คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Good/Enough l RM x You (100%)
"เรื่องงานนิดหน่อยน่ะ" คุณโกหก
หากเเต่คุณกำลังคิดถึงเรื่องราวในอดีตมากมายระหว่างคุณกับนัมจุน เเละที่ๆ
พวกคุณทั้งสองคนต้องไปภายในค่ำคืนนี้ คืนนี้มีงานเลี้ยงรุ่นสมัยมัธยมปลายของคุณ
ซึ่งนัมจุนดูกระตือรือล้นกับการที่จะเจอเพื่อนร่วมรุ่นมากเเต่ไม่ใช่กับคุณ
ในช่วงสมัยมัธยมคุณเป็นเพียงเเค่เด็กสาวธรรมดาที่ใช้ชีวิตไปวันๆ
เรื่องเดียวที่สนใจคงเป็นเรื่องการเรียนกับซ้อมวงโยธวาทิตที่ตัวเองอยู่เท่านั้น
ส่วนอีกฝ่ายเป็นถึงประธานนักเรียน เรียนดี กีฬาเด่น ชอบทำกิจกรรม
จนกลายเป็นหนุ่มป๊อบของรุ่นพี่เเละรุ่นน้องในโรงเรียนอย่างมากมาย
เรียกได้ว่าเขาสมบูรณ์ จนทุกคนไม่มีวันคิดว่าจะมามีทางที่ลงเอยกับคนปอนๆ อย่างคุณได้
เมื่อคุณตัดสินใจคบกันเมื่อเกือบสิบปีก่อน คุณโดนข้อครหามากมายจากคนรอบๆ
ตัวของนัมจุน หลายครั้งหลายหนที่คุณท้อเเท้ต่อคำครหามากมาย
หากเเต่นัมจุนเองก็คอยอยู่ข้างๆ เเละทำให้คุณมั่นใจว่าคุณเลือกคนไม่ผิด
เเต่หากไม่ใช่ในตอนนี้ เมื่ออาทิตย์ก่อนคิม นัมจุน
ถูกโปรโมทขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้จัดการแผนก
ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องน่ายินดีที่คนอายุยังน้อยอย่างเขาได้มีหน้าที่การงานที่ดีกว่า
เเม้ว่ามันจะหมายถึงตัวคุณเองที่เป็นเเค่พนักงานกินเงินเดือนทั่วไป
เเละดูไม่มีความหวังการเติบโตไปเทียบเท่าอีกฝ่ายเลยก็ตาม
คุณรู้สึกถึงความรู้สึกที่มีมาตลอดเวลาที่คบกับนัมจุน
มันกลับมาประดังประเดอีกครั้ง จนคุณสลัดมันออกไม่ได้ในระยะนี้
คุณตั้งคำถามกับตัวเองครั้งเเล้วครั้งเล่า
ว่าที่ผ่านมาคุณเคยดีพอสำหรับเขาหรือเปล่า
เดือนก่อนพวกคุณได้รับจดหมายเชิญมางานเลี้ยงรุ่นที่โรงเรียนที่คุณเเละเขาต่างก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี
ในทีเเรกคุณตัดสินใจจะไม่ไปงานเพราะคุณทำงานอย่างหนัก จนไม่มีเวลาพักผ่อน
เเต่เป็นนัมจุนเองที่เสนอว่าอยากไปเจอเพื่อนๆ ที่งานเลี้ยงนี้
เขาดูตื่นเต้นเป็นพิเศษที่จะได้พบกับคนอื่นที่จะมาในงานเลี้ยง
เพราะไม่ว่าจะไปไหนในช่วงนี้อีกฝ่ายก็คุยเรื่องนี้กับเธอเเละโทรหาเพื่อนเก่าๆ
ที่ไม่ได้เจอกันนานตลอด
