล้วรู้รอด เเต่อีกใจกลับให้คุณเดินต่อไป
พร้อมทั้งเสียงเชียร์ของคนอื่นๆ นั่นทำให้คุณเกรงใจที่ทุกคนอุตส่าห์ช่วยคุณ
นั่นทำให้คุณสะบัดไล่ความคิดเปลี่ยนชุดเดิมออก
พวกคุณอยู่ด้วยกันจนถึงตอนเย็น
ตอนนี้คุณนั่งอยู่ในร้านอาหารกึ่งผับบรรยากาศเปิดโล่งเพราะร้านตั้งอยู่บนดาดฟ้าของตึกเเถวเเห่งหนึ่ง
ลมกำลังพัดเย็นสบาย ดูเหมือนว่าการมาชอปปิ้งกับเพื่อนๆ จะได้ผล
มันทำให้คุณหยุดคิดเรื่องน่าปวดหัวได้ดีทีเดียว
ผู้คนมากมายจับจองโต๊ะกันจนเกือบจะเรียกว่าหนาตา
ขณะที่มีเพลงสากลเปิดคลอไปท่ามกลางเสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานภายในร้าน
คุณกลับมานิ่งเงียบอีกครั้ง จนคนอื่นในโต๊ะต้องเรียกคุณตอนที่คุยกันอย่างออกรส
ซึ่งคุณก็ทำได้เเค่เออออตามไปเท่านั้น ถึงเเม้ว่าคุณจะเคยออกมาดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆ
บ้าง เเต่ก็ดูเหมือนว่าคุณไม่ค่อยเอนจอยกับงานพวกนี้เท่าไหร่นัก ยังไงก็ไม่สามารถทดแทนกับการที่คุณได้อยู่กับตัวเองไม่ได้เลย
การมาสถานที่เเบบนี้มันค่อนข้างทำให้เหมือนกับโดนดูดพลังงานไป
"คุณลูกค้าครับ..."เสียงเรียกดังมาจากข้างหลังคุณ
พร้อมกับการเสิร์ฟม๊อกเทลเเก้วเล็กๆ วางลงบนโต๊ะข้างๆ คุณ
คุณเเละทุกคนจำได้ว่าไม่ได้เป็นคนสั่ง
นั่นทำให้เครื่องดื่มเเก้วกลายเป็นที่สงสัยของทั้งโต๊ะ
"อันนี้ไม่ได้สั่งนะคะ"
หนึ่งในเพื่อนร่วมโต๊ะของคุณกล่าว พนักงานอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขึ้นมา
"มีลูกค้าโต๊ะสั่งให้คุณผู้หญิงท่านนี้ครับ"
พนักงานคนนั้นผายมือมาทางคุณ
เพียงเท่านั้นก็สามารถเรียกเสียงโวยวายจากเพื่อนร่วมโต๊ะของคุณได้ทั้งหมด
คุณที่ไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้รับมือไม่ถูก
พนักงานคนเดิมสะกิดให้คุณหันไปมองโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆ กัน
ทั้งโต๊ะก็เป็นผู้ชายเรียกได้ว่าหน้าตาดี
ชี้ไปทางคนที่สั่งม๊อกเทลที่กำลังมองคุณด้วยเหมือนกัน คุณยิ้มรับเเทนคำขอบคุณ
เเต่คุณก็ไม่ได้มีท่าทีสนใจมากนัก
อันที่จริงคุณควรจะดีใจในตอนนี้
ตอนที่มีคนให้ความสนใจในตัวคุณ เเต่ทุกอย่างมันทำให้คุณไม่รู้สึกถึงอะไรเลย
มันไม่ใชความรู้สึกไม่ดี เเต่หากเสียงในอกที่ควรจะเต้นรัวกลับนิ่งสนิท
ขณะที่คุณคิดว่าจะขอกลับบ้านก่อนดีไหมเพราะคุณรู้สึกไม่มีอารมณ์ร่วมเลยเพลงที่เปิดคลออยู่ก็ปิดลงกลายเป็นเสียงกีต้าร์โปร่งขึ้นมาพร้อมกับเสียงนักร้องของผับเเห่งนั้น
ทุกคนปรบมือเกรียวกราวรวมทั้งที่โต๊ะของคุณ ยกเว้นคุณที่สนใจเเต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนโต๊ะเสียมากกว่า
“เดี๋ยวๆ
