NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [OS/SF] BTS x YOU : OUR UNIVERSE

    ลำดับตอนที่ #5 : Good/Enough l RM x You (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 18 ธ.ค. 63







    Title : Good/Enough
    Paring : Kim Namjoon x Fem! Reader
    Genre: Fluff, Angst

























        "คิดอะไรอยู่" เสียงชายหนุ่มที่ดังมาจากฝั่งคนขับ เรียกคุณให้หลุดออกจากภวังค์ ขณะที่สายตายังมองออกไปทางถนนที่มีรถมากมาย คุณส่ายหน้าเบาๆ



    "เรื่องงานนิดหน่อยน่ะ" คุณโกหก หากเเต่คุณกำลังคิดถึงเรื่องราวในอดีตมากมายระหว่างคุณกับนัมจุน เเละที่ๆ พวกคุณทั้งสองคนต้องไปภายในค่ำคืนนี้ คืนนี้มีงานเลี้ยงรุ่นสมัยมัธยมปลายของคุณ ซึ่งนัมจุนดูกระตือรือล้นกับการที่จะเจอเพื่อนร่วมรุ่นมากเเต่ไม่ใช่กับคุณ



    ในช่วงสมัยมัธยมคุณเป็นเพียงเเค่เด็กสาวธรรมดาที่ใช้ชีวิตไปวันๆ เรื่องเดียวที่สนใจคงเป็นเรื่องการเรียนกับซ้อมวงโยธวาทิตที่ตัวเองอยู่เท่านั้น ส่วนอีกฝ่ายเป็นถึงประธานนักเรียน เรียนดี กีฬาเด่น ชอบทำกิจกรรม จนกลายเป็นหนุ่มป๊อบของรุ่นพี่เเละรุ่นน้องในโรงเรียนอย่างมากมาย เรียกได้ว่าเขาสมบูรณ์ จนทุกคนไม่มีวันคิดว่าจะมามีทางที่ลงเอยกับคนปอนๆ อย่างคุณได้ เมื่อคุณตัดสินใจคบกันเมื่อเกือบสิบปีก่อน คุณโดนข้อครหามากมายจากคนรอบๆ ตัวของนัมจุน หลายครั้งหลายหนที่คุณท้อเเท้ต่อคำครหามากมาย หากเเต่นัมจุนเองก็คอยอยู่ข้างๆ เเละทำให้คุณมั่นใจว่าคุณเลือกคนไม่ผิด



    เเต่หากไม่ใช่ในตอนนี้ เมื่ออาทิตย์ก่อนคิม นัมจุน ถูกโปรโมทขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้จัดการแผนก ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องน่ายินดีที่คนอายุยังน้อยอย่างเขาได้มีหน้าที่การงานที่ดีกว่า เเม้ว่ามันจะหมายถึงตัวคุณเองที่เป็นเเค่พนักงานกินเงินเดือนทั่วไป เเละดูไม่มีความหวังการเติบโตไปเทียบเท่าอีกฝ่ายเลยก็ตาม



    คุณรู้สึกถึงความรู้สึกที่มีมาตลอดเวลาที่คบกับนัมจุน มันกลับมาประดังประเดอีกครั้ง จนคุณสลัดมันออกไม่ได้ในระยะนี้ คุณตั้งคำถามกับตัวเองครั้งเเล้วครั้งเล่า ว่าที่ผ่านมาคุณเคยดีพอสำหรับเขาหรือเปล่า



    เดือนก่อนพวกคุณได้รับจดหมายเชิญมางานเลี้ยงรุ่นที่โรงเรียนที่คุณเเละเขาต่างก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี ในทีเเรกคุณตัดสินใจจะไม่ไปงานเพราะคุณทำงานอย่างหนัก จนไม่มีเวลาพักผ่อน เเต่เป็นนัมจุนเองที่เสนอว่าอยากไปเจอเพื่อนๆ ที่งานเลี้ยงนี้ เขาดูตื่นเต้นเป็นพิเศษที่จะได้พบกับคนอื่นที่จะมาในงานเลี้ยง เพราะไม่ว่าจะไปไหนในช่วงนี้อีกฝ่ายก็คุยเรื่องนี้กับเธอเเละโทรหาเพื่อนเก่าๆ ที่ไม่ได้เจอกันนานตลอด อีกใจคุณก็ไม่อยากไปเพราะคนรอบตัวของเขาตั้งอคติมากมายกับคุณในอดีต เเม้ว่าจะผ่านมานานเเค่ไหนคุณก็รับมือกับคำเหล่านั้น ไม่ได้เสียที เเต่ก็ยอมมางานนี้เพราะคำขอร้องของเขา