อีกใจคุณก็ไม่อยากไปเพราะคนรอบตัวของเขาตั้งอคติมากมายกับคุณในอดีต เเม้ว่าจะผ่านมานานเเค่ไหนคุณก็รับมือกับคำเหล่านั้น
ไม่ได้เสียที เเต่ก็ยอมมางานนี้เพราะคำขอร้องของเขา
คุณได้เเต่ข่มความไม่อยากลงจากรถของตัวเองเอาไว้เมื่อรถยนต์จอดสนิท
นัมจุนมองด้านนอกรถอย่างสนอกสนใจก่อนจะดับเครื่อง เเล้วลงเดินมาหาตัวคุณที่อยู่อีกฝ้ากของรถ
เปิดประตูฝั่งคุณออก ดูเชคการเเต่งกายของตัวเองเเละนัมจุนอีกรอบ
วันนี้คุณทั้งคู่ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนส์ขายาวสีซีด
เเละสวมรองเท้าคอนเวิร์สเข้าคู่กันเป็นอย่างดี
ส่วนที่มาก็เพราะชายหนุ่มเป็นคนเสนอเอง ปกติคุณทั้งคู่ไม่เคยเเต่งตัวคู่กันมาก่อน
คุณที่ไม่รู้ว่าจะเเต่งตัวแบบไหนดีจึงเออออตามไปโดยง่ายดาย
"ไปกันเถอะ.."น้ำเสียงนุ่มทุ้มนั้นมีความตื่นเต้นในทีที่จะได้เจอเพื่อนเก่า
นัมจุนจับมือคุณกุมไว้หลวมๆ พาเดินไปด้วยกัน พอเดินมาถึงที่หอประชุมที่จัดงาน
ทุกอย่างเหมือนกับถูกสตาฟเอาไว้ตั้งเเต่วันที่คุณจากมา
เพียงเเต่ตอนนี้มันถูกประดับไฟมากมายให้เข้ากับงาน มีโมบาย เเละลูกโป่งถูกห้อยบนเพดานประดับตกเเต่งด้วยสีของโรงเรียน
คุณยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างหวั่นๆ ก่อนก้าวลงจากรถอย่างไม่เเน่ใจ
พอเข้ามาถึงในงานก็พบกันคนที่คุ้นหน้าคุ้นตา
เมื่อคนเหล่านั้นรับรู้การมาของคุณเเละเขาก็ค่อยๆ มองมาที่พวกคุณเป็นตาเดียว
สายตาของพวกเขาทำให้คุณรู้สึกแปลก คุณทำพยายามทำตัวเป็นปกติ
กลบความรู้สึกไม่ดีไว้ข้างใน
"เฮ้ยยย! " คุณหันหลังกลับไปมองก็พบ
ชายหนุ่มเจ้าของดวงตายิ้มที่คุณกำลังโบกมือไม้ให้พวกคุณอยู่
คุณรีบเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายทันทีด้วยความคิดถึง
"โฮซอก! " นั่นคือชื่อของเพื่อนคุณ
อดีตหนุ่มป๊อบอีกเบอร์ของโรงเรียน ที่ตอนนี้ดูยังไงหน้าตาก็ไม่ได้เปลี่ยนจากเเต่ก่อนเลยแม้เเต่น้อย
ทั้งคุณเเละโฮซอกเป็นเพื่อนห้องเดียวกัน ขณะที่นัมจุนเป็นเพื่อนต่างห้อง คุณโบกมือทักทายกลับ
ดูอีกฝ่ายเองดีใจที่ได้เจอกับคุณ
"ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ยังคบกันเหมือนเดิมเลยเนอะ"
สายตาคนพูดมองไปทางนัมจุน ซึ่งชายหนุ่มก็ทักทายโฮซอกพอเป็นพิธี ตั้งเเต่ที่เรียนจบคุณก็ได้ติดต่อระหว่างกันอยู่บ้าง
เเต่ไม่เคยได้เจอหน้ากันอีกนับตั้งเเต่วันที่เรียนจบ
"อื้ม..."