นักร้องน่ะ.... แฟนแกป่ะ” เสียงของเพื่อนคนนึงในโต๊ะดังขึ้น
คุณที่ไม่ได้สนใจฟังเสียงนั้นก็โดนดึงแขนให้มาสนใจที่เวที ตาคุณมองตาม
แล้วก็ได้เจอกับเขาคนนั้น
ชายหนุ่มที่ทำให้หัวใจของคุณวุ่นวายเป็นอาทิตย์
ตอนนี้กลับร้องเพลงอยู่บนเวที พร้อมกับมือกีต้าร์คนนึง
ชายหนุ่มดูต่างออกไปจากเดิมไม่น้อย
เพราะว่าตอนนี้เขาอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ที่มีรอยขาดตามแฟชั่น
แม้ว่าจะดูธรรมดาแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ของอีกฝ่ายลดลง คุณพยักหน้าเบาๆ
อย่างไม่ได้สติกับคำถามนั้น
เพลงที่จองกุกร้องออกมาเป็นเพลงสากลของนักร้องหญิงที่คุณชอบ
เนื้อเพลงกล่าวถึงหญิงสาวที่คิดถึงชายหนุ่มคนรักที่ต้องเลิกรากัน
ชายหนุ่มผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง และอ้อนวอนขอให้อีกฝ่ายกลับมารักกันเหมือนเดิม
เสียงกรี๊ดของสาวๆ
ในร้านดังคลออยู่เป็นระยะ คุณสังเกตได้ทันทีว่าน่าจะเป็นเพราะความนิยมในตัวนักร้องหนุ่มบนเวที
แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนที่ดูเหมือนจะเจนเวทีเสียสมาธิเลยแม้แต่น้อย
รวมถึงเพื่อนร่วมโต๊ะของคุณที่ดูจะสนใจและส่งเสียงเป็นพิเศษเพราะยังเข้าใจอยู่ว่าคุณเป็นแฟนกับจองกุก
ไม่ว่าจะเพราะเสียงร้องของชายหนุ่ม
หรือเนื้อเพลงที่ฟัง สิ่งเหล่านั้นก็ทำให้จิตใจของคุณที่เคยห่อเหี่ยวกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง
ทันทีบทเพลงนั้นจบลงขณะที่คุณกำลังคิดว่าจะเข้าไปทักอีกฝ่ายดีไหม
เสียงที่คุ้นเคยบนเวทีก็ดังขึ้นมา
“เมื่อสักครู่มีคนขอเพลงนะครับ”
จองพูดดูก่อนจะอ่านข้อความในกระดาษนั้น “จากโต๊ะ 4 ขอเพลง Treasure
ของ Bruno Mars ให้ผู้หญิงเสื้อดำ โต๊ะ 7
นะครับ” ลักษณะที่จองกุกเอ่ยออกมานั้นเป็นคุณทุกข้อ เพื่อนๆ
ในโต๊ะเริ่มทำหน้าเสีย
ในขณะที่คนอื่นจากรอบโต๊ะมองคุณเป็นตาเดียวรวมทั้งคนบนเวทีด้วย
ทันทีที่คุณสบตากับชายหนุ่มดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างประหลาดใจก่อนเสี้ยววินาที
มันจะลุกวาวระคนขุ่นเคืองทำเอาคนมองรู้สึกได้ถึงความเย็นวาบในทันที
คุณรู้ตัวว่าอีกฝ่ายจำคุณได้แทบจะในทันทีถึงแม้เปลี่ยนการแต่งตัว
และเพลงที่มีคนขอให้จองกุกร้องก็ดังขึ้นเคล้าไปกับเสียงกีตาร์
เสียงร้องของอีกฝ่ายมันละมุนชวนฟังและเข้ากันได้ลงตัวกับเครื่องดนตรีนั้น
ไม่รู้ว่าคุณคิดไปเองหรือเปล่าว่ากำลังมองคุณอยู่ตลอดเวลาที่ร้องเพลงนั้น
Give me your, give me
your, give me your attention baby
I got to tell you a
little something about yourself
You’ re wonderful,
flawless, ooh you’ re a sexy lady
But you walk around
here like you wanna be someone else
