NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [OS/SF] BTS x YOU : OUR UNIVERSE

    ลำดับตอนที่ #4 : AfterNight l Suga x You l Part 2 (END)

    • อัปเดตล่าสุด 18 ธ.ค. 63



    Title : After night Part 2
    Paring : Soft dom! Min Yoongi x Fem! Reader
    Genre : Slight smut, Fluff

    Warning :  Mention of alcohol, Unprotected sex, Force Kissing























    เช้าวันถัดมาเขาก็ยังมารับคุณตามปกติเหมือนเดิม เเต่ต่างคนก็ไม่ยอมพูดคำขอโทษออกมา จนกระทั่งถึงที่ทำงาน เขาก็แยกตัวจากคุณไปที่โต๊ะตัวเอง ส่วนคุณก็กำลังไปนั่งที่ของตัวเอง เเต่ระหว่างทางก็มีเพื่อนร่วมงานส่งเสียงเเซวคุณเป็นระยะ นั่นทำให้คุณระเเวง เเละเมื่อมาถึงที่โต๊ะทำงานก็พบกับต้นเหตุนั้น



    ดอกกุหลาบช่อใหญ่ถูกวางไว้บนโต๊ะทำงานของคุณ คุณค่อนข้างแปลกใจเพราะไม่รู้ใครเป็นคนนำมาวางไว้ คุณหยิบมันขึ้นมาดูก็เห็นตุ๊กตาหมีตัวขนาดไม่ใหญ่อยู่ในช่อดอกไม้นั้น ช่อดอกไม้นั่นถูกตกเเต่งด้วยโบว์ริบบิ้นชิ้นใหญ่สีที่ใช้ก็เป็นสีที่คุณชอบ คุณอดใจเต้นขึ้นมาไม่ได้เพราะไม่เคยได้รับมันจากใครมาก่อน พลางเหลือบไปเห็นการ์ดที่ติดอยู่ตรงริบบิ้นนั้น ก่อนจะเปิดอ่าน



    'เรื่องเมื่อวานนี้ผมขอโทษด้วยที่อารมณ์ร้อน คงเป็นเพราะว่าคุณคงยังปรับตัวไม่ทัน
    ผมจะไม่เร่งเร้า เเละจะคอยช่วยคุณจากนี้ไปเอง
    หวังว่าช่อดอกไม้นี้จะเเทนคำขอโทษทั้งหมดของผมได้
    คืนดีกันนะ'



    ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าของช่อดอกไม้ช่อโตนี่เป็นใคร เพราะก็มีอยู่เเค่คนเดียวที่คุณทะเลาะด้วยเมื่อวานนี้ เจ้าสามตัวประจำเเผนกของคุณส่งเสียงกริ๊วกร๊าวด้วยความตั้งใจจะเเซวคุณ เเต่คุณยังคงตกอยู่ในภวังค์อยู่ ใบหน้าของคุณเริ่มออกสีระเรื่ออย่างห้ามไม่อยู่ รู้สึกใจเต้นเเรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เช้านี้เป็นเช้าที่คุณอารมณ์ดีที่สุดตั้งเเต่ทำงานที่นี่



    คุณตัดสินใจหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมา ส่งข้อความไปหาเจ้าของดอกไม้ทันที



    "เนื่องในโอกาสอะไรน้าาาา" เสียงของจีมินลอยมาพอดีที่คุณได้สติ สามรุ่นน้องตัวดียังไม่เลิกส่งเสียงเเซว ขณะที่คุณทำเป็นนิ่งทั่งๆ ที่ใบหน้าของตัวเองหุบยิ้มไม่ได้เลย



    "ยุ่ง! ไปทำงานได้เเล้ว" คุณส่งเสียงเหวไล่น้อง ๆ ให้กลับนั่งที่ของตัวเอง ถลึงตามองเจ้าพวกนั้นเเต่ใบหน้าของคุณกลับเเดงระเรื่อ นั่นก็ไม่ได้ทำให้คุณน่ากลัวเพิ่มขึ้นเลย




    คุณเเน่ใจเเล้วว่ากำลังรู้สึกกับอีกฝ่ายเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างเเน่นอน








    คุณมองหน้าอีกฝ่ายตรง ๆ เเทบไม่ได้ ตอนที่นั่งกินข้าวกลางวันด้วยกัน คุณรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง ตั้งเเต่เช้ามาคุณแทบไม่มีสมาธิทำงานเพราะบางอย่างที่กำลังสั่นระรัวในอกซ้าย มันเต้นเเรงเสียจนน่าหงุดหงิด อย่าว่าเเต่โดนหัวหน้าด่า พวกเด็กเเสบก็พอกันเเซวคุณเเทบไม่หยุดปาก



    "คุณอะไรรึเปล่า ไม่สบายเหรอ? "ยุนกิถามคุณด้วยความเป็นห่วง ยิ่งนั้นทำให้คุณใจเต้นเข้าไปอีก คุณรู้เหมือนตัวเองจะเป็นลมให้ได้เสียตอนนี้