คุณตอบรับคำนั้น โดยที่รู้สึกแปลกๆ ในใจไม่ได้
"ว่าเเต่นึกว่าแกจะไม่มางานนี้เเล้ว" โฮซอกดูแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นคุณมา
"นัมจุนอยากมา ก็เลยชวนเรามาด้วยน่ะ" คุณบอกอีกฝ่ายเป็นนัย
ๆ ว่าอันที่จริงตัวคุณเองก็ไม่ได้อยากมานัก
"ว่าอยู่เเหละ...เเต่ก็ดีมีเรื่องคุยกันเยอะเเยะเลย
ถ้างั้นขอยืมตัวเพื่อนหน่อยนะ" โฮซอกบอกเป็นเชิงขออนุญาตนัมจุนเพื่อเอาตัวคุณไปคุยด้วยความคิดถึง
ดูแฟนคุณไม่พูดว่าอะไร
โฮซอกเลยรีบจับมือคุณเดินมาที่โต๊ะค๊อกเทลที่อยู่จากเวทีไม่ไกลนัก
ในงานเเบ่งสัดส่วนพื้นที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นโซนอาหารที่อยู่ตรงกลางของหอประชุม
โซนสำหรับเต้นที่หน้าเวที เเละโซนค๊อกเทลที่อยู่เยื้องๆ กัน โดยมีเพลงป๊อบยอดนิยมสมัยที่คุณยังเรียนมัธยมเปิดคลอไปด้วย
"คบกันจะสิบปีเเล้วเหรอ" โฮซอกพูดขึ้นเบาๆ ก็จะจิ๊ปาก
"หมายความว่าไงเนี่ย" คุณพูดด้วยความสงสัย
"เขาดูรักแกดีเนอะ" คุณยิ้มบางๆ ให้กับคำพูดนั้น
"ว่าเเต่ยังไม่ได้เเต่งงานกันใช่ป่ะ" คุณส่ายหน้าปฏิเสธ
อีกฝ่ายดูตกใจเล็กน้อย ก่อนจะทำหน้าเป็นปกติ
คุณกับเขาก็เคยพูดเรื่องเเต่งงานกันอยู่บ้าง แต่ก็หากไม่ได้จริงจังอะไรมากมาย
เพราะคุณเเละเขาเองก็มีความสุขในเเบบที่เป็นอยู่ดี
"ระวังโดนงาบนะเว้ยยยย" โฮซอกพูดเป็นเชิงทีเล่นทีจริง
กลายเป็นคุณเองที่ถอนหายใจออกมา
"แกโกรธป่ะเนี่ย พูดเล่นเฉยๆ นะเว้ย อย่าคิดมาก
หน้าแก่หมดเเล้ว" โฮซอกทำตัวไม่ถูกทีเห็นอาการของคุณ พลางปลอบใจ
"โฮซอกคือว่านะ..."เเล้วคุณก็เล่าสิ่งที่อยู่ในใจให้โฮซอกฟัง
ความอึดอัดที่อยู่ภายในใจของคุณให้อีกฝ่ายได้รับรู้
ดูเพื่อนของคุณดูเห็นใจอยู่ไม่น้อย
"ก็นะ..นัมจุนมันเด่นมาเเต่ไหนเเต่ไร
ก็คงอดรู้สึกแบบนี้มาไม่ได้อ่ะ เรามันดาวเคราะห์โดยเเท้
โดยเฉพาะแก....เเม่ดาวเคราะห์เเคระ"
พูดอีกก็ถูกอีก นัมจุนเปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ของโรงเรียนมาตั้งเเต่ต้นอยู่เเล้ว
ทุกๆ อย่างก็ดูหมุนรอบตัวของนัมจุนไปเสียหมด โดยเฉพาะเธอเองก็เป็นหนึ่งดาวเคราะห์นั้น
ที่ต้องคอยพึ่งพิงเเสงสว่างจากพระอาทิตย์เพื่อให้ตัวเองส่องประกาย