คุณรู้สึกอยากแทรกแผ่นดินหนีไปเสียตอนนี้
คุณดีใจที่ได้เจออีกฝ่ายอย่างแน่นอน แต่ในเวลานี้คุณอยากหายตัวไป
บรรยากาศชวนกระอักกระอ่วนที่เกิดขึ้น คงไม่ดีเท่าไหร่ที่เข้าไปคุยกับจองกุก
เพื่อนๆ ทุกคนเห็นด้วยที่จะกลับเพราะสิ่งที่เจออยู่ อาจจะทำให้คุณและ (คนที่เข้าใจกันว่าเป็น)
แฟนของคุณมีปัญหากันในภายหลัง
Treasure, that is what you are
Honey you’ re my
golden star
And if you could make
my wish come true
If you let me treasure
you
If you let me treasure
you
ทุกคนที่โต๊ะผลัดกันไปเข้าห้องน้ำ
โดยคุณไม่ยอมไปเข้าเพราะอยากจะออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
เหงื่อผุดขึ้นมาตามผิวเนียนที่โผล่พ้นเดรสเปิดไหล่สีดำ
เมื่อบทเพลงใกล้จะจบลงนักร้องหนุ่มเดินลงมาจากเวที
เป้าหมายคือคุณที่นิ่งงันเพราะกำลังตกใจที่อีกฝ่ายรุกเข้าหา
ทุกคนในร้านส่งเสียงร้องเกรียวกราวปนฮือฮา เดาสถานการณ์ไม่ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
You are my treasure,
you are my treasure
You are my treasure,
yeah, you you you, you are
You are my treasure,
you are my treasure
You are my treasure,
yeah, you you you, you are
ตอนนี้เขายืนต่อหน้าคุณ
ไฟจากสปอร์ตไลท์ส่องที่พวกคุณที่กำลังมองกัน คุณแทบไม่ได้ยินเสียงจากคนรอบข้างเลย
คุณเหมือนตกอยู่ในภวังค์ของอีกฝ่ายจนยากจะถอนตัว
ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันเมื่ออาทิตย์ก่อนค่อยๆ ไหลบ่ากลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง
กว่าคุณจะทันรู้ตัว เมื่อทุกเสียงเงียบสงัดลง จองกุกก็แนบริมฝีปากลงมาที่อวัยวะเดียวกันกับคุณ
เมื่อบทเพลงจบสิ้นลง
มันเต็มไปความค่อนข้างวุ่นวายกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ทุกคนที่อยู่ในร้านผงะกับการกระทำของชายหนุ่ม
ความปั่นป่วนทั้งหมดก็จบลงด้วยการอธิบายของจองกุกคำเดียวว่า ‘แฟน’
แม้ตัวนักร้องหนุ่มจะโดนเอ็ดจากเจ้าของร้านไม่น้อย แต่ก็ยังใจดีให้ยืมห้องพักที่ชั้น2 เพื่อเคลียร์กับคุณที่ยังปรับตัวกับเรื่องนี้ไม่ได้
นั่นทำให้เพื่อนๆ ของคุณกลับก่อนไปโดยปริยาย ทั้งสองยืนอยู่ในห้องด้วยความเงียบงัน
“ไม่ยักรู้ว่ามีงานอดิเรกแบบนี้ด้วย”
ประโยคแรกก็สร้างความไม่พอใจให้กับคุณพอดูทีเดียว ฝ่ามือหนาเกี่ยวแขนเดรสตัวเล็กไว้
“หมายความว่าไง”
สายตาขึงขังของคุณถูกส่งไปให้อีกฝ่าย
“ทีแรกก็ดูเนิร์ดๆ
ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็นคนละคนเลย” บรรยากาศในห้องเริ่มอึดอัดมากขึ้นทุกที
รอยหยักยิ้มของจองกุกกวนอารมณ์ของคุณจนน่าโมโห
“จะพูดแค่นี้ใช่ไหม...”