    คุณได้เเต่ข่มความไม่อยากลงจากรถของตัวเองเอาไว้เมื่อรถยนต์จอดสนิท นัมจุนมองด้านนอกรถอย่างสนอกสนใจก่อนจะดับเครื่อง เเล้วลงเดินมาหาตัวคุณที่อยู่อีกฝ้ากของรถ เปิดประตูฝั่งคุณออก ดูเชคการเเต่งกายของตัวเองเเละนัมจุนอีกรอบ วันนี้คุณทั้งคู่ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนส์ขายาวสีซีด เเละสวมรองเท้าคอนเวิร์สเข้าคู่กันเป็นอย่างดี ส่วนที่มาก็เพราะชายหนุ่มเป็นคนเสนอเอง ปกติคุณทั้งคู่ไม่เคยเเต่งตัวคู่กันมาก่อน คุณที่ไม่รู้ว่าจะเเต่งตัวแบบไหนดีจึงเออออตามไปโดยง่ายดาย



    "ไปกันเถอะ.."น้ำเสียงนุ่มทุ้มนั้นมีความตื่นเต้นในทีที่จะได้เจอเพื่อนเก่า นัมจุนจับมือคุณกุมไว้หลวมๆ พาเดินไปด้วยกัน พอเดินมาถึงที่หอประชุมที่จัดงาน ทุกอย่างเหมือนกับถูกสตาฟเอาไว้ตั้งเเต่วันที่คุณจากมา เพียงเเต่ตอนนี้มันถูกประดับไฟมากมายให้เข้ากับงาน มีโมบาย เเละลูกโป่งถูกห้อยบนเพดานประดับตกเเต่งด้วยสีของโรงเรียน คุณยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างหวั่นๆ ก่อนก้าวลงจากรถอย่างไม่เเน่ใจ 



    พอเข้ามาถึงในงานก็พบกันคนที่คุ้นหน้าคุ้นตา เมื่อคนเหล่านั้นรับรู้การมาของคุณเเละเขาก็ค่อยๆ มองมาที่พวกคุณเป็นตาเดียว สายตาของพวกเขาทำให้คุณรู้สึกแปลก คุณทำพยายามทำตัวเป็นปกติ กลบความรู้สึกไม่ดีไว้ข้างใน



    "เฮ้ยยย! " คุณหันหลังกลับไปมองก็พบ ชายหนุ่มเจ้าของดวงตายิ้มที่คุณกำลังโบกมือไม้ให้พวกคุณอยู่ คุณรีบเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายทันทีด้วยความคิดถึง



    "โฮซอก! " นั่นคือชื่อของเพื่อนคุณ อดีตหนุ่มป๊อบอีกเบอร์ของโรงเรียน ที่ตอนนี้ดูยังไงหน้าตาก็ไม่ได้เปลี่ยนจากเเต่ก่อนเลยแม้เเต่น้อย ทั้งคุณเเละโฮซอกเป็นเพื่อนห้องเดียวกัน ขณะที่นัมจุนเป็นเพื่อนต่างห้อง คุณโบกมือทักทายกลับ ดูอีกฝ่ายเองดีใจที่ได้เจอกับคุณ



    "ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ยังคบกันเหมือนเดิมเลยเนอะ" สายตาคนพูดมองไปทางนัมจุน ซึ่งชายหนุ่มก็ทักทายโฮซอกพอเป็นพิธี ตั้งเเต่ที่เรียนจบคุณก็ได้ติดต่อระหว่างกันอยู่บ้าง เเต่ไม่เคยได้เจอหน้ากันอีกนับตั้งเเต่วันที่เรียนจบ