โดยตั้งเเต่เเรกคุณก็เป็นฝ่ายชอบเขาก่อน เพราะความเก่งกาจในทุกๆ ด้าน ทำให้คุณอดที่จะปลื้มไม่ได้
เเต่ต่อมาอีกฝ่ายก็เข้ามาสารภาพรักกับคุณ นั่นเป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับตัวคุณเองเเละคนรอบๆ
ตัวเขาด้วย คุณรู้สึกเหมือนส้มลูกใหญ่หล่นใส่หัวอย่างจัง
คุณตอบรับเเทบจะในทันทีด้วยความดีใจ
เเต่เเล้วสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือการถูกเปรียบเทียบ ถูกคำครหาต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ เพื่อน หรือเเม้เเต่คนนอกที่มองเข้ามาในความสัมพันธ์ของพวกคุณ
นั่นทำให้คุณเหมือนติดอยู่ในคำสาปตลอดเวลาที่ได้คบกันมา
เเละคุณก็ไม่สามารถถอนคำสาปนั้นได้เสียที
"พูดเเล้วก็หิว ...ไปหยิบไรกินให้หน่อยดิ"
พูดคุยกันได้สักพัก คุณก็โดนเพื่อนตัวดี ใช้ให้ไปตักอาหาร เเต่ก็ทำตามอย่างว่าง่าย
คุณก็เดินมาที่ตรงกลางพอประชุมเพื่อจะมาตักอาหาร
เเต่สายตาก็ยบังเอิญไปเห็นฝูงชนกลุ่มไม่ใหญ่นักกำลังรุมล้อมนัมจุนอยู่
โดยที่อีกคนข้างในนั้นเป็นใครไม่ทราบ คุณต้องเเทรกวงนั้นเข้าไปด้วยความอยากรู้
เเละเเล้วคุณก็ได้เห็นภาพของหญิงสาวที่คุ้นตาเช่นเดียวกัน
คิม เซจอง สาวป๊อบประจำโรงเรียน ดีกรีกรรมการนักเรียน เเละนักเรียนดีเด่น
3 สมัยซ้อน เป็นดัมเมเยอร์ไม้เเรกตลอดเวลาที่เรียนอยู่ที่นี่
ชอบเล่นเปียโนเเละร้องเพลง ที่สำคัญเป็นแฟนเก่าของนัมจุนก่อนที่จะคบคุณ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายเพอร์เฟคเเละเหมาะกับนัมจุนมากเเค่ไหน
ออร่าในเวลานี้ที่ทั้งสองได้อยู่ใกล้กันก็บอกดีอยู่เเล้ว
ไม่ได้เปลี่ยนไปจากตอนเรียนหนังสืออยู่เลยเเม้เเต่น้อย
"ว่าเเต่เซจองเเต่งงานรึยัง"
นัมจุนถามขึ้นมากลางวงสนทนานั้น หญิงสาวสวยคนนั้นส่ายหน้าอย่างเขินๆ เพราะมีเสียงโห่เเซวมากมายหลังจากนั้น
"ถามงี้ คืออยากกลับมาคบกันหรือไง" เซจองเอ่ยขึ้นขำๆ
ทีเล่นทีจริง เเต่กลายเป็นคนในวงส่งเสียงเชียร์ลั่นกลางวงนั้น
คุณที่อยู่นอกขอบวงได้เเต่หัวเราะเเห้ง ไม่มีอารมณ์จะฟังต่อ
ทุกคนไม่ได้สังเกตการมีอยู่ของคุณเลย คุณออกนอกวงไปด้วยความรู้สึกหมดเเรง
อยากหนีออกไปจากตรงนี้
คุณค่อยๆ เดินออกมานอกงาน นอกสถานที่จัดงานมาจนถึงที่ๆ
ตัวเองได้เจอกับนัมจุนเป็นครั้งเเรก ตรงนี้คือแป้นบาสหลังอาคารพละ