คุณพยายามสกัดกลั้นอารมณ์ไม่ให้เผลอแยกเขี้ยวใส่ชายหนุ่ม ใบหน้าเริ่มแดงกร่ำจากความโกรธ
พยายามสะบัดให้พ้นจากการเกาะกุมของเขา แต่ก็โดนลำแขนแกร่งโอบล้อมตัวเองไว้
“ที่คุณเคยพูดว่าชอบน่ะ
ลืมมันแล้วเหรอ แล้วจะมาที่นี่ทำไม” สายตาตัดพ้อถูกส่งกลับมาทันทีที่ประโยคนั้นจบ
คุณหลบตาสีหน้าคล้ายจะร้องไห้
“โครตไม่แฟร์เลย” น้ำตาไหลคลอเต็มหน่วย “ไม่เคยติดต่อกลับมาจะร้องเรียกร้องอะไร” ตัวของคุณเริ่มสั่น จองกุกจับความผิดปกติได้ อ้อมกอดรัดแน่นขึ้นอย่างปลอบประโลม คุณพยายามผลักออกแต่ก็แพ้แรงอีกฝ่าย
“คุณต่างหากที่หนีผมก่อนนะ”
คุณชะงักที่เขาพูดมาก็มีความจริงอยู่คุณหนีออกมาก่อน แถมลบช่องทางติดต่อของเขาทิ้ง
“ก็...ไม่ได้ชอบชั้นไม่ใช่รึไง”
“แล้วบอกตอนไหนว่าไม่ชอบ”
เขาโต้กลับ คุณสะอึก
“ก็ไม่เคยบอกอะไรเลย
ที่ทำอยู่เนี่ยเพราะอยากจะลืมนายยังไงเล่า”
คุณเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะแพ้ราบคาบให้กับคำพูดของชายหนุ่ม
“แล้วลืมไหม?”
จองกุกใช้มือข้างนึงเชยคางของคุณขึ้นเพื่อสบตา
คุณถอนหายใจก่อนมองตาอีกฝ่ายแทนคำตอบ แม้ว่ายังคงมีหยาดน้ำไหลออกจากดวงตาเล็กน้อย
คุณทั้งคู่จ้องตากันอยู่นาน โดยที่ไม่พูดอะไร
จนคุณต้องฝ่ายหลบตาก่อนทันทีที่ได้สติ “ผมชอบคุณนะ ได้ยินไหม”
นิ้วหัวแม่โป้งปาดหยาดน้ำออกจากใบหน้าของคุณ
คำพูดนั้นทำให้คุณใจสั่นระรัวที่สุดในรอบสองอาทิตย์ที่ผ่านมา คุณทำตัวไม่ถูกกับคำพูดของเขา
จนจองกุกรู้สึกเหมือนกับว่าคุณยังไม่เชื่อใจเขา
“ไม่เชื่อผมเหรอ”
สีหน้าสงสัยของชายหนุ่มที่จับจ้องคุณ
“เปล่า”