    "อื้ม..." คุณตอบรับคำนั้น โดยที่รู้สึกแปลกๆ ในใจไม่ได้



    "ว่าเเต่นึกว่าแกจะไม่มางานนี้เเล้ว" โฮซอกดูแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นคุณมา



    "นัมจุนอยากมา ก็เลยชวนเรามาด้วยน่ะ" คุณบอกอีกฝ่ายเป็นนัย ๆ ว่าอันที่จริงตัวคุณเองก็ไม่ได้อยากมานัก



    "ว่าอยู่เเหละ...เเต่ก็ดีมีเรื่องคุยกันเยอะเเยะเลย ถ้างั้นขอยืมตัวเพื่อนหน่อยนะ" โฮซอกบอกเป็นเชิงขออนุญาตนัมจุนเพื่อเอาตัวคุณไปคุยด้วยความคิดถึง ดูแฟนคุณไม่พูดว่าอะไร โฮซอกเลยรีบจับมือคุณเดินมาที่โต๊ะค๊อกเทลที่อยู่จากเวทีไม่ไกลนัก ในงานเเบ่งสัดส่วนพื้นที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นโซนอาหารที่อยู่ตรงกลางของหอประชุม โซนสำหรับเต้นที่หน้าเวที เเละโซนค๊อกเทลที่อยู่เยื้องๆ กัน โดยมีเพลงป๊อบยอดนิยมสมัยที่คุณยังเรียนมัธยมเปิดคลอไปด้วย



    "คบกันจะสิบปีเเล้วเหรอ" โฮซอกพูดขึ้นเบาๆ ก็จะจิ๊ปาก



    "หมายความว่าไงเนี่ย" คุณพูดด้วยความสงสัย



    "เขาดูรักแกดีเนอะ" คุณยิ้มบางๆ ให้กับคำพูดนั้น



    "ว่าเเต่ยังไม่ได้เเต่งงานกันใช่ป่ะ" คุณส่ายหน้าปฏิเสธ อีกฝ่ายดูตกใจเล็กน้อย ก่อนจะทำหน้าเป็นปกติ คุณกับเขาก็เคยพูดเรื่องเเต่งงานกันอยู่บ้าง แต่ก็หากไม่ได้จริงจังอะไรมากมาย เพราะคุณเเละเขาเองก็มีความสุขในเเบบที่เป็นอยู่ดี



    "ระวังโดนงาบนะเว้ยยยย" โฮซอกพูดเป็นเชิงทีเล่นทีจริง กลายเป็นคุณเองที่ถอนหายใจออกมา



    "แกโกรธป่ะเนี่ย พูดเล่นเฉยๆ นะเว้ย อย่าคิดมาก หน้าแก่หมดเเล้ว" โฮซอกทำตัวไม่ถูกทีเห็นอาการของคุณ พลางปลอบใจ



    "โฮซอกคือว่านะ..."เเล้วคุณก็เล่าสิ่งที่อยู่ในใจให้โฮซอกฟัง ความอึดอัดที่อยู่ภายในใจของคุณให้อีกฝ่ายได้รับรู้ ดูเพื่อนของคุณดูเห็นใจอยู่ไม่น้อย



    "ก็นะ..นัมจุนมันเด่นมาเเต่ไหนเเต่ไร ก็คงอดรู้สึกแบบนี้มาไม่ได้อ่ะ เรามันดาวเคราะห์โดยเเท้ โดยเฉพาะแก....เเม่ดาวเคราะห์เเคระ"