มันค่อนข้างเงียบเเละไม่มีผู้คนเดินผ่านไปมากนัก
อาจเพราะเป็นช่วงกลางคืนเเบบนี้ด้วย
ความหลังย้อนกลับเข้ามาหาตัวคุณ
คุณนึกถึงตัวเองตอนกำลังดูรุ่นน้องซ้อมเล่นเเตร ในขณะที่มือของคุณก็เคาะจังหวะไปด้วย
ตาของคุณก็เหลือบไปเห็นแฟนของตัวเองกำลังเล่นบาสกับเพื่อนๆ ของเขาอยู่
เสื้อเชิ้ตนักเรียนเปียกเหงื่อจนเห็นผิวเนื้อเพราะเล่นจนเพลิน
เลยไม่สนใจสิ่งเหล่านั้น ท่าทางของเขาดูมีความสุขมาก
แสงอาทิตย์ช่วงเย็นใกล้ค่ำสะท้อนที่ร่างสูงใหญ่นั้น คุณรู้สึกได้เลยว่าภาพตรงหน้าทำให้คุณใจเต้นเเรง
คุณตกหลุมรักนัมจุนเเทบจะในทันที
หลังจากเย็นวันนั้นก็มีอีกวันนึง วันนั้นเป็นวันฝนตก
ทุกคนต่างก็กลับบ้านเร็ว ในขณะที่คุณนั้นเพิ่งเลิกซ้อมวงโยฯ กับน้องๆ ในวง
ฝนนั้นตกหนักจนเดินกลับบ้านไม่ได้ เเต่ทว่าคุณขี่รถมอเตอร์ไซค์มาโรงเรียนทุกวัน
เเละคุณกำลังขี่ออกจากโรงเรียนก็ดันเห็นนัมจุนรอฝนซาอยู่คนเดียวในอาคารเรียนเสียก่อน
คุณลังเลว่าจะให้อีกฝ่ายขึ้นรถไปด้วยดีไหมเพราะก็มีเสื้อกันฝนอีกตัวใต้เบาะ คุณรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปหา
ก่อนยื่นข้อเสนอให้ นัมจุนรับมันไว้ด้วยท่าทีลังเลอยู่เล็กน้อย ยอมใส่เสื้อกันฝนเเละซ้อนท้ายคุณ
นั่นเป็นครั้งที่สองที่หัวใจของคุณเต้นเเรงขนาดนี้
จนมาถึงตอนนี้คุณรักนัมจุนมาก มากพอๆ
กับที่อยากฝากชีวิตที่เหลือไว้กับเขา เเต่ก็เจ็บปวดมากเพราะความรู้สึกที่ไม่เคยดีพอจะเป็นคนที่อยู่ข้างอีกฝ่ายได้เลย
เเม้จะเก็บไว้ใจเเต่ลึกเเล้วความคิดเหล่านั้นก็ได้สร้างบาดเเผลให้คุณมากมาย
มันไม่เคยหายไปจากใจของคุณเลย น้ำตาของคุณค่อย ๆ ไหลออกมาเงียบ ๆ
“ทำไมมาอยู่ตรงนี้” เสียงทุ้มที่คุ้ยเคยทำให้คุณรีบเช็ดน้ำตาและหันหลังอย่างรวดเร็ว
เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเห็นคุณร้องไห้ คุณรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่อยู่ด้านหลัง
เพราะนัมจุนกำลังกอดจากด้านหลังอยู่ ฝังใบหน้าคมของตัวเองลงบนลาดไหล่ของคุณ
“เล่าให้ฟังได้ไหม”
ชายหนุ่มพูดพลางจับคุณพลิกตัวกลับมา ใช้นิ้วหัวแม่มือปาดหยาดน้ำตาที่ยังไหลอยู่ที่ข้างแก้มเบาๆ
จนคุณรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัยมากขึ้นในตอนนี้