คุณปฏิเสธพลางส่ายหน้าเบาๆ “แค่...ทำตัวไม่ถูก”
ประโยคนั้นก็เรียกรอยยิ้มของอีกฝ่ายออกมา จองกุกก้มซบไหล่คุณด้วยความเอ็นดู
ขณะที่ยังไม่ปล่อยอ้อมกอด
“ผมไปที่ ๆ เราเคยไปด้วยกัน แต่ก็ไม่เจอคุณเลย” ชายหนุ่มค่อยๆ พูดขึ้น หลังจากวันนั้นเขาก็ตัดสินตามหาอีกฝ่ายจริง ๆ เพราะความรู้สึกที่ไม่เคยเปลี่ยนไปนับแต่ตอนนั้น โดยไปที่ห้างแห่งนั้นเกือบทุกวันเท่าที่ทำได้ แต่ก็ไม่เจอคุณเลย เพราะคุณเองก็ไม่ได้ไปที่นั่นเหมือนกัน
“แล้วงานของนาย”
“ผมลาออกแล้ว”
ชายหนุ่มพูดพลางยิ้มไปถึงนัยน์ตา เขาไม่ได้ใช้เวลาในการตัดสิน
ขณะที่คนรอบข้างบอกให้เขาคิดดูให้ดี เขาแค่รู้สึกว่าถึงเวลาที่ต้องศึกษาดูใจกับใครสักคนอย่างจริงจังเสียที
แม้ว่าจองกุกจะเป็นที่นิยมสูงในเว็บไซต์นั้น ทุกคนดูเสียดายแต่เขาไม่เสียใจเลย
ดวงตาของคุณเบิกโพลงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ก่อนจะค่อยๆ หรี่เล็กลงจนเป็นปกติ “แต่นายชอบงานนั้น” ที่คุณพูดก็มีส่วนถูก
เขาชอบงานนี้มันทำให้เขาได้ทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ แต่อย่างที่กล่าวก่อนหน้านี้
“แต่ถ้าเราจะคบกันก็ต้องจริงจังไม่ใช่รึไง”
คุณย่นคิ้ว ยังไม่ชินกับสถานะใหม่ที่เขามอบให้
“ทำไมชอบทำหน้าประหลาดอยู่เรื่อยเลย” นิ้วชี้จิ้มเข้าที่ระหว่างคิ้ว
“มันไม่ชินนี่
แถมยังไม่ได้ขอคบเลยด้วยซ้ำ” คุณบ่นอุบ หลุบตาไปมองทางอื่น
“งั้นคบกันนะครับ”
ดวงตากลมโตของชายหนุ่มกระพริบถี่อย่างออดอ้อน ก่อนจะระดมจุ๊บไปทั่วใบหน้าของคุณ
จนตอนนี้ทั้งดวงหน้าก็ระเรื่อจากอุณหภูมิภายในร่างกาย
“พอแล้ว...”