    "
    ป...เปล่าค่ะ" คุณตอบก็ยังไม่ยอมมองหน้าของเขาเลย นั่นยิ่งทำให้อีกฝ่ายสงสัยเข้าไปใหญ่




    "อาหารไม่อร่อยเหรอ" คุณส่ายหน้าไปมา



    "คุณกินข้าวเถอะค่ะ อาหารเย็นหมดเเล้ว" คุณรีบตัดบทพูดเเต่หากอีกฝ่ายยังไม่ยอม



    "คุณปวดหัวหรือเปล่า ผมจะไปซื้อยาให้" อีกฝ่ายทำทีว่าจะลุกขึ้น คุณรั้งเเขนอีกฝ่ายไว้



    "ชั้นไม่เป็นไรจริงๆ คุณกินข้าวเถอะ เเค่วันนี้งานหนักไปหน่อยเอง" คุณไม่ยอมพูดความจริง ถ้าหากว่าหัวใจยังเต้นเเรงแบบนี้ คุณคงไม่เป็นลมจริงๆ เเน่ ยุนกิกลับไปนั่งตามเดิมขณะที่ยังมองคุณอยู่ไม่ลดสายตา



    "คุณควรพักนะ...ลาบ่ายกันไหม" เขาเสนอ



    "ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวก็คงหายเเหละ" คุณบอกปฎิเสธพลางยิ้มเล็กน้อยให้ยุนกิมั่นใจว่าคุณโอเค



    คุณดีใจมากที่เห็นเขาพยายามดูแลคุณให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ อดคิดไม่ได้ว่าถ้าหากคุณกับเขาได้อยู่ในฐานะคนรักโดยที่ไม่มีเงื่อนไขเรื่องนี้มันจะดีเเค่ไหน คงจะต้องรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากเเน่นอนที่อย่างน้อยชีวิตนี้ก็มีคนที่รักคุณมากขนาดนี้




    เเต่อีกใจก็อดคิดไม่ได้ว่าสิ่งที่เขาทำให้คุณก็เพราะว่าเงื่อนไขเรื่องนี้รึเปล่าที่ทำให้เขามีหน้าที่ต้องดูแลคุณ ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้ทำด้วยความเต็มใจเเต่เป็นเพราะหน้าที่ต่างหากที่บังคับให้เขาต้องมาอยู่กับคุณ เเล้วถ้าหากว่าคุณไม่ได้ท้องกับเขาจริงๆ ล่ะก็.... เเค่เพียงคิดหัวใจที่พองโตมาตั้งเเต่เช้าก็ฝ่อลงไปในทันที




    "สีหน้าไม่ดีอีกเเล้วนะ...." เขาพูดก่อนจะเว้นวรรคเพื่อหยุดคิด "หรือว่าจะ..." ยุนกิก้มลงมองท้องของคุณตรงๆ คุณอ้าปากค้างด้วยความช๊อคตั้งท่าจะปฎิเสธเป็นพัลวันเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรออกมา




    "อุ้ย ขอนั่งด้วยได้ไหมคะ" เสียงที่เเทรกเข้ามาระหว่างคุณสองคนทำให้พวกคุณต้องหันมอง ต้นเสียงคือหญิงสาวที่คุณได้เจอเมื่อวานตอนทางอาหารกลางวันนั่นเอง เธอมองมาทางเขาเเละคุณเป็นเชิงขออนุญาต คุณยิ้มให้เเทนคำตอบ รินะยิ้มตอบกลับก่อนนั่งลงที่ฝั่งของยุนกิ




    "ขอโทษที่รบกวนด้วยนะคะ เผอิญหาที่นั่งไม่ได้เลย" รินะพูดถึงเหตุผลก่อนจะยิ้มอย่างดีใจ เเละดวงตาสวยคู่นั้นก็ยิ้มด้วย "ว่าเเต่มานั่งกินข้าวอย่างนี้ด้วยกันตลอดเลยเหรอคะ"



    "ประมาณนั้นเเหละคะ" คุณพูดขึ้นก่อนจัดการกับอาหารของตัวเอง



    "ว่าเเต่คบกันมานานเเล้วเหรอคะ" ประโยคนั้นทำให้คุณเเทบสำลักข้าว จนต้องรีบกลืน



    "สักพักใหญ่เเล้วล่ะ" เป็นยุนกิที่ตอบเเทนเพราะเห็นว่าคุณยังเคี้ยวข้าวอยู่




    "เเล้วมาเจอกันที่ทำงานเลยเหรอคะ โรเเมนติคจัง" หญิงสาวตรงหน้าดูตื่นเต้นที่พูดถึงมัน "ของรินะรู้จักกับพี่ยุนกิที่มหาลัยน่ะค่ะ ตอนนั้นพี่เค้ายังเนิร์ดๆ อยู่เลย" คุณเริ่มรู้สึกไม่สบายใจที่อีกฝ่ายเริ่มพูดเรื่องของตัวเองออกมาบ้าง



    ทำไมต้องรู้สึกไม่ดีด้วยตอนนี้ที่ทำอยู่ก็เป็นเพียงเเค่แฟนหลอกๆ ของยุนกิเท่านั้น คุณคิดได้