    พูดอีกก็ถูกอีก นัมจุนเปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ของโรงเรียนมาตั้งเเต่ต้นอยู่เเล้ว ทุกๆ อย่างก็ดูหมุนรอบตัวของนัมจุนไปเสียหมด โดยเฉพาะเธอเองก็เป็นหนึ่งดาวเคราะห์นั้น ที่ต้องคอยพึ่งพิงเเสงสว่างจากพระอาทิตย์เพื่อให้ตัวเองส่องประกาย โดยตั้งเเต่เเรกคุณก็เป็นฝ่ายชอบเขาก่อน เพราะความเก่งกาจในทุกๆ ด้าน ทำให้คุณอดที่จะปลื้มไม่ได้ เเต่ต่อมาอีกฝ่ายก็เข้ามาสารภาพรักกับคุณ นั่นเป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับตัวคุณเองเเละคนรอบๆ ตัวเขาด้วย คุณรู้สึกเหมือนส้มลูกใหญ่หล่นใส่หัวอย่างจัง คุณตอบรับเเทบจะในทันทีด้วยความดีใจ



    เเต่เเล้วสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือการถูกเปรียบเทียบ ถูกคำครหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ เพื่อน หรือเเม้เเต่คนนอกที่มองเข้ามาในความสัมพันธ์ของพวกคุณ นั่นทำให้คุณเหมือนติดอยู่ในคำสาปตลอดเวลาที่ได้คบกันมา เเละคุณก็ไม่สามารถถอนคำสาปนั้นได้เสียที



    "พูดเเล้วก็หิว ...ไปหยิบไรกินให้หน่อยดิ" พูดคุยกันได้สักพัก คุณก็โดนเพื่อนตัวดี ใช้ให้ไปตักอาหาร เเต่ก็ทำตามอย่างว่าง่าย



    คุณก็เดินมาที่ตรงกลางพอประชุมเพื่อจะมาตักอาหาร เเต่สายตาก็ยบังเอิญไปเห็นฝูงชนกลุ่มไม่ใหญ่นักกำลังรุมล้อมนัมจุนอยู่ โดยที่อีกคนข้างในนั้นเป็นใครไม่ทราบ คุณต้องเเทรกวงนั้นเข้าไปด้วยความอยากรู้ เเละเเล้วคุณก็ได้เห็นภาพของหญิงสาวที่คุ้นตาเช่นเดียวกัน



    คิม เซจอง สาวป๊อบประจำโรงเรียน ดีกรีกรรมการนักเรียน เเละนักเรียนดีเด่น 3 สมัยซ้อน เป็นดัมเมเยอร์ไม้เเรกตลอดเวลาที่เรียนอยู่ที่นี่ ชอบเล่นเปียโนเเละร้องเพลง ที่สำคัญเป็นแฟนเก่าของนัมจุนก่อนที่จะคบคุณ



    ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายเพอร์เฟคเเละเหมาะกับนัมจุนมากเเค่ไหน ออร่าในเวลานี้ที่ทั้งสองได้อยู่ใกล้กันก็บอกดีอยู่เเล้ว ไม่ได้เปลี่ยนไปจากตอนเรียนหนังสืออยู่เลยเเม้เเต่น้อย



    "ว่าเเต่เซจองเเต่งงานรึยัง" นัมจุนถามขึ้นมากลางวงสนทนานั้น หญิงสาวสวยคนนั้นส่ายหน้าอย่างเขินๆ เพราะมีเสียงโห่เเซวมากมายหลังจากนั้น



    "ถามงี้ คืออยากกลับมาคบกันหรือไง" เซจองเอ่ยขึ้นขำๆ ทีเล่นทีจริง เเต่กลายเป็นคนในวงส่งเสียงเชียร์ลั่นกลางวงนั้น คุณที่อยู่นอกขอบวงได้เเต่หัวเราะเเห้ง ไม่มีอารมณ์จะฟังต่อ ทุกคนไม่ได้สังเกตการมีอยู่ของคุณเลย คุณออกนอกวงไปด้วยความรู้สึกหมดเเรง อยากหนีออกไปจากตรงนี้



    คุณค่อยๆ เดินออกมานอกงาน นอกสถานที่จัดงานมาจนถึงที่ๆ ตัวเองได้เจอกับนัมจุนเป็นครั้งเเรก ตรงนี้คือแป้นบาสหลังอาคารพละ มันค่อนข้างเงียบเเละไม่มีผู้คนเดินผ่านไปมากนัก อาจเพราะเป็นช่วงกลางคืนเเบบนี้ด้วย