คุณร้องเสียงหลงพยายามหลบจากการโจมตีของจองกุก เพราะมัวเอาแต่หลบจองกุกจนไม่ทันรู้ตัวว่าโดนอีกฝ่ายลากมาจนติดฝาผนังข้างนึงของห้อง
สายตาของจองกุกเปลี่ยนไป มันเข้มข้น ลุกวาว
จนคนมองถึงรู้สึกตัวว่าโดนกักขังอย่างสมบูรณ์แบบจากเขา
ทุกสิ่งนิ่งไร้การเคลื่อนไหว มีเพียงเสียงลมหายใจกับเสียงเครื่องปรับอากาศเท่านั้น
“ถ้าไม่ยอมตอบ
จะให้อย่างอื่นตอบแทนนะครับ”
จองกุกโน้มหน้าเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนของชายหนุ่ม
“อย่างอื่นอ่ะ
อะไร...ลามก!” คุณโวยวาย
พยายามดิ้นหนีออกจากการจับกุมของเขาแต่ว่าอีกฝ่ายก็ไม่ขยับสักนิด
“ยังไม่ได้บอกเลยว่าอะไร
...คุณก็ลามกเหมือนกันนะครับ” จองกุกยิ้มกวนอย่างจงใจแกล้ง ไม่ทันที่เขาพูดอะไรต่อคุณค้อนวงโตเผลอเม้มริมฝีปากด้วยความสับสน
“เคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่าเม้มปาก” นิ้วโป้งของคนพูดกดลงที่ริมฝีปากจนเผยออ้าออก
ก่อนตามด้วยการโน้มคอลงมาประทับจูบแนบแน่น
สัมผัสที่ไม่ได้รับเป็นเวลานานก็หวนคืนกลับมาอีกครั้ง
ฝ่ายรุกไล่มอบสัมผัสเหล่านั้นด้วยความโหยหาทั้งหมดที่มีจนคุณไม่รู้ว่าจะตอบรับสิ่งนั้นได้อย่างไร
จองกุกยังคงป้อนจุมพิตที่สร้างความปั่นป่วนไปทั่วท้องน้อย
แทบทำให้ลมหายใจของคุณหมดลง
ฝ่ามือหนาเกลี่ยไปทั่วไหล่เนื้อเนียนพ้นที่เดรสตัวเล็กออกมา
ไล่คืบไปตามสีข้างลำตัวจนคุณสะท้านด้วยความรุ่มร้อนจากฝ่ามือของเขา
ฝ่ามือของคุณทุบเข้าที่อกแกร่งเพื่อประท้วงขออากาศหายใจคืน
ชายหนุ่มยอมผละออกแม้จะไม่วายประทับกลีบปากซ้ำลงมาบ้าง
และยังคอยวนเวียนไปไกลจากกรอบหน้าของคุณ
“ไม่ไหวแล้ว....
คบค่ะ คบแล้ว อย่าเอา...หน้าเข้ามา!” คุณละล่ำละลักพูดทั้งที่ยังหอบโกยลมหายใจเข้าปอดอยู่
แต่ใบหน้าหล่อเหลานั้นยังโน้มเข้ามาคล้ายจะแกล้งกัน
“หมดเวลาไปตั้งนานแล้ว...ต้องโดนลงโทษนะ”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา คุณส่ายหน้าพัลวันไม่ยินยอม
“ยังไม่ทันได้นับอะไรเลยนะ”
คุณโต้
“ผมนับในใจไง”
จองกุกตอบกวน จนคนฟังพูดไม่ออก ชายหนุ่มใช้โอกาสทีเผลอดันร่างคุณนอนราบไปกับโซฟาตัวใหญ่ที่อยู่กลางห้องโดนมีเขาคร่อมบนตัว
“ดะ...เดี๋ยว”
ชายหนุ่มส่ายหน้าก่อนจะทิ้งตัวลงมาจนทาบทับร่างทั้งสองร่างแทบเป็นเนื้อเดียวกัน
ความร้อนวาบจากร่างของเขาทำให้คุณขนลุกชันไปทั้งตัว “จะทำที่นี่จริง ๆ เหรอ”
สีหน้าหวาดหวั่นของคุณทำให้เขาคลี่ยิ้มอย่างเอ็นดู
“แค่ Make
out* เฉยๆ ได้ไหมครับ” ดวงตาคมมองแป๋วมาที่คุณไม่รู้จักคำ ๆ นั้น
เจ้าของคำถามเห็นแบบนั้นจึงต้องก้มตัวลงแนบริมฝีปากลงที่ใบหูพร้อมกับอธิบายความหมาย