    "ว่าเเต่คืนดีกันรึยังคะ" รินะพูดด้วยท่าทีสบายๆ ในขณะที่คุณยังงงๆ ว่าอีกฝ่ายพูดเรื่องอะไร



    "อะไรนะคะ" คุณถามซ้ำ





    "ก็พวกพี่ทะเลาะกันอยู่ใช่ไหมล่ะคะ" คุณแปลกใจหนักกว่าเดิม ก่อนจะมองไปที่ชายหนุ่มที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างต้องการคำตอบ ยุนกิทำเเค่เพียงส่ายหน้าช้าๆ เป็นเชิงปฎิเสธ รินะดูดีใจมากขึ้น



    "นี่รินะ..เป็นคนเเนะนำให้พี่เค้าซื้อดอกไม้เอง ถูกใจไหมคะ สาวๆ คนไหนก็ต้องชอบกุหลาบอยู่เเล้วล่ะเนอะ" ทุกอย่างเหมือนกระเเทกเข้าที่หัวของคุณอย่างจัง คุณนิ่งลงทันที



    "พี่เค้าเป็นคนเเสดงออกไม่ค่อยเป็นหรอกคะ ต้องให้ช่วยประจำจนรินะปวดหัวไปหมดเลย" คุณไม่รู้ว่าควรทำหน้ายังไง เรื่องที่ยุนกิมาขอโทษ คงต้องขอบคุณหญิงสาวคนนี้สินะ สุดท้ายก็เป็นเเค่คุณคิดไปเองว่าเขาขอโทษจากใจจริงๆ สินะ



    "เหรอคะ อืม ดอกกุหลาบสวยจริงๆ เเหละค่ะ" คุณพูดรับคำ อยากวิ่งหนีออกไปจากตรงนี้ให้ไกลที่สุด "งั้นขอตัวก่อนนะคะ เผอิญมีงานด่วน" คุณลุกขึ้น เเละคุณก็เห็นยุนกิทำท่าจะลุกขึ้นด้วยเช่นกัน



    "อยู่คุยกับน้องไปเถอะคุย เหมือนมีเรื่องคุยเยอะเเยะเลยนี่" คุณส่งสายตาไปให้ยุนกิอย่างปรามๆ ว่าห้ามตามมา จากนั้นคุณก็เดินออกไปเเบบไม่หันไปมองตรงนั้นอีกเลย







    คุณไม่มีกระจิตกระใจจะทำงานเลย เรื่องในหัวมากมายมันสับสนปนเปไปหมดในสมอง รุ่นน้องสามคนต่างรับรู้ว่าท่าทีของคุณต่างไปจากเมื่อเช้ามาก เลยพยายามไม่เข้ามากวนใจคุณเกินไปนัก รู้อีกทีก็เลิกงานเเล้ว ยุนกิเดินมารับคุณที่แผนกตามปกติ คุณตัดสินใจที่จะไม่พูดอะไรเลยจนรถยนต์ของชายหนุ่มเคลื่อนตัว



    "คุณเป็นอะไรไหม" เขามองคุณเเล้วก็มองถนนไปด้วย คำถามเดิมกับที่ถามเมื่อกลางวัน เเต่คุณไม่อยู่ในอารมณ์ที่อยากตอบคำถามนั้นเลย



    "..." คุณถอนหายใจเสียงดัง ก่อนมองไปนอกหน้าต่าง



    "ไม่สบายใช่ไหม" อีกฝ่ายถามซ้ำ "ไปโรงพยาบาลกันไหม" คุณส่ายหน้า



    "เเล้วเป็นอะไร" น้ำเสียงของยุนกิเข้มขึ้น บ่งบอกอารมณ์ที่เริ่มปะทุ ท่าทางของคุณเปลี่ยนไปจากเมื่อกลางวันมาก มันดูเย็นชาผิดปกติจนเขาหวาดหวั่น



    "ก็บอกเเล้วไงว่าไม่ได้เป็นอะไร" คุณไม่ยอมมองหน้าคนตอบเสียด้วยซ้ำ นั่นทำให้มีพิรุธไปกันใหญ่



    "คิดอะไรอยู่" ยุนกิถามขึ้น เเต่เป็นคุณเองที่ออกจากรถคันนี้ไปให้ไกลที่สุด ไปให้ไกลจากเขาด้วย



    "เพราะคำพูดของรินะเมื่อกลางวันรึเปล่า" คุณกลั้นใจเพราะรถใกล้จะถึงที่หมายเเล้วอีกไม่กี่ร้อยเมตรข้างหน้า คุณยังไม่ยอมตอบ



    "คุณหึงผมกับรินะ? " คำพูดนั่นเเทงใจคุณอย่างจัง คุณหันไปมองอีกฝ่ายด้วยความโกรธ



    "จะหึงทำไมไม่ทราบ เราไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่เเล้ว! " คุณพูดเน้นทุกคำ จนอีกฝ่ายจอดรถตรงขอบฟุตบาธข้างทาง



    "ไม่ได้เป็นอะไรกันหมายความว่าอะไร"