    ความหลังย้อนกลับเข้ามาหาตัวคุณ คุณนึกถึงตัวเองตอนกำลังดูรุ่นน้องซ้อมเล่นเเตร ในขณะที่มือของคุณก็เคาะจังหวะไปด้วย ตาของคุณก็เหลือบไปเห็นแฟนของตัวเองกำลังเล่นบาสกับเพื่อนๆ ของเขาอยู่ เสื้อเชิ้ตนักเรียนเปียกเหงื่อจนเห็นผิวเนื้อเพราะเล่นจนเพลิน เลยไม่สนใจสิ่งเหล่านั้น ท่าทางของเขาดูมีความสุขมาก แสงอาทิตย์ช่วงเย็นใกล้ค่ำสะท้อนที่ร่างสูงใหญ่นั้น คุณรู้สึกได้เลยว่าภาพตรงหน้าทำให้คุณใจเต้นเเรง คุณตกหลุมรักนัมจุนเเทบจะในทันที



    หลังจากเย็นวันนั้นก็มีอีกวันนึง วันนั้นเป็นวันฝนตก ทุกคนต่างก็กลับบ้านเร็ว ในขณะที่คุณนั้นเพิ่งเลิกซ้อมวงโยฯ กับน้องๆ ในวง ฝนนั้นตกหนักจนเดินกลับบ้านไม่ได้ เเต่ทว่าคุณขี่รถมอเตอร์ไซค์มาโรงเรียนทุกวัน เเละคุณกำลังขี่ออกจากโรงเรียนก็ดันเห็นนัมจุนรอฝนซาอยู่คนเดียวในอาคารเรียนเสียก่อน คุณลังเลว่าจะให้อีกฝ่ายขึ้นรถไปด้วยดีไหมเพราะก็มีเสื้อกันฝนอีกตัวใต้เบาะ คุณรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปหา ก่อนยื่นข้อเสนอให้ นัมจุนรับมันไว้ด้วยท่าทีลังเลอยู่เล็กน้อย ยอมใส่เสื้อกันฝนเเละซ้อนท้ายคุณ นั่นเป็นครั้งที่สองที่หัวใจของคุณเต้นเเรงขนาดนี้



    จนมาถึงตอนนี้คุณรักนัมจุนมาก มากพอๆ กับที่อยากฝากชีวิตที่เหลือไว้กับเขา เเต่ก็เจ็บปวดมากเพราะความรู้สึกที่ไม่เคยดีพอจะเป็นคนที่อยู่ข้างอีกฝ่ายได้เลย เเม้จะเก็บไว้ใจเเต่ลึกเเล้วความคิดเหล่านั้นก็ได้สร้างบาดเเผลให้คุณมากมาย มันไม่เคยหายไปจากใจของคุณเลย น้ำตาของคุณค่อย ๆ ไหลออกมาเงียบ ๆ



    ทำไมมาอยู่ตรงนี้” เสียงทุ้มที่คุ้ยเคยทำให้คุณรีบเช็ดน้ำตาและหันหลังอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเห็นคุณร้องไห้ คุณรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่อยู่ด้านหลัง เพราะนัมจุนกำลังกอดจากด้านหลังอยู่ ฝังใบหน้าคมของตัวเองลงบนลาดไหล่ของคุณ


    เล่าให้ฟังได้ไหม” ชายหนุ่มพูดพลางจับคุณพลิกตัวกลับมา ใช้นิ้วหัวแม่มือปาดหยาดน้ำตาที่ยังไหลอยู่ที่ข้างแก้มเบาๆ จนคุณรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัยมากขึ้นในตอนนี้


    เราไม่อยากเล่าให้ฟังแล้วอ่ะ” คุณกลัวอีกฝ่ายจะรำคาญเรื่องราวที่อยู่ในใจของคุณ เพราะมันไม่ใช้ครั้งแรกที่พวกคุณคุยกันอย่างจริงจังเรื่องนี้ ขณะที่น้ำตาก็เริ่มรื้นเอ่อออกจากดวงตาอย่างห้ามไม่อยู่