นั่นก็ทำให้คุณหน้าแดงแปร๊ดทันทีที่มันจบลง คุณทำทีคิดหนักสบสายตากับอีกฝ่ายครู่นึง
ก่อนจะอนุญาตด้วยการพยักหน้าไม่พูดอะไร
จองกุกยิ้มกริ่มอย่างดีใจ
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วขอตักตวงจากคนตรงหน้าให้สมกับความคิดถึงซะหน่อยเถอะ
....100% loaded
-----------------------------------------------------
50% : ขอโทษทุกคนที่หายไปนานด้วยนะคะ เขียนไม่ออกจริงๆนั่นเเหละเพราะน่าจะกลับมาเครียด บวกกับซึมเศร้าที่มีอยู่เดิม ก็บอกได้เลยนะคะว่าเบลอมาก 5555555 ช่วงเวลาที่ได้เขียนฟิคมันก็มีความสุขดี เเต่อเริ่มวัยกลางคนมีบางอย่างให้ต้องคิดเยอะ ปัญหาวัยกลางคนที่เเท้ทรู ทุกคนต้องพยายามอย่าเครียดเหมือนเรานะ ต้องมองโลกในเเง่ดีเข้าไว้ เพราะถ้าซีเรียสกับทุกอย่าง โลกมันจะหม่นมากๆๆ เหมือนเรานะคะ 55555 เลยไม่เเน่ใจว่าครึ่งหลังจะมาเมื่อไหร่เลย เเต่ก็พยายามทำจิตให้เเจ่มใสนะคะ ขอบคุณน้องเพ้น(ดอกไม้ในถังสี)พยายามมาคุยกับเราทุกวัน น้องน่ารักมาก สักวันคงได้เจอกัน :3
เอ่อ อีกเรื่องคือเรามี # เเล้วค่ะ ชื่อ #ห้องฟิค101 เผื่อว่าอยากหวีดในโลกทวิตภพกันนะคะ ^^
100 % : ถึงทุกคนไม่ได้เรียกร้องเราก็จะกลับมา ก่อนอื่นเราขออธิบายคำว่า Make out กับการใส่เรทติ้ง M (Mature) หน้าตอนของเราหน่อยนะคะ
เรื่องแรก
จริง
ๆ แล้ว
Make out ตามความหมายพจนานุกรมบางเว็บนี่แปลว่า กอดจูบลูบคลำ
บางที่ใช้คำว่านัวเนีย ในการที่นี่มัน จะไม่เหมือนการ Fore play ที่เป็นการเล้าโลมแล้วนำไปสู่การ....(ละไว้ในฐานที่เข้าใจนะคะ)
เราไม่รู้จะแปลเป็นไทยยังไงดีเลยใช้ทับศัพท์ตามที่เห็นในเรื่องนะคะ
เรื่องสองเลย
5555
ทุกคนหน้าจะงงๆกับระบบการใช้เรทติ้ง
M (Mature)
ของเรานิดหน่อย ขออธิบายความหมายของเรทติ้งนี้โดยที่ fanfiction.net
นิยาม ไว้ดังนี้ค่ะ
“Not suitable for children or teens below
the age of 16 with possible strong but non-explicit adult themes, references to
violence, and strong coarse language.”
ก็คือหน้าหาที่บรรยายถึงเนื้อหาทางเพศ
คำหยาบ ความรุนแรงนะคะ
ในที่นี่ตอนไหนที่มีเรท
M ไว้เราจะใส่ Warning ไว้ด้วยนะคะ
เราจะใส่ไว้ในตอนที่มีเงื่อนไขที่มันมีการบรรยายฉากsex (รวมถึง x, Hand job, masturbation หรืออื่นๆด้วยนะคะ
)อย่างละเอียดนะคะแม้ว่าจะไม่ถึงการสอดใส่ก็ตาม แต่ถ้ากอดจูบเฉยๆเราจะไม่ใส่
นั่นแหละทุกคน
ถ้าไม่เข้าใจเรื่องเรทติ้งอื่น เราจะพยายามหาคำอธิบายมาให้นะคะทุกคน
เจอกันเรื่องต่อไปค่ะ
/ยิ้ม
ความคิดเห็น