    "ถ้าไม่มีเรื่องบ้า ๆ นี่ เราก็คงไม่ต้องมายุ่งกันเเท้ ๆ " คุณเริ่มห้ามน้ำตาไม่ให้คลอเบ้าไม่ไหว อีกฝ่ายหันหน้าเข้าหา จับมือของคุ
    ณเเน่นจนเจ็บ




    "คุณคิดได้เเค่นี้เองเหรอ"ยุนกิพูดประชดประชันไม่ต่างจากคุณเลย



    "ใช่ คิดได้เเค่นี้เเหละ เเล้วก็ทนไม่ไหวเเล้วด้วย เราทางใครทางมันเหอะ ส่วนไอ้ในท้องนี่..." คุณยังไม่ทันพูดจบประโยค ก็โดนฝ่ายปิดปากด้วยริมฝีปากของเขาเสียก่อน



    คุณพยายามขืนตัวไม่รับสัมผัสจากอีกฝ่าย เเต่ก็ทำได้ยากเพราะเขาจับใบหน้าของคุณไว้ กดริมฝีปากเข้ามาเเน่นจนคุณแทบหายใจไม่ออก ชายหนุุ่มเอียงใบหน้าของคุณให้รับจูบของเขาโดยปราศจากข้อโต้เเย้ง ลิ้นของชายหนุ่มที่บุกรุกเข้ามาในโพรงปากทำให้คุณเริ่มดื้นเเรงขึ้น เเต่ก็ไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายสะทกสะท้านได้เลย ยิ่งคุณส่งเสียงประท้วงในลำคอ ยิ่งขัดขืน เขายิ่งทำให้รสจูบรุนเเรง ขบเม้ม ดึงดัน กำราบคุณให้ทำได้เพียงเเค่ยอมรับ



    คุณที่เเทบไม่เหลือเเรงจะขัดขืน ในที่สุดก็ปล่อยให้ยุนกิทำตามความต้องการของตัวเอง ค่อยๆ ปล่อยให้่เขามอบรสจูบดื่มด่ำให้กับคุณ จนลมหายใจของคุณนั้นเริ่มติดขัด เสียงสะอื้นดังขึ้นเบาๆ จากลำคอของคุณ เริ่มสัญญาณให้ยุนกิเริ่มรู้ตัวเเละหยุดรังแกกันเสียที ยุนกิถอนจูบอย่างเสียดาย เพราะรสจูบนั้นไม่ทำให้เขารู้สึกอิ่มพอ



    "คือ...ผม" ก่อนจะพูดขึ้นเหมือนคนละเมอทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ยังหอบหายใจ ใบหน้าของเขาหันอย่างรวดเร็วตามเเรงตบของคุณ ไม่ทันทีได้พูดอะไรกันอีก คุณรีบเปิดประตูรถวิ่งเข้ามาในคอนโดของตัวเองทันที

     






    "พี่ไหวไหม...ผมว่าพี่ควรไปให้หมอดูหน่อยนะ" จีมินพูดถึงคุณอย่างเป็นห่วงเป็นใย คุณสบตากับรุ่นน้องด้วยความอิดโรย พยายามเงยหน้าขึ้นมาจากขอบโต๊ะ



    วันนี้เเย่กว่าทุกวัน... ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเเล้วที่คุณเข้าห้องน้ำเพื่ออาเจียน หลายวันที่ผ่านมาคุณทำงานอย่างหนัก หามรุ่งหามค่ำ กินเเละนอนก็ไม่เป็นเวลา ในหัววนเวียนเเต่กับเรื่องงานโดยพยายามไม่ถึงเรื่องอื่นเลย คุณส่ายหน้าบอกกับอีกฝ่ายว่าโอเค เเต่ดูจีมินยิ่งหน้าเสียไปใหญ่ทันทีที่เห็นว่าหน้าคุณซีดเซียวกว่าเมื่อเช้า



    ไม่ต้องถามถึงคนที่อยู่การตลาด ....คุณพยายามหลบหน้าเขามาจะสองอาทิตย์เเล้ว คุณตัดความสัมพันธ์กับเขา ปฎิเสธความช่วยเหลือที่เขาเคยให้ทุกวิถีทาง โชคดีหรือเพราะหมดความอดทนกับคุณก็ไม่ทราบได้ เขายอมถอยโดยที่ไม่มีเงื่อนไขอะไร



    อาการเวียนศรีษะ คลื่นไส้เริ่มเเย่ลงทุกวัน จนคิดว่าต้องพาตัวเองไปหาหมอเเล้วจริงๆ คุณรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดอีกรอบทันทีที่ทุกสิ่งอย่างที่คุณกินมาในตอนเช้าจ่ออยู่ที่คอหอย



    ทันทีที่ทุกสิ่งทุกอย่างหายไปในคอห่าน คุณทรุดลงกับพื้นอย่างคนหมดแรง พยายามคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาช่วงนี้ เเต่ในหัวคุณพาลนึกถึงเเต่เรื่องของกิน เมื่อวันก่อนหัวหน้าของคุณเอาขนมที่ทำจากที่บ้านมาให้คุณลองชิมดู เเต่คุณกลับเลี่ยงอย่างเสียมารยาทเพราะกลิ่นมันฉุนเกินไป อาทิตย์ที่เเล้วอยู่ดี ๆ คุณก็คว้าเเตงโมที่คนอื่นวางไว้ในห้องกาแฟ สิ่งที่เเปลกคือก่อนหน้านี้คุณไม่มีทางกินมันอย่างเเน่นอน เเต่มันอร่อยจนต้องซื้อกลับมานั่งทานที่ห้องทุกวัน