    อะไรที่อยู่ในใจ พูดเถอะนะ...ครับ” อีกฝ่ายใช้น้ำเสียงอดอ้อนในที คุณชั่งใจโดยที่รู้สึกอดระแวงไม่ได้ ก่อนจูงมือคุณไปนั่งที่แสตนใกล้ๆ กับแป้นบาสด้วยกัน มือใหญ่โอบไหล่คุณไว้พลางรั้งเข้าหาตัวเอง



    ทุกครั้งเราอดคิดไม่ได้...ว่าเราเหมาะสมกันไหม” คุณค่อย ๆ พูดความในใจของตัวเองออกมา ขณะที่นัมจุนยังคงนั่งฟังอย่างเงียบๆ “เราคุยกันเรื่องนี้นะ แต่ว่าหลังจากที่คุยมันก็เหมือนเดิม เหมือนคนที่เดินตามตลอดเวลาทั้ง ๆ ที่เราอยากเดินไปข้าง ๆ พร้อม ๆ กับเธอ” จากนั้นมือใหญ่ที่เคยอยู่ตรงไหล่ก็ยกขึ้นแล้วลูบกลุ่มผมนุ่มบนศรีษะของคุณ



    แต่เราก็ไม่เคยตัดใจจากเธอได้เลย เพราะเรารักเธอ” ถ้าเป็นปกติเขาคงรู้สึกที่ถูกคุณบอกรัก แต่ไม่ใช่กับยามที่คุณร้องไห้อยู่ในเวลานี้



    เราเจ็บ....มันเจ็บมากเลย” คุณกลั้นสะอื้นจนตัวโยนนั้นกลับเป็นภาพที่นัมจุนไม่อยากเห็นมากที่สุด



    แล้วทำไมต้องตัดใจ” คนถามเสียงเรียบมองจ้องหน้าคุณด้วยความเจ็บปวดไม่แพ้กัน



    เราคิดว่าเราไม่ดีพอไง ผู้ชายแบบเธอควรได้เจอใครที่ดีพอแล้วเดินไปพร้อมกันได้ไง”



    แล้วเราเดินไปพร้อมกันไม่ได้เหรอ ทำไมต้องผลักเราออกไป..” จากนั้นนัมจุนก็โถมแรงกอดคุณแน่นจนคุณร้องไห้อย่างหนัก “เราไม่เคยว่าเธอดีไม่พอเลย เราแค่ก็ต้องการคนที่พอดีสำหรับเรา” ชายหนุ่มเอ่ยชื่อคุณด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ มือสองข้างจับที่ใบหน้าของคุณ “อย่าคิดว่าตัวเองดีไม่พอหรือไม่เหมาะกับเราเลยนะ” น้ำเสียงทุ้มดูสั่นเครือกว่าปกติ คุณจ้องดวงตาคู่นั้นกลับก็พบว่ามันรื้นเอ่อไปด้วยน้ำ



    แล้วที่รักร้องทำไม” คุณเรียกเขาด้วยสรรพนามที่เฉพาะเวลาอยู่ด้วยกันแค่สองคน เพราะคุณอายเกินกว่าที่จะพูดให้ใครได้ยิน



    แล้วที่รักร้องทำไมก่อน” เขาใช้มือเช็ดน้ำตาให้คุณไม่หยุด



    ก็เสียใจ” คุณตอบ มือยกขึ้นเช็ดน้ำตาให้เขาเช่นกัน



    เราก็เสียใจที่ที่รักเสียใจเพราะเราไง” สีหน้าของนัมจุนดูเศร้าจนคุณต้องหยุดร้องไห้



    เราไม่ได้เสียใจเพราะเธอซะหน่อย” คุณค่อยๆ สะอื้นเบาลง



    งั้นเลิกร้องไห้สิ...” นัมจุนบอก



    หยุดแล้วๆ” สักพักคุณก็หยุดลงเอง



    ต่อไปนี้ถ้าคิดมาก ให้มาลงที่เรานะ”