“เราไม่อยากเล่าให้ฟังแล้วอ่ะ”
คุณกลัวอีกฝ่ายจะรำคาญเรื่องราวที่อยู่ในใจของคุณ
เพราะมันไม่ใช้ครั้งแรกที่พวกคุณคุยกันอย่างจริงจังเรื่องนี้
ขณะที่น้ำตาก็เริ่มรื้นเอ่อออกจากดวงตาอย่างห้ามไม่อยู่
“อะไรที่อยู่ในใจ พูดเถอะนะ...ครับ” อีกฝ่ายใช้น้ำเสียงอดอ้อนในที
คุณชั่งใจโดยที่รู้สึกอดระแวงไม่ได้ ก่อนจูงมือคุณไปนั่งที่แสตนใกล้ๆ
กับแป้นบาสด้วยกัน มือใหญ่โอบไหล่คุณไว้พลางรั้งเข้าหาตัวเอง
“ทุกครั้งเราอดคิดไม่ได้...ว่าเราเหมาะสมกันไหม” คุณค่อย ๆ
พูดความในใจของตัวเองออกมา ขณะที่นัมจุนยังคงนั่งฟังอย่างเงียบๆ
“เราคุยกันเรื่องนี้นะ แต่ว่าหลังจากที่คุยมันก็เหมือนเดิม
เหมือนคนที่เดินตามตลอดเวลาทั้ง ๆ ที่เราอยากเดินไปข้าง ๆ พร้อม ๆ กับเธอ”
จากนั้นมือใหญ่ที่เคยอยู่ตรงไหล่ก็ยกขึ้นแล้วลูบกลุ่มผมนุ่มบนศรีษะของคุณ
“แต่เราก็ไม่เคยตัดใจจากเธอได้เลย เพราะเรารักเธอ”
ถ้าเป็นปกติเขาคงรู้สึกที่ถูกคุณบอกรัก แต่ไม่ใช่กับยามที่คุณร้องไห้อยู่ในเวลานี้
“เราเจ็บ....มันเจ็บมากเลย”
คุณกลั้นสะอื้นจนตัวโยนนั้นกลับเป็นภาพที่นัมจุนไม่อยากเห็นมากที่สุด
“แล้วทำไมต้องตัดใจ” คนถามเสียงเรียบมองจ้องหน้าคุณด้วยความเจ็บปวดไม่แพ้กัน
“เราคิดว่าเราไม่ดีพอไง ผู้ชายแบบเธอควรได้เจอใครที่ดีพอแล้วเดินไปพร้อมกันได้ไง”
“แล้วเราเดินไปพร้อมกันไม่ได้เหรอ ทำไมต้องผลักเราออกไป..”
จากนั้นนัมจุนก็โถมแรงกอดคุณแน่นจนคุณร้องไห้อย่างหนัก “เราไม่เคยว่าเธอดีไม่พอเลย
เราแค่ก็ต้องการคนที่พอดีสำหรับเรา” ชายหนุ่มเอ่ยชื่อคุณด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ
มือสองข้างจับที่ใบหน้าของคุณ “อย่าคิดว่าตัวเองดีไม่พอหรือไม่เหมาะกับเราเลยนะ”
น้ำเสียงทุ้มดูสั่นเครือกว่าปกติ
คุณจ้องดวงตาคู่นั้นกลับก็พบว่ามันรื้นเอ่อไปด้วยน้ำ
“แล้วที่รักร้องทำไม”
คุณเรียกเขาด้วยสรรพนามที่เฉพาะเวลาอยู่ด้วยกันแค่สองคน
เพราะคุณอายเกินกว่าที่จะพูดให้ใครได้ยิน
“แล้วที่รักร้องทำไมก่อน” เขาใช้มือเช็ดน้ำตาให้คุณไม่หยุด
“ก็เสียใจ” คุณตอบ มือยกขึ้นเช็ดน้ำตาให้เขาเช่นกัน
“เราก็เสียใจที่ที่รักเสียใจเพราะเราไง” สีหน้าของนัมจุนดูเศร้าจนคุณต้องหยุดร้องไห้