    คุณนึกถึงเรื่องราวแปลกๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ก่อนที่สิ่งที่ทำให้คุณคิดทำให้คุณตาเบิกโพลง คุณนับเวลาย้อนกลับไปตอนที่เกิดเหตุการณ์นั้น ระยะเวลาก็ใกล้ๆ จะสองเดือนเเล้ว มือคุณเริ่มสั่นเย็นอย่างควบคุมไม่อยู่ คุณกำลังผวาสุดขีด สิ่งที่จะยืนยันสมมุติฐานของคุณได้นั้นคือสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าสะพายของคุณ



    ที่ตรวจครรภ์



    คุณซื้อมันติดกระเป๋าไว้ตั้งเเต่หลังเหตุการณ์นั้นเเล้วเเต่คุณลืมสนิท คุณตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากตรงนั้น รีบก้าวเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานด้วยความร้อนรน ภาวนาขอให้สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งเดียวกับที่คุณคิด ระหว่างทางคุณก็ได้ยินเสียงของคนที่คุณคุ้นเคย



    "ใช่ครับ วันนี้เขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่" คุณแอบเข้าไปใกล้จุดสูบบุหรี่โดยไม่ให้อีกฝ่ายเห็นตัว เป็นมิน ยุนกิตามคาดการณ์ กลิ่นบุหรี่ที่อีกฝ่ายสูบทำให้คุณรู้สึกไม่ค่อยดีนัก



    "รู้สึกเขายังโกรธอยู่เลยไม่กล้าเข้าไปคุยด้วยซะที" คุณแอบฟังอย่างใกล้ชิด



    "เห็นเพื่อนร่วมงานเขาบอกว่าอาเจียนมาหลายวันเเล้ว" จากที่ฟังมาอีกฝ่ายน่าจะพูดถึงคุณเเน่นอน



    "ผมก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเหมือนกัน" คุณสงสัยว่าเขากำลังพูดถึงอะไร



    "ถ้าหากว่าท้องขึ้นมาจริงๆ ก็คงต้องรับผิดชอบอย่างเดียวล่ะนะ" อีกฝ่ายด้วยท่าทีขบขันไม่น้อย



    "ถึงตอนนั้นจะรักไม่รัก ก็คงต้องอยู่ด้วยกันจริง ๆ " คุณรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว เหมือนถูกน้ำเย็นจัดสาดร่างกาย



    ในหัวคุณพยายามคิดเป็นอย่างอื่น เเต่ก็ในหัวก็มีเเต่คำว่าเขาเเค่รับผิดชอบเท่านั้น คุณรู้สึกเวียนหัวมาก จนอยากจะอาเจียนอีกรอบ เเต่ขาก้าวไม่ออกเลยซักนิด



    "อ้าว! พี่........อยู่นี่เหรอ" เสียงตะโกนดังของจองกุก เรียกความสนใจของคุณทันที เเต่หากเรียกคนที่อยู่ตรงที่สูบบุหรี่ด้วย ยุนกิเดินออกมาทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น นั่นทำให้คุณเเข็งเป็นหินตอนที่เห็นเขา คุณรู้สึกโกรธรุ่นน้องตัวดีที่อยู่ดันเรียกขึ้นมาในช่วงจังหวะนี้



    "ได้ยินมานานเเค่ไหนเเล้ว" ยุนกิคาดคั้นคุณ ดูก็รู้ว่าคุณแอบฟังเขามาได้สักพักเเล้ว คุณพยายามสะบัดการจับกุมของชายหนุ่มทิ้งเเต่หากว่าข้อมือของอีกฝ่ายเเข็งเเรงกว่า



    "เรามีเรื่องต้องคุยกันเเล้วล่ะ" ยุนกิพยายามลากคุณออกจากตรงนั้นไปที่บันไดหนีไฟ



    "ไม่! " เสียงของคุณค่อนข้างดังจนเเทบตะโกน พยายามขัดขืนในเเบบของคุณ จองกุกทีเห็นท่าไม่ดีเลยรีบเดินเข้ามา



    "ไม่ยอม....เหมือนกัน" ยุนกิปฎิเสธท่าทีดิ้นรนของคุณอย่างนิ่งเฉย คุณรู้สึกหัวใจเต้นเร็วขึ้น



    "ผมว่าใจเย็นค่อยๆ พูดกันเถอะครับ" จองกุกละล่ำละลักพูด คนตรงกลางอย่างเขาก็รับมือกับขั้วอารมณ์ทั้งสองคนไม่ถูกเหมือนกัน



    "อย่าน้า....!! " คุณรั้งตัวเองไว้ด้วยการดึงเเขนเสื้อเชิ้ตจองกุก ดิ้นรนจนยุนกิต้องโอบรอบเอวคุณไว้เเทน จองกุกยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ คุณผลักยุนกิจากข้างหลังเเต่มันก็ไม่ขยับเลย คุณรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหายใจไม่ออก



    "พี่ครับ...ถ้าดังกว่านี้ คนอื่นจะออกมาเจอนะ ผมว่าพอเถอะ" จองกุกพยายามบอกทั้งสองฝ่าย เขาเองก็ทำตัวไม่ถูก



    "เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องสักที! " ยุนกิตะคอกใส่คุณอย่างเหลืออด เรี่ยวเเรงที่คุณดิ้นรนค่อย ๆ น้อยลงไปทุกที ภาพทั้งหมดที่คุณเห็นเริ่มหมุนไปรอบ ๆ



    "พี่ยุนกิหยุดก่อนเถอะครับ"






    นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่คุณได้ยินก่อนภาพทั้งหมดจะเป็นสีดำ
















    คุณค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ในหัวยังคงหนักอึ้ง ราวกับว่าที่คุณหลับตาลงไปเป็นชั่วครู่เดียวเท่านั้น ดวงตามองไปรอบห้อง คุณเห็นตัวเองอยู่บนเตียงคนไข้ มีสายน้ำเกลือถูกให้อยู่ที่มือขวาขณะที่มือซ้ายมีคนที่นอนจับมือคุณบนเตียงอยู่ ฝ่ามือนั้นกำรอบๆ ไม่ได้เเน่นมาก เเต่ก็ทำให้คุณไม่สามารถดึงมือออกจากการจับกุมได้



    คุณพยายามลุกขึ้นนั่งบนเตียงนั้น ภายในห้องมีเเค่คุณกับยุนกิเพียงสองคนเท่านั้น คุณเหลือดูนาฬิกาที่เเปะที่ฝาผนังของห้องผู้ปวย ตอนนี้ก็ล่วงเลยมาจนฟ้ามืดเเล้ว ดูเหมือนท่าทีของคุณจะทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตัว ยุนกิสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองคุณที่อยู่บนเตียง สายตาที่เขาใช้ดูห่วงใยคุณ เป็นคุณเองที่เป็นฝ่ายหลบตาเขาเสียก่อน ในหัวเริ่มว้าวุ่นสับสนไม่ต่างจากตอนก่อนหมดสติ



    "เป็นยังไงบ้าง" เสียงทุ้มเอ่ยถามคุณ คุณยังคงเงียบอยู่ เสียงทั้งห้องตอนนี้มีเพียงเเค่เสียงของเครื่องปรับอากาศเท่านั้นที่ดังอยู่ในห้องเเห่งนี้



    "ถ้ายังไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร...กินน้ำก่อนนะ" เขาไม่คาดคั้นคุณอย่างที่เคย พลางเปิดขวดน้ำที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงมาให้ ยุนกิยื่นมันให้คุณ เเละคุณก็รับไว้โดยที่ไม่พูดอะไร



    "เรื่องอาการหมอกำลังตรวจอยู่...อีกแป๊บนึงก็รู้ผลเเล้วล่ะ"


    "ผลอะไร? " คุณถามอย่างสงสัย



    "ผลการตั้งครรภ์..."



    "...."




    "ผมอยากให้คุณรู้ไว้ว่าคุณจะท้องกับผมหรือไม่ ที่ผ่านมาผมเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อเราจริง ๆ นะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเเต่หากถ้อยคำที่เอ่ยออกมา คุณสัมผัสถึงความจริงจังไม่น้อย คุณที่ตั้งเเง่น้อยลงก็เป็นฝ่ายตั้งคำถามเเทน



    "แล้วตอนนั้นที่คุย คุยกับใคร" คุณรู้ว่ามันออกเสียมารยาทซะหน่อย เเต่ก็อยากถามออกไปให้รู้



    "ผมคุยกับเเม่..."



    "อ่า..."



    "ผมพูดเรื่องของเราให้ท่านฟังตั้งเเต่เกิดเรื่อง อยากให้รู้ไว้ว่าผมไม่เคยไม่จริงจังนะ ถึงเเม้มันจะเป็น....อุบัติเหตุก็ตาม" ยุนกิคิดว่าเขาเลือกใช้คำพูดไม่ค่อยจะถูก เเต่เขาเองก็ไม่รู้จะใช้คำไหนเหมือนกัน



    "ไม่อยากให้คุณคิดว่าที่ทำอยู่ผมเเค่ทำตามหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ" ชายหนุ่มปฏิเสธ



    "ยังไง? "



    "ผมคิดว่าผมชอบคุณหลังจากนั้น" คุณไม่เเน่ใจว่านี้นับเป็นคำสารภาพรักได้หรือเปล่า หัวใจของคุณรู้สึกพองโตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน



    "คุณชอบชั้นเหรอ? " คุณถามย้ำให้เเน่ใจอีกครั้ง เขายังพยักหน้ารับหนักเเน่น



    "เอาจริงๆ ผมก็เริ่มมองคุณมาตั้งนานเเล้วนะ ไม่รู้เหรอ" คุณดูงุนงงกับประโยคนั้น



    "ช่วงที่มีโปรเจคที่ต้องทำด้วยกันไง คุณดูหงุดหงิดใส่ผมแปลกๆ จนผมต้องมองตลอด รู้อีกทีผมก็ติดใจมองคุณไปทุกที่ ทุกเวลาเเล้ว" ก่อนหน้านี้ฝั่งเขาเเละคุณมีโปรเจคของลูกค้าที่ต้องทำด้วยกัน อย่างที่เคยรู้ชายหนุ่มเป็นคนที่ชนงานกับแผนกของคุณตลอด นั่นทำให้เธอไม่ชอบใจยุนกิในทีอยู่เเล้ว อย่าว่าเเต่เขาที่ติดมองเธอ เธอเองก็ติดใจมองเขา (ด้วยความไม่ชอบใจ) เช่นเดียวกัน



    คุณพยักหน้า "เรื่องน้องรินะคุณอ่ะ? "



    "เห็นไหม....คุณหึงผม" ชายหนุ่มพูดอย่างขบขัน จนคุณต้องถลึงตาใส่



    "อย่างที่รู้ว่าผมไม่ค่อยเเสดงออกเท่าไหร่ ยิ่งเวลาโกรธเเล้วยิ่งทำตัวไม่ถูก" หลักฐานชัดเจนอยู่ที่รอยเเดงรอบข้อมือของคุณ



    "ผมก็เลยให้เค้าเเนะนำว่าควรจะง้อคุณยังไงดี" ยุนกิขอให้อีกฝ่ายนึงช่วยเสนอไอเดียเรื่องวิธีการง้อคุณ ให้หายโกรธดี เเต่ด้วยความไม่รู้ว่าคุณชอบอะไร หญิงสาวคนนั้นเลยเสนออะไรที่ไม่ค่อยเฉพาะเจาะจงให้ นั่นเลยเป็นที่มาของช่อกุหลาบช่อโตที่คุณได้รับเมื่ออาทิตย์ก่อน



    "เเล้ว...." ไม่ทันทีคุณจะพูดจบประโยค ยุนกิก็สวนขึ้นมา



    "คุณต้องตอบผมบ้างนะ ผมตอบเยอะเเล้ว"



    "...."



    "คุณชอบผมบ้างไหม? "คำถามตรงๆ นั้นทำให้คุณผงะ ในใจลึกๆ คุณรู้คำตอบของคำถามเหล่านั้นดีอยู่เเล้ว เเต่ถ้าจะทำให้ตอบอีกฝ่ายออกไปตรง ๆ ไม่น่าอายเกินไปหน่อยเหรอ?



    "...." คุณนิ่งเเต่ใบหน้าเเดงกร่ำ ยุนกิยังคงมองจ้องคุณอยู่เเม้คุณจะไม่ได้พูดอะไรแต่ก็พอเดาคำตอบได้ เเต่เขาก็อยากได้ยินชัดๆมากกว่า



    "ค่ะ ชั้น-ชอบ-คุณ พอใจ...." คุณก็ถูกชายหนุ่มทาบทับริมฝีปากลงมาเสียก่อน ระยะเวลานั้นยาวนานจนลมหายใจของคุณใกล้จะหมดลง



    เสียงเคาะประตูดังขึ้นไปกี่ครั้ง ก่อนประตูห้องจะเปิดออก ยุนกิรีบผละจากคุณด้วยความรวดเร็ว ส่วนคุณพยายามทำให้ลมหายใจเป็นปกติที่สุด ด้วยความเขินอาย



    "เป็นอย่างไรบ้างครับ" คุณหมอถามคุณที่อยู่บนเตียง



    "โอเคขึ้นเเล้วค่ะ" คุณยิ้มรับอย่างเกร็งๆ คุณรู้ดีว่าคุณหมอเข้ามาด้วยจุดประสงค์อะไร



    "ว่าเเต่เรื่อง..." ยุนกิเอ่ยถามขึ้นในทันที คุณหมอหัวเราะเบาๆ เหมือนรู้ว่าเรื่องที่ยุนกิพูดถึงคือเรื่องอะไร



    "สบายใจได้ครับ คนไข้ไม่ได้ตั้งครรภ์ เเต่คิดว่าน่าจะเป็นโรคกระเพราะนะครับ" คุณรู้สึกเหมือนถูกยกภูเขาออกไปจากอก "คิดว่าควรนอนที่นี่สักคืนจากอาการอ่อนเพลีย เเล้วพรุ่งนี้ก็สามารถกลับบ้านได้ครับ" ยุนกิพยักหน้ารับ จากนั้นคุณหมอก็คุยเกี่ยวกับเรื่องอาการของคุณอีกเล็กน้อย ก่อนจะลากลับเพื่อจะมาตรวจอีกทีในพรุ่งนี้เช้า



    คุณระบายยิ้มออกมาด้วยความโล่งอก บทสรุปของเรื่องราวระหว่างคุณกับเขามาถึงเเล้ว คุณไม่ได้ตั้งครรภ์ นั่นก็หมายความว่าคุณไม่มีอะไรต่อกันเเล้ว เขาไม่จำเป็นต้องมาดูแลคุณอีก พลันคิดได้อย่างนั้นคุณก็รู้สึกโหว่งๆ



    "งั้นคุณก็ไม่ต้องดูแลชั้นเเล้วอ่ะดิ" คุณเเสร้งขำเเต่น้ำตาเริ่มเอ่อคลอเบ้า



    "...." เป็นฝ่ายยุนกิที่เงียบบ้าง จนคุณเริ่มใจเสีย



    "เอาจริง ๆ คุณก็ควรกลับไปใช้ชีวิตของคุณเหมือนเดิมน่ะดีที่สุดเเล้วล่ะ..." คุณหันไปทางอื่นเพื่อไม่ให้เค้าเห็นน้ำตาที่กำลังไหลออกมา



    "คุณไม่อยากอยู่กับผมเเล้วเหรอ" คุณกลั้นสะอื้นจนเจ็บไปหมด "ใครบอกว่าผมจะเลิกดูแลคุณ" คุณสะอึกหันหน้าไปมองอีกฝ่ายทั้งๆ ที่น้ำตายังไหล ยุนกิใช้สองมือประคองใบหน้าของคุณไว้



    "เรายังไม่ได้เลิกกันนะ จะให้เลิกดูเเลได้ไง" ฝ่ามือใหญ่บีบพวงแก้มนุ่มของคุณทั้งสองข้าง



    "อยากดูแลคุณไปทั้งชีวิตเลย ขอเเบบนั้นกับคุณได้ไหม" ดวงตาของเขาทอประกายเด่นชัด น้ำเสียงอ้อนขอจนหัวใจของคุณสั่นระรัวขึ้นมาอีกครั้ง



    "ได้ค่ะ ยังไงก็ได้เลย" คุณยอมเขาทุกอย่างจริงๆ



    "งั้นเเต่งงานกันนะ" คุณตาโต อ้าปากค้าง ช๊อคกับคำขอเเต่งงานสายฟ้าเเล่บ



    "เดี๋ยวคุณยุนกิคะ โครตเร็วเลย..." คุณบ่นอุบ อีกฝ่ายหัวเราะจนยิ้มไปถึงในตา



    "ไม่ดีหรือไง คุณกับผมจะได้มีลูกกันจริงๆ ไง" คุณตีมืออีกฝ่ายไม่เบานัก



    "น่าเกลียดจริง" ชายหนุ่มก็ยังขำอยู่



    "เอาเป็นว่าผมให้เวลาคุณคิดทั้งชีวิตเลย เอ้า! " คุณระบายยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้



    "ถ้าคุณทำดีสักปี ก็คงไม่ต้องรอนานขนาดนั้นหรอก" คุณพูดพลางหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างท้าทาย



    "ผมถือว่าเป็นสัญญานะ"



    "ทำได้ก็ลองดู" คุณพูดก่อนริมฝีปากจะถูกยุนกิครอบครองอีกครั้ง

























    100% Loaded









    --------------------------

    เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เขียนจบเป็นไปได้ไง เเบบดีงามพระรามเเปดเก้าสิบ หวังว่าทุกคนจะชอบพี่ยุนกิในแบบที่เราเขียนนะคะ เป็นการเขียนที่ใช้พลังมากๆๆๆ เเล้วก็ใช่เเรงจูงในการเขียนสูงด้วย เพราะนี่เป็นคนไม่เคยเขียนฟิคสั้นจบในอาทิตย์เดียวมาก่อน! เรื่องนี้อย่างที่บอกเขียนโครตจะสนุก แบบมีอะไรให้เล่นเยอะมาก น่าจะเป็นเพราะเเบบนี้ด้วยถึงเขียนได้จนจบ เราชอบเหล่าน้องๆของนางเอกมากๆๆๆๆๆๆๆ เขียนเเล้วสนุกจนอยากเขียนเรื่องเกี่ยวกับสามคนนี้ขึ้นมาอีก อาจจะมีเขียนตอนพิเศษถึงสามคนนี้ก็ได้นะ เเบบอนาคตไรงี้ เเล้วก็ขอประกาศงดเขียนชั่วคราว (รีเปล่า) เพราะพรุ่งนี้เป็นต้นไปข้าพเจ้าต้องกลับไปทำงานเเล้ว ไม่รู้จริงๆว่าหลังจากนี้จะมีพลังเขียนอะไรมากมายขนาดนี้ไหม เพราะเดิมทีเป็นคนโครตขี้เกียจจจจ เเล้วก็มีไฟต่องานเขียนต่ำ เเต่ก็นั่นเเหละมันก็เป็นเรื่องของอนาคตอยู่ดี เเต่เรามีพลอตที่วางไว้ในใจเเล้วทั้ง smut เเละ non-smut เลย อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจหลังจากนี้ไปเยอะๆด้วยนะคะ ใครชอบอย่าลืมบอกกันนะ เเบบอยากอ่านความาเห็นของทุกคนจริงๆค่ะ! ลาไปก่อน เจอกันเมื่อคุณเหงาค่ะ /กราบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×