    ยังไงนะ” คุณดูงุนงงกับคำพูดของเขา



    หมายถึงถ้ายังคิดเรื่องนี้อยู่ ก็เอาคุยกับเรา จะตบ จะตี ก็ได้ ถ้าจูบกับจับปล้ำจะพิจารณาเป็นพิเศษ” ดวงตาที่เคยเศร้าหม่องตอนนี้กลับแพรวพราวจนคุณอดหมั่นไส้ไม่ได้ คุณได้แต่ทำหน้าแหยงๆ จนนัมจุนต้องหัวเราะออกมา




    เลิกคิดยังดีกว่าอีก”



    ก็เห็นบอกว่าเลิกคิดไม่ได้” เขาพูดย้อนคุณ จนต้องถลึงตามองใส่



    ก็ได้งั้นคราวหน้าเตรียมรับมือไว้เลยนะ” คุณขู่แต่ดวงตาของนัมจุนยังอยู่



    ได้เลยครับ” ก่อนคุณและเขาจะค่อยๆ หัวเราะออกมา “เราเดินไปพร้อมกันนะ” เขากอดคุณไว้แน่นอีกครั้งพลางพูดขึ้น



    ถ้านัมจุนโอเค..อืม” คุณพยักหน้าใบหน้ายังซุกอยู่ที่ไหล่กว้าง พวกคุณยังคงกอดกันอย่างนั้นจนน้ำตาแห้งสนิท



    งั้นกลับเลยไหม” คุณตอบรับ ก่อนจะลุกขึ้น จับมือของนัมจุนแน่นแล้วเดินไปลาเพื่อนๆ พร้อมกัน




     

    กลับมาถึงที่หน้างาน ทั้งงานดูเงียบผิดปกติจนคุณแปลกใจ และไม่มีใครเดินผ่านไปมาเลยในขณะที่ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร มือใหญ่ค่อยๆ เปิดประตูหอประชุมแล้วก้าวเข้าไปในที่แห่งนั้น


    ข้อสงสัยทั้งหมดไขกระจ่างขึ้น เมื่อคุณเห็นคนมากมายยืนแหวกทางให้คุณ จนไปถึงหน้าเวที เพื่อนหลายๆ คนที่คุณเห็นมีสีหน้าตื่นเต้น ส่งเสียงโวยวายจนดังลั่นไปทั่ว บางคนหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายวิดิโอของคุณกับนัมจุนไปไว้ด้วย



    อะไรเนี่ย” คุณถามอีกฝ่าย แต่เขาไม่ยอมพูดจนพาคุณเดินไปถึงหน้าเวที ยอมรับว่าอายอย่างมากที่เป็นจุดสนใจของทุกคนในเวลานี้



    ในที่สุดเมื่อเดินไปจนถึงหน้าเวที ผู้คนเหล่านั้นล้อมคุณกับคนรักเอาไว้ คุณไม่สามารถหนีออกไปจากตรงนี้ได้อีกแล้ว ใบหน้าของคุณดูตระหนก ยังไม่รับรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต



    ตกลง...” คุณโดนสวนก่อนจะพูดจบประโยค



    ที่รักครับ” นั่นเป็นการเรียกที่ทำให้หน้าของคุณแดงกร่ำขึ้นด้วยความเขินอาย นัมจุนหันมามองหน้าคุณ “ขอบคุณที่คอยดูแลมาตลอดนะครับ” คุณยังทำหน้างงงวย รู้สึกเริ่มกระสับกระส่ายอย่างประหลาด “ที่รักชอบคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมกับเราตลอด ไม่เคยคิดมั่งเหรอว่าเราไม่เหมาะสมกับที่รักเลย” คุณยังนิ่ง



    ที่รักเป็นคนสดใส เอาใจใส่คนอื่นตลอด มองโลกในแง่ดี มันเป็นคุณสมบัติที่เราไม่เคยมีมันเลย เวลาที่เราเครียด รู้สึกไม่ดี ก็ขอบคุณที่มาช่วยให้เราดีขึ้น อยากให้คอยดูแลกันแบบนี้ต่อไปได้ไหม” จากนั้นชายหนุ่มคุกเข่าลงตรงหน้าคุณ คุณเริ่มเข้าใจทุกอย่างขึ้นมาบ้างแล้ว