“เราไม่ได้เสียใจเพราะเธอซะหน่อย” คุณค่อยๆ สะอื้นเบาลง
“งั้นเลิกร้องไห้สิ...” นัมจุนบอก
“หยุดแล้วๆ” สักพักคุณก็หยุดลงเอง
“ต่อไปนี้ถ้าคิดมาก ให้มาลงที่เรานะ”
“ยังไงนะ” คุณดูงุนงงกับคำพูดของเขา
“หมายถึงถ้ายังคิดเรื่องนี้อยู่ ก็เอาคุยกับเรา จะตบ จะตี ก็ได้
ถ้าจูบกับจับปล้ำจะพิจารณาเป็นพิเศษ” ดวงตาที่เคยเศร้าหม่องตอนนี้กลับแพรวพราวจนคุณอดหมั่นไส้ไม่ได้
คุณได้แต่ทำหน้าแหยงๆ จนนัมจุนต้องหัวเราะออกมา
“เลิกคิดยังดีกว่าอีก”
“ก็เห็นบอกว่าเลิกคิดไม่ได้” เขาพูดย้อนคุณ จนต้องถลึงตามองใส่
“ก็ได้งั้นคราวหน้าเตรียมรับมือไว้เลยนะ” คุณขู่แต่ดวงตาของนัมจุนยังอยู่
“ได้เลยครับ” ก่อนคุณและเขาจะค่อยๆ หัวเราะออกมา
“เราเดินไปพร้อมกันนะ” เขากอดคุณไว้แน่นอีกครั้งพลางพูดขึ้น
“ถ้านัมจุนโอเค..อืม” คุณพยักหน้าใบหน้ายังซุกอยู่ที่ไหล่กว้าง
พวกคุณยังคงกอดกันอย่างนั้นจนน้ำตาแห้งสนิท
“งั้นกลับเลยไหม” คุณตอบรับ ก่อนจะลุกขึ้น
จับมือของนัมจุนแน่นแล้วเดินไปลาเพื่อนๆ พร้อมกัน
กลับมาถึงที่หน้างาน
ทั้งงานดูเงียบผิดปกติจนคุณแปลกใจ
และไม่มีใครเดินผ่านไปมาเลยในขณะที่ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร มือใหญ่ค่อยๆ
เปิดประตูหอประชุมแล้วก้าวเข้าไปในที่แห่งนั้น
ข้อสงสัยทั้งหมดไขกระจ่างขึ้น
เมื่อคุณเห็นคนมากมายยืนแหวกทางให้คุณ จนไปถึงหน้าเวที เพื่อนหลายๆ
คนที่คุณเห็นมีสีหน้าตื่นเต้น ส่งเสียงโวยวายจนดังลั่นไปทั่ว
บางคนหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายวิดิโอของคุณกับนัมจุนไปไว้ด้วย
“อะไรเนี่ย” คุณถามอีกฝ่าย แต่เขาไม่ยอมพูดจนพาคุณเดินไปถึงหน้าเวที
ยอมรับว่าอายอย่างมากที่เป็นจุดสนใจของทุกคนในเวลานี้
ในที่สุดเมื่อเดินไปจนถึงหน้าเวที
ผู้คนเหล่านั้นล้อมคุณกับคนรักเอาไว้ คุณไม่สามารถหนีออกไปจากตรงนี้ได้อีกแล้ว
ใบหน้าของคุณดูตระหนก ยังไม่รับรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
“ตกลง...” คุณโดนสวนก่อนจะพูดจบประโยค
“ที่รักครับ”
นั่นเป็นการเรียกที่ทำให้หน้าของคุณแดงกร่ำขึ้นด้วยความเขินอาย
นัมจุนหันมามองหน้าคุณ “ขอบคุณที่คอยดูแลมาตลอดนะครับ” คุณยังทำหน้างงงวย
รู้สึกเริ่มกระสับกระส่ายอย่างประหลาด “ที่รักชอบคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมกับเราตลอด
ไม่เคยคิดมั่งเหรอว่าเราไม่เหมาะสมกับที่รักเลย” คุณยังนิ่ง
“ที่รักเป็นคนสดใส เอาใจใส่คนอื่นตลอด มองโลกในแง่ดี
มันเป็นคุณสมบัติที่เราไม่เคยมีมันเลย เวลาที่เราเครียด รู้สึกไม่ดี
ก็ขอบคุณที่มาช่วยให้เราดีขึ้น อยากให้คอยดูแลกันแบบนี้ต่อไปได้ไหม”
จากนั้นชายหนุ่มคุกเข่าลงตรงหน้าคุณ คุณเริ่มเข้าใจทุกอย่างขึ้นมาบ้างแล้ว
“เราไม่เคยต้องการคนที่สมบูรณ์แบบเลย
เราแค่ต้องการคนที่มาเติมสิ่งที่เราขาดให้เต็ม ผมรักคุณที่คุณเป็นคุณ
รักจนคิดไม่ออกว่าชีวิตจะสมบูรณ์ได้ไงถ้าไม่มีคุณ...” เขาเว้นวรรคไป
ในขณะที่คุณเริ่มรู้สึกหูอื้อตาลาย เพราะอีกฝ่ายไม่เคยพูดชัดเจนขนาดนี้มาก่อน
นัมจุนยกมือไปข้างหลัง คนที่เดินเข้ามากลางวงคือโฮซอก เขาหยิบกล่องกำมะยี่เล็กๆ
ออกจากกระเป๋ากางเกง หัวใจของคุณเต้นรัวจนแทบระเบิดออกมาจากในอก
นัมจุนรับมันมาไว้ในมือก่อนจะยื่นมาตรงหน้าของคุณ เขาค่อยๆ
เปิดมันออกมาจนคุณค้นพบว่าสิ่งที่อยู่ข้างในนั้นว่างเปล่า
คุณหน้าบึ้งทันทีเมื่อรู้เจตนาที่อีกฝ่ายต้องการแกล้งคุณ
“โอเคๆ เลิกแกล้งแล้วๆ” นัมจุนพูดขำๆ
ในขณะที่คนอื่นตรงนั้นส่งเสียงโห่ฮา มือใหญ่ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงตัวเอง
ก็ปรากฏกับกล่องที่คล้ายกับก่อนหน้านี้แต่สิ่งที่อยู่ภายในกล่องนั้นเป็นแหวนเรียบๆ
สองวงข้างใน
“แต่งงานกันนะครับ...” คำขอแต่งงานที่เรียบง่ายถูกเอ่ยขึ้น
ท่ามกลางเสียงเฮของคนในหอประชุม
น้ำตาของคุณที่เคยเหือดแห้งไม่นานก็ล้นเอ่อด้วยความยินดี นัมจุนค่อยๆ
ลุกขึ้นเมื่อคุณพยักหน้าหลังจากเงียบอยู่ครู่นึง ชายหนุ่มโอบกอดคุณเอาไว้ด้วยความดีใจจนแน่น
ซึ่งคุณยินดีรับมันไว้แม้มันจะทำให้คุณหายใจไม่ค่อยออก พวกคุณยิ้มให้กันอีกครั้ง
ก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะโน้มลงมาประกบริมฝีปากของคุณ
เรียกเสียงและความสนใจจากทุกคนได้อย่างมากมายเป็นอย่างดี
ชีวิตของคุณสองคนจึงได้เริ่มต้นใหม่นับจากนี้....
พรุ่งนี้ไปแจกของครบรอบนะคะ ไปกับเพื่อนเชิญทุกคนไปรับของเรากับเพื่อนเยอะๆนะคะ เหะๆ
https://twitter.com/finalpunn/status/1270176663611961344?s=21
ความคิดเห็น