    เราไม่เคยต้องการคนที่สมบูรณ์แบบเลย เราแค่ต้องการคนที่มาเติมสิ่งที่เราขาดให้เต็ม ผมรักคุณที่คุณเป็นคุณ รักจนคิดไม่ออกว่าชีวิตจะสมบูรณ์ได้ไงถ้าไม่มีคุณ...” เขาเว้นวรรคไป ในขณะที่คุณเริ่มรู้สึกหูอื้อตาลาย เพราะอีกฝ่ายไม่เคยพูดชัดเจนขนาดนี้มาก่อน นัมจุนยกมือไปข้างหลัง คนที่เดินเข้ามากลางวงคือโฮซอก เขาหยิบกล่องกำมะยี่เล็กๆ ออกจากกระเป๋ากางเกง หัวใจของคุณเต้นรัวจนแทบระเบิดออกมาจากในอก



    นัมจุนรับมันมาไว้ในมือก่อนจะยื่นมาตรงหน้าของคุณ เขาค่อยๆ เปิดมันออกมาจนคุณค้นพบว่าสิ่งที่อยู่ข้างในนั้นว่างเปล่า คุณหน้าบึ้งทันทีเมื่อรู้เจตนาที่อีกฝ่ายต้องการแกล้งคุณ



    โอเคๆ เลิกแกล้งแล้วๆ” นัมจุนพูดขำๆ ในขณะที่คนอื่นตรงนั้นส่งเสียงโห่ฮา มือใหญ่ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงตัวเอง ก็ปรากฏกับกล่องที่คล้ายกับก่อนหน้านี้แต่สิ่งที่อยู่ภายในกล่องนั้นเป็นแหวนเรียบๆ สองวงข้างใน



    แต่งงานกันนะครับ...” คำขอแต่งงานที่เรียบง่ายถูกเอ่ยขึ้น ท่ามกลางเสียงเฮของคนในหอประชุม น้ำตาของคุณที่เคยเหือดแห้งไม่นานก็ล้นเอ่อด้วยความยินดี นัมจุนค่อยๆ ลุกขึ้นเมื่อคุณพยักหน้าหลังจากเงียบอยู่ครู่นึง ชายหนุ่มโอบกอดคุณเอาไว้ด้วยความดีใจจนแน่น ซึ่งคุณยินดีรับมันไว้แม้มันจะทำให้คุณหายใจไม่ค่อยออก พวกคุณยิ้มให้กันอีกครั้ง ก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะโน้มลงมาประกบริมฝีปากของคุณ เรียกเสียงและความสนใจจากทุกคนได้อย่างมากมายเป็นอย่างดี





    ชีวิตของคุณสองคนจึงได้เริ่มต้นใหม่นับจากนี้....















    ....100% Loaded


    -----------------------



    จบค่ะ จบเเบบไม่มีอะไรมากั้น แอบเขียนยากนิดหน่อย ไม่รู้ว่าจะถูกใจทุกคนไหม เขียนไป เขินไป ทุกคนคะอาทิตย์หน้าเราโดนหยุดงานทิ้งอาทิตย์เลยค่ะ เลยคิดว่าน่าจะมีเวลาเขียนมากขึ้น(อีกมั้ง?) นั่นเเหละ มีอะไรที่อยากทดลองเขียนเต็มไปหมด อยากให้ทุกคนมาคอยอ่านกันด้วยนะคะ ขอบคุณทุกกำลังใจจริงๆค่ะ บางทีเห็นคนเฟบ-เม้นเราก็หายเหนื่อย ช่วยรอดูตอนต่อไปด้วยนะคะว่าจะเป็นยังไง เจอกันใหม่เมื่อทุกคนเหงาค่ะ


    พรุ่งนี้ไปแจกของครบรอบนะคะ ไปกับเพื่อนเชิญทุกคนไปรับของเรากับเพื่อนเยอะๆนะคะ เหะๆ


    https://twitter.com/finalpunn/status/1270176663611961344?s=21